กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 23 ก.ย. 2553, 07:59:47

หัวข้อ: สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 23 ก.ย. 2553, 07:59:47
ภาวนาพุทโธไปจนกว่าจิตจะสงบ มีความสว่าง มีปีติ มีความสุข อันเป็นสมาธิขั้นสมถกรรมฐาน มีจุดมุ่งหมายที่จะระงับนิวรณ์ ๕ ประการ คือ กามฉันทะ ความใคร่ในกามหรือความสุขสบาย พยาปาทะ ความพยาบาทเคียดแค้น ถีนะมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำคาญ วิจิกิจฉา ความลังเลไม่ตกลงใจที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเข้าแลก นี่คือจุดมุ่งหมายของการเจริญกรรมฐานขั้นสมถะ

กรรมฐานอันใดที่เนื่องด้วยบริกรรมภาวนาพุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอพองหนอ เป็นวิธีการปฏิบัติสมถกรรมฐาน ใครปฏิบัติบริกรรมภาวนาอะไรก็ได้ จุดมุ่งหมายเพื่อระงับนิวรณ์ ๕ ให้สงบระงับไปจากจิตในขณะที่ภาวนาอยู่

กรรมฐานอันใดสามารถทำจิตให้สงบ สว่าง มีปีติ มีความสุข มีความเป็นหนึ่ง จิตรู้ ตื่น เบิกบาน นิวรณ์ ๕ หายไปหมดสิ้น กรรมฐานอันนั้นเป็นกรรมฐานที่ถูกต้องใครจะภาวนาแบบไหนอย่างไรก็ตาม เมื่อสามารถทำจิตให้สงบนิ่งเป็นสมาธิ ขจัดนิวรณ์ ๕ ได้ เป็นการใช้ได้ทั้งนั้น ดังนั้น ณ โอกาสต่อไปนี้ ขอเชิญท่านทั้งหลายจงบริกรรมภาวนา ใครคล่องตัวในการบริกรรมภาวนา พุทโธ ก็ว่า สัมมาอรหัง ก็เอา ยุบหนอพองหนอ ก็ใช้ได้ หลักสำคัญ ให้ขจัดนิวรณ์ ๕ ได้ เป็นจุดมุ่งหมายของการเจริญสมาธิขั้นสมถะ อันนี้สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสำหรับผู้ที่ภาวนาเก่งแล้ว จิตมีภูมิจิต ภูมิใจ มีภูมิธรรมเกิดขึ้น เมื่อภาวนาไป จิตเกิดมีความคิด ให้มีสติกำหนดตามรู้ความคิดเรื่อยไปสำหรับผู้ใหม่ ภาวนาพุทโธ พุทโธ เป็นต้น เมื่อจิตทิ้งพุทโธไปคิดอย่างอื่น ให้กลับมานึกพุทโธๆๆ ถ้าจิตสงบลงไปแล้ว หยุดว่าพุทโธ แต่มีปีติ มีความสุข นิ่ง ว่าง อยู่เฉยๆ ก็ปล่อยให้นิ่งว่างอยู่อย่างนั้น ถ้าหากเกิดความคิดขึ้นมา ปล่อยให้คิดไป แต่มีสติตามรู้ไปทุกขณะจิต นี่คือจุดเริ่มต้นของการภาวนา

อย่ากลัวติดสมถะ
สมาธิขั้นสมถะนี่ต้องเอาให้ได้ ต้องพยายามบริกรรมภาวนาเอาให้ได้ ให้จิตสงบ นิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน มีปีติ มีความสุข กายเบา จิตเบา กายสงบ จิตสงบ นิวรณ์ ๕ หายไป ความฟุ้งซ่านรำคาญหายไป มีแต่ปีติและความสุขบังเกิดขึ้นในจิต

จิตมีปีติและความสุขเป็นภักษาหาร ผู้ภาวนาย่อมอยู่อย่างสงบเยือกเย็น หาความสุขอันใดจะเทียมเท่าความสงบจิตที่ประกอบด้วยปีติและความสุขไม่มีแล้วดังนั้น อย่ามองข้ามความสงบ อย่ามองข้ามสมาธิ ต้องให้เอาสมาธิให้ได้อย่าไปกลัวจิตจะติดสมาธิ ถ้าจิตไปติดความสงบ ติดสมาธิ ดี ดีกว่าไปติดอย่างอื่น ให้มันติดสมาธิ ติดความสงบเอาไว้ก่อน อย่าไปกลัว บางทีบางท่านภาวนาพุทโธแล้วกลัวจิตจะติดสมถะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่เคยเป็นสมถะ จิตยังไม่สงบเป็นสมถะ ยังไม่สงบเป็นสมาธิ แต่ไปกลัวจิตจะติดเสียก่อนแล้ว ในเมื่อเกิดกลัวขึ้นมา จิตก็ไม่เป็นสมาธิ เมื่อไม่เป็นสมาธิ วิปัสสนาก็ไม่มี ต้องเอาจิตให้เป็นสมาธิก่อน อันนี้สำหรับผู้ปฏิบัติเบื้องต้น ต้องยึดอันนี้เป็นหลัก

หากมีผู้เคยนำมาลงแล้ว ต้องขออภัยด้วยครับ
ที่มาจากเวป  http://www.thaniyo.com/index.php/2009-05-03-02-45-43
หัวข้อ: ตอบ: สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 23 ก.ย. 2553, 08:02:20
ขอบคุณพี่เอ็มสำหรับเรื่อง สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕ ด้วยครับ สาธุ ..
อ่านเพลินเลย  :016: :015:
หัวข้อ: ตอบ: สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 24 ก.ย. 2553, 08:55:09
ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วได้ความรู้ดีๆอีกมากเลย
จะนำเอาไปปฏิบัติตามนะคะ

เรื่องการฝึกจิตให้มีสมาธินั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
ยังต้องศึกษาอีกเยอะค่ะ โดยได้รับคำสั่งสอนและชี้แนะ
จากท่านพระอาจารย์โด่ง (พระอาจารย์ รวี สัจจะ)
มาบ้างแล้ว และกำลังพยายามฝึกฝนต่อไปอยู่ค่ะ

                                            ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: ตอบ: สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 24 ก.ย. 2553, 09:19:28
ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วได้ความรู้ดีๆอีกมากเลย
จะนำเอาไปปฏิบัติตามนะคะ

เรื่องการฝึกจิตให้มีสมาธินั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
ยังต้องศึกษาอีกเยอะค่ะ โดยได้รับคำสั่งสอนและชี้แนะ
จากท่านพระอาจารย์โด่ง (พระอาจารย์ รวี สัจจะ)
มาบ้างแล้ว และกำลังพยายามฝึกฝนต่อไปอยู่ค่ะ

                                            ขอบคุณมากนะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับพี่สาวด้วยนะครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 25 ก.ย. 2553, 10:12:18
ขอบคุณกับบทความดีๆครับ