กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 27 ต.ค. 2553, 08:16:56

หัวข้อ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 27 ต.ค. 2553, 08:16:56
(http://img831.imageshack.us/img831/6012/s1036095.jpg)

ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
  ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓
                หลักออกพรรษาก็ถึงฤดูเก็บเกี่ยว ปีนี้เป็นโชคดีของชาวบ้านแถบนี้ ที่นาข้าวได้ผลผลิตดี
ไม่โดนน้ำท่วมหรือเพลี้ยลง ส่งผลให้ได้รับผลเต็มที่ ข้าวก็ได้ราคาดี ชาวนายิ้มออก มีเงินพอจะใช้จ่าย
เพราะอาชีพหลักของชาวบ้านก็คือการทำนา การประมงในลำน้ำโขงและมีส่วนหนึ่งที่ออกไปขายแรงงาน
หลังสิ้นฤดูกาลทำนา จังหวัดมุกดาหารปี้นี้ปลอดภัยจากน้ำท่วม เพราะเป็นพื้นที่สูงและตั้งอยู่อีสานกลาง
จึงไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมมากนัก จะมีบ้างแต่ก็ไม่ท่วมขัง ไม่เกิน ๕ ชั่วโมงก็ระบายลงแม่น้ำโขง
ช่วงเวลานี้จะญาติโยมลงมาวัดน้อย เพราะว่าต้องออกไปเกี่ยวข้่าวกัน ซึ่งข้าวจะสุกพร้อมๆกันเกือบทุกนา
ทำให้บางครั้งขาดแรงงาน เกี่ยวข้าวกันไม่ทัน ต้องจ้างคนลาวมาช่วยเกี่ยวข้าว คือวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่
รอบๆวัด ปีไหนข้าวดีชาวบ้านก็มีความสุข ไม่เป็นหนี้เป็นสิน พออยู่พอกิน มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้มาลงทุน
งานบุญกฐิน งานบุญผ้าป่าก็มีกำลังทรัพย์กำลังศรัทธาที่จะมาร่วมบุญกัน นั่งดูท้องนาหน้าวัด ดูโยมเขาเกี่ยว
ข้าวกัน จึงเขียนรำพันบรรยายมาเป็นบทกวี....
                         :059: ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว :059:
                          เหลืองอร่าม   งามตา    ยามหน้าเกี่ยว
                         ข้าวรอเคียว   เกี่ยวรวง   ก่อนร่วงหล่น
                         เสียงตะโกน   รวมพลัง   กำลังพล
                         ช่วยกันขน  ช่วยกันเกี่ยว เรียวรวงงาม
                                       เมื่อสิ้นฝน      ลมหนาว    เข้ามาสู่
                                       เป็นฤดู         เก็บเกี่ยว    เหลืองอร่าม
                                       ข้าวในนา      ได้เวลา      กำหนดยาม
                                       เป็นไปตาม      วิถี          ชาวนาไทย
                         ข้าวรอลาน  งานรอคน     ผลผลิต
                         คือชีวิต      ชาวนา        รอฟ้าใหม่
                         ข้าวได้ผล   ราคาดี        มีกำไร
                         ต่างหน้าใส  มีสุข          กันทุกคน
                                        เสียงเฮฮา    ดังแว่วมา   จากนาข้าว
                                        คนหนุ่มสาว   ร่วมแรง     ทุกแห่งหน
                                        ช่วยกันเกี่ยว  ช่วยกันมัด  จัดแบ่งคน
                                        ช่วยกันขน     ช่วยกันทำ  ตามกำลัง
                         ข้าวสู่ลาน     รอการ       ตีนวดข้าว
                         คนหนุ่มสาว  ร่วมแรง      แต่งความหวัง
                        ขนข้าวเปลือก ตากในลาน  ตามกำลัง
                        รวมพลัง      ลงแขก       แยกกันทำ
                                       เก็บข้าวแห้ง  ขึ้นยุ้งฉาง   รอวันขาย
                                       ด้วยใจหมาย  รอราคา     มาหนุนค้ำ
                                       มีกำไร         คุ้มค่า       ที่ได้ทำ
                                       บุญหนุนนำ     ปีนี้         มีราคา
                         ขายข้าวแล้ว    ใช้หนี้     ธอกอสอ
                         ไม่ต้องรอ        ใช้หนี้    ในปีหน้า
                         เพราะปีนี้        ขายดี     มีราคา
                         คนทำนา        มีสุข       กันทุกคน
                                       คือวิถี        ชีวิต     ชาวนาไทย
                                      ที่ฝากไว้    กับเวลา  กับฟ้าฝน
                                      คือวิถี         ชีวิต     ของคนจน
                                      ที่ต้องทน   หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน....
                                           ..............................
                 แด่ชาวนาไทยผู้ปลุูกข้าวให้เรากิน ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                  รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
                                     ๐๘.๑๗ น./๒๗ ต.ค. ๕๓
          
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 27 ต.ค. 2553, 08:54:52
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับที่เมตตาสอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 27 ต.ค. 2553, 09:25:12
     กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ปัญหาที่รุมเร้าเคยปรึกษาพระอาจารย์ราว2ปีก่อน ตอนนี้ปัญหาเบาบางลงอยู่ในระดับที่รับมือได้ อีกปีกว่าๆปัญหานี้ก็จะหมดไปแล้วครับ กราบขอบพระคุณที่พระอาจารย์ได้สอนแนวคิดในการแก้ปัญหาไว้ รวมทั้งแนวคิดต่างๆในชีวิต แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน 2ปีที่ผ่านมาผสานทางโลกและทางธรรมไว้ด้วยกัน ให้อยู่ในโลกใบนี้ได้โดยไม่แปลกแยกจากสังคมที่คบกันมายาวนาน ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่นนแปลง แต่ภายในเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อาจจะไม่ใช่เป็นคนดีที่สุดในสังคมแต่ก็จะไม่เบียดเบียนใคร อาจจะไม่เป็นคนดีทางธรรม100%อาจมีทำผิดอยู่บ้างแต่ก็มีธรรมที่ระลึกอยู่ตลอดเวลา เป้าหมาย การเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม ผมได้เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ มีเพียงอยู่ข้อเดียวที่ยังทำไม่ได้แต่ก็พยายามลด ละ
          ใช้ชีวิตโดยไม่มีธรรมชี้นำมาสี่สิบเอ็ดปีชีวิตพังไม่เป็นท่า ใช้ชีวิตโดยมีธรรมเป็นเข็มทิศเพียงสองปีชีวิตก็ดีขึ้นอย่างทันตา ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้เป็นคนดีไปนานแล้วครับ
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 27 ต.ค. 2553, 11:20:03
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว ทำให้นึกภาพออกเลยครับ  :054:

ข้าวแต่ละเม็ดมีค่ามากกว่าจะโตกว่าจะเก็บเกี่ยว ชาวนาต้องลำบากและอดทน บางปีก็แล้ง บางปีก็ท่วม กว่าจะได้แต่ละต้นแต่ละเม็ด
ผมอยากให้พี่น้องทุกคนอย่ากินข้าวเหลือทิ้งขว้างนะครับ อย่าถือว่าตัวเองซื้อกินเพราะมีตังแต่ให้เห็นถึงคนตาดำๆที่ทำนาปลูกข้าวให้พวกเรากินบ้างครับ  :054:      
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 27 ต.ค. 2553, 02:05:32
     กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ปัญหาที่รุมเร้าเคยปรึกษาพระอาจารย์ราว2ปีก่อน ตอนนี้ปัญหาเบาบางลงอยู่ในระดับที่รับมือได้ อีกปีกว่าๆปัญหานี้ก็จะหมดไปแล้วครับ กราบขอบพระคุณที่พระอาจารย์ได้สอนแนวคิดในการแก้ปัญหาไว้ รวมทั้งแนวคิดต่างๆในชีวิต แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน 2ปีที่ผ่านมาผสานทางโลกและทางธรรมไว้ด้วยกัน ให้อยู่ในโลกใบนี้ได้โดยไม่แปลกแยกจากสังคมที่คบกันมายาวนาน ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่นนแปลง แต่ภายในเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อาจจะไม่ใช่เป็นคนดีที่สุดในสังคมแต่ก็จะไม่เบียดเบียนใคร อาจจะไม่เป็นคนดีทางธรรม100%อาจมีทำผิดอยู่บ้างแต่ก็มีธรรมที่ระลึกอยู่ตลอดเวลา เป้าหมาย การเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม ผมได้เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ มีเพียงอยู่ข้อเดียวที่ยังทำไม่ได้แต่ก็พยายามลด ละ
          ใช้ชีวิตโดยไม่มีธรรมชี้นำมาสี่สิบเอ็ดปีชีวิตพังไม่เป็นท่า ใช้ชีวิตโดยมีธรรมเป็นเข็มทิศเพียงสองปีชีวิตก็ดีขึ้นอย่างทันตา ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้เป็นคนดีไปนานแล้วครับ

" การเดินทางของชีวิต ถูกหรือผิดล้วนแล้วเป็นประสพการณ์ "... เจ็บแล้วต้องจำ ไม่กระทำผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง...
 " คนที่ไม่เคยล้ม จะไม่รู้จักวิธีลุก คนที่ไม่เคยเจอทุกข์ ชีวิตจะไม่แข็งแกร่ง " ...อดีตคือบทเรียนของชีวิต ...
 " ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด "...ตราบใดทีี่ยังมีหนทางไป ใจย่อมไม่นึกถึงพระธรรม แต่เมื่อคุณชอกช้ำ
   พระธรรมคือที่พึ่งสำหรับคุณ.... " การไม่กังวล การไม่ยึดถือและยึดติด นั่นคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ "
      :059: ก้าวเดินตาม    แนวทาง     เพื่อสร้างฝัน
                 จะกี่ปี           กี่วัน         ไม่หวั่นไหว
                เพราะศรัทธา   มั่นคง        คำรงค์ใจ
                 ก้าวต่อไป      จนจบ        ภพชาติเอย  :054:
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 27 ต.ค. 2553, 06:43:08
กราบนมัสการพระอาจารย์ และกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 27 ต.ค. 2553, 06:47:00
     กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ปัญหาที่รุมเร้าเคยปรึกษาพระอาจารย์ราว2ปีก่อน ตอนนี้ปัญหาเบาบางลงอยู่ในระดับที่รับมือได้ อีกปีกว่าๆปัญหานี้ก็จะหมดไปแล้วครับ กราบขอบพระคุณที่พระอาจารย์ได้สอนแนวคิดในการแก้ปัญหาไว้ รวมทั้งแนวคิดต่างๆในชีวิต แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน 2ปีที่ผ่านมาผสานทางโลกและทางธรรมไว้ด้วยกัน ให้อยู่ในโลกใบนี้ได้โดยไม่แปลกแยกจากสังคมที่คบกันมายาวนาน ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่นนแปลง แต่ภายในเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อาจจะไม่ใช่เป็นคนดีที่สุดในสังคมแต่ก็จะไม่เบียดเบียนใคร อาจจะไม่เป็นคนดีทางธรรม100%อาจมีทำผิดอยู่บ้างแต่ก็มีธรรมที่ระลึกอยู่ตลอดเวลา เป้าหมาย การเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม ผมได้เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ มีเพียงอยู่ข้อเดียวที่ยังทำไม่ได้แต่ก็พยายามลด ละ
          ใช้ชีวิตโดยไม่มีธรรมชี้นำมาสี่สิบเอ็ดปีชีวิตพังไม่เป็นท่า ใช้ชีวิตโดยมีธรรมเป็นเข็มทิศเพียงสองปีชีวิตก็ดีขึ้นอย่างทันตา ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้เป็นคนดีไปนานแล้วครับ

" การเดินทางของชีวิต ถูกหรือผิดล้วนแล้วเป็นประสพการณ์ "... เจ็บแล้วต้องจำ ไม่กระทำผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง...
 " คนที่ไม่เคยล้ม จะไม่รู้จักวิธีลุก คนที่ไม่เคยเจอทุกข์ ชีวิตจะไม่แข็งแกร่ง " ...อดีตคือบทเรียนของชีวิต ...
 " ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด "...ตราบใดทีี่ยังมีหนทางไป ใจย่อมไม่นึกถึงพระธรรม แต่เมื่อคุณชอกช้ำ
   พระธรรมคือที่พึ่งสำหรับคุณ.... " การไม่กังวล การไม่ยึดถือและยึดติด นั่นคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ "
      :059: ก้าวเดินตาม    แนวทาง     เพื่อสร้างฝัน
                 จะกี่ปี           กี่วัน         ไม่หวั่นไหว
                เพราะศรัทธา   มั่นคง        คำรงค์ใจ
                 ก้าวต่อไป      จนจบ        ภพชาติเอย  :054:


กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสอน ครับ..
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 27 ต.ค. 2553, 09:20:32
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับผม กราบขอบพระคุณครับ... :001: