กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: อชิตะ ที่ 15 มี.ค. 2552, 05:16:25

หัวข้อ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 15 มี.ค. 2552, 05:16:25
(http://img510.imageshack.us/img510/719/110407a83.jpg)

ขอเปลี่ยนโหมด มาเป็นเรื่องของอาถรรพณ์แทนเรื่องซึ้งๆ หรือธรรมะนะครับ

ในบรรดาสรรพวิชาแขนงต่างๆ 
ย่อมมีครูบาอาจารย์ไว้เป็นที่พึ่งที่นึกถึงของศิษย์ผู้เล่าเรียน และศิษย์ผู้ศึกษา ตลอดจนถึงผู้ที่ใช้ของที่สร้างขึ้นในด้านนั้นๆ
บรมครูที่สูงสุดสำหรับชาวพุทธเรา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางเป็นเอกในโลกทุกๆ ด้าน 
ตอนเป็นเจ้าชายสิทธัตถะมีพระชนมายุ ๑๖ พรรษาเรียนจบปริญญาทางโลก ถึง ๑๘ สาขา
อาทิ นิติศาสตร์ วิชาเกี่ยวกับกฎหมาย ติกิจฉศาสตร์ วิชาแพทย์ ยุทธศาสตร์ วิชาการรบ คันธัพพศาสตร์ วิชาฟ้อนรำและดนตรี ..ฯลฯ
เมื่อบวชแล้วก็ทรงเป็นพระศาสดาเอกของโลก
ต้องยอมรับว่า ทรงเป็นบรมครูที่สูงสุด

แต่ถ้าพูดถึง ของเสน่ห์หรือวัตถุอาถรรพณ์ทางเสน่ห์แล้ว  ไม่ว่าจะเป็น คาถา น้ำมัน  ผ้ายันต์ พยนต์  บรมครูเสน่ห์ที่รู้จักกันดี ก็คือ


ปู่เจ้าสมิงพราย

ปู่เจ้าสมิงพราย ถือเป็นสุดยอดครูเสน่ห์และภูตผีในเรื่อง "ลิลิตพระลอ"

ซึ่งต้องจบลงเป็นโศกนาฏกรรมด้วยแรงเสน่ห์และความรัก ของพระลอ และพระเพื่อน พระแพง

พระลอ หรือ พระลอดิลกราช เป็นโอรสหนุ่มรูปงาม ของท้าวแมนสรวง

ด้วยความรูปงามของพระ จึงทำใ้ห้พระเพื่อน พระแพง หลงเสน่ห์พระลอ และคิดจะทำเสน่ห์ใส่พระลอ

แต่การทำเสน่ห์ในกษัตริย์ซึ่งเป็นสมมุติเทพและมีเทวดาประจำเมืองคอยปกปักรักษานั้น ทำได้ยากยิ่ง ต้องหามือชั้นครูมาทำจึงจะสำเร็จ

นางทั้งสองจึงไปขอความช่วยเหลือจากปู่เจ้าสมิงพรายให้ทำเสน่ห์ใส่พระลอ

และด้วยความเป็นบรมครูทางเสน่ห์ มีความงาม ทั้งหน้าตาและรูปร่าง

เมื่อธิดาทั้งสองเห็นปู่เจ้าสมิงพรายถึงกับแอบชื่นชม เพราะปู่เจ้าสมิงพรายเองท่านก็เป็นชายงามที่สำเร็จวิชาเสน่ห์ทุกกระบวนยุทธ

สิ่งที่ถือเป็นจรรยาบรรณของ บรมครูเสน่ห์ในครั้งนั้นก็คือ พระเพื่อนพระแพงเสนอให้สมบัติรัตนะมากมายแก่ท่าน แต่ด้วยความที่เป็นเทพและ

ไม่ต้องการอามิสรางวัล จึงขอรับแค่หมากที่นางทั้งสองนำมาถวายพอ และการทำเสน่ห์ใส่พระลอก็เริ่มต้นขึ้น

ซึ่งต้องขอบอกว่า ทำแล้วทำอีก เพราะแน่นอน คนโดนของญาติพี่น้องก็ต้องแก้ไขให้

แต่ระดับเทพ( เทพจริงๆ) ลงมือทำทั้งที มีหรือจะให้เสียชื่อ ต้องไว้ชื่อกันหน่อย

การทำเสน่ห์ใส่พระลอ ๒ ครั้งแรก แม้จะทำให้พระลอเพ้อคลั่งรอหาทั้งๆที่ยังไม่ได้ยลโฉม แต่ก็ได้ผู้มีวิชามาแก้ให้สำเร็จ

ในครั้งที่ ๓  ปู่เจ้าสมิงพรายได่เชิญเทวดาและภูติพรายมา หรือจะเรียกว่ายกพลผีก็ได้มาช่วย

ก่อนอื่นต้องกำหราบปราบเทวดาประจำเมืองก่อน จนเทวดาประจำเมืองพ่ายแพ้ ผู้มีวิชาที่มียาดีแก้ของได้ก็ถึงกับถอดใจไม่กล้าสู้

ยาดีต่างๆนั้นก็ถูกบริวารของปู่เจ้าทำให้เสื่อมหมด

เมื่อหมดผู้ที่จะคอยปกป้องพระลอแล้ว ปู่เจ้าสมิงพรายจึงเสกหมากเป็นแมลงภู่ไปตกเชี่ยนหมาก(วิชานี้ในเรื่องเรียกสลาเหินครับ)

พระลอเสวยหมากคำนั้นเข้าไปก็ใด้เรื่อง เกิดอาการคุ้มคลั่งจะออกป่าให้ใด้

แม้แต่ หมอสิทธิไชยก็ไม่สามารถช่วยใด้แล้ว เพราะเทวดาประจำเมืองหนีไปหมดแล้ว

ในที่สุดพระบิดามารดาก็ห้ามไม่ไหว และในที่สุดพระลอก็ออกป่าไป ในที่สุด

และสุดท้ายตอนจบของเรื่องก็อย่างที่เราทราบกันดี พระเพื่อน พระแพง ยอมสละชีวิต เพื่อชายที่รัก เป็นโศกนาฏกรรมความรักในตอนจบ

(http://img136.imageshack.us/img136/2491/196864dsc5623wy9.jpg)


ปู่เจ้าสมิงพราย จึงเป็นที่ยอมรับในผู้สนใจสายเสน่ห์และร่ำเรียนวิชาทางนี้หรือมีของดีทางนี้ 

ในความเชื่อที่ว่า ท่านจะช่วยเกื้อหนุนให้ของนั้นมีอานุภาพเพิ่มขึ้น 

เข้าหลักที่ว่า คนเราต้องมีครูบาอาจารย์หรือต้นแบบไว้เป็นแนวทางและที่พึ่งทางใจ  ถ้ามีความตั้งมั่นในการใช้จิตก็จะแน่วแน่

ของเสน่ห์เขาก็มีต้นเรื่องที่แรงได้ใจดีเหมือนกันครับ   :048: :048:


(http://img50.imageshack.us/img50/9485/hearts066qz5.gif)


ขอขอบคุณพี่กิจหรือเฮียกิจ ครูเสน่ห์ของผม  ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลเรื่องปู่เจ้าสมิงพรายครับผม
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 15 มี.ค. 2552, 05:49:28
ศาลปู่เจ้าสมิงพราย อยู่พระประแดง สมุทรปราการนี่เองครับ
ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ เคยไปไหว้ท่านหลายครั้งเหมือนกัน  :005:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 15 มี.ค. 2552, 07:22:36
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในเมื่อเอ่ยถึง"ลิลิตพระลอ" ในฐานะคนแพร่ ขอเอาสถานที่ท่องเที่ยวตามเรื่องนี้มาให้ท่านสมาชิกท่านอื่นๆชมนะครับ ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
พระธาตุพระลอ   (http://img212.imageshack.us/img212/2706/paloor.jpg)

  เป็นต้นกำเนิดของวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ ซึ่งจัดว่าเก่าแก่ที่สุด สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น การเดินทาง ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 101 ประมาณ 24 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 103 อีกราว 18 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาสู่อำเภอสองใช้เส้นทางหมายเลข 1154 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตรถึงพระธาตุพระลอ วัดธาตุพระลอ ตั้งอยู่ที่ ม. 1 บ้านธาตุพระลอ ต. บ้านกลาง อ. สอง จ. แพร่ ห่างจากอำเภอสอง 2.5 ก.ม.
(http://img150.imageshack.us/img150/8127/pralawtemple.gif)

รายละเอียด
พระธาตุพระลอ เป็นโบราณสถานที่มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับเวียงสอง เมืองโบราณที่กล่าวถึงวรรณคดีไทยเรื่องลิลิตพระลอ และเป็นที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ พระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอสอง ภายในวัดมีรูปปั้นของพระลอ พระเพื่อน พระแพง ประวัติความเป็นมา เิิดิมวัดพระธาตุพระลอนี้เดิมเรียก ธาตุหินส้ม เพราะแต่เดิมก่อนที่จะสร้างพระธาตุนั้นพบว่้ามีซากอิฐและหินกองใหญ่อยู่ หินนี้มีลักษณะเป็นหินส้ม แต่ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น พระธาตุพระลอ การก่อสร้างสันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เนื่องจากมีการขุดพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น ดาบ และพระพุทธรูป ซึ่งเป็น ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย หล่อด้วยตะกั่ว รูปแบบเจดีย์เป็นทรงลังกา พ.ศ. 2325 ได้รับพระราชทานวิสุึงคามสีมา พ.ศ. 2521จังหวัดให้สร้างอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อนพระแพงขึ้นในบริเวณวัด เป็นรูปปั้นของกษัตริย์ทั้งสามพระองค์ที่ถูกทหารยิงด้วยธนูจนสิ้นพระชนม์ ประเพณีการนมัสการพระธาตุพระลอกำหนดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เหนือของทุกปี พระธาตุพระลอ อยู่ที่ตำบลบ้านกลาง ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1154 กม.ที่ 54 ห่างจากอำเภอสอง ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความรักอมตะของพระลอแห่งนครแมนสรวง และพระเพื่อน-พระแพง แห่งเมืองสรอง
 ที่มา : http://www.phrae.go.th/Tourist/Song-paloo.htm (http://www.phrae.go.th/Tourist/Song-paloo.htm)
พระลอตำนานรักอมตะ พระลอเป็นวรรณกรรมอมตะของชาติไทยที่มีต้นฉบับมาจากนิยายรักพื้นบ้านเมืองเหนือ ที่เชื่อกันว่าสถานที่เกิดเหตุ คือเมืองสรวง และเมืองสรองนั้นมีอาณาเขตส่วนหนึ่งอยู่ในจังหวัดแพร่ หรือเหตุเกิดขึ้นในเมืองแพร่นั่นเอง ดังนั้น เราจึงกล่าวได้ ว่า เรื่องพระลอคือนิยายรักของชาวเมืองแพร่ แรกเริ่มนิยายรักเรื่องพระลอนี้คงจะเป็นเพียงนิทานพื้นบ้านแต่ในยุคสมัยต่อ ๆ มามากวีชาวเหนือได้รจนาขึ้นเป็นค่าว เป็นซอ หรือ เป็นบทกวีและลำนำเพลงขึ้นขับขานสืบต่อ กันไป จนในราวยุคต้นกรุงศรีอยุธยา ก่อนยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงมีการนำเรื่องพระลอมาแต่งเป็นลิลิตสุภาพขึ้น โดยมีผู้แต่งช่วยกันแต่งหลายคน จากนั้นเรื่องพระลอจึงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น กระทั่งในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 6 โบราณคดีสโมสรแหล่งรวมนักปราชญ์ราชบัณฑิตทั้งหลายในยุคนั้นต่างก็ พร้อมใจกันยกเรื่อง ลิลิตพระลอนี้ขึ้นเป็นยอดของบทกวีประเภทลิลิตสุภาพของไทยและนับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรื่องพระลอจึงมิใช่นิยายรักพื้นบ้านเฉพาะของชาวแพร่ เท่านั้น หากแต่ยังเป็นวรรณกรรมอมตะชิ้นเอกของชาวไทยทั้งมวลด้วย

สำหรับความเกี่ยวพันในเรื่องสถานที่ระหว่างเมืองแพร่กับเรื่องพระลอนั้น เชื่อกันว่าเมืองสรวงก็คืออำเภอสองในปัจจุบัน โดยสืบค้นจากพงศาวดารโยนก กล่าว่า ? เจ้าฟ้าเมืองนายกับเจ้าฟ้าเมืองเชียงทองสองพี่น้อง ยกรี้พลมาตีฟ้าเมืองต่าง ๆ ได้เมืองเชียงราย เชียงแสน เมืองลอ เมืองพะเยา

ลุถึงเดือน 11 ขึ้น 2 ค่ำ ปีเดียวกันยกกองทัพจากแก่งเมืองพะเยาระยะทางแปดพันวา ไปแรมทางเมืองสะเอียบ ยกจากสะเอียบไปแรมป่าเลายกจากป่าเลาไปแรมเมืองสองระยะทางหมื่นวายกจากเมืองสองไปแรมป่าเสี้ยวยกจากป่าเสี้ยวไปแรมเมืองแพร่ ? ดังนั้น หากพิจารณาจากพงศาวดารนี้ เมืองสองจึงเป็นเมืองโบราณที่สร้างมานานนับพันปีทีเดียวนอกจากนั้นพงศวดารเมืองน่านยังกล่าวถึงเมืองสองไว้ว่า ?จุลศักราช 789 พญาน่าน ตนชื่อ อุ่นเฮือน ได้กรี้พลลงมาตีเมืองเทิง เมืองสอง ได้ชัยชนะ กวาดต้อนผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ?

จากหลักฐานต่าง ๆ ดังกล่าว นักวรรณคดีจึงเชื่อว่าเมืองสรวง เมืองของพระลอ ก็คือเมืองสอง ในปัจจุบันได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง สาเหตุที่เชื่อเช่นนี้นั้น นอกจากความเป็นเมืองเก่าขนาดใหญ่ของเมืองสองแล่ว เมืองก็ยังมีโบราณวัตถุโดบราณสถานเก่าแก่ ให้เห็นหลายประการ เช่นที่ตำบลบ้านกลาง มีร่องรอยเป็นตัวเมือง มีมูลดินถมเป็นกำแพงเมืองสามชั้นล้อมรอบเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่เศษ นอกจากนั้นยังมีสถานที่อื่น ๆ ทีมีชื่อพ้องกับเรื่องพระลออีกหลายแห่ง เช่น มีแม่น้ำ กาหลง เด่นนางฟ้อน ถ้ำปู่เขาสมิงพราย เป็นต้น และนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ พระธาตุพระลอ อยู่ห่างจากเมืองสองออกไปทางทิศเหนือ ที่เชื่อกันว่าก็มีเรื่องราวเกี่ยวพันกับเรื่องพระลอ จนทางจังหวัดได้จัดสร้างรูปปั้นพระลอ พระเพื่อน พระแพง ขึ้นไว้ในบริเวณวัดด้วยเช่นกัน

เรื่องพระลอเริ่มต้นขึ้นด้วยสงครามระหว่างสองเมือง คือเมืองสรวงของท้าวแมนสรวง และเมืองสรองของท้าวพิมพิสาคร ผลของการสงครามทำให้เมืองทั้งสองกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต พระลอซึ่งภายหลังได้เป็นเจ้าเมืองสรอง เป็นชายหนุ่มรูปงาม ที่ความงามของพระองค์ได้รับการขับขานเป็นบทเพลงสรรเสริญที่ขจรขจายไปจนถึงหุของ พระเพื่อน พระแพง สองราชธิดาสาวของเมืองสรองด้วยวิบากกรรมแต่หนหลังทำให้สองพระธิดาเกิดมีใจปฏิพัทธ์ในพระลอทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยพบ จึงร่วมกับพี่เลี้ยงวางแผนให้กวีแต่งบทสรรเสริญความงามของทั้งสองออกขับขานไปบ้าง พร้อมกันนั้นพระพี่เลี้ยงของสองธิดายังไปขอความช่วยเหลือปู่เจ้าสมิงพราย ผู้วิเศษประจำเมือง ให้ใช้เวทมนตร์เรียกพระลอมาหา ด้วยอิทธิอำนาจแห่งปู่เจ้าสมิงพราย พระลอมิอาจทานอำนาจมนตร์อยู่ได้ แม้จะถูกทัดทานด้วยความรักจากทั้งแม่และเมีย ต้องเสด็จมายังเมืองสรองพร้อมด้วยนายแก้ว นายขวัญ สองพี่เลี้ยงระหว่างทาง พระลอเสด็จลงเสี่ยงน้ำที่แม่น้ำกาหลงผลการเสี่ยงบอกว่าพระลออาจต้องเสียพระชนม์หากยังเสด็จไป แต่กระนั้นด้วยความมานะ และอำนาจมนตร์แห่งปู่เจ้าสมิงพราย พระลอก็ยังคงเสด็จมุ่งหน้าไปยังเมืองสรองต่อไป

และในที่สุด พระลอก็สามารถเสด็จเข้าไปจนถึงสวนขวัญ อุทยานหลวงของเมืองสรองได้สำเร็จ ด้วยการชักนำของไก่แก้วที่ปู้เจ้าสมิงพรายเสกมา และพระเพื่อน พระแพง ก็ได้พบกับพระลอรักกัน และเป็นของกันและกันด้วยผลแห่งวิบากกรรมแต่หลังจากที่มีความสุขกันอย่างลับ ๆ ไม่นาน ความก็ทราบไปถึงพระราชบิดาแห่งพระเพื่อน พระแพง

พระองค์เสด็จมาลอบดูด้วยตนเอง ครั้นเห็นความงานสง่าของพระลอเข้าก็นึกรักและให้อภัยจึงเสด็จกลับ แต่พระเจ้าย่าของพระเพื่อน พระแพง ผู้ซึ่งสูญเสียสามีสุดที่รักไปในการสงครามกับเมืองสรวงกลับไม่ยอม พระเจ้าย่าส่งทหารเข้ามาล้อมสวนขวัญ พระลอ พระเพื่อน พระแพง ต่อสู้จนถูกลูกธนูที่ยิงมาดังห่าฝนติดเต็มร่าง ยืนตายอยู่เคียงกันในที่สุด

เมื่อพระราชบิดาของพระเพื่อน พระแพง ทรงทราบเรื่องจึงสั่งให้ประหารชีวิตพระเจ้าย่าเสียแล้วจึงส่งสารไปยังเมืองสรวง ทั้งสองเมืองจัดการพระศพของพระลอ พระเพื่อน พระแพง แล้วจึงสร้างเจดีย์เล็ก ๆ ขึ้น จากนั้นเมืองทั้งสองจึงคืนสู่ความเป็นไมตรีกันสืบมา

หากท่านผู้อ่านได้อ่านเรื่องพระลอตั้งแต่ต้นจนจบ ก็จะพบว่าเรื่องพระลอนั้นมิใช่เป็นเพียงเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาวเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเรื่งราวความรักของแม่กับลูก สามีกับภรรยา นายกับบ่าว ที่เจือปนไปด้วยเสียสละ เวทมนตร์อาถรรพ์ ความสนุกสนานตื่นเต้น ความทุกข์ยากความจากพราก อันล้วนเป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งตรึงใจตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับรูปแบบ การประพันธ์ด้วยสำนวนโวหารอันไพเราะสละสลวย จนถึงขนาดเป็นยอดแห่งวรรณคดีประเภทลิลิตแล้วพระลอจึงเป็นเรื่องที่น่าอ่านชวนติดตามยิ่งเล่มหนึ่ง
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 15 มี.ค. 2552, 07:41:55
อย่างกะรักสามเศร้าเลยนะเนี่ย ได้ความรู้อีกล่ะ ขอบคุณท่านศักดา กะ ท่านอชิตะ วาซาเกะ คุง
  :054: :090:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 15 มี.ค. 2552, 08:18:36
เห็นด้วยกับพี่ชลาพุชะครับ   วรรณกรรมนี้ มีความโดดเด่นด้านภาษา ในหลายๆตอน

แม้เรื่องราวที่จบลงด้วยความเศร้า แต่ยังเหลือความเป็นอมตะไว้ตลอดกาล คือ ความรักในหัวใจ   :090: :090:




เสียงลือเสียงเล่าอ้าง    อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร    ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล    ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า    อย่าได้ถามเผือฯ


              *********

ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ    เมียตน
เมียแล่พันฤๅดล    แม่ได้
ทรงครรภ์คลอดเปนคน    ฤๅง่าย เลยนา
เลี้ยงยากนักท้าวไท้    ธิราชผู้มีคุณ ฯ
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 07:01:18
แล้วนะปัจจุบันอยากไปหาครูเสน่ห์ จะไปหาที่ไหนดีครับท่านอชิตะ ที่ผ่านมาใช้แต่ ทุบ อุ้ม มอม ยา จึงได้มา ล่อเล่นนะครับ :007:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 08:17:06
แล้วนะปัจจุบันอยากไปหาครูเสน่ห์ จะไปหาที่ไหนดีครับท่านอชิตะ ที่ผ่านมาใช้แต่ ทุบ อุ้ม มอม ยา จึงได้มา ล่อเล่นนะครับ :007:

หุหุ  วิชาแรงเหมือนกันนะรับพี่ชลาฯ 

อย่าหาเลยพี่ของแบบนี้ เล่นแล้วติดใจ เพลินไปเรื่อย  บาปอ่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: peachsama ที่ 16 มี.ค. 2552, 08:25:04
 :002:ขอบายครับท่าน บาปอ่ะ  แบบนี้ต้องมอมด้วยยาคูล์ท ^^ แล้วตามด้วยดัชชี่  หรอย อิอิ
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: kaitip ที่ 16 มี.ค. 2552, 08:31:02
 :001:ได้ความรู้กันอีกแล้วนะค่ะ..แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเพราะศิษย์บางพระทุกคนต่างก็มีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว... :077:

โดยเฉพาะคุณพี่เมฆอ่ะสาวรักสาวหลงซะขนาดนั้น..ยังต้องหาอะไรอีกล่ะค่ะ...อิอิ :015: :015: แต่มีไรก็แบ่งกันมั้งนะค่ะคุณพี่...

น้องสาวขาดเสน่ห์อย่างแรง :075: :075:

หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 08:34:08
:001:ได้ความรู้กันอีกแล้วนะค่ะ..แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเพราะศิษย์บางพระทุกคนต่างก็มีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว... :077:

โดยเฉพาะคุณพี่เมฆอ่ะสาวรักสาวหลงซะขนาดนั้น..ยังต้องหาอะไรอีกล่ะค่ะ...อิอิ :015: :015: แต่มีไรก็แบ่งกันมั้งนะค่ะคุณพี่...

น้องสาวขาดเสน่ห์อย่างแรง :075: :075:



ก็ว่าไปครับน้องหยก   แซวกันเองซะงั้น เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย  เหอๆ
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 08:56:48
แล้วนะปัจจุบันอยากไปหาครูเสน่ห์ จะไปหาที่ไหนดีครับท่านอชิตะ ที่ผ่านมาใช้แต่ ทุบ อุ้ม มอม ยา จึงได้มา ล่อเล่นนะครับ :007:


:070: ที่ผ่านมาท่านชลาพุชะจีบสาวด้วยวิธีนี้รึ  :052:
[shake] :043:  :003: ทุบ อุ้ม มอม ยา จึงได้มา [/shake]   :093: :043:
โอ๊ย  :066: แน่ใจนะว่าท่านล้อเล่น ร่ายมาเป็น step เลยอ่ะ  :004:
[/b]
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 16 มี.ค. 2552, 09:07:04
โอมปู่เจ้าสมิงพราย อนันตรายให้กูไปใช้... กุ๊ก กุ๊ก... ผู้ชายน่าจะยอมให้พู่หยิงมีแควนสองคน ม่าง...   :009:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 09:10:39
โอมปู่เจ้าสมิงพราย อนันตรายให้กูไปใช้... กุ๊ก กุ๊ก... ผู้ชายน่าจะยอมให้พู่หยิงมีแควนสองคน ม่าง...   :009:

กรรม  มี กุ๊กๆ ด้วย 

ผู้ชายที่เขายอมก็มีนะพี่  ชายมีดี ไม่เคยกลัวหญิงปันใจ   :005: :005:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 09:21:32
โอมปู่เจ้าสมิงพราย อนันตรายให้กูไปใช้... กุ๊ก กุ๊ก... ผู้ชายน่าจะยอมให้พู่หยิงมีแควนสองคน ม่าง...   :009:

มีมากมายก็ปวดหัวนะพี่โชว  31; ที่มีอยู่ทุกวันนี้ยังไม่พออีกนะ  :052: :053:  แบ่งปันมาทางนี้บ้างก็ได้  30; จะได้ไม่เหนื่อยไงพี่  13; 08;
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 16 มี.ค. 2552, 09:38:26
น้องลิงโก๊ะ...ก็... มีเยอะก็ดีสิคะ..จะได้ใช้ฟุ่มเฟือย เพราะมีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด...
(ผู้ชายก็เหมือนกางเกงลิง ถ้าเก่าต้องเปลี่ยนทิ้ง ซื้อตัวใหม่) เอ...จะโดนรุมทีนไหมเนี่ย...

ไม่เอาๆ เอาใหม่... หากคุณเปรียบผู้หญิงเหมือนดอกไม้ริมทาง...ใจเย็นนะ.. ฉันก็จะเปรียบ ผู้ชายเหมือนไอ้ด่างริมถนน...

น้องชิชิ...  พี่ขอใช้สิทธิ์นั้นเดี่ยวนี้!  :009:

คนญี่ปุ่น.. รับคนเข้าทำงานตำแหน่งที่ต้องดีลกะลูกค้าหลายๆ คน... หากเขาสัมภาษณ์ มักถามว่า คุณมีแฟนกี่คน... หากตอบคนเดียว รักเดียวใจเดียว เขาจะเก็บผู้สมัครคนนี้เป็นคนท้ายๆ ไว้เลือกค่ะ... แชร์ให้ฟัง เรื่องจริงนะคะ..
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 09:43:13
น้องลิงโก๊ะ...ก็... มีเยอะก็ดีสิคะ..จะได้ใช้ฟุ่มเฟือย เพราะมีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด...
(ผู้ชายก็เหมือนกางเกงลิง ถ้าเก่าต้องเปลี่ยนทิ้ง ซื้อตัวใหม่) เอ...จะโดนรุมทีนไหมเนี่ย...

ไม่เอาๆ เอาใหม่... หากคุณเปรียบผู้หญิงเหมือนดอกไม้ริมทาง...ใจเย็นนะ.. ฉันก็จะเปรียบ ผู้ชายเหมือนไอ้ด่างริมถนน...

น้องชิชิ...  พี่ขอใช้สิทธิ์นั้นเดี่ยวนี้!  :009:

คนญี่ปุ่น.. รับคนเข้าทำงานตำแหน่งที่ต้องดีลกะลูกค้าหลายๆ คน... หากเขาสัมภาษณ์ มักถามว่า คุณมีแฟนกี่คน... หากตอบคนเดียว รักเดียวใจเดียว เขาจะเก็บผู้สมัครคนนี้เป็นคนท้ายๆ ไว้เลือกค่ะ... แชร์ให้ฟัง เรื่องจริงนะคะ..


จัดไปพี่ ถ้าแบบนี้ ผมได้เป็นผู้บริหารละมั้ง  :004: :004:  ปากดีีอีกแล้ว

แต่เอ..เขาพิจารณาแต่ผู้หญิงอ่ะมั้ง  ไม่แปลกใจเลยกับตำแหน่งพี่โชว   :045:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: kongkeha ที่ 16 มี.ค. 2552, 10:54:04
 :074: :074:โอ้โหได้ความรู้เยอะแยะเลยครับพี่อชิตะสุดหล่อ :054:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: tuytan ที่ 16 มี.ค. 2552, 11:31:07
ขอบคุณกับความรู้ดีๆครับ :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 11:59:58
น้องลิงโก๊ะ...ก็... มีเยอะก็ดีสิคะ..จะได้ใช้ฟุ่มเฟือย เพราะมีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด...
(ผู้ชายก็เหมือนกางเกงลิง ถ้าเก่าต้องเปลี่ยนทิ้ง ซื้อตัวใหม่) เอ...จะโดนรุมทีนไหมเนี่ย...

ไม่เอาๆ เอาใหม่... หากคุณเปรียบผู้หญิงเหมือนดอกไม้ริมทาง...ใจเย็นนะ.. ฉันก็จะเปรียบ ผู้ชายเหมือนไอ้ด่างริมถนน...

น้องชิชิ...  พี่ขอใช้สิทธิ์นั้นเดี่ยวนี้!  :009:

คนญี่ปุ่น.. รับคนเข้าทำงานตำแหน่งที่ต้องดีลกะลูกค้าหลายๆ คน... หากเขาสัมภาษณ์ มักถามว่า คุณมีแฟนกี่คน... หากตอบคนเดียว รักเดียวใจเดียว เขาจะเก็บผู้สมัครคนนี้เป็นคนท้ายๆ ไว้เลือกค่ะ... แชร์ให้ฟัง เรื่องจริงนะคะ..


จัดไปพี่ ถ้าแบบนี้ ผมได้เป็นผู้บริหารละมั้ง  :004: :004:  ปากดีีอีกแล้ว

แต่เอ..เขาพิจารณาแต่ผู้หญิงอ่ะมั้ง  ไม่แปลกใจเลยกับตำแหน่งพี่โชว   :045:

แจ่มจรัสมากค่ะพี่โชว  25; ไม่เป็นไร ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายนะ  :053:
 
ยังไงแล้ว เราก็ไม่ใช่ดอกไม้ริมทางของ.......ใครบางคนค่ะ  :093: 33;

ให้ท่านอชิตะ....คุงมาเป็นผู้บริหารดีกว่านะ ดูแล้วเหมาะค่ะ 31; 32;

เพราะท่านอชิตุ....คุง เข้าใจถึงแก่นแท้...ในความรัก.....จริง.....และ...รัก.......????? :026: :090:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 12:11:03
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 12:28:32
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:

 :004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 12:44:39
 




ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:

 :004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:



04; ท่านอชิตะ.....คุง  13;  ขาดความอบอุ่นอยู่ละสิ 04;
เสมอภาคกันทุกกระทู้ แหม๋...รักทุกคนไปหมดเลย  :026: :090:
สมแล้วตำแหน่งผู้บริหาร....เสน่ห์ :007: 31; 08;
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 12:49:42

 ชลาพุชะ link=topic=7593.msg66059#msg66059 date=1237180263]
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:

 :004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:
[/quote]

04; ท่านอชิตะ.....คุง  13;  ขาดความอบอุ่นอยู่ละสิ 04;
เสมอภาคกันทุกกระทู้ แหม๋...รักทุกคนไปหมดเลย  :026: :090:
สมแล้วตำแหน่งผู้บริหาร....เสน่ห์ :007: 31; 08;

[/quote]

...กรรม ไม่ใช่และ ลิงน้อย ปล่อยไปตามธรรมชาติละผม ไม่ได้เกร็งหรือบริหารอะไรเลย   ช่วงนี้ยังเซ็งกับผีแดงอยู่เลย   เศร้า   :065:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 16 มี.ค. 2552, 12:54:53
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:
:004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:

เขาเรียก ไม่ได้มั่ว แต่ทั่วถึง.... :009: แหม พี่ชลาปุ้ดฉะก้อ..

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม...งดงาม...ตื่นเต้น เร้าใจ...เร่าร้อน..ลุ่มหลง..งงงวย .. คำนึงบ่มินอน สุดสวาทอาวรณ์ ร้อนรนทนอยู่มิได้...... กุ๊ก กุ๊ก   :009:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 16 มี.ค. 2552, 01:11:12
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:
:004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:

เขาเรียก ไม่ได้มั่ว แต่ทั่วถึง.... :009: แหม พี่ชลาปุ้ดฉะก้อ..

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม...งดงาม...ตื่นเต้น เร้าใจ...เร่าร้อน..ลุ่มหลง..งงงวย .. คำนึงบ่มินอน สุดสวาทอาวรณ์ ร้อนรนทนอยู่มิได้...... กุ๊ก กุ๊ก   :009:


 :004: :004:  นะมิเห็นหน้ากุ๊กอยู่มิได้

โมร้องไห้ครวญคราง

พุทกอดไว้มิให้วาง

ธาครวญครางสะอื้นไห้

ยะหลงใหลในจิต

หญิงใดชายใด ได้เพ่งพิศเห็นหน้ากุ๊ก

ก็อยู่มิได้ร้องไห้มาหากุ๊ก กุ๊ก

กุ๊กเป็นคำโบราณที่ไม่สุภาพคงเข้าใจแทนคำว่าอะไร นนะครับ มิได้มีเจตนาล้อเลียนหรือลบหลู่  :054: :054:

แต่ไม่ใช่ กุ๊ก กุ๊ก ของพี่โชว แน่ๆ  :004: :004:

แค่คาถาที่ขลังมากๆ คือ รักนะ จุ๊ฟๆ   :048: :048:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 03:09:19

 ชลาพุชะ link=topic=7593.msg66059#msg66059 date=1237180263]
ชมกันซึ่งหน้าอย่างนี้ อิจฉาท่านอชิตะจังที่โดนสาวรุมทึ่ง ไม่ใช่ รุมรัก :074:

 :004: :004:  มันไม่ใช่และ พี่ชลาฯ  ตอบกันแบบอบอุ่นนะครับพี่  เสมอภาคกันทุกกระทู้   :048: :048:

04; ท่านอชิตะ.....คุง  13;  ขาดความอบอุ่นอยู่ละสิ 04;
เสมอภาคกันทุกกระทู้ แหม๋...รักทุกคนไปหมดเลย  :026: :090:
สมแล้วตำแหน่งผู้บริหาร....เสน่ห์ :007: 31; 08;

[/quote]

...กรรม ไม่ใช่และ ลิงน้อย ปล่อยไปตามธรรมชาติละผม ไม่ได้เกร็งหรือบริหารอะไรเลย   ช่วงนี้ยังเซ็งกับผีแดงอยู่เลย   เศร้า   :065:
[/quote]


ขนาดไม่ได้บริหารนะ ได้ข่าวว่า เป็นพรวนเลยนี่ เป็ดไง  38;ไม่ต้องเศร้าหรอกนะ  :070:

คนที่เศร้าเหมือนท่านอชิตะ...คุง มีอีกเยอะ  31; 15;
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 16 มี.ค. 2552, 03:51:55
รักนะจ๊วบๆ.... (9 จบเลย..) .. ขลังกว่านะ... ชิตะ.. (รุ่นเดอะใช้อ่ะ...น้องเอ๋ย...) :009:

ปล. กระทู้ 'เสน่ห์' ของเสือน้อยอชิตะของพี่โชว..นี่มันดีนะ

โพสกันไปกันมา..สนุกจริงเชียว ....กุ๊ก กุ๊ก... 

(จ้างให้ก็ทายมะถูกว่า กุ๊ก กุ๊ก คืออาราย... กุ๊ก กุ๊ก)   :009:

หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: น้องลิงน้อย ที่ 16 มี.ค. 2552, 04:38:25
รักนะจ๊วบๆ.... (9 จบเลย..) .. ขลังกว่านะ... ชิตะ.. (รุ่นเดอะใช้อ่ะ...น้องเอ๋ย...) :009:

ปล. กระทู้ 'เสน่ห์' ของเสือน้อยอชิตะของพี่โชว..นี่มันดีนะ

โพสกันไปกันมา..สนุกจริงเชียว ....กุ๊ก กุ๊ก... 

(จ้างให้ก็ทายมะถูกว่า กุ๊ก กุ๊ก คืออาราย... กุ๊ก กุ๊ก)   :009:




ตกลงว่าจะปั่น...(ปั่นหัว)กันหรือนี่   :004: :027:กุ๊ก กุ๊ก คืออะไรนี่ ผีหลอกอ่ะ :069:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya ที่ 16 มี.ค. 2552, 05:04:36
 :065: เอ้อ!!!นี่กระทู้ไรคับเนี่ย เริ่มต้นตั้งมาก้อดูดี ทำไม๋ ลงท้ายแบบนี้ง่า

รู้สึกว่าจะเป็นกระทู้เบี่ยงเบน :065:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 16 มี.ค. 2552, 05:30:59
กุ๊กๆ นี่คือ กอสระอู หรือเปล่าค้าบบบ พี่โชว อิอิ :005:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: tum72 ที่ 19 มี.ค. 2552, 09:30:16
ยอยศ พระลอ
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 19 มี.ค. 2552, 10:17:53
ขอบคุณมาก ครับ พี่ ข้อมูลแน่นมาก ครับ  :053:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: ๛][รัตu:][๛ ที่ 19 มี.ค. 2552, 10:43:08
ขอบคุณมากนะครับ ที่นำสาระ มาฝากกัน  :005:
หัวข้อ: ตอบ: บรมครูเสน่ห์
เริ่มหัวข้อโดย: อ่างทอง ที่ 20 มี.ค. 2552, 10:15:51
+1คับท่าน.