๒๓ ชั่วโมงกับการเดินทาง....
กลางวันลงไปปฏิบัติโยธากรรมฐานคุมงานก่อสร้างตามปกติ
วันนี้เป็นวันพระเลยมีญาติโยมมาช่วยงานก่อสร้างกันมาก
งานก้าวหน้าไปมากเพราะการวางระบบแบ่งงานเป็นแผนกไป
โยมผู้หญิงช่วยกันรื้อกุฏิทำความสะอาดสถานที่และเก็บของ
โยมผู้ชายเชื่อมเหล็ก ตัดเหล็ก ขึ้นโครงหลังคาและก่ออิฐ
เลิกงานประมาณ ๑๘.๐๐น.ขึ้นมาศาลาเก็บของเตรียมตัวเดินทาง
ออกจากวัดเวลาประมาณ ๑๙.๐๐น.เพื่อเดินทางลงปักษ์ใต้
ใช้เวลาที่อยู่บนรถเจริญภาวนามาตลอดทางจนสว่าง
ถึงกรุงเทพฯเวลาประมาณ ๐๕.๓๐น.
ลูกศิษย์มารับไปสรงน้ำที่วัดปรินายก เสร็จแล้วเดินทางต่อ
รถออกจากสายใต้เวลา ๐๗.๓๐น.
หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง จังหวะที่ตื่นก็เจริญภาวนาจนหลับ
ตื่นขึ้นมาก็เจริญภาวนาต่อจนถึงจังหวัดพังงา เวลา ๑๘.๑๕น.
แวะเอาของเก็บที่วัดเก่าเจริญธรรมที่เคยสร้างไว้
สรงน้ำแล้วรีบออกไปงานศพโยมแม่ของพระที่เคยอยู่จำพรรษาด้วยกัน
นานๆจะได้กลับไปพังงาญาติโยมรู้ข่าวจึงมาหากันมาก
นั่งพูดคุยรับแขกจนถึงเวลา ๒๓.๐๐น.จึงได้กลับที่พัก
พยายามทรงอารมณ์ปิติไว้เพื่อให้มีกำลังและไม่ง่วง
เพื่อจะได้รับแขกและสนทนากับญาติโยมที่มาเยี่ยม
๒๓ ชั่วโมงกับ ๑๔๕๒ กิโลและอีก ๔ ชั่วโมงกับการนั่งต้อนรับญาติโยม
...สิ่งที่ทำให้มีกำลังคืออารมณ์ปิติที่เราพยายามทรงไว้...
ช่วยให้เราสามารถยืนระยะได้เป็นเวลานาน
คำสั่งสอนของครูบาอาจารย์คือท่านหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ
วัดถ้ำเสือฯจังหวัดกระบี่ท่านสอนไว้ว่า...อารมณ์ปิติทำให้เรามีกำลังมากที่สุด...
เพราะจิตจะตื่น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ง่วง ไม่หิว
:054:ขอขอบคุณคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ที่ทำให้มีวันนี้
ด้วยความเคารพและศรัทธาต่อครูบาอาจารย์
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐.๔๓ น. ณ วัดเก่าเจริญธรรม ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา