ตื่นนอนรู้สึกตัวขึ้นมา....
พยายามทำจิตให้ว่าง ให้โปร่งโล่งเบา
เพื่อดึงข้อมูลเก่าๆกลับมา โดยใช้อารมณ์สมาธิเป็นแนวทาง
ปรับเครื่องรับของเราให้ว่างจากข้อมูล เพื่อรอรับคลื่นที่จะเข้ามา
ซึ่งถ้าเราทำให้ว่างไม่ได้ คลื่นสัญญาณที่รับก็จะไม่ชัดเจน
ซึ่งวิธีการนี้ได้มาจากฝึกจิต ตัวดู ตัวรู้ ตัวเห็น ที่เคยผ่านมา
ภาวนาให้จิตสงบนิ่ง แล้วถอยจิตออกมา อธิษฐานจิต แล้วปรับจิตสู่ความว่าง
คือว่างจากความคิดปรุงแต่งใดๆ ลักศณะคล้ายเรากำลังเหม่อลอย
แต่สติและสัมปชัญญะนั้นคงมีอยู่สมบูรณ์กับปัจจุบันธรรม
สัญญาความทรงจำในอดีตที่อธิษฐานไว้ ที่เราอยากจะรู้ ก็จะผุดขึ้นมา
สติต้องมีความฉับไว้ในการบันทึกข้อมูลสัญญาความจำเก่าที่ผุดขึ้น
เพราะสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น ตั้งอยู่เพียงชั่วขณะ และดับไปอย่างรวดเร็ว
ดั่งคำโบราณของครูบาอาจารย์ที่ว่า"ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น"
เพราะมโนภาพหลังจากนั้นแล้วเป็นการปรุงแต่งของจิตเรา
จิตที่ใช้ในการรักษาโรค ปรับธาตูนั้น เป็นจิตหนัก จิตเชิงพลังงาน
ต้องอยู่ในอารมณ์ของฌาน อารมณ์ของสมาธิ และกสิน
ส่วนจิตที่ใช้ในการดู เพื่อให้รู้ เพื่อให้เห็น นั้นเป็นจิตเบา
คือความว่างในอารมณ์สมาธิ ซึ่งเป็นความว่างภายใน
เหมือนขวดน้ำที่ว่างเปล่า ภายในไม่มีน้ำอยู่ แต่ยังมีรูปทรงของขวดอยู่
ขวดคือสมาธิที่ทรงไว้ ภายในขวดที่ว่างเปล่าไม่มีน้ำคือความว่าง
ส่วนความว่างในอารมณ์วิปัสสนานั้น เป็นความว่างเปล่า
ไม่มีน้ำ ไม่มีขวดน้ำ ดัง่โฉลกธรรมของท่านเหวยหล่างที่กล่าวไว้
"ไม่มีต้นโพธิ์ ไม่มีกระจกเงา" นั้นคือความว่างในอารมณ์วิปัสสนา
ฟื้นสัญญาข้อมูลเก่าได้สำเร็จ บันทึกเสร็จก่อนเที่ยงวัน
ออกไปตลาดเพื่อซื้อไม้มาทำเชิงชายและป้านลม
กลับมาถึงวัดมีญาติโยมมารออยู่เพื่อขอความช่วยเหลือ
สงเคราะห์ญาติโยมเสร็จเวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น.แล้วลงศาลาไปทำวัตรเย็น
กลับขึ้นศาลาเพื่อมาโพสกระทู้บันทึกธรรมตั้งแต่เวลา ๑๙.๔๕ น.
กว่าจะเสร็จครบที่ขาดหายไปก็เวลา ตีสองกว่าของวันใหม่
ลงไปสรงน้ำ เพื่อให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใส แล้วจึงเข้าจำวัตร
นอนภาวนาดูกายจนหลับไป...เอาสติคุมกายไว้ในเวลานอน
เพื่อที่จะไม่ให้ฝันและจิตจะไม่ออกไปท่องเที่ยวในยามที่เราหลับ....
:054:ขอบคุณมิตรสหายทั้งหลายที่ให้กำลังใจมาตลอดเวลา
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-กลุ่มยุทธธรรมสัญจร
๓ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๑๑ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย