แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ชลาพุชะ

หน้า: [1] 2
1
ผ้ายันต์ พ่อรอด สุขแสงจันทร์ เชิญชมครับ
 

2
รูปรอยสักของรุ่นพี่ ที่สักมาจากหลายๆวัด ก็ มารวมกันก็เป็นรอยสักที่สวยครับเชิญผม







    การสักหลายที่ก็ข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ผมขอพูดถึงแต่ข้อดีนะครับ ตามความคิดผม วัดแต่ละวัดสำนักแต่วัด ย่อมมีวิชาเอกแต่ต่างกัน ความสวย ลายเส้นก็ไม่เหมือนกันแล้วแต่คนชอบ แต่มีอย่างหนึ่ง ใกล้เคียงกัน นั้นคือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี สามัคคี เคารพผู้อื่น ไม่ใช้วิชาทำร้ายคนอื่น การมีคุณธรรม อยู่ในศลีในธรรม รู้จักตัวเอง และสอนให้เป็น ลูกผู้ชาย ไม่ใช่แค่เกิดมามีเพศชายครับ ครับ

3
ตะกรุด หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง อยุธยา อย่างที่เห็นเป็นดอกสีดำ พุทธคุณ ด้านคงกระพัน เหนียวสุดยอด
หนุมานหลวง หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม นครปฐม ที่จริง ตามที่เจ้าของเล่าให้ฟังเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ แล้วเอาไปชุบเงิน ผมเห็นว่าสวย เลย ขอมาพุทธตามที่ท่านผู้เป็นเจ้าของเดิมเล่าว่า ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี เรื่องรัก เรื่องเมตตา เรื่องบู๊ อยู่ในตัวนี้หมดเลยชอบครับ

4
        อาจเป็นที่อากาศ ของของที่กินเข้าไป โดนขับเป็นเงื่อทำปฎิกิริยากับ น้ำมัน   ที่สักครับ สบายใจได้ แต่หากมัน คัน หรือ อักเสบมาก ก็ค่อยไปหาหมอครับ
        

ปล.น้ำมันที่สักแต่ละสำนัก จะมีส่วนผสม ต่างกัน บางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ครับ

5
งั้น ผมจัดสร้อยแบบนี้เหมาะสมไหมครับ

6
ใส่เมื่อไหร่ ผมจะ วิ่งล้านช้าง(ลาว)พี่ทันที

7
ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก (โดยสังเขป)

"ท่าน เขมโกภิกขุ” หลวงปู่เกษม หรือ หลวงพ่อเกษม เขมโก ที่เราท่านเคารพบูชา และรำลึกภาวนา ขอบารมีจากท่านช่วยคุ้มครอง ปกป้องจากอันตราย ยามเมื่อเกิดความทุกข์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เพราะบารมี หลวงพ่อที่เพียรเจริญวิปัสสนากรรมฐานด้วยความมานะบากบั่น ยากที่จะมีผู้ปฏิบัติได้เสมือนนั้น สร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นสูงยิ่งนัก" หลวงพ่อเกษมท่านเจริญวิปัสสนาด้วยถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ใช้อำนาจจิต ควบคุมร่างกายเข้าสู่สมาธิภาวนา เบื้องหน้าเชิงตะกอน ท่านไม่ติดรสอาหารเมื่อมีผู้นำมาถวาย แม้อาหาร จะเสียจนราขึ้น ถ้าหลวงพ่อท่านยังมิได้แผ่เมตตา ท่านก็จะรับประเคนบาตรแล้วแผ่เมตตาให้ หลวงพ่อ เป็นผู้มีศีลอันบริสุทธิ์ และเมตตาธรรมสูงส่ง ท่านหมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส และเปี่ยมล้นด้วยบารมี ทุกวันนี้ หลวงพ่อยังเป็นดุจร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นแก่พวกเราทุกคน

        ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง ได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอนของ ครูบาศรีวิชัย ตอนหนึ่งกล่าวว่า ท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่า จะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไป โดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย

        เมื่อปี  พ.ศ.2455  ได้มีครอบครัว เชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปาง หรือเขลางค์นครในอดีต หัวหน้าครอบครัว คือ     เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอ ภรรยาชื่อ เจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ทั้งสองเป็นหลานเจ้าของพ่อบุญวาทย์ วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

        ครอบครัวนี้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่น้ำวัง อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่กินกันมาอย่างมีความสุขในที่สุดเจ้าแม่บัวจ้อนได้ตั้งครรภ์  และพอถึงกำหนดคลอด ตรงกับวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 ค.ศ.1912 เจ้าแม่บัวจ้อนให้กำเนิดทารกเพศชาย เป็นลูกคนแรกของครอบครัว

        ขณะนั้นไม่มีใครทราบกันเลย ตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว บิดามารดาก็ได้ตั้งชื่อทารกนั้น เกษม ณ ลำปาง เพราะเด็กชายเกษม ณ ลำปาง ได้เกิดมาในเชื้อสายของเจ้าทางเหนือ จึงได้รับการยกย่องของคนทั่วไป ทุกคนต่างเรียกกันว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง หลังจากที่ได้คลอดบุตรมาได้ไม่กี่ปี เจ้าแม่บัวจ้อนได้ให้กำเนิดทารกอีกคน แต่เป็นเพศหญิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของ เจ้าเกษม สืบสายเลือด แต่ทว่าเจ้าแม่น้อยคนนี้วาสนาน้อย ได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่มีโอกาสได้รูว่าพี่ชายของเธอคือ ตนบุญ ที่ชาวลำปางรอคอยเป็นสิบ ๆ ปี

        ข้อมูลตรงนี้ คุณพัลลภ ทิพย์วงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่เกษม โดยคุณแม่ของคุณพัลลภ เป็นพี่สาวแท้ ๆของโยมแม่หลวงปู่ ได้ทักท้วงมาว่า ที่แท้จริงแล้ว เจ้าแม่บัวจ้อน ได้ให้กำเนิดทารกน้อยอีกคนหนึ่ง เป็นเพศชาย ชื่อ "สวาสดิ์" และได้เสียชีวิตแต่เล็ก โดยมีหลักฐานใบเกิดเก็บไว้กับญาติใกล้ชิด ระบุชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด คือ เกิดเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ ร.ศ. ๑๓๔ ตรงกับวันพุธ แรม ๗ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๗๗ จึงได้ทักท้วง เพื่อให้ผมแก้ไขข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง จึงต้องขอขอบคุณ คุณพัลลภ ไว้ ณ ที่นี้ (อ.เล็ก  พลูโต - ๓๐  ตุลาคม ๒๕๔๗)

        เมื่อวัยเด็ก เจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนมีลักษณะค่อนข้างเล็กบอบบาง ผิวขาวแต่ดูเข้มแข็ง คล่องแคล่ว และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เป็นเด็กที่ชอบซน คืออยากรู้อยากเห็น เมื่อถึงวัยเรียน เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้รับการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ อ.เมือง  จ.ลำปาง สมัยนั้นเปิดเรียนชั้นสูงสุดแค่ชั้นประถมปีที่ 5 เท่านั้น เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้ศึกษาจนจบชั้นสูงของโรงเรียน คือชั้นประถมปีที่ 5 ใน พ.ศ.2466 ขณะนั้นอายุ 11 ปี

        เมื่อออกจากโรงเรียนก็ไม่ได้เรียน อยู่บ้าน 2 ปี ใน พ.ศ.2468 อายุขณะนั้นได้ 13 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยบรรพชาเป็นสามเณร เนื่องในโอกาสบรรพชาหน้าศพ (บวชหน้าไฟ) ของเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว ครั้นบวชได้เพียง 7 วันก็ลาสิกขาออกไป ต่อมาอีก 2 ปี ราว พ.ศ.2470 ขณะนั้นมีอายุ 15 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบุญยืน จ.ลำปาง เมื่อบรรพชาแล้วสามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดบุญยืนนั่นเอง สามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง เรียนทางด้านปริยัติศึกษาธรรมะจนถึง ปี พ.ศ.2474 สามเณรเจ้าเกษม ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ครั้นมีอายุได้ 21 ปี อายุครบที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้แล้ว จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2475 ณ พัทธสีมาวัดบุญยืน โดยมีพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระ ธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอากาสวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระคุณเจ้าท่านพระครูอุตตรวงศ์ธาดา หรือที่ชาวบ้านเหนือรู้จักกันในนาม ครูบาปัญญาลิ้นทอง เจ้าอาวาสวัดหมื่นเทศ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดลำปางในขณะนั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และยังพระเดชพระคุณ ท่านพระธรรมจินดานายก(อุ่นเรือน) เจ้าอาวาสวัดป่าดั๊วเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมโก แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

        หลังจากได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว พระภิกษุเกษม เขมโกก็ได้ศึกษาทางด้านภาษาบาลี ซึ่งเป็นการศึกษาปริยัติอีกแขนงหนึ่ง ที่สำนักวัดศรีล้อม สมัยนั้นก็มีอาจารย์หลายรูป เช่น มหาตาคำ พระมหามงคล เป็นครูผู้สอน และยังได้ไปศึกษาที่สำนักวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งมีพระมหามั่ว พรหมวงศ์ และพระมหาโกวิทย์ โกวิทญาโน เป็นครูสอน

        ในเวลาเดียวกันนั้น พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก ก็ได้ไปศึกษาทางด้านปริยัติ ในแผนกนักธรรมต่อที่สำนักวัดเชียงราย ครูผู้สอนคือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระเทพวิสุทธิโสภณ  ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดลำปางสมัยนั้น  ปรากฎว่าพระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในปี พ.ศ.2479 ส่วนทางด้านการศึกษาบาลีนั้น ท่านเรียนรู้จนสามารถเขียนและแปลได้เป็น (มคธ) เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ยอมสอบเอาวุฒิ จนครูบาอาจารย์ทุกองค์ต่างเข้าใจว่า พระภิกษุเกษม เขมโก ไม่ต้องการมีสมณศักดิ์สูง ๆ เรียนเพื่อจะนำเอาวิชาความรู้มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาเท่านั้น

        เมื่อสำเร็จทางด้านปริยัติพอควรแล้ว สามารถนำไปปฏิบัติได้โดยไม่หลงทาง ท่านจึงหันมาปฏิบัติต่อไปจนแตกฉาน แค่นั้นยังไม่พอ พระภิกษุเกษม เขมโก ได้เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ จนกระทั่งได้ทราบข่าวภิกษุรูปหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนา ภิกษุรูปนี้ คือ ครูบาแก่น  สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูป่อง

            ครูบาแก่น สุมโน เป็นพระภิกษุสายวิปัสสนา ถือธุดงค์เป็นวัตร หรือที่เรียกกันว่า พระป่า หรือภาษา ทางการเรียกว่า พระภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ตอนนั้นครูบาแก่น ท่านได้ธุดงค์แสวงหาความวิเวกทั่วไป ยึดถือป่าเป็นที่บำเพ็ญเพียร นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนาแล้ว ท่านยังเก่งรอบรู้ในด้านพระธรรมวินัยอย่างแตกฉานอีกด้วย

     พระภิกษุเกษม เขมโก จึงเดินทางไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ และได้อธิบายความต้องการที่จะศึกษาในด้านวิปัสสนาให้ครูบาแก่นฟัง ครูบาแก่น สุมโน เห็นความตั้งใจจริงของภิกษุเกษม เขมโก ท่านจึงรับไว้เป็นศิษย์ และได้นำภิกษุเกษม เขมโก ออกท่องธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวก และบำเพ็ญเพียรตามป่าลึกตามที่ภิกษุเกษม เขมโก ต้องการ จึงถือได้ว่า ครูบาแก่น สุมโน รูปนี้เป็นอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานรูปแรกของ พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก

        ดังนั้น พระภิกษุเกษม เขมโก จึงได้เริ่มก้าวไปสัมผัสชีวิตของภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ประกอบกับจิตของท่านโน้มเอียงมาทางสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เป็นเรื่องลำบากสำหรับในการไปธุดงค์ กลับเป็นการได้พบความสงบสุขโดยแท้จริง กับความเงียบสงบ ซ้ำยังได้ดื่มด่ำกับรสพระธรรมอันบังเกิดท่ามกลางความวิเวก พระภิกษุเกษม เขมโก จึงมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง โดยมีครูบาแก่นแนะอุบายธรรมอย่างใกล้ชิด ระหว่างท่องธุดงค์แสวงหาความวิเวกในที่สงัดตามป่าเขาและป่าช้าต่าง ๆ การฉันอาหารในบาตร คือ อาหารหวานคาวรวมกัน เรียกว่า ฉันเอกา ไม่รวมอาสนะกับสงฆ์อื่น ฉันมื้อเดียว ช่วงบ่ายก็จะเดินจงกรม เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ พร้อมกำหนดจิตจนกระทั่งถึงเย็น เมื่อเสร็จจากการเดินจงกรม ก็กลับมานั่งบำเพ็ญภาวนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงประมาณ 5 ทุ่ม เสร็จจากการบำเพ็ญภาวนาก็สวดมนต์ทำวัตรเย็น ในตอนดึกก่อนจำวัดท่านก็ไม่นอนเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ท่านจะหมอบเท่านั้น และท่านจะทำเป็นกิจวัตร คือการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แผ่เมตตาไปให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย

        จนกระทั่งถึงช่วงเข้าพรรษา ที่พระภิกษุจำเป็นต้องยุติการท่องธุดงค์ชั่วคราว ต้องอยู่กับที่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง จะเป็นวัดอาราม หรือถือเอาป่าช้าเป็นวัด โดยกำหนดเขตเอาตามพุทธบัญญัติ ดังนั้นภิกษุเจ้าเกษม เขมโก จึงต้องแยกทางกับอาจารย์ คือ ครูบาแก่น ตั้งแต่นั้นมาภิกษุเจ้าเกษม เขมโก กลับมาจำพรรษาที่วัดบุญยืนตามเดิม พอครบกำหนดออกพรรษาภิกษุเกษม เขมโก ก็ติดตามอาจารย์ของท่าน คือครูบาแก่น ออกธุดงค์บำเพ็ญภาวนา ท่านถือปฏิบัติเช่นนี้เรื่อยมา

        ต่อมาเจ้าอธิการคำเหมย เจ้าอาวาสวัดบุญยืนถึงแก่มรณภาพลง ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนว่าง ทางคณะสงฆ์จึงต้องเลือกภิกษุที่มีคุณสมบัติมาปกครองดูแลวัด เพื่อเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไป คณะสงฆ์จึงได้ประชุมกันและต่างลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะเป็นภิกษุเกษม เขมโก เพราะเป็นพระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อท่านได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ท่านก็ไม่ยินดียินร้าย แต่ท่านก็ห่วงทางวัด เพราะท่านเคยจำวัดนี้ ท่านก็เห็นว่าบัดนี้ทางวัดบุญยืนมีภารกิจต้องดูแล ก็ถือว่าเป็นภารกิจทางศาสนาเพราะท่านเองต้องการให้พระศาสนานี้ดำรงอยู่ จึงไม่อาจจะดูดายภารกิจนี้ได้ จึงยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน

        ครูบาเจ้าเกษม เขมโก อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.2492 ท่านก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ทำหนังสือลาออกกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าพระอินทรวิชาจารย์ (ท่านเจ้าคุณอิน อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) แต่ก็ถูกท่านเจ้าคุณยับยั้งไว้ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก จึงจำใจกลับไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืนอีกระยะหนึ่งนานถึง 6 ปี ท่านคิดว่าควรจะหาภิกษุที่มีคุณสมบัติมาแทนท่าน เพราะท่านอยากจะออกธุดงค์ ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจสละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน โดยยื่นใบลากับคณะสงฆ์ในเขตปกครอง ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงเดินทางไปลาออกกับเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งอยู่ที่วัดเชียงราย แต่ท่านเจ้าคณะจังหวัดก็ไม่อนุญาต

        เรื่องการลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสของครูบาเจ้าเกษม เขมโก นี้ดูค่อนข้างจะเป็นเรื่องแปลกพิสดาร แม้แต่การสละตำแหน่งลาภยศ ท่านยังต้องประสบกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา ไม่เหมือนกับพระองค์อื่น ๆ ที่ฟันฝ่าเพื่อแสวงหาลาภยศ เมื่อท่านลาออกไม่สำเร็จประมาณปี พ.ศ.2492 ก่อนเข้าพรรษาในปีนั้น หลวงพ่อก็หนีออกจากวัดบุญยืนก่อนเข้าพรรษา เพียงวันเดียวโดยไม่มีใครรู้ พอเช้าวันรุ่งขึ้นเข้าพรรษา หมู่ศรัทธาก็นำอาหารมาเตรียมถวายในวิหาร ทุกคนรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นหลวงพ่อเกษม จึงเกิดความวุ่นวายเที่ยวตามหาตามกุฏิก็ไม่พบหลวงพ่อเกษม พอมาที่ศาลาทุกคนเห็นกระดาษวางบนธรรมาสน์ เป็นข้อความที่หลวงพ่อเกษมเขียน ลาศรัทธาชาวบ้านยาวถึง 2 หน้ากระดาษ

        ข้อความบางตอนที่จำได้มีอยู่ว่า ทุกอย่างเราสอนดีแล้ว อย่าได้คิดไปตามเรา เพราะเราสละแล้วการเป็นเจ้าอาวาส เปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบภาระหลายอย่าง ไม่เหมาะสมกับเรา เราต้องการความวิเวกจะไม่ขอกลับมาอีก แต่พวกชาวบ้านก็ไม่ละความพยายาม เพราะชาวบ้านเหล่านี้ศรัทธาในตัวหลวงพ่อพอรู้ว่าหลวงพ่ออยู่ที่ไหนเมื่อรวมกันได้ 40-50 คน ก็ออกเดินทางไปตามหาหลวงพ่อเกษม และไปพบหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน หลวงพ่อเกษมได้ปฏิบัติธรรมที่นั่น พวกชาวบ้านได้อ้อนวอนหลวงพ่อขอให้กลับวัด บางคนร้องไห้เพราะศรัทธาในตัวหลวงพ่อมาก แต่หลวงพ่อเกษมท่านก็นิ่งไม่พูดไม่ตอบ จนพวกชาวบ้านต้องยอมแพ้ ตลอดพรรษาปี 2492 หลวงพ่อเกษมท่านก็อยู่ที่ศาลาวังทานโดยไม่ยอมกลับวัดบุญยืน

        พวกชาวบ้านจึงพากันเข้าไปพบโยมแม่ของหลวงพ่อ โยมแม่รักหลวงพ่อเกษมมาก เพราะท่านมีลูกชายคนเดียว จึงให้คนพาไปหาหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน โดยมี (เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง) ตอนนั้นยังบวชเป็นสามเณรอยู่ โยมแม่ได้ขอร้องให้หลวงพ่อเกษมกลับวัด แต่หลวงพ่อกลับบอกโยมแม่ว่า

        แม่เฮาบ่เอาแล้ว เฮาบ่เหมาะสมกับวัด เฮาชอบความวิเวก เฮาขออยู่อย่างวิเวกต่อไป เฮาจะไปอยู่ที่ป่าเหี้ยว แม่อาง จนทำให้โยมแม่หมดปัญญา ไม่รู้จะขอร้องยังไง ผลที่สุดก็ต้องตามใจหลวงพ่อ วันรุ่งขึ้นหลวงพ่อเกษมก็ออกจากศาลาวังทานเดินทางไปบ้านแม่อางด้วยเท้าเปล่า เช้ามืดไปถึงป่าเหี้ยวแม่อางก็ค่ำพอดี ฝ่ายโยมมารดาพอกลับมาบ้านก็เกิดคิดถึงพระลูกชาย เพราะเกรงว่าพระลูกชายจะลำบากจึงออกจากบ้านไปตามหาพระลูกชาย โดยมีคนติดตามไปด้วยชื่อ โกเกตุ โยมแม่สั่งให้โกเกตุขนของสัมภาระเพื่อจะไปอยู่บนดอย ของที่เหลือในร้านเพชรพลอยแจกให้ชาวบ้านจนหมดเกลี้ยง ไม่เอาอะไรเลย นอกจากของใช้ที่จำเป็นบางอย่างเท่านั้น

        เกตุ พงษ์พันธุ์ ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดก็พาโยมแม่ไปส่งที่แม่อาง และพวกชาวบ้านเห็นโยมแม่ของหลวงพ่อมาก็สร้างตูบกระท่อมอยู่ข้างวัดแม่อาง ส่วนหลวงพ่อเข้าบำเพ็ญภาวนาในป่าช้าบนดอยแม่อาง บำเพ็ญภาวนาบารมีวิปัสสนาปฏิบัติธรรมได้หนึ่งพรรษา ทิ้งให้โยมแม่ซึ่งอยู่กระท่อมตีนดอยก็คิดถึงพระลูกชาย โดยแม่ก็ตามไปหาที่ป่าช้าข้างเนินดอย ก็มีชาวบ้านแถวนั้นอาสาสร้างตูบกระท่อมให้โยมแม่พักใกล้ ๆ ที่หลวงพ่อปฏิบัติ ธรรม โดยมแม่บัวจ้อนได้พำนักที่ข้างเนินดอยได้พักหนึ่ง ก็ล้มป่วยลงด้วยโรคไข้ป่า ชาวบ้านก็ไปตามหมอทหารมาฉีดยารักษาให้ แต่โยมแม่ท่านมีสติที่เข้มแข็ง และยังได้สั่งเสียเณรเวทย์ว่ามีเงินซาวเอ็ดบาท ให้เก็บไว้ถ้าโยมแม่ตายให้เณรไปบอกลุงมา เมื่อสั่งเสร็จโยมแม่ก็หลับตา เณรเวทย์ก็ไปบอกหลวงพ่อเกษม หลวงพ่อก็มา ท่านได้นั่งดูอาการของโยมแม่ท่านนั่งสวดมนต์ เป็นที่น่าแปลกใจขณะที่หลวงพ่อสวดมนต์ มีผึ้งบินมาวนเวียนตอมไปตอมมาสักครู่ใหญ่ ๆ โยมแม่ก็ถอดจิตอย่างสงบ นัยน์ตาหลวงพ่อเกษมมีน้ำตาค่อย ๆ ไหลขณะที่ท่านแผ่บุญกุศลให้กับโยมแม่ ท่านยังเอ่ยว่า “แหม เฮาว่า เฮาจะบ่ไห้(ร้องไห้) แล้วนา…”

        ศพของโยมแม่บัวจ้อน มีเณรเวทย์และชาวบ้านได้มาช่วยจัดการจนเสร็จพิธี ชาวบ้านช่วยเป็นเงินในสมัยนั้นได้ 700 บาท ถือว่ามาก ศพของโยมแม่บัวจ้อนเผาที่ป่าช้าแม่อาง หลังจากที่เสร็จพิธีงานศพโยมแม่จ้อนแล้ว หลวงพ่อก็สั่งเณรเวทย์ให้กลับไปเรียนธรรมที่วัดบุญยืน อยู่มาไม่นานหลวงพ่อก็จากป่าช้าแม่อางกลับมาบำเพ็ญภาวนาที่ป่าช้าศาลาวังทานอีก เพียงหนึ่งพรรษาท่านก็เดินทางไปอยู่ที่ป่าช้านาป้อ และกลับมาอยู่ประตูม้า ซึ่งก็คือ สุสานไตรลักษณ์ ในปัจจุบัน

        หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านได้ปฏิบัติธรรมจนเป็นพระที่ขาวสะอาด และเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วประเทศ ศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระไม่ติดยึดใคร ต้องการอะไร ขออะไร ไม่เคยปฏิเสธ จนสังขารของท่านดูแล้วไม่แข็งแรง แต่จิตของหลวงพ่อแข็งแรง และท้ายที่สุด หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ละสังขาร ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2  ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่ศานุศิษย์ทั่วประเทศ…

                                  
………………………………………………
[/size]
ที่มาhttp://www.usagreencardthai.com/kasem.php

8
แม่ให้มาดีใจมากครับจ้องมานานแล้ว เป็นหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น 2 ปี 26 วัดนางเหลียว จังหวัดลำปาง หากเป็นรุ่น1 น่าจะเป็นปี 14 ใครมีรุ่นนั้นบ้างอยากเห็น แม่ว่าคล้ายๆกัน ช่วยโพสด้วยครับ

9
สิ่งที่ท่านเจ้าของกระทู้ทำ จัดเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องคิดมากครับ การดื่มเหล้าสังสรรค์บ้างคงไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งการทำงานบางครั้งการสร้างยอดอาจต้องพูดเกินจริง แต่ ทั้ง 2 ข้อที่ทำจะเกิดผลตามมานะ ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาจริงๆ ดื่มเหล้า อาจโดนข้อหาเมาแล้วขับหรือขาดสติผิดศีลข้ออื่นๆได้เพราะเมาก็จะขาดสติ อย่างพูดเกินจริงแล้วลูกค้าซื้อของ หากมันเกินในระดับรับได้ก็คงไม่เป็นไร แต่ ลูกค้าบางคนคำพูดสำคัญอาจเกิดความเสียหายตามมาจนไม่เป็นลูกค้ากับคุณตลอดไป ทางบริษัทที่ทำงาน อาจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่คุณไม่ชอบก็ได้
การเคร่งครัดทำตามกฎเป็นสิ่งดี แต่ต้องดูการอยู่ร่วมสังคมด้วย หากเราไม่สังสรรค์กับใครเลย แล้วเราจะอยู่ร่วมกับเพื่อนยังไง แต่อย่าตามเค้ามากไปจนเกิน ความเป็นตัวท่าน
หากเราไม่พูดเกินจริงหรือสร้างภาพโดยคำพูดโอเวอร์ แล้วไม่มียอด แล้วท่านจะอยู่ในงานยังไง เซลล์ขายใสๆ มีอะไรบอกหมด ก็คิดดูนะว่ายอดล่ะ แต่โกหกจนเกินงาม  รับผลที่ตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ของดีหากเสือมง่ายจะเรียกของดีรึท่าน หากท่านรู้สึกว่ามันเสื่อมก็ไปลงใหม่เค้าก็ทำกันทั่ว จงมองความจริงกันนะครับ ขอบคุณ
                  ตอบจากประสบการณ์จริงอาจทิ่มแทงใจพวกมือถือสากปากถือศีลบ้างต้องขออภัย
                                                                                                                       ชลาพุชะ

10
ขอบคุณมากครับ................. ครั้งตอบไปจะได้เก็บลงตลับได้ถูกครับ

11
         กระผมได้รับเมตตา มาจากหลวงพี่ท่านหนึ่ง เป็นพระสมเด็จพิมพ์นิยม ชุดใหญ่ ได้ ดี ของวัดบางพระ ซึ่ง ในตลับเขียน ว่า พิมพ์ประธานใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ แต่ผมดูยังไงก็แยกทั้ง 3 องค์ไม่ออกครับ ขอพี่น้องช่วยอธิบายด้วยครับ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่กระผม และ ผู้ไม่รู้คนอื่นๆ

----------------


----------------


----------------


ขอรบกวนด้วยนะครับ

12
      ขอนำรูปมาให้ชมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ ไม่โพสมานานแล้ว น้องคนนี้ทนเอาเรื่องเลย สักบทกระทู้เจ็ดแบกเป็นแถวรอบสะดือ เจ็บเอาเรื่องเลย ชมความตั้งใจน้องเค้า





ต้องขออภัยใช้กล้องมือถือความชัดเลยไม่มากครับ

14
ท่านครับ ผมว่า มีคนเอ่ยถึงหลวงพี่ทุกๆรูปพอกัน ผมก็เป็นคนนึงที่ได้รับเมตตาจากท่าน และผมสักแรกกับหลวงพี่ด้วย ผมเห็นท่านก็สักทุกลายนะครับ ตั้งแต่ยันต์ครู เก้ายอด พุดซ้อน แม่ทัพ เสือ หมี จรเข้ เจ็ดยอด ไปที่ไรก็ได้หลายยันต์ไม่เคยซ้ำ แต่ต้องกวาดรอบโบสถ์ก่อนนะครับ ของดีอยู่ตรงนี้บำเพ็ญประโยชน์ก่อนได้รับของดี

15
หากเป็นพระที่หลวงพ่อไม่ได้สร้างแต่ มีรูปและชื่อของหลวงพ่อ ผมว่าให้เก็บไว้เถิดครับ แท้ไม่แท้แต่มีรูปครูบาอาจารย์

17
ส่วนผมและภรรยาไปลอยที่โรงเรียนพิบูล แถวดินแดง และได้ดูวงเสียงอีสานด้วย :004: :004: :004:

18
เคยเห็นกับตาว่า หลวงพี่แป๋วสักให้ศิษย์ตรงแขนครับ

20
ไหว้ครูปีหน้าคงได้เห็นของจริงนะครับ
ปล.ชอบสายเซ็นต์ น้องกวางมากๆ ได้ใจจริงๆ

21
ยินดีด้วยนะครับได้ขอดีมาอยู่กับตัว

22
อนุรักษ์ลายสักยันต์ไทย บนผิวหนังคนไทย อยู่คู่คนไทยตลอดไป...เยี่ยมไปเลย!

ปล. ไม่ชอบบุรุษนิสัยสตรีที่ชอบด่าพระ ด่าครูบาอาจารย์เลย... ตายไปมันต้องตกนรกอเวจี แทนสวรรค์ชั้น 7...
เอ พี่สาว น้องงง มีอะไรกันนี้ แบบตามไม่ทัน

23
ก็มีของดีเยอะๆอยู่กับตัวก็ต้องดีสิครับ

24
ท่านครับ มันคงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นเป็นแน่ครับ เอาจริงเลยนะท่านเมาอ้วกที่ชักโครกก็ผิดแล้วนะครับ การเป็นปอบไม่ได้เป็นกันง่ายเหมือนหวัด 2009 นะครับตามที่รู้มา ก็มีต้องเลี้ยงปอบแล้วเอาไม่อยู่เลยเข้าตัว เจ้าของเลี้ยงไม่ดี ปอบเลยออกไปหากินโดยสิงกินชาวบ้าน มันก็ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ แต่เรื่องผิดกฎข้อสาริกานี่ไม่เคยรู้จริงครับ

25
แดงเก นี่ หลวงพ่อ ท่านใดเมตตามาให้ครับ  :074:
อาจารย์ประโยชน์ดินแดงครับ

พี่ครับ ใช่รูปของพี่หรือเปล่าครับ  เห็นเหมือนในนี้เลยอ่ะครับ 

ที่มา
http://www.tumnansakyun.com/webboard/index.php?PHPSESSID=17fbbb9802ca40d916169ffadd2d005e&topic=113.0
ไม่รู้ว่าท่านไหนเอาไปลงครับ แต่ก็เพื่อเป็นการอนุรักษ์ลายสักแบบไทยครับไม่คิดมาก
จูงนางง อยากได้จัง :095: ของที่ไหนหรอครับ แปลกตาดี
จูงนางหลวงพี่ตูนท่านเมตตาให้มาครับ

26
       ๑ ปีที่เข้าสู่ศาตร์นี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้จักตัวเองและรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมอยากอนุรักษ์การสักยันต์และอยากเห็นการสักยันต์อยู่คู่กับคนไทยตลอดไป
      
       ๑ ปีของการที่ได้เป็นศิษย์วัดบางพระได้รับความรู้ และ มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตมากมาย และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร บางทีก็อาจทำอะไรในสิ่งที่ผิดทั้งเรื่องใหญ่ และ เล็ก แต่รับรู้ได้สิ่งหนึ่ง ถึงคำว่า อาจารย์ กับ ศิษย์ ยอมรับเลยว่า ไม่สามรถเขียนออกมาเป็นคำพูดได้ครอบคลุมคงพูดได้ว่า

ชลาพุชะ บูชาครูบาอาจารย์ไว้เหนือหัวตลอดมา ขอกราบนมัสการทุกๆพระอาจารย์และกราบขอบคุณอาจารย์ทุกๆท่านที่ประสิทธิประสาทวิชา มอบของดีไว้คุ้มกาย ครับ
       
       ๑.ขอบคุณการต้อนรับที่ดี ของพี่น้องชาวเว็บ ความรู้ที่ท่านให้เป็นวิทยาทานแก่ผมจริงๆ ขอบคุณครับ

27
อาจารย์ประโยชน์ดินแดง



สาริกา



ห้าแถวสักที่หัวไหล่

อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช



เสือสมิง



ราหูทั้ง อมตะวันและอมพระจันทร์



พ่อแก่หน้าวัวเดินดง



หัวใจขุนแผน



นะรึชา

28
นานๆน้องมาทีมันเกิดอะไรขึ้นครับ ตามไม่ทันเลย แต่ก็ ข้อความดี จะเอาไปปรับให้เข้ากับชีวิตนะพี่สาว

29
อาจารย์อั้น



แม่พิมพ์ สักที่วัดท้องไทร
อาจารย์หนวด





ข้อศอกทั้ง 2 ข้าง

อาจารย์เอ ตำหนักวิวานทิพย์



ท้าวเวชสุวรรณ



พ่อแก่หน้าเสือ



เศียรพ่อแก่นารอด



6แถว

วัดสว่างอารมณ์



ตาข่ายเพชร


อาจารย์เม้งขุนแผน



ยันต์น้ำเต้าครูโป้งเมตตาสักให้

อาจารย์ประโยชน์ดินแดง



พระรามแผงศร



จิ้งจกล้อม



พญาหมี



แดงเก

30
สวยและสุดยอดมากเลยครับพี่ชายเรา
แต่เอ๊ะ ไหนว่าจะขึ้นมาเชียงใหม่ล่ะครับ
จะมาเมื่อไหร่อย่าลืมโทรมาหากันนะครับ
ว่าจะไปอยู่ครับ ตอนนี้ยังหาเวลาไปไม่ได้ คงไปก่อนหมดหนาวต้นปีหน้าครับ
ต่อนะครับ
หลวงพี่นัน



พุทธซ้อน





ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ

หลวงพี่ตูน



บัวบังใบ



เศียรพ่อแก่



จูงนาง(น้อยใจที่ได้จูงแค่คนเดียวแต่ก็แรง )



หน้าเสือ ลายนี้หลวงพี่ตูนสักให้วันไหว้ครูปีนี้ครับ

พ่อทองตลาดพลู



ยันต์ครูพ่อทองครับ



ยันต์นี้ไม่ทราบชื่อ สักสีข้าง ได้น้ำตาเลย

พ่อป่อง(พ่อเที่ยง)[/u]



อาจารย์ต้อยวัดกำพร้า



องคต ตรงสีข้างครับ



พ่อแก่เดินดงครับ



หนุมานอมพลับพลา



ยันต์ตะกร้อ




หงษ์คู่
อาจารย์ณรงค์ สำนักอยู่ที่ ซอยสวนผัก50 สายพ่อทองตลาดพลู





อาจารย์ถึงคงทน



นะตรงข้อมือ
[
img]http://img385.imageshack.us/img385/9676/200909120.jpg[/img]

สามจุด



ไม่รู้ว่าท่านสักอะไรให้แต่ต้องเป็นของดีแน่นอนเจ็บเอาการเลยบนหัว ทั้ง3 ที่ลูกศิษย์อาจารย์ถึงต้องมีทุกคน



ยันต์นี้บริเวณก้นกก



พระลักษณ์หน้าทองต้องขอบคุณท่านเปรี้ยวที่ช่วยส่งที่อยู่มาให้ขอบคุณครับ

อาจารย์พล พยัคราช

มีต่ออีกนะครับกลัวหลุดเลย ส่งก่อน

31
        ชลาพุชะ อยากสักยันต์มานานแล้วตั้งแต่เด็ก เห็นตามตัวของตาและปู่ แต่แม่ไม่ให้สัก พ่อโตหน่อยเรียนจบมีแฟน แฟนก็ไม่ให้สัก ว่าจะไปสักน้ำมัน ก็ ไหนๆก็ไหนแล้ว สักหมึกดีกว่า รอจังหวะให้ดีๆ จนอายุ 30 ปี เอาไงก็เอา ลองขอแม่ดู แม่ก็อนุญาตแบบ ไม่เต็มใจ ขอแฟนซึ่งอยู่กัน มาหลายปีแล้ว เค้าคงสงสาร ไปก็ได้แต่อย่าสักพวกสายเสน่ห์นะ รับปากในวันนั้น(วันนั้นวันเดียว)16 ตุลาคม 2551 ตรงไปวัดบางพระครับ มีพี่ชายที่ทำงานใกล้ๆกันไปด้วยครั้งแรกเข้า
กุฏิหลวงพี่แป๋ว ยกพานเสร็จ หลวงพี่ทานให้ไปกวาดรอบโบสถ์ ตามนั้นครับไปก็ไปครับ รีบกวาดรีบเสร็จ นั่งรอพักใหญ่ ก็ถึงเวลาเพล อ้าวรอยาวอีกแล้วงานนี้ ไม่เป็นไรของดี กว่าถึงคิวก็ได้นั่งใกล้หลวงพี่ หลวงพี่ก็ถามว่ามาจากไหน มากับ ใคร ทำงานอะไร แล้วก็ให้ถอดเสื้อ หลวงพี่ว่าน้ำมันใช่ไหม ผมตอบหมึกครับ หลวงพี่ยิ้มแล้วว่าเจ็บนะ เจ็บก็เอา หลวงพี่ท่านก็เมตตา สักเก้ายอดให้ สมใจเลยครับงานนี้


สักเสร็จ ก็15.00 น. คุยกับพี่ที่พาไป ทำไงดี ยังไม่สมใจอยากได้เยอะๆ พี่ก็พาไป
กุฏิพระมหาสมชายครับ ครั้งนี้ ขอท่านเลย ว่าขอเต็มหลัง หลวงพี่ว่ากลัวทนไม่ไหว แต่ผมบอกงานที่ผมทำลาไม่ได้ครับ เป็นงานต้องรักษาความปลอดภัยในการทำงาน ก็เล่า ให้ท่านฟังท่านว่า ทนไหวก็ลองดู คนไม่เคยกลัวหักโหมแบบนี้กลัวพรุ่งนี้จะป่วยเอา ผมรีบกราบแล้วรีบไปสักที่ชั้น2 วั้นนั้นที่กุฏิท่านมหาสมชาย เป็นฆารวาสสักให้ ก็ มี 3 ท่าน ยันต์ที่สัก ก็มี




งบน้ำอ้อย

C:\Documents and Settings\COM10\Desktop\รอยสัก\พระอาจารย์สมชาย\2009_09110082.JPG

แม่ทัพ



พุทธซ้อน



แปดทิศ



หนุมานและเสือคู่

ในวันนั้นผมก็สามารถทนได้เท่านี้สักเสร็จให้ท่านพระอาจารย์มหาสมชายเป่าแทบเป็นลม กลับบ้าน 21.30 น.ตอนเช้า ตื่นขึ้นมา มาอยู่ในโรงพยาบาลมหาชัย มีแฟนนั่งตาแต่อยู่ ตามที่แฟนเล่าให้ฟัง ผมแหกปากร้องกลางดึกวิ่งทั่วห้อง แฟนตกใจโทรเรียกคนงานช่วยกันจับ อยู่พักใหญ่ แล้วก็ส่งโรงบาล มหาชัย ผมก็หัวเราะๆแล้วว่าจะเป็นไปได้ไง หมอเจ้าของไข้ลงความเห็นว่าเป็นผลกระทบจากการสักและจิตใจ คิดถึงการสักเยอะไปหน่อย แล้วให้น้ำเกลือนี้คือวันแรกครับ ต่อไปคงเรียงลำดับไม่ไหวแต่ขอเสนอรอยสักของพระอาจารย์ และ อาจารย์แต่ละท่านก็แล้วกันนะครับ

หลวงพี่ญา



เสือตีนโต



จิ้งจก



สาริกา



เกราะเพชร ยันต์นี้ผมขอเลิกเหล้าตลอดชีวิตถวายหลวงพี่ญาครับ



กวางเหลียว ยันต์กลับบ้านแฟนเห็นไปบ้านแทบแตก แต่ก็เคลียได้ของแรงจริงๆ



ลิงแต่ไม่รู้ชื่อเต็มว่าอะไรครับ



สิงห์


หลวงพี่ต้อย





จิ้งจก





ที่เหลือไม่แน่ใจว่าเป็นยันต์อะไร แต่เป็นของดีที่หลวงพี่เมตตาครับ
ยังมีต่ออีกนะครับขอตัวไปทำงานก่อน วันนี้เย็นๆจะม่ลงต่อครับ

32
น่าจะมีรูปประกอบนะพี่สาว  ขอบคุณข้อมูลครับ

33
ท่านสายัณ รู้ใจผมจังครับ :004:งานนี้รู้ทันครับ :002:

34
          กราบนมัสการครับหลวงพี่ได้อ่านอะไรดีๆก่อนไปทำงานประเทืองปัญญาครับ กราบขอบคุณครับ
       เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมยังเคยนำพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น1ไปปล่อยที่ท่าพระจันทร์ 5000 บาทอยู่เลยครับ ในตอนนั้น ว้าวทำไมมันเยอะอย่างนี้ เด็ก ปวชปี 2 มีเงิน ครึ่งหมื่นฮ่าๆๆๆๆ แม่ไม่รู้ จนถึงทุกวันนี้ ว่า ที่ในลิ้นชักแม่ลูกชายได้ขโมยพระที่แม่จะให้ตอนเป็นบวชไปขายแล้วตอนแรกแค่เอาพระไปเช็ค ว่าเป็น รุ่น1 หรือ 4 แต่กลับเจอคำหว่านล้อมของเซียนท่าพระจันทร์ที่ว่า ขอช่วยน้องนะ พี่ต้องทำใจเลย รุ่นนี้เค้าไม่ค่อยเล่น 5000 นี่ไปที่ไหนไม่ได้ราคานี้แล้วตอนนี้มาราคานี้ อนาคตอาจลงนะพี่อยากเก็บไว้พอดี ของแบบนี้ทำมาทุกปี ผมยังจำหน้าเซียนพระนั้นได้อยู่เลยหลังจากนั้น ก็เริ่มซื้อหนังสือพระมาดู พอดูราคาที่เค้าเล่นกันในตอนนั้น  รีบไปหาคนรับซื้อ ใจ จะไปคืนเงิน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ที่จุดเดิม เดินวนยังไงก็หาไม่เจอ ทุกวันนี้หากผ่านไปท่าพระจันทร์ก็จะมองหา ถึงเจอเค้าก็ไม่ได้คืนแน่ๆ ก็อยากได้เห็นหน้า คนที่สอนเราให้รู้ถึงความโง่-โลภเป็นยังไง

35
ใครช่วยแปลที่เถิดครับ บางคำอ่านออก บางคำอ่านไม่ออก เรื่องแปลนี่กลัวผิดครับ ได้โปรด

36
เทพที่รักษาบ้านมีเครื่องบูชาอะไรบ้างครับ
ขอผู้รู้บอกทีครับ 07; 11;

รูปดูไม่ชัดเลยครับ เทพอะไรยังไง ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ถ่ายใหม่ได้ไหมครับ

37
เนื้อเงินด้วย สวยมากเลยครับ

38
กราบนมัสการอาลัย หลวงปู่กาหลง ด้วยความเคารพ ศรัทธายิ่ง
ปล.พี่สาวไปวัดเขาแหลมเมื่อไหร่ไปด้วยนะครับ

39
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: to lemon
« เมื่อ: 17 ก.ย. 2552, 01:23:49 »
อ่ะนะลุงต้อ.. ลากหนูไปกะลุงด้วย ไม่ช่วยซักกะบาทค่ะ :008:
หากไปไหนมาไหน บอกน้องด้วยนะพี่โชว์

40
        กระผมได้รับเมตตาพระอาจารย์และอาจารย์เกือบทุกรูปทุกท่านสักให้ เข็มสักมีหลายเล่มนะครับ แต่หลังสักทุกครั้งจะทำความสะอาด ด้วยการล้างน้ำแล้วเช็ดแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้งแล้วจะพักเข็มไว้ ตัวผมมั่นใจว่าสะอาด เกือบ 1ปีมาผมก็ตรวจเลือดหลายครั้ง บริจาคเลือด 2 ครั้ง ตรวจเลือดฟรีตอนบริจาคอวัยวะ ก็ผ่านฉลุย  กังวลว่าจะติดโรคจากอย่างอื่นมากกว่าครับ
        
 

41
ใช่หลวงพี่นันรึปล่าวครับ พอดีผมไปสักกับท่านมาครั้งเดียว เลยจำท่านไม่ค่อยได้อ่ะครับ  :049:
หลวงพี่ หนึ่งครับ ปกติท่านจำพรรษาที่วัดห้วยขวาง กระผมเคยยกพานกราบนมัสการเป็นศิษย์เมื่อวันไหว้ครู ปีนี้เองครับ

42
เชื่อว่ามีจริง และ ศรัทธา กราบไหว้ บูชา ครับผม

43
กระทู้นี้ไม่คำบรรยายมีแต่รูปครับ :004: :004: :004:

44
ขอลงรูปต่อนะครับ







ผมชอบที่เอาผ้ายันต์มาเป็นฉากรอบพิธี ยันต์ทุกแบบสวยมาอลังการงานสร้างเหลือหลาย







ขอบคุณที่ติดตามครับ

45
ตั้งนโม 3จบ กะระมะธะ กิริมิธิ กุรุมุธุ เกเรเมเถ เถเกเรเม อะหังนุกา กันหะเนหะ มะอะอุ


ทำใจให้เป็นสมาธิก่อนใช้หรือก่อนท่องจะได้ผลมากๆครับ

46
12.00 น. มีเสียงพี่สาวโทรมาบอกเก็บของไปวัดสุทัศน์ ขนาดตอบว่าขอกินข้าวก่อน พี่ท่านก็ไม่ยอม มากินที่นี้บัดเดี๋ยวนี้ อ่ะไปก็ไปถึงพี่สาวเลี้ยงข้าว พาขึ้นเบ๊นซ์ขับเหมือนรู้ทางพาหลงซะ แหมไปกับเด็กแพร่ด้วย กว่าจะไปถึง666 ไปถึงคนเยอะมาก งานนี้ผมถ่ายรูปยากมากคนเยอะครับและใช้กล้องพี่สาวด้วย กล้องผมถ่านหมดเชิญชมครับ



เข้าสู่พิธีขั้นตอนการครอบครูครับ




ขอตัวไปนอนก่อนนะครับพรุ่งนี้ขะทำการลงรูปเพิ่ม
ปล.พี่สาวช่วยลงข้อมูลด้วยนะงานนี้อะไรเป็นอะไร แต่งานนี้หลวงปู่กาหลงไม่ได้มาครับเสียดายมากๆ

47
อยากรู้ 2 เรื่องมากๆ
1.ไปทำอะไรให้ช้างมันๆถึงได้วิ่งไล่ขนาดนี้
2.หากมันไล่ทันภาพออกจะเป็นไง

48

หลวงพี่ต้อยท่านเมตตามอบให้ครับ เลยเอามาให้ชมครับ

49
นึกออกแล้ว อีกหน่อยชลาพุฯ คงต้องเขียวปื้ดทั้งตัวแบบอาจารย์ประโยชน์ดินแดงแน่ๆ เลย.. แล้วจะไปทำงานได้ไหมเนี่ย? เลยมาถึงแขนแล้วหน่ะ!

Thank You สำหรับภาพข่าว... เสือบนผนัง Art ไม่เบา.. ฝีมือใครคะ?....cho paul smith..

      พี่ครับก็ผมมีตัวอย่างที่ดีอย่างอาจารย์ประโยชน์ เลยต้องเอาอย่างครับ พี่โชวพี่เชื่อไหมผมได้รางวัลแต่งกายไปทำงานได้เรียบร้อย ใส่แขนยาวผูกไททุกวันเลยพี่ครับไม่ต้องห่วงเรื่องงานครับ
      ภาพเสือที่เห็น พระอาจารย์พงษ์ท่านวาดให้ หากกล่าวถึงพระอาจารย์พงษ์ ท่านคือพระอาจารย์ที่อาจารย์ประโยชน์ได้กราบตัวฝากเป็นศิษย์และและอาจารย์ประโยชน์ก็ทำพิธีรับเข็ม ผมก็หาโอกาสไปกราบพระอาจารย์พงษ์อยู่ครับรอหมดฝนก่อน

50
งามมากครับพี่ศักดิ์ดา แต่ภาพไม่ค่อยชัดเลย................ :075: :002:
เหรียญหลวงพ่อคูนปี 17 น่าจะสวยมากนะคะ..เอ.. ไม่สวยหรือเบื่อแล้ว.. มาฝากพี่โชวนะ
อยากชมรายละเอียดของเหรียญให้แจ่มกว่านี้ค่ะ.. อย่ารีบมากจนมือสั่นสิ.. ดูสิ.. น้องปอร์ปาร์พูดแทนแล้ว
..  :008:
ขอลงภาพใหม่นะครับแก้ตัว มือสั่นไปนิดดีใจได้พระ และ ข้าน้อยมือใหม่กำลังพัฒนาฝีมืออยู่ครับ


51
         ปีนี้ลุงพงษ์ให้ของขวัญวันเกิดเป็นพระหลวงพ่อคูณ ไม่ยักรู้ว่าลุงพงษ์สะสมพระทางอีสานด้วย กราบขอบคุณลุงพงษ์ครับ แต่ให้ช้าไปนิดนะครับนึกว่าลืมเสียแล้ว เหรียญนี้ผ่านการใช้งานมาแล้ว เหลี่ยมทองเฉพาะขอบแบบเปิดหน้าหลัง คนโบราณบางท่าน เชื่อว่าเหลี่ยมแบบปิดหมดพระจะออกมาช่วยไม่ได้ ยิ่งกันน้ำหมดสิทธิ์ออกมาช่วยเลย ก็ฟังไว้เพราะผมขอใส่กรอบแบบปิดหมดครับ สะดวกดี  
เพราะผมได้มาเป็นเหรียญเปล่าๆนะครับ ทองไปไหน???!!! คงไม่สนใจอะไร ได้พระก็ดีแล้วครับ



52
ศรัทธา แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน และ ไม่ตรงกัน ผมว่าต่างคนต่างลีลาครับ รูปเลือดๆๆๆว้ายกรี๊ด เป็นลม

53
มาเป็นบทปลุกเสกเลยนะท่านสุวัจชัย

54
     ไปเยี่ยมอาจารย์ประโยชน์ อาจารย์ทาสีสำนักใหม่ด้วย สวยดูสว่างดีครับ  เชิญชมครับ



ไปก็ได้เจอภาพนี้เป็นภาพแรกเลย เสือตีนโตพระอาจารย์พงษ์ยังดุเหมือนเดิม สีสวยดีครับ

 

พี่คนนี้คุ้นๆ



เสือตีนโต คู่เลย สักที่เดียว 2 ทนได้ไง สักไปวันเสาร์ นี้วันจันทร์พี่ท่านจะมาเอาอะไรอีกนะ



หนุมาน สี่กร ที่ท้องด้วย พี่ท่านเยี่ยมมากๆ สุดๆๆ



สักเสร็จไป1



เอาคนต่อไปยกพานเลยครับ ไม่เคยสักยันต์เลย เคยสักแต่กราฟฟิก งั้นต้องขึ้นเก้ายอดก่อน แล้วค่อยคุย จะเอาเสือตัวใหญ่ๆเข้ม ได้สักให้....สักเสือต้องทำใตให้เป็นเสือนะครับ อาจารย์ประโยชน์จะพูดไปสักไปให้กำลังใจตลอด



มาครั้งแรก เก้า ยอด กับเสือ ตัวค่อนหลัง ว้าวๆๆๆ ลูกผู้ชายตัวจริง



ตอนเสกต้องจิกเล็บ



ชลาพุชะ วันนี้ ไม่อยากเจ็บอย่างมีความสุข แต่ขอรบกวนอาจารย์ช่วยเมตตาจารเขี้ยวเสือ ที่ได้ จากจ่าธง(ศิษย์พี่)ครับผม จารเสร็จแล้วกราบขอบคุณ ขอตัวลากลับเลยนะครับ อาจารย์พักผ่อนบ้างนะครับ


ปล.บางคนอาจกลัวที่อาจารย์ประโยชน์สักแรง สักเจ็บ แต่ทุกอย่างขอได้นะครับ สักเบาสักแรงบอกได้นะครับ เดี๋ยวจะว่าผมนำภาพมานำเสนอมีแต่ ลึกๆ เลือดๆ เส้น ใหญ่ เบาๆอาจารย์ก็สักได้นะครับ บอกท่าน ท่านใจดีตามใจลูกศิษย์

55
 :074:เตียงนั้นไปที่ไรนอนทุกที งั้นงานนี้เปลี่ยนเป็นนอนพื้นดีกว่าครับ   

56

บัวบังใบ

จูงนาง สงสัยว่าทำไมคนอื่นหลวงพี่ให้จึง2 ทำไมเราได้จึงคนเดียว 07;

57
ผมเองเคยไปแค่ช่วงตอนเข้าเรียนที่เทคโนพระรามหกปี1 ที่ต้องไปเข้าประพฤติธรรม ที่วัดสวนแก้ว เกิดมาไม่เคยนั่งสมาธินานๆ ยิ่งเดินจงกลมก็ยิ่งไม่เคยใหญ่ แล้วก็แค่เคย จากนั้นไม่เคยอีกเลย 21;

58
ขอบคุณครับ ที่นำภาพมาฝาก แต่ถึงกลับรูดบัตรทำบุญเลยรึพี่ท่าน :073:

59
      
สักตรง น่องเลอครับ โหดเลยนะครับ ขอบคุนที่นำมาให้ชมครับ :114:
 สักที่แขนครับ วันเสาร์ 5 ส่วนใหญ่ ก็ นำวันนี้ มาเป็น วันปลุกเสกเครื่องรางของขลังพระเครื่องกันอยู่แล้ว คงไม่แปลกอะไรที่จะถือเอาวันนี้เป็น ฤกษ์งามยามดี สักยันต์ เพราะรอยสักจะอยู่กับเราไปจนตาย หากเราคิดดีมันก็ดี ควรคิดดีพูดดีทำดี เพื่อมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ไม่หลงกับสิ่งยั่วยุ หลงอะไรที่มันไม่สร้างสรร ชีวิตก็จะดีตาม หากเมื่อก่อนไปทำในสิ่งไม่ดีก็เลิกทำเพื่อจะได้อยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข อย่างแท้จริง

60
          นมัสการครับ พระบวชใหม่กับผีในวัดเป็นของคู่กันครับ อาจมาเพราะหากมาให้พระที่มีพรรษาเยอะๆ พระรูปนั้นคงเฉย แล้ว คิด ปลงถึงการเกิดแก่เจ็บตาย และสวดแผ่เมตตาอคทิศส่วนกุศลให้ แต่หากมาหาพระใหม่ เพื่อเป็นการทดสอบจิต 17;แต่พระเก่งถ่ายรูปออกมาได้น่ากลัวมากๆเลยนะครับ ได้มุมได้อารมณ์มากๆ ไปวัดแต่ล่ะครั้งไม่มีถาพแบบนี้เลย ไปครั้งนี้ ตื่นกลางดึกมาฉี่คนเดียวต้องรีบลุกรีบนอนแล้วครับ  26;

61
        วัน เสาร์ 5 แรม 1 ค่ำ เดือน 10 ที่ผ่านมา เป็นวันแรงที่ในรอบปีจะมีไม่กี่วัน กระผมจึงขอเมตตาจากอาจารย์เหน่งอ่อนนุช ช่วยสักจรเข้ ที่ผมอยากได้มานานแล้วครับ สมใจเลยครั้งนี้

62
กราบนมัสการ และขอน้อมรับไปปฎิบัติครับ

63
ขอให้หลวงปู่หายไวไวนะครับ
                                  ขอบคุณท่านGearmourที่มาแจ้งข่าวครับ

64
วันนี้เห็นของจริงแล้วใหญ่ไปไหมพี่ โชว  15;
ผมว่ามันไม่เหมาะกับคอสาวสวยบอบบางอย่างพี่เลย  :069:
มันเหมาะกับพวกทึกๆอย่างผมเชื่อสิ
 20;

65
       พี่โชวครับ อยากมีน้องเขยเป็นศิษย์ร่วมสำนักหล่ออย่างผมไหม :004: :004: :004:ล้อเล่น ไปไหนครั้งหน้าชวนด้วยนะจะไปถ่ายรูปให้ ไม่เอาค่าตัว ออกค่าเครื่องบิน ค่าหนังสือเดินทางออกค่ารถค่ากินค่าที่พักเท่านั้นล่ะพี่

66
          นมัสการหลวงพี่ครับ อยากไปกราบหลวงพี่ตูนแต่ ช่วงนี้ งานเยอะครับ ผ้ายันต์บัวบังใบที่หลวงพี่ให้มาได้งานทุกที ผมต้องหาเบี้ยแก้ให้เมียห้อยเลย หึงเกินมนุษย์ช่วงนี้ไปไหนมาไหนลำบากครับ

67
ถ้าไม่ยึดติดกับสำนักแนะนำลองหาที่ใกล้ที่สุดครับแถวอ่อนนุช แต่ถ้าแนะนำให้ผมเลือกวัดบางพระหมดหัวใจครับ มีของดีให้ศึกษามากมายครับ เชิญชวนครับผม
หากเป็นย่านอ่อนนุช ก็อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช

68
    ด้วยความเคารพ ท่าน lnwnacub ผมว่าไปบูชาตามวัดง่ายกว่าไหมครับ ที่วัดบางพระ วัดนกก็มี แต่หากเป็นวัดสามง่ามที่ออกทีวีต้องจองรอเกือบสิ้นปี รึ ต้นปีหน้าโน้น หากไปเอาผีที่มีตัวอย่างท่านว่าผมว่าบาปเอาการอยู่ จะได้เกิดอยู่แล้วก็ยังมาโดนฆ่าก่อนได้เกิด ตอนเป็นผีก็จะต้องมาโดนเรียกมาเป็นกุมารอีก สงสารผีตัวนี้จัง

69
แต่ละชิ้นสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ ศิษย์ทางสายอาจารย์ประโยชน์และอาจารย์เหน่งก็รวมตัวกันจะไปกราบท่านอยู่ก็ว่ากัน รอให้หมดฝนก่อน เพราะได้ข่าวเส้นทางโหดเอาการ ขอบคุณที่ท่านเจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลทางพีเอ็มมานะครับ มีโอกาสต้องไปแน่ๆครับ

70

หมาอเมริกันพิบลูเชียวนะท่าน หลายตังห์เลยนะ ผมอยากมีไว้สักตัว แต่ไม่มีตังห์ซื้อครับ  ขอบคุณบทความนะท่าน
 
 

71
ขอบคุณชลาพุชะครับ ประวัติท่านโดยละเอียดเลยครับ แต่ลิงค์แหล่งที่มา ลองดูแล้วไม่มีข้อมูลอ่ะครับ อยากติดตามอ่านต่อครับ เรื่องของหัวใจที่เข้มแข็ง เรื่องของคาถาอาคมที่แข็งกล้า เรื่องของความที่เป็นคนตรงไม่รับสินบนไม่มีการทุจริต เป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ 
คนที่มีคุณความดีในตัว เป็นที่ปรากฏชัดนี่เทวดาคุ้มครองครับ ถึงแม้ท่านจะเจอพวกคนไม่ดีให้ร้าย หรือพูดว่ากล่าวไปในทางที่เสื่อมเสีย มากสักเพียงไร ก็ไม่หวั่นไหวครับ เพชรยังไงก็เป็นเพชรจริงๆครับ
รบกวนของลิงค์แหล่งที่มาด้วยครับอยากติดตามอ่านต่อครับ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A
ที่นี้ไม่ผิดแน่ๆครับลองแล้ว แต่ลิงค์อันแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมครับต้องขออภัยนะครับ

72
นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนที่ 9 ของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยวีรกรรมที่บิดาเคยเล่าให้ฟังว่า โจรหรือเสือร้ายในสมัยก่อนมีพฤติกรรมปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา เช่น ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ หรือ ?เจ้าพ่อเขาบูโด? ทั้งกระสุนปืน คมหอก คมดาบ ที่ตำรวจระดมสาดเข้าใส่ร่างของมัน แต่ทำอะไรมันไม่ได้ พอ กระสุนหมดทั้งคู่ คุณพ่อก็วิ่งไล่จับขุนโจรชื่อก้องได้ด้วยมือเปล่า กระโจนเข้าไปชกต่อยพัลวัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จับเจ้าพ่อเขาบูโดใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกได้ และจากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ยิงใส่ตามลำตัวไม่ถูกมันเลย และที่ยิงบริเวณปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก มันคายหัวกระสุนทั้ง 9 เม็ดลงกลางโต๊ะสอบสวน !!?? นับเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนทุกวันนี้

การสยบขุนโจรแห่งขุนเขาบูโดด้วยมือเปล่า โดยไม่รู้ว่าใช้คาถาอาคมอะไร ทำให้ขุนพันธ์ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนไทยมุสลิม และพวกแขกมลายู (มาเลเซีย) เสียงดังกระหึ่มไปทั่ว จึงตั้งสมญานามให้ขุนพันธ์ ว่า ?รายอกะจิ? หมายถึง ราชาร่างเล็ก หรืออัศวินพริกขี้หนู

?คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าการปราบเสือแต่ละคนไม่ง่ายเลย สมัยก่อนต้องใช้เวลาติดตามด้วยความยากลำบาก ไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ เพราะต้องบุกป่าฝ่าดงไล่ล่ากันเป็นเดือนเป็นปี พ่อบอกว่าเสือภาคใต้ปราบยากกว่าเสือภาคกลางเพราะเสือภาคใต้มีวิชา มีของดี ของขลังติดตัว ผิดกับเสือภาคกลางที่อาศัยสมัครพรรคพวกมากเป็นสำคัญ บรรดาชุมโจรหรือขุนโจรที่เกรงกลัวขุนพันธรักษ์ราชเดช เนื่องจากเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการปราบปราม ไม่ท้อ จิตใจทรหดอดทน หากมันไม่ตายเราก็ตาย? บุตรชายคนที่ 9 ของขุนพันธ์ กล่าว

ปี พ.ศ.2485 ขุนพันธรักษ์ราชเดช ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ก็ดำเนินการปราบ ?เสือสาย? ผู้มีอิทธิพลในเมืองสุราษฎร์ฯ มานานกว่า 8 ปี จากนั้นบุกทลายซ่อง ?ไม้ไผ่งาช้าง? ของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จนถูกย้ายไปเป็นผู้บังคับกองเมืองพิจิตร พอไปอยู่เมืองพิจิตร ก็ปราบเสือโน้ม อ.พรานกระต่าย และได้รู้จักกับ ?หลวงกล้ากลางณรงค์? นายทหารลูกหลานตระกูล ?พระยาพิชัยดาบหัก? ที่มารับราชการที่เมืองพิจิตร ขุนพันธ์จึงฝากตัวเป็นบุตรบุญธรรม หลวงกล้ากลางณรงค์ได้มอบดาบคู่เหล็กน้ำพี้ให้กับขุนพันธ์ จนกลายเป็นอาวุธประจำตัว ดังฉายา ?ขุนพันธ์ดาบคู่?

ถัดมาในปี พ.ศ.2489 ขุนพันธ์ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองชัยนาท ลุยปราบชุมโจรสุพรรณบุรี โดยเฉพาะ ?เสือฝ้าย? ถือเป็นก๊กเสือร้ายที่มีอิทธิพลมากที่สุด มีสมุนอยู่ทั่วใน จ.สุพรรณบุรี ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือ 4 เสือสุพรรณ ประกอบด้วย เสือฝ้าย เสือใบ เสือมเหศวร และเสือดำ ทางกรมตำรวจจึงคัดเลือกนายตำรวจ เพื่อตั้งเป็น ?กองปราบปรามพิเศษ? ต่อสู้กับเสือร้ายภาคกลาง มี พ.ต.อ.สวัสดิ์ กันเขต เป็นผู้อำนวยการ และขุนพันธ์ เป็นรองผู้อำนวยการ จนชุมโจรเมืองสุพรรณถูกปราบปรามอย่างราบคาบ ส่วนเสือฝ้ายตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด

เมืองพัทลุงร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งในปี พ.ศ.2490 ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุม คดีปล้นฆ่าผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก จึงมีการทำหนังสือขอตัวขุนพันธ์กลับพัทลุง มาต่อกรกับโจรร้ายก๊กใหม่ กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 จ.นครศรีธรรมราช และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2511
  ยิ่งผมหาข้อมูลของท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช  ก็จะเจอข้อมูลของเสือทุกๆคนที่ท่านปราบ เสือบางคนโดนบีบจากผู้มีอิทธัพลเถื่อนและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเลวๆให้เป็นเสือ เสือบางคนปล้นคนเลวที่รวยที่มีอำนาจเพื่อมาช่วยคนจน :037: กระผมกลัวเหลือเกินหากนำประวัติการปราบเสือและประวัติเสือเหล่านั้น จะไม่ผ่านเซ็นเซอร์ครับ

74
ทุกเรื่องราวที่ผ่านมาคือบทพิสูจน์จิตใจนะครับท่านผ่านมาแล้ว ท่านก็ผ่านการทดสอบจิตใจ ยินดีด้วยครับ

75
คงคิดถึงอาจารย์แย่เลย รีบกลับมานะครับ

76
ก็ตามท่านว่าที่นี่ยอมมีกฏ ข้าน้อยน้อมรับในกฏของที่นั้นๆ งั้นเอาใหม่
          การที่จะยกย่องใครนั้นต้องดูถึงคุณงามความดี เกียรติประวัติ เพื่อให้สังคมไทยคงไว้ซึ่งสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันแบบ ใช้คุณความดี ไม่ใช่ยกย่อง ที่ยศ  ที่อายุ และที่วงศ์ตระกูล
          ขอให้มองถึงจุดประสงค์การนำเสนอและข้อมูลความเป็นประโยชน์มากกว่า ใครเป็นผู้นำเสนอ ไม่ผิดที่ ต้องมองว่าใครนำเสนอ และควรมองถึงข้อมูลนั้นด้วย ขอบคุณที่ช่วยตักเตือน
          

78
ย้ายกลับพัทลุง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ทางจังหวัดพัทลุงมีโจรผู้ร้ายกำเริบชุกชุมขึ้นอีก ราษฎรชาวพัทลุงนึกถึงขุนพันธ์ฯ นายตำรวจมือปราบ เพราะเคยประจักษ์ฝีมือมาแล้ว จึงเข้าชื่อกันทำหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมตำรวจ ผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอตัวขุนพันธ์ฯ กลับพัทลุงเพื่อช่วยปราบปรามโจรผู้ร้าย กรมตำรวจอนุมัติตามคำร้องขอ ขุนพันธ์ฯ จึงได้ย้ายมาเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงอีกวาระหนึ่ง ได้ปราบปรามเสือร้ายที่สำคัญๆสิ้นชื่อไปหลายคน ผู้ร้ายบางรายก็หนีออกนอกเขตพัทลุงไปอยู่เสียที่อื่น นอกจากงานด้านปราบปรามซึ่งเป็นงานที่ท่านถนัดและสร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นพิเศษแล้ว ท่านยังได้พัฒนาเมืองพัทลุงให้เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยปรับปรุงชายทะเลตำบลลำปำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และให้มีตำรวจคอยตรวจตรารักษาความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารรถไฟที่เข้าออกเมืองพัทลุง ทำให้เมืองพัทลุงในสมัยที่ท่านเป็นผู้กำกับการตำรวจ มีความสงบสุขน่าอยู่ขึ้นมาก ตำรวจที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้เลิกไปเมื่อกรมตำรวจจัดตั้งกองตำรวจรถไฟขึ้น ด้วยความดีความชอบในหน้าที่ราชการ ท่านจึงได้รับพระราชทานเลื่อนยศ เป็นพันตำรวจโทในปี พ.ศ. 2493 ท่านอยู่พัทลุงได้ 2 ปีเศษ จนถึง พ.ศ. 2494 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2503 จึงดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 และได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นพลตำรวจตรี จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2507
ครั้งหนึ่งเคยมีคำขวัญอันคมคายของกรมตำรวจอยู่ประโยคหนึ่งว่า "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้" นี่เป็นถ้อยคำที่เกิดขึ้นในยุคอัศวินแหวนเพชรเฟื้อง ในสมัยของท่านอธิบดีฯ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ปกครองกรมตำรวจ วีรบุรุษผู้สร้างเกียรติประวัติให้กรมตำรวจนั้นมีอยู่มาก มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ในยุคสมัยที่ท่าน อธิบดีกรมตำรวจหลวงอดุลย์เดชจรัสนั้น...นามของ"ขุนพันธรักษ์ราชเดช" ระบือลือลั่นสุดยอดแผ่นดินด้ามขวานทอง แม้ท่านขุนพันธ์จะปลดเกษียณราชการไปนานปี แล้วก็ตาม แต่ชื่อของท่านยังอยู่ในความทรงจำของกรมตำรวจและประชาชนทั่วไป นั่นเป็นเพราะผลงานอันน่าอัศจรรย์ของท่าน กลายเป็นผลงานอันยากยิ่งที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน ควรค่าแก่การบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คนเมืองใต้และคนของแผ่นดิน
พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ที่บ้านในซอยราชเดช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช อายุได้ 108 ปี
เกียรติประวัติ
ชีวิตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นชีวิตที่มีค่าของแผ่นดินเมืองใต้และเมืองไทย ลมหายใจของท่านเคยโลดแล่นอยู่ท่ามกลางหมู่โจรผู้ร้าย ไม่เฉพาะแต่ผู้ร้ายในภาคใต้เท่านั้น แต่ที่ไหนประชาชนเดือดร้อนจากโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจคนอื่นปราบปรามไม่สำเร็จ กรมตำรวจจะต้องส่งตัวขุนพันธ์ฯ ไปปราบปรามทุกถิ่นที่มีครั้งหนึ่ง พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 ท่านเคยเดินทางมาตรวจสืบราชการลับที่เกาะสมุย ขุนพันธ์ฯท่านชอบดูมวย วันนั้นท่านไปยืนดูมวยอยู่ข้างเวที บังเอิญถอยหลังไปเหยียบเท้านางพล้อยเข้าโดยไม่ตั้งใจ ป้าพล้อยแกเป็นคนปากจัด ใครแตะเป็นด่าไม่ไว้หน้า แกก็ด่าขุนพันธ์ฯ ขุนพันธ์ฯก็วางเฉยไม่โต้ตอบอะไร มีคนรู้จักกันเข้าไปเตือนสติป้าพล้อยว่า "คนที่ป้าด่าอยู่นั้นรู้มั๊ยว่าเป็นใคร...นั่นแหละขุนพันธ์ฯ" พอได้ยินชื่อขุนพันธ์ฯเท่านั้น ป้าพล้อยแกเงียบเป็นเป่าสาก รีบก้มหน้างุดๆ เดินมุดผู้คนหนีไปโดยไม่เหลียวหลังมาอีกเลย คำบอกเล่าสั้นๆนี้ทำให้เห็นว่า ขุนพันธ์ฯ ท่านมีตบะสูง เพียงได้ยินว่าเป็นขุนพันธ์เท่านั้น ใครๆก็ขยาดทั้งนั้น เพราะรู้กิตติศัพท์ของท่านมาก่อนนั่นเอง
สมัยที่ขุนพันธ์ฯกลับมาอยู่เมืองนครศรีธรรมราช ก็มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนนั้นมีเสือใหญ่อยู่ 10 ตัว ในจำนวนเสือร้าย 10 ตัวนั้น มีเสือข่อย เสือจ้อย เสือหวน ฯลฯ รวมอยู่ด้วย เสือทั้ง 10 คนนั้น ล้วนเคยเป็นศิษย์หลวงพ่อช่วย เมืองนครศรีธรรมราช ผู้ซึ่งเป็นพระมีวิชาเก่งกล้าทางไสยศาสตร์ หรือกฤตยาคม ขุนพันธ์ฯ เคยเรียนวิชาด้วยผู้หนึ่ง เมื่อท่านขุนพันธ์ฯกลับมาอยู่ในตำแหน่งสำคัญระดับภาค ท่านมีประกาศิตสั่งให้ผู้ร้ายทั้ง 10 คนนั้น เลิกประพฤติเยี่ยงโจร ให้กลับใจเลิกเป็นเสือเสีย โดยให้บวชเป็นพระภิกษุ ถ้าหากไม่ทำตามคำขอร้องนั้น ขุนพันธ์ฯ ก็จะยิงทิ้งทุกคน เล่ากันว่าประกาศิตของขุนพันธ์ฯทำให้เสือร้ายส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแต่โดยดี มีเพียงเสือข่อยเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมทำตามคำของขุนพันธ์ฯ เสือข่อยไม่ยอมเลือกทางเดินที่ขุนพันธ์ฯเลือกให้ ซ้ำร้ายยิ่งท้าทายอำนาจของกฎหมายบ้านเมือง ด้วยความเชื่อว่า ตนนั้นเป็นศิษย์หลวงพ่อช่วย ผู้เรืองวิชาอาคมแก่กล้า เป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกับขุนพันธ์ฯ จึงคิดว่าขุนพันธ์จะยกเว้นไว้สักคนหนึ่ง แต่ปรากฏว่า ขุนพันธ์ฯ ทำตามที่พูด ว่ากันว่าท่านยิงเสือข่อย แต่ยิงไม่เข้า จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าด้วยศูลแทงสวนทวารจนถึงแก่ความตาย คำเล่าลือเหล่าเสือร้ายในหมู่บ้านของชาวเมืองปักษ์ใต้ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง หรือต่อเติมเสริมแต่งของผู้เล่าอ่านเองบ้าง มันคือตำนานอมตะของวีรบุรุษเล็กพริกขี้หนู ที่มีนามว่า "นายร้อยบุตร์ พันธรักษ์ราชเดช" หรือขุนพันธรักษ์ราชเดช ขุนพันธ์ฯ เป็นบุคคลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ว่าตำแหน่งใด ยศใด ยกย่อง นับถือ และกล่าวถึง เนื่องจากท่านเป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจนั่นเอง
ขุนพันธ์ในฐานะนักการเมือง

ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เคยเป็น ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2512[1]

ขุนพันธ์ในฐานะนักวิชาการ
 
ขุนพันธ์กับบุตรชาย คุณณสรรค พันธรักษราชเดชนอกจากเกียรติคุณทั้งในและนอกตำแหน่งหน้าที่ราชการดังกล่าวมาแล้ว ขุนพันธ์ฯ ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่สำคัญซึ่งควรกล่าวถึงคือ เป็นนักวิชาการที่สำคัญคนหนึ่ง ท่านเป็นทั้งนักอ่านและนักเขียน ได้เขียนเรื่องราวต่างๆ ลงพิมพ์ในหนังสือและวารสารต่างๆ หลายเรื่อง ขุนพันธ์ฯ เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในเรื่องไสยศาสตร์อยู่มาก เรื่องที่เขียนส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ นอกจากนั้นก็มีเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทั้งประวัติบุคคลและสถานที่ ตำนานท้องถิ่น มวย และเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง ข้อเขียนต่างๆของท่าน เช่น ความเชื่อทางไสยศาสตร์ในภาคใต้ สองเกลอ ช้างเผือกงาดำ หัวล้านนอกครู ศิษย์เจ้าคุณ มวยไทย เชื่อเครื่อง กรุงชิง เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่องกรุงชิงนั้น ท่านเล่าว่าเป็นเรื่องที่ท่านเขียนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันตามพระบรมราชโองการ และต่อมามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีได้ขออนุญาตนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ใน "รูสมิแล" วารสารของมหาวิทยาลัยปีที่ 6 ฉบับที่ 3 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม พ.ศ. 2526 งานเขียนของท่านส่วนมากจะลงพิมพ์ใน สารนครศรีธรรมราช หนังสืองานเดือนสิบวิชชา (วารสารทางวิชาการของวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช) รูสมิแล (วารสารทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) และหนังสือที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ ของโรงเรียนและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมทั้งเป็นผู้ริเริ่มให้มีการบวงสรวงพระธาตุนครศรีธรรมราช อันเป็นที่มาของการสร้างจตุคามรามเทพรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2530 ด้วย

ในด้านชีวิตครอบครัว ขุนพันธ์ฯ มีภรรยาคนแรกชื่อ เฉลา ตอนนั้นท่านมีอายุได้ประมาณ 30 ปี ขณะที่รับราชการอยู่ที่จังหวัดพัทลุง มีบุตรด้วยกัน 8 คน ต่อมาภรรยาเสียชีวิต ท่านจึงได้ภรรยาใหม่ชื่อ สมสมัย มีบุตรด้วยกัน 4 คน
งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

        กว่าจะมาเป็นพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่เราท่านรู้จักได้ต้องผ่านการทำความดีไว้มากมายใช่ว่าจะเลียนแบบกันง่ายๆครับ ต่อไปผมจะนำข้อมูลการจับผู้ร้ายมาให้ชมในตอนหน้านะครับ

ที่มาของข้อมูล : วิกิพีเดีย
นำรูปภาพจากองค์จตุคามดอทคอม www.ongjatukarm.com

79
ศิษย์พี่บางท่านของสายพ่อทองจะมีที่ด้านหลังครับ อาจารย์ต้อยท่านที่สักให้ผมก็มีด้านหลัง แต่ผมหลังไม่มีพื้นที่ว่างขนาดยันต์นี้ได้จึงขอวางด้านหน้าครับ

80
      เป็นยันต์ตระกร้อครับ ซึ่งอาจารย์ต้อยท่านเมตตา ซึ่งอาจารย์ต้อยท่านรับเข็มกับพระอาจารย์วิรัช สายพ่อทองตลาดพลู อาจารย์ต้อยอยู่ข้างวัดกำพร้า สมุทรสาคร

81
อยากให้ลงเกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านขุนพันธ์ด้วยครับ
เท่าที่ได้ยินก็ เป็นเจ้าพิธืจตุคามปี 30 อันโด่งดัง แต่ผมไม่มีที่ผมมีก็ เหรียญปิดตาพังพระกาฬ นวโลหะ ปี 32


ขอบคุณครับ ผมชอบมากที่ได้อ่านประวัติของบุคคลที่ควรยกย่องเช่นนี้ :053:
กระผมจึงอยากที่รู้ถึงประวัติและคุณความดีของคนที่น่านับถือเช่นพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช  

พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดชนี่สิของจริงและยากที่จะมีคนไหนเลียนแบบได้

82
       ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ  เสือ หลวงพ่อปาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น  วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง
     ใจจริงผมก็อยากมีไว้มี 2 เหตุผลที่ไม่สามารถหามาบูชาได้ 1.ราคาสูง แต่ไม่ใช่แพง 2.ไม่รู้ว่าของจริงนั้นดูที่ตรงไหน เป็นอะไรที่ดูยากมากๆครับ
        หากพูดถึงวัวธนูก็มีทางเลือกที่ดีครับผมก็ไปบูชาวัวธนูของวัดกลางบางพระที่หลวงพ่อพุตที่สร้างไว้ อันนี้ทันหลวงพ่อแน่นอน ขอบคุณท่าน สัวัจชัยนะครับ ที่นำให้อ่านเพิ่มความรู้นะครับ

83
นี่รูปท่านเกษตร รึนี่!!!!! หน้าเหมือนชาคิตเลย

84


ขุนพันธรักษ์ราชเดช
            พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446-5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549) อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจไทย ซึ่งท่านมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่างๆของไทย ในภาคกลางเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เสือสังหรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ ?อะเวสะดอตาเละ? จนท่านได้ฉายาว่าจากชาวไทยมุสลิมว่า ?รายอกะจิ? ซึ่งแปลว่า อัศวินพริกขี้หนู จากผลงานที่ท่านสามารถปราบโจร เสือร้ายต่างๆ ได้มากมาย จึงได้รับฉายา ดังต่อไปนี้
-นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า
-นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว
-ขุนพันธ์ฯ ดาบแดง (เชื่อกันว่าเป็นดาบที่ตกทอดมาจาก พระยาพิชัยดาบหัก ฝักดาบมีถุงผ้าสีแดงห่อหุ้ม ตัวดาบมีความคมกล้ายิ่งนัก )
-รายอกะจิ (อัศวินพริกขี้หนู) ฯลฯ
-จอมขมังเวทย์
ประวัติ
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือชื่อเดิมว่า บุตร พันธรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ที่บ้านอ้ายเขียว หมู่ที่ 5 ตำบลดอนตะโก อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอ้วน นางทองจันทร์ พันธรักษ์ เริ่มเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1 ที่โรงเรียนวัดสวนป่าน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เนื่องจากท่านมีความรู้ในวิชาเลขและหนังสืออยู่แล้วก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ดังนั้นเมื่อเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1 ได้ 1 วัน ทางโรงเรียนก็เลื่อนชั้นให้เรียนในชั้นประถมปีที่ 2 และวันรุ่งขึ้นก็เลื่อนชั้นให้เรียนชั้นประถมปีที่ 3 เป็นอันว่าท่านเข้าโรงเรียนได้เพียง 3 วัน ได้เลื่อนชั้นถึง 3 ครั้ง
เมื่อครั้งเรียนชั้นประถมปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสวนป่าน มีพระภิกษุอินทร์ รัตนวิจิตร เป็นผู้สอน เรียนอยู่ประมาณ 2 เดือน โรงเรียนนั้นก็ถูกยุบ ท่านจึงเข้าเรียนในชั้นเดิม ที่โรงเรียนวัดพระนคร ตำบลพระเสื้อเมือง (ปัจจุบันคือตำบลในเมือง) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีครูเพิ่ม ณ นคร เป็นครูประจำชั้น เรียนจบชั้นประถมปีที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน ในปี พ.ศ. 2456 ได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ 1 ที่โรงเรียนวัดท่าโพธิ์ (โรงเรียนเบจมราชูทิศในปัจจุบัน)
พอเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ได้ไม่กี่เดือนก็ต้องออกจากโรงเรียนเพราะป่วยเป็นโรคคุดทะราด ต้องพักรักษาตัวปีกว่า เมื่อหายจึงคิดจะกลับมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเดิมแต่ปรากฏว่าเพื่อนๆ ที่เคยเรียนด้วยกันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และปีที่ 3 แล้ว จึงเปลี่ยนใจเดินทางเข้าไปศึกษาที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2459 โดยไปอยู่กับพระปลัดพลับ บุณยเกียรติ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า ที่วัดส้มเกลี้ยง (วัดราชผาติการาม) ได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรในปั้จจุบัน)ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขณะเรียนที่โรงเรียนนี้ท่านได้เรียนวิชามวย ยูโด และยิมนาสติกจากครูหลายคน เช่น ครูย้อย ครูศิริ ครูนก ครูมณี จนมีความชำนาญในเชิงมวย ท่านสอบไล่ได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ในปี พ.ศ. 2467
ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 จึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจห้วยจระเข้ จังหวัดนครปฐม ขณะที่เรียนได้เป็นครูมวยไทยด้วย เรียนอยู่ 5 ปี สำเร็จหลักสูตรในปี พ.ศ. 2472
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นคนสุดท้ายของประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานทินนาม ซึ่งพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้ายโรคชรา ในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2549 เวลา 23.27 น. ที่บ้านเลขที่ 764/5 ซ.ราชเดช ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
การทำงาน
ในชุดเจ้าพิธีกรรมในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราชหลังจากจบการศึกษาแล้ว ทางราชการได้แต่งตั้งให้ไปรับราชการในตำแหน่งนักเรียนทำการนายร้อย ที่กองบังคับการตำรวจภูธรมณฑลนครศรีธรรมราช ประจำจังหวัดสงขลา ในปี พ.ศ. 2473 เป็นนักเรียนทำการอยู่ 6 เดือน ได้เลื่อนยศเป็นว่าที่ร้อยตรี
ในปี พ.ศ. 2474 ได้ย้ายมาเป็นผู้บังคับหมวดที่กองเมืองจังหวัดพัทลุง ที่พัทลุงนี่เองท่านได้สร้างเกียรติประวัติในตำแหน่งหน้าที่ จนเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงราชการและคนทั่วไป โดยการปราบปรามผู้ร้ายสำคัญของจังหวัดพัทลุง คือ เสือสัง หรือเสือพุ่ม ซึ่งเป็นเสือร้ายที่แหกคุกมาจากเมืองตรัง ขุนพันธรักษ์ราชเดช เล่าว่า เสือสังนี้มีร่างกายใหญ่โต ดุร้าย และมีอิทธิพลมาก มาอยู่ในความปกครองของกำนันตำบลป่าพยอม อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นอกจากนั้นแล้วยังมีคนใหญ่คนโตหลายคนให้ความอุ้มชูเสือสัง จึงทำให้เป็นการยากที่จะปราบได้ แต่ท่านก็สามารถปรามเสือสังได้ในปีแรกที่ย้ายมารับราชการ โดยท่านไปปราบร่วมกับ พลตำรวจเผือก ด้วงชู มี นายขี้ครั่ง เหรียญขำ เป็นคนนำทาง การปราบปรามเสือสังครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาก ตอนนั้นจเรพระยาศรีสุรเสนา ไปตรวจราชการตำรวจที่พัทลุงพอดี ผู้ปราบเสือสังจึงได้รับความดีความชอบ คือ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีบุตร พันธรักษ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นร้อยตำรวจตรี พลตำรวจเผือก ชูด้วง เป็นสิบตรี และนายขี้ครั่ง ได้รับรางวัล 400 บาท
หลังจากนั้นมาอีก 1 ปี ท่านก็ได้ปราบผู้ร้ายสำคัญอื่นๆ 16 คน เช่น เสือเมือง เสือทอง เสือย้อย เป็นต้น ด้วยความดีความชอบ จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช" และในปี พ.ศ. 2478 ได้รับเลื่อนยศเป็นนายร้อยตำรวจโท และในปีนี้ได้อุปสมบทที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีท่านเจ้าคุณรัตนธัชมุนี (แบน) เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชอยู่ได้ 1 พรรษา จึงลาสิกขา ในปี พ.ศ. 2479 ท่านได้ย้ายไปเป็นหัวหน้ากองตรวจ ประจำกองบังคับการตำรวจภูธรมณฑลนครศรีธรรมราช ประจำจังหวัดสงขลา ได้ปราบโจรผู้ร้ายหลายคน
การปราบโจรครั้งสำคัญและทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากคือ การปราบผู้ร้ายทางการเมืองที่นราธิวาส ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ "อะแวสะดอ ตาเละ" นัยว่าเป็นผู้ที่อยู่ยงคงกระพัน เที่ยวปล้นฆ่าเฉพาะคนไทยพุทธเท่านั้น ในที่สุดก็ถูกขุนพันธ์ฯ จับได้ ท่านได้รับการยกย่องจากทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเป็นอันมาก ท่านจึงได้รับฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า "รายอกะจิ" หรือแปลว่า "อัศวินพริกขี้หนู" และได้เลื่อนยศเป็นร้อยตำรวจเอกในปีนั้นเอง พ.ศ. 2482 ขุนพันธ์ฯ ได้ย้ายมาเป็นผู้บังคับกองเมืองพัทลุง ปี พ.ศ. 2485 ย้ายเป็นรองผู้กำกับการตำรวจภูธรที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ปราบปรามโจรหลายราย รายสำคัญ คือ เสือสาย และเสือเอิบ
ขุนพันธรักษ์ราชเดช ถือดาบและเหน็บกริช แสดงลายนายตำรวจมือปราบหนวดเฟิ้มหลังจากนั้นขุนพันธ์ฯ ได้ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดในภาคอื่น คือ ในปี พ.ศ. 2486 ได้ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรที่จังหวัดพิจิตร ได้ปฏิบัติหน้าที่มีความดีความชอบเรื่อยมา และได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมาย ที่สำคัญคือการปราบ เสือโน้ม หรืออาจารย์โน้ม จึงได้รับพระราชทานยศเป็นพันตำรวจตรี พ.ศ. 2489 ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ปะทะและปราบปรามเสือร้ายหลายคน เช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร เป็นต้น กรมตำรวจได้พิจารณาเห็นว่า ผู้ร้ายในเขตจังหวัดชัยนาทและสุพรรณบุรี ชุกชุมมากขึ้นทุกวันยากแก่การปราบปรามให้สิ้นซาก จึงได้ตั้งกองปราบพิเศษขึ้น โดยคัดเลือกเอาเฉพาะนายตำรวจที่มีฝีมือในการปราบปรามรวมได้ 1 กองพัน แต่งตั้งให้ พ.ต.ต. สวัสดิ์ กันเขตต์ เป็นผู้อำนวยการกองปราบ และ พ.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นรองผู้อำนวยการ กองปราบพิเศษได้ประชุมนายตำรวจที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2489 เพื่อวางแผนกำจัดเสือฝ้าย แต่แผนล้มเหลว ผู้ร้ายรู้ตัวเสียก่อน ขุนพันธ์ฯ ได้รับคำสั่งด่วนให้สกัดโจรผู้ร้ายที่จะแตกเข้ามาจังหวัดชัยนาท
ครั้งนั้นขุนพันธ์ฯ ใช้ดาบเป็นอาวุธคู่มือแทนที่จะใช้ปืนยาว ดาบนั้นถุงผ้าแดงสวมทั้งฝักและด้าม คนทั้งหลายจึงขนานนามท่านว่า "ขุนพันธ์ดาบแดง" ฝีมือขุนพันธ์ฯ เป็นที่ครั่นคร้ามของพวกมิจฉาชีพทั่วไป แม้แต่เสือฝ้ายเองก็เคยติดสินบนท่านถึง 2,000 บาท เพื่อไม่ให้ปราบปราม แต่ขุนพันธ์ฯ ไม่สนใจ คงปฏิบัติหน้าที่อย่างดีจนปราบปรามได้สำเร็จ ท่านอยู่ชัยนาท 3 ปี ปราบปรามเสือร้ายต่างๆ สงบลง แล้วได้ย้ายมาเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรที่อยุธยา อยู่ได้ประมาณ 4 เดือนเศษก็เกิดโจรผู้ร้ายชุกชมที่กำแพงเพชร ขณะนั้นเป็นระยะเปลี่ยนอธิบดีกรมตำรวจ และขุนพันธ์ฯ ก็ถูกใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมอาชีพว่าเป็นโจรผู้ร้าย พล.ร.ต. หลวงสังวรยุทธกิจ อธิบดีกรมตำรวจยังเชื่อมั่นว่าขุนพันธ์ฯ เป็นคนดี จึงโทรเลขให้ไปพบด่วน และแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อปี พ.ศ. 2490 ขุนพันธ์ฯ ได้ปรับปรุงการตำรวจภูธรของเมืองนี้ให้มีสมรรถภาพขึ้น และได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายต่างๆ ที่สำคัญคือ เสือไกร กับ เสือวัน แห่งอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ทำให้ฝีมือการปราบปรามของขุนพันธ์ฯยิ่งลือกระฉ่อนไปไกล

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

ปล.จากที่ได้อ่านเกียรติประวัติขุนพันธรักษ์ราชเดชแล้วได้ข้อคิดดีหลายอย่าง แต่ เนื้อหามีความยาวมากๆขอแบ่งเป็นตอนๆนะครับ

[shake]ที่มาของข้อมูล:http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkId=74005[/shake]

85
แหมผมกับหยกก็รีบไปแล้วนะยังไม่ทันอีก ท่านสุวัจชัย มาก่อนเวลานัด แล้วกับเร็วอีกนะน่าจะยกความผิดให้ BTS ที่สร้างยังไม่ถึงแยกท่าพระไม่งั้นคงได้กิน ฟูจิ ฟรีแล้ว 666

86


ไม่ต้องมองมาก ตั้งใจหน่อยน้องลีลาวดี



อ้าวพี่เราได้ผ้ายันต์แม่พิมพ์จากใครครับนี่มีลายมือหลวงพ่อด้วยบอกมาเลยนะ



ว้าว น่าจะครบทุกวัดเลยนะพี่นะ สุดยอดจริงๆ



ระหว่างรอฝั่งเข็ม อ่ะโพส นั้นนาฬิกาใหม่ยี่ห้ออะไรพี่สาว



ตาเราแล้ว เจ็บนิดๆนะครับ เราก็เป็นศิษย์ พระอาจารย์หนุ่ม และ อาจารย์ประคองแล้วสิครับงานนี้มาแล้วคุ้มจริงๆ
   ขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ มีหลายครั้งที่พี่น้องชาวเว็บขอให้ผมไปถ่ายรูปนั้นรูปนี้ให้ ซึ่งยินดีมากๆและต้องบอกก่อน ว่าไม่ใช่มืออาชีพนะครับแค่ชอบเก็บภาพงานที่ไปร่วม ซึ่งมีหลายคนเข้าใจผิดว่าผมจะไปตามถ่ายรูปคนๆนั้น บอกได้เลยว่าผมจะถ่ายในสิ่งที่ควรถ่ายและคนที่ควรถ่าย ผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร สิทธิ์ของคนผมก็รู้ผมก็คน คนเราศักดิ์ศรีสร้างได้ แต่เกียรติเป็นสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้ จงเก็บเกียรตินั้นไว้ให้เป็นเกียรติ อย่าให้กลายเป็นเกียจ เลยท่าน ไม่ต้องมาห้ามถ่ายรูปท่าน กันอีกนะครับ ไม่เข้าใจเลย คิดไปได้ไงว่าผมอยากไปถ่ายท่าน งงมากๆ บางทีการนำเสนอของผมอาจไม่เข้าตาบางท่านแต่ก็มีหลายท่านเข้าใจ นั้นผมก็พอใจเป็นอย่างมาก จุดประสงค์การนำเสนอของผมไม่ใช่แสดงว่า ผมได้ไปร่วมงาน ผมอยากถ่ายทอดบรรยากาศงานโดยร่วมเท่าที่จะทำได้ จึงขอแจ้งให้บางท่านเข้าใจด้วยเพราะมีหลายกลุ่มที่ผมได้คุยได้เจอตามงานต่างๆเข้าใจแล้วครับ
                                                                                                                                       ชลาพุชะ

87
    งานบูชาครูเข็มทอง หลวงปู่พิมพ์มาลัย โดยพระอาจารย์มนตรี ฐิตโสภโณ (พระอาจารย์หนุ่ม) และอาจารย์ประครอง ณ. วัดบางแวก ปีนี้ ตรงกับ แรม 10 ค่ำเดือน 9 ปีฉลู หรือ วันที่ 16 สิงหาคม 2552



เป็นครั้งแรกของผมครับ เป็นบุญเหลือเกินที่ได้มาร่วมพิธี จะได้ฝังเข็มไหมนี่คนเยอะมากๆเลยครับ
เอาพี่สาวเราวันนี้มาก่อนเราอีกนะนี่ อ่ะๆพาไปหน่อยไปไม่ถูกขอสักรูปนะพี่นะเดี๋ยวว่าไม่ได้มาฮิฮิ เอ้าเซสวีส










กราบนมัสการพระอาจารย์ญา กราบนมัสการหลวงพี่ตูน และ กราบนมัสการพระเก่งด้วยนะครับ รับนำมนต์จากพระอาจารย์ญา สดชื่น เฮงๆนะครับ





อาจารย์ประคองเริ่มฝังเข็มแล้วครับ


งานนี้พี่สาวเราฝัง ตะกรุด  3 อย่าง ทั้ง สาลิกา ตัวผู้ตัวเมีย เสน่ห์มอญอีก ว้าวๆๆๆ แรงไปไหมพี่ จะเอาอยู่ไหม.........หุหุ ทำมาน้ำคาซึมเปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้ว เจ็บ 3 ที แป๊บๆ ดูที่ตาอ้อนคนที่ฝังน่าดูอ้อนยังไงก็เจ็บครับพี่ๆๆๆๆๆๆๆ [/size]
มีต่ออีนะครับ
1/2

88
ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ว่าทำไมพี่โชว์ถึงได้ไปต่างประเทศ และได้กราบพระที่ดังๆอยู่บ่อยๆ เพระผลบุญของพี่ที่ได้ทำไว้นั้นเอง ขอให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปนะครับ... (แอบติดตามผลงานของพี่อยู่เสมอ) :058:
:008:

ขอบคุณค่ะ...โรนัลโด....โทษฐานที่แอบติดตามผลงานที่อยู่เสมอ(ผลงาน :074:) มารับผ้าผันต์มหาเสน่ห์ไปเลย 1 ผีน
ส่งที่อยู่มาเลย..เด่วจาดให้... แบบอยากให้เฉยๆ หงะ..มะมีไรมากมาย..เนื่องในเทศกาล ควันหลงวันแม่...+ อารมณ์ดีหงะ!  :004::004: อย่าชมเยอะ เด่วคนจาหม่านไส้ :008:

งานนี้ขอรุมท่าน Ronaldo 2007 โดยการขอมอบ หลวงปู่ทวดหลังจตุคามรามเทพ รุ่น หัวใจเศรษฐีเสวยสุข ที่ หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว เป็นเจ้าพิธี จัดสร้าง โดย สำนักปฎิธรรม พระธาตุหนองพลวง ต. โคกกลาง อ. ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์  ครับเจ้านาย

89


ชอบภาพนี้มากลดอายุไปหลายปีเลยพี่เรา



ฮิฮิ 08;พี่โชว อยากมีน้องเขยเป็นศิษย์ร่วมสำนักไหม 18; 20;

ขอบคุณพี่สาวมากๆ ที่นำโลกกว้างมาให้ชม

90
ขอกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ หายจากอาการอาพาธไวไวนะครับ

91

ของชุดนี้ได้มาก็ไม่นานเลยไม่รู้ว่าใช่ของที่หลวงปู่อั๊บท่านสร้าง รึปลุกเสกไหม
เป็นภาพที่คลี่ตะกรุดออกมาเพื่อขอดูลายมือครับ เป็นตะกรุดขวาล่าง

92
          ต่ำลงมาเป็นสาริกาครับ แต่ ลงมาอีกไม่รู้เหมือนกันเดายาก แล้วพระอาจารย์ รูปใด หรือ อาจารย์ ท่านใดเมตตาครับ สวยดี นะครับ นี่ขนาดน้ำมันนะครับ

93
       ตามที่ผมเคยไปเมื่อเข้าพรรษาที่ผ่านมาจึงมีข้อมูลและขอเพิ่มเติมท่านโคมแก้วนะครับ ที่วัดนี้ จะมี จุดไหว้ ทั้งหมด 5 จุด ทุกจุดได้มีเขียนป้าย บอกราคาตายตัวหากทำตามครบทุกจุด จะต้องใช้เงิน 1500 บาทขึ้นไปต่อคน แต่ขอบบอกก่อนว่าทางวัดไม่ได้บังครับนะครับ แล้วแต่ใครจะทำไม่ทำก็ได้ หากจะทำเพียงจุดเดียวซึ่งของไหว้ก็จะไม่ครบในจุดนั้นๆก็ 100-200 บาท แต่หากจะให้ครบเพียงจุดเดียว 300บาทครับ หากท่านไปบอก ทำ 100 จะได้คำแนะนำแบบชนิดที่ท่านไม่เคยได้เจอที่ไหน ลองดูได้

(1)จุดแรกหากจะถวายเครื่องเซ่นไหว้ ธูปเทียน กระดาษคนละ 300 ครับ

(2)จุดแก้ปีชง เขียนชื่อ ให้ทางวัดทำพิธี ชุดนี้ 300 บาทครับ

(3)จุดนี้เป็นจุดไหว้พระประธาน 3 องค์ ธูปเทียนหากซื้อชุดเล็ก ธูปเทียนจะปักไม่ครบทุกจุดชุดใหญ่300 บาท ครับจะมีเทียนสีแดงในขวดด้วย


(4)จุดนี้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมครับ มีชุด ไหว้ 3 ราคาเหมือนเดิม

(5)จุดนี้จะอยู่ ชั้นล่างสุดครับ 3 ราคาเช่นกัน จะมีเทียนไปลอยให้ ที่เจ้าแม่กวนอิมครับ
จุดทุกจุดที่กล่าวมาทางวัดไม่ได้บังคับทำบุญแต่ประการใด เราจะไปไหว้มือปล่าวก็ได้ เพียงแต่มันก็ราคาสูงจริงๆหากจะไหว้ให้ครบทุกจุดครับ
ต้องขอขอบคุณท่านโคมแก้วสำหรับภาพสวยๆนะครับ

94
หลวงพี่ท่านเมตตากับศิษย์ทุกคน  



95
หลังสวยดีครับ ได้รับการเมตตาจากที่ไหนมาครับ

96
กราบนมัสการหลวงปู่ ครับ
                                ขอบคุณข้อมูลและภาพนะครับ

97
มาทีเป็นชุดเลยนะท่านนก ขอขอบคุณทุกๆภาพจากทุกๆท่านครับ

98
มาทีเป็นชุดเลยนะท่านนก ทุกๆภาพจากทุกๆท่านครับ

99
           ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า
                                                                                                                 นายศักดา คงทิม

100
ของดีอยู่คู่คนดีครับ

101
อยากไปด้วย ครับ ใครรู้บอกเส้นทางด้วยครับ :054:
บ้านท่านอยู่แถวไหนครับจะได้บอกถูก หากบ้านท่านอยู่สุทธิสาร (ตามชื่อ 666) มาเจอกันที่อนุสาวรีย์ฯ ไหม จะได้นั่ง 108ไปกัน หากอยากมีเพื่อนร่วมเดินทางพีเอ็มมานะครับ

102
กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

103
จะพยายยามเป็นคนดีให้ได้ครับ ขอบคุณข้อมูลนี้มากๆครับ

104
เกจิระดับประเทศในสมัยนั้นเลยนะครับแต่ยอมรับว่ารู้จักบางรูปเท่านั้น หรือ บางรูปก็ไม่รู้จักชื่อจริง ขอบคุณมากๆครับข้อมูลดีเยี่ยมเลย

105
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ

107
บทความ บทกวี / ตอบ: ภรรยา 4 คน
« เมื่อ: 04 ส.ค. 2552, 08:50:42 »
คิดได้ไงเนี่ย

110
สวยดีครับ แต่น่าจะลบชื่อศูนย์พระสักหน่อย หากทีผู้ใหญ่ดูแล้วเหมือนโฆษณา แล้ว ลบกระทู้ก็จะเสียดายกระทู้ที่มีภาพดีๆไปครับเป็นห่วง

111
สวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

112
กราบนมัสการ และ ขอน้อมเอาไปปฏิบัติ

113
ยินดีด้วยที่ได้ของดีอยู่คู่กายไปตลอดชีวิตครับ

114
ของที่ไหนครับ

115
          20;พี่สาวครับ หากเรามีโอกาสทางการเงินที่ดีก็แบ่งบันให้น้องเค้าคงไม่เป็นไรมั่งครับ 18; (เลี้ยงน้องโค)ดูน้องเค้าอดๆอยากๆผอมๆกันทุกคนเลย สงสารน้องเค้าพี่ 20;

116
กราบนมัสการครับ

117
สำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน ซอยเอกชัย109 ปากทางหมู่บ้านพระปิ่นห้า ถนนเอกชัยบางบอน

118
เสียใจมากที่ไม่ได้ไป แต่ก็ต้องทำใจครับติดภาระกิจ อยากได้เห็นภาพจังเลย

119
ขอบคุณสำหรับภาพดีๆครับ
              หากพูดถึงเรื่องงดเหล้า กระผมขอเลิกเพื่อถวายหลวงพี่ญาเลยครับ ตั้งแต่วันที่ท่านสักเกราะเพชรให้ นี่ไม่ดื่มเหล้าเลย

120
นึกว่าไปเอามาใหม่ กำลังจะงอนเลย รอยเดิมนี่เอง มาเอาอีกซักรอยนะพี่ งานหน้าไปเอาอะไรบอกด้วย ขอเกาะล้อไปด้วยนะ

121
เสือสวยมากครับ หมูก็สวยดีครับ ยินดีด้วย

122
ให้ผู้รู้รู้เค้า ถกกันไปกระผมอ่านแล้วตาลายเลยครับ ยาวต่อยาวผมอ่านแล้วเข้าใจได้ยากตามประสา กระผมก็ขอบคุณครับ ยาวได้ใจเลย

123

ของไหว้ เป็น ของดำ 8อย่างทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ สะดวกมากๆครับ

คาบหญ้าไปทำรังบนนี่เลยนะ น้องนก จะดีไหมนี่ดูปลอดภัยมากเลยนะน้อง

พี่สาวคือว่าไม่ได้เอาตังห์มานะครับ บางอย่างน้องก็อยากได้นะ   ไม่ไม่!!!เธอไม่ต้องมายุ่งกับฉัน:070:


งั้นขอจบกระทู้นี้ ขอบคุณที่ติดตามครับ มีกล้อง 2 ตัว อีก 1 อยู่กับพี่สาว ช่วยลงรูปด้วยนะ

124

ตั้งหน้าตั้งตาไปตั้งแต่ 05.00 น. ตามภาพฟ้าปิดมุมไหนๆก็ไม่เห็นดวงอาทิตย์ สุริยุราคาแท้ๆ
         ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอไปไหว้พระราหูที่วัดศรีษะทอง ซักหน่อยวันนี้วันดี ตามเคยโทรหา เจ๊โชวน้องหยก งานนี้เจ๊ไปได้น้องหยก บาย งานเยอะครั้งนี้ปล่อย 2 แก่ลุย เอเอางี้ชวนอาจารย์เหน่งไปดีกว่า ท่านว่างไหมโทรหาก่อน อ้าวว่างดีเลยเอ้าไปเลยพี่โชวลุย


วัดคนเยอะมากๆหาที่จอดรถอย่างยากเลย



วัดสวยนะครับมาครั้งแรกด้วย



ไหว้หลวงพ่อน้อย ทำสังฆทานก่อนไปกราบพระราหู



ต่อด้วยไหว้พระราหู

1/2
ยังมีต่อนะครับขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย

125
คุณชลาพุชะเดียวกับกับที่บอร์ดอาจารย์เหน่งไหมครับ พอดีกำลังศึกษาข้อมูลสำนัก อ.ประโยชน์ครับ  ทำงานอยุ่แถวอโศก เพื่อจะได้แวะไปหาท่านครับ แนะนำผมบ้างครับ ยินดีได้รุ้จักครับ

http://www.meeboard.com/view.asp?user=arjanneng&groupid=2&rid=87&qid=83
มีอะไร พีเอ็มมาก็ได้ครับ หากตอบได้ก็จะตอบหากตอบไม่ได้ก็จะไปค้นขว้าให้นะครับ ผมก็ศิษย์รุ่นหลังๆครับ

126
ไปที่วัดเลยท่านกุฏิใหญ่ ไปถามพระที่หน้าตู้เลยผมยังเห็นมีอยู่นะ ของแท้แน่นอน

127
ก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ คล้องพระ ทำดี คิดดี พูดดี ก็ได้ดีครับ

128
1.หนุมานเกี้ยวนางสุพรรณมัจฉา
2.ยันต์ลงมงคลวิเศษ
ส่วนอีก 3 ยันต์ที่เหลือต้องรอผู้ที่มีความรู้กว่าผมนะครับ


129
ไม่ได้ไปเป็น 10 ปีแล้วครับ โอ้วเปลี่ยนไปเยอะนะครับ สวยมากๆเลย ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

130
กรานมสัการหลวงพ่อ ด้วยจิตศรัทธายิ่งแล้ว
                                         ขอบคุณท่าน เสือไฟที่เอาเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟัง เอาเหรียญ ปี 19 ไปแจกตอนนั้นผมยังไม่เกิดเลย

131
ขอบคุณลุงต้อที่นำของดีมาให้ชมนะครับ

132
กราบนมัสการครับ มาแบบมีสาระเช่นเดิม ได้อ่านอะไรที่ทำให้ประเทืองปัญญาเพราะหลวงพี่ทุกครั้งไป

133
ยาวดีครับ อ่านเพลินเลย ขอบคุณนะครับ

134
              หากเป็นผม ต้อง ดู ว่าใครเป็นผู้ปลุกเสก ใครเป็นเจ้าพิธี วัดไหนเป็นหลักครับ แล้วสุดท้ายต้องดูเงินในกระเป๋า ว่าพอบูชาไหม บางที่ของบางอย่างอยากได้มากแต่เหลือกำลัง ก็ไม่บูชา
              ก็ดั่งท่านว่า บางคนมือไม่ถึง หรือ ยังไม่ถึงขั้น ได้ปลุกร่วมปลุกเสกเฉยอาศัยเกาะดังหรือไม่ก็วัดหาใครไม่ได้รึปล่าว ผมก็งงๆ ขำๆอย่าคิดมากเลยท่าน ไม่เชื่อก็ไม่ต้องบูชานะท่าน หลับฝันดี เสาร์นี้ เจอกัน ที่ 66

              

135
แหมๆๆๆ ยอมรับว่ารองเท้าสวยแต่อย่าลืม นันยาง ที่คำมีโฆษณา"เค้าเก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วนะ" ของไทยแท้จะได้ ส่งเสริมการกินใช้สินค้าไทย และอย่าลืมกินลำใยช่วยชาตินะครับ

136
สรุปว่าไงนี่รูปนี่พี่โชวเคลียเลย ตามที่รู้จักพี่มา ผมว่าพี่คงคิดได้อยู่มั่ง ว่าอะไรเหมาะสมไหม แต่อยากรู้ เคลียด่วน


138
ต้องขออภัยที่ให้ข้อมูลไม่ได้จริงๆนะครับ ไปที่วัดบางพระเลยครับ ได้ของแท้แน่นอน

139
ชอบมีดหมอเหมือนกัน ครับ
ที่วางไว้ให้บูชา ทันหลวงพ่อเปิ่นปลุกเสกหรือหรือเปล่า ครับ
ท่านใดพอทราบรายละเอียดมีหมอของทางวัดบางพระบ้าง ครับ


ผมเคยสร้างกระทู้ไว้แล้วครับ หากยกข้อมูลและภาพมา จะกลายเป็น ทับซ้อนกระทู้ไปhttp://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,11038.html

140
ป้ายสวยดีครับผู้การ จุดวางก็เยี่ยม

141
ท่านผู้การสมกับเป็นตัวอย่างที่ดีกับชนรุ่นหลังจริง มาแต่ล่ะที่นี่สุดยอด รอชมกระทู้ต่อไปนะครับ

142
หากเป็นเขี้ยวกระผมต้องยกให้ท่านแล้ว ท่าน levis  มาให้ดูแต่ละชิ้นงามๆทั้งนั้นเลยนะครับ
 
 

143
ถ่ายออกมายังผมก็ดู  [shake]ผู้ร้ายเห็นๆ[/shake][/glow][/size]
บางมุมผมชอบมากเลย ถ่ายได้ดีนะ ไม่ได้แกล้งชมพี่สาวนะถ่ายออกมาได้สวยดีจริงๆ

144
ผมก็มองผ้ายันต์อยู่ครับ ตรงตามใจผมเลย ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตัดสินใจ เลิกงานไปมหาชัยหาลุงพงษ์ขอรับผ้ายันต์กลับบ้านครับ

145
   วันนี้ลุงพงษ์ท่านนำของ 2 สิ่งมาให้ดู แล้วบอกให้กลับไปคิด 1 คืนจะเอาอะไร งานนี้กระผมต้องขอพึ่งความรู้ของทุกท่านช่วยผมด้วยว่าผมจะเอาอะไรดีครับ
1.ผ้ายันต์

ยันต์นี่หากจำไม่ผิดน่าจะรุ่น 1
2.เสือแกะ ทำจากเรซิ่ง




มีรูปหลวงพ่อเปิ่น ด้านหลัง ครับ
     งานนี้ต้องขอทุกๆท่านช่วยผมทีรบกวนด้วยครับ

146
ดูจากหนังและรอยสักรุ่นพ่อ ทั้งนั้นเลยนะครับ สวยงามเข็มขลังและคงเจ็บเอาการเลยนะครับ

147
           ขนาดเสือ วัวยังเข้าไปดูดนมได้ แล้ว ดูหนูยังเข้าไปดูดนมแมวได้ เมตตานี้คงเหลือประมาณเลย แปลกดีครับ เคยได้ยินแต่เพิ่งได้เห็นเป็นขวัญตาครั้งแรกเลยครับ

148
รอยสักของพี่แมวเซา น้องขอลงนะพี่นะ สวยดี อาจารย์เหน่งเมตตา พี่มากเลยนะ

149
ด้วยความเคารพครับ
  "หมายกำหนดการ"
ใช้กับพิธีการหลวงครับ
อย่างเราๆท่านๆ ใช้คำว่า"กำหนดการ"ก็พอครับ
   
อย่างไรก็ขอบคุณมากครับ
   สำหรับข่าวสาร
ขอแสดงความนับถือ

             กระผมต้องการเห็นการเตือนแบบนี้ครับ คนที่เขียนผิดจะได้รู้สึกไม่แย่ยอมรับและพร้อมปฏิติตาม ผมยินดีอย่างจริงใจ ที่จะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องครับ ขอบคุณ ท่านGearmour  ด้วยครับ

150
งานนี้ต้องไป เจอกันในงานนะครับ

151
เชี้ยวเสือสวยดีครับ
หากไม่เข้าใจ ส่ง PM มาสอบถามก็ได้นะครับ

152
ตามนั้นเลยครับผู้รู้ให้คำตอบแล้ว

153
          ผมว่าไม่ได้แก้ปัญหาได้และทำทำอะไรให้ดีขึ้นมาได้หรอกครับ ถอดทอนไปก็สมัครใหม่ได้ ยิ่งกลายเป็นมีรายชื่อซ้ำซ้อน ในตอนนี้ บางท่านยังมีหลายชื่อเลย กลุ่มนี้ก็สร้างปัญหาไม่น้อย

154
สำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน ซอยเอกชัย109 ปากทางหมู่บ้านพระปิ่นห้า ถนนเอกชัยบางบอน
***ขอแก้ไขหมายกำหนดการครับ***
กำหนดการไหว้ครู สำนักสักยันต์ อาจารย์ถึง คงทน
วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒
๗.๓๐ น.- พระสงฆ์ สวดธรรมจักร มงคลคาถา
         - พระสงฆ์ ฉันภัตตาหารเช้า
๙.๐๙ น. ?เริ่มอ่านโองการพระเวทย์
-   อาจารย์ถึง นั่งสมาธิอธิษฐานจิตทำน้ำมนต์ สวดมนต์ชุบตัว ปลุกเสกยันต์
   สวดสรรเสริญบูชาครูเลขยันต์ ครูคาถา
-   อาจารย์ถึง รดน้ำมนต์ปลุกเสก แก่ลูกศิษย์ผู้มาร่วมงาน
-   พานแรกครอบเศียรครูฤาษี โดยอาจารย์ถึง คงทน
-   พานสอง ครอบเศียร พระพิฆเนศวร์
-   พานสาม ครอบเศียร หนุมาน
-   หลังเสร็จสิ้นการครอบเศียร ใครจะขออาจารย์ลงนะหน้าทอง ปลุกเสกรายบุคคล ชุบตัวด้วยอาคมคาถา เป่ากระหม่อม ฝังตะกรุด
ไปเรียนขออาจารย์ได้ หลังจากครอบเศียรเสร็จ
ในงานมีอาหารกลางวันเลี้ยง  ของที่ระลึกงานไหว้ครูปีนี้เป็นเหรียญหลวงพ่อประเทือง (ทันหลวงพ่อปลุกเสก) และ ผ้ายันต์รูปเหมือนหลวงพ่อประเทือง
จัดสร้างโดยสำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน
** เริ่มจัดสถานที่เคลียร์ สถานที่สำนัก ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๕๒**
** ตั้งฉัตร วันศุกร์ ที่ ๓๑ กรกฎคม ๕๒ **
** ขึงสายสิญญ์  ติดยันต์รอบสายสิญญ์ วันที่ ๑ สิงหาคม ๕๒ **
ใครว่าง เชิญไปช่วยงานอาจารย์ได้ตามสะดวก
** ตะกรุดสำหรับฝังในงาน เหลือเพียง ๑๐ ดอก ใครต้องการเรียนขออาจารย์โดยตรง **
**  ผู้ไปช่วยงาน มียันต์พิเศษเป็นนะเมตตา สำหรับผู้มาช่วยงาน เรียนขอได้โดยตรง **

ปล.แหมๆๆๆพีโชว กว่าจะ จบป.ตรี เรายังมี อาจารย์ ตั้งเยอะ และทำไม ผมจะมี ครูบาอาจารย์หลายท่านไม่ได้

155
ทำใจเลยท่าน มาเยือน บ้านเขา กองเชียร์ เค้าเยอะ รีบไปเถิดตลาดจะวายแล้ว คงไม่มีกระทู้ทำนองนี้แล้วนะ

156
กราบนมัสการหลวงปู่ด้วย
                                                                     ขอบคุณสำหรับ ภาพและข้อความครับ

                                                                           

157
วันนี้คล้องกล้องไปไม่ไกลครับ ไปกราบขอพรที่เทวสถาน เสาชิงช้า ใกล้ๆ วัดสุทัศฯและศาลเจ้าพ่อเสือครับ

เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า โบราณสถานที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเนศ พระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์ อันเก่าแก่ ไปทีได้ไหว้ครบเลยครับ


ที่เทวสถานนี้ไม่อนุญาติให้เข้าไปถ่ายรูปด้านใน จึงได้แค่ขอนำบรรยากาศโดยรอบมาให้ชมครับ

ไปต่อที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่สามารถไดนไปได้ไม่ไกลจากเทวสถานเท่าไรนัก

ที่ศาลก็ห้ามถ่ายรูปครับเลยเก็บมาได้เท่านี้
จบทริปแบบง่ายๆครับ สวัสดี

158
              ขอเชิญบรรดาศิษย์ของอาจารย์ถึง คงทน มาร่วมงานบูชาครูในวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป


:*: กราบขอบคุณ ท่านผู้ดูแลเว็ปวัดบางพระทุกๆท่านที่อนุญาติให้ใช้พื้นที่ครับ

159
    กระผมก็พยายยามไม่ทำปัญหาให้ท่านเสียใจ ยอมรับว่าเมื่อก่อนทำตัวไม่ค่อยดีแต่ทุกวันของผมคือวันทำเพื่อแม่ เลยไม่มีอะไรทำเป็นพิเศษในวันที่12 สิงหา ผมขอตอบว่าจะ พาแม่ไปกินอะไรอร่อยๆนอกบ้าน เพราะบ้านผมแม่ทำกับข้าว ขอวันที่ 9 ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ไป 1 อย่าง ครับผม ส่วนวันที่ 12 ต้องไปวัดบางพระครับ

160
ความคิดที่ขัดแย้ง อาจมองมีจุดยืน แต่เท่าที่มองจุกยืนของเจ้าของกระทู้คืออะไร อุดมการณ์เพื่ออะไรมองไม่ออกจริง ช่วย PM ถึงผมได้ไหม อาจจะทำให้ผมเข้าใจท่านมากขึ้น ณ.ตอนนี้ ผมมองว่า พี่นนท์ทำถูกต้องนะครับ เพราะอ่านกระทู้ก่อนหน้า และกระทู้นี้ ท่านตั้งได้น่าจะกระทบกระเทือนหลายฝ่ายอยู่นะ

161
กราบนมัสการครับ จะขอจดจำไว้ใช้นะครับ

162
         อยากรู้อะไรผมว่าต้องไปที่วัดครับ ชั่งใจก่อนสัก อะไรเป็นอะไร คนที่สักต้องคิดเอง ราคาผมว่าไม่สำคัญแต่ที่สำคัญ รอยสักนั้นจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต มาไม่ชอบอยากลบที่หลังลบยังไงก็เป็นรอย
      [shake]   ท่านสายัน อยากสักจริงๆรึครับ ใช้พื้นที่เยอะนะ ยังว่างรึครับ [/shake]

163
สวยครับ น่าจะใหญ่เอาเรื่องเลยนะครับ

164
เหมือนเด็กที่ไปดูของเล่นที่ห้าง ไปจ้องดู ตั้งแต่ไปสักครั้งแรก จนหลวงพี่ที่ตู้จำได้ไปวัดที่ไร กราบนมัสการสังขารหลวงพ่อเปิ่น แล้วไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ ต่อจากนั้นทุกครั้ง ต้องเดินไปที่ตู้ แล้วพูดเหมือนเดิม 2 ประโยค ดังนี้
1.หลวงพี่ขอดูมีดอันนี้หน่อยครับ
2.ขอบคุณครับ (แล้วก็ส่งคืนด้วยน้ำตาคลอๆ) 23;

      มาวันอังคารคุยเอ็มกับน้องในเว็ปบางพระ น้องเค้าพึ่งไป ผมเลยถามถึง น้องเค้าว่าไม่เห็น ผมได้ยิน นอนไม่หลับเลย โทรหาพี่สาวให้ไปส่งโดยด่วน ไปก็ยังอยู่ดี แต่ครั้งนี้ ต้องบูชาเลยครับ เป็น มีด ด้ามและฟักทำจากกระดูกช้าง ยาวรวมด้ามฟัก 9 นิ้วครับ งานนี้สมใจเลย 9 เดือนแห่งการรอคอย 33;



            

165
ตั้งใจถ่ายออกมายังไงก็มืดมองไม่ชัด ก็ผมมันมือสมัครเล่นต้องขออภัยครับ เห็นว่าสวยดีเลยนำมาให้ชมครับ

หลวงปู่ทวดด้านหลังเป็นยันต์ 5 แถว




166
บทความ บทกวี / ตอบ: พวกบัวต่ำตม
« เมื่อ: 21 ก.ค. 2552, 12:42:28 »
ทุกกระทู้ของท่านผมชอบหมดเลย ไม่ทำให้เสียเวลาที่จะอ่านจริงๆ

167
       การวางยันต์ขึ้นอยู่กับ พระอาจารย์ที่สักให้ การที่ท่านไปสักเก้ายอดที่อื่นมา แล้วไม่ได้แปดทิศของบางพระนั้น ผมว่าไม่ใช่ เพราะพระอาจารย์ ให้ตามความเหมาะสมของการจัดวางครับ เท่าที่เห็น พระอาจารย์ก็เมตตาท่านมากนะครับ

168
ไม่ต้องมีคำบรรยายเลยครับ ของดีๆทั้งนั้นเลย

169
ขอบคุณครับ ยันต์ที่ ทั้ง 2 ท่าน สัก งดงามมากๆ อาจารย์ท่านไหนเมตตาครับ

170
มาเลยครับ มาลองให้รู้กลับตนเองเลย ผมว่าดีที่สุด

171
ตามที่ท่านโองการยันนะรังสี ตอบไม่มีผิดเพี้ยนครบทุกถ้อยกระทงความครับ

172
กราบนมัสการครับ เข้ามาเพื่ออยากอ่านบทความดีๆ แล้วก็ได้อ่านสมใจ

173
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ สวยดี หายากด้วย

174
ขอขอบคุณท่านมากครับ

175
จากวัดก็สีนี้รึเพนท์เองครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับสวยดี

176
ผ้าผืนแรก ที่เป็นรูปเกจิเอาออกจะเหมาะสมกว่านะครับ ส่วน ผ้ายันต์กวางเหลียวเอาไว้ได้ครับ

177
เมื่อต้นปี ช่วงก่อน ไหว้ครูทางเว็ปเค้าจัดทำขึ้น หวังว่า คงจัดทำอีกครั้งนะครับ ที่ผมใส่อยู่ก็มีแค่ตัวเดียว  :002:

178
:059:คิดได้แล้ว...และต้องทำให้ได้ด้วย...จงแปรเปลี่ยนความคิดนั้นมาสู่การกระทำ....
ขออนุโมทนาด้วย...สาธุ..สาธุ..สาธุ :016:
กราบนมัสการครับ น้อมรับคำสั่งสอนของ หลวงพี่ครับ

พี่โชวครับ ข้อความนี้ จะขอนำไปใช้นะครับ ผมว่า อะไรอะไรเผื่อจะดีขึ้น

179
ยินดีที่ได้รู้จักครับ วันที่ 12 สิงหา นี้ เจอกกันนะครับ

180
มี ลูกแก้ว แล้ว ยังมี พ่อแก้ว อีก สวยงามมากๆครับ

181
ของดีอยู่กับคนดีแล้ว ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

182
เหรียญสวยมากๆครับ คงต้องรอ ท่านผู้รู้แล้วล่ะครับ แต่ยอมรับว่าเพิ่งเคยเห็น สวยงามมากๆครับ

183
       เมื่อก่อน ผมก็แสวงหาคาถาปลุกเพื่อจะได้ปลุกดังใจ และอยากกำหนดของขึ้น แต่พอได้รับคำสั่งสอนจากพระอารย์ท่านหนึ่ง จึงเริ่มเข้าใจว่า ของจะขึ้น ขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานการณ์ จงอย่างให้ขึ้นตามใจเราเป็นการรบกวนครูและสิ่งที่เราสักไปเปล่าๆ
       หากของขึ้นอาจทำให้ดูมีของในตัวสร้างความสบายใจให้ผู้สัก มีจ่ากองร้อย คนหนึ่ง เค้าสักเสือที่บางพระ ท่านนี้ก็ไม่เคยขึ้น โดนยิงที่หัวไหล่ไม่เข้าแตกกระดูกแตก ท่านบอกท่านสักมา 20 ปี ของไม่เคยขึ้นเลย และ กลัวว่าของในตัวไม่มี แต่พอโดนยิงครั้งนี้จึงรู้ว่าของอยู่ในตัวตลอดครูให้ของมาคุ้มครอง บัดนี้เริ่มศรัทธาอย่างสนิทใจแบบไม่ต้อง มีอาการของขึ้น

184
ขอบคุณ บทความดีๆครับ ท่าน นก

185
     สายบางพระไม้กวาดสร้างได้แต่ความเจ็บปวดเล็กแต่ไม่มีอะไรมากและไม่เสื่อม แต่หากเป็น สายชาตรีเก้าเฮ ตีด้วยไม้กวาดกวงๆนอนกอง หรือถึง อาจสลบได้เลย

186
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

187
กราบนมัสการ ครูบาสร้อย
ขอบคุณท่านนายที่นำข้อมูลดีๆมาให้รู้ครับ

188
ของดีอยู่กับตัว ย่อมส่งผลดีให้ชีวิตครับ

189
[shake]งั้นผมปลอดภัยทุกเทศกาลแล้ว [/shake] 20; 20; 20;ถึงอ้วนก็ไม่โดนเชือดเพราะตรงทุกข้อ แก่เกินแกงแล้ว
 

ขอบคุณครับ ที่ทำให้นึกถึงตอนวัยรุ่นช่วงต้นๆในชีวิต แต่ตอนนี้ยังวัยรุ่นตอนปลายนะครับ

190
ผมอ่านเจอบทความนี้แล้วมีมุมมองถึงศาสนาพุทธในหลายมุมมองที่น่าสนใจลองอ่านกันดูนะครับ
         หาก จะตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับศาสนาพุทธ ก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะแม้แต่นักปราชญ์ชาติต่างๆที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา อาทิ เบอร์ทรันด์ รัสเซล,อัลเบิร์ต ไอนสไตน์,อาร์เธอร์ โชเพนเฮาว์ ฯลฯ รวมทั้งซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก เช่น ริชาร์ด เกียร์, โรเแบร์โต บาจโจ ฯลฯ ก็ยังได้กล่าวคำสดุดีและยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

         พุทธศาสนาเริ่มเป็นที่รู้จักกันในตะวัน ตกเมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว โดยในระยะแรกนั้นเป็นเพียงการศึกษาทางวิชาการเท่านั้น แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาจากความนิยมทางหลักวิชาการ ก็กลายมาเป็นที่นิยมในแง่ของ การปฏิบัติมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวตะวันตกหันมาสนใจปฏิบัติธรรมในศาสนาพุทธมากขึ้นนั้น เป็นเพราะความน่าเลื่อมใสศรัทธาของพระหรือครูผู้สอน ที่ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี และมีความรู้ความสามารถในการทำให้ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติได้เข้าใจหลักธรรมและ วิธีการปฏิบัติ จนประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ

         ประเด็นสำคัญที่ น่าคิดก็คือทำไมที่ผ่านมาชาวตะวันตกจำนวนมากจึงหันมาหาพุทธ ศาสนา คำตอบก็คือพวกเขาคิดว่า ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นมาก ในแง่ที่ว่าชาวพุทธเป็นผู้รักสงบและไม่ใช้ความรุนแรง

         ในประเทศ อังกฤษเองนั้น เป็นที่ทราบกันดีแล้ว จากข่าวของพระเขมธัมโม พระไทยชาวอังกฤษ ศิษย์ของหลวงพ่อชา ซึ่งได้เข้าไปสอนปฏิบัติธรรมให้แก่นักโทษในเรือนจำของอังกฤษกว่า 26 ปี จนเกิดผลดีช่วยลด ปัญหาของเรือนจำได้มาก กระทั่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธที่ 2 แห่ง สหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังมีนักโทษจำนวนมากมายที่หันมานับถือพุทธศาสนา บางรายที่พ้นโทษ ออกมาก็ได้มาเป็นอาสาสมัครในการเผยแผ่พุทธธรรมด้วย พุทธศาสนิกชน ชาวอังกฤษเชื่อว่าศาสนาพุทธจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ และจะเป็นศาสนาที่สำคัญที่สุดในตะวันตก

หากไม่เชื่อ ลองอ่านคำสดุดีที่นักคิดนักเขียน นักปราชญ์ชาวตะวันตก กล่าวไว้ ดังนี้
อาร์เธอร์ โชเพนเฮาว์ (ค.ศ.1788-1860) นักปรัชญาชาวเยอรมัน กล่าวว่า ?ถ้าข้าพเจ้าจะถือเอาผลแห่งปรัชญาของข้าพเจ้าว่าเป็นมาตรฐานแห่งความ จริง ข้าพเจ้าก็ควรมีข้อผูกพันที่ต้องยอมรับพระพุทธศาสนาว่าเด่นเป็นพิเศษเหนือ ศาสนาที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องเป็นที่น่ายินดีสำหรับข้าพเจ้าที่ได้พบว่า คำสอนของข้าพเจ้าเข้ากันได้อย่างใกล้ชิดกับศาสนาซึ่งมนุษย์ส่วนมากนับถือ การเข้ากันได้นี้ ต้องเป็นที่น่าพอใจมาก เพราะในการคิดปรัชญานั้น ข้าพเจ้ามิได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของศาสนานั้น(พระพุทธศาสนา)อย่างแน่นอน?
แมกซมึลเลอร์ (ค.ศ.1823-1900) ศาสตราจารย์ทางนิรุกติศาสตร์ ชาวเยอรมัน ผู้นำในการศึกษาความรู้เกี่ยวกับตะวันออก กล่าวว่า ?ประมวลศีลธรรมของพระพุทธเจ้า สมบูรณ์มาก ที่สุดที่โลกเคยรู้จักมา?

เอช. จี. เวลส์ (ค.ศ.1866-1946) นักประพันธ์ นักหนังสือพิมพ์ และนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้ริเริ่มการเขียนนวนิยายทางวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ?พระพุทธศาสนาได้กระทำไว้มาก ยิ่งกว่าอิทธิพลอื่นใดที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เพื่อความก้าวหน้าแห่งอารยธรรมของโลก และวัฒนธรรมที่แท้จริง?

เบอร์ทรันด์ รัสเซล (ค.ศ.1872-1970) นักปรัชญา นักเขียน นักคณิตศาสตร์ และนักต่อสู้คัดค้านอาวุธนิวเคลียร์ ชาวอังกฤษ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ในปี 1950 กล่าวว่า?พระพุทธศาสนาเป็นการ รวมกันของปรัชญาแบบพินิจความจริง กับวิทยาศาสตร์ ศาสนานั้นสนับสนุน วิธีการทางวิทยาศาสตร์ และติดตามวิธีการนั้นจนถึงที่สุด ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นศาสนาแห่งเหตุผล ในพระพุทธศาสนาเราจะได้พบคำตอบที่น่าสนใจ เช่น จิตใจกับวัตถุคืออะไร? ระหว่างจิตใจกับวัตถุนั้นอย่างไหนสำคัญมากกว่ากัน? เอกภพเคลื่อนไปหาจุดหมาย ปลายทางหรือไม่? พระพุทธศาสนาพูด ถึงเรื่องที่วิทยาศาสตร์ยังหานำทางไปได้ไม่ เพราะความจำกัดแห่งเครื่องมือ ของวิทยาศาสตร์ ชัยชนะของพระพุทธ ศาสนาเป็นชัยชนะทางจิตใจ?

ศาสตราจารย์คาร์ล กุสตาฟ จุง (ค.ศ.1875-1961) นักจิตวิทยา ชาว สวิสส์ กล่าวว่า ?ในฐานะเป็นนักศึกษา ศาสนาเปรียบเทียบ ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สมบูรณ์มากที่สุดที่โลกเคยพบเห็น มา ปรัชญาของพระพุทธเจ้า ทฤษฎีวิวัฒนาการและกฎแห่งกรรม (ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว) ยิ่งใหญ่เหนือลัทธิอื่นอย่างห่างไกล?

อัลแบร์ต ชไวเซอร์ (ค.ศ.1875-1965) แพทย์นักสอนศาสนาชาวฝรั่งเศส นักเทววิทยา และนักดนตรี ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 1952 (พ.ศ.2495)บอกว่า ?พระองค์ (พระพุทธเจ้า)ได้ทรงแสดงออกซึ่ง สัจธรรมอันมีคุณค่าเป็นนิรันดร และได้ ทำให้จริยธรรมมิใช่ของอินเดียเท่านั้น แต่ของมนุษยชาติก้าวหน้าไป พระพุทธ เจ้าเป็นผู้หนึ่งในบรรดาอัจฉริยมนุษย์ทางศีลธรรม ที่โลกเคยได้มา?
อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ (ค.ศ.1879-1955)นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ กล่าวว่า ?ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คืออ้างเทวดา เป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนความสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจากประสบ- การณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจ อย่างเป็นหน่วยรวมที่มี ความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้ ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระ พุทธศาสนา?
อัลดัส ฮักซลี่ย์ (ค.ศ.1894-1963) นักเขียนนวนิยาย ชาวอังกฤษ กล่าวว่า ?ในบรรดาศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลกทั้งหมด พระพุทธศาสนาเพียงศาสนาเดียว ที่ดำเนินไปโดยปราศจากการเบียดเบียนคนทั้ง การตรวจควบคุม และการซักถามสอบสวน (ซึ่งมีลูกขุนหรือเจ้าหน้าที่ดำเนินการ เพื่อจะเอาผิด หรือควบคุมผู้ไม่นับถือ) ในแง่เหล่านี้ทั้งหมด ประวัติของพระพุทธ ศาสนายิ่งใหญ่มากเหนือศาสนาอื่นซึ่งดำเนินไปในระหว่างประชาชน ผู้ติดอยู่ กับระบบทหาร?

เจ.โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (ค.ศ. 1904-1976) นักฟิสิกส์ ชาวอเมริกัน ผู้นำในการพัฒนาระเบิดปรมาณู กล่าวว่า ?ขอยกตัวอย่าง เช่นเราถามว่า ฐานะของอิเล็กตรอนเป็นอันเดียวกันใช่หรือ ไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ ถ้าเราถามว่า ฐานะของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไปพร้อมกับกาลเวลาใช่หรือไม่? เราจะต้องตอบ ว่าไม่ ถ้าถามว่า อิเล็กตรอนหยุดพักใช่ หรือไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ ถ้าเราถามว่ามันเคลื่อนไหวใช่หรือไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานคำตอบเช่นเดียวกัน เมื่อทรงได้รับคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวตนของมนุษย์ภายหลังความตาย แต่คำตอบเหล่านั้นมิใช่คำตอบที่คุ้นกับจารีตประเพณีของวิทยาศาสตร์ สมัยศตวรรษที่ 17และ 18?

สำหรับซุปเปอร์สตาร์ที่คนทั่วโลกชื่นชอบ และคลั่งไคล้กันนั้น การที่เขาสนใจและบางรายถึงกับเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ พร้อมอุทิศตนทำงานเพื่อช่วยจรรโลงพุทธศาสนานั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งที่ระลึกของพวก เขาได้อย่างแท้จริง

ทอม ครูซ (Tom Cruise) ชาวอเมริกัน พระเอกหนุ่มเนื้อหอม ผู้มี ชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง ?Misson Impossible? ได้กล่าวยกย่องพุทธศาสนา ในการแถลงข่าวงานเปิดรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องใหม่ที่เขาแสดงนำคือ ?The Last Samurai? ณ โรงแรมริซท์ กลางใจกรุงปารีส ว่า หลังจากที่ตนได้ศึกษาบทนำจากหนังเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้อง ทำความเข้าใจในปรัชญาตะวันออก ทั้งพุทธศาสนาและศิลปะบูชิโดของญี่ปุ่น ทำให้ตนได้เรียนรู้หลักการดำเนินชีวิต ที่เรียบง่าย และยืดหยุ่น ซึ่งสามารถนำ มาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้เขายังได้กล่าวยกย่องศาสนาพุทธว่าเป็นศาสนาที่เป็นรากฐานของวิทยา ศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งสอนให้คนรู้จักตนเองและมอบความรักเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ และถือว่าการได้สัมผัสกับพุทธศาสนาเป็นประสบการณ์ทีี่่มีค่ายิ่งในชีวิตของ เขา

ริชาร์ด เกียร์ (Richard Gere) ดาราชื่อก้องชาวอเมริกัน ได้ชื่อว่าเป็นดาราหนุ่มที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในปี 1980-1990 ภาพยนต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากก็คือ Pretty Woman(1990) และเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา เขาก็คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 60 ในฐานะดารานำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนต์เรื่องชิคาโก

ริชาร์ด เกียร์ หันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จนพบว่าศาสนาพุทธให้คำตอบกับชีวิตของเขาได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และใช้เวลานอกจอช่วยเหลืองานขององค์ทะไลลามะ ในการเผยแผ่ศาสนา และเมื่อครั้งที่มีการประกาศรางวัลออสการ์ปี 1993 ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับล้านๆ คู่ ริชาร์ด เกียร์ ก็ใช้เวทีนี้เรียกร้องความรักและสัจธรรมให้กับมวลมนุษย์ และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 45 นั้น ริชาร์ด เกียร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขากำลังศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์

เกียร์เคยพูด ว่า เราต้องคิดว่าบรรดาผู้ก่อการร้ายนั้นได้ก่อความเลวร้ายให้กับชีวิตภายหน้า ของพวกเขาไว้แล้ว เรียกว่าสร้างกรรมชั่ว และเราจะต้องมองให้กว้างไกลว่าเราทุกคนต่างเกี่ยวโยงกับการกระทำครั้งนี้ เช่นกัน เขาย้ำว่า เราต้องให้ความรักและเมตตากับทุกคน ไม่เว้นแม้พวกที่ก่อการร้าย ถ้าเราทั้งหลายสามารถที่จะมองพวกผู้ก่อการร้าย ด้วยความคิดว่าเขาเหล่านั้นคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ยาที่จะรักษาพวกเขาได้ก็คือ ความรักและเมตตานั้นเอง ไม่มีอะไรจะดีกว่านั้นอีกแล้ว

สตีเว่น ซีกัล (Steven Seagal) พระเอกนักบู๊ชื่อดังของฮอลลีวู้ด ชาวอเมริกัน โด่งดังขึ้นมาในฮอลลีวู้ดในฐานะพระเอกหนังแอ๊คชั่น หนังเรื่องล่าสุดของเขา คือ Exit Wounds ซีกัลได้ศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งมีลามะในทิเบตบางรูปพูดถึงเขาว่า เขาเป็นอดีตลามะองค์สำคัญที่กลับชาติมาเกิดทีเดียว

โรเแบร์โต บาจโจ (Roberto Baggio) นักฟุตบอลชื่อดังชาวอิตาลี หันมาสนใจพุทธศาสนา หลังผ่าตัดเข่าข้างขวา และต้องหยุดเล่นนานถึง 2 ปี ช่วงนี้เขาต้องฝึกกายภาพ ด้วยความหวังที่เลือนลาง และไม่มีความสุข หงุดหงิด อารมณ์เสียบ่อยครั้ง เมาริซิโอ โบลดรินี เจ้าของร้านขายแผ่นซีดี ซึ่งโรเบอโต้เป็นลูกค้าประจำที่ร้าน จึงได้แนะนำให้เขาสวดมนต์ บาจโจรู้สึกดีขึ้นมาก และหันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนา จนนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง กระทั่งอาการบาดเจ็บที่เข่าของ เขาค่อยทุเลาลง และสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง

บาจโจ บอกไว้เมื่อ พ.ศ.2539 ว่า แม้จะปฏิบัติธรรมได้เพียง 8 ปีเท่านั้น แต่บุญกุศลที่ได้รับนั้นมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้หมด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเอง เพราะก่อนหน้าที่จะหันมาปฏิบัติธรรมนั้น เขาเป็นคนที่จะต้องคิดในรูปแบบที่ตัวเองวางกรอบ หรือกำหนดไว้แล้ว หรือไม่ก็ตัดสินสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ความคิดของตนเองเป็นหลัก และคิดว่าการกระทำเช่นนี้ของตนถูกต้องเสมอ แต่หลังการปฏิบัติธรรมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมายในชีวิตจิต วิญญาณของตัวเอง ซึ่งต้องใช้สติปัญญาในการตัดสินใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากเพราะบางครั้งจิตใจก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางกาย

บาจโจบอกว่าสำหรับชาวอิตาเลียน แล้ว พุทธศาสนานั้นอยู่ห่างไกลและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และชาวอิตาเลียนจะมีความเชื่อในความคิดเห็นของตนเองมากและไม่ต้องการศึกษา เรียนรู้ หรือเข้าใจปรัชญาอื่นๆ ที่แตกต่างไปจากที่ พวกเขาเคยรับรู้มา แต่จะตัดสินสิ่งต่างๆ ตามความคิดเห็นของตนเอง สำหรับเขาแล้วการตัดสินใจหันมานับถือพุทธศาสนา ไม่รู้สึกว่าขาดความ เชื่อมั่น และไม่แคร์ว่าใครจะพูดว่าอย่างไร เพราะเป้าหมายของตนคือต้องการจะเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุด
....

ไม่ เพียงแต่คนดังเหล่านี้ที่หันมาสนใจและประพฤติปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมเท่า นั้น ยังมีชาวตะวันตกอีกมากมายที่มุ่งหน้าค้นหาสัจธรรมของชีวิต เดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นทิเบต ภูฐาน ศรีลังกา พม่า หรือประเทศไทย เพื่อการศึกษาหลักธรรมคำสอนและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง คอร์สอบรมวิปัสสนาที่วัดหรือหน่วยงานบางแห่งในบ้านเราจัดขึ้นสำหรับชาวต่าง ชาตินั้นได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
คัดลอกมาก-http://www.dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/t15679.html

191
หากสักในปี 45 ได้เป่าก็ยากแล้วครับ เรื่องสักผมว่าไม่มีทางครับคิดดูสิครับ หลวงพ่อ มรณะ 30 มิถุนายน 45 คนที่สักยันต์ที่วัดบางพระก็หวังที่จะให้หลวงพ่อสัก หรือ เป่าให้ ไม่แปลกที่จะพูดเกินจริงบ้าง ท่านเจ้าของกระทู้ทำถูกแล้วครับ หากไม่มีอะไรร้ายแรงนักก็ปล่อยไปเถิดครับ

192
    น่ากลัวครับ ขนาดท่านทั้งหลายนำความรู้และตำหนิมาให้ดู ยอมรับเลยว่าแยกไม่ออกงานนี้ไม่รู้ไหนจริงไหนปลอมเลยครับ ต้องขอบคุณทุกๆท่านที่มอบความรู้ให้นะครับ

193
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

194
ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาให้ชมนะครับ

195
พี่สาวครับเก็บให้ผม ด้วยนะ ตอนนี้เหลือกี่ดอกครับ

196
เป็นศิริมงคลอย่างยิ่งครับ

197
ขอบคุณภาพบรรยากาศวัดสามง่ามที่นำมาให้ชม ผมยังไม่เคยไปเลยครับ มีรถประจำทางไหมครับ อยากรู้จะได้ไปสักที

198
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

200
ขอบคุณท่านที่นำข้อมูลดีๆมาให้อ่านให้คิดกันครับ

201
กระผมทำความเข้าใจถึงข้อความในกระทู้ เมื่อคิดตามยิ่งอ่านยิ่งมีความรู้ครับ

202
กระผมยอมรับเลยว่าไม่ชอบบทความยาว แต่อ่านข้อความในกระทู้ของผู้การแล้ว ยอมรับว่าหากอ่านไม่จบไม่ยอมเลิก

203
มาอ่านกระทู้นี้ได้ความรู้เต็มๆเลยครับ

204
ท่านช่างเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้ดูเป็นแบบอย่างอันดีของการดำเนินชีวิต

205
http://www.zoomhit.com/map/result.jsp?spc=NAzBOTIDNTCB9X0hZkZ49TYy7A7w7kZG9TEBOTIFNTzmZHgPNTzwJmRG9TUw7kZ6b2Pt9Tvu7kZBaW1l9TcwN3CyNAUGNkZw9Xv(&name=%C7%D1%B4%A1%D2%CB%C5%A7&target=LTIANjcFNjUANT1wYWvme3B27j7A73zmeTBFN3CF7jUwJnRpbWUPLTIANjcFNjUANSZw9Xv(&lang=th&addr=6049&loc=7TvyOTC2OTCy7j1wYWvmaWvP7Tzw7TU1JnRpbWUP7TvyOTC2OTCy7iZw9Xv(&maptype=1&notransit=500&nomustsee=520&nogreat=519&nogood=518&nointeresting=517&nohotel100=520&nohotel60=519&nohotel30=518&nohotel0=517
โหลดแผนที่ตามนี้เลยนะครับ จะเอามาให้ลงแล้วครับติดที่ขนาด

206
ผมยังไม่เคยไปกราบนมัสการเลย ทั้งที่ผ่านตั้งแต่เด็ก คงมีโอกาสเข้าไปกราบนมัสการสักครั้ง  ขอบคุณภาพและข้อมูลนะครับ

207
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: สรุป
« เมื่อ: 16 ก.ค. 2552, 05:48:11 »
 ข้อความดีครับได้ความรู้ดีเลยครับ

208
ขอบคุณภาพและข้อมูลครับ

209
  3.การเป่ายันต์เกราะเพชร..ทำเพียงครั้งเดียวพอ..ไม่ต้องซ้ำ ! (ซ้ำ..จะทำให้เสื่อมลง..) จะติดอยู่ตรงหน้าผากและติดไปจนวันตายบางคนเผาแล้วก็ยังเห็นยันต์ที่หน้าผาก ? ผู้การเสือ?  ได้รับการเป่ายันต์เกราะเพชร..โดยตรงกับลพ.ฤาษีลิงดำ จึงไม่ต้องไปเป่าที่สำนักไหนอีก..ครับ
ขอยกข้อนี้มาสอบถามผู้รู้สักหน่อยนะครับ ตอนนี้กระผมตกใจเมื่อได้อ่านอย่างมาก ผมเองเคยเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะห์เพชร เมื่อปีที่แล้ว แล้วทางวัดบอกต้องมาทุกปี ผมเลยไป อีกเป็นครั้งที่ 2 เลยงง กับ ที่ผู้การบอก มันขัดแย้ง และน่ากลัวสำหรับผมครับ อันนี้ ขอความรู้จริงๆนะครับ ใครจ้องจะป่วน กระทู้นี้ผมขอนะครับ กังวลใจมากครับตอนนี้ จึงขอเรียนถามผู้การ 2 ข้อครับ
1.กระผมได้เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะห์เพชร มา 2ครั้ง หากเป็นดังท่านว่า ก็ไม่ต้องไปอีกแล้วใช่ไหมครับ
2.ขั้นตอนจองพิธีสวกยันต์เกราะห์เพชรนี้เป็นไงครับ ผมจะได้มาเปรียบเทียบที่ผมได้ร่วมพิธีมาครับ
                                                                                                ได้โปรดให้ความรู้กับผมด้วยครับ
                                                                                                                   ชลาพุชะ

210
ขอบคุณครับ บทนี้แปลงได้อีกหลายบทนะครับ เกราะเพชร วางแบบนี้แต่ต่างที่มีการโยงระหว่างอักขระ

211
แหมสอน ลูก สอน หลานให้โพสท่าเมื่อเห็นกล้องแต่น้อย ไม่ทิ้งเชื้อเลยนะ รูปสวยดี สมกับเป็น สาวนายก

212
ไปไหนมาไหนถ่ายรูปมาให้ดูแบบนี้ดีหน่อย ขอตินิดนึง ของฝากล่ะครับ

213
ยอมรับว่าอาจารย์หนวดท่านใจดีกับศิษย์ทุกคน เสียดายที่ท่านมา เสาร์-อาทิตย์-จันทร์เช้า ครับ

215
ชอบเสือมากๆครับ สวยดี ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

216
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่นำสิ่งดีๆมาเสนอครับ

217
        ตะกุรดมีเยอะครับหลายดอกทันหลวงพ่อสุด บางดอกไม่ทันบ้างไปดูเลยครับมีตู้ให้บูชา มีดอกหนึ่งพระที่ตู้บอกเป็นตะกรุดรุ่นเดียวกับที่ตี๋ใหญ่ใช้ ราคาสูงครับสำหรับผม
        ผมเคยได้รับความรู้จาก น.ท.มงคล ทัศมาลี ซึ่งท่านเคยบวชที่วัดกาหลง แล้ว หลวงพ่อสุดเป็นพระคู่สวดให้ ท่านกล่าวว่า"สักยันตะกร้อเหนียวทนแบบตะกร้อ ยันต์ตะกร้อพุทธคุณด้านเหนียว คงทนต่ออาวุธทุกชนิด"

218
ตามนั้นเลยครับ อย่างท่านก๊อต ท่านโจร ท่านปลัดว่า
                                               ว่าแต่จะเบิก 3ตาแล้วได้อะไรครับ ขอความรู้ได้ไหม ไปได้ข้อมูลมาจากไหนครับเพิ่งเคยได้ยิน

219
อารมณ์แบบนี้ผมก็เคย อ่านแล้วเข้าใจเลย

220
   หลวงพ่อสุดเป็นอาจารย์ ของนายทหารยศสูงๆ นายตำรวจยศใหญ่ๆก็มี ทำไมมาจำได้แต่เป็นอาจารย์โจรก็ไม่รู้ มีนายทหารเรือตอนนี้ลาออกเป็นอาจารย์สอนวิธีรักษาโรคด้วยสมุนไพร มีทหารตอนนี้ยศนายพลอีกหลายคนก็ศิษย์หลวงปู่สุดนะครับ
   เหรียญสวยมากๆครับทั้ง 2 เหรียญเลย

221
ปากหนุมานเฉียดสะดือนิดเดียวเองเจ็บเอาเรื่องแน่เลย
เสือตีนโตดูดุมากๆเลยครับ สวยมากเลยเหมือนมีชีวิตเลยครับ
หลังท่านสวยมากครับใกล้เต็มแล้วครับ

222
มีประโยชน์สิครับ จะแสนแล้วรึ ดีนะนี่ช่างสังเกตุมากๆ

223
            แหมๆๆๆ ก็หมาแพนดี้ หมีแพนด้า มันของนอกนี่ ใครๆก็สนใจเป็นธรรมดา จุดขายสวนสัตว์เค้า หาเงิน เข้าสวนสัตว์ได้เงินปีหลายกระบุ้งโกย เอาเห่อะช่วยหาเงินอีกหน่อยก็ปล่อยกับบ้านเอง

226
หนุมานเชิญธงครับ สวยงามมากครับ

227

ผมมีรุ่นเหมือนท่านล่างสุดด้านขวาไม่ทราบว่าเป็นรุ่นอะไรปีอะไรครับ ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณ

229
ฮาครับ คิดได้ไง ตรงมากๆ

230
ถ่ายภาพได้มีอารมณ์กับสถานะการณ์จริงๆ เหมือนเดินไปด้วยกับท่านเลยครับ ขอบคุณภาพและข้อมูลนะครับ

231
ขอบคุณครับสำหรับ

คำตักเตือน ของพวกพี่ๆ ครับ


ผมจะนำไป ปรับปรุง ครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ

232
ไม่ได้เห็นรูปนี้มานานแล้ว นำมาโพสกี่ทีก็สวยครับ

233
        ผมแปลกใจมากเลย สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินตอนต้น ข้าราชการ ต้องมีรอยสัก บางรอยสัก ต้องเจ้านายใหญ่ๆถึงจะสักได้ด้วยซ้ำ มาหายไปช่วงไหนผมก็ไม่ทราบแต่เสียดายในความเป็นไทย ก็อย่างที่หลายๆท่านตอบ สักได้แต่ต้องอยู่ในร่มผ้าครับ

234
กราบนมัสการหลวงพี่ปุญฺญานุสฺสติ

235
     งานนี้ไม่ได้ไปต้องกราบขออภัยหลวงพี่ด้วย เอาไว้วันที่12 สิงหา จะไปหาที่วัดนะครับ กว่าจะได้มาดูกระทู้นี้หาแทบแย่ ถึงต้องพึ่งท่าน ปอ ช่วยหาให้  :075:

236
มีครับ หลวงพี่ญาวัดเหลียว จังหวัดลำปางครับ ตอนไหว้ครูวัดบางพระหลวงพี่ท่านก้มาครับ แต่ไม่มีโอกาสไปสักกับท่าน ลองไปดูนะครับ

237
ขอกราบนมัสการ หลวงพ่อ หลวงปู่ ทุกรูป
                                                 ขอถวายพระพรขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
                                                                                                     ขอบคุณที่นำภาพดีๆมาให้ชม

239
มีต่ออีกนิดหน่อยครับ


พอเย็นผมก็เวียนเทียนที่วัดนี้ มีชาวต่างชาติมาเวียนด้วย
ขอจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีโชคดีมีชัยจงมีแก่ทุกๆท่านครับ

240
7.วัดอมรินทรารามวรวิหาร
     วัดอมรินทรารามวรวิหาร หรือ วัดบางหว้าน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 566 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดราชวรวิหาร ต่อมาได้ถูกจัดเป็น ชั้นตรีชนิดวรวิหาร ตามประกาศลงวันที่ 30 กันยายน 2548
ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ แล้วสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังหลังได้โปรดสถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่ได้เป็นผู้สถาปนาขึ้นใหม่หมดทั้งพระอาราม คือ สร้างพระอุโบสถ พระระเบียง วิหาร กำแพงแก้ว ศาลาราย หอระฆัง หอไตร หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ เสนาสนะ และ ถนนในพระอาราม รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอมรินทราราม" คู่กับวัดบางหว้าใหญ่ ที่เปลี่ยนชื่อเป็นวัดระฆังโฆสิตาราม




แก้บนด้วยไข่ต้มสอบถามส่วนใหญ่จะขอเรื่องลูก น้องสาวที่ห่างกัน17ปีกับผมก็ขอที่นี่ครับ แม่เค้าว่ามานะ

8.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
                     เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ?วัดระฆังโฆสิตาราม? นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ ?วัดระฆังโฆสิตาราม? เป็น ?วัดราชคัณฑิยาราม? (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา
วัดระฆังโฆสิตารามมีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก







9.วัดอรุณราชวราราม            
         เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังที่ประทับนั้น ทรงเอาป้อมวิชัยประสิทธิ์ข้างฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งตัวพระราชวัง แล้วขยายเขตพระราชฐานจนวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์สมัยอยุธยา และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ใน พ.ศ. 2322 ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามใน พ.ศ. 2327
ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า ?วัดอรุณราชธาราม? ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้นและให้ยืมมงกุฎที่หล่อสำหรับพระพุทธรูปทรงเครื่องที่จะเป็นพระประธานวัดนางนองมาติดต่อบนยอดนภศูล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ?วัดอรุณราชวราราม?





       อ้าว!!!!! เครื่องเป็นอะไรก็ไม่รู้ครับ มีจรเข้มาตรง จะดึงรูปเฉยเลย เอาไว้คอมผมดีแล้วจะมาโพสเพิ่มนะครับ

241
ยินดีตัวนะครับ งดงามมากเลย

242
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: where2
« เมื่อ: 09 ก.ค. 2552, 11:20:12 »
ไปไหนกันรึครับเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ

243
ชลาพุชะไปอยู่ไหนนี่ ตกข่าวใหญ่ไป 1 นั่งน้ำตาคลอ อดของดีเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับของดีไปอยู่กับคนดี ผมยินดีด้วยครับ

244
4.วัดใหม่อมตรส
แม้ว่าตามธรรมเนียมของวัดโบราณ หลายวัดนั้นมักจะสร้างให้อยู่ติดริมน้ำเพื่อที่จะให้พระสงฆ์องค์เจ้ารวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ได้สัญจรไปมาได้โดยสะดวกในยุคที่บ้านเมืองเรายังไม่มีถนนนั้น จะมีวัดหลวงอยู่บางวัดเหมือนกันที่ไม่ได้สร้างติดกับริมน้ำ ส่วนหนึ่ง น่าจะมาจากเหตุที่ว่าวัดบางวัดเหล่านี้ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน ก่อนที่จะได้รับการบูรณะ โดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ จนกลายมาเป็นวัดหลวงตามธรรมเนียมนี้อย่างเช่นที่ วัดเอี่ยมวรนุช , วัดอินทรวิหาร หรือแม้แต่ วัดใหม่อมตรส ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ตรงบริเวณแยกบางขุนพรหมนั้น ก็เป็นอีกวัดที่สร้างกันมานาน ตั้งแต่ก่อนที่ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจะสถาปนา บางกอกให้เป็นเมืองหลวง วัดใหม่อมตรสนี้ แต่เดิมเป็นวัดใหญ่มีชื่อว่า วัดบางขุนพรหม ซึ่งมีชื่อตามตำบลที่ตั้ง ต่อมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำริ ให้มีการสร้างถนนขึ้น แล้วผังเมืองในการสร้างถนนในคราวนั้นปรากฏออกมาว่า ต้องผ่าวัดออกเป็น 2 พื้นที่ โดยมีถนนตัดผ่านกลาง วัดบางขุนพรหมนี้ จึงได้กลายเป็น 2 วัดพร้อมทั้งมีชื่อใหม่ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามให้ โดยวัดที่ตัดออกมาทางทิศเหนือนั่นเรียกว่า วัดอินทรวิหาร ส่วนวัดทางทิศใต้มีชื่อใหม่ว่า วัดใหม่อมตรส ซึ่งแปลว่า รสที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยทรงตั้งให้เป็นไปตามพุทธภาษิตที่ว่า สัพพะ รสัง ธัมม รสัง ชินาติ รสทั้งปวง ธัมมรสชนะรสทั้งปวง


5.วัดชนะสงครามวัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง เดิมเรียกว่าวัดกลางนา เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็นวัดตองปุ และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง
วัดชนะสงครามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงเริ่มดำเนินการก่อสร้างที่บรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายพระราชวังบวรสถานมงคลที่เฉลียงพระอุโบสถด้านหลังตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวงทรงพระราชอุทิศพระราชทรัพย์ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ดำเนินการ แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ราชบัณฑิตยสภาดำเนินการก่อสร้าง ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเป็นนายกราชบัณฑิตยสภาและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้น ได้มีพิธีอัญเชิญพระอัฐิจากพระราชวังบวรสถานมงคลไปประดิษฐานใน พ.ศ. 2470




6.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
         วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า ?วัดมหาสุทธาวาส? โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า ?วัดสุทัศนเทพวราราม? ปรากฏในจดหมายเหตุว่า ?วัดสุทัศนเทพธาราม? และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี" "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี"
ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. 2493 และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี







ปาท่องโก๋นอนเอาแรง มีต่ออีก3วัดนะครับ
             2/3

245
      ตอนแรกวางแผนจะไปไหว้ที่อยุธยา โดยขับรถไปเส้นเอเชีย แต่แม่ว่าขากลับหากดึกกลัวแก๊งปาหิน เลยเปลี่ยนแผนเอาแถวบ้าน งั้นก็ตามใจแม่เลยครับไปไหนไปกัน แม่ออกเงินค่าน้ำมัน [shake]ไปเลย งานนี้มีน้องปาท่องโก๋ขอไปด้วย[/shake]
1.วัดสามัคคีสุธาวาส
วัดในซอยบ้านผมครับ
2.วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)
วัดตั้งอยู่ไม่ไกลกับตลาดบางบัวทองครับมีป้ายบอกตลอดทางครับ ไปถึงที่จอดรถสะดวกสบายดีครับ คนเยอะพอให้รู้ว่าวันหยุด



ลอยเทียนรูปดอกบัวที่อ่างน้ำฐานเจ้าแม่กวนอิมครับ



ท้าวจตุโลกบาล (ท้าวธตรฐ /ท้าววิรุฬหก /ท้าววิรูปักษ์ /ท้าวกุเวรหรือท้าวเวชสุวรรณ) แหมของจีนก็มีความเชื่อตรงกันกับไทย ต่างที่รูปร่างกับอาวุธ






กำลังจะกลับมีป้ายบอก ปีจอชงกับปีวัว น้องปาท่องโก๋เลยร้อนใจขอนิดนึงนะเพื่อความสบายใจ
3.วันอินทรวิหาร
เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. 2295 เดิมชื่อ "วัดไร่พริก" อยู่ในบริเวณสวนผักของชาวจีน อุโบสถก่ออิฐสร้างแบบเตาเผาปูน ไม่ปรากฏนามผู้สร้างวัด

ต่อมาสมัยกรุงธนบุรี ปี พ.ศ. 2321 พระเจ้าสิริบุญสาร ผู้ครองนครศรีสัตนาคนหุต ได้ยกทัพรุกรานมาถึงบ้านดอนมดแดง (จังหวัดอุบลราชธานี-ปัจจุบัน) ได้จับพระลอ ผู้สวามิภักดิ์ในพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้ากรุงธนบุรี แล้วทำการประหารเสีย เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบก็ขัดเคืองพระทัย จึงโปรดฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเป็นแม่ทัพ พร้อมด้วยพระยาสุรสีห์ กรีฑาทัพขึ้นไปปราบปราม และสามารถตีเมืองเวียงจันทน์แตก ส่วนพระเจ้าสิริบุญสารได้ลี้ภัยไปอาศัยในแดนญวน ภายหลังเสร็จศึกสงคราม สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้นำตัวเจ้าอินทวงศ์ โอรสในพระเจ้าสิริบุญสาร ลงมากรุงธนบุรีด้วย และโปรดเกล้า ฯให้เจ้าอินทวงศ์และคณะพำนักตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ ณ บริเวณ ตำบลไร่พริก (แขวงบางขุนพรหม-ปัจจุบัน) เจ้าอินทวงศ์มีศักดิ์เป็นน้าชายของเจ้าน้อยเขียว เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ธิดาคนหนึ่งของเจ้าอินทวงศ์ นามว่า เจ้าทองสุก กับ เจ้าน้อยเขียว ได้เป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เจ้าอินทวงศ์เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เมื่อได้มาอยู่ใกล้วัดอินทรวิหาร จึงได้เข้าดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์เปลี่ยนรูปทรงเสียใหม่ ก่อด้วยอิฐถือปูน ดังแบบที่ปรากฏมาถึงปัจจุบัน ได้สร้างศาลาการเปรียญ ขุดคลองเหนือ-ใต้วัด และด้านหลัง เมื่ออารามมั่นคงดีแล้ว จึงได้อาราธนาท่านเจ้าคุณอรัญญิก(ด้วง) ผู้เรืองในวิปัสสนาธุระและใจดี มาช่วยเป็นธุระในกิจการของคณะสงฆ์ และถือเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกที่มีหลักฐานปรากฏยืนยัน ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 พระองค์เจ้าอินทร์ ในกรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพย์ ได้บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ซึ่งปรากฏมากระทั่งปัจจุบัน
ชื่อวัดอินทรวิหาร
- ตั้งชื่อตามที่สถานที่สร้าง คือ วัดไร่พริก สร้างขึ้นในสวนผักของชาวจีน
- ชื่อวัดอินทาราม เปลี่ยนตามนามผู้ปฏิสังขรณ์วัด คือ เจ้าอินทวงศ์ กษัตริย์ของลาว
- ชื่อวัดอินทร์หลวงพ่อโต เพราะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี)ได้ มาสร้างพระยืนใหญ่ คือ หลวงพ่อโต
- ชื่อวัดอินทร์บางขุนพรหม เพราะอยู่ในแขวงบางขุนพรหม (ขุนพรหมเป็นชื่อของหมู่บ้าน ที่ "ขุนพรหม" อยู่)
- ชื่อวัดอินทรวิหาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้คณะสงฆ์เปลี่ยนนามวัดที่มีชื่อพ้องกัน ซึ่งวัดอินทารามไปพ้องกับวัดอินทาราม(วัดใต้) ที่บางยี่เรือ ตลาดพลู สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ( ม.ร.ว. ชื่น) แห่งวัดบวรนิเวศวิหารเป็นผู้เปลี่ยนนาม เป็น "วัดอินทรวิหาร" ในปี พ.ศ.2470 และคงใช้ชื่อนี้ตราบถึงปัจจุบัน


บ่อน้ำมนต์ที่ว่ากันว่าเป็นบ่อที่สมเด็จฯโต ท่านใช้ปลุกเสกในพิธีต่างๆ


มีการเสี่ยงท้ายยกพระครับผมไม่กล้วกลัวยกไม่ขึ้น วันนี้มาไหว้พระ ของดเสี่ยงทายทุกชนิด



ยังมีอีก 6 วัดนะครับ(วัดใหม่อมตรส วัดชนะสงคราม วัดสุทัศ วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดระฆัง วัดแจ้ง)
1/3

247
นมัสการครับหลวงพ่อ.....................
                                           ...........................ขอบคุณท่าน levis   ที่นำภาพมีให้ชม
 

248
    ชวนทำบุญร่วมกันผลบุญจะได้ส่งผลให้เป็นเนื้อคู่กันทุกชาติ ทุกชาติไป [shake]!!!!! [/shake] ไม่ใช่ [/color]
           จะส่งผลให้เจริญ ด้วย อายุ วรรณ สุขะ พละ ลาส ยศ สรรเสริญ สติปัญา ปฎิภาน ธนสานสมบัติ สาธุ

249
     ไปถึงวัดก็ไปกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น และไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ ก่อนสัก ผมก็ทำแบบนี้ทุกครั้ง ทีนี่หากเข้ากุฏิไหนว่างก็เข้าไปเลยครับ หากวันเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดก็คนเยอะหน่อย วันธรรมดาก็คนน้อยเป็นบางวันนะครับ แล้วแต่ดวงครับ  ขอให้โชคดีนะครับ

250
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: again
« เมื่อ: 07 ก.ค. 2552, 08:36:06 »
สวยครับอย่างที่ท่านสมาชิกทั้งหลายออกความเห็น แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือว่านอกจากความสวยงามในแง่แบบศิลปะแล้ว มีประโยชน์อะไรอย่างอื่นอีกบ้างครับที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ อาทิเช่น สักแล้วอยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม 100%อะไรทำนองนี้ และที่สำคัญสักเต็มตัวแล้วหลุดพ้นจากความทุกข์ได้มั๊ยครับ คือผมอยากทราบนะครับ ไม่ใช่ลบหลู่....
ขอตอบแบบ ชลาพุชะนะครับ การสักยันต์คือเอาสิ่งที่เราศรัทธา บูชา หรือ เป็น สิ่งดีมาอยู่กับตัวการสักติดตัวเพื่อไม่ให้หายไปไหน เรื่องได้อะไรจากการสักนี่ ไม่เจอกับตัวเองคนยากที่จะบอก แต่อย่างหนึ่ง คนสักยันต์ที่ต้องการให้ของที่อาจารย์มอบให้มาเป็นของดีคุ้มตัว ไม่ว่า ทางคงกระพัน รึ ทางเมตตา ต้องเป็น คนดีถือศีล และ ต้องสวดมนต์ไหว้พระ หมั่น ทำบุญ ต่างๆ
สรุป การสักยันต์ก็คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แบบเดียวกับ พระเครื่อง ผ้ายันต์ วัตถุมงคลต่างๆ (แต่ก็อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคลครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องไม่ลืมและปฏิบัติตามคำสอนของบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ครับ)

251
หาชมได้ยากทั้งนั้นเลยครับ ด้านล่างใช่ภูธราวดี ปี 06 หรือเปล่าครับ ขอความรู้ครับ.
นมัสการครับหลวงพี่ ตามนั้นเลยครับ ขอให้ข้อมูลเพิ่มคือ ขุนพันธ์เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกด้วยครับ
      ผมเห็นบางกระทู้ ตั้งชื่อ ล่อแหลม รึ ให้คิดแนวสนุกๆ แต่ก็พองาม ซึ่งกระทู้นี้ก็เช่นกัน และ กระผมก็ได้ชี้แจงปิดท้ายแล้ว ว่าเป็นการสร้างชื่อเพื่อให้คิดติดตลก ไม่ได้ส่อไปในทางว่าของทั้งหมดเป็นของผม แต่ประการใด ผมว่าน้อยคนนักที่จะได้ถ่ายรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นความภูมิใจของผม ใครจะคิดยังไงผมไม่ทราบแต่ได้โปรดดูก่อนจะตำหนิ ดูข้อความให้จบ บทสรุปต่างๆก่อนนะครับ ตามเคยต้องมีคนป่วนให้กระทู้นี้โดนทำให้ผิดจุดประสงค์การตั้งกระทู้ แต่กระผมทำใจและเข้าใจ  ขอช่วยดูที่จุดประสงค์และส่วนรวมได้ประโยชน์มากกว่า ใครเป็นคนตั้งกระทู้

252
เมตตาจากหลวงพี่ต้อยและผู้การเสือให้  ..................
ที่หลวงพี่ต้อยพกติดตัวเชิญชมครับ

เขี้ยวเสือทำเป็นที่เก็บยานัด


มาชมของผู้การเสือบ้างครับ
ถ่ายรวมก่อนเลยครับ

เป็นรูปที่หลวงพ่อเปิ่นใช้ทำพาสปอร์วีซ่าและบัตรต่างๆ มีจีวรและเกศา ของหลวงพ่อเปิ่นด้วย
หลวงพ่อพิมพ์ มาลัย ด้านหลังมีเข็มทอง อัจฐิและตะกรุด

พระนางพญา ที่ผู้การว่าบูชามา ราคาสูงที่สุดที่อยู่ในคอของท่านครับ

หลวงพ่อเปิ่น รุ่นพิเศษ 19 ด้านหลังมีเกศาหลวงพ่อ ท่านผู้การเสือบูชาจากซุ้มหน้าวัดตอนปี 49

เหรียญหลวงปู่ศุข เหรียญนี้ท่านผู้การว่าเจอข้างถนน ไปเดินแถวไหนครับอยากไป
ปล.หลวงพี่ต้อยและผู้การเสือให้.....................(ที่เว้นไว้คือ คำว่าถ่ายรูปครับ 666)

253
ประเสริฐแท้ ดีครับ เอาของดีมาแบ่งกันครับ ทำดีได้ดีครับ

254
     แหมๆๆๆ เหรียญหลวงพ่อคุณรุ่นพิเศษ ปี 17 ไงครับ เหรียญก็ระบุไว้ แต่เนื้อนี่ไม่ทราบครับ หากจะว่าแท้ไหม ต้องรอท่านอื่น ผมก็มีรุ่นนี้เป็น นวโลหะ

255
นมัสการครับหลวงพี่

256
ตอนนี้ 400 แล้วครับ เพิ่งไปบูชามาครับ

258
กระผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ หากมีวันไหนที่ไหน กระกรุณา แจ้งด้วย กระผม ยินดีให้ความร่วมมือเท่าที่จะทำได้ครับ

259
ขอบคุณที่นำภาพบรรยากาศในงานมาฝากครับ

260
ชลาพุชะ กราบขออภัยศิษย์พี่ ศิษย์น้องวัดบางพระ
 
กระผม ชลาพุชะ กราบขออภัยศิษย์พี่ ศิษย์น้องวัดบางพระ ทุกท่าน ที่ได้รับข้อความของผม แบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งอาจทำให้พี่น้องหลายท่านสับสน และไม่สบายใจ

สุดท้ายนี้  หากไม่ได้กล่าวคงไม่สบายใจ และไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของชลาพุชะ กระผม? ชลาพุชะ ถือโอกาสนี้กราบขออภัยหลวงพี่ญา ท่านต่าย หลวงพี่นรินทร์ (ท่านเว็บ) พี่โชว และศิษย์พี่ ศิษย์น้องทุกท่าน ที่กระผมออกมาปัดป้อง ปกป้องครูบาอาจารย์ในวิถีที่ไม่เหมาะไม่ควร... และขอได้โปรดอภัยให้กระผมชลาพุชะ (สักดา) ด้วยครับ


ขอแสดงความนับถือ


ชลาพุชะ


(กรุณาเมตตาล๊อคกระทู้เหมือนกับของท่านต่าย เพื่อจุดประสงค์เดียวกันครับท่านโองการยันนะรังสี)


หมายเหตุ:แก้ไขเนื้อหา เนื่องจากเนื้อหามีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สองที่สาม... ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

               และอาจเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก


               หลวงพี่เว็บ...

261
พระธาตุช่อแฮ

ปีขาล เกิดปียี (เสือ) พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุช่อแฮ อ. เมือง จ. แพร่
ตำนานเล่าไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปจะมีเมืองชื่อเมืองแพร่ พระอรหันต์และพระยาอโศก ได้ทูลขอพระเกศาธาตุไปบรรจุโกศแก้ว นำไปไว้ที่ถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ และพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่ง ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้าย มาประดิษฐานที่นี่หลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้ว

ประวัติความเป็นมา

พระธาตุช่อแฮประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ ๙ กิโลเมตร
องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ เช่นเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง สำหรับชื่อที่เรียกนี้ บางท่านอธิบายว่า เดิมมาจากชื่อว่า ช่อแพร และเมืองแพร่ก็คือเมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้ประทานพระเกศธาตุองค์หนึ่ง แก่พระอรหันต์ และพระเจ้าอโศกมหาราช ให้แก่ชาวลัวะ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระอรหันต์ได้นำพระธาตุส่วนข้อศอกด้านซ้าย มาประดิษฐานไว้ในพระสถูป ที่ดอยโกสัยชัคคบรรพต หรือดอยช่อแพร หรือช่อแฮแห่งนี้ ตามประวัติกล่าวว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าลิไท แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งอยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๙ หัวหน้าชนชาวละว้าได้สร้างองค์พระธาตุสูง ๓๓ เมตร ฐานเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง กว้างด้านละสิบเมตร องค์พระธาตุ บุด้วยทองดอกบวบ เป็นศิลปแบบเชียงแสน ภายในบรรจุพระเกศธาตุ  การได้ชื่อว่าช่อแฮได้มาจากการที่ชาวบ้าน ได้นำแพรชั้นดีจากสิบสองปันนา มาผูกบูชาพระธาตุ ซึ่งได้ชื่อว่า ช่อแพร และได้กลายมาเป็นช่อแฮในปัจจุบัน

262
ด้วยความเคารพครับท่าน โจรสลัดครับ และ จะลงหมวดไหนดีครับ
ชมรูป ชมภาพ
โพสต์รูปภาพต่างๆ เกจิอาจารย์, สักยันต์, ยันต์, วัตถุมงคล, เครื่องรางของขลัง

ช่วยแจ้งด้วยครับ กระผมจะได้ทำตามให้ถูกต้อง

263
    บางรอยสักในตัวกระผม จางมากโดยอาจเป็นที่หมึกของแต่ละสำนัก สีจะเข้มต่างกัน หรือ ผมอาจจะรักษาไม่ดี เคยมีความคิดว่าจะไปให้อาจารย์ท่านเดิมที่สักเติมโดยยกพานใหม่ แต่ทุกท่านก็ว่าตรงกันว่าแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ให้คงไว้ซึ่งของเดิม แล้วผมก็ล้มเลิกที่จะไปเพิ่มเติมหมึกแล้วครับ

264
มาดูพระคู่บ้านคู่เมืองบ้านเกิดผมนะครัน เชิญครับ

พระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ ห่างจากจังหวัดแพร่ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร

องค์พระธาตุช่อแฮเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือแก่ประชาชนทั่วไปมาเป็นเวลาช้านาน องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานมีเหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร

พระครูวิมลกิตติสุนทร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแฮ พระอารามหลวง กล่าวถึงความเป็นมาของพระธาตุช่อแฮ ว่า พระธาตุช่อแฮสร้างขึ้นระหว่างจุลศักราช 586-588 (พ.ศ.1879-1881) ในสมัยที่พระมหาธรรมราชาลิไทย ยังทรงเป็นพระมหาอุปราช พระราชบิดาทางโปรดให้ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย สวรรคโลก

พระองค์มีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชน และทรงวางแบบแผนแก่คณะสงฆ์ ตามลังกาทวีป จัดให้มีพระสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ คามวาสี ศึกษาวินัยเพื่อสั่งสอนคน อรัญวาสี ศึกษาวิปัสสนา มุ่งความสงบแห่งจิตใจ

นอกจากนี้ ยังทรงทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยโปรดให้สร้างสถานที่ที่ปรากฏในพุทธประวัติไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้คณะสงฆ์ตลอดชาวเมืองทั้งหลาย ศึกษาวิปัสสนา

พระองค์ได้โปรดพระราชทานพระบรมธาตุแก่ "ขุนลัวะอ้ายก๊อม" ให้นำไปบรรจุฐานเจดีย์ที่จะสร้างให้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา ในการนี้ขุนลัวะอ้ายก๊อม ได้กล่าวชักชวนหัวเมืองต่างๆ ให้มาร่วมสร้างพระเจดีย์ โดยช่วยกันสำรวจสถานที่จัดสร้าง

เมื่อขุนลัวะอ้ายก๊อมมาถึงบริเวณโกสิยธชัคบรรพต เห็นเป็นทำเลที่เหมาะสมจึงกำหนดให้สร้างเจดีย์ขึ้น

ขุนลัวะอ้ายก๊อมได้สร้างสิงห์ทองคำขึ้น 1 ตัว เอาผอบที่บรรจุพระบรมธาตุไว้ในท้องสิงห์ทองคำตัวนั้นแล้วหล่อเงินและทองคำเป็นแผ่นแล้วมาก่อเป็นแท่นสำหรับตั้งสิงห์ทองคำ นำสิงห์ทองคำนั้นบรรจุในองค์พระเจดีย์เรียบร้อยให้โปกปูนปิดช่องทับเจดีย์ เอาแผ่นทอเหลือง (ทองจังโก) บุรอบองค์พระเจดีย์ตั้งแต่ฐานถึงคอระฆังสูง 2 วา

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขุนลัวะอ้ายก๊อมและมิตรสหายจัดงานสักการะบำเพ็ญกุศลฉลองอย่างมโหฬารเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน โดยรอบองค์พระเจดีย์ประดับประดาด้วยผ้าแพรสีต่างๆ พระเจดีย์องค์นี้ จึงได้ชื่อว่า "พระธาตุช่อแฮ" คำว่า แฮ คงเป็นคำที่เรียกมาจาก แพร

ที่วัดพระธาตุช่อแฮนี้มีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่กับวัดพระธาตุช่อแฮมาช้านานแล้ว ชื่อว่า "พระเจ้าทันใจ" ตั้งประดิษฐานอยู่ในซุ้มเจดีย์ด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุช่อแฮ

พระเจ้าทันใจ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ใครเป็นผู้สร้างแต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาพร้อมการสร้างพระธาตุช่อแฮ

พระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดหน้าตัก 2 ศอก สูง 4 ศอก องค์พระเจ้าทันใจจะมีทองคำเปลวเหลืองอร่ามจากชาวบ้านปิดบูชา เอาไว้ตลอด

จากตำนานที่เล่าสืบกันมาว่า พระเจ้าทันใจ หรือ พระเจ้าตันใจ๋ มีความศักดิ์สิทธิ์หากใครได้ไปกราบไหว้และอธิษฐานให้ดลบันดาลให้พบกับความสำเร็จในชีวิตก็จะได้สมตามความประสงค์

เช่น ในปี พ.ศ.2533 ประเทศไทยมี นางสาวไทย ชื่อ ภัสราภรณ์ ชัยมงคล ซึ่งเป็นนางสาวแพร่มาก่อน โดย น.ส.ภัสราภรณ์ได้มากราบอธิษฐานขอให้การประกวดนางสาวไทย ประสบความสำเร็จได้ตำแหน่ง และเธอก็ได้เป็นนางสาวไทยสมความปรารถนา

ทุกวันนี้ที่วัดพระธาตุช่อแฮ จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแวะไปกราบนมัสการองค์พระธาตุช่อแฮ และพระเจ้าทันใจ

รวมทั้งบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เดินทางมารับตำแหน่งใหม่ประจำจังหวัดแพร่ ล้วนแล้วแต่ต้องมากราบขอพรจากพระเจ้าทันใจ เพื่อความเป็นสิริมงคลในอาชีพรับราชการ

ทั้งนี้ ที่วัดพระธาตุช่อแฮยังได้จัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น เศรษฐีทันใจ ด้านหน้าเป็นรูปพระเจ้าทันใจ ด้านหลังเป็นองค์ท้าวจตุคามรามเทพ และยังมีเหรียญของ พระเจ้าทันใจ อีกหลายรุ่น

รุ่นล่าสุด คือ พระเจ้าทันใจ รุ่นมหาโชค มหาลาภ ซึ่งด้านหลังจะเป็นรูปขององค์พระธาตุช่อแฮ โดยเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกอธิษฐานจิตภาวนา สำหรับให้ชาวบ้านที่มีศรัทธาได้ไว้บูชาอีกด้วย วัตถุมงคลของพระเจ้าทันใจ นับว่าเป็นสิริมงคลยิ่ง

นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเดินทางไปเมืองแพร่ แวะไปนมัสการพระธาตุช่อแฮและกราบขอพรพระเจ้าทันใจจะได้สิ่งที่ท่านปรารถนาทันใจ

คาถาบูชาพระเจ้าทันใจ "นะโม นะมะ สะขัง โกธะมัง ใจจะคุ" กล่าว 3 จบ จะเป็นสิริมงคลนักแล
ได้ข้อมูลมาจาก-http://www.navy22.com/smf/index.php/topic,14758.msg12838.html

265
อาจารย์ทุกๆท่านเมตตาท่านมากเลยนะครับ

266
ขนาดน้ำมันนะนี่ ดีใจด้วยครับ

267
ของดีอยู่กับคนดีครับท่าน ขอบคุณที่นำภาพดีๆมาให้ชม

268
ได้ความรู้เลยครับกระทู้นี้ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้และทุกๆท่านที่ตอบนะครับ

269
  ท่านผู้การเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเราชาวบางพระ ขอให้ท่านอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของเรานานๆนะครับ

270
ขอบคุณที่นำของดีมาให้ชมครับ หาดูได้ยากครับ

271
บทความ บทกวี / ตอบ: มอง มอง มอง
« เมื่อ: 04 ก.ค. 2552, 08:41:47 »
ได้อ่านอะไรที่ทำให้มีมุมมองที่ดีอีกแล้ว ขอบคุณครับ

272
ยินดีด้วยนะครับท่าน สวยงามเลยครับ

273
          ในเมื่อตัวผมผิดผมก็ขออภัยครับ และขออภัยจากใจจริง ซึ่งผมยอมรับว่าผมไม่ได้ใช้สติอย่างท่านว่าจริงแท้ ผมคงรู้แล้วว่าจะควรทำตัวอย่างไรและจะทำนับจากนี้ ขอบคุณที่ท่านให้ผมได้พบแสงสว่าง ผมขออภัยจริงๆครับ ขอโทษทุกๆท่านด้วย และดีใจที่ทุกๆท่านรัก ครูบาอาจารย์ กันทั้งนั้น

274
หวังว่าใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น จริงๆครับ สาธุ

275
     ด้วยความเคารพ ซึ่งเคารพท่านโองการยันนะรังสีจริงๆจากใจไม่เคยคิดเป็นอื่น ข้อความบางข้อความก็แจ้งให้รู้ถึงจุดหมายในตัวข้อความนั้นและบางข้อความก็ส่งเพื่อดำรงค์ไว้ด้วยศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ และวัดบางพระ ข้อความดีก็คือข้อความดี ข้อความที่ปกป้องศักดิ์ศรีก็คือข้อความที่ปกป้องศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ ขอให้เน้นที่ สาระของข้อความ ไม่ใช่คิดว่าข้อความนี้ใครส่งและใช่คนที่เราชอบไหม ขอให้มองถึงความจริงของข้อความมากกว่าตัวผู้ส่ง และ คิดดูถึงหลักความเป็นจริงว่า ข้อเท็จจริงที่ได้รับข้อความนั้นเป็นยังไง ผมแปลกใจที่บางคนยอมฟังคำที่กล่าวว่าอาจารย์ตัวเองแล้วไม่ทำอะไร ยอมรับว่ามีคำสอนต่อๆกันมาว่า เวรต้องระงับด้วยการไม่จอเวร แต่หากแกล้งทำหูไม่ได้ยิน หลายคนได้ยินข้อความที่ผิดๆไม่จริงไป แล้วไหนล่ะคือความจริง ความจริงต้องพิสูจณ์ได้ ความจริงก็คือความจริง และไม่ต้องหลบซ้อน

277
ของดีอยู่คู่คนดีครับ ยินดีด้วยนะครับ

278

แหมให้ทำหน้าแบบท่านซัมซุงเพื่อการนี้นี่เอง ทำกันได้นะ  รูปสวยๆก็ไม่ลง นะพี่สาว

279
เด็กคนนี้โตมารุ่งแน่ๆขึ้นกล้องเชียว ขอบคุณภาพสวยๆนะครับ

280
        วันที่29-30 ที่ผ่านมากระผมไปวัดบางพระเพื่อเข้าร่วมงานร่วมงานทำบุญวันคล้ายวันมรณะภาพ พระอุดมประชานาถ ( หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ )ครบรอบ ปีที่ ๗ และถือโอกาสนี้กราบครูบาอาจารย์ ทุกรูป ทุกท่าน เพื่อเป็นศิริมงคล
29/06/52  09.00-22.00น

เข้าวัดเข้าไปกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น ไปกราบหลวงพ่อสำอ่งค์ แล้วตรงไปกุฏิหลวงพี่ญา


เข้าไปกราบหลวงพี่ญาหลวงพี่นัน และก็พบท่านผู้การเสือ ท่านพาว่าที่คุณหมอ จากชิคคาโก้ มาสัก หมอยังสักเลย หมอนอกเสียด้วย

หลังท่านเสือขาวครับ มาช่วยงานโดยเฉพาะ ชอบหอมเชียงมากๆครับ

พระในคอท่านเสือขาว ที่หลวงพ่อเปิ่นท่านเมตตาจารให้ สวยมากๆครับ

พอผมเห็นพระท่านผู้การเสือ ชอบเลยครับ เลยขอถ่ายและขอสอบถามประวัติพระแต่ละองค์ท่านก็เมตตาให้ข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งจะลงข้อมูลในกระทู้ต่อไป[/size]30/06/52  04.30-16.00น

ได้ถ่ายภาพดีๆครับที่กุฏิหลวงพี่ต้อย

พอเริ่มสายนิดๆเริ่มห็นพี่น้องชาวเว็ปมากันได้ข่าวมีลูกชิ้น งานนี้รอกินครับ





ใครเป็นใครดูเองครับท่านมากันเยอะครับ

ชอบลูกสาวท่านคนรักษ์พระครับ น่าเกลียดน่าชังมากๆขอบอก ไม่งอแงเลย

ระดับบิ๊กของเว็ปเรา

คิดได้ไงเอาหมีมาถวายหลวงพี่ ไม่กล้านะ




หลวงพี่ญาให้ของแจก มีของ สิบทัศน์ และของผู้การด้วย โดยผู้การเสือเป็นผู้แจก


มาชมที่กูฏิใหญ่บางนะครับ

ปล.มีรูปอีกเยอครับ แต่เน็ทที่ร้านที่ทำงานแพงมากๆ ชัว่โมง 60 คิดได้ไง


282
      ยอมรับจากใจเลยว่า มันเยอะมากและทำงานเป็นทีมครับ หากไม่ได้ มุ้งจากหลวงพี่ ผมว่า ไม่ได้นอนแน่ๆครับ ขอกราบขอพระคุณหลวงพี่ที่เมตตา ชลาพุชะครับ
ปล. กย.15 ก็เอาไม่อยู่ครับพี่น้อง

283
            เส้นคมสวยมากครับ หลังขาวเนียน หมึกดูเข็ม สวยครับ หากจะสักเพิ่ม ก็น่าจะถามอาจารย์ที่สักนะครับ ท่านวางแบบไว้สวยแล้ว

284
      ผมก็เป็น ลูกศิษย์ คนหนึ่ง ที่หลวงพี่ญา ท่านเมตตา สัดยันต์เกราะเพชรให้ ยอมรับ ว่าหากเป็นท่านอื่นสักให้ จะไม่มีความสุขเท่าหลวงพี่ญา เนื่องจากใจครับ ใจ ศรัทธาในหลวงพี่ญาครับ เรื่อง เจ็บ คงไม่ คิดถึง

285
การเกิด จำแนกเป็น ๔ ลักษณะ คือ ชลาพุชะ อัณฑชะ สังเสทชะ โอปปาติกะ
        ชลาพุชะ คือ สัตว์ที่เกิดในครรภ์ ได้แก่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลาย
       อัณฑชะ คือ สัตว์ที่เกิดในไข่ ได้แก่ สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานบางชนิด
       สังเสทชะ คือ สัตว์ที่เกิดในเมือกในไคล เช่น แมลง
       โอปปาติกะ คือ สัตว์ที่ผุดขึ้นทันใดไม่ต้องอาศัยที่ตั้ง เช่น เทวดา มาร พรหม สัตว์นรกเปรตและมนุษย์ในยุคแรกของวัฒนาการ
    การที่ผมตั้งชื่อแบบนี้ มาจากให้นึกถึง มารดา บิดา
   กระผมก็ใช้เว็ปอาจารย์เหน่ง เป็น คนๆเดียวกัน เพราะผมกับ ท่านอาจารย์เหน่ง เป็นศิษย์ของอาจารย์ประโยชน์ ครับ

286
   มาที่วัดบางพระตรงไปกุฏิใหญ่ กราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น ต่อด้วย เข้าไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ให้ท่านลงนะหน้าทอง แล้วตรงไปที่ตู้จำหน่ายวัตถุมงคลของวัด ก็บูชาเลยครับ ของแท้ทุกดอก ก็ถามหลวงพี่ที่ดูแลตู้เลยว่า มีตะกรุดดอกไหนทันหลวงพ่อเปิ่นปลุกเสกบ้าง ง่ายๆท่าน รับรองตามนี้ดีที่สุด

287
สวยงาม เส้นคม ตามแบบท่านอาจารย์หนวดครับ ช่วงนี้ไม่ได้ไปวัดช่วงท่านอาจารย์หนวดอยู่เลย ต้องหาเวลาไปครับ

288
ท่าน เปรี้ยวปี๊ด ครับมี 2 องค์ แบ่งผมองค์จะได้กุศลเหลือคณานับ 20;

289
ขอบคุณมากๆเลย ครับท่านปอ

291
    วันนี้ไปวัดสว่างอารมณ์ เพื่อ เข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อแป๊ะเจ้าอาวาสและเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ไปแต่เช้า พอมองป้ายประกาศบ่ายโมงโน้นงานนี้รอหลายชั่วโมงเลย งั้นเดินดูรอบวัดและขอเก็บภาพมาให้ชมครับ เชิญชมครับ

เข้ามาก็เจอด่านแรกทำบัตรก่อนเลยครับ เล่นมาซะเช้ายังไม่แจกพานครู รอก่อนเลย รับบัตรไปก่อน 666

พอลงทะเบียนแล้วก็ไปกราบนมัสการหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเมตตาให้ยันต์กับมะรุมทอง-เงิน ต่อเงินต่อทอง



โล่งเลยครับ มีเศียรเยอะมา ดูเองนะครับ บรรยายกลัวผิด 666

มีนอนโลงด้วย ผมกลัวเหมือนในหนัง ผมขอผ่านครับ


ทีมจู่โจมเตรียมทำงาน

ผมชอบพ่อแก่ปางนี้มากๆโหดดีชอบครับ

มาแต่เช้าเลยยังเงียบ ดีครับถ่ายรูปเต็มที่เลย
ภาพนี้สงสารเด็กๆจัง โดนใช้แรงงาน ผมล่ะยืนดูจนขนเสร็จ [shake]อ้าว!งงทำไมไม่ไปช่วยน้องเค้า
ทั้งคอกเลย น่า กิน ไม่ใช่ น่าสงสาร

จะได้ลอดโบสถ์ครั้งแรกในชีวิต

นี่ใต้โบสถ์นะนี่ เหมือนเขาวงกต


ทางออกครับ โชคดีไม่อุปสรรคในชีวิตแล้วเรา

หอระฆัง สูง และ สวยดีครับ

เริ่มมากันแล้ว คนอย่างเยอะ




กราบตามจุดตามขั้นตอน ครับ
 
ตอนนี้ต้องเข้าสู่พิธีและคงจะไม่สะดวกถ่ายรูปนะครับ ขอบคุณครับ



292
บางครั้ง คำว่า ขอโทด มันก็พูดกันง่ายครับ
แต่จะขอโทดด้วยใจจริงนั้น ทำได้ยากกกก  [/color] :093:
แหมโดนใจเหลือ คนานับ ชอบวลีนี้ครับ
        
       บางที่การทำผิดบางอย่างขอโทษคงไม่ทำให้อะไรๆมันดีขึ้นครับ ยิ่งเป็นการขอโทษแบบส่งๆขอไปทีด้วยแล้ว ยกตัวอย่าง หากทำผิดในที่สาธารณะแล้วมาขอโทษในที่ลับ นั้นไม่แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษ
        
       ล้านนาไทยใหญ่บ้านผม มีพิธี ขอขมา (ไม่รู้เขียนยังไง) แบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ดังประกาศ สร้างกฏหมายล้านนาซึ่งจะแปลใจความบางท่อนที่ผมชอบ "ไอ้อีผู้ใดไม่ว่าวรรณะ หรือ ยสใดก็ตาม กระทำการกล่าวหาต่อว่า พระครูบาอาจารย์ ในทางเสื่อมเสีย รึ ไม่ให้เกียรติ ไม่ใช้คำ นำหน้าให้เหมาะสม ไอ้อีผู้นั้นต้องถูกมัดหลักประจานหน้าที่โล่งกลางชุมชน ถอนฟันหน้าจำนวน 4 ซี่ "

293
แหมๆๆเก็บเงียบเลยนะ สุขสันต์วันเกิดนะท่านครับ

294
      ขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้ชมนะครับ มีรูปลายสักแบบโบราณไหมครับ ผมเคยเห็นพระบุตร-พระลบที่สำนักอาจารย์ถึง คงทน เป็นยันต์ใหญ่จะต้องบายศรีหัวหมูดูวันอีกไม่รู้จะมีบุญได้สักไหม

295
ของดีๆทั้งนั้น อยากได้เป็นของตัวเอง เพียงแต่จะไปหาที่ไหนล่ะครับ

296
ดูดุดีครับ น่ากลัว มากๆ

297
1.พี่ที่เคยสักกับบางพระพามาเพื่อสัก
2.มากกว่า50ครั้ง
3.ไม่ทันหลวงพ่อเปิ่น
4.ด้านหลังของผมเป็นบางพระทั้งหมด มีสะโพห กับแขน
5.ไปสักที่กุฏิหลวงพี่ญา แล้ว ติดอยู่ที่ฝนัง

299
ของดีนะครับแปลรูปออกมาก็คงสวยนะครับ

300
 11.00 น.ถวายเพลพระครับ

301
สวยดีครับ

302
ฮามากๆครับบรรพบุรุษเราก็ มีอารมณ์ขันนะนี่ ขอบคุณท่านอชิตะนะครับ

303
ขอบคุณที่เข้ามาเตือนสติครับ

304
ของผมทาไม่คงไม่อยู่ เล่นพอกเลยครับ ทั้งตัวก่อนนอน และก่อนไปทำงาน หากคันก็ใช้แป้งตางูครับ

305
สวยดีนะครับ

ได้ของที่ดีแล้วก้อควรปฎิบัติตัวดีตามด้วยนะครับ

ขอบคุณที่ให้ดูเป็นวิทยาทานนะครับ

             ทุกวันนี้กระผมก็ไม่ได้ปฎิบัติตัวอะไรที่ผิดนี่ครับ ของดีก็ต้องเสาะหาเพราะเคารพ ด้วย กาย วาจา ใจและศรัทธาในอาจารย์ท่านนั้นๆ ต้องศรัทธามากด้วยจึงจะได้มาสักในตัวกระผม กระผมก็ทำได้ทุกข้อที่อาจารย์ท่านสอนสั่งอย่างเคร่งครัด ครูบาอาจารย์ บิดามารดา กระผมบูชาไว้เหนือหัว

306
ของผม แขวน
-หลวงพ่อเปิ่น ปี 35 ท่านเอ็ม ให้มา
-ตะกรุดฝาบาตรของหลวงพ่อเปิ่น
-เหรียญจอบ พ่อทองรุ่น 1
ใช่พกแบบหนีบ
-วันธนู หลวงพ่อพุตวัดกลางบางพระ
-ลูกอมเสือที่หลวงพี่ญาท่านเมตตาให้

307
สวยดีครับ คงจะออกแนวเมตตา ครับ

311
งามจับใจมากๆ

312
ตามความเหมาะสมและความชอบของเจ้าของพื้นที่ ที่สำคัญคือตามกำลังเงินครับ

313
ว่าไงว่าตามกันครับ

314
แล้วแต่ดวงจริงๆครับ

315
สวยดีครับท่านได้มายังไงครับ

316
เก็บรักษาได้ดีมากๆครับ สภาพยังดีมากๆเลย สวยครับ

317
อ่านง่ายเข้าใจง่ายได้ความรู้ดีตามแบบกระทู้ของท่าน อชิตะ จริงๆ

318
ก็มองได้หลายมุมนะครับท่าน นก  20;

319
บทความ บทกวี / ตอบ: ...หลงลืม...
« เมื่อ: 23 มิ.ย. 2552, 12:03:10 »
ขอบคุณครับ

320
ผมกลัวเข็มมากเลยครับแค่ฉีดยายังกลัวเลยนี้ เล่นฝั่งให้เห็นเลยเสียวสุดน่ากลัวด้วย ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

321
ก็ได้ความรู้ดีนะครับ ขอบคุณครับ

322
เขียนวิธีเลี้ยงส่งไปด้วยนะครับหวังว่าพีที่อังกฤษ คงรู้วิธีเลี้ยงนะครับ ผมเคยเจอเศียรพระวางไว้ใต้บันได หดหู่ที่ได้เห็น ไม่ได้ป่วนนะครับเป็นห่วงของดีๆจะไปอยู่ที่ไม่ควร

323
สวยกันทั้งนั้นเลยนะครับ

324
งานนี้ต้องไปครับ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
                                                  ในความคิดผมคือบทพิสูจน์ ที่ได้เกิดมาเป็น

                                                       ลูกผู้ชายเต็มตัว     

325
ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาให้ชมนะครับ

327
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: มาแล้ว
« เมื่อ: 20 มิ.ย. 2552, 03:55:09 »
งั้นวันนี้ไปวัดบางพระดีกว่า

329
สวยครับ เน้นจุดเพิ่มสีอย่างตั้งใจสวยจริงๆ

330
         ผมก็เคยครับ แต่พ่อแม่บางคนก็ยากที่จะขอ แล้วหากโกหกหนีมาสักนี่ก็ผิดนะครับ ขอไปตรงๆไม่ให้ ก็ไม่ต้องสัก รอโตก่อน ผมเองอยากสัก ขอแม่ แม่ไม่ให้สักบอกเรียนอยู่หาเงินก็ไม่ได้ จบก่อนค่อยสัก กว่าผมจะได้สักก็ อายุปาไป 30 ขวบ ที่นี้สักเต็มที่ครับ ความตั้งใจดีรอได้

331
   วันนี้ไปขอให้อาจารย์ ถึง คงทน เมตตามาครับ โชคดีมากๆที่ได้สักกับท่าน ได้คุยและได้รับความรู้จากท่านมากมาย วันนี้ท่านสักผมคนเดียวเลย ไม่มีใครมาก็ดีไปอย่างนะครับ แต่ อาจารย์ว่าน่าจะมีคนมาช่วยขึงจะได้เร็วและสวย สำนักเงียบสงบมากๆ นี่ล่ะครับพระลักษณ์หน้าทองที่ผมไปสักมาครับ นี่ขนาดอาบน้ำแล้วทองคำเปลวยังติดอยู่เลยครับ
ปล.ขอบคุณท่าน เปรี้ยวปี้ด มากๆนะครับ ที่ให้แผนที่และที่อยู่อย่างละเอียดครับ

332
ขนาดน้ำมันยังงดงามขนาดนี้ ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

333
ก็แปลกดีนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

334
ว่าไงว่าตามกันครับ

335
ของดีย่อมอยู่กับคนดี สวยมากๆครับ

336
เริ่มต้นได้ดีครับ สวยครับเป็นกำลังใจให้นะ

337
   วันนี้คิดถึงอาจารย์ต้อย วัดกำพร้าสมุทรสาครมากๆ ตื่นนอนแต่เช้ารีบไปหาท่านเลย ไปถึงบ้านท่าน 06.30 น.ไม่น่าเชื่อมีลูกศิษย์ชาวมอญมารอสักก่อนเราอีก ขยันมาจัง พอ 09.00 น.อาจารย์ก็เริ่มสัก พอท่านเมตตาสักให้กระผมเสร็จแล้ว กระผมจะขอตัวกลับ กราบลากะเดินทางกลับโดยรถตู้ นั่งรถสองแถวได้ยินคนคุยกันเรื่องรถไฟฟรี ไปลงวงเวียนใหญ่เลยอยากลองดูไม่ได้นั่งรถไฟมานานแล้ว น่าจะ10 ปีได้พอไปถึงสถานีรถไฟ มีป้ายบอกที่จุดขายตั๋ว รถออก 13.15 น. ดูเวลา
          อีกเป็นชั่วโมงว่าแล้วก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองดีกว่า ไม่ได้ไหว้ศาลมานานแล้วได้แต่ผ่านไปมา


    ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย เป็นแผ่นไม้รูปแกะสลัก ขนาดสูงประมาณ 1 เมตร เรียกว่าเทพเจ้าจอมเมือง เป็นเทวดาหัตถ์ขวายกประทานพร หัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ มีกุมารน้อย 2 คน เป็นบริวารอยู่ด้านข้าง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า แผ่นไม้สลักนี้ลอยน้ำผ่านคลองมหาชัย ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นสักการะสร้างเป็นศาลเล็กๆ ไว้ที่ป้อมวิเชียรโชฎกเรียกศาลเทพเจ้าจอมเมืองตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น      ต่อมาสร้างอาคารทรงไทยใน พ.ศ. 2460 แต่อาคารนี้ถูกรื้อหลังการก่อสร้างศาลหลัก เมืองใน พ.ศ. 2525 เชิญเจ้าพ่อหลักเมืองไปประดิษฐานบนด้านเหนือศาลหลักเมือง แต่มีการประทับทรงเจ้าพ่อวิชียรโชติ จึงสร้างอาคารใหม่เป็นศิลปกรรมจีนสวยงามมาก เป็นที่นับถือกราบไหว้ของชาวไทย ชาวจีน โดยเฉพาะชาวประมงมักขอพรบนบานขอให้ทำกิจการปลอดภัยและร่ำรวย จะมีการแก้บนด้วยฝิ่นเสมอ โดยนำมาป้ายที่บริเวณปากส่วนศาลหลักเมืองอยู่ถัดออกไป เป็นหลักเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ ส่วนการบนบานขพรนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวประมงเพราะชาวสมุทรสาครส่วนใหญ่จะปรักอบอาชีพประมงดังนั้นชาวประมงจะมาขอพรก่อนจะนำเรือออก นอกจากนี้ยังมีคนมาไหว้ขอพรในเรื่องการค้าขาย ถือได้ว่าเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวสมุทรสาครโดยแท้


สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 2 โทรศัพท์หมายเลข 0 3247 1005 ? 6 หรือที่ E-mail : tatphet@tat.or.th[/color]
  แล้วก็มาเดินชมตลาดต่อ ที่นี่ของทะเลขึ้นชื่อว่าสด-ใหม่-ราคาถูก ขอนำภาพตลาดมาให้ชมนะครับ

ปลาทูตัวเท่าศอกเลยครับใหญ่มาก
ปูเฉพาะก้ามก็สดๆ

มองนาฬิกาใกล้เวลารถไฟออกแล้วไปดีกว่า
รับตั๋วฟรีขึ้นรถไฟ รถสะอาดมากครับว่างด้วยเลือกที่นั่งตามสบายเลย
เดินทางกลับแบบไม่เสียเงินค่าโดยสารจาก สมุทรสาคร-กทม ครั้งแรกเลยนะนี่ดีจัง

นำข้อมูลศาลหลักเมืองมาจาก-สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 2 โทรศัพท์หมายเลข 0 3247 1005 ? 6 หรือที่ E-mail : tatphet@tat.or.th

338
สวยเหลือเกินครับ

339
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: photo
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2552, 09:28:14 »
ขอบคุณครับที่นำภาพดีๆมาให้ชม

341
ได้ความรู้มากมาย ที่ได้เขามาอ่านขอบคุณครับ

343
จะแจกตอนไหนผมจะได้ไปต่อคิว 20;

344
แมวนี่นานๆได้ชมนะครับ ขอบคุณครับ

345
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 003
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2552, 04:00:53 »
ขอสอบถามว่าพระอาจารย์ในภาพนี้ ท่านชื่ออะไร และสักที่ไหนครับ
มุมกล้องมองแล้วไม่คุ้นเลย

346
เต่านี่พุทธคุณด้านไหนครับ............
                                           ขอบคุณสำหรับภาพของทุกท่าน

347
ของดีย่อมมาหาคนดี

348
ยินดีด้วยที่ท่านได้ของดีมาอยู่กับตัว.......
                                                ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

349
ขอบคุณครับ...........
                         
               

350
ขอบคุณสำหรับกลอน+บทความนะครับ เป็นประโยชน์ได้แง่คิดครับ

351
พี่น้องกันขอลัดครั้ง สองครั้งก็คงไม่เป็นไรมั่งครับ ได้มามีแต่ของสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

352
สวยมากๆครับว่าแต่สักที่ไหนมาครับ

353
มีคนลงความหมายและพุทธคุณแล้วงั้นผมลงรูปนะครับ



หลวงพี่ญาท่านเมตตาครับ

354
อันนี้ใช่ไหมที่น้องตั้นอยากได้ แหมได้เห็นภาพแล้ว ผมก็อยากได้เช่นกัน ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ รอดูของ พรุ่งนี้นะครับ

355
     มันแปลกที่ผมไม่คิดแบบนั้น ยักษ์ภายนอกอาจดูดุร้ายเป็นพวกกินเนื้อ
                                     
                  ผมว่าเป็นที่การก่อสร้างมากกว่าครับ

356
   เมื่อ 3-4 วันก่อนเจอสาวๆมากกว่า 8ท่านยกพานหลวงพี่นัน ทุกท่าน สัก ห้าแถวหลวงพี่ก็เมตตาตามขอ พอไปหลวงพี่ต้อย ก็มีหญิงใจชายท่านหนึ่งอย่างน่ารักเลย สักห้าแถวอีก ผมว่าลองขอดูนะครับ พระอาจารย์-อาจารย์ที่บางพระทุกท่าน เมตตาทั้ง ศิษย์เก่าใหม่ เท่าๆกัน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้ไม่ลองไม่รุ้

357
อย่าพึ่งออกอากาศดีกว่าครับ ขอผมไปก่อนครับเดี๋ยวหมด

358
เข้มขลังครับ คนรุ่นเก่าๆสักไม่เยอะแต่เหนียววว :002:
แลดูเป็นของดั้งเดิม original ดีมากครับ ขนาดใหญ่ชัดเจน สักเน้นพุทธคุณมากกว่าสวยงาม  แต่เหนียวได้ใจ  :016: :016:
เหนียวจริงๆครับ...ช่วงหลังๆนี้ผมขอตังค์แก..แกไม่ค่อยให้เท่าไร...อิอิ :058:
มันคนละเหนียวกันมั่งครับ

359
ยินดีด้วย ดูขลังดีครับ

360
ฮาดีครับ อันสุดท้ายขอบ้านผมด้วย อายจัง

361
สวยงามมากๆครับ เห็นน้องตั้นก็อยากได้เห็นหาๆอยู่ มีหอมเชียง ปี 44 อีกได้ยังครับน้องรัก

362
       สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกศรัทธากับหลวงพี่แป๊ว คือท่านจำศิษย์ทุกคนได้ ผมสักกับท่าน 9ครั้ง ห่างๆกัน แต่ท่านก็จำได้และยังถามถึงรุ่นน้องที่พาผมมาสักอีกทั้งที่เค้าไม่ได้มาวัด เกือบ ปีแล้ว ชื่ออะไรทำงานอะไรบ้านอยู่ไหน ท่านจำได้

363
นี่น้ำมันนะนี่โหดเอาเรื่องเลย สวยมากๆครับ

364
           ในความคิดผม ท่านซัมซุงคงช่วยบอกคนที่บ้านเมืองเค้าถึงเรื่องราวของบางพระได้ดีผมไม่รู้ถึงจุดประสงค์อันแท้จริงของท่าน แต่ท่านก็อดทนมากๆนับถือ  มา 3ครั้งๆละเดือนตามอายุหนังสือเดินทางเลยนะ

365
      มาเช้าให้เป็นคนแรกก็ได้สักก่อน ก็เท่านั้น บางทีมา 6 โมง ดันมีคนมาตี5 บางทีมาตี5 ก็เจอพวกนอนวัด แหมไปเช้าๆก็พอครับอย่าคิดมาก

366
       งานนี้ผิดจริงๆก็เตือนแล้วว่า"ใช้คำแรงจังเด็ก ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ" โดนแนะนำและตักเตือนจริงๆ ก็คงต้องน้อมรับผิดแล้วนะพี่เรางานนี้:069:
           
        รับทราบและพร้อมปฎิบัติตามความถูกต้องและมารยาทครับ

367
หนุมานอาจารย์หนูสักให้เองเลยรึครับ หายากนะครับ

368
ใช้คำแรงจังเด็ก ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ

369
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 002
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2552, 04:24:33 »
สุดยอดเลยครับ

370
ขอกราบนมัสการ ครับหลวงพ่อ ภาพคงถ่ายมานานมากแล้ว ว่าแต่งานอะไรครับ

371
ทำดีครูบาอาจารย์คุ้มครองครับ

372
      กระผมไปวัดหลายครั้งที่โดยสารรถโดยสาร ดอนตูม-นครปฐม ตามปกติ รถคนสุดท้ายจะผ่านหน้าวัดบางพระ 18.00-19.00น. ซึ่งผมจะนั่งไปลงแยกท่านาเพื่อต่อรถ มีหลายครั้ง รถหมดก่อนเวลา หรือไม่วิ่งต่อ 3 วันก่อน ผมมารอรถ 17.30-19.30น.  นั่งไป รถดอนตูมก็วิ่งผ่าน 4 คัน ทุกคันไม่วิ่งต่อ แม่ค้าขายของว่าประจำเลยหากดูแล้วไม่คุ้มบางทีก็ไม่วิ่ง งงครับ แต่เข้าใจ

ที่มาสร้างกระทู้นี่ไม่ใช่จะว่าใครผิดแต่ประการใด เพียงแค่อยากให้หลายๆท่านเผื่อเวลานิดนึง


373
ขอบคุณมากๆครับ ได้อ่านบทความดีๆ

374
[shake]ว่าไงว่าตามกันครับ กระผม[/shake]

375
แล้ว ทุกสิ้นเดือนโดนปล้นตอนเข้าบ้าน โดย ภรรยานี่จะคิดในแง่ดียังไง 07;

376
สักสวยมากครับ นับถือจริงๆครับ ใจ คอไม่ลงชื่ออาจารย์หน่อยรึครับ

377
มาแต่ละท่าน ผมล่ะชออ่านอย่างเดียวดีกว่า สนทนาแบบกวีไม่เป็นแต่ชอบอ่านครับ ขอบคุณครับ

378
ทำไมถึงไม่ได้อะครับ

อยากรู้เหตุผลจริงๆครับ เพราะแม่ผมท่านก็บอกประมาณว่า วิญญาณบรรพบุรุษจะเข้าบ้านไม่ได้ด้วย

ใช่ไหมครับ

ใจจริงๆ ผมอยากเช่ามากๆ... :054:
ก็ดูจะแปลกในสายตาหลายๆท่านและกลัวจะได้อ่านข้อความที่รู้สึกไม่ดี เหตุผลที่พ่อผมให้ ก็คือ ปู่เพิ่ง่เสียได้ไม่นานแล้ว 100 วันจะทำบุญก็กลัวผีปู่ผมเข้ามาเอาส่วนบุญที่ทำให้ไม่ได้ ผมก็จนใจ แล้วบอกว่า ครบ100วันล่ะพ่อก็บอกเก็บกระดูกปู่ไว้บ้าน ปู่จะเข้าออกลำบากครับ นี่คือเหตุผลของพ่อผม ซึ่ง ท่านคือพ่อ ก็เลยไม่เถียงและรอวันที่มีบ้านของตนจึงจะได้บูชาครับ

379
ได้ความรู้เลยครับ ผมก็ไปมาแล้ว 3 แห่ง งั้นก็อีก 6 แห่งสิท่าน งานนี้ต้องไปให้ได้ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแน่นๆและภาพสวยๆนะครับ

380
           ผมก็ไปวัดนกหลายครั้งได้เข้าไปในจุดที่ให้บูชาวัตถุมงคล ซึ่งมาจากหลายๆวัดดัง ในนั้นก็มีวัตถุมงคลจากวัดบางพระ และมีหลายอย่างที่ผมชอบ แต่ยังขาดองค์ประกอบในทางเศรษฐกิจส่วนตัวของผม แต่มีท้าวเวชสุวรรณที่ผมอยากได้ไปบูชาที่บ้านมาก ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ลังเลในการตั้งบูชา เดินไปเดินมา เห็นรูป หลวงพี่ญา ร่วมเป็น พระคณาจารย์นั่งปรกบริกรรมปลุกเสกด้วย ก็มีพระอาจารย์รูปอื่นๆหลายท่านแต่ผมศรัทธาในตัวหลวงพี่ญาและรู้จักท่านเพียงรูปเดียวซึ่งท่านเมตตาสักให้กระผมหลายต่อหลายครั้ง เลยตัดสินใจบูชาเลย โทรหาแม่ ขอนำท้าวเวชสุวรรณขนาด 19 นิ้ว เข้าบ้านโทรสั่งเมียเตรียมห้องเตรียมโต๊ะหมู่ เอาแยกเดี่ยวเลย วางหูไป 5 นาที ขณะนั้นกำลังคิดว่า จะบูชา เนื้อโลหะรมดำ รึ เนื้อโลหะปิดทองเพ้นท์สีดี เสียงโทรจากพ่อก็ดังขึ้น ท่านขอว่าไม่บูชาได้ไหม ซึ่งฟังเหตุผลแล้ว ไม่สามารถ บอกต่อได้อายครับ ผมเศร้าและขอต่อรองเป็น รูปหล่อองค์เล็กๆได้ไหม กว่าจะได้เกือบเสียน้ำตา ในที่สุดก็ได้บูชาเข้าจนได้ ดีใจมากๆครับ ขอลงรูปสักนิดนะครับถ่ายทอดความภูมิใจ







ปล.ไว้ผมแยกครอบครัวก่อนจะนำขนาดบูชาเข้าบ้านให้ได้ครับ ถึงตอนนั้นจะหาที่ไหนนี่

381
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: yesterday
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2552, 11:52:33 »
บางครั้งภาพก็บรรยายความรู้สึกมากกว่าคำพูด ขึ้นอยู่ว่าจะเข้าใจไหม ถ่ายมาได้ดีครับ ขอนิดนึงนะครับ ภาพงานอะไรและที่ไหนครับ

382
นมัสการครับหลวงปู่ ได้ดูรูปแล้วถ่ายและตัดต่อได้ดี ขอบคุณครับ

383
สวยคมเส้นพริ้วไหว เหมือนมีชีวิตเลยครับ สวยจริงๆ

384
สวยดีครับ ผมก็อยากไปสักกับท่านแต่คนเยอะมากๆเลยครับ

386

      ผมมีพระราม แต่แบบหมึกนะครับ ถ่ายไว้ นานแล้วตอนนั้นยังไม่มีกล้อง ใช้มือถือถ่าย เลยถ่ายไม่ค่อยชัดต้องขออภัย เรื่องจะถามว่าอาจารย์ท่านไหนในบางพระสักได้บ้างผมว่าพระอาจารย์ทุกรูปและอาจารย์ทุกท่านในบางพระสักได้อยู่แล้วครับ  แต่จังหวะคนเยอะ-น้อยและเหมาะสมกับจุดวางไหมก็เท่านั้น

ส่วนเก้ายอดก็ไม่มีแบบเดี่ยวๆนะครับ แบบนี้คงพอไหวนะ
อยากได้ เข้าไปกราบเรียนถามท่านเลยครับ แล้วท่านจะได้คำตอบที่
ถูกใจและเหมาะสมที่สุด เพราะ
ส่วนมาก กุติที่ค่าครู 25 บาท ผมไม่ค่อยเห็นพระอาจารย์ท่านสักให้
ศิษย์ซักทีครับ สำหรับรูปพระราม เหอๆๆ :095:
ผมก็ สักมาในค่าครู 25 บาท รวมบุหรี่ ดอกไม้แล้ว 85 บาทครับ(ในตอนนั้น)ส่วนกุฏิไหนนั้น ขอบอกทีเดียว เมื่อพร้อมนะครับ  :002: :004: :007: :006: :005: :108: :021: 16; 38; 20;
:054: :054: :054:

387
 
ประวัติศาสตร์สมานฉันท์
โดย : อารีย์ ศรีวิเชียร   เมื่อ : 21/04/2008 03:28 PM
ประวัติศาสตร์ หมายถึงข้อมูลที่สะท้อนประโยชน์จากการเรียนรู้ความจริงในอดีตของมนุษย์ เพื่อสร้างเสริมพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของชีวิตและชุมชนของชาติและภาษา รวมทั้งของโลก โดยหวังที่จะให้วิถีทางสามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง ถ้าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการใดๆ ก็ตามซึ่งทำให้ข้อมูลดังกล่าวมีการปนเปื้อนหรือเกิดการตัดทอนแม้แต่เพิ่มเติมอย่างขาดเหตุผลไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่ก็ตามย่อมถือว่ามีพฤติกรรม

ทำลายรากฐานของคนในชุมชนท้องถิ่นและของชาติ รวมทั้งของโลกอย่างปฏิเสธเสียมิได้ หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าคนในชาติมีความรู้ ความเข้าใจประวัติศาสตร์ของชาติตนเองอย่างลึกซึ้งถึงระดับหนึ่ง ย่อมมีผลทำให้ชาติมีความมั่นคงเข้มแข็งอยู่ได้ ส่วนความคิดในการสร้างความมั่นคงของชาติโดยใช้กำลังพลและอาวุธเป็นเรื่องผิวเผิน แม้ได้ผลก็เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ส่วนในระยะยาวกลับหวนมาทำร้ายตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

การศึกษาประวัติศาสตร์นั้น นอกจากต้องตีความแล้วยังต้องศึกษาให้รอบด้าน ไม่ใช่ตัดตอนเฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่ง มิเช่นนั้น ความรู้ส่วนนี้ก็มิอาจส่งต่อตกทอดต่อไปยังรุ่นหลังได้ครบถ้วน เช่น เรารับประวัติศาสตร์ทางเชียงใหม่ได้ทุกอย่าง เรานับถือเจ้าหลวงของเชียงใหม่ได้ แต่เมื่อพูดถึงปัตตานี กลับใจหายแผ่นดินตรงนี้เคยรุ่งเรือง บัดนี้มิมีร่องรอย ทำไมเรารับความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินตรงนี้ไม่ได้ พื้นที่หนึ่ง คนไทยกลุ่มหนึ่งที่อยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันมายาวนาน เพียงแต่ต่างกันที่ศาสนา อยากให้ผู้คนในพื้นที่อื่นๆ ได้รับรู้และรู้จักว่า คนกลุ่มนี้จริงๆ แล้ว เขามีอดีตของเขา และเขาอยู่ที่นี่ เติบโตสืบทอดทายาทมาหลายรุ่นแล้ว และก็อยู่บนผืนแผ่นดินนี้เหมือนกัน ไม่ใช่คนที่มาจากที่อื่น ดังนั้นการก่อเหตุร้ายรายวันที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จึงไม่น่าจะเกิดจากการแบ่งแยกดินแดน อาจจะเป็นเรื่องผลประโยชน์หรือเพื่อจุดประสงค์ใดก็ต้องหาคำตอบหรือรอคอยคำตอบที่แท้จริงกันต่อไป และเมื่อนั้นคำตอบที่ชัดเจนก็จะกลายเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้กันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ก่อนการจัดตั้งเป็นจังหวัด ดินแดนแถบนี้มีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเองที่ยาวนาน มีชื่อเสียงตั้งแต่ยุคอดีต ผ่านอารยธรรมมาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีหลักฐานการอยู่อาศัยของชนพื้นเมืองมาตั้งแต่ก่อน 3,000 ปีที่ผ่านมา, สมัยเริ่มประวัติศาสตร์ ประมาณ 2,000 ปีที่ผ่านมาถึงราว พ.ศ. 700 , สมัยอาณาจักรโบราณลังยาซูหรือลังกาสุกะ ราว พ.ศ. 700 - 1400 , สมัยลังกา สุกะภายใต้การปกครองของศรีวิชัย ราวพุทธศตวรรษที่ 14 - 15 , สมัยลังกาสุกะภายใต้อำนาจของโจฬะแห่งอินเดีย ตั้งแต่ พ.ศ. 1535 , สมัยลังกาสุกะภายใต้อำนาจของสุโขทัย-อยุธยาและมัชปาหิต ในปี พ.ศ. 1838 , สมัยลังกาสุกะล่มสลายและกำเนิดเมืองปัตตานี, สมัยการปกครอง 7 หัวเมือง ตั้งแต่ พ.ศ. 2351 เป็นต้นมา, สมัยมณฑลเทศาภิบาล ในปี 2449 และมาถึงในปัจจุบัน สมัยสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรายละเอียดของประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงมานี้ ผู้ที่สนใจก็สามารถที่จะศึกษาและหาอ่านได้เพราะในปัจจุบันมีนักเขียน นักวิชาการ ได้เขียนประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ขึ้นมามากมายหลายเล่ม และจากลำดับการพัฒนาของประวัติศาสตร์ดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่าพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยมีความเจริญรุ่งเรืองถึงระดับที่เรียกขานกันว่าอาณาจักรมาตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัยซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของราชอาณาจักรไทย ต่อมาอำนาจของเมืองหลวงคือ สุโขทัย ได้แผ่ขยายลงมาทางใต้ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ โดยแต่ละช่วงสมัยความสัมพันธ์ระหว่างสยามหรือรัฐไทยกับปัตตานี หรือสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย ตามพลังอำนาจทางการเมืองและความเข็มแข็งของแต่ละฝ่าย ทำให้ประวัติศาสตร์ไทยที่เกี่ยวกับปัตตานี และประวัติศาสตร์ปัตตานีที่เกี่ยวกับรัฐไทย ยังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน ดังนั้นการทำความเข้าใจ การเรียนรู้ การศึกษาประวัติศาสตร์ให้ชัดเจนถ่องแท้ ตามลำดับพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์อาจจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะสอน อธิบาย ให้ลูกหลานเยาวชนคนรุ่นหลังให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องได้

จะขอนำบทกลอนของ รศ.ดร.ครองชัย หัตถา ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้ประพันธ์บทกลอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปัตตานีและเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบันไว้ดังนี้      



นับเนื่องมากว่าพันปีมีหลักฐาน
พบร่องรอยเมืองโบราณน่าฉงน
แถบท่าสาป ยะรัง หลายตำบล
ฮินดูดลพราหมณ์พุทธามหายาน

 คาบสมุทรสองฝั่งทั้งตก-ออก
ล้วนบ่งบอกลังกาสุกะแผ่ไพศาล
ไทย ชวา มลายู อยู่มานาน
ซาไกนั้นคือชนเผ่าเก่าก่อนมา

ปัตตานีดารุสลามนามลือเลื่อง
เมื่อตั้งเมืองริมสมุทรสุดสง่า
นานาชาติมาค้าขายที่บานา
กรือเซะนั้นเป็นเมืองท่ามหานคร

สร้างเมืองใหม่ 7 เมืองอันเลื่องชื่อ
ต่อมาคือมณฑลเทศสถาน
ยุบมณฑลตั้งจังหวัดเมื่อไม่นาน
จึงขับขานให้ท่านฟังอย่างตั้งใจ

มาบัดนี้ชายแดนใต้ไม่สงบ
ผืนพิภพมานองเลือดน่าสงสัย
ใครก่อเหตุช่วยหยุดเถิดโปรดเห็นใจ
เราคนไทยวันท์หัตถามาไหว้วอน

สงบเถิดเจ้าปัญหาชายแดนใต้
มาสร้างไทยให้เข้มแข็งดั่งสิงขร
หากพลาดผิดแก้ไขใหม่เอื้ออาทร
สุขสงบนิรันดรจะกลับมา



การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะสามารถทำให้คนในพื้นที่กลับมารักกัน สมานฉันท์กันได้เหมือนเดิมหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับการเรียนรู้อดีตเพื่อสืบสานปัจจุบันและสร้างสรรค์อนาคต ให้ลูกหลานชนรุ่นหลังมีความเข้าใจภูมิหลังโครงสร้างทางสังคม มีความเข้าใจเกี่ยวกับชาวสยามและชาวมลายู ให้เข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ชาติ ทั้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์พัฒนาการของรัฐ และประวัติศาสตร์บางตอนที่ถูกนำไปปลุกเร้าให้เกิดการก่อเหตุขึ้นมานั้นที่แท้จริงคืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร สิ่งใดคือสิ่งที่ถูกต้องและควรให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังได้สร้างความภาคภูมิใจร่วมกันด้วยประวัติศาสตร์อารยธรรมที่ยาวนาน ไม่ควรนำประเด็นทางประวัติศาสตร์เพียงบางตอนมาสร้างความแตกแยก สร้างความวุ่นวายในสังคม สิ่งที่ผิดพลาดจากอดีต ภาครัฐก็ควรจะยอมรับและควรจะแก้ไขให้ถูกต้อง ประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตแม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะสิ่งใดจะเกิดขึ้นหรือจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เราไม่สามารถที่จะรับรู้ล่วงหน้าได้ เพราะถ้าหากสามารถรับรู้ล่วงหน้าด้วยญาณวิเศษ เราก็จะสามารถหาทางป้องกันมิให้เกิดขึ้น มีเกิดก็ต้องมีดับหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักรของกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรเปลี่ยนคือความจริงของประวัติศาสตร์ ซึ่งประวัติศาสตร์ปัตตานีในอดีตมีความรุ่งเรืองเป็นมาอย่างไร ก็ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์รัฐชาติไทยด้วย ไม่ใช่ถูกละเลย ลืมเลือนเสมือนไม่เคยเกิดขึ้น กระนั้นก็ตามสิ่งที่ผู้คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้คาดหวังก็คือความสงบสุข การได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างทั่วถึงในทุกๆ ด้าน เฉกเช่นเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย


  อารีย์ ศรีวิเชียร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าปส.กอ.รมน.ภาค 4 สน.  
 

388
อยากได้ เข้าไปกราบเรียนถามท่านเลยครับ แล้วท่านจะได้คำตอบที่
ถูกใจและเหมาะสมที่สุด เพราะ
ส่วนมาก กุติที่ค่าครู 25 บาท ผมไม่ค่อยเห็นพระอาจารย์ท่านสักให้
ศิษย์ซักทีครับ สำหรับรูปพระราม เหอๆๆ :095:
ผมก็ สักมาในค่าครู 25 บาท รวมบุหรี่ ดอกไม้แล้ว 85 บาทครับ(ในตอนนั้น)ส่วนกุฏิไหนนั้น ขอบอกทีเดียว เมื่อพร้อมนะครับ  :002: :004: :007: :006: :005: :108: :021: 16; 38; 20;

389
สวย แบบเล็กๆ แปลกดีครับ ช่างคิดนะท่าน

390
สวยงามมากๆครับ

391
         ผมก็เป็นศิษย์คนหนึ่งที่สักกับกุฏิท่านพระมหาสมชาย และได้ยินสิ่งที่ฟังแล้วรู้สึกน้อยใจมากๆ ที่มีหลายคนกล่าวว่าท่านซึ่งผมอาจเป็นคนส่วนน้อยที่กล้าออกหน้าว่าเป็นศิษย์กุฏินี้ ผมก็สักที่บางพระหลายๆกุฏิ และหนึ่งในนั้น ผมก็สักที่กุฏิท่านมหาสมชาย ขอให้ท่านทั้งหลายลองแบ่งใจเป็นกลางนะครับ อาจารย์ ก็ คือผู้ให้ความรู้ ไม่ว่าแขนงไหน ก็คือผู้มีบุญคุณ ไม่ว่าท่านได้รับ ค่าตอบแทนไปไหม และค่าตอบแทนนั้น แพงกว่า ครูบาอาจารย์ท่านอื่นไหม แต่ ท่านผู้นั้นก็ขึ้นชือว่าเป็น อาจารย์ของกระผม กระผมยอมได้ หากมีคนมาว่าผม แต่หากเป็น พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ มีใครบ้างไม่รัก ไม่บูชาบ้าง แปลก ว่าสนุกกันรึไรที่มาว่าครูบาอาจารย์คนอื่นแบบนี้ จะยังไง ผมก็คือศิษย์จากกุฏินี้ไปตลอดชีวิต
         บางท่านที่ไปสักแล้วไปบ่นว่าแพง แต่ขอถามย้อนกลับ ว่ามีใครไปบังคับท่านจ่ายไหม มีใครหลอกให้ท่านไปสักแล้วเก็บเงินเพิ่มทีหลังไหม ทุกคนก่อนจะสักหลวงพี่ท่านจะชี้แจงก่อน และ จะแนะนำ ว่าที่นี้ทำไมถึงต้องค่าครูตามภาพ ไม่สัก หลวงพี่ก็ไม่เคยว่า มีหลายครั้ง ที่ผมเองเข้าไปหาท่าน ท่านก็เมตตาในหลายๆเรื่อง ผมว่าบางคนที่ ต่อว่ากุฏินี้ ไม่เคยไปด้วยซ้ำจำเค้ามาพูด หน้าหลวงพี่สมชายเคยเห็นไหม ยังไม่เคย ก็ต้องศึกษานะครับ
         ยอมรับด้วยใจจริงว่า หลวงพ่อเปิ่นท่าน สั่งสอน ว่า ค่าครูวัดบางพระ ต้อง 25 บาท อันนี้ ผมรู้ แล้วหากท่านเคยไปสักที่กุฏิ นี้แบบผม แล้วจะทำไงหากมีคนมาว่าอาจารย์ท่าน
                                                                                                                     ขอให้นึกถึงใจศิษย์กุฏินี้บ้างนะครับ
                                                                                                                                            ชลาพุชะ
                                                                                                                                                      

392
สวยดีนะครับ

393
พี่สาวตั้งกระทู้มาแต่ละที น้องต้องออกบ้านทุกทีสิ แต่ งานนี้อยู่ห่างน่าดูแต่ คงไปได้ คงไม่น่าเกินปี นี้ ช่วงนี้ออกบ้านบ่อย แม่+เมียเริ่ม ว่าแล้ว 666

394
          ปฏิบัติตามที่ท่าน acoustic.song   ว่าเลยครับ ที่กุฏิใหญ่ก็มี ลงนะหน้าทองนะครับ ท่านเจ้าอาวาสท่านเมตตามากๆส่วนวันนี่ก็ไปได้ทุกวัน เวลาก็ไม่น่าเกิน 16.30 น.นะครับ

395

      ผมมีพระราม แต่แบบหมึกนะครับ ถ่ายไว้ นานแล้วตอนนั้นยังไม่มีกล้อง ใช้มือถือถ่าย เลยถ่ายไม่ค่อยชัดต้องขออภัย เรื่องจะถามว่าอาจารย์ท่านไหนในบางพระสักได้บ้างผมว่าพระอาจารย์ทุกรูปและอาจารย์ทุกท่านในบางพระสักได้อยู่แล้วครับ  แต่จังหวะคนเยอะ-น้อยและเหมาะสมกับจุดวางไหมก็เท่านั้น

ส่วนเก้ายอดก็ไม่มีแบบเดี่ยวๆนะครับ แบบนี้คงพอไหวนะ

396
ได้ดูภาพและคำคมสอนใจเยอะเลยนะครับ ขอบคุณครับ

398
2-4-5-3-1 ครับกระผม

399
          การสักหากเป็น แฟนชั่น ไปสักที่ไหนก็ได้ เอาสวย เอาเท่ แต่หากจะสักยันต์มว่ามีน้อยที่ ที่จะเป็นของแท้ วัดบางพระผมว่าเป็นที่สุดของการสักยันต์แล้ว เพราะมีคนเอาไปแอบอ้างเยอะ
          เรื่องที่ไหนใน กทม. ที่ไหนสักดีนั่นต้องไปดูไปลองเองเลยท่าน งานนี้ตัวท่านจึงจะบอกได้ว่าดีไหม ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว บางครั้งบอกไปก็โดนโจมตี ว่าของไม่แท้ ของปลอมบ้าง เลยไม่กล้าแล้ววววววววว

400
ก็อยากเลี้ยงบ้างนะครับ แต่กลัว  :004:

402
อาจารย์หนวดท่าน เมตตาให้มา สวยมากเลยครับ ยังไม่มีโอกาสไปหาท่านเลย ช่วงนี้

403

งั้นผมขอนำรูปหล่อของ พ่อทองมาให้ชมนะครับ ก็เป็น ขนาดบูชา 5 นิ้ว สิงคโปร์ รุ่น 1
แหมไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่มีใคร นำเหรียญมาให้ชมเลยรึครับ ผมก็เพิ่งได้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ ขอนำมาให้ชมเลยก็แล้วกันนะ พี่โชวคงไม่หลุดคอนเซ็ปนะครับ

เหรียญจอบเงินพ่อทอง รุ่น 1
ปล.ขอก๊อปวิธีถ่ายรูปของพี่สาวมาด้วย คงไม่โดนฟ้องเรื่องทรัพย์สินทางปัญญานะครับ

ของพ่อทอง ท่านน้องได้แต่ใดมา ท่าทางจะแอบๆ ไปคนเดียว แล้วมาเฉลยทีหลังแหง บอกมาเด่วนี้นะ เด่วจ๋วย  :009:

ปล. พี่โชวมีรูป background เป็นใบไม้ ใบตอง ดอกไม้ และเพชรพลอยอีกเพียบเลยไม่กล้าลงเลย.. เอาเถอะ ไว้จะงัดออกมาอีก..
เหรียญจอบ จะส่งมอบกันรุ่นต่อรุ่นนะครับ ส่วนใหญ่จะไม่ขาย และ เหรียญนี้ ผมได้มาโดยไม่ได้เสียเงินบูชาครับ  ส่วนใครให้มา แล้ว ได้มายังไง นี่ บอกไม่ได้จริงๆนะพี่ท่าน

404
มีหน้าหนุ่มหน้าแก่ด้วย เพิ่งเคยเห็นครับ สวยดีครับ

406
        วันนี้กระผมไปวัดบางพระเพื่อทำการขอเมตตาจากพระอาจารย์ช่วยสักให้แต่พอไปถึงก็ได้สักกับหลวงพี่ญา 1รอยสัก แล้วพระอาจารย์ทุกท่านก็ไปฉันท์เพล ผมเลยว่างครับ มาเดินชมวัดบางพระ เพราะที่ผ่านมามุ่งเน้นไปสักอย่างเดียวเลยไม่ค่อยไปไหน พอออกมาเดินตกใจมาก ที่กระผมมองข้าม ของดีของวัดในหลายสิ่ง ในมุมมองของผมซึ่งบางท่านอาจชินตาแต่ผมเพิ่งสังเกตุครับเชิญชมครับ
       
       
ไม่เคยเข้าไปกราบเลยครับ ครั้งนี้ครั้งแรกครับ


ภาพพ่อแก่ปางต่างๆที่ช่างกำลังบรรจง ปั้น ทาสี โดยมีหลวงพี่นัน คอยดูแลอย่างใกล้ชิดครับ




      มีชาวต่างชาติ เป็น นักมวยไทย รุ่นยักษ์ หนักไม่น่า ต่ำกว่า 150 กิโลกรัม ไปชนะที่สมุยมาและเคยมาสักกับพระอาจารย์ที่วัดบางพระแต่จำไม่ได้ว่าสักกับท่านไหน เพราะสักมา 5ปีแล้ว แท๊กซี่เลยพามาขอให้หลวงพี่ญาท่านเมตตา หลวงพี่ก็ให้หนุมานเลย สวยสุดๆ ผมก็อยากได้ แต่ มันตัวใหญ่ไป ไม่มีที่ลงแล้ววววว หลวงพี่ยังเอ่ยขำๆว่า มันแปลว่าคางหักนะ ผมอดขำไม่ได้ 666 ก่อนมา วัดบางพระ แท๊กซี่ พาไป ชลบุรี นั้นก็ บางพระ ไม่รู้ว่าจงใจ ต้มฝรั่ง รึ ไม่รู้ จริงๆ แหม วัดเราออกจะดัง
ปล.วันนี้ ได้เจอท่านซัมซุง คนเดิม แหมตอนโดนสักหน้าได้อารมณ์มากๆ

407
    อย่างทีน้องกวางว่า เค้าอาจไม่ ศรัทธาแบบเราก็ได้ เคยเจอ เว็ปหนึ่ง หากเมียผมแปลไม่ผิด เค้าบอกถึงการสักว่าเป็นการงมงายของคนกลุ่มเล็กๆในประเทศไทย ก็คงต้องดูต่อไปนะครับ แต่ถึงขนาดกล้ามาขอถ่ายที่กุฏิหลวงพี่ญาแล้ว คงจะช่วยเผยแพร่ รอยสักยันต์ไปในทางดีนะ พ่อฝรั่ง

408
       ขอบคุณทุกๆท่าน กระผมก็ทำการแยกเส้นแล้ว วันนี้คงไปหาตะกรุดคาดเอวเพื่อย้าย วัวกับเสือออกจากคอครับ และวันนี้จะไปหาอาจารย์พล เพื่อนำรูปหล่อท่าน มาแขวน เส้นเดียวกับอาจารย์ทอง

409
     มีหน้าที่แล้วก็ทำตามหน้าที่ให้สุดความสามารถ ให้สมกับ การที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจในตัว @ต้นน้ำ@ นะครับ

410
      ครั้งแรกที่ผมห้อยพระ คือที่ได้จากท่านเอ็ม หลวงพ่อเปิ่นปี 35 หลังตราแผ่นดิน ก็คล้องเดียวมาหลายเดือน แล้วก็พกลูกอมเสือที่หลวงพี่ญาท่านเมตตาให้มาตลอด มา 2-3 วันก่อนได้วัวธนูของหลวงพ่อพุฒมา ก็ เลยพกแบบหนีบ มาวันนี้ได้ เหรียญจอบเงิน รุ่น 1 ของพ่อทองก็เลย ต้องคล้องแบบตามรูป นั้นคือ แขวนหลวงพ่อเปิ่น องค์เดียวด้วยสร้อยติดคอ แล้ว แขวนพ่อทองโดยมีเสือ กับ วัว อยู่ด้วย แบบนี้ไม่รู้เหมาะสมไหมครับ

ปล.กล้องเมียเอาไป ยังไม่มาคืนเลยต้องใช้เว็ปแคมถ่าย มัวๆแต่คงดูออกนะครับ

411

งั้นผมขอนำรูปหล่อของ พ่อทองมาให้ชมนะครับ ก็เป็น ขนาดบูชา 5 นิ้ว สิงคโปร์ รุ่น 1
แหมไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่มีใคร นำเหรียญมาให้ชมเลยรึครับ ผมก็เพิ่งได้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ ขอนำมาให้ชมเลยก็แล้วกันนะ พี่โชวคงไม่หลุดคอนเซ็ปนะครับ

เหรียญจอบเงินพ่อทอง รุ่น 1
ปล.ขอก๊อปวิธีถ่ายรูปของพี่สาวมาด้วย คงไม่โดนฟ้องเรื่องทรัพย์สินทางปัญญานะครับ

412
สวยงามมากครับ ดูจากอักขระน่าจะสักมานานแล้ว

414
สักที่ขาได้ไหมครับ

415
              ตั้งเล็กถึง30ผมไม่ได้อยู่กับแม่เลย ปีหนึ่งเห็นหน้ากัน 1 รึ 2ครั้ง ตอนนั้นคิดน้อยใจมากทีแม่ไม่รัก ไม่ มีเวลาให้ มาตอนนี้ถึงรู้ว่าท่านเหนื่อยเพื่อผม ท่านต้องทำงานหนักเพื่อครอบครัว ตอนนี้ผมมาอยู่กับท่าน ได้คุยได้ไหว้ทุกวัน ดีใจครับที่ได้เกิดเป็นลูกแม่

416
ครับ ก็ คงต้องระวังๆกันหน่อยครับ ฝืนไฟนี่ครับ

417
แปดทิศอลังการมากๆ

418
โรงเรียนอนุบาลและเนอเซอรี่ รักยมกุมารทอง เลยนะน้อง

419
ได้อ่านข้อมูลสมใจหมาย ขอบคุณครับ

420
ของที่ท่านมีแต่ละชิ้น นี่สวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

421
เห็นดาบแล้ว อิ่มเลยครับ

422
เด็ดดวงเลยพี่

423
เมืองกาญเลยนะ
ใครไปบ้าง นั่งรถ ฟรี ที่รู้ทางยิ่งดี ขอ 3 ท่านนะ

424
ว้าวๆๆๆๆๆ ว้าว มายกคอกเลย สวยงามแต้ๆๆ

425
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: หมอนาค
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 2552, 09:10:08 »
ขอสอบถาม ประวัติท่านหมอนาคได้ไหมครับ เพราะผม ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร น่ะครับ ขอบคุณครับ

426
อนุโมทนาด้วยครับ สาธุ

427
          ใครจะว่า น้องเค้า ยังไงก็ช่าง ผมยังคิดถึงน้องเค้าเสมอนะ และรอน้องวันกลับมาเป็นน้องวัน ของ ผมนะครับ

428

     ขออภัยนะครับ ขอสอบถามว่า รอยสักนี้ ใครเป็นเจ้าของ แล้ว สักกับ อาจารย์ท่านไหน ถึงได้ สวยงามขนาดนี้ ครับ ช่วยตอบด้วยนะครับ

430
ปกติก็ เมตตา แคล้วคลาด คงกระพันอะครับ
ดั่งจรเข้ นั้นหนังเหนียว .... ยิ่งชาละวันด้วย เมตตา มีแน่นอน ครับ

ชาละวันกุมพี จระเข้แสนดี อยู่ในถ้ำธารา  :095:
ชาละวันกุมพี จระเข้แสนดี อยู่ในถ้ำธาราคาถาบทไหนนี้ คุ้นๆท่านเอ็ม คุ้นแต่นึกไม่ออก :034:

431
ออกแนวน่ากินเลยพี่ สวยดีครับ นึกว่า เซรามิก งานแกะของพี่ยุ่นนี่ก็ สวยเอาการอยู่นะ ขอรับ

432
งานนี้โดนหลายคนเลย ผมก็ มีเฉียดๆ ต้องเกรงกลัวต่อบาปเสียแล้ว เรา เดี๋ยวตายก่อนที่จะได้กลับตัวครับ

433
         หลังจากได้รับเมตตาจากหลวงพี่ญา และ หลวงพี่นัน สักให้แล้ว มีความตั้งใจอยากไปกราบสังขารหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ เลย นั่งวินจากบางพระไปเลย ไปถึงก็เข้าไปกราบสังขารหลวงพ่อพุฒ แล้ว บูชาวัวธนู ซึ่งถามพระหน้าตู้ว่าทันหลวงพ่อพุฒไหม หลวงพี่ ท่านว่าทัน ผมก็เดินถ่ายรูปมาฝากพี่น้องชาวเว็บบางพระครับ ก็มือสมัครเล่นนะครับ การถ่ายอาจไม่มีศิลปะ แต่ ก็มุ่งเน้นถึงการบรรยายเป็นภาพครับ

                
                           1.สังขารหลวงพ่อพุฒในโรงแก้วครับ



                                                    ชอบหอนี้มากๆดูลำโพงสิครับ




                           พลวงพ่อทับทิม ผมได้ถ่ายรูปป้ายบรรยายประวัติหลวงพ่อท่านไว้ด้วย


                 หลวงพ่อองค์นี้ใหญ่มากๆ ไม่ทราบว่าชื่อหลวงพ่ออะไร ท่านใดทราบบ้างครับ
ปล.มีข้อสงสัยครับ ที่ผม บูชา มานี้ ทันหลวงพ่อพุฒไหม บางท่านก็ว่า ทัน บางท่านก็ว่าไม่ทัน แล้ว ที่ทัน นะ อันไหน ครับ กลุ้มมากๆ

  


434
อยากเห็น จัง ว่า หน้าตาเป็นไง ยันต์เกราะเพชรผมก็อยากได้ ครับ

437
สวยงามมากโข ชอบหนุมานมากครับ อลังการงานสร้างจริงๆ

438
ตอนเด็ก แม่ ว่า แกยังขอเงินแม่ ห้ามไปสักนะ
                                                พอโตมีเมีย เมียบอก ดิฉันไม่ชอบคนสัก หาสักเลิกกัน
ตอนนี้ทำงานหาเงินได้เองแล้วแม่เริ่มเงียบยอมให้สัก  เมียก็เริ่มแกเลิกก็ดีหาใหม่  ใครจะห้ามใจของข้าพเจ้าคงไม่มีครับ โอกาส จะช้า รึ เร็ว ก็ต้องมีสักวัน หากเราตั้งใจครับ

439
           แล้วสำนักท่านอาจารย์อยู่ไหนครับ ผมก็ หาอยู่ครับ ไปไม่ถูกครับ
        รับเข็มแล้วเงียบเลยครับ น้องคิดถึงนะครับ แล้ว  คนเดียวเลี้ยงรักยม 10 ตนไม่ไหว ซนครับ แบ่งๆให้ พี่น้องท่านอื่นเลี้ยง ฝากบอกด้วยนะครับ ว่าคิดถึง


440
ต่างคนต่างความรู้นะครับ  :109:

441

ของผมสวดตามนี้ครับ ได้ภาพมาจากท่าน สิบทัศน์ เมื่อนานมาแล้ว ไปวัดที่กฏิใหญ่ ก็มีป้ายสวดตอนกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่นก็ใช้บทนี้ครับ


442
           ต้องขอบคุณ ท่าน schoolbus  อย่างมากมาย ที่นำภาพสวยๆมาให้ชมด้วย แหม แล้วยังน้ำใจงาม แบ่งให้เพื่อนสมาชิกอีก เยี่ยมยอดเลยท่าน ผมร่ะชอบมากๆ มีอะไรต้องแบ่งกันไม่ห่วงไว้ชม ขอให้ หล่อขอให้รวยๆนะครับ งั้นรบกวนส่งให้ผมด้วย นี่เมล์ผมนะครับ Deer310321@hotmail.com หากท่านมีรูปเกจิรูปอื่นๆจะกรุณา ส่งให้ผมก็ไม่ว่านะครับ ต้องรบกวนท่านแล้ว
                                                                                                        ขอบคุณครับ

443
ก็ควรหา จุดที่เคร่ง กับ ผ่อนให้เหมาะสม แต่ การ บอก สาวท่านนั้น ให้เลิกเล่นหัว ท่าน น่าจะเหมาะสุดนะ หัวของเรา เราน่ามีสิทธิ์ปกป้อง นะครับ

444
เคยไปที่อำเภอไชยปราการที่เชียงใหม่
เขาว่าถ้าเด็กผู้หญิงในหมู่บ้าน มาขอจับมือ ห้ามจับโดยเด็ดขาดเลยครับ
จะถือเป็นการเสียผีครับ ถ้าพลาดไปล่ะก้อ เงิน1หมื่น หมู1ตัวครับ มาขอลูกสาวเขาครับ
เกือบพลาดไปแล้วครับ พี่ๆเขามาสะกิดทัน ไอ้เราก็อยากจะไปเห็นกับเด็กสนุกๆก็เท่านั้นเอง

จิงดิท่าน ถ้าอย่างนั้นเห็นเด็กคนไหนน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เข้าไปจับมือได้เลยดิ ได้แฟนแน่งานนี้ สินสอดไม่แพงด้วยอ่ะ  :002:

สงสัยต้องชวนท่านแอ็คไปแร๊ะ  :095: :095: :095:

ทำได้นะท่านหากท่านทนกลิ่นได้ ปีหนึ่งอาบน้ำ 2 ครั้งเชียวนะท่าน

445
ไม่มีข่าวของพิธีนี้เลย รึ เราไปมุดอะไรอยู่นี่ :083: :082:  ทำไงดี เมื่อไหร่มีอีกครับ 

446
อันว่าชูชก นี้โบราณว่ามีอาถรรพ์ในตัว จึงต้อง
1. กำกับเป็นการล้างอาถรรพ์ในส่วนที่ไม่ดีออกไปเพราะมิฉินั้นเเล้วผู้บูชาจะมีราศรีหม่นหมองครับ เพราะอันเกิดจากอัปกิริยา

ของตัวชูกชกเอง

เพราะ ชูชกนั้นเป็นคู่เวรคู่กรรมกับพระเวสสันดร ครับ
แต่ละคำ ขอช่วยแปลนิดนะครับ งงมาก
1.ประจุพระมนต์ปัถมัง คือ อะไรครับ
2.แล้ว เกิดจากอัปกิริยาของตัวชูกชกเอง มันเป็นยังไงครับ
       เพราะลุงพงษ์ เคยได้รับการสัก จากพระอาจารย์พงษ์(พงษ์เหมือนกัน)แล้วหลวงพ่อเปิ่นท่านเมตตาเป่าให้ ผมก็เลย ไปสักบ้างแต่กับอาจารย์ประโยชน์ เท่าที่ได้ยินมา บูชาชูชก ไม่อดตาย อันนี้ ขอความเห็นทุกๆท่านเลยนะครับ ช่วย ตอบด้วย ว่าคิดเห็นกันประการใด


447
ดีจัง ยังมีควายธนูที่ทันหลวงพ่อด้วย

448
พี่โชวได้เมตตาจากหลวงพี่ญาเยอะนะครับ

449
สวยมากๆเลยครับ ไม่ได้สักกับท่านนานแล้ว ไปที่ไร ไม่ตรงวันที่ท่านมาซักที

450
ว่าไงว่าตามกัน
              งั้น กระผม ว่าระดับหลวงพี่ตูน ดำดื้อ แดงเก สักได้อยู่แล้วท่าน

451
ด้วยความเคารพครับ สมัยก่อนค่าครู 24 บาท แต่ว่าตอนหลังเพิ่มอีก 1 บาท เป็น 25 บาท
เพราะว่าลำบากในการทอนครับ  
ผมได้ทราบจากปากของครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านเป็นศิษย์สายวัดบางพระแท้ๆ ท่านบอกว่าสมัยหลวงปู่เปิ่นอยู่นั้น
"ค่าครูถูกกว่านี้มาก แล้วหลวงพ่อก็เป็นคนบอกเองว่า ค่าครูนั้นเก็บแค่ 25 บาทเท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้ ห้ามเด็ดขาด"


ก็เข้าใจครับว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป แต่ถ้ามองกันให้ลึกๆจริงๆ ยันต์สายวัดบางพระนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองครับ ชัดเจน จริงแท้และแน่นอน
มองปุ๊บรู้เลยว่านี่ คือยันต์สายวัดบางพระ สายหลวงปู่เปิ่นแท้ๆ (ปัจจุบันมีการสักรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ยันต์บางอย่างที่สักๆกัน
เรียนตามตรงว่า ไม่ใช่ยันต์และวิชาการสักของวัดบางพระอย่างแน่นอน
แต่ถ้าใครสักมาแล้วดีอันนี้ผมก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ใครเป็นอย่างไร
ครูบาอาจารย์ท่านย่อมรู้และเห็นโดยตลอดครับ )


ก็จริงอย่างที่พี่น้องบางท่านบอกว่า อาจารย์สักก็ต้องกิน ต้องใช้ แต่ผมอยากจะกราบเรียนด้วยความสัจจริง ปัจจุบันนี้ก็ยังมีศิษย์ฆารวาส ของหลวงปู่เปิ่นที่ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการสักของวัดบางพระมาอย่างแท้จริง(อายุท่านมากแล้วเป็นศิษย์รุ่นเก่าของหลวงปู่) ซึ่งค่าครูนั้นก็เก็บแค่ 25 บาทเท่ากับที่หลวงปู่สั่งไว้ทุกประการครับ แล้วที่สำคัญยกพานครั้งเดียว 25 บาท สักได้ทั้งหลังครับ ถ้าทนไหว


ถ้าสมัยหลวงปู่ยังอยู่ ความจริงและความกระจ่างก็น่าจะมีมากขึ้นครับ แต่นี่ท่านมณะไปแล้ว แต่ศิษย์ที่ทำตามคำสั่งสอน
ของท่านก็ยังมีอยู่เยอะครับ หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมค่าครูหลายๆกุติในวัดบางพระนั้นไม่เท่ากัน ผมอยากให้สังเกตุดีๆ
นะครับว่า พระอาจารย์รูปต่างๆที่ท่านได้เรียนและครอบวิชามากับหลวงปู่เปิ่น โดยตรงนั้น ท่านเก็บค่าครูแค่ 25 บาทเท่านั้นครับ



สุดท้ายข้อความทั้งหมดที่ผมได้พิมมา ณ ที่นี้ ผมยืนยันว่าเป็ฯความสัจจริงทุกประการไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงแต่อย่างใดครับ
ผมกราบขอบารมีและแรงครูช่วยหนุนนำให้ศิษย์ท่านใดที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว ก็ขอให้แรงครูช่วยเสริมส่งให้ท่านเหล่านั้นประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆครับ
ส่วนศิษย์กลุ่มไหนคิดนอกครู ก็บอกได้คำเดียวครับว่า อนุโมทนาสาธุ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม :054:

ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย จากศิษย์วัดบางพระชั้นปลายแถว นายก๊อตคุง
[/quote]ขอบคุณที่ท่านช่วยให้กระผมรู้แจ้ง งั้น ขอถามอีกคำถาม ให้ กระผม ได้รู้ชัดๆไปเลยใน 2 คำถามนี้
1.สายบางพระในความคิดของกระผม คือ ศิษย์ที่เรียนมาจากสายบางพระ แล้ว หากเป็นฆารวาส ที่ เปิดสำนักที่ อยู่ ภายนอกวัดบาง เปิดสำนักที่บ้าน ไม่ ว่า ทาง เหนือ ทาง อีสาน ทางใต้ นั้นก็คือ สำนักสักสายบางพระ แล้ว ท่าน คิดว่า สำนักเหล่านั้นใช่ สายบางพระ หรือไม่
2.ค่าครูสายบางพระต้อง 25 บาทเท่านั้นใช่ไหมครับ หากมากกว่านั้นไม่ใช่ ในความคิดของท่านใช่ไหม

452
ศรัทธาใครศรัทธามัน ครับ แต่ตั้งแต่ผมไปสักที่วัดบางพระมานั้น
"ไม่เคยเห็นอาจารย์เสือไปที่วัดเลยซักครั้งเดียว แม้แต่กระทั่ง
งานไหว้ครู "
แล้วที่สำคัญนั้น
ถ้าเป็นศิษย์สายวัดบางพระจริงๆ ค่าครูต้อง 25 บาทเท่านั้นครับ
แพงกว่านี้ ก็อนุโมทนาสาธุ

ถูกใจ ครับ :015:
       ท่านครับ บางสำนักก็สายบางพระนะครับ แต่ ก็ สัก โดยมีค่าครูมากกว่า 25 บาท แต่ก็ไม่สูงมากมายอะไรนัก อาจารย์ก็ต้องใช่จ่ายนะครับ บางท่านเปิดสำนักสักอย่างเดียวไม่สามารถไปทำงานอย่างอื่นได้ โดยมีเหตุผลต่างๆ ผมว่า อาจารย์ท่านไหน มาจากบางพระไม่ได้วัดที่ ค่าครู 25 บาท นะครับ ผมว่าน่าจะมองจากแหล่งที่ได้มาของความรู้ว่ามาจากที่บางพระจริงไหม การปฏิบัติตัวสมกับเป็นครูบาอาจารย์หรือไหม หากท่านต้องเลี้ยงครอบครัว พ่อ แม่ ภรรยา และบุตร คงต้องขอค่าครูที่พอกับการเลี้ยงชีพ ผมแน่ใจได้เลย ว่าไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหน จะหวังสักยันต์ให้ลูกศิษย์เอารวย คงเพียงแต่ สืบสานอนุรักษ์ ส่วนหนึ่งของความเป็น คนไทย และ อยากให้ ศิษย์ที่ตนประสิทย์ประสาทวิชาให้เป็นคนดีของสังคมครับ

453
อาจารย์เสือ จรัญ 85 รึปล่าว ผมขอฟันธงว่าไม่ใช่นะครับ สักเครื่องด้วย แหมแปลกจริงๆ อนุรักษ์ลายสักไทย ด้วยการสักเครื่อง 07;

454
แหม ไม่มีอะไรกินรึไง น้องคางคกล่อน้องงูซะแล้ว รึกินงูเพราะกลัวโดนงูกิน แปลกๆๆๆๆ

455
ผมยังไม่มีเลยแบ่งๆผมบ้างสิ

456
        เคยมีพระอาจารย์สักให้เด็กอายุน้อยสักแล้ว ถึงขนาดโดนจับสึกเลยนะครับ เป็นเรื่องอันตรายมากๆ ที่จะสักให้เด็ก ต่ำกว่า 18 ปีถึงคุกเลยนะท่าน เด็กชอบ พ่อแม่ ญาติจะชอบไหม สักไปนานๆวันดีคืนดีเข้าทำงานไม่ได้ก็มาว่าอีก ใจคนนี้น่ากลัวท่าน รอให้ อายุ เกิน 18 ก่อนน่าจะเหมาะนะครับ

457
คงเป็นทางเลือกในการสักได้อีกที่ รายละเอียดที่ตั้งสำนักก็มีแล้ว ขออีกนิดนะครับ มีที่จอดรถไหม

458
เค้าคงคิดว่าสวย ว่า ดีถึงได้เล่นเต็มสูตรขนาดนั้น ใจใครใจมัน เพราะสิ่งที่ทำจะอยู่กับเค้าตลอดไปจนตาย

460
อิจฉาท่านโจ้ เสีย จริง แซวนิดแซวหน่อย มี แม่ยก มากัน กันยกใหญ่ หล่อเลือกได้ของแท้ 38;
                                                                                                         เราก็อยากโดนแย่งบ้างทำไงเกิดมาไม่หล่อ 666

461
สวยจริงครับงานนี้ ได้อ่านข้อมูลดีๆด้วยขอบคุณครับ

463
นมัสการครับหลวงพี่ ผมอยากไปกราบท่านจริงๆครับ

465
หากินกับศรัทธา คงไปไม่ไกลหลอกครับ

467
      ได้รู้ ยศ และชื่อ จริงท่านก็วันนี้ ตอนเจอท่านครั้งแรก ในวันที่ 6 มีนา ที่ผ่าน มา ได้เป็นเกียรติร่วมรับประทานอาหารร่วมกับท่าน ผมก็ นั่ง รับประทานอยู่ ติดๆกับท่าน ทานไปพักใหญ่ ท่านถามแม่ครัวแบบติดตลก "เอ นี่มันหัวไช่เท้า รึ ฟักเขียว"ผม สำลักข้าว ออกจมูกเลย แม่ครัว ตะโกน สวนมาเลย "ก็หัวไช่เท้า สิท่านก็ ทำให้คนเล่นของ คนสักกิน ใส่ฟักแฟงแตงบวม เค้าก็ด่า ดิฉันตายสิค่ะ" แหมรอดไป ผมซัด เข้าไปจานที่ 3 แล้ว ท่าน เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ถือตัวครับ ผมมารู้ ตอนหลังว่าท่านเป็น ตำรวจ ที่มียศ สูง แต่ มาตกใจยิ่งขึ้น ที่ พึ่งรู้ ว่า ท่าน ดำรงค์ ยศ พันตำรวจเอก เลย นะครับนี่  

468
       เคยมีหลายท่านเคยสร้างกระทู้ว่าสักกับอาจารย์ คนเดียวดียังไง หลายคนดียังไง ผม จึงขอนำ รอยสักของลูกศิษย์ของอาจารย์ประโยชน์บางท่าน ที่สักกับ อาจารย์ประโยชน์ ท่านเดียว มาให้ชม
     คนนี้ลุงกุ๋ย ปกติไม่ยอมให้ถ่ายวันนี้ใจดียอมโดยไม่ขอ เลยกดซะ นี่ล่ะครับ สีหมึกเป็นสีเดียวกัน หากสังเกตุดีๆการจัดวางจะมองเป็นหน้าเสือครับ มองดีนะครับ
    ส่วนคนนี้ผมไม่รู้จักชื่อแต่ชอบ ที่มีพ่อแก่อยู่กลางหลังเลย ชอบครับ
ไม่รู้จะบรรยายยังไงเชิญชมต่อลยครับ




469
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนี่นะครับ

471
ผมสักมาครับ "หนุมานตัวเก้า" อยู่ที่ศรัทธาครับ เราต้องการเป็นศิษย์ท่านจริงๆ เราเห็นสมควรแล้วเราจึงไปฝากตัวเพื่อเป็นศิษย์ และไม่มีข้อสงสัยใดๆในตัวอาจารย์ ก่อนสักควรตัดสินใจให้ดี เพราะสิ่งๆนั้นจะอยู่กับเราตลอดชีวิต :054:
รูปล่ะท่าน ไม่ลงเลย เก็บ เลยนะ ตัว 9ด้วย อยู่แถว ตากสิน 34 นี่เอง แต่ ผมไม่มีทีแล้ว เสียดายจัง

472
ผมขออนุญาตเซฟรูปหนุมานครองเมืองหนึ่งรูปครับท่าน ขอบคุณครับ

        ในเมื่อผมนำรูปมาลงกระทู้แล้ว มันก็ต้องเป็น ของทุกท่านที่ชม จะเป็นเกียรติมาก หากท่านชอบรูปแล้วนำไปเผยแพร่ หรือ เก็บไว้ กระผมต่างหากต้องขอบคุณครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ

473
หากขอเสือคงได้ไม่ยากครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลวงพี่นะครับขอให้โชคดี

474
        การสักยันต์ หากเป็น รูปแบบยันต์ บางยันต์บางรูปต้องตามแบบ บางยันต์บางรูปไม่ต้องตามแบบ ขึ้นอยู่กับพระอาจารย์ อาจารย์ ที่สักให้ มีหลายครั้งผมเห็น รูปลิงใส่หัวใจหนุมาน บางทีไปสักปลามาก็โดนใส่หัวใจปลาตะเพียนเลย บางรูปยกไม่ยกมือต่างกัน แต่เป็นหนุมานเชิญธงเหมือนกัน การสักยันต์ไม่มีกฏตายตัว พลิกผันตามสถานะการณ์และความเหมาะสม ท่านต้องไปดูหลายๆสถานที่ครับางทีไม่ต้องสักไปดูเป็นวันๆก็มีนะท่าน

475
แหมท่านต้นน้ำ นี่ดังใช่ย่อยนะขนาดท่าน ณ.อยุธยา  ยังจำได้เลยคนดังจริงๆน้องชายฝาแฝด ปั๊บ โปเตโต ฮิฮิฮิ

476
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ

477
มีดสวยนะครับ

478
ขอบคุณครับ ท่าน นกที่เอารูปแหวนสวยๆมาให้ชม

479
ครับเห็นท่าพระจันแล้วอดนึกถึงครั้งล่าสุดที่ผมไปไม่ได้
เหอๆ ไปเดินหาตลับใส่แม่นางพิมตั้งนานสองนาน แต่ก็ไม่มีไซส์
เลยง่ะ  :075:

ผมเองก็คิดจะนำภาพบรรยากาศของสนามพระท่าพระจันทร์ มาให้พี่ๆน้องๆในเวปบอดร์ดวัดบางพระ
ได้ชมกันบ้างเหมือนกันครับ แต่เห็นพี่ชลาพุชะตั้งกระทู้แนวๆนี้แล้ว ผมเลยขออนูญาตนำรูปภาพบางส่วน
ที่ผมถ่ายไว้มาให้รำลึกถึงบรรยากาศแบบท่าพระจันทร์แท้ๆกันครับ  :095:





























ภาพชุดนี้ผมเป็นคนถ่ายเองครับ บางรูปก็ได้ลงชื่อไว้
บางรูปก็ไม่ได้ลง ถ้าพี่ๆน้องๆท่านใดจะก๊อปปี้หรือเซฟเก็บไว้ ผมไม่ห้ามครับ แต่ช่วยบอกกล่าวกันก่อนซักนิดนะครับ

ปล  ขออภัยที่คราวนี้ไม่มีคำบรรยาย เพราะผมคิดว่าอารมณ์และความหมายที่สื่่อ
ออกมานั้น มันมีอยู่แล้วในตัวของมันเองครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ :001:
ได้บรรยากาศท่าน้ำท่าพระจันทร์จริงๆท่าน

480

รูปนี้นะครับที่ผม สักติดตัว เดี๋ยว จะเข้าใจผิด จะแก้ไขแต่ไม่ทันแล้ว

481
3/3
มาเดินต่อท่าพระจันทร์ ถนนทั้งสาย มีแต่ขายพระทั้งแท้ ทั้ง เก๊ ไม่แจ๋งจริงมาโดนหลอกแน่ๆ มี ราคา 2 บาทจนถึง 6 ล้าน อ่านไม่ผิดหรอกครับ 2-6000000 บาทครับ แต่มีที่เลี่ยมพระ มี คนถักตะกรุด  ขายยา ฟันปลอม มีหลายอย่างที่มี เสน่ห์ครับ ผมยังชอบเลย เชิญชมนะครับ











มีบางร้านที่ไม่ยอมให้ถ่ายครับ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถ่ายไม่ได้แต่ก็ สิทธิของเค้าครับ มีของกินส่วนมากอร่อยสุดๆ ถึงกับต่อคิวซื้อเลยครับ ชื่อร้าน อร่อยครับ ขายขนมปัง
จบทริปครับวันนี้
สวัสดีครับ

483
วันนี้ไปแถวสนามหลวงตั้งใจไปวัดพระแก้ว เลยถ่ายรูปมาฝากนะครับเชิญชม
                              
                
อากาศไม่ร้อนมากแต่แดดแรงเอาเรื่องเลยครับ
                



มีแต่งสภานที่สวยงามทั้งนั้น ไม่มีคำบรรยายนะครับ

หนุมานภาพนี้ผมก็สักติดตัวครับ


ภาพรามเกียรติ์ครบทุกตอนเลย นี่ถ่ายมาบางส่วนนะครับ
1/3
เป็นมงคลกับตัวกระผมและที่ได้ถ่ายภาพ พระแก้วมรกต

484
ยันต์พระเจ้าสิบชาติครับ ป้องกันอันตรายได้ทุกๆด้าน ให้ลาภยศ ดีมากเลย ครับ สักมาจากที่ ไหน เส้น คมเชียว

486
การทำงาน คือการแก้ไขปัญหา และวางแผน เตรียมรับปัญหา
บางครั้งปัญหานี้ เคยเจอ ไม่เคยเจอ แต่ ทุกปัญหาเราแก้ไขได้ เพียงแต่เร็ว รึ ช้า คุ้ม รึ ไม่คุ้ม จำเป็นต้องแก้ รึ ไม่จำเป็น รสชาติของชิวิตทำงานนะท่าน มันดีผมว่านะ

487
กระผม ขอว่าหากท่าน ให้แล้วแต่ พระอาจารย์ และ อาจารย์ ที่ สักให้ ผม ว่า ต้องออกมาสวย ตามสูตรแน่ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

488
ขอบคุณข้อมูลนะครับ

489
      เราเป็นคนดีที่ไม่รู้ว่าจะทำดียังไงเลยทำเลวเพราะมันง่าย หรือ เราเป็นคนเลวที่กลัวจะโดนลงโทษเมื่อทำผิดเลยไม่กล้าทำเลว เราต้องคิดเสมอว่าเลวแล้วได้อะไร ผลสุดท้ายจะเป็นไง ดีแล้วเราเป็นไงรู้ตัว ว่าเป็นคนดี หรือ คนเลว มันไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำ แต่ขึ้นอยู่กับทำแล้ว มีผลอะไร กับ คนอื่นบ้าง ก็อย่างเช่นเราเป็นคนดี ไปเห็นคนเกือบ 20 กำลังจะโทรมหญิง โทรศัพท์ก็เงินหมด ซอยก็เปลี่ยว จะทำตัวเป็นพระเอกไปห้าม ผมว่าหากไม่ตายก็ พิการ ต้องหลบ หรือ รีบไปแจ้ง เจ้าหน้าที่กว่าจะมา สาวคนนั้นก็สายไปแล้ว ท่านว่านี่ เป็นคนดี รึ ไม่ดี เดินไปเดินมาเห็นวัยรุ่นตีกัน ท่านก็ห้ามได้ท่านจะห้ามไหม ท่านเห็นการฆ่า แล้ว หากไปเป็นพยาน ครอบครัวของเรา ต้องตายเรียบ เราจะเลือกอะไร คนอยากทำดี แต่ อาจทำไม่ได้เพราะผลที่ตามมา บางทีโอกาสทำเลวมันสูงโคตรๆแต่ทำดีมันน้อย
                 
ก็ต้องหาโอกาสทำดีเข้าไว้นะครับ

490
        ไปบ้านพ่อทองวันก่อน เจอ พี่สักแปดทิศใหญ่มากๆครับ ขนาดเส้นฝ่าศูนย์กลาง 28 ซม. ก็ลองกางไม่บรรทัดดูนะครับ เจ้าของรอยสัก หนัก 100 โลขึ้นแน่ๆ เชิญชมครับ

491
แม่ คือ พระอรหันต์ของลูกครับ ผมว่าท่านทำได้ถูกต้องแล้ว

492
เอ แล้วเราจะเปิดเส้นทางพระรามสอง - วัดบางพระ อีกซักคันดีมั้ยน้า ดูงานก่อน

เอ้า ใครไปโดดขึ้นมาโลด   :006:  (ล้อเล่นน่า ถ้าไปก็เอาเก๋งไปแหละ)



เฮียโจ้จะเปิดเส้นทางสายพระราม 2 เหรอค่ะ..แวะรับเด็กข้างทางซักคนได้ม่ะ...ทางผ่านพอดี.. คนหล่อรถสวย เข้ากันดีครับ
คนหล่อรถสวย เข้ากันดีครับ
ผมไปด้วยครับ แต่ว่าผมเอารถไป ขับรถไปพร้อมๆกันไหมครับ ขับๆตามกันไป ท่านชลาพุชะ
ดูรถท่านแต่ละคัน ข้าน้อยมิบังอาจ หากพี่ท่าน อยาก ขับนำผมขอตามครับ ว่ามาเลยนะครับ จะเจอ ณ.จุดไหน

496
สวยมากโขอยู่ อยากได้จัง

498
ไป 2ครั้ง ยังไม่เจอครับ แต่ไม่เจอดีกว่า ชอบดูนานๆไม่ซื้อ 03;

501
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า ทุกยันต์มีชีวิต และ จะมีพุทธคุณเพิ่ม รึ ลดลง ขึ้นอยู่กับ การปฏิบัติ ของเราครับ

502
ของดี จะใหม่จะเก่าก็คือของดี ครับ เพียงแต่ ของเก่าๆ อาจหายาก  ขอบคุณท่านเอ็ม นะ