ซื่อ เทียน หวาง หรือ ซี้ เทียง อ้วง ?ท้าวจตุโลกบาล?
เทพทั้งสี่ผู้เป็นใหญ่ในแดนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิก เป็นแดนเทวโลก ซึ่งเชื่อว่าเป็นดินแดนอันมีอาณาเขตติดกับโลกมนุษย์ เทพทั้งสี่ปกครองสวรรค์แบ่งเป็นเขตต่างกัน ทำหน้าที่เป็นโลกบาลประจำทิศทั้งสี่ โดยมี
1. เทพ ฉือ กว๋อ เทียน อ้วง หรือ ฉือ กว๋อ เทียน หวาง
เป็นราชาแห่งฝูงคนธรรพ์ ประจำอยู่ทิศตะวันออก มีชื่อเรียกว่า ท้าวธตรัฐ มีลักษณะ คือ ผิวกายสีเขียว มือซ้ายถือพิณ มือขวาดีดพิณ บางตำราอ้างว่าท้าวธตรัฐ เป็นผู้ดีดพิณถวายเตือนพระสติพระโพธิสัตว์ในคราวบำเพ็ญทุกขกิริยา ให้หันมาตั้งมั่นในมัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งในคติเบตท้าวธตรฐเป็นเทพเจ้าแห่งความร่าเริง เพราะมีของวิเศษเป็นพิณที่ดีด และเพลงที่เล่นนั้นเป็นเพลงแห่งความสุขกล่อมปวงประชา ท้าวธตรัฐนี้มีเทพองครักษ์เป็น ?ค้วงกุ้ย? (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) หรือผีบ้าสติแตกกับยมทูตตัวเขียว
2. เจง เจีย เทียง อ้วง หรือ เจิง ฉาง เทียง หวาง
ซึ่งก็คือ ท้าววิรุฬหก เป็นราชาแห่งกุมภัณฑ์ (ยักษ์) เป็นเทพแห่งเหล่ายักษ์มีรูปกายสีขาว มือถือเกาทัณฑ์ บางตำรากล่าวว่าถือร่ม อยู่ประจำทิศทักษิณ มีผีที่เป็นองค์ชื่อ ?อุ๊งหิ่ง เท้งฉู่?(ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ผีเหม็น กระโดกกระเดก ในคติเบตท้าววิรุฬหกทรงเป็นเทพแห่งความสุข และความมั่งคั่งของปวงประชาหรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเอง
3. ควง บัก เทียง อ้วง หรือ กว่าง มุ เทียน หวาง
ซึ่งก็คือท้าววิรูปักษ์, ท้าววิรุณ, ท้าวพิรุณ ผู้เป็นราชาแห่งนาค มือซ้ายมีงูเลื้อยพันฝ่ามือจับคองูไว้ มือขวาถือดาบ อยู่ประจำทิศตะวันตก กล่าวว่า เกิดจากกัสสปเทพบิดรกับนางทิติมเหสี ฝ่ายซ้าย มีกายขาวเพราะทำหน้าที่เกี่ยวกับน้ำ และยังมีคนกล่าวไว้อีกว่าท้าวเธอเกลียดความเท็จมากที่สุด หากผู้ใดกล่าวเท็จ ผิดสัญญา ก็จะบันดาล ให้ป่วยไข้ต่างๆ นานา แต่หากผู้ใดมีศีลสัตย์เกรงกลัวต่อบาปก็ย่อมบำเหน็จให้พบความสุขสวัสดี ทั้งอาจช่วยให้พ้นมฤตยู(ความตาย) ได้ในบางคราว ด้วยความเมตตากรุณาในหทัยของท้าวเธอนั่นเอง ด้วยเหตุที่มีชื่อเรียกวิรุณหรือพิรุณจึงเป็ฯเทพแห่งฝนเรียกปัชชุนะพุทธโฆษาจารย์ว่าชื่อ วสสาวลาหก บ้างก็ว่าเป็นใหญ่เหนือมนุษย์ทั้งหลายกล่าวว่าปัชชุนะอาจต้องทำให้ฝนตกเมื่อเปี่ยมบุญญาธิการ ประกาศสัจจกริยาเช่นครั้งที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นปลา ปัชชุนะต้องทำให้ฝนตกเพื่อพระโพธิสัตว์และญาติมิตรทั้งปวง ทั้งพระอานนท์ก็เคยเกิดเป็นเทพปัชชุนะมาแล้วในอดีตชาติ
ท้าววิรูปยักษ์ หรือพระวรุณ นามเต็มว่า พระวรุณาทิตย์ เป็นเชษฐาองค์แรกในพวกอาทิตย์ ทั้ง 8 เป็นโอรสนางทิติกับกัศยปเทพพิดร แต่ในมหาภารตะว่าเป็นโอรสพระฤษีกรรทมพรหมบุตร ส่วนในรามเกียรติ์ว่าเป็นบิดาสุเสน (นายทหารของพระราม) มีเทพองครักษ์เป็น ?เอี่ยวเฮ้งกุ้ย? (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) หรือแปลง่ายๆว่า ผีเมตตาอ่อนโยน และอีกตัวหนึ่งคื ?หง่อกุ้ย? (ภาษจีนแต้จิ๋ว) หรือผีออดอยาก
4. โต เหวิน เทีวน หวาง
หรือเรียกว่า ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร หรือไตรภูมิพระร่วงเรียกว่า ท้าวไพสพมราช เป็นราชาแห่งยักษ์ ประจำอยู่ทางทิศเหนือ มีกายดำถือเจดีย์ กล่าวว่าเป็นอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ถือเป็นยักษ์ที่ดำรงในสัตย์ธรรม เป็นที่ปรึกษาคนสนิทของพระอินทร์ สมมติกันว่าเป็นโอรสพระวิศรวสมุนีกับนางอิฑวิฑา แต่ในมหาภารตะว่าเป็นดอรสพระปุลัสตยะ (เป็นบิดาของพระวิศรวัสมุนี อีกชั้นหนึ่งในคัมภีร์มหาภารตะ อ้าวว่าพระปุลัสตยะเป็นเทพองค์ที่ 4 ของดาวจระเข้) ท้าวเวสสุวรรณได้รับพรจากพรหมให้เป็นอมฤต
ท้าวเวสสุวรรณนั้น มีองครักษ์เป็น ?เฉ่าเง่อกุ้ย? (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) แปลตรงตัวว่ามีอดอยาก และเหม็น
ในทางพระพุทธสาสนา ท้าวจตุโลกบาลถือเป็นเอตทัคคะอุปัฎฐากโดยเป็นผู้ถวายอารักขาพระพุทธองค์ครั้งอยู่ในครรภ์ของพระราชนนี ในครั้งที่ตปุสสะและภัลลิกะถวายข้าวยาคู และรวงผึ้งนั้น พระพุทธองค์ ทรงปริวิตกว่า หากจะทรงรับด้วยพระหัตถ์ ก็จะเป็นการไม่เหมาะสม ครั้นท้าวจตุโลกบาททราบความในพระทัย ต่างก็ทูลเกล้าถวายบาตรแก้ว แล้วโดยพุทธานุภาพทรงรวมบาตรทั้งสี่เข้าด้วยกันแล้วจึงทรงรับบิณฑบาตดังกล่าว ท้าวเธอทั้งสี่ยังเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือแก่พุทธสาวกในการค้ำจุนหระพุทธสาสนาอีกด้วย
ท้าวจตุโลกบาลมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อผดุงเหล่าธรรมิกชนทั้งในโลกมนุษย์ และเทวโลกโดยวันขึ้น หรือแรม 15 ค่ำ (วันอุโบสถ) ท้าวทั้งสี่จะมาตรวจโลก เพื่อสำรวจดูผู้ดำเนินในศีลจารวัตร ด้วยคตินี้ในพิธีกินผักจะมีประเพณีป้ายฐาน เพื่อรอรับท้าวเธอที่จะเสด็จมาตรวจดูคืนวันที่ 29 หรือ 30 ของ เดือน 8 ตามปฏิทิน จันทรคติจีน (ไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 10)
เมื่อท่านได้ทราบถึงประวัติของเทพจตุโลกบาลแล้ว เชิญท่านเลือกชมบารมีเทพองค์อื่นได้ในทุกศาลเจ้าที่กล่าวมาแล้ว
ทุกศาลเจ้าในเมืองตรังย่อมมีผู้ศรัธทาที่สร้างให้ก่อเกิด หากเมื่อศรัทธาเคารพก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลอย่างคำที่มีผู้กล่าวไว้ตลอดว่า พระใครใครก็นับถือย่อมเป็นสัจจธรรม แต่ทุกศาลเจ้าที่กล่าวมาข้างต้นจะมีที่สำรับกราบไหว้เทวดาในภาษาจีน เรียกกันว่า ที่ตี้เปบ้อ หรือเทียนตี้ฟู่หมู่เป็นด่านแรก เนื่องจากเป็นการการบไหว้เทพบิดา เทพมารดา เชื่อกันว่า เป็นเทพแห่งการกำเนิดสรรพชีวิตในโลกมนุษย์ สำหรับท่านที่ตั้งใจจะถือปฏิบัติตนในช่วงประเพณีถือศีลกินผัก หรือหากท่ามีญาติมิตรมาร่วมพิธีก็ขอให้พำนักอยู่ในเมืองตรังด้วยความสวัสดิภาพ และขอให้ทุกคนเที่ยวเมืองตรังให้สนุก ได้บุญกุศลกับการเที่ยวชมสักการะให้ครบ 9 ศาลเจ้าจะถือเป็ฯมงคลแห่งชีวิตอย่างยิ่ง