กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: อิศวรน้อย ที่ 17 พ.ค. 2553, 11:54:22

หัวข้อ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: อิศวรน้อย ที่ 17 พ.ค. 2553, 11:54:22
(http://img571.imageshack.us/img571/4089/newsimg713913resize.jpg)

ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด
มีนายพรานสองพ่อลูกปลูกกระท่อมพักอาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้น

อาชีพของนายพรานก็คือ การหาของป่าไปแลกเปลี่ยนกับข้าวปลาอาหารและสิ่งของ
เครื่องใช้ต่างๆ จากในเมือง ทุกเช้านายพรานผู้พ่อจะเข้าป่า
ส่วนลูกชายจะอยู่ที่กระท่อมคอยหุงหาอาหารไว้คอยท่าพ่อ เมื่อพ่อกลับมาในตอนเย็น

วันหนึ่งนายพรานออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อนเข้าไปหาของป่าอย่างเคย บังเอิญเขาถูก
งูเห่ากัด อาการสาหัสมาก แต่ถึงกระนั้น นายพรานก็พยายามแข็งใจเดินกลับมายัง
กระท่อมของเขาจนได้ แล้วนายพรานก็เรียกลูกชายมาบอกว่า

"ลูกรัก พ่อถูกงูเห่ากัดเสียแล้ว คราวนี้เห็นทีจะไม่รอด
คงไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูเจ้าอีกต่อไปแล้ว"

"ทำใจดีๆ ไว้เถอะพ่อ พ่อคงไม่เป็นอะไรมากหรอก พ่อจะให้ผมช่วยอย่างไร
พ่อรีบบอกมาเถอะ" ลูกชายนายพรานพูดให้กำลังใจพ่อ

"ต่อไปนี้เจ้าต้องช่วยตัวเองนะลูก เข้ามาใกล้ๆ พ่อซิ แล้วเจ้าจงจำคำพ่อไว้
พ่อมีของดีอยู่อย่างหนึ่งนั้นคือ นอแรด เมื่อพ่อสิ้นใจไปแล้ว
เจ้าจงเอานอแรดในย่ามนี้ไปถวายพระราชา อย่าลืมทำตามที่พ่อสั่งนะลูกนะ"

นายพรานพูดจบก็ยื่นย่ามใส่นอแรดให้แก่ลูกชาย แล้วเขาก็ขาดใจตาย

ฝ่ายลูกชายนายพราน เมื่อพ่อตายก็มีความเศร้าโศกเสียใจ แต่ก็พยายามสะกด
ใจไว้รีบนำศพพ่อไปฝัง แล้วกราบลาศพพ่อมายังกระท่อมที่พัก ตรงไปหยิบย่าม
ที่ใส่นอแรดสะพายบ่าเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อถวายนอแรดแด่พระราชาตาม
ที่พ่อสั่งไว้ เขาเดินทางไม่กี่วันก็ถึงเมืองหลวง จึงตรงไปยังประตูชึ้นนอก
แล้วพูดกับนายประตูชั้นนอกว่า

"ท่านนายประตู ผมต้องการจะเข้าเฝ้าพระราชา ท่านจะกรุณาผมหน่อยจะได้ไหม"

"เอ็งต้องการจะเข้าเฝ้าพระองค์ท่านด้วยธุระอันใดหรือ" นายประตูถามด้วยความสงสัย

"ผมมีของดีอย่างหนึ่ง ที่จะนำมาถวายท่าน"

"ของดีอะไรของเอ็งหรือ ไหนข้าขอดูหน่อย"

"นอแรดนี้ไงของดีที่ว่านั้น"

ลูกชายนายพรานพูดพร้อมควักนอแรดออกมาจากย่ามให้นายประตูดู

นายประตูเมื่อเห็นลูกชายนายพรานมีนอแรดที่สวยงามจริงๆ ก็คิดในใจว่า

"ถ้าลูกชายนายพรานนำไปถวายพระราชาแล้ว พระองค์คงพอพระทัยเป็น
อย่างยิ่ง และอาจพระราชทานรางวัลให้แก่ลูกชายนายพรานเป็นจำนวนมาก"

เมื่อคิดดังนั้นแล้ว นายประตูชั้นนอกก็เกิดความโลภขึ้นมาทันที อย่ากระนั้นเลย
เราจะต้องขู่เข็ญให้เด็กคนนี้แบ่งรางวัลที่ได้รับแก่เราส่วนหนึ่ง จึงพูดกับลูกชาย

นายพรานว่า

"นี่เจ้าเด็กน้อย ถ้าข้านำเจ้าเข้าไปถวายนอแรดแด่พระราชา
แล้วพระองค์พระราชทานรางวัลให้แก่เจ้า เจ้าจะต้องแบ่งรางวัลนั้น
ให้แก่ข้าครึ่งหนึ่งนะ ถ้าไม่ตกลง ข้าก็คงจะพาเจ้าเข้าเฝ้าไม่ได้หรอก"

ลูกชายนายพรานได้ยินดังนั้นก็เกิดความไม่พอใจนายประตู ที่เป็นคนเห็นแก่ได้
ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ จึงคิดว่าถ้ามีโอกาสจะหาทางสั่งสอนนายประตูผู้นี้ให้รู้สำนึก
แล้วพูดกับนายประตูว่า

"ตกลง ผมจะแบ่งรางวัลที่ได้รับให้แก่ท่านครึ่งหนึ่งแน่นอน"

"เอ็งอย่าโกหกนะ แล้วก็จำคำพูดของเอ็งเอาไว้ให้ดีนะ"

ว่าแล้วนายประตูชั้นนอกก็พาลูกชายนายพรานเข้าไปยังประตูชั้นใน พบนาย
ประตูชั้นใน ก็เล่าเรื่องที่ลูกชายนายพรานจะขอเข้าเฝ้าพระราชา
เพื่อถวายนอแรด และมอบรางวัลครึ่งหนึ่งให้แก่ตน ให้นายประตูชั้นในฟัง

นายประตูชั้นในได้ฟังเรื่องทั้งหมด ก็เกิดความโลภอยากได้
ในส่วนแบ่งจากรางวัลบ้างเหมือนกัน จึงพูดกับลูกชายนายพรานว่า

"แล้วข้าละ เจ้าจะให้อะไรบ้าง ถ้าข้าจะพาเจ้าเข้าไปเฝ้าพระราชา"

"เอาเถอะผมจะไม่เอาอะไรเลย
แต่ผมจะแบ่งรางวัลที่ได้รับทั้งหมดให้แก่ท่านทั้งสองคนละครึ่ง"
ลูกชายนายพรานพูดยืนยัน ส่วนในใจนั้นก็คิดว่า
จะหาโอกาสสั่งสอนคนทุจริตเห็นแก่ได้นี้ให้รู้สำนึกบ้าง

"เจ้าพูดจริงๆ นะ เจ้าอย่าโกหกนะ ถ้าเจ้าโกหกเจ้าจะต้องเห็นดีกะข้าแน่"

นายประตูชั้นในพูดขู่สำทับ

"ตกลงผมไม่โกหกท่านแน่ ขอจงพาผมเข้าเฝ้าโดยเร็วเถิด"
ลูกชายนายพรานพูดขอร้อง

นายประตูชั้นในได้ฟังดังนั้นก็ดีใจมาก จึงรีบพาลูกชายนายพรานเข้าเฝ้า
พระราชาทันที เมื่อหมอบถวายบังคมแล้ว ลูกชายนายพรานก็หยิบนอแรด
จากถุงย่ามถวายแด่พระราชา พระราชาทอดพระเนตรนอแรด
ทรงพอพระทัยมาก จึงตรัสขึ้นว่า

"นอแรดนี้สวยงามมาก เจ้าได้มาจากไหน"

"ข้าพระพุทธเจ้าได้นอแรดนี้มาจากพ่อของข้าพระพุทธเจ้าที่เป็นนายพราน
พระพุทธเจ้าข้า"

"แล้วทำไมเจ้าถึงต้องนำนอแรดนี้มาถวายข้าด้วยล่ะ" พระราชาตรัสถามต่อ

"พ่อของข้าพระพุทธเจ้าได้สั่งไว้ก่อนตายว่า ขอให้นำนอแรดนี้มาทูลเกล้าฯ
ถวายแด่พระองค์ พระพุทธเจ้าข้า"

"และเจ้าต้องการสิ่งใดตอบแทน เจ้าบอกข้ามาได้เลย ข้าให้เจ้าได้ทุกอย่าง"

ลูกชายนายพรานสมหวังดังใจ จึงคิดที่จะสั่งสอนนายประตูทั้งสองคน ให้เห็น
โทษของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ จึงกราบทูลไปว่า

"ข้าพระพุทธเจ้าไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองสิ่งของใดๆ ทั้งสิ้น
แต่จะทูลขอพระองค์สองอย่าง พระพุทธเจ้าข้า"

"เจ้าว่ามาเลยของสองอย่างนั้นมีอะไร ข้าจะจัดให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ"

"อย่างแรก ข้าพระพุทธเจ้า ขอให้พระองค์รับข้าพระพุทธเจ้า
ไว้เป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทตลอดไป พระพุทธเจ้าข้า"

"และอย่างที่สองล่ะ ว่ามาซิ"

"อย่างที่สอง ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานรางวัลการโบยหลังให้แก่
ข้าพระพุทธเจ้าสัก 100 ที พระพุทธเจ้าข้า"

"เจ้าเป็นอะไรไปหรือ โบยหลัง 100 ที เจ้าจะเอาไปทำไม เจ้านี่หาเรื่อง
เจ็บตัวเปล่าๆ อยู่ดีไม่ว่าดี" พระราชาตรัสถามด้วยความแปลกพระทัย

"หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจะขอแบ่งรางวัลการโบย 100 ทีนี้
ให้แก่นายประตูทั้งสองคน คนละครึ่งตามที่ได้ให้สัญญาไว้แก่นายประตูทั้งสอง
ก่อนที่จะนำข้าพระพุทธเจ้าเข้าเฝ้าพระองค์ พระพุทธเจ้าข้า"

"อย่างนั้นหรือ เจ้าฉลาดมาก ข้าจะชุบเลี้ยงเจ้าและแต่งตั้งให้เป็น
มหาดเล็กหลวงต่อไป และข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริต
ส่วนนายประตูทั้งสองนั้น ทหารนำตัวทั้งสองคนไปโบยหลังคนละ 50 ที เดี๋ยวนี้"

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้  

1. การเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ จะนำมาซึ่งความสุขความเจริญแก่ชีวิต

2. คนที่คดโกง ไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงาน ในที่สุดก็จะถูกจับได้
และถูกลงโทษ ทำให้เสื่อมเสียทั้งชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล

3. ผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด ย่อมสามารถเอาตัวรอดได้เสมอ




ขอบคุณที่มา:http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3798
หัวข้อ: ตอบ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 18 พ.ค. 2553, 12:27:26
ขอบคุณสำหรับนิทานสอนใจดีๆครับ :015:
หัวข้อ: ตอบ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: boatza ที่ 18 พ.ค. 2553, 03:49:34
ขอบคุณครับ คนเราควรจะซื้อสัตย์ไม่เห็นแก่ได้
หัวข้อ: ตอบ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 18 พ.ค. 2553, 09:40:23
ขอบคุณพี่มากครับ สำหรับข้อคิดดีๆ
หัวข้อ: ตอบ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: PeAwPeed ที่ 18 พ.ค. 2553, 11:44:36
อ่านเพลิน แล้วยังได้ความรู้สอนใจด้วย
ขอบคุณ ท่านอิศวรน้อย สำหรับ คมในฝัก ค่ะ
   :054:
หัวข้อ: ตอบ: คมในฝัก
เริ่มหัวข้อโดย: รุท หมัดหนักครับ ที่ 18 พ.ค. 2553, 05:30:55
ขอบคุณครับ :002: