กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 17 ก.ย. 2554, 08:40:04

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๖ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 17 ก.ย. 2554, 08:40:04
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๖ กย. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
เสาร์ที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
            วันเวลาที่ผ่านไปในทุกขณะนั้น ชีวิตกำลังคืบคลานไปสู่ความตายทุกขณะ
วันเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่นั้นสั้นลง จึงต้องทำชีวิตที่เหลืออยู่นั้นให้มีคุณค่ามากสุด
พยายามก้าวเดินปฏิบัติตนไปตามทางสายกลาง ก้าวย่างตามทางแห่งมรรคองค์แปด
ไปตามกำลังที่สั่งสมมา อาจจะช้าแต่ว่ามั่นคง พยายามทำให้ได้ ซึ่งดีกว่าไม่ได้ทำ
เตือนสติตนเองอยู่เสมอ มิให้เผลอเดินออกนอกทาง ซึ่งอาจจะก้าวพลาดไปบ้าง
แต่ระลึกได้ทัน ดึงจิตนั้นกลับเข้าสู่เส้นทางได้ ไม่เสียหายจนเกินไป.....
             อ่านตัวออก...บอกตัวได้...ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราต้องกระทำ รู้กำลังของตัวเราเอง
ว่าสามารถไปได้ไกลขนาดไหนในเวลานี้ รู้ข้อดีและข้อเสีย กำลังเพียรละและเพียรเร่ง
เพื่อสร้างความเข้มแข็งของอินทรีย์ทั้ง ๕ อันได้แก่....
๑.สัทธินทรีย์ คือความเชื่อ ความศรัทธา
๒.วิริยินทรีย์ คือความเพียร ความพยายาม
๓.สตินทรีย์ คือความมีสติระลึกได้ ความรู้ตัวทั่วพร้อม
๔.สมาธินทรีย์ คือความตั้งใจมั่น ความสงบนิ่งที่มั่นคง
๕.ปัญญินทรีย์ คือความรอบรู้ในกองสังขาร ในขันธ์ ๕
     กำลังอินทรีย์ในข้อไหนที่ยังอ่อนอยู่  หรือกำลังในข้อไหนที่มากเกินไป ปรับกำลังทั้ง ๕
ให้มีความพอดีเสมอกัน ให้มีความพร้อมในการเดินทาง ทุกอย่างก็จะไปได้ดี ไม่มีติดขัด
ทุกอย่างนั้นสามารถทำได้โดยการน้อมจิตมาสู่ตัวพิจารณากายและจิตของตัวเราเอง
ให้จิตนั้นอยู่กับกายตลอดเวลา พยายามรักษาไว้ซึ่งกุศลจิต คิดทุกอย่างให้เป็นธรรมะ
พยายามลดละซึ่งสิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลายทีมีอยู่ในจิต ฝึกคิดพิจารณาทบทวนธรรม
น้อมนำเข้าสู่การปฏิบัติ ตามกำลังของสติปัญญา......
      การระลึกนึกถึงความตายนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนตาย
ความยึดถือทั้งหลายในรูปธรรมวัตถุจะได้เบาบางลง  อัตตาและมานะทิฏฐิทั้งหลายนั้น
ก็จะเบาบางลง ความโลภ ความหลงทั้งหลายก็จะค่อยๆหายไป เพราะชีวิตนี้ไม่มีวัตถุอะไร
ที่จะนำติดตัวไปได้เมื่อตายจาก มีเพียงกรรมสิ่งที่ได้ทำไปนั้น ที่จะติดตามตัวของเราไปในปรโลก
ทั้งสิ่งที่เป็นบุญและเป็นบาป จึงต้องคิดและพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้ตายไปอย่างมีความสุข
ไม่ต้องทุกข์ขณะจะสิ้นลม การระลึกนึกถึงความตายอยู่เสมอนั้น จะทำให้จิตนั้นไม่หวั่นไหว
ต่อความตายที่จะมาถึงในอนาคต ซึ่งทุกคนต้องประสพ ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้........
                    เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                           รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๖ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 17 ก.ย. 2554, 09:11:28
อ่านตัวออก...บอกตัวได้...ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราต้องกระทำ
                   
รู้กำลังของตัวเราเอง ว่าสามารถไปได้ไกลขนาดไหนในเวลานี้
           
พยายามรักษาไว้ซึ่งกุศลจิต คิดทุกอย่างให้เป็นธรรมะ
                                                                                                                                                           
พยายามลดละซึ่งสิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลายทีมีอยู่ในจิต
                      
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ :054: :054:  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
   
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๖ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 19 ก.ย. 2554, 07:57:28
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ครับ :054:

เครื่องคอมฯเป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์...กำลังจะดับไป เลยไม่ค่อยเข้ามาอ่านธรรมะจากท่านฯครับ