กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.ย. 2554, 01:41:53

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.ย. 2554, 01:41:53
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ กย. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พุธที่  ๒๑  กันยายน  พ.ศ. ๒๕๕๔
            หลังจากการทำงานโยธากัมมัฏฐาน แบกกระเบื้องมุงหลังคาขึ้นเขา
จำนวนหลายเที่ยวในวันที่ผ่านมา ร่างกายก็อ่อนเพลียเป็นธรรมดาของมัน
จึงต้องปรับกายให้เป็นปกติ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการฝึกจิตขั้นต่อไป
เมื่อกายพร้อม จิตพร้อม การปฏิบัติก็ย่อมมีความเจริญในธรรม สภาวธรรม
เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น จิตละเอียดขึ้น เห็นกิเลสภายในชัดขึ้น และดับได้เร็วขึ้น
มี นิวรณ์เข้ามารบกวนบ้างคืออารมณ์ของถีนมิทธ ความง่วงเหงาหาวนอน
เพราะการใช้แรงงาน ต่อสู้กับนิวรณ์เหล่านั้นโดยอาศัยวิริยะบารมีเข้ามาข่ม
ทรงไว้ซึ่งอารมณ์ธรรม ดูแลควบคุมงานการก่อสร้างตั้งแต่ตอนสายถึงเย็น
กลางคืนมีมิตรสหายจากแดนไกลเดินทางมาสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนธรรมะกัน
สภาวะเด่นชัดขึ้น มีปิติทุกครั้งที่ได้อธิบายธรรมได้กล่าวธรรม จนลืมเรื่องของเวลา
ที่มันผ่านไป เพราะการที่ได้กล่าวธรรมนั้น มันเป็นการทบทวนธรรมไปในตัว
และเป็นการสอนธรรมแก่ตัวเองทุกครั้ง......
          กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง จึงบริหารร่างกายโดยการลงไปกวาดใบไม้รอบที่พัก
 เพื่อให้เหงื่อมันออก กล้ามเนื้อจะได้คลายตัว และเพื่อที่จะสะลายอารมณ์ที่เป็นอยู่
“ เคลื่อนไหวทางกาย  สะลายทางจิต “ เพื่อปรับกาย ปรับจิตเสียใหม่ให้มีความปกติ
หลังเหงื่อออกจนท่วมกายแล้ว รู้สึกโปร่งโล่งเบาสบาย  ทำความสะอาดร่างกายเสร็จ
เกิดศรัทธาอยากจะภาวนา เพื่อยังความสงบให้เกิดขึ้น จิตตื่นอยู่เพราะอารมณ์ปิติ
จากการได้กล่าวธรรมยังค้างอยู่  จึงตามดูตามรู้ในปัจจุบันธรรม......
           ดังที่เคยกล่าวไว้ในการปฏิบัติธรรม คือการสร้างปิติจากภายนอกเพื่อเข้าสู่ปิติตัวใน
เรามีวิธีที่จะทำได้หลายประการ มันอยู่ที่การฝึกฝนและการทดลองทางจิต  ไม่มีคำว่าผิด
ในการปฏิบัติ ถ้าเรานั้นมีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา ว่าเราทำสิ่งนี้เพื่ออะไร
เราจะไม่หลงในอารมณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเราทำไปโดยไม่รู้และสำคัญผิดโดยคิดว่าใช่
นั่นแหละมันจะพาให้เราหลงอารมณ์  หลงทางในการปฏิบัติ จึงจำเป็นที่จะต้องทำ
ความรู้ความเข้าใจในสิ่งจะทำให้ได้เสียก่อน ว่ามันคืออะไร เพื่ออะไรและทำอย่างไร
ก่อนที่จะเข้าสู่การปฏิบัติ จงมีสติทุกขณะจิต  ในการคิดและการทำ แล้วจะไม่หลงทาง ......
                       เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                            รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๑ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๑.๔๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 21 ก.ย. 2554, 02:14:15
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ :054: :054:
                                   
จงมีสติทุกขณะจิต ในการคิด และ การทำ แล้วจะไม่หลงทาง
                   
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: boomee ที่ 21 ก.ย. 2554, 08:26:53
กราบนมัสการครับพระอาจารย์ :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๐ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 21 ก.ย. 2554, 05:58:42
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ :054:

อ้างถึง
การปฏิบัติธรรม คือการสร้างปิติจากภายนอกเพื่อเข้าสู่ปิติตัวใน
เรามีวิธีที่จะทำได้หลายประการ มันอยู่ที่การฝึกฝนและการทดลองทางจิต  ไม่มีคำว่าผิด
ในการปฏิบัติ ถ้าเรานั้นมีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา ว่าเราทำสิ่งนี้เพื่ออะไร
เราจะไม่หลงในอารมณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเราทำไปโดยไม่รู้และสำคัญผิดโดยคิดว่าใช่