แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - นาย วัชรพล น้ำใจดี(###เปียกปูน###)

หน้า: [1]
1
http://www.moohin.com/trips/nan/auytong/

เข้าดูเลยคราบ

2
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / วันครู
« เมื่อ: 22 ก.พ. 2550, 03:54:17 »
.............จะถึงวันไหว้ครู? ?วัดบางพระ? ?แล้วอีกไม่กี่วันเท่นนั้น...............

..............ช่วงนี้ ฝันเห็น ครูอาจารย์? ?แทบทุกวันเลย............ :054: :054: :054: :054:.....................
...............ลูกศิตย์? ?วัดบางพระ? ?ไหว้ครูปีนี้เจอกันคราบ....................

3
ปาฏิหาริย์! แชะภาพ ?ขุนพันธ์? นั่งหน้าโลงกลางงานศพ

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จฯพระราชทานเพลิงศพในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) เวลา 17.00 น. ณ เมรุชั่วคราววัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

          โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ก.พ.) มีแขกเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นางพอตา รัตนมณี อาจารย์โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในแขกที่ไปร่วมงาน ได้นำกล้องถ่ายรูปไปเก็บภาพบรรยากาศในงาน ผู้เข้าร่วมพิธี ซึ่งในช่วงที่พระสวดอภิธรรมเสร็จสิ้น ประธานในพิธีได้ประเคนจตุปัจจัยถวายแด่พระภิกษุ ซึ่งนางพอตา ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย

          เมื่อนำฟิล์มไปล้างปรากฏว่าภาพที่ถ่ายไว้ประมาณ 10 ภาพ มีอยู่ภาพหนึ่งที่ปรากฏเป็นรูป พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่งกายด้วยชุดขาวนั่งอยู่หน้าหีบศพของท่าน โดยสายตาจ้องมองผู้ที่เข้าร่วมประเคนจตุปัจจัย ดังนั้น นางพอตา จึงนำภาพดังกล่าวมาให้ผู้สื่อข่าวดูกันที่ชมรมผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช ว่าเกิดปาฏิหาริย์ในงานศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช สร้างความฮือฮาแก่ผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก


ข้อมูลจาก
http://hilight.kapook.com/view.php?id=7397

 



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

4
...............สำหรับคนที่ต้องการดูเขี้ยวคราบ? ?จะได้ไม่เกิดความสับสน? ?ว่าอะไรเป้นเขี้ยวอะไร...................

พูดไปแล้วเสือกับแมว? ?เป็นสัตว์ ในตะกูล เดียวกันคราบ.......ลักษณะ ทั่วๆไปจะเหมือนกันหมด............แต่ต่างที่รูป ร่างและ ขนาด ของตัว
.......ส่วนข้อมูล? ?ต่อไปนี้? ?คือ รายระเอียดการดูเขี้ยว? ?เสือ? ?หมู? ?หมี? ?คราบ? ?(หมายเหตุ? ?ดูผิวเพลิน? ?เสือกับ หมี คล้ายกันคราบ.....แต่มีจุดแตกต่าง)
......ส่วนเขี้ยว? ?ที่ สมาชิกเอามาลง? น่าจะจัดอยู่? ในกลุ่ม ของ สัตว์? ตะกูล? เสื่อ......แต่ ขนาดแต่จะเป็น? เสือ ชนิดไหน? ?นั้นคงระบุได้ยาก........แต่ไม่ใช่ สุนัข และ หมุ? แน่ นอน....
......สุนัข? ?และ? หมู? ?ไม่มี ร่องเลือดที่ตัวเขี้ยวคราบ.......
*********การดูเขี้ยว ต่างๆคราบ************


เขี้ยวสัตว์ที่นิยมนำมาสร้างเครื่องรางของขลัง มีอยู่ ๓ ชนิด คือ เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า ซึ่งมีผู้ซักถามและถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ คือ เขี้ยวสัตว์แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร

เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมูป่า ถ้าเป็นอาจารย์เดียวกันสร้าง เขี้ยวเสือจะได้รับ ความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง รองมาก็คือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมู เป็นอันดับท้าย ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความเชื่อว่า เสือเป็นสัตว์มหาอำนาจ เป็นเจ้าป่า หายาก และฆ่าก็ยาก หมียังพอเห็นมากกว่า ส่วนหมูป่านั้นมีจำนวนมากมาย แต่ถ้าเป็นหมูป่าเขี้ยวตัน หรือเขี้ยวยาวใหญ่ ก็ถือว่าหาชมได้ยากเช่นกัน ดังคำโบราณที่กล่าวว่า ถ้าจะเล่นเขี้ยวหมูต้องเล่นเขี้ยวตัน จะเล่นเขี้ยวเสือต้องเล่นเขี้ยวโปร่ง (โปร่งฟ้า)


ความจริงแล้ว เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แยกออกจากกันได้ชัดเจน จะอธิบายไปทีละขั้น จะได้เข้าใจง่าย ไม่สับสน โดยดู รูปภาพประกอบ จะเห็นได้ชัดเจน

เขี้ยวเสือ มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของตัวเสือ เขี้ยวจะยาว เรียว ปลายแหลมคม โค้งพอประมาณ ดูจากปลายเขี้ยวจะเห็นเหลี่ยม เป็นร่องเล็กๆ อยู่สี่มุม วิ่งเป็นแนวร่องเข้ามายังตัวเขี้ยวชัดเจน เราเรียกกันว่า ร่องเส้นเลือด และถ้านำเขี้ยวเสือมาตัดแบ่งครึ่ง เราจะเห็นรูตรงกลาง เป็นรูกลวงโปร่ง ไปสุดโคนเขี้ยว ซึ่งจะมีลักษณะกลม หรือกลมรีเล็กน้อย กว้างประมาณ ๒๐-๓๐ % ของพื้นที่หน้าเขี้ยวที่เราตัดครึ่ง และจะมีคลื่นรัศมีวิ่งรอบปากรูเขี้ยว ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน

เขี้ยวหมี มีขนาดเล็กและใหญ่เช่นกัน เขี้ยวหมีเมื่อดูภายนอกลักษณะทั่วไปคล้ายเขี้ยวเสือมาก คือมีความเรียว โค้งยาว ปลายแหลมคม สิ่งที่แตกต่างจากเขี้ยวเสือนั้น คือปลายเขี้ยวหมี ก็มีร่องเลือดเหมือนกัน แต่เป็นแบบ เส้นเลือดสีน้ำตาลแดงวิ่งรอบเป็นวงเดือน จากปลายเขี้ยวเข้ามาด้านใน เป็นสิบๆ รอบ ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าได้ชัดเจน และเมื่อเรานำเขี้ยวมาตัดผ่าแบ่งครึ่ง จะพบรูกลวงโปร่งเช่นเดียวกับเขี้ยวเสือ แต่ รูของเขี้ยวหมีจะกว้างกว่ารูของเขี้ยวเสือ มาก บางเขี้ยวเจอรูกว้าง ๗๐-๘๐% ของหน้าเขี้ยวเลยทีเดียว

เขี้ยวหมูป่า มีลักษณะแตกต่างจากเขี้ยวเสือและเขี้ยวหมี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนมาก คือ เขี้ยวหมูป่า มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ มีลักษณะแบน เป็นเหลี่ยม โค้ง ยาว ปลายแหลม รูกลวง บางเขี้ยวยาวมากๆ จนเกือบจะเป็นครึ่งวงกลมเลยก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นเขี้ยวกลวงเกือบทั้งนั้น จะหาเขี้ยวแบบตันยากมาก


 สรุปได้ว่า เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาแล้วก็สามารถแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน

และเขี้ยวที่เพื่อนสมาชิกนำมาลงนั้นย่อม  ไม่ใช่ สุนัข  หรือ หมู และ หมี  แน่นอน....น่าจะจัดอยู่ในกลุ่ม   ของเสือ   แต่ชนิดนั้นยากที่ระบุได้.....
....สนัข หมู หมี ไม่มี ร่องเลือดแบบนี้แน่นอน.........รองพิจารณา  อ่านบคความที่เอามาลงดูกันคราบ......





5
...........ช่วยกันดูคราบ..........

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

6
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / 3 มีนาคม 2550
« เมื่อ: 09 ม.ค. 2550, 11:53:49 »
..............  :054:3 มีนาคม 2550 :054: จะถึงแล้ว............

7
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ขอถามครับ
« เมื่อ: 05 ม.ค. 2550, 04:41:47 »
ขอถามว่าสักสีแล้วไปรอดราวตากเสื้อผ้าที่เป็นเสื้อจะเป็นอะไรไหมครับ


อ้าวเกิดการสับสน.......ใครเอาห้องเราไปตังกระทู้เนี้ย.......ผมไม่เห็นได้ตั้งกระทู้นี้เลย....อิอิ....แปลกดีแหะ... :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007: :007:..........สงสัยระบบมีปัญหาแหะ............เดียวต้องแจ้งผู้ดูแลระบบให้ตรวจสอบละเป็นบ่อยเลยแบบนี้.....บางที่เข้าระบบ...ใหม่...เกิดเข้าไปห้องคนอื่นเฉอยเลย....

8
ยันต์ วัดบางพระ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

9
ทำไมถึงห้ามโดนสบู่...
..ที่จริงแล้ว ไม่เกี่ยวกับสีจะหลุดแต่? อย่างใด....เนื่องด้วยสบู มี สารที่ประกอบอยู่ภายใน ทั้ง กรด และ ด่าง เมือเรา สักยันต์ หรือ ไม่เว้นทั้ง สักแบบสวยงาน
..สบู่ จะเข้าไปทำให้แผล ที่มีหมึกอยู่ ภายในเกิดการกัดหนองขึ้น......แผลจะเฟะ....รอยสัก...จะเสีย...แล้วจะเป็น ก้อนของแข้ง ที่เกิดจากการรวามตัว ของหนอง เลือด และ หมึก จำตัวกันแข็งเป็นไต อยู่ในชั้นหนัง.....รอยสัก จะปูดๆนูนผิดรูปผิดร่าง.....หนังไม่เรียบ เนื่องจากเกิดการฝังตัวภายใน ของหนองกับหมึก และเลือด ....
..อาจารย์ ท่านเลยห้ามโดนสบู่ ช่วง สักไปใหม่ๆ...บางคนจะสังเกตุได้ด้วยตาเปล่า? ถ้าโดนสบู่ มาเร็วเกินไป....รอยสักจะนูนๆ สัมผัส ได้รู้สึก ไม่เนียนเรีบยเขากับหนัง ปกติ.....
..คนที่ รักษาดี หลังจากสักมาแล้ว อย่างน้อย 4-5 วัน ไม่ควารโดนสบู่...

***..แต่มีทางแก้ไขได้คราบ....***
...แต่อย่าให้เป้นนาน ถ้ารู้ว่าเป็นแต่แรก....งดใช้สบู่ ที่รอยสักยันต์ จนกว่าแผลจะดีแล้ว.....ให้ใช้น้ำ มันมาทาบริเวรผิวที่เป็น....ทานวดทุกๆวัน แผลเป็นที่แข้ง ที่เกิดจากการรวมตัว ของ หมึก เลือด หนอง ก็จะยุบลง....แต่อาจจะไม่เป็นเหมือนเก่า มีร่องรอยบ้าง......แต่ดีกว่าเดิม....

นี้ละอาจารย์ ท่านจึงบอก อย่าไปโดน สบู่ ช่วง สักกลับไปใหม่ 2-3 วันแรก? ส่วนตัวผมรักษาเป็นอย่างดี..หลังจากสักไปแล้ว 1 อาทิตย์ คราบ ถึงจะใช้ สบู่...
ถ้าทำได้แบบนี้ หลังจะสวยคราบ รอยสักที่ได้ไป? จะไม่เสียด้วย.....จับดูแทบจะเนียนเป็นเนื้อ เดียวกับผิวของเราเลยคราบ....ขอบอก...

10
..ขอแรกเปลี่ยนความรู้? กับ สมาชิก ใน บอร์ด หน่อย คราบ...
..เรื่องพระงั่ง (ไอ้งั่งตาแดง)..ทั้งที่เป็น แบบคล้ายพระ และ ที่เป็นแบบ ผู้ชาย นั่งอ้าขา รวมทั้ง ที่บาง สำนัก นำมาสักเป็นตัวยันต์ เพื่อผล ทางด้านเมตตา (เรื่องผู้หญิง)...แต่ละท่านคิดกันยังไง....กับเรื่องนี้ มีไว้ ดีไม่ดี ใครมีประสบการณ์ เรื่อง แบบนี้บ้าง เอามาเร่าให่ฟัง บ้าง น่ะคราบ วัดที่รู้จัก แถวบ้าน มี พระงั่ง อยู่คราบ...ยังไงร่วมแสดงความคิดเห็น กันมามากๆน่ะคราบ..เพื่อเป็น การแบ่งปันความรู้ใหม่ เพื่อเอาไว้ ศึกษา กันต่อไปคราบ....

11

แหล่งน้ำอภิเษกในภาคใต้ที่สำคัญ  มีดังนี้

1.  จังหวัดนครศรีธรรมราช

บ่อวัดหน้าพระลาน    ตั้งอยู่ที่วัดหน้าพระลาน   ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช   เป็นบ่อน้ำโบราณที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์   หากใครได้ดื่มน้ำในบ่อนี้แล้วจะมีสติปัญญาดี  มีบุญวาสนาสูง   จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่   และเชื่อว่าพระยาศรีธรรมโศกราชผู้สร้างเมืองนครศรีฯ  ได้ฝังกฤติกาคุณไว้บนชื่อประตูชัยศักดิ์ (ประตูชัยเหนือ)   และประตูชัยใต้   ผ้ที่มีวิทยาคุณเมื่อลอดประตูชัยนี้  วิทยาคุณจะเสื่อมหมด   ถ้าจะแก้วิทยาคุณจะต้องมาดื่มน้ำที่บ่อวัดหน้าพระลาน   ชาวบ้านถือว่าเป็นน้ำพระพุทธมนต์แก้อาถรรพณ์ทุกชนิด   เมื่อสมัยที่พระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองนครศรีธรรมราช   วันที่  11  กันยายน  พ.ศ.  2531  ได้เสด็จฯ  วัดหน้าพระลาน   และทรงตักน้ำในบ่อนี้เสวยด้วยหมาจาก (ถังตักน้ำที่ทำจากใบจาก)

บ่อวัดเสมาเมือง    ตั้งอยู่ภายในวัดเสมาเมือง  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช   ชาวบ้านถือว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ในพิธีสำคัญของบ้านเมอืง   ใช้ประกอบทำน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก   และน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยโบราณ   มีความสำคัญเช่นเดียวกับบ่อน้ำวัดเสมาไชย  และบ่อน้ำวัดหน้าพระลาน

บ่อวัดเสมาไชย    ตั้งอยู่ภายในวัดเสมาไชย   ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของวัดเสมาเมือง   อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช   เป็นบ่อน้ำที่ชาวบ้านเชื่อว่มีความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับบ่อน้ำวัดเสมาเมือง   นิยมใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์  น้ำในพระราชพิธีบรมราชาพิเษก  และน้ำพระพิพัฒน์สัตยา  มาแล้วหลายรัชกาล

บ่อวัดประตูขาว   ตั้งอยู่ภายในวัดประตูขาว  ตำบลคลัง  อำเภอเมืงอนครศรีธรรมราช   ปัจจุบันเป็นวัดร้าง  คือ  บริเวณโรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช   บ่อน้ำแห่งนี้  เล่ากันว่าในสมัยโบราณได้รับการปลุกเสกจากเจ้าอาวาสวัดประตูขาวหลายรูปจึงถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์  ใช้ทน้ำพระพุทธมนต์ในพระราชพิธีต่ง ๆ  เช่น  น้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษา  น้ำพระพิพัฒน์สัตยามาแล้วหลายรัชกาล

น้ำห้วยเขามหาชัย    ห้วยเขามหาชัยเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลมาจากเขามหาชัย   ต้นน้ำอยู่ในเขตตำบลท่างิ้ว  อำเภอเองนครศรีธรรมราช   ถือเป็นชื่อที่มีมงคลนาม   เป็นแหล่งน้ำที่มีโชคชัย  ใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่ง ๆ  และใช้เป็นน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลปัจจุบัน

น้ำห้วยปากนาคราช   ตั่งอยู่ที่ตำบลเขาแก้ว   อำเภอลานสกา  น้ำจากลำห้วยนี้ไหลออกมาจากซอกหิน   มีลักษณะเหมือนปากพญานาค   และไหลคดเคี้ยวไปมาเหมือนตัวพญานาค  จึงเรียกห้วยนี้ว่า "ห้วยปากนาคราช"  ชาวบ้านถือกันว่าเป็นแหล่งน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์  ใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่ง ๆ  และใช้เป็นน้ำอภิเษกตรงบริเวณที่ใช้ตักน้ำอภิเษกเป็นแหล่งที่มีสายน้ำเล็ก ๆ  หลายสายไหลมาบรรจบกัน  และใกล้ ๆ  กันก็มีต้นไม้งอกขึ้น  3  ชนิด  คือ  ต้นใบแร็ด  กอไผ่และกอหวาย  ต้นไม้ทั้ง  3  ชนิด  ชาวบ้านเชื่อว่ามีพญานาคราชเป็นผู้รักษาจึงไม่มีใครกล้าตัด   จะใช้ไม้เหล่านี้ได้เมื่อตักน้ำใช้ในพิธีต่งๆ   โดยตัดไม้ไผ่ทำกระบอกน้ำ  ใช้ใบแร็ดเป็นจุก  และใช้หวายเป็นเชือกมัดกระบอกไม้ไผ่

2.  จังหวัดสุราษฎร์ธานี

คลองท่าเพชร     ตั้งอยู่หมู่ที่ 5  ตำบลมะขามเตี้ย   อำเภอเมืองสุราษฎรณ์ธานี  เป็นคลองใหญ่และยาวต่อเนื่องจากปากน้ำบ้านดอน  และคลองท่าทอง   ไหลผ่านหน้าวัดท่าเพชร  ตำบลมะขามเตี้ย   ต้นน้ำเกิดจากเอกเขาหลวงในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช   มีน้ำใสสะอาดไหลตลอดปี  ที่เรียกว่าคลองท่าเพชร   เพราะที่คลองนี้มีหินหรือปูเพชรแผ่นใหญ่หนาประมาณ  1  เมตร  ยาว  2  เมตร  มีสีเทา  ชาวบ้านเรียกว่า "ปูนเพชร"  หรือ "หินเพชร"  และใกล้กับลำคลองมีภูเขา  2  ลูก   เรียกว่า "เขาท่าเพชร"   จึงเรียกว่า "คลองท่าเพชร"   ถือเป็นมงคลนาม  ทางราชการจึงได้ตักน้ำจากคลองนี้เป็นน้ำอภิเษก

................

http://www2.tat.or.th/tat_branch/web/branch_post_detail.php?PosID=452&BR=19&SC=55


 


12
น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์....ใครได้ดื่ม ได้ กิน ได้ อาบ แล้วละก็ แม้ แต่ของที่หลุด จากตัว เราไปแล้ว ก้ สามารถ เรียก กลับ คืนกลับมาแบบเดิม ได้ ขอบอกว่า ดีที่สุดเลย
....รับประกัน ความสุดยอด 100%...อาจารย์ ญา เคยลดให้ ประสบการณ์ ดีมากๆ....

***วัด หน้าพระลาน***


<a href="http://img224.imageshack.us/my.php?image=dsc00032wy7.jpg" target="_blank"><img src="http://img224.imageshack.us/img224/5940/dsc00032wy7.th.jpg" border="0" alt="Free Image Hosting at www.ImageShack.us" /></a>
? ? ?
<a href="http://img133.imageshack.us/my.php?image=dsc00198gt4.jpg" target="_blank"><img src="http://img133.imageshack.us/img133/8382/dsc00198gt4.th.jpg" border="0" alt="Free Image Hosting at www.ImageShack.us" /></a>

<a href="http://img85.imageshack.us/my.php?image=dsc00200nb8.jpg" target="_blank"><img src="http://img85.imageshack.us/img85/4296/dsc00200nb8.th.jpg" border="0" alt="Free Image Hosting at www.ImageShack.us" /></a>

13
..วันนี้แวะไปอ่านหนังเสือที่ร้านหนังสือมาเห้นว่าเป้นเรื่องที่ดีเลยเอามาลง เพื่อจะมีประโยช์์ คราบ...
*** ผิลูกผิดเมีย***
บทความได้กล่าวเอาไว้าว่า
...การผิดเมียคนอื่น หมายถึง การที่เรา ได้ไปยุ่ง กับเมียคนอื่น (ของคนอื่น ที่มีเจ้าของแล้ว) โดยตั้งใจ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว ว่าเขามีเจ้าของ แต่เรายังไปยุ่งกับเขาโดยตั้งใจ .. อันนี้ถือว่า เรามีความผิดในข้อนี้ .. :069:..ไม่ควรทำ
...อีกประการ บางครั้ง คนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว (พอฝ่ายชายเผลอ)  ฝ่าย หญิง กลับทำตัวเป็น สาวโสด แล้วเราเกิดไปยุ่ง กับ ฝ่ายหญิง ใน กรณี นี้ .. ถือ ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะ ไม่รู้ (ความผิดนี้ แตกต่างจาก แบบแรก ที่ตั้งใจ แต่แบบ หลัง ทำไป โดย การเชื่อ ฝ่ายหญิง ** ถือว่าไม่ผิด แต่อย่างใด**)..
..แต่ทางที่ดี ดูให้ดีก็แล้ว กัน...เดียวนี้มีมาแบบแปลกกันเยอะ.....
***ขอแนะอีกนิดคราบ...เห็นหนังสือ ที่ ลงเอาไว้ บอกรวม ถึง พวกที่เป็น กระเทย เกย์ ด้วย น่ะคราบ พวกนี้จิตใจ ผิดธรรมชาติ อยู่ใน ข้อห้ามเช่นกัน คราบ ***
...ต่อไปคือการผิดลูกคนอื่น....ข้อนี้ เป็น ข้อที่ให้ ความ หมาย ที่กว้าง มากๆเลย อาจจะมีคน ไม่ สบายใจกับข้อนี้ หลายคน ...
...ความหมายก็มีอยู่ ว่า เมื่อสมัยก่อน ยังไม่มี กฏหมาย ที่จะมาเอาผิด กับคนที่ทำไม่ดี แบบ สมัยนี้ สมัยก่อน การ จี้ การ ปล่น การ ฆ่า ทำกันได้ โดยไม่มีความเกรงกลัวกันเลย....เลยต้องมี กฏข้อห้าม สำหรับ ครูอาจารย์ ที่ต้อง การให้ ลูกศิตย์ ของ ตัวเอง เป็นคนดี ไม่ไป ทำชั่ว และไม่ไป สร้าง ความเดือดร้อน ให้กับคนอื่น และเพื่อเป็น การ ไมให้่นำเอาวิชา ของ ดี ที่ อาจารย์ ท่านให้ไปใช่ในทางที่ผิด...ครู อาจารย์ ท่านเลย ต้อง ออก กฏข้อห้าม ออกมา เพื่อทำให้ พวก ลูกศิตย์ ที่คิดจะทำชั่ว เกิดการเกรงกลัว กันบ้าง....ถึงต้องมี  กฏข้อห้ามออกมา เช่นทุกวันนี้คราบ...
*** มาเขาเรื่อง การผิดลูก คน อื่น จากสมัยก่อน ที่กล่าวมา ข่าง ต้น มีโจรเยอะ...และมีโจร บางพวก ถึงกับ ปล่น ฆ่าล้างครอบครัว เพื่อ หวังจะ ได้ลูก สาว ของ บ้านต่างๆ ซึ่ง การ ฆ่า คนอื่น ศาสนา พุทธ ของ เราไม่ สนับ สหนุน ให้ไปทำแบบนี้ กับ ชีวิต ของ ผู้อื่น ครู อาจารย์ ท่าน จึงได้ตั้ง กฏ **ห้ามผิดลูก ผิดเมีย คนอืน** ขึ่นมาเพื่อให้ ลูกศิตย์ เป็นคนดี ถึงจะไม่ได้เต้ม 100 % ก็ขอให้ดีซักอย่าง สอง อย่างก้ยังดี...และเพื่อให้ลูกศิตย์ ทำในสิ่งที่ถุกที่ควร  ถ้ารักใคร ชอบใคร ก็ต่องทำให้ มันถูกต้อง ไม่ใช่ไป ฆ่า แย่ง ชิงมาเพื่อ ให้เป้น ของตนเอง (ทำแบบนี้ มันไม่ดี ท่านจึงไม่สนับ สหนุน)..ถึงได้ที่มา ของ กฏข้อนี้...รักใครชอบใคร มันต้อง ถูกต้อง และต้องเกิด ความรัก ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้เกิด จากการ บังคับ .. ถ้าเกิดจากการ ยิมยอม พร้อม ใจ ถือ ว่าไม่ผิด แต่ ประการ ใด เป็นต้น
..้...และนี่ ก็เป็นแนวความคิด ของ ครู อาจารย์ ที่ ท่านต้อง การสั่ง สอนให้เป็นคนดี...บางครั้งพูดดี สอนดีๆ คนเรามัก จะไม่เชื่อ ไม่ ฟัง ถ้าบบอก ว่า เป็น กฏข้อห้าม ฟังแล้วเกิดความกลัว มันก็จะทำให้คนที่ไม่ดีเป็น คนดี กันได้บ้าง.....ถึงต้องมี กฏ ข้อห้าม ต่างๆเอาไว้
...และนี้ก็เป็น  ความหมาย แบบ สรุป ข้อ กฏ ข้อห้าม ....น่าจะมีประโยชน์ บ้างไม่มากก้น้อย น่ะคราบ สำหรับ คนที่ได้  อ่าน...

*** ข้อความ อ่านผิดพลาด เรื่อง ตัว หนังสือ บ้าง ต้อง ขอ อภัย ไว้ที่นี้ด้วย คราบ ข้อความมันเยอะ และตัว มันเล็ก อาจจะ ผิด บ้าง ต้อง ขอ อภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยน่ะคราบ ขอบคุณ คราบ*** 

15
แบบอย่างการไหว้ครู
1. สักการะครู? ?คือ? เอาใจใส่ครูบาอาจารย์
2. เคารพครู? คือ? มั่นใจต่อครูบาอาจารย์
3. บูชาครู? คือ? ปฏิบัติบูชา ปฏิบัติตามคำสั่งสอน
4. นับถือครู? คือ? ยึดถือไว้ยึดเหนี่ยว ข้อปฏิบัติที่ดีเอาไว้ เป็นแบบอย่าง
5. เชื่อฟังครู? คือ? นำคำสั่งสอน ครูบาอาจารย์ ไปชี้แนะ แสดงเหตุผล ต่อครอบครัว และคนทั่วๆไป ให้เขาเข้าใจ ในเหตุผลและที่มาที่ไป ของการสักยันต์

16
อ่านบทความนี้แล้ว ฟังดูแล้วอยากบอกให้เข้าใจกัน....
***อาการของขึ้นมามีจริงน่ะ ..........ไม่ใช่ว่าไม่มี........แล้วการของขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก....เป็นอีกหนึ่ง วิธี ที่ทำให้รู้ว่า ของยังอยู่กับเรา.....มีคนเอาคำพูดหลวงปู่ มาพูดผิดความหมายแล้วคราบ......
*** มีเพื่อนคนหนึ่ง ลง ว่า ของขึ้นคือพวก ที่คิดไปเอง.....(จริงอยู่ ที่หลวงปู่บอกว่าของขึ้นอยู่ที่จิต อ่อน จิตแข็ง )...แต่ที่เอามาพูดว่าคิดไปเอง มันไม่ใช้แล้วคราบ.....VCD....ที่หลวงปู่พูดเรื่องของขึ้น ที่บ้านผมก็มี......****? หลวงปู่ ท่านไม่ได้พูดเลย ว่าคนที่ของขึ้น เป็น พวกที่คิดไปเอง.........พูดมาแบบนี้มันไม่ถูกต้องแล้วน่ะคราบ....พูดซะใหม่ดีกว่า...
*** ผมขอบอก ของขึ้นไม่ได้เป็นการคิดไปเองแน่นอนคราบ....ผมเรียน วิทยาศาสตร์ มา คงไม่เมกสร้างขึ้นมาเองหรอกคราบ...
**ถ้าคุณ ไม่เคยขึ้น คุณ ไม่มีทางรู้หรอก ว่าความรู้สึกที่จริง มันเป็นไง...........VCD? ?..หลวงปู่ พูดเรื่องของขึ้นที่บ้านผมมีคราบ.....ไม่ใช่พวกคิดไปเอง 10000000 %

เอาข้อมูลมาจากที่นี้คราบ รองไปอ่านดู มันไม่ถูกต้องคราบพูดแบบนี้...
 http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,913.new.html#new

17
*** ขอนำเรื่องนี้มาคุยหน่อย ไป อยู่ ที่ วัดบางพระ มาหลายวัน***
ขอให้สมาชิก ทุกท่าน ที่จะมาทำการ สักยันต์ ที่ วัดบางพระ โปรด รอง อ่าน ศึกษา หาข้อมูล พื้นฐานกันหน่อย
ทั้งที่เป็น ลูกศิตย์ เก่า และ คน ที่กำลังจะมาเป็น ลูกศิตย์ ใหม่
...การมาสักยันต์ ให้ คนที่มาสักยันต์ คิดถึงครู อาจารย์ กันให้มากหน่อย ไม่ใช่ คิดว่าจะมาแค่ สักยันต์...
...ขอให้ทุกทานที่จะมาสักยันต์ ทุกคน รู้จัก สำรวม กันบ้าง เวลาอยู่ต่หน้าครู อาจารย์ ...
...ไม่ใช้อยากคิดจะทำอะไรก็ทำ...มาสักยันต์ กันแล้ว ไม่ให้ให้ความเคารพ ต่อ ครู อาจารย์ ที่ ท่าน สักยันต์ ให้ แล้วยันต์ ที่ได้ไป มันจะเกิด ประโยชน์ อะไร...
...มาสักยันต์ ก็ขอให้มีขันตอน กันบ้าง  ยันต์ครู ( เก้ายอด สาริกา แปดทิศ งบน้ำอ้อย) ได้กันหมดหรือยัง ...
...ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาจากไหนก็ไม่รู้ ขอเสือ ขอหนุมาน ทั้งทั้ง ที่บนตัว ยังไม่มี ยันต์ ครูครบเลย...
...มาสักยันต์ ที่ วัดบางพระ ถูกที่สุดแล้ว (ของจริงด้วย..ไม่มีแอบอ้างแต่อย่างใด)  เอายันต์ครูกันให้คราบ แล้วค่อยขอยันต์ อย่างอื่น...
...นึกถึง ครู อาจารย์ กัน ก่อน ให้มันเป็นตามขั้นตอน...
...มาสักยันต์ ที่ วัดบางพระ ยันต์ต่างๆที่มีอยู่ ทุกคนขอได้ อาจารย์ ไม่เคยหวง แต่มันต้องเป้นตามขั้นตอน ...
...อาจารย์ ดุว่าเข้าหน่อย ก็กับโกรธ โมโห ไม่พอใจ...
...จะรู้บ้างไหม วันหนึ่ง อาจารย์ สักยันต์ ให้วันละกี่คน มาสักยันต์ ก็ให้ดูนาฬิกา กันบ้าง (ไม่ใช้มาซะ 5 โมงเย็น) แล้วบอกว่าอยู่ไกล ถ้าอยู่ไกลก้มาแต่เช้าซิคราบ (ผมอยู่ โคราช)...
...ก่อนจะสักยันต์ ข้อมูลที่ติดเอาไว้ให้อ่าน ทั้งคนเก่าที่มา และคนใหม่ ที่ มารองอ่านซักนิด จะได้เข้าใจ ว่าสักยันต์ คืออะไร ...
...ให้อาจารย์ ทาน เหนื่อย แค่กายก็พอแล้วคราบ  อย่าต้องให้มาเหนือยใจ เพิ่มอีกอย่างเลย...


***มีข้อจะแนะ เรามาสักยันต์ เรามาเพราะ อยากได้ของดีติดตัวกัน ***
...เวลาสักยันต์ ก็รู้จักควบคุบสติ กันบ้าง ไม่ใช้คิดแต่ว่าเจ้บอย่างเดียว ใครก็เจ็บทั้ง นั้นละคราบ...
...อยากได้ของดีเวลากำลังสักยันต์ ก็ให้ระรึกถึง ครู อาจารย์ (ดีที่สุด) สำรวมกันหน่อย...
...มาสักยันต์น่ะคราบ มาขอของดี ไม่ใช่มานั่งดูตลก ดูหนัง ให้รู้อันไหนควร อันไหนไม่ควร...
...บางคนถึงกับขนาด โยนข้าวของ ข้ามกันไปข้ามกันมาเลยที่เดียว ครูอาจารย์ ทานหนั่งอยู่ เคารพ บ้างเปล่า มีการศึกษา กันหน่อย...
...ที่นั่งมีเยอะแยะ ไม่ใช้ไปยืน คล้ำหัว อาจารย์ เห็นแล้วอยาก  (... ซักที่)...


***คราบ อ่านบทความนี้แล้ว ช่วยๆกันหน่อย ทั้งคนเก่าและคนใหม่ ที่จะมา สักยันต์ สำรวม กาย วาจา และ ใจ กันบ้าง ***
...มาสักยันต์ ก็หาข้อมูลกันหน่อย ที่มีให้อ่าน ที่ กุฏิ ทางขึ้นก็รู้จักอ่านสักนิด...ประโยชน์ ทั้งนั้นละ ...
...ยันต์ครู เก้ายอด สาริกา แปดทิศ งบน้ำอ้อย  สักให้ครบ แล้วค่อยไปขอยันต์ตัวอื่น ขอได้คราบ ไม่ใช้ขอไม่ได้...
...เวลามาสักยันต์ ให่ความ เคารพสถาน ที่กันหน่อย รู้จักมารยาท กันบ้าง ไม่ใช้โยนข้าวของข้ามกันไปข้ามกันมา อาจารย์ ทานนั่ง อยู่น่ะคราบ...
...คนเก่าที่อ่าน คนใหม่ที่อ่าน ก็นำไปบอกต่อๆกันด้วย...ทำให้มันเหมือนกันหน่อย...(ครูอาจารย์ เคารพทานมากๆ)...
...เวลามาสักยันต์ กัน ไอ้ พวกตัว สัตย์ ต่างๆ ก็ปล่อยมันให่มันไป วิ่งเล่นแถวๆ หน้ากุฏิ ก่อน อย่ามาปล่อย แถวบริเวร ที่ ทานอาจารย์ ทานกำลังสักยันต์...
...คนเรามีการศึกษา กันทุกคน จะมากจะน้อย ก็ยังมีการศึกษา  มารยาท ผู้ดีเขาสอนกัน ตั้งแต่ ป.1 ใครจะบอกว่าไม่เคยเรียนมาเป็นไปไม่ได้...
...มาสักยันต์ ก็สำรวมกันบ้าง...
...อ่านแล้ว เอาไปบอกต่อๆ กันด้วย คนเก่าคนใหม่...


*** ยันต์ครู เก้ายอด สาริกา งบน้ำอ้อย แป็ดทิศ***  อย่าลืม....

18
**? ไปอยู่ วับางพระ มา 10 วัน
**มีข้อแนะนำดีๆจะมาบอก สำหรับคนที่สักยันต์โยตรงเลยคราบ**
 ***จะไปทำอะไรมาก็ช่าง กฏข้อปฏิบัติ กฏข้อห้ามต่างๆ มีไว้เพื่อ ให้คนเป็น คนดี***
***สำคัญ ที่สุดเลย คราบ? ท่าน อาจารย์ ท่าน สั่งสอนมา (ผมไปอยู่ที่ วัดบางพระ มา 10 กว่าวัน)? ทั้งหมดอยู่ที่ใจ และความเชื่อ คราบ ***
***แต่ฟังแบบนี้แล้วไม่ใช้จะเลิก ทำ สิ่งที่ดี แล้วไปหันทำสิ่งที่ไม่ดีกันหมดละคราบ***
***จงจำไว้ พระคุ้มครองคนดีคราบ***

***ขอแนะว่า ไปทำความเข้าใจให้ดี ....ทุกอย่างอยู่ที่ใจคุณ คราบ ความเชื่อ ฯลฯ***

อาจารย์ สอนมาคราบ ไปอยู่ วัดบางพระ 10 วัน มีประโยชน์ มากเลยรู้ไรดีๆหลายเรื่อง

ความดี คนที่จะดี ความดีที่มันมีอยู่กับตัวอยู่แล้วก็ให้ทำมันต่อไป.....ไอ้ที่เลวๆก็ทำให้มันน้อยลง .. ไม่ช้าก็จะเป็นคนดีได้อย่างเต็ม 100 %

19
คนเราจะดีได้ต้องทำที่ชั่วให้ดีก่อน
ที่ดีอยู่แล้ว อย่าไปทำราย



                                                      :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054: :054:

20
*** ขอนำเรื่องนี้มาคุยหน่อย ไป อยู่ ที่ วัดบางพระ มาหลายวัน***
ขอให้สมาชิก ทุกท่าน ที่จะมาทำการ สักยันต์ ที่ วัดบางพระ โปรด รอง อ่าน ศึกษา หาข้อมูล พื้นฐานกันหน่อย
ทั้งที่เป็น ลูกศิตย์ เก่า และ คน ที่กำลังจะมาเป็น ลูกศิตย์ ใหม่
...การมาสักยันต์ ให้ คนที่มาสักยันต์ คิดถึงครู อาจารย์ กันให้มากหน่อย ไม่ใช่ คิดว่าจะมาแค่ สักยันต์...
...ขอให้ทุกทานที่จะมาสักยันต์ ทุกคน รู้จัก สำรวม กันบ้าง เวลาอยู่ต่หน้าครู อาจารย์ ...
...ไม่ใช้อยากคิดจะทำอะไรก็ทำ...มาสักยันต์ กันแล้ว ไม่ให้ให้ความเคารพ ต่อ ครู อาจารย์ ที่ ท่าน สักยันต์ ให้ แล้วยันต์ ที่ได้ไป มันจะเกิด ประโยชน์ อะไร...
...มาสักยันต์ ก็ขอให้มีขันตอน กันบ้าง  ยันต์ครู ( เก้ายอด สาริกา แปดทิศ งบน้ำอ้อย) ได้กันหมดหรือยัง ...
...ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาจากไหนก็ไม่รู้ ขอเสือ ขอหนุมาน ทั้งทั้ง ที่บนตัว ยังไม่มี ยันต์ ครูครบเลย...
...มาสักยันต์ ที่ วัดบางพระ ถูกที่สุดแล้ว (ของจริงด้วย..ไม่มีแอบอ้างแต่อย่างใด)  เอายันต์ครูกันให้คราบ แล้วค่อยขอยันต์ อย่างอื่น...
...นึกถึง ครู อาจารย์ กัน ก่อน ให้มันเป็นตามขั้นตอน...
...มาสักยันต์ ที่ วัดบางพระ ยันต์ต่างๆที่มีอยู่ ทุกคนขอได้ อาจารย์ ไม่เคยหวง แต่มันต้องเป้นตามขั้นตอน ...
...อาจารย์ ดุว่าเข้าหน่อย ก็กับโกรธ โมโห ไม่พอใจ...
...จะรู้บ้างไหม วันหนึ่ง อาจารย์ สักยันต์ ให้วันละกี่คน มาสักยันต์ ก็ให้ดูนาฬิกา กันบ้าง (ไม่ใช้มาซะ 5 โมงเย็น) แล้วบอกว่าอยู่ไกล ถ้าอยู่ไกลก้มาแต่เช้าซิคราบ (ผมอยู่ โคราช)...
...ก่อนจะสักยันต์ ข้อมูลที่ติดเอาไว้ให้อ่าน ทั้งคนเก่าที่มา และคนใหม่ ที่ มารองอ่านซักนิด จะได้เข้าใจ ว่าสักยันต์ คืออะไร ...
...ให้อาจารย์ ทาน เหนื่อย แค่กายก็พอแล้วคราบ  อย่าต้องให้มาเหนือยใจ เพิ่มอีกอย่างเลย...


***มีข้อจะแนะ เรามาสักยันต์ เรามาเพราะ อยากได้ของดีติดตัวกัน ***
...เวลาสักยันต์ ก็รู้จักควบคุบสติ กันบ้าง ไม่ใช้คิดแต่ว่าเจ้บอย่างเดียว ใครก็เจ็บทั้ง นั้นละคราบ...
...อยากได้ของดีเวลากำลังสักยันต์ ก็ให้ระรึกถึง ครู อาจารย์ (ดีที่สุด) สำรวมกันหน่อย...
...มาสักยันต์น่ะคราบ มาขอของดี ไม่ใช่มานั่งดูตลก ดูหนัง ให้รู้อันไหนควร อันไหนไม่ควร...
...บางคนถึงกับขนาด โยนข้าวของ ข้ามกันไปข้ามกันมาเลยที่เดียว ครูอาจารย์ ทานหนั่งอยู่ เคารพ บ้างเปล่า มีการศึกษา กันหน่อย...
...ที่นั่งมีเยอะแยะ ไม่ใช้ไปยืน คล้ำหัว อาจารย์ เห็นแล้วอยาก  (... ซักที่)...


***คราบ อ่านบทความนี้แล้ว ช่วยๆกันหน่อย ทั้งคนเก่าและคนใหม่ ที่จะมา สักยันต์ สำรวม กาย วาจา และ ใจ กันบ้าง ***
...มาสักยันต์ ก็หาข้อมูลกันหน่อย ที่มีให้อ่าน ที่ กุฏิ ทางขึ้นก็รู้จักอ่านสักนิด...ประโยชน์ ทั้งนั้นละ ...
...ยันต์ครู เก้ายอด สาริกา แปดทิศ งบน้ำอ้อย  สักให้ครบ แล้วค่อยไปขอยันต์ตัวอื่น ขอได้คราบ ไม่ใช้ขอไม่ได้...
...เวลามาสักยันต์ ให่ความ เคารพสถาน ที่กันหน่อย รู้จักมารยาท กันบ้าง ไม่ใช้โยนข้าวของข้ามกันไปข้ามกันมา อาจารย์ ทานนั่ง อยู่น่ะคราบ...
...คนเก่าที่อ่าน คนใหม่ที่อ่าน ก็นำไปบอกต่อๆกันด้วย...ทำให้มันเหมือนกันหน่อย...(ครูอาจารย์ เคารพทานมากๆ)...
...เวลามาสักยันต์ กัน ไอ้ พวกตัว สัตย์ ต่างๆ ก็ปล่อยมันให่มันไป วิ่งเล่นแถวๆ หน้ากุฏิ ก่อน อย่ามาปล่อย แถวบริเวร ที่ ทานอาจารย์ ทานกำลังสักยันต์...
...คนเรามีการศึกษา กันทุกคน จะมากจะน้อย ก็ยังมีการศึกษา  มารยาท ผู้ดีเขาสอนกัน ตั้งแต่ ป.1 ใครจะบอกว่าไม่เคยเรียนมาเป็นไปไม่ได้...
...มาสักยันต์ ก็สำรวมกันบ้าง...
...อ่านแล้ว เอาไปบอกต่อๆ กันด้วย คนเก่าคนใหม่...


*** ยันต์ครู เก้ายอด สาริกา งบน้ำอ้อย แป็ดทิศ***  อย่าลืม....
 :054: :054: :054: :054: :054:

21
ดูแล้วคลัง ดีคราบ รองดูกันเลยคราบ...

http://www.sak-yant.com/archive/videos/khongkhuen2.mpg

22
1.Do not eat Star fruit, Pumpkin, or any other 'Gourd' type Vegetable.
2.Do not Be anybodys Lover who is already married
3.FORBIDDEN in Extreme, to slander anybody's Mother (this means most women, if you think about it).
4.Do not eat food from a Wedding, or Funeral banquet.
5.Do not Eat left-Overs.
6.Do not Duck under a Washing Line, or an overhanging building.
7.Do not Duck under a Banana Tree of the type Thaanii (classed as important to avoid).
8.Do not cross a single head bridge; Large or Small bridges are not Forbidden.
9.Do not sit on a Ceramic Urn (Common in Thailand).Especially a Cracked, or Broken one.
10.Do not let a Woman Lie on Top of You, or Sit on Top either.
11.Do not permit a Man to be Brushed by the blouse or skirt of a Woman, or crossed in Front of; Especially during the Menstruative Period.
....ข้อห้ามไปอ่านเจอแบบภาษา อังกฤษ มี่ข้อที่แตกต่างจากของ วัดบางพระ เพิ่มเข้ามาจากของเดิมอีกนิดหน่อย...เป็นข้อมูลของ วัดบางพระ ที่ชาวต่างชาติ ทำขึ้นมารองดูรายละเอียดกันดูคราบ....สว่นใครจะรองแปลก็รองดูคราบ.... มีข้อแปลก ที่ไม่ค่อยมีคนรู้ก็มีคราบ รองดูคราบ

23
ศึกษาขอม กันต่อ


24
แบบหัดอ่านเขียนภาษาขอม 2


25
...แบ่งความรู้กันคราบ...
 :054: :054: :054: :054:







26
หลวงพ่อเปิ่น




27
ผมมีข้อเสนอแนะน่ะคราบ.....น่าจะมีการรวมรูป ตัวยันต์ต่างที่มีที่ วัดบางพระ และรูป ยันต์ ที่อยู่บนตัว ลูกศิตย์ วัดบางพระ.....เอาไปแสดงที่ กุฏิ หลังใหม่ที่กำลังสร้างเลย ใครมาดูประวัติ วัดบางพระ จะได้ข้อมูลที่หลากหลาย.............
......เพื่อน สมาชิก คิดยังไงคราบ กับความคิดนี้ ........แสดงความคิดเห็นหน่อยคราบ......อ่านจบแล้ว....ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีคราบ......ถายรูปลูกศิตย์ วัดบางพระ เก็บเอาไว้ เป็นทั้ง ศิลปะ และยังแสดงตัวยันต์ ต่างๆให้คนมาเยี่ยวชม ได้ดูด้วย.......ช่วยกันแสดงความคิดเห็นคราบ........
......ผมว่า วัถตุประสงค์ ที่ ทานหลวงปู่ได้ จัดสร้าง กุฏิหลังใหม่ขึ้นมาก้น่าจะเป็นเพราะ ทานหลวงปู่  อาจจะอยากให้เป็นที่ รวบรวมข้อมูล ต่างๆทางด้าน วัดบางพระ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้กับคนทั่วไปได้มาเยี้ยวชม..........น่าจะเป็นประโยชน์ มากกับเรื่องนี้.....มีการรวบรวมรูป ต่าง ๆ  ทั้งรูปครูบาอาจารย์ รูปตัวยันต์  รูปลูกศิตย์ ที่ได้สักยันต์ตัวต่างๆไปอยู่บนผม..และก็รูปพิธี กรรมการไหว้ครู น่าจะได้ที่จะให้ กุฏิ หลังใหม่ เป็นเหมือที่รวบรวม แหล่งความรู้ และเป็น ที่ ท่องเที่ยว หลักของวัดไปเลย....ถ้าจะให้ดี  จัดให้มี ที่เช่าเครื่องรางต่างๆ ที่ กุกิ หลังใหม่ที่กำลังก็สร้างไปเลย.................วัดเราคงจะเป้นที่รู้จัก ของคนอีกเยอะที่เดียว.............
.....ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเยอะ น่ะคราบ เป็น ประโยชน์ กับ ทาง วัด บางพระของเรา......และเป็นการสืบสานเรื่องนี้ให้สำเหร็จ ตามที่หลวงปู่ ต้องการสร้าง กุฏิ หลังใหม่เช่นกัน.....
.....ผมก็เป็นเพียง ลูกศิตย์ คนหนึ่ง ที่ได้มาอยู่มาครุกคลี กับ วัดบางพระ ไม่เท่าไร....และเป็นเพียงคนกลุ่มน้อย....แต่ด้วยความเคารพ หลวงปู่ แล อาจารย์ ทุกทานที่วัด....อยากเห็น วัดบางพระ เขาเราลูกศิตย์ วัดบางพระ ทุกคนได้พัฒนา ไปสู้ทางที่ดี ยิ่งๆขึ้นไป......
......ช่วยกันออกความเห็นกันเยอะคราบ.....ลูกศิตย์ วัดบางพระ   และผู้ที่เข้ามาชมเว็บแห่งนี้ด้วย.....ขอคุณคราบ.......

28
.....ตอบไปที่กล่องข้อความอะคราบ.....ไปอ่านดู

29
รวมรูปหนุมานคราบ...






30
หนุมานครุกฝุ่น
 หนุมานลิงเผือก มีเดชมาก สามารถเนรมิตกายให้สูงใหญ่ มี 4 หน้า 8 กร หาวเป็นดาวเป็นเดือนขนกายเป็นเพชร เหาะเหินในอากาศได้มีตรีเป็นอาวุธประจำกาย ได้รับพรจากพระศิวะว่าให้มีอยุหนึ่งกัประยะเวลาตั้งแต่โลกอุบัติจนวิบัติ และใครฆ่าไม่ตาย

หนุมานเกิดจากพระศิวะมีเทวโอการให้พระยานเทพอาวุธ มีคทาเพชร ตรี แลละจักรแก้ว ไปพดเขาปากนาสวาหะ ด้วยเหตุนจึงถือว่าพระพายเป็นบิดาของหนุมาน คทาเพชรกลายเป็นกระดูกสันหลัง ตรีกลายเป็นร่างกาย แขน ขา และจักรแก้วกลายเป็นเศียรหนุมานสามารถชักตรีออกจากองค์มาสู้ศัตรูได้

? ? ? ? นางสวาหะเป็นเมียพระฤาษีต่อมาเป็นชู้กะพระอินทร์ ฤาษีจึงโกรธสาปให้นางเป็นหินยืนกินลมแทนอาหาร จะพ้นคำสาปเมื่อหนุมานมาเกิด

? ? ? ? หนุมานในฐานะทหารเอกของพระราม ได้แสดงความกล้าหาญ ภักดี ดูแลรับใช้เจ้านายอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ พระรามสรรเสริญหนุมานเป็น? อย่างยิ่ง



31
หนุมาน4กร




32
ท่านอาจารย์ ญา พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลพระวิษณุกรรม 72 ปี (28 เม.ย. 2549)

http://www.bluezones.net/puttapisakevisanu72_02.htm







33
เขี้ยวเสือหลวงปู่

http://www.uamulet.com/showsoBoardDetail.asp?qid=5716&sort=DESC




34
ใครพอจะมีข้อมูล เกี่ยวกับเขี้ยวเสือแกะที่ วัดบางพระ บ้างคราบ....
....ว่าวัสดุ ที่นำมาใช้แกะให้บูชากัน ใช้วัสดุ อะไรมาทำ...เขี้ยวเสือ งาช้าง เขี้ยวหมี เขี้ยวหมู.....
....คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เขาบอกว่าเห็นที่ตู้ บูชา ที่ วัดบางพระ อยากรุ้รายละเอียด กับวัสดุ ที่ใช้ในการทำเขี้ยวเสือแกะ ที่มีให้บูชาตอนนี้  อะคราบ...
....ราคาที่คุยกัน เห็นบอกว่า  ประมาณ 3000 - 4000 บาทนี้ละคราบ...
....ขอผุ้รู้และชำนาน เข้ามาช่วยให้คำตอบที่คราบ....อยากรู้ด่วนมากเลยคราบ.....

35
เห็นว่ามีสมาชิกที่เป็นผู้หญิงมาสักกันเยอะ.....และเกิดความกังวลใจกับ กฏข้อห้ามต่างๆ
....เลยของยกตัวอย่าง จากเรื่องจริง กับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้ทำการ สักยันต์ จาก วัดบางพระ......ดังเรื่องที่จะเราต่อไปนี้....

.....แต่ก่อนอื่นต้องบอกคุณผู้หญิงทั้งหลายก่อนว่า คุณสักอะไรไปแล้วคุณก็ยังสามารถใช้ชีวิต ได้ตามปรกติ
 อะคราบเคยทำไรก็ทำเช่นเดิม..... :069:....แต่สำหรับข้อห้ามที่ ได้มาหลังจากคุณ ได้สักยันต์ ไปแล้ว ก็ขอให้ทำตาม? ที่ครูอาจารย์ ท่านบอกไว้...อะไรที่ ท่านไม่ได้บอกก็หมายความว่าเราทำได้...ให้คุณรองคิดดู ว่าท่านสั่งห้ามอะไรไว้.....ถ้าไม่ได้บอกก็ทำได้ตามเดิม ถ้าบอกถ้าเตือนแล้ว ก็อย่าไปทำคราบ....คุณจะได้สบายใจ.....
.....คราวนี้มาฟังเรื่องเร่าคราบ......

*****......มีเรื่อง จากหนังสือพิมพื มาเร่าให้ฟังคราบ ...ขอยกตัวอย่าง ผู้หญิงที่ สักยันต์ เป็นข่าวพาดหน้า1 ช่วงปี 2547-2548.....อะไรประมารนี้ละคราบ.....
ได้มาสักยันต์ ที่ วัดบางพระ ไปอย่าง สองอย่างนี้ละ สักอะไรไปไม่รู้เหมือนกัน แต่เป็นน้ำมัน โดน คนร้ายประกบยิงเผาคน....ระหว่างขับรถมอเตอร์ไซร์ ยิงเข้าที่ หัว และ ที่ ต้น คอ ผู้หญิง? ขณะเกิดเหตุ ผู้หญิง สวมหมวกกันน๊อกไว้โดยยิงที่หัว หมวกถึงกับ ทะลุ และโดนยิงจอ ที่ท้ายทอย อีกหนึ่งจุด....จนรถลมไปกองกับพื้น......คนร้ายคิด ว่ายังไงคงไม่รอดแล้ว....เลยขับรถหนี....แต่คนที่เห็นเหตุการณ์ ตอนนั้นได้มาช่วนกันดูคนเจ็บ.....ปรากฏ ว่าเป็นเรื่อง? น่าตกตะลึก ของคนที่ได้มาพดเห็น ผู้หญิง คนนั้น ไม่เป็นไรเลย? โดนยิงที่ หัว หมวกกันน๊อก ทะลุ โดนยิงที่คอ ก็ไม่เป็นไร.............
.....ทราบภายหลัง บนตัวของผู้หญิง มีอยู่ 2อย่าง ยันต์ ที่สักจาก? วัดบางพระ และหนังหน้าผากเสือ วัดบางพระ? เป็นข่าวพาดหน่า1 ชวงปี 2547-2548 นี้ละถ้าจำไม่ผิด.....ผู้เกิดเหตุเป็นชาว นครปฐม ด้วย.....
......จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้? ? น่าจะเป็นตัวบอกได้อย่างดี....ว่า...ผู้หญิง หรือ ผู้ชายถ้าได้มีของดีไรอยู่กับตัวแล้ว? ย่อมส่งผมคุ้มครองเราเหมือนกัน.......
.......ซึ้งคุณ ผู้หญิง หลายๆท่าน ที่ได้ สักไปแล้ว มักจะเป็นกังวลกับ กับ พฤติกรรมการกระทำของตัวเองกลัวจะรักษา นุ้งกระโปงบ้างละ ใส่ชุดนอนบ้างละ มักจะทำให้กังวลกันกับ? กฏข้อห้ามต่างๆ ที่ห้ามกลัวทำกันไม่ได้ .....คุณที่อ่านที่เป็นผู้หญิงจะได้มีความ สบาย ใจกันมากขึ้น  ว่าเราก้ยัง ทำไรต่ออะไรได้เหมือนเดิม ข้อไหนที่ อาจารย์ ทายห้ามก้อย่าไปทำ ข้อไหนที่ไม่ได้ห้าม หรือ ท่านไม่ได้บอก เราทำแล้วเราจะได้สบายใจ....
....ผมว่าจริงน่ะ ที่คำสอนของ ศาสนา พุทธ บอกไว้ว่า นรกอยู่ในอก สวรรค์อยู่ในใจ....ทำไรไปคนอื่นไม่รู้แต่เราก็รู้ตัวเราเอง....ทำให้คนเกิดความเกรงกลัวต่อ การกระทำไม่ดีต่างๆ...

ขอยืนยันคราบเรื่องนี้มีจริง? ลงข่าวเลยคราบ ถ้าใคร อ่านหนังสือพิมพ์ บ้างคงจะได้เคยเห็น...


.. :016:..ส่วนตัวผมคิดว่า บุญบารมี หลวงปู่คุ้มครองคราบ.....ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร...หลวงปู่คุ้มครองทุกๆคนคราบ ทำดีกันแล้วกัน...ไรไม่ดีเลิกได้ก็เลิก...ลดได้ก็ลด... :015:.

36
มีคนเคยตั้งกระทู้เอาไว้  ...
พอดีไปได้ข้อมูลมา น่าจะเป็นประโยชน์ ต่อคนตั้งกระทู้บ้างเลยเอามาฝากคราบ
คาถานายขนมต้ม....
กะ ขะ ชะงะ
รองนำไปคราบ...

37
ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง

                    เราเกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้งและแสวงบุญ ต้องให้รู้หลักตรงนี้ให้ดี จับหลักให้ได้ จับหลัก ตรงนี้ได้ก็เอาตัวรอดและปลอดภัยได้ ถ้าจับหลักตรงนี้ไม่ได้ก็เอาตัวไม่รอดแล้วก็ไม่ปลอดภัยในชีวิตด้วย เราเป็นชาวพุทธจะต้องรู้ว่า อะไรเป็นสรณะ ถ้าไม่รู้สิ่งที่ถูก เราก็ไม่รู้สิ่งที่ผิด สิ่งที่ถูก คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก มีทุกข์เราก็พึ่งท่านได้ มีสุขก็ไปหาท่านได้ และควรนึกถึงท่านบ่อยๆ นึกถึงท่านแล้วก็ปลื้ม มีทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกก็หมายถึงพระพุทธเจ้า หรือพุทธปฏิมากร พระธรรมก็พระคัมภีร์ทั้งหลายที่อยู่ในตู้พระไตรปิฎก พระสงฆ์ก็ที่เราเห็นกัน

                    ส่วนพระรัตนตรัยภายในนั้น ได้แก่พระธรรมกายในตัว เป็นพุทธรัตนะ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย คือธรรมรัตนะ และพระธรรมกายละเอียด คือ สังฆรัตนะ ๓ อย่าง อยู่ร่วมกัน แต่คนละอันกัน เหมือน

38
พอดีมีธุระ.....จะไปแถว วัด ดอนยายหอม คราบ ไม่ทราบว่าจะไปยังไงขึ้นรถที่ไหนคราบ...เอาเริ่มจาก แยก ท่านา? หรือ ไม่งั้น แยกบ้านแพร้ว? มีรถ ประจำทาง? ผ่านไปที่ วัด ดอนยายหอมไหมคราบ? อะคราบ..

39
แบบอย่างการไหว้ครู
1. สักการะครู   คือ  เอาใจใส่ครูบาอาจารย์
2. เคารพครู  คือ  มั่นใจต่อครูบาอาจารย์
3. บูชาครู  คือ  ปฏิบัติบูชา ปฏิบัติตามคำสั่งสอน
4. นับถือครู  คือ  ยึดถือไว้ยึดเหนี่ยว ข้อปฏิบัติที่ดีเอาไว้ เป็นแบบอย่าง
5. เชื่อฟังครู  คือ  นำคำสั่งสอน ครูบาอาจารย์ ไปชี้แนะ แสดเหตุผล ต่อครอบครัว และคนทั่วๆไป ให้เขาเข้าใจ

40
วัดบางพระ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

41
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / รูปเก่า1
« เมื่อ: 20 ส.ค. 2549, 03:06:18 »
111

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

42
เนื่องจาก กระดานสนทนา ของ วัดบางพระ ของเรามีผู้คนเข้ามาเยี้ยมชมกันเยอะ ทั้ง ลูกศิตย์ ลูกหา วัด บางพระ เอง และผู้ที่กำลังศึกษา และผู้ที่สนใจ กับเรื่องราวกาสักยันต์...
มีกระทู้ ที่ถูกถามเกี่ยว กับยันต์ ชนิดต่างๆมากมายทั้ง ความหมาย และรูปร่างเป็นไง.........นาจะเป็นการดี ท่าทาง เว็บของเรา  จะทำการ รวบรวม เอายันต์ ต่างๆ มาลงให้ ผู้ที่สนใจได้ดู และได้ทำความเข้าใจ กับชนิด ต่างๆ ที่ทาง วัดบางพระได้ทำการสักยันต์   ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นใคร จะได้มีความรู้ และมีความเข้าใจไปใน   ทางเดียวกัน..............ขอความกรุณา ผู้ดูแลระบบและผู้เกี่ยวข้อง รองนำเรื่องนี้  พิจารณา  ดูด้วยคราบ   น่าจะเป็นประ ต่อ เว็บของ วัดบางพระ คราบ....
 

43
12 สิงหาคม 2549  ใครไปวัดบางพระ  บ้างคราบ เพื่อนๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมทำบุญกันน่ะคราบทุก ๆ ท่าน

44
คาถา หัวใจพระยาปลาไหลเผือกวิ เว สุ เว อะ ยะ เวย ยะ เส เพ เส วะเส ตะ อะ เส
คาถาบทนี้
ท่านให้เสกน้ำลูบตัว เนื้อตัวจะลื่นเหมือนปลาไหล จับตัวไม่อยู่ มัดรัดรึงด้วยโซ่ตรวนเชือกมิอยู่เลย กับทั้งแคล้วคลาดคงทนต่อหอกดาบปืนผาหน้าไม้อีกด้วย ประสิทธิ์นักแล



45
เมื่อคืนฝันแปลก  ฝันเห็น ท่าน อาจารย์ ที่ วัดบางพระ แล้วระหว่างที่ ฝันรู้สึกเหมือน กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นฝันว่า เกิด ของขึ้นครบทุกอย่างเลยยันต์ที่อยู่บนตัว พ่อแก่ หนุมาน เสือ ดำดื้อ ลิงลม แปลงจังความฝันครั้งนี้ ปกติที่ฝันจะขึ้น อย่างเดียว ใครเป็นแบบนี้บ้างคุยกันหน่อย แลกเปลี่ยนประสบการณ์...

46
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / พี่ เอ
« เมื่อ: 20 ก.ค. 2549, 01:41:00 »
เสาร์ 12 นี้ จะไปวัดไหมอะ..

47
พี่ เอ คราบปูนถามไรหน่อยดี ยันต์ที่เอามาให้ดูเรียกว่า ยันต์ ไรอะคราบ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

48
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ธรรมะสอนใจ
« เมื่อ: 03 มิ.ย. 2549, 09:48:07 »
อิมัสมิง กาเย ...

เกสา ว่า ผม อย่าได้ชื่นชม ว่าผมโสภา

เก้าล้านแสนเส้น ล้วนเป็นอนิจจา อย่าได้สงกา ว่าเป็นแก่นสาร

โลมา คือ ขน งอกทั่วตัวตน ว่าขนสาธารณ์

เก้าโกฏิแสนเส้น มิเป็นแก่นสาร เวลาถึงกาล สาบสูญบรรลัย

นะขา คือ เล็บ ยาวนักมักเจ็บ ว่าเล็บทั้งหลาย

เปื่อยเน่าผุพอง เป็นหนองภายใน คนพาลเอาไว้ ย่อมเป็นกังวล

ทันตา คือ ฟัน สามสิบสองอัน ข้างล่างข้างบน

งอกขึ้นภายหลัง น่าชังเหลือทน หลุดถอนคลอนหล่น ทนทุกขเวทนา

ตะโจ คือ หนัง ห่อหุ้มกายัง เท่าผลพุทรา

หุ้มห่อรอบตัว ทั่วทั้งกายา เมื่อม้วยมรณา แร้งกาจิกกิน

มังสา คือ เนื้อ อย่าได้เอื้อเฟื้อ เนื้อเก้าสิบชิ้น

เน่านองกองเกื้อ อยู่เหนือแผ่นดิน แร้งกาจิกกิน เมื่อสิ้นอาสัญ

นะหารู คือ เอ็น เมื่อเรายังเป็น เอ็นชักไหวหวั่น

เอ็นใหญ่เก้าร้อย เอ็นน้อยเก้าพัน รัดรึงตรึงกัน ผูกพันกายา

อัฐิ คือ กระดูก เอ็นนั้นพันผูก กระดูกนานา

ได้สามร้อยถ้วนล้วนเป็นอนิจจา อย่าได้สงกา ว่าเป็นแก่นสาร

อัฐิมิญชัง กระดูกนั้นยัง มีเยื่อยืดยาน

อยู่ในกระดูก หล่อเลี้ยงสังขาร เวลาถึงกาล สาบสูญบรรลัย

วักกัง คือ ม้าม อยู่แอบแนบข้าง ริมเนื้อหัวใจ

ผู้มีปัญญา จดจำเอาไว้ เร่งคิดให้ได้ ถึงพระอนิจจา

หะทะยัง คือ หัวใจ พระท่านขานไข ว่าใจนานา

ใจขึ้งใจโกรธ ใจโทษโทสา ใจมารแกล้วกล้า ฆ่าสัตว์ทั้งหลาย

ใจมักเสียดส่อ ใจลวงใจล่อ ให้เขาหลงใหล

ใจมืดใจมัว หลงตัวจนตาย ใจดำนี้ไซร้ เหมือนสัตว์เดรัจฉาน

ใจร้ายใจพาล จะจมอยู่นาน ในจตุราบาย

ใจมักทำบุญ ให้คิดถึงคุณศีลทานทั้งหลาย

ให้แล้วให้เล่า ข้าวน้ำมากมาย ให้เร่งขวนขวาย มุ่งหมายทำบุญ

ไหว้พระสวดมนต์ กุศลผลคุณ ใจมักเจือจุน ด้วยใจศรัทธา

ใจนั้นสุภาพ ละอายแก่บาป ใจไม่หยาบช้า

ซื่อสัตย์มั่นคงจำนงเจรจา หาโทษโทสา ไม่มีแก่ตน

ใจดังดวงแก้ว ประเสริฐเลิศแล้ว ส่องโลกโลกา

กุศลผลบุญ ทำไว้นานา เราท่านเกิดมา ไม่เป็นแก่นสาร

ใจถือขันติ เมตตาปรานี ฝูงสัตว์ทุกวัน

เหนี่ยวเอามรรคผล ให้พ้นกันดาร แม้นสิ้นอาสัญ ย่อมพ้นอบาย

ไปสู่พระนิพพานแล ....

49
ข้อห้ามสำหรับคนสักยันต์

ผู้ที่สักยันต์จากสำนักวัดบางพระเพื่อให้ยันต์ไม่เสื่อมคลายความขลัง ต้องยึดปฏิบัติตามศีล ๕ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อที่ว่า "ห้ามผิดลูกเมียเขา ห้ามด่าบุพการี(ทั้งของตนเองและผู้อื่น)"

นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามต่างๆ ที่เชื่อสืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้แก่

๑.ไม่รับประทานมะเฟือง ฟัก ลูกเต่าร้าง น้ำเต้า ๒.ไม่รับประทานอาหารในงานศพ ๓.ไม่รับประทานของเหลือเดน ๔.ห้ามลอดไม้ค้ำกล้วย โดยเฉพาะกล้วยตานีจะแรงเป็นพิเศษ ๕.ไม่ลอดราวผ้า ไม่ลอดร่องถ่ายทุกข์หนักเบา ๖.ไม่ลอดสะพานหัวเดียว ๗.ไม่นั่งบนครก โดยเฉพาะครกแตก ๘.ไม่ให้สตรีมานอนทับ นั่งทับข้างบน ๙.ห้ามไม่ให้ชายผ้าถุงสตรีมาสะบัดโดนร่างกาย โดยเฉพาะยามมีประจำเดือน

http://www.komchadluek.net/column/pra/2006/03/08/01.php




50
ยันต์ หอมเชียง

51
สงสัย เรื่อง จำ นวน ของกระทู้ คราบ แต่ละคนมีจำนวนของกระทู้ ที่แตกต่างกันไป มากบ้าง น้อยบ้าง จำนวนของกระทู้นี้คนที่มีมาก ได้มาแต่อย่างไร และความมากน้อยของกระทู้ นี้จะส่งผลอะไร อะเปล่าคราบ

52
ตั้งแต่ผมไปสักยันต์ที่ วัดบางพระ มาแล้ว ผมฝันว่าของขึ้นบ่อยๆมาก ขึ้นแต่ละครั้งในความฝัน จะขึ้นไปตามรอยยันต์ที่ได้ไปสักมาคราบ  ครั้งหนึ่งไป สัก หนุมาน มาก้ฝันว่าขึ้นเป็น หนุมาน ครั้งหนึ่ง ไปสักเสื่อ มา ก้ฝันว่า ขึ้นเป็นเสื่อ เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ในความฝันกับยันต์ที่มีอยู่บนตัว จะเป็นยัตย์ตัวเดียวกันเลย   ....
*** มีครั้งหนึ่ง เริ่มสักแรก ได้ยันต์ครูหมดแล้ว***
1. สวดมนต์ไหว้พระ ก่อนนอน หลับแล้วฝันไป ว่าได้เจอหลวงปู่ ชนิดแบบว่าไกล้ชิดอยู่กับ ท่านเลย ท่านยังแบบว่าแข็งแรงทุกอย่าง ท่านบอกในความฝันว่า ประมาณ บอกว่า สักยันต์ ครั้งต่อไป ให้ผม สักเสื่อ หลวงปู่ บอกชื่อเสือ มาด้วย แต่ผมจำชื่อ ของเสือที่ หลวงปู่ บอกมาไม่ได้ เป็นเรื่องน่าแปลก ปกติ แล้วยันตืเสือจะไม่มีชื่อบอกเอาไว้แต่อย่างใด ...แต่ในฝันฝัน หลวงปู่ ท่านได้บอกชื่อของเสือ  ออกมาเลย (คล้ายๆกับความชอบที่หลวงปู่ชอบเสือมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเกี่ยวกันอะเปล่าเรื่องนี้..และต่อมาผมก็ได้สักยันตื รูปเสือดังใจหมายเหมือนกับว่า หลวงปู่จะมาบอกเป็น ในๆ ว่าให้สักเสื่อ ว่างั้นละคราบ  (หลวงปู่ท่านชื่นชอบเสือ)
2. ครั้งที่สองที่ฝันเห็นหลวงปู่ประมาณ สัก 1-2เดือนได้ ผมไม่ได้ไป วัดบางพระ มาประมาณ 1-2 เดือน พอดีคราบ เป็นความฝันเกี่ยวกับ พิธิ ไหว้ครู ของ วัดบางพระ คราบ ไม่ขอเร่าว่าเป็นยังไงคราบความฝัน แต่แปลกมากๆคราบ พิธิ ไหว้ ครูครั้งที่ผมฝันนั้น หลวง ปู่เป็นผู้ทำพิธีเองเลยคราบ นึกถึงความฝันที่เร่ามาแล้วขนลุกเลยคราบ พอถึงสุดท้ายของความฝัน ท่านให้ผมทำความสะอาด วัด ประมาณนั้นคราบ ให้ถากหญ้า เก็บขยะ ประมาณนั้น แบบว่าหลวงปู่บอก ให้ช่วยกันทำ พูดจบคำเท่านั้นละคราบ ผมก็ตื่นจากความ ฝัน แปลกมากคราบความฝันของผม
.....ไม่รู้ที่เร่ามา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ลูกศิตย์ วัดบางพระ ทุกคนที่ อ่านแล้วไม่รู้จะคิดเห็นยังไงกับเรื่องที่ผมฝันแล้วนำมาเร่า ให้ได้รับรูกกันคราบ  :049:  :049:  :016:  :015:

53
ไหว้ครูปีนี้ตั้งใจจะไปกราบหลวงปู่ที่ วัดเพิ่งผ่านกับเรื่องไม่ดีมาสด ๆ ร้อน ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้วแต่มีเห้นทำให้ไม่ได้ไป วัดบางพระ จนเกิดเรื่องขึ้น คราวนี้สอบเสร็จแล้วคงจะไปแน่ใคร ว่างก็เจอกันที่ วัดบางพระ น่ะคราบ แล้ววัน ที่ 4 มีนาคม 2549 จะมีใคร บ้างคราบไปไหว้ครู ที่ จังหวัด การญจนบุรี 

54
*** เมื่อ เร็วมานี้ ได้เกิดเรื่องขึ้น***
เป็นเหตุการจริงที่ได้รับ ด้วยตัวเองเลย มีวันหนึ่ง มาเดินเล่นห้างหลังเลิกเรียนตาม ปกติ เหมือนกับทุกวัน จนถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านอยู่แล้ว ก็เกิดเรื่องบังเอินขึ้น มีวัยรุ่นต่าง สถาบัน 4-5 คน ดูสภาพแล้ว เมากันมาทุกคน ซึ่ง วันนั้นมากับน้องที่เป็นผู้หญิง แล้วเกิดวัยรุ่น ที่มามารวนรามน้องที่มาด้วย ก็เลยประมาณว่าเข้าไปช่วยคนที่มาด้วย จนเกิดความไม่พอใจ ของวัยรุ่น กลุ่มนั้นเข้า แล้วได้มีเรื่องกัน ซึ่งเป้นเรื่องที่น่า ทึ่งมาก ไม่รู้ว่าผมไปเอาเรี่ยวแรงมาแต่ไหนหนักหนา ทั้งๆที่ถูกรุมถึง 5 ต่อหนึ่ง แต่วันนั้นกลับไม่ได้รับบาจเจ็บอะไรมาเลย มีแค่ร่องรอยช้ำบ้าง แต่พวก วัยรุน ที่มีเรื่องด้วย เจ็บกันไปหลายคน มีการเข้าตลุมบอลกันจน พักหนึ่ง จนพวกวัยรุ่น นั้นหนีไป (เป็นเรื่องน่าแปลก น้องที่มาด้วย บอกว่า ตอนที่กำลังสู้กับพวกวัยรุ่นบอกกับผมว่า ท่าทางเหมือน..เสือ..เลยน้องคนที่มาบอกตอนนั้นน่ากลัวมากเลย แต่ผมก็ไม่รู้ตัวหลอกว่าผมเป็นยังไง จะมารู้ตัวก็ตอนที่น้องมาเร่าให้ฟังที่หลัง) จนคนมามุงดูกันเต็ม แล้วก็มีเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอยภัย มาถามผม กับน้องที่มาด้วย ว่าจะเอาเรื่องหรือเปล่า ผมไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะผม กับ คนที่ มาด้วยไม่ได้เป็นอะไร เรื่องก็เลยเป้นอันจบ
....ผมเชื่อ อย่างถนัด แล้วก็นึกถึง หลวงปู่ ขึ้น มาทันที่หลักเกิดเรื่อง เป็นเพราะ บุญบารมี ของ หลวงปู่ ผมถึงได้ไม่เป็นอะไร ไรเป็นเรื่องที่เร่าให้ฟังแล้วแทบไม่น่าเชื่อ ว่าผมจะเอากำลัง วังชามาจากไหน มาสู้กับคน 4-5 คน ผมเชื่อว่า หลวงปู่ ท่านได้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผมปลอดภัยไม่เป็น อะไร .......
*** เรื่องที่ ผมเร่ามาน่าจะตรงกับ ประสบการณ์ ของเพื่อน ๆ พี่ ๆ คนที่เคยได้รับประสบการณตรงแบบผม คนที่เคยเจอเรื่องแบบนี้คงจะเข้าใจว่าเป็นอย่างไร***
     ขอให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน จงยึดถือ คำสั่ง สอน ของครู อาจารย์ ถ้าเราทำได้อย่างที่ ท่าน บอกและสั่งสอน แล้ว ผมเชื่อว่า สิ่งศักย์สิทธิ์ จะคุ้มครองคนที่ทำดี ทุกคน

55
ขอขอบคุณมากคราบสำหรับ พี่ที่ให้ความกระจ่างกับคำถามที่ถามไปเรื่องดาว คราวนี้หายส่งสัยแล้วละคราบ ต้องขอขอบคุณ มากสำหรับคำถามที่ได้รับการตอบกลับมา

56
***** ได้เอาบทความมาจาก เว็บๆหนึ่ง อ่านแล้วอยากทราบรายละเอียด ใครพอที่จะไขข้อสงสัยพอได้บ้าง ช่วยหน่อย ขอขอบคุณร่วงหน้าคราบ  ทางผมไม่ได้มีวัตถุประสงค์ใดๆ ทั้งนั้น เพียงต้องการทราบรายละเอียดกับเรื่องราวเท่านั้น ****

ขอเจริญพรมายังคณะศิษย์ยานุศิษย์หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ และศิษย์ยานุศิษย์พระอาจารย์ธนพงศ์ ขันติธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดยางสูง ทุก ๆ ท่านทราบ นับแต่เวลานี้พระอาจารย์ธนพงศ์ ได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหวาย เป็นเวลา 1 ปี กับ 2 เดือนเศษ จึงได้บอกบุญมายังคณะศิษย์ยานุศิษย์ให้ทราบโดยทั่วกันว่า ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2549 จะมี งานนมัสการไหว้ครูพระอาจารย์ธนพงศ์ (หรือไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ) ในทุก ๆ ปี พระอาจารย์ธนพงศ์จะมีงานนมัสการไหว้ครู หรือไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น เพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ และระลึกถึงครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์ถ้ามีครูก็ต้องมีที่มาที่ไป ไม่ใช่อุปมาขึ้นมาเองโดยไร้จุดหมาย ศิษย์ทุกคนควรสำนึกถึงครูบาอาจารย์ว่า ตัวเราท่านเปรียบเสมือนเรือ แต่ถ้าไม่มีพายแล้ว เรือของเราท่านจะไปสู่จุดหมายได้อย่างไร ฉะนั้น อย่าลืม!! ปีหนึ่งมีครั้งเดียว โดยเฉพาะพระอาจารย์ธนพงศ์ ผู้ที่ได้รับเอกเทศน์จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ตั้งแต่ปี 2535 ตอนส่งไปบูรณะวัดยางสูง ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยอนุญาตให้ทำพิธีไหว้ครูได้เพียงองค์เดียวเท่านั้น โดยมอบหมายให้พระอาจารย์ธนพงศ์ทำได้ทุกอย่าง และอยากให้ศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น ทราบโดยทั่วกันว่า ก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่นจะมรณภาพนั้น ได้สั่งเอาไว้ว่า ?ห้ามประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ภายในวัดบางพระ? เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น ได้รับปากกับสมเด็จพระสังฆราชไว้ว่า ?ขอทำพิธีแค่อายุของท่าน ถ้าผู้ใดจะกระทำพิธีอันใด ให้ไปทำที่อื่น? นี่คือคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น ดังตัวอย่างที่เห็นได้คือ เมื่อปี 2546 ได้มีลูกศิษย์ทำพิธีไว้ครู แล้วได้รับบาดเจ็บแขนหัก ซึ่งเป็นไปได้เพราะดื้อรั้นคำสั่งของหลวงพ่อ เหล่าเทพยาดาจึงได้ลงโทษ นี่มิใช่เป็นการโจมตี แต่อยากให้ลูกศิษย์ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการตัดสิน ในฐานะศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่น จึงอยากขอเชิญลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเปิ่นทุกท่าน มาทำพิธีไหว้ครูร่วมกัน ที่วัดหนองหวาย เชิญมาชมบารมีว่า 1 ปี 2 เดือน หรือ 1 ปี 4 เดือนนับถึงวันไหว้ครู วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2549 ว่าเขาทำได้ขนาดไหนแล้ว สร้างกุฏิใหม่ สร้างถังน้ำประปาใหม่ และวางแผนผังวัดใหม่ทั้งหมด
!!อย่าลืม!! วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2549 เวลา 9.39 น. ณ วัดหนองหวาย
ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

สายตรงพระอาจารย์ธนพงศ์ 07-0536634



57
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ดาว ที่มีให้ประจำอยู่ที่ ห้องของสมาชิกทุกคน สังเกตุเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ มี คนละ 3 ดวง สำหรับสมาชิก ทั่วไปและสำหรับผู้ดูแล 5 ดวง แต่พอวันนี้ เห็นแล้วคิดกเอ๋ะใจนิดหน่อย ว่าทำไมดาวถึง หายไปไหน 2 ดวงเหลือ เพียงดวงเดียวเอง สงสัยจังเลย...ผู้รู้ช่วงแจ้งให้หายข้อข้องใจที่คราบ  ขอบคุณคราบ.....

58
เรื่องการกิน ฟัง แฟง แตงโม น้ำเต้า บวบ ตำลึงแล้วแต่สำหนักน่ะคราบ ว่าแต่ละสำหนักจะห้ามกินอะไร แต่มีข้อสักเกตุอยู่อย่าง 1 คราบ ของที่พุดมาข้างต้นนี้ ล้วนแล้วแต่เป้น พืช ที่มือจับเลื้อย ทั้งนั้นเลยคราบ พืช เมือจับเลื้อน ก็คือ จะมีเส้นใย เป็นเกลี่ยวๆ คอบจับยึดหลักเป้นมือที่ใช้พะยุงลำต้น นะคราบ ไม่รู้ ว่าทำไมสำหรับพวกที่ สักยันต์มาแล้ว ครูบาอาจารย์ ถึงต้องห้ามไม่ให้กิน ของเหล่านี้ ได้ยินมาแต่ สมัยโบราญแล้วเรื่องนี้

59
ยันต์รูปเสือ...มหาอำนาจ !

 จุดประสงค์การทำผ้ายันต์ ซึ่งเดิมจะสร้างโดยใช้อักขระเลขยันต์ ไปประกอบ กับภาพองค์เทพต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าจะบันดาลความสมบูรณ์พูนสุขแก่เราได้ เช่น ภาพพระพรหม อิศวร นารายณ์ หนุมาน นางกวัก และภาพสัตว์ที่มีพลังอำนาจในตัวของมัน เช่น เสือ ราชสีห์ ลิง กระทิง ฯลฯ

ผ้ายันต์ที่มีภาพเสือ หรือ หนุมาน หรือภาพเทพต่างๆ พระเกจิอาจารย์ จะนำเอาอักขระ เลขยันต์ มาประกอบเขียนกำกับ เพื่อให้ดูแล้วดี มีสง่า มีความขลังขึ้น พร้อมด้วยตัวคาถาอาคม เสริมเข้าไปในรูปภาพนั้น ทำให้เกิดความขลัง เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล หากมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่นจริง พลังจิตต่างๆ ที่ได้รับการบรรจุ เจริญภาวนาด้วยสมาธิจิตชั้นสูง ย่อมมีผลพุทธคุณปรากฏ ดังที่พระเกจิอาจารย์ดังๆ ได้สร้างภาพหรือผ้ายันต์ที่เป็นรูปภาพต่างๆ

การวาดภาพเสือลงบนผ้ายันต์ของพระเกจิอาจารย์ในอดีต ซึ่งได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบันมีอยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อมี วัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาศ ยานนาวา กทม. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ฯลฯ

วิธีการทำเสือของหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส นั้น ท่านได้นำเขี้ยวเสือมาแกะเป็นรูปเสือ หลังจากนั้น ได้ใช้ยันต์พระยาเสือลงกำกับ พร้อมกับบริกรรมพระคาถายันต์พระยาเสือ "พุทธะเสฏโฐมหานาถัง วัณณะโก สิงหะนาทะกัง พุทธะสิระสาเตเชนะ มาระเสนา ปะราเชยยัง เชยยะภะวันตุเม" เสก ๑๐๘ คาบ

ขณะวาดภาพเทวดา (องค์เทพ) หรือภาพสัตว์ต่างๆ ต้องบริกรรมภาวนาพระคาถาเรียกธาตุใหญ่ นะโมพุทธายะ ธาตุ ๔ นะมะพะทะ ต้องเรียกธาตุเหล่านั้นจำเป็นมาก พร้อมด้วยอาการ ๓๒ ไม่ว่าจะเป็นเสือ ราชสีห์ หรือหนุมาน ก็เหมือนกัน ทิ้งไม่ได้ แล้วสุดท้ายมีเป็นรูปสำเร็จแล้ว

นอกจากนี้แล้วการเบิกพระเนตร ทำอักขระเลขยันต์ หัวใจ มาเขียนในผ้ายันต์ หรือภาพที่เขียนขึ้นมาประกอบการภาวนาคาถาอาคมตามตำรา ซึ่งอาจารย์ผู้มอบหมายให้ภาวนา แต่ละพระเกจิอาจารย์ย่อมแตกต่างกันไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ใช้หลักอย่างเดียวคือ หลักสมาธิจิต และกำหนดจิต ภาวนาให้ครบคาบที่กำหนด เช่น ๑๐๘ คาบ บูชาครูอาจารย์

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พระเกจิอาจารย์ยุคก่อนให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อยคือ การดูฤกษ์ยามวันให้ดี เพื่อวาดภาพหรือเสกผ้ายันต์นั้นๆ ลงไป เช่น เสือควรจะใช้วันอังคาร (ปีขาลได้ยิ่งดี) เดือน ๕ วันขมังเวท

สำหรับความเชื่อเรื่องเสือนั้น มีความเชื่อว่าเป็นสัตว์มหาอำนาจและบารมี ขณะเดียวก็มีความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่บูชาได้เช่นกัน โดยได้รับอิทธิพลจากคติความเชื่อของชาวจีน เช่น การบูชากราบไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ

ส่วนความเป็นมาของการเขียนภาพสัตว์ลงในผ้ายันต์นั้น น่าจะได้อิทธิพลมาจากภาพในวรรณคดี เช่น รามเกียรติ นอกจากนี้แล้วยังเกิดจากจินตนาการว่า คงจะเป็นอย่างที่เราต้องการได้ เรื่องความปลอดภัย และการป้องกันตัว โดยคิดว่าภาพต่างๆ นั้นมีความหมาย ตามแต่จะคิดหรือแนวมโนทัศน์ เช่น ภาพเสือ ช้าง กระทิง หมู สิงห์ โดยสอดแทรกเวทมนต์คาถาบริกรรมภาวนา กลัวน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามที่เราต้องการ แต่เกจิจะต้องมีสมาธิจิตสูง และบวกกับคาถาพระเวทอาคมต่างๆ เสริม

ถ้าไปขณะที่ภาวนาบรรจุกระแสจิตเข้าสู่ภาพนั้นๆ ด้วยสมาธิที่แนวแน่ เป็นหนึ่งเดียวได้ ย่อมบังเกิดความขลัง เป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว กระแสจิตของมนุษย์เรานี้ สามารถที่จะแผ่ซ่านออกไปจากร่างกายได้ จะโดยกระแสจิตที่เป็นไปโดยธรรมชาติ หรือโดยการฝึกฝน บังคับมุ่งเจตนาส่งออกไปหรือบรรจุสู่วัตถุมงคลต่างๆ ทั้งนี้ ด้วยสมาธิที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี คือ มีญาณหรืออภิญญาต่างๆ ทั้งนี้เกจิแต่ละท่านจะมีความสูงหรืออำนาจต่างๆ กัน ประกอบด้วยด้านเมตตา ด้านแคล้วคลาด และด้านคงกระพัน

ความขลังของผ้ายันต์นั้น นอกจากเกิดจากอักขระเลขยันต์แล้ว ยังเกิดจากการบริกรรมภาวนาคาถาอาคม ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ แผ่ลงบนผืนผ้า จิตนั้นให้เป็นไปทางใดก็สุดแต่ เวทมนต์คาถาที่บริกรรม ภาวนา จะโน้มน้าวให้เป็นไป

กระแสจิตของมนุษย์ที่แผ่ออกไปนี้ แบ่งออกไปได้ ๒ ประการ คือ

๑.กระแสที่เป็นไปตามธรรมชาติ โดยมิได้เจตนาจะให้เป็นไป และ ๒.กระแสที่แผ่ซ่านออกไปโดยการฝึกฝน บังคับมุ่งเจตนาส่งออกไป (ทั้งนี้ เป็นไปด้วยการหัดทำสมาธิ) ทั้งกระทำโดยตรงถึงตัว หรือกระทำโดย มโนคติ

การได้อิทธิฤทธิ์จากวิชาคาถาอาคมที่รวมตัวเป็นจิตตานุภาพ หรืออำนาจแฝงอานุภาพพระเวท วิทยาคมจะสำแดงเดช ต่อเมื่อ

๑.จิตมั่นในอานุภาพ พระเวท อักขระยันต์ต่างๆ วิทยาคมต่างๆ ให้อุดมบริบูรณ์ด้วย ฉันทะศรัทธาจริงๆ

๒.หมั่นพากเพียร ท่องบ่นศึกษาในบทมนตราให้ช่ำชองจนคล่องปาก

๓.บริกรรมคาถาแต่ละครั้ง ให้พระเวทหยั่งรากลึก แผ่ซ่านไปทั่วกายใจ มั่นคง กระทำเป็นกิจนิสัย เป็นประจำ

๔.เพ่งจิตอธิษฐานปักลงไป จะให้อิทธิฤทธิ์เกิดผลแขนงใด ให้บังเกิดและปรากฏเป็นมงคลจริงๆ จึงจะได้รับผลสมความปรารถนาที่จิตตั้งใจเอาไว้

 

คาถาบริกรรมระหว่างวาดภาพเทพและสัตว์
การวาดภาพลงบนผ้ายันต์นั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพขององค์เทพ สัตว์พาหนะของเทพ และสัตว์มหาอำนาจต่างๆ พระเกจิอาจารย์โบราณได้ภาวนาพระคาถา ดังนี้

๑.ธาตุ ๔ : นะมะพะทะ

๒.ธาตุใหญ่แม่ธาตุ : นะโมพุทธายะ

๓.ขณะวาดภาพภาวนาอาการ ๓๒ (เป็นคงกระพัน) :

เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ

นะหารู อัฏฐิ อัฏฐิมิญชัง (อัฏฐิ มิญชัง)

วักกัง หะทะยัง กิโลมะกัง ปิหะกัง

ปัปผาสัง อันตัง อันตะคุณัง

อุทะริยัง (อุทะริยัง) กะรีสัง ปิตตัง

เสมหัง ปุพโพ โลหิตัง เสโท

เมโม อัสสุ วะสา เขโฬ

สิงฆานิกา ละสิกา มุตตัง

มัตถะเก มัตถะลุงคันติ (หรือ มัตถะเกมัตถะลุงคัง)
 


60
ยันต์รูปเสือ...มหาอำนาจ !

 จุดประสงค์การทำผ้ายันต์ ซึ่งเดิมจะสร้างโดยใช้อักขระเลขยันต์ ไปประกอบ กับภาพองค์เทพต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าจะบันดาลความสมบูรณ์พูนสุขแก่เราได้ เช่น ภาพพระพรหม อิศวร นารายณ์ หนุมาน นางกวัก และภาพสัตว์ที่มีพลังอำนาจในตัวของมัน เช่น เสือ ราชสีห์ ลิง กระทิง ฯลฯ

ผ้ายันต์ที่มีภาพเสือ หรือ หนุมาน หรือภาพเทพต่างๆ พระเกจิอาจารย์ จะนำเอาอักขระ เลขยันต์ มาประกอบเขียนกำกับ เพื่อให้ดูแล้วดี มีสง่า มีความขลังขึ้น พร้อมด้วยตัวคาถาอาคม เสริมเข้าไปในรูปภาพนั้น ทำให้เกิดความขลัง เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล หากมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่นจริง พลังจิตต่างๆ ที่ได้รับการบรรจุ เจริญภาวนาด้วยสมาธิจิตชั้นสูง ย่อมมีผลพุทธคุณปรากฏ ดังที่พระเกจิอาจารย์ดังๆ ได้สร้างภาพหรือผ้ายันต์ที่เป็นรูปภาพต่างๆ

การวาดภาพเสือลงบนผ้ายันต์ของพระเกจิอาจารย์ในอดีต ซึ่งได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบันมีอยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อมี วัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาศ ยานนาวา กทม. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ฯลฯ

วิธีการทำเสือของหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส นั้น ท่านได้นำเขี้ยวเสือมาแกะเป็นรูปเสือ หลังจากนั้น ได้ใช้ยันต์พระยาเสือลงกำกับ พร้อมกับบริกรรมพระคาถายันต์พระยาเสือ "พุทธะเสฏโฐมหานาถัง วัณณะโก สิงหะนาทะกัง พุทธะสิระสาเตเชนะ มาระเสนา ปะราเชยยัง เชยยะภะวันตุเม" เสก ๑๐๘ คาบ

ขณะวาดภาพเทวดา (องค์เทพ) หรือภาพสัตว์ต่างๆ ต้องบริกรรมภาวนาพระคาถาเรียกธาตุใหญ่ นะโมพุทธายะ ธาตุ ๔ นะมะพะทะ ต้องเรียกธาตุเหล่านั้นจำเป็นมาก พร้อมด้วยอาการ ๓๒ ไม่ว่าจะเป็นเสือ ราชสีห์ หรือหนุมาน ก็เหมือนกัน ทิ้งไม่ได้ แล้วสุดท้ายมีเป็นรูปสำเร็จแล้ว

นอกจากนี้แล้วการเบิกพระเนตร ทำอักขระเลขยันต์ หัวใจ มาเขียนในผ้ายันต์ หรือภาพที่เขียนขึ้นมาประกอบการภาวนาคาถาอาคมตามตำรา ซึ่งอาจารย์ผู้มอบหมายให้ภาวนา แต่ละพระเกจิอาจารย์ย่อมแตกต่างกันไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ใช้หลักอย่างเดียวคือ หลักสมาธิจิต และกำหนดจิต ภาวนาให้ครบคาบที่กำหนด เช่น ๑๐๘ คาบ บูชาครูอาจารย์

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พระเกจิอาจารย์ยุคก่อนให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อยคือ การดูฤกษ์ยามวันให้ดี เพื่อวาดภาพหรือเสกผ้ายันต์นั้นๆ ลงไป เช่น เสือควรจะใช้วันอังคาร (ปีขาลได้ยิ่งดี) เดือน ๕ วันขมังเวท

สำหรับความเชื่อเรื่องเสือนั้น มีความเชื่อว่าเป็นสัตว์มหาอำนาจและบารมี ขณะเดียวก็มีความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่บูชาได้เช่นกัน โดยได้รับอิทธิพลจากคติความเชื่อของชาวจีน เช่น การบูชากราบไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ

ส่วนความเป็นมาของการเขียนภาพสัตว์ลงในผ้ายันต์นั้น น่าจะได้อิทธิพลมาจากภาพในวรรณคดี เช่น รามเกียรติ นอกจากนี้แล้วยังเกิดจากจินตนาการว่า คงจะเป็นอย่างที่เราต้องการได้ เรื่องความปลอดภัย และการป้องกันตัว โดยคิดว่าภาพต่างๆ นั้นมีความหมาย ตามแต่จะคิดหรือแนวมโนทัศน์ เช่น ภาพเสือ ช้าง กระทิง หมู สิงห์ โดยสอดแทรกเวทมนต์คาถาบริกรรมภาวนา กลัวน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามที่เราต้องการ แต่เกจิจะต้องมีสมาธิจิตสูง และบวกกับคาถาพระเวทอาคมต่างๆ เสริม

ถ้าไปขณะที่ภาวนาบรรจุกระแสจิตเข้าสู่ภาพนั้นๆ ด้วยสมาธิที่แนวแน่ เป็นหนึ่งเดียวได้ ย่อมบังเกิดความขลัง เป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว กระแสจิตของมนุษย์เรานี้ สามารถที่จะแผ่ซ่านออกไปจากร่างกายได้ จะโดยกระแสจิตที่เป็นไปโดยธรรมชาติ หรือโดยการฝึกฝน บังคับมุ่งเจตนาส่งออกไปหรือบรรจุสู่วัตถุมงคลต่างๆ ทั้งนี้ ด้วยสมาธิที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี คือ มีญาณหรืออภิญญาต่างๆ ทั้งนี้เกจิแต่ละท่านจะมีความสูงหรืออำนาจต่างๆ กัน ประกอบด้วยด้านเมตตา ด้านแคล้วคลาด และด้านคงกระพัน

ความขลังของผ้ายันต์นั้น นอกจากเกิดจากอักขระเลขยันต์แล้ว ยังเกิดจากการบริกรรมภาวนาคาถาอาคม ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ แผ่ลงบนผืนผ้า จิตนั้นให้เป็นไปทางใดก็สุดแต่ เวทมนต์คาถาที่บริกรรม ภาวนา จะโน้มน้าวให้เป็นไป

กระแสจิตของมนุษย์ที่แผ่ออกไปนี้ แบ่งออกไปได้ ๒ ประการ คือ

๑.กระแสที่เป็นไปตามธรรมชาติ โดยมิได้เจตนาจะให้เป็นไป และ ๒.กระแสที่แผ่ซ่านออกไปโดยการฝึกฝน บังคับมุ่งเจตนาส่งออกไป (ทั้งนี้ เป็นไปด้วยการหัดทำสมาธิ) ทั้งกระทำโดยตรงถึงตัว หรือกระทำโดย มโนคติ

การได้อิทธิฤทธิ์จากวิชาคาถาอาคมที่รวมตัวเป็นจิตตานุภาพ หรืออำนาจแฝงอานุภาพพระเวท วิทยาคมจะสำแดงเดช ต่อเมื่อ

๑.จิตมั่นในอานุภาพ พระเวท อักขระยันต์ต่างๆ วิทยาคมต่างๆ ให้อุดมบริบูรณ์ด้วย ฉันทะศรัทธาจริงๆ

๒.หมั่นพากเพียร ท่องบ่นศึกษาในบทมนตราให้ช่ำชองจนคล่องปาก

๓.บริกรรมคาถาแต่ละครั้ง ให้พระเวทหยั่งรากลึก แผ่ซ่านไปทั่วกายใจ มั่นคง กระทำเป็นกิจนิสัย เป็นประจำ

๔.เพ่งจิตอธิษฐานปักลงไป จะให้อิทธิฤทธิ์เกิดผลแขนงใด ให้บังเกิดและปรากฏเป็นมงคลจริงๆ จึงจะได้รับผลสมความปรารถนาที่จิตตั้งใจเอาไว้

 

คาถาบริกรรมระหว่างวาดภาพเทพและสัตว์
การวาดภาพลงบนผ้ายันต์นั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพขององค์เทพ สัตว์พาหนะของเทพ และสัตว์มหาอำนาจต่างๆ พระเกจิอาจารย์โบราณได้ภาวนาพระคาถา ดังนี้

๑.ธาตุ ๔ : นะมะพะทะ

๒.ธาตุใหญ่แม่ธาตุ : นะโมพุทธายะ

๓.ขณะวาดภาพภาวนาอาการ ๓๒ (เป็นคงกระพัน) :

เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ

นะหารู อัฏฐิ อัฏฐิมิญชัง (อัฏฐิ มิญชัง)

วักกัง หะทะยัง กิโลมะกัง ปิหะกัง

ปัปผาสัง อันตัง อันตะคุณัง

อุทะริยัง (อุทะริยัง) กะรีสัง ปิตตัง

เสมหัง ปุพโพ โลหิตัง เสโท

เมโม อัสสุ วะสา เขโฬ

สิงฆานิกา ละสิกา มุตตัง

มัตถะเก มัตถะลุงคันติ (หรือ มัตถะเกมัตถะลุงคัง)
 


61
****คาถา ทั้ง 2 บท **** จากที่มีคนเอามาลงไว้เป็นข้อมูล...ผมก็มีเหมือนกัน...รองดูแล้วกัน
ถุกทั้งสอง บท น่ะคราบ
แต่บทแรก เป็น คาถา ทางด้านคงกระพัน
บทที่ 2 ที่ยาวกว่า บทแรก จะเป็นคาถาทางด้านเมตา
คาถา ทั้ง2 บท ที่กล่าวมานี้เมื่อก่อนหน้านี้ เมื่อยังใช้ บอร์ด เก่าอยู่มีคนเอามาลงไว้บ่อยมาก....เป็นคาถาที่พิมพ์ ออกแจกจ่าย มีไว้ท่องสวดเพื่อ บูชาครู....ยังไม่ถึงกับว่าเป็นคาถาปรุกของซะที่เดียวน่ะคราบ
...ผมเข้าใจว่า คาถา ที่ อาจารย์ ใช้ปลุกของ นั้นน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แน่ะนอน ต้องมีการอ่านองค์ การชุมนุมเรียกเทพฯ ต่างลงมา เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ เป็นต้น
...ซึ้งเป็นเรื่องที่ว่า ต้องเป็น ครูบาอาจารย์เท่านั้น ถึงจะมีความสามารถ ในการทำพิธิ แบบที่กล่าวมา....คนธรรมดา อาจจะไม่มีความสามารถถึงขั้นว่าปลุกของเองได้...
...คาถา บท ที่เพื่อนๆได้เอามาลง ก็เป็นเพียง ส่วนหนึ่ง เท่านั้น ผมเชื่อว่ายังต้องมีไรที่มากกว่านี้แน่นอน..จริงไหมคราบ...ไม่ใช้ว่าใครก้จะทำได้...คนที่ทำได้ต้องได้รำเรียนมาโ


คาถาบูชา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
(นะโม ๓ จบ)
อิติสุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ
ฐิคคุโณ อาจาริโย จะ มหาเถโร มหาลาโภ
สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม.

คาถาบูชาอิทธิมงคล(คงกระพัน)
พระพุทธังรักษา พระธัมมังรักษา พระสังฆังรักษา พระบิดารักษา พระมารดารักษา
อิระชาคะตะระสา นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อะสังวิสุโลปุสะพุภะ
สังวิทาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ ปาสุอุชา สะทะวิปิปะสะอุ ตะมัตถังปะกา เสนโต
สัตถา อาหะ กันหะ เนหะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุฯ
คาถาบูชาอิทธิมงคล(เมตตามหานิยมโชคลาภ)
-นะพุชาสิ นะชาลิติ พุทธะเมตตา ธัมมะเมตตา อุเมตตาจะมหาราชา สัพเพชะนา
พะหูชะนา สัพพะสะเนหาจะปูชิโต พระฉิมพลี เทวะรักษาอานุภาเวนะ สัพพะสิทธิ ภะ วันตุเมฯ
-มะเมตตาจะมหาราชา อะเมตตาจะมหาเสนา อุเมตตาจะมหาชะนา สัพพะ สะเนหาจะปูชิโต
สัพพะสุขังจะมหาลาภัง สัพพะโกทังวินาศสันติฯ
-นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู พระพุทโธ อะระหัง จังงัง เมตตา สัพพะโกทัง วินาศสันติ
นะชาลีติ มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตัง มานิ มานะ




63
อาการของขึ้น...มีเพื่อนๆพี่คนไหนบ้างที่ของขึ้นนอกเหนือจากวันไหวครู...แบบว่าเวลาใช่ชีวิตทั่วไปประจำวัน ขึ้นเนื่องด้วย สาเหตุใด มักจะขึ้นตอนไหน และเวลาใด
มีใครบ้างไหมที่มีประสบการณ์ ของขึ้น ในการใช้ชีวิตประจำวัน นอกเหนือ จากวันไหวครูบ้าง (ใครมีประสบการของขึ้นร่วมเสนอความคิดเห็นกันน่ะครับ)
******อาการของขึ้น ในวัน ไหว้ครู นั้น ไม่ใช้เรื่องแปลกเลย เพราะวันไหว้ครพูเป็นวันที่ศักศิตย์ มีครูบาอาจารย์มากมายร่วม ประกอบพิธกรรม วันนั้น มีการอันเชิน เทพยาดาต่างๆมากมายให้ลงมาสำแดง ปฏิหาร ต่างๆ******
เพื่อนๆที่อ่านบทความเห็นด้วยกับเรื่องที่ผมพูดไหมคราบ......แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลก สำหรับคนที่ของขึ้นที่นอกเหนือจากวันไหวครูนั้น...เกิดมาจากปัจจัยใดที่ส่งผลให้เกิดอาการของขึ้นๆมาได้ ซึ้ง การที่จะของขึ้นนั้นต้องมีครูบาอาจารย์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ปลุกเสกกำกับคาถา ของถึงจะขึ้นได้ หรือไม่คนคนนั้นก้ต้องมี คาถา ที่ใช้ในการปลุกของ อย่างที่เพื่อนๆทุกคนพูดถึงกัน.......ครั้งหนึ่งผมไปหาอาจารย์ ญา แล้ววันนั้นก็มีผู้ใหญ่ คนหนึ่งซึ่ง อาจารย์ ญา บอกว่าท่านเป็น นายตำรวจยศ ใหญ่คนหนึ่งแต่ผมก้ไม่รู้รายละเอียดใดมากกว่านี้ไม่ได้ถามท่านต่อ..
...นายตำรวจ คนนั้นได้พูดให้ฟังว่า มีเด็กวัยรุ่นอยู่คนหนึ่งเพิ่งสักยันตืมาใหม่ๆ..วันๆไม่ต้องทำอะไรเลย ของขึ้น ทั้งวันวันหนึ่งขึ้นเป็น 10 ครั้ง (จากคำบอกเร่านายตำรวจ)..จนนายตำรวจที่มาหาอาจารย์ ญา ทนกับเด็กวัยรุ่นคนนั้นไม่ไหว ท่านก็เลยเดินเข้าไปหาถามว่าเป็นไร...ทำไมของถึงขึ้นทั้งวันขึ้นบ่อยเหลือเกิน ท่าน นายตำรวจก็ยังพูดแกนตลกออกมา ว่า ท่านสักเต้วตัวไปหมด...ยังไม่เตยจะเป็นถึงขานาดนี้เลย ท่านนายตำรวจคงสุดที่จะทน วัยรุ่น ท่านเลยบอกไปว่าเดียวถ้าไม่หายของขึ้นอีกน่ะ เดียวท่านจะหาไม้มาทุบให้เลย...พอท่านพูดเท่านี้ละ วัยรุ่นคนที่เร่าให้ฟัง ว่าของขึ้น ทั้งวันน่ะ จากวันนั้นไม่ขึ้นอีกเลย...(น่าแปลก)...
***ความคิดผมน่ะ ของมีครูบาอาจารย์ ไม่ควรเอามาล้อเล่นเป็นของสนุก***
-----แล้วเพื่อนที่อ่านกระทู้นี้ละ...มีทั้นไหนไหมที่ของขึ้น นอกเหนือจากวันไหว้ครูบ้าง....แล้วที่เกิดของขึ้น พวกเพื่อนๆเกิดอาการของขึ้นเพราะเหตุใด----
     เพื่อนๆทุกคนที่อ่านแล้วช่วยร่วมแสดงความคิดเห็นกันน่ะคราบ


 

64
เรือ่งของคาถาปลุกของ...มีคนตั้งกระทู้ถามบ่อยมากเลยที่เดียว...
และก็มีผู้ที่เข้ามาตอบกระทู้เยอะมากเช่นกัน..ซึ้งเป็นการแนะนำแบบต่างๆ แตกต่างกันไปซึ่งดูแล้วจากข้อแนะนำที่มีการตอบปัญหา
จะเป็นข้อแนะนำที่คนทั่วๆไปก็มีความรู้เพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาที่ถามมาอยู่แล้ว เช่น ต้องมีสมาธิ ต้อง ภาวนา และต้อง ขอจากอาจารย์โดยตรงเลย
ถึงจะได้คาถาปลุกของ....ซึ่งเป็นข้อแนะนำที่มีการตอบกระทู้บ่อยมากๆเลยที่เดียว...
***แต่จะมีซักครั้งไหม ที่กระทู้ที่ถามเกี่ยวกับเรื่อง   คาถาปลุกของ จะได้รับคำตอบจากผู้ที่มีประสบการตรง ขอ คาถาปลุกของ จากอาจารย์โดยตรง***
***ถ้าผู้ใดได้อ่านกระทู้ของผมและ ท่านเป็นผู้ที่ ขอ คาถาโดยตรง กับพระอาจารย์  ขอความกรุณา ผู้นั้น ออกมาเผยข้อมูลเพื่อที่จะได้เป็น วิทยาทาน แก่พวกลูกศิตย์ วัดบางพระ
    ท่านอื่นที่อยากได้ คาถาปลุกของ ทุกคนทุกท่านด้วย
***การตั้งกระทู้ครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหักร้าง คำพูดคำบอกเร่าต่างๆที่เพื่อนๆให้คำแนะนำมา แต่ต้องการ อยากให้ผู้ที่ได้รับประสบการโดยตรง การขอ คาถาปลุกของ จากพระอาจารย์
    ได้ออกมาเพื่อแบ่งปันความรู้ที่มีให้กับเพื่อนคนอื่น ๆ บ่างก้เท่านั้น***

หน้า: [1]