แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ~@เสน่ห์เอ็ม@~

หน้า: [1] 2 3 4 5 6
1
ขอโทษนะครับ ปกติเวลาเราล็อคอินเข้ามาถึงจะเห็นข้อความแจ้งเตือน
มิทราบว่าคุณประจักษ์ ได้ดูวันเวลาที่เข้าล็อคอินของท่าน ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) แล้วหรือยัง ครับ เพราะอาจจะเข้ามาดูข้อความทีหลังก็ได้
เท่าที่ดู คือเขาตอบกลับมาแล้วว่า ส่งกลับไปแล้ว ..ส่วนจะถึงไม่ถึงมันเป็นเรื่องของทางไปรษณีย์ ซึ่งคุณจะมาเร่งลบเล้าในนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ

พยายามใจเย็นๆ ของก็แจกให้ฟรีๆนะครับ

และการกระทำของคุณประจักษ์นั้น อาจผิดกฏหมายอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทคุณปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)  ตามมาตราที่328 ได้นะครับ
ทำอะไรใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด ค่อยๆคุยกันครับ

4
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ กิเลสมาอีกและครับ สงสัยหมดก่อนแน่เลย  :054:

6
สวยมากเลยครับอยากได้มั่งจังเลยครับพ่อตา(อุ้ยหลุดโทษทีครับ)สวยมากเลยครับพี่เจมส์   15;  :053:  :053:

8
:054: ก่อนอื่นก็ขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยอีกคนครับ ผมก็เหมือนกับเจ้าของกระทู้ คือได้มีการไปสักมาก่อนแล้วจากร้าน ที่หน้าอกซ้าย (ใหญ่หน่อย ) และตรงหน้าท้อง ไม่ทราบว่าถ้าผมไปสักท่านอาจารย์จะเมตตาผมหรือเปล่าครับ ออ อีกอย่างครับ ถ้าผมได้รับความเมตตาไม่ทราบว่าสามารถลงนะหน้าทอง และสาลิการควบคู่ไปกับการสักได้หรือเปล่าครับ ขอขอบพระคุณศิษย์พี่ใจดีทุกคนครับ  :054:

1.สักได้ครับ  2. ลงทองกับสาริกา กุตติหลวงลุงติ่งครับ  หรือไม่ก็หลวงพ่อสำอางค์ครับ
ทำทีละอย่างครับ  ไปสักก่อน แล้วค่อยมาลงครับ  
หรือไม่ถ้าสักน้ำมันกับหลวงลุงติ่งสักเสร็จ แล้วลองขอความเมตตาจากหลวงลุงติ่งให้ท่านลงทองก็ได้ครับ(ซื้อชุดทองที่มีให้บูชาหน้ากุติหรือนำเอาแผ่นทองไปด้วยนะครับ) ลองดู  :001:

10
ผมได้จากพระอาจารย์ญามาครับตัวเดียวครับ2-3ปีมาแล้วครับ :001:

เหมือนกันเลยครับท่านโบ สาริกาตัวเดียว แต่ของผมเป็นน้ำมันที่ต้นแขนขวา เรื่องเมตตาสุดยอดเลยครับขอบอก   :001:

ผมไปกราบขอความเมตตาจากพระอ.บ้างดีกว่า
  ขอบคุณครับ

ผมว่าของพี่บัฟที่มีอยู่ก็น่าจะแน่นแล้วนะครับนั่น   11;

11
ผมได้จากพระอาจารย์ญามาครับตัวเดียวครับ2-3ปีมาแล้วครับ :001:

เหมือนกันเลยครับท่านโบ สาริกาตัวเดียว แต่ของผมเป็นน้ำมันที่ต้นแขนขวา เรื่องเมตตาสุดยอดเลยครับขอบอก   :001:

13
สวยมากครับ เหรียญในฝันเลยครับ  :054:

14
เผลอแป๊บเดียวโดนน้องเอ็มแทงไส้ไหลเลย   555  :005: :005:

แหนะวันนี้เห็นแอบไปชะง้อมองสาวตรงที่ขายล็อตตาลี่ด้วยนะครับ  :048:  :095:

15
ทำบุญและความดี อุทิศให้ครูบาอาจารย์ครับ และเชื่อมั่นและศรัทธา  :001:

16
อ่าวพี่โต้งไปไหนครับเนี่ย สงสัยมัวไปตามจีบสาวอยู่แน่เลย  :095:

17
ขอบคุณมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศการปลุกเสก  :054:

18
ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

19
งบน้อยครับ  เกทับเพื่อนเอ็มครับ ร่วมทำบุญ  300 บาท ครับ

มีงี้ด้วย  สาธุอนุโมทนากับเพื่อนด้วย

และสาธุขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
 :054:  :054:

20
ตังน้อยครับแต่อยากร่วมด้วย ขอร่วม 200 บาทครับ  :054:

21


สาธุๆๆๆๆ เดี๋ยวไปช่วยกันครับ  ใว้เจอกันวันงานครับทุกท่าน

~@เสน่ห์เอ็ม@~  พาผู้ช่วยมาด้วยหรือเปล่าครับ  :050: :050: :050:
[/quote]

คงต้องให้พี่พามาและครับผู้ช่วยพี่เยอะ  :095:    ส่วนผมไม่มีครับเดี่ยวงานผมเข้า    :073:  :075:

22
 สาธุๆๆๆๆ เดี๋ยวไปช่วยกันครับ  ใว้เจอกันวันงานครับทุกท่าน

23
ออ..ขอถามหน่อย กัฟ ว่าค่าครู วัด บางพระเท่ารัยกันแน่กัฟแล้ว แต่รูป จริงไหม
เพื่อนไปบอกมาไม่ไช้25 บ จริงไหม

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=12291  <--------โปรดอ่านก่อนครับ

ค่าครูวัดบางพระ 25 บาท  ไม่มีให้เลือกรูปครับ   ศึกษาก่อนไปสักนะครับ อยากทราบข้อมูลอะไรหากระรู้ทู้เก่าๆอ่านเอานะครับ

26
ที่พูดๆกันมาไม่เสื่อมครับ  :100:

ถ้าจะอ้างถึงหลักธรรมมะ คำว่าเสื่อม คือเสื่อมตามกาลเวลา เสื่อมตามธรรมชาติ มีเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดา  ไม่มีอะไรเที่ยงแท้และแน่นอน  ถูกต้องครับในโลกนี้ทุกสิ่งไม่มีอะไรถาวรถ้าท่านตายไปท่านก็เอาอะไรไปไม่ได้นอกจากกรรมที่ท่านทำใว้

ส่วนของเสื่อม หรือเสื่อมจากที่ผิดคำครู ครูบาอาจารย์ท่านวาจาสิทธิ์ สมัยก่อนศิษย์จะเชื่อถือคำมั่นที่ให้ใว้ต่อครูบาอาจารย์ว่าจะไม่ทำ ถ้าทำท่านก็ไม่คุ้มครองนะครับ  ซึ่งก็ต้องดูก่อน ว่าเราเคยไปรับปากอะไรใว้หรือป่าว หรือมีข้อไหนบ้างที่เขาไม่ได้ห้ามแล้วท่านไปยึดถือมาแบบนี้เขาเรียกว่าล้นบาตรหรือเกินครับ  

ส่วนพลังที่อธิฐานจิตเข้าไปก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ส่วนมากไม่ได้เสื่อมกันหรือหมดพลังไปง่ายๆ ขนาดพระกรุที่อธิฐานจิตผ่านกาลเวลาเป็น100ๆปี ก็ยังมีพลังอยู่ได้ถึงปัจจุบันก็คิดดูเอานะครับ  

อย่าไปคิดมากครับทำตัวให้เป็นคนดีไม่เสื่อมจากศรัทธาและไม่ทำตัวให้เสื่อมเป็นพอครับ ...  :002:


27
ก่อนที่พระอาจารย์ท่านจะตอบอะไร ท่านก็ต้องมีเหตุและผลของท่านอยู่แล้วครับ
 ซึ่งถ้าคุณเข้าใจในเหตุและผลของพระอาจารยคณจะบอกว่าอ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง
ซึ่งตัวผมก็ได้ท่านสั่งสอนชี้แนะมาตลอดครับ

28
อย่าลืมคำว่าทางสายกลางนะครับ   สตินั้นก็มีส่วนและศรัทธาก็มีส่วนเช่นกัน 
ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลเสมอ เมื่อถึงเวลาและศึกษาก็จะรู้ได้ว่าทำไม 

29
เปลี่ยนชื่อมันมีตำรานะ แต่เปลี่ยนเลขทะเบียนรถถามว่าเปลี่ยนแล้วมันจะดีขึ้นเหรอครับ?
ต่อให้เปลี่ยนเป็นเลขอักษรมงคล แต่พฤติกรรมขับรถยังเหมือนเดิม เมาแล้วขับ ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เลขทะเบียนมันไม่ช่วยอะไรหรอกครับ

ในเมื่อบอกว่าเลขทะเบียนรถมีผลต่อชีวิตได้ แล้วเลขบัตรประชาชนตัวเองไม่ยิ่งกว่านี้เหรอครับ ไปไหนมาไหนพกบัตรประชาชน คนไทยต้องพกบัตร หรือไม่ก็มีคนบอกว่าเอาวันเดือนปีเกิดมาบวกลบคูณหารแล้วออกมาบอกว่าโชคร้าย ไม่ต้องหาทางเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดเลยหรอ? คนไทยสมัยก่อนไม่มีรถขับรถ ไปไหนไกลๆนั่งรถม้า วัว ลา ล่อ ฯลฯ รวมไปถึงการนั่งเรือไปไหนมาไหน ยังไม่มีการรับรู้เรื่องตัวเลขดีร้ายอะไร

ความเชื่อเรื่องทะเบียนรถอะไรนั่นมันมากับการรับรู้เรื่องตัวเลขและพยัญชนะ(แบบฉบับที่เป็นมาตรฐานที่กระทรวงกำหนด) ว่าสามารถให้คุณให้โทษกับการใช้ชีวิต แล้วไม่ใช่ความเชื่อที่เก่าแก่โบราณอะไร ถ้าบอกว่าเลขทะเบียนรถสามารถให้คุณโทษกับผู้ใช้รถได้ แบบนั้นวันเดือนปีเกิดรวมไปถึงเลขบัตรประชาชนก็ให้คุณให้โทษได้ หรือไม่ก็เลขบัตรเครดิตคงมีคนทำนายว่าจะหมดเนื้อหมดตัวได้เพราะเลขไม่ดี

ผมเชื่อในหลักของเหตุผลครับ

มันก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลครับ .......เรื่องความเชื่อความศรัทธาไม่มีใครมาบังคับกันได้  
ถ้าทุกอย่างที่ทำแล้วเป็นมงคลทำแล้วสบายใจ จิตใจก็ดีขึ้นตามไปด้วย ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีเสียอีก  ซึ่งดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย
 

30






ตะกรุดดอกนี้พี่สาวใจดีให้ผมมา ขอบคุณพี่สาวด้วยนะครับ

ดอกนี้หลวงลุงติ่งท่านจาร หลวงปู่เปิ่นปลุกเสก ...ด้านในมีลอยจารเมจิกที่หนังเสือ และมีตะกรุดจารมืออีก1ดอกสอดอยู่ตรงกลางด้วย


31
ขอบคุณมากๆครับทุกคน   :054:  ผมก็แค่เป็นตัวประกอบเฉยๆครับ  :075:

32
สาธุ ขออนุโมทนาด้วยครับ    :054:

33
กราบมันสการพระอาจารย์ทุกท่านด้วยนะครับ  :054:
ขอบคุณท่านข้าวหลามตัด ที่นำมาให้ชมครับ ฝีมือการถ่ายรูปสุดยอดเหมือนเดิม   :053:

34
คงต้องมีเหตุและผลครับ  งานนี้ทำพิธีท่านก็อันเชิญบารมีหลวงปู่และครูบาอาจารย์แล้วครับ
หากศรัทธาในครูบาอาจารย์เต็ม  100  ก็อย่าได้สงสัย ขอให้ใจนึกถึงหลวงปู่ใว้   และครูบาอาจารย์เป็นพอครับ
คงเข้าใจว่าศรัทธาเต็ม100 นะครับ   

35
ขอนอบน้อมกราบ หลวงปู่เปิ่น และพระอาจารย์ทุกรูปครับ   :054:

ขอบคุณพี่เอกสุดหล่อสำหรับภาพบรรยากาศครับ

36
ขอนอบน้อมกราบมนัสการพระอาจารย์ทุกรูปครับ   :054:

ขอบคุณพี่เอกสุดหล่อ สำหรับภาพบรรยากาศครับ

37
ถ่ายรูปได้สวยเฉียบเหมือนเดิมเลยนะครับพี่  :015:

กราบมนัสการพระอาจารย์ทุกท่านครับ :054: ...ปีนี้คนเยอะมากครับ พลังแห่งความศรัทธายิ่งใหญ่มากครับ  

38
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์  ขอตอบด้วยนะครับ  เพราะผมศรัทธาครับ  และมีเหตุการที่ทำให้ผมจำและรอดชีวิตมาได้

เมื้อสมัยผมเรียน ปวช.1  โดนโรงเรียนคู่อริไล่ยิง  แถวบริเวณวัดแคแถว  คู่อริขี่มอไซค์ตามประกบรถเมย์สาย402มหาชัยที่ผมนั่งไป
ทีแรกมันดักซุ่มบริเวณใต้สะพานลอย ผมก็นั่งอยู่ตรงประตูหลังพอดีที่เอวมีตะกรุดวัดบางพระที่ไปทำบุญมาที่วัดตอนนั้น
ปรากฏว่า มันยิงใส่ผมดังแชะเลยครับปากกระบอกปืนหันมาทางผมอย่างชัดเจน  แต่ไม่ออก พวกมันก็ไม่ละความพยายามที่จะไล่ยิง โดยประกบไล่ยิงมาตลอดทางหลายกิโล
แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร   ในรถเมย์คันนั้นเองมีผ้ายันต์หลวงปู่เปิ่นแปะอยู่หน้ารถ(ปัจจุยันรถคันนี้ก็ยังวิ่งอยู่ลองไปสืบดูครับ)  ยิ่งทำให้ผมศรัทธามากขึ้น..เลยหาเวลาไปที่วัดบ่อยๆครับ  ของแบบนี้ต้องสัมผัสเองครับถึงจะรู้  

ยิ่งมีโอกาศได้ไปวัด ได้เห็นบารมีหลวงปู่ และความเมตตาของพระอาจารย์ และความศรัทธาของลูกศิษย์ที่ต่างมาจากทั่วประเทศก็ยิ่งศรัทธาครับ

 :054:  :054:  :054:

39


สำหรับผม เอาแค่เศษเล็กๆนี้ก็พอแล้วครับ :001:

ของพี่เอ็กซ์นี่สุดยอดแล้วครับ  แผ่นพระรักทองที่ลอกออกจากองค์หลวงพ่อหายากมากครับ   :054:
แถมเนื้อผงกระเบื้องหลังคาโบส์ครบเครื่องในองค์เดียวกัน  :053:

41
ยินดีด้วยนะครับพี่ สวยงามมากครับ

42
พระที่เห็นแกะมาจากกระเบื้องหลังคาโบสถ์ครับที่รื้อออกมาเมื่อสมัยน่าจะปี พ.ศ. 2530 นะครับถ้าจำไม่ผิด เพื่อบูรณะโบสถ์ใหม่ครับ  
ตัวกระเบื้องมีอายุเกิน 100 ปีแล้วครับ ประสบการณ์คือมหาอุตครับแล้วแคล้วคลาดปลอดภัย เลยมีการนำกระเบื้องเหล้านี้มาบดแล้วผสมลงไปในพระเครื่องของทางวัดไร่ขิงครับ

43
อย่างน้อยผมก็ไม่ได้คิดร้ายกับใครเพราะที่ผมทำผมไม่รู้จริงๆ

เเล้วเเต่พวกพี่จะคิดน่ะครัถ้าคิดบวกก็ดีไป

................................................

ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไรครับ รู้แล้วก็อย่าทำแค่นั้นเอง 
ไม่ได้อคติอะไรนะครับ แซวเล่นชีวิตอย่าไปเครียด  :114:  :004: หัวเราะใว้ครับ

44
เหรียญสวยครับ  :015:  ว่าแต่วันนี้จะทำยอดให้ได้กี่กระทู้ครับ   :095:

45
คาถาอาคม / ตอบ: คาถาเอ็นดู
« เมื่อ: 18 ม.ค. 2555, 01:36:11 »
miovanzboy  เก็บเลเว่วเหรอครับ   :095:  :095:  :095: ปั๊มกระทู้มาเพียบเลย  42;

47
ตามชื่อที่เขาเรียกกันหละครับ เครื่องราง ลาง ลาง เลือน   :095:  
ถ้าอยากให้ชัวต้องรับกับมือหรือให้หลวงปู่เสกเท่านั้นครับ  

ส่วนที่ว่าปลอมจากกุฏิคือ ..ขนาดสมัยที่ท่านยังอยู่เบี้ยบางส่วนท่านไม่ได้ทำเองให้ลูกศิษย์ทำและท่านเสก  บางทีศิษย์ก็ทำแต่ไม่ได้ให้หลวงปู่เสกก็มี  หรือที่ว่าหลังท่านเสียไปแล้วก็คือทำใว้แต่หลวงปู่ไม่ได้เสกหรืออาจจะเสกแต่ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด ครับ

แต่ถ้าเช่าตามแผงท่าพระจันทร์ก็ส่วนมากนะครับ  :095:  หาคนที่ใว้ใจได้มีที่มาที่ไปจะดีกว่าครับ
เรื่องจะมาดูลายถักก็ยากครับ  ขอบอก

48
กราบมนัสการหลวงลุงและพระอาจารย์ทุกรูปเลยครับ  :054: 
ขอบคุณพี่ชาญมากครับสำหรับรูปภาพ  ขอให้พี่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง  รวยๆยิ่งขึ้นไปนะครับ  :054:

50
kassumoto   id ชื่อคุ้นๆนะครับ   :017:

52
สวยครับ อยากได้   :053:  :053:  :053:

53
ยินดีด้วยนะครับ  เข้มขลังมากครับ     :001:

55
กระทู้ hotในรอบปี  เลยครับ    แล้วเจ้าของกระทู้หายไปไหน  :095:

 39; :044:

57
ขอบคุณครับที่แจ้งข่าว  :054:  :054:  :054:

58
ยินดีด้วยครับ สวยมาก อีก1สุดยอดแห่งยันต์ของวัดบางพระประสบการณ์เรื่องลือ   :015:

59
พี่เจมส์อย่าลืมที่คุยกันใว้นะครับ   :095:

60
สุดยอดแล้วครับ ครบทุกอย่าง ...เหรียญสวย ขอบคุณที่นำมาให้ชมเป็นบุญตาครับ  :054:

61
แนะนำให้เครื่องรางด้านเมตตาใช้ก็ได้ครับมีเยอะ จิ้งจกสองหาง บัวบังใบ ตะกรุดเมตตาต่างๆ สาริกา ผ้ายันต์ และอีกเยอะครับใช้ได้เหมือนกันเพียงใจคุณศรัทธาและตั้งมั่น  (ไม่แนะนำสายพรายที่เกี่ยวกับผี) เรื่องคู่ครองก็แล้วแต่บุญวาสนาของแต่ละบุคคลด้วยครับ  

62
จิ้งจกเด่นด้านเมตตาโชคลาภ มหาเสน่ห์ครับ   บอกได้คำเดียวสุดยอดครับ  :015:

63
ยินดีด้วยนะครับ งดงามเข้มขลังมากครับ   :053:

64
ขอบคุณครับ  มนัสการหลวงอาญา วัดนางเหลียวด้วยครับ  :054:

65
หากใจคุณศรัทธาในหลวงปู่เปิ่นคุณก็ใช่ครับศิษย์วัดบางพระ  ส่วนอ.เอื้อ ..ผมไม่แน่ใจว่าท่านเรียนมากับหลวงปู่หรือป่าวนะครับ  :001:

66
 :074:ท่านเจ้าของกระทู้ไหวป่าวครับ    :005:

67
ไม่เสื่อม  แต่จิตที่ศรัทธาอย่าเสื่อมเป็นพอครับ   :108:  ขอให้นึกถึงตั้งมั่นถึงหลวงปู่เปิ่น ท่านจะคุ้มครองเรา ครับ
แล้วกางเกงในโยนใส่หัวโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ..ครูบาอาจารย์ท่านห้ามหรือป่าวหละครับ   อย่าคิดมาก

68
เรียกว่าทางเมตตา มหาเสน่ห์ดีกว่าครับ  :002:  :001:

69
ครบเครื่องจริงๆ   

ทั้งพระ ทั้งทอง ... แถมมีปืนด้วย รึ ??   :049:

สวัดดีครับพี่เมฆหายไปนานมากๆ  มายังไงครับเนี่ย   39;
มีแต่ปืนฉีดน้ำครับ  11;

70
ขอบคุณครับสวยมาก พิธีดีมากครับเหรียญนี้ รู้สึกว่าเพื่อนผมบอกจะเคยให้เหรียญนี้นะครับเห็นแล้วเพิ่งนึกออก  :002:

71
อยากได้มั่งจังครับ   :053:

72
งดงามมากครับ ยินดีด้วยนะครับ  :053:

73
พี่ครับพอดีผมมีสมเด็จไร่ขิงปี 14 พิมจัมโบ้อ่ะครับองค์ๆใหญ่ๆหน่อยไม่ทราบว่าเป็นรุ่นเดียวกับของพี่หรือปล่าวครับ
เรียกเอ็มเฉยๆก็ได้ครับ..ผมยังไม่แก่   :095: ไม่ใช่ครับ ของผมพิมกลางธรรมดาครับ

74
สวยมากเลยครับท่านเอ็ม
หายไปนานเลยนะครับพี่เอ้ .สบายดีนะครับ  :001:

75
ขอบพระคุณสำหรับความรู้ครับ ได้ความรู้มากมายครับ  เหรียญ19 ในฝันเลยครับ  :054:

76


พระสมเด็จหลวงพ่อวัดไร่ขิง พ.ศ.2513แจกกรรมการลงรักสีแดง ..สภาพเดิมๆครับ
พระสมเด็จหลวงพ่อวัดไร่ขิง พ.ศ.2514 พิมกลางค์ ...สภาพเดิมๆครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:  :054:  :054:  :054:

77
สวยมากครับท่านพี่  :053:  :015: 

78
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?action=rules


เพราะผมทำตามกฎของ กระดานสนทนาวัดบางพระ ครับ

ผมเห็นด้วยกับท่านผู้คุมนะครับ ถ้าจริงๆ ถ้าถ่ายรูปลงเวปไม่เป็นถามก็ได้ครับ เพื่อนๆสมาชิก..คอยให้คำแนะนำกับท่านได้เสมอ
เพราะการไปเอารูปจากเวปที่อื่นซึ่งมีการซื้อขายพระกันผมว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับ
ใครมาเห็นเข้าก็ดูแลจะไม่ดี  เหมือนสมัยก่อนที่มีสมาชิกไปนำรูปพระจากเวปซื้อขายแล้วมาโพสถามแล้วตัดสินใจซื้อ
ทางเวปไม่ได้มีนโยบายให้เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ทั้งทางอ้อมและทางตรงอยู่แล้วนะครับ
ขอบคุณครับ และแรกเปลี่ยนความรู้ได้ไม่ว่ากัน หากมีอะไรสงสัยก็ถามพี่น้องกันได้ครับ คนกันเองทั้งนั้น


79
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน สวยจริงๆๆ  :053:  ขอเป็นกำลังใจให้น้ำลดใวๆนะครับ

80
สวยมากครับพี่  :053: ช่วงนี้ได้แต่ของดีๆทั้งนั้นเลยนะครับ

81
ขอบคุณครับสำหรับของขวัญน้อง   15; ล้อเล่นครับ  :095:
งดงามครับ มีคนการันตีแล้ว  :015:

82
ผมว่าแค่ที่ทางวัดจัดสร้างเองก็ขลังแล้วครับ อีกอย่างที่วัดก็ยังมีวัตถุมงคลที่หลวงปู่เสกอยู่ให้บูชา
และจะให้เหมือนแบบตามศูนย์พระเครื่องจัดสร้างให้เสกบ่อยๆปีละหลายๆครั้งก็คงจะไม่ใช่  :049:

83
ตะกรุดหอมเชียงและตะกรุดสามห่วงถักเชือกเขียววัดบางพระครับ  แต่ผมว่าครบทุกด้านเบี้ยแก้วัดบางพระนี่หละครับสุดยอด

84
โชคดีจังเลยครับ ยินดีด้วยครับ

85
งดงามมากครับพี่ ของวัดบางพระเราต้องเสือนี่หละครับสุดยอด :015:

86
สวยงามมากครับ อยากได้มั่งจังเลยครับ  :054:

87
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ ขออนุโมทนากับทุกๆคนด้วยครับ  ขอให้ที่วัดน้ำลดเร็วๆเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ  :054:

89
โชคดีมากเลยครับ ยินดีด้วยนะครับ ได้ของดีติดตัว  :015:

90
สวยมากครับ ทั้ง 2 องค์เลย  :015:

91
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณสำหรับคำสอน ครับ  :054:

92
สวยงามและเข้มขลังมากเลยครับ ยินดีด้วยนะครับ  :053:  :015:

สุขสุนต์วันเกิดพี่รุท หมัดหนักย้อนหลังด้วยครับ


93
สุขสันวันเกิดย้อนหลังครับพี่บัฟ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับพี่  :001:

94
ขอบคุณภาพบรรยากาศจากพี่ PeAwPeed  ด้วยนะครับ

ยังไม่มีโอกาศได้ไปสักปีเลย  :070:

95
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

96
สุขสันต์วันเกิดนะกวาง ขอให้มีความสุขมากๆ ........สุขสมหวังจร้า   
:047:

97
กราบมนัสการพระอาจารย์ ครับ  :054:

98
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ   :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอนครับ  :054:

99



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++







องค์นี้หน้าสึกไปนิดแต่โดยรวมแล้วก็ยังดูง่ายครับ




(ขอบคุณพี่เก่งบ้านดอนอีกครั้งครับ)

100



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ผงว่านสบู่เลือดครับ.....


(ขอบคุณพี่เก่งบ้านดอนด้วยครับ ที่เป็นธุระให้ ...)

101
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ครับ  :054: 

ขอบคุณภาพจากพี่นนด้วย ครับ

102




(ขอบคุณพี่เก่งบ้านดอนด้วยนะครับที่เป็นธุระให้)

103
กราบมนัสการหลวงลุงต้อย หลวงลุงญา หลวงพี่นัน และพระอาจารยืทุกรูปครับ  :054:

กราบขอบคุณหลวงลุงญาสำหรับของที่ฝากมาให้ด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่นาวกับพี่บอลมากๆครับ อนุโมทนาบุญกับพี่ทั้งสองคนครับ   :054:

104
ขอบคุณพี่เก่งสำหรับภาพบรรยากาศและของดีที่มอบมาให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ 

105
ขอบคุณพี่นาวกับพี่บอล สำหรับภาพบรรยากาศมากและขอบคุณที่พาไปกราบหลวงปู่แย้ม แถมเลี้ยงข้าว-น้ำพวกผมอีกตางหาก ขอบคุณมากนะครับ (กาแฟร้านแม่สาวอร่อยมากครับ ) :015:

โชคดีมากเลยครับได้เจอหลวงปู่แย้ม แล้วท่านจารกระหม่อมให้ด้วย ต้องขอบคุณพี่ สองคนมากๆเลยครับ

ขอให้หลวงปู่แย้ม มีสุขภาพแข็งแรงครับ

ขอบคุณหลวงลุงญา วัดบางพระ ที่เมตตามอบวัตถุมงคลและความเมตตาต่อพวกผมเสมอด้วยครับ

106
วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิด ~เสน่ห์ต้นน้ำ~  มาร่วมอวยพรกันครับ

ขอให้เพื่อนมีความสุขมากๆ คิดอะไรสมดั่งใจนึก ...ได้งานดีๆๆ มีตังใช้ตลอดไป

มีความสุขมากๆนะเพื่อน ......


 :047:

107
ทำไมไม่กลับไปถามอาจารย์คุณ ที่เคยสอนตอนเรียนปี3 ของคุณหละครับ    :095:

หรือคุณอยากเป็นปรมาจารย์วิชาตักง้อ ...ก็คงต้องไปศึกษาวิชากันต่อไปอะครับ   :075:


108
สุขสันวันเกิดท่านอ.หนวด ย้อนหลังด้วยนะครับ เสียดายช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปหาเลยครับ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง

109
ขอบคุณพี่เอสำหรับข่าวสาร ... อนุโมทนากับน้าเผือกด้วยนะครับ

111
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ .. :054:
ขอบพระคุณสำหรับคำสอน ศิษย์จะพยายามไม่พลั้งเผลอขาดสติครับ  :054:

112
โอนไปเรียบร้อยแล้วนะครับ แจ้งไปทาง pm ของหลวงพี่เว็ป แล้วนะครับ

ขอบคุณครับ

113
ขอขอบคุณพีเอ็กซ์ และทางทีมงาน ขออนุโมทนากุศลกับทุกคนด้วยครับ

ใว้ถ้าผมโอนไปแล้วจะแจ้งให้ทราบทาง pm อีกที ขอบคุณครับ

114
กราบมนัสการหลวงลุงต้อยครับ ขอแสดงมุทิตาจิตต่อหลวงลุง .. :054:

115
 :002:วันหลังสักเสร็จ อยากรู้ก็ถามเลยครับ

116
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  รักษาสุขภาพด้วยนะครับ .. :054:

117
สุขสันวันเกิดย้อนหลังครับ ไม่ค่อยได้เข้ามาเลย

ขอให้พี่เอ็กซ์มีความสุข รวยๆ สาว ๆ เพียบนะครับ  :002:

118
 :001:สีผึ้งน่าใช้ดีนะครับ...

119
กราบขอบพระคุณครับที่แจ้งข่าว  :054:

121
ขอบคุณมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ

122
ศิษย์มีครู มี อยู่ 2 ประเภท คือผู้เรียน กับ ผู้รับ ..  เรียนมากรู้มากไม่เป็นไร  แต่ ถ้ารับมามากไม่ดีแน่นอน
แต่วิชาสักยันต์ไปรับหลายที่มากก็ไม่ดี ..เพราะ
1.เหมือนเราไม่เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ ที่สัก ซึ่งบางสำนักมีข้อห้ามว่า..สักกับที่นี้ ห้ามไปสักกับที่อื่นก็มี อาจทำให้บ้าไปเลย
2. การไปรับมาเยอะมากๆมั่วไปหมด...ไม่ยอมศึกษาให้ดีก่อนก็ไม่ดีแน่นอนครับ อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ของบุคคล เพราะแต่ละสำนักไม่เหมือนกัน ข้อห้ามก็ต่างกัน

ส่วนการนับถือพระอาจารย์หลวงพ่อหลายรูปไม่ผิดครับอยู่ที่ใจ .. จะทำอะไรควรศึกษาให้ดีก่อน....
แรงครูมีจริงแน่นอน ผมเห็นมาเยอะแล้ว ..

124
สำนวนคุ้นๆ กับผู้รู้ประจำบอร์ดนะครับท่าน ~beauty~    :095:


126
ขอบคุณพี่เอกมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ ฝีมือขั้นเทพจริงๆ  :015:

127
ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับของฝากด้วยนะครับ

128
ขอบคุณพี่เอกสุดหล่อสำหรับภาพบรรยากาศมากครับ  พี่หมูนี่สุดยอดอีกแล้วปีนี้

อุ้ยมีรูปพี่สุรทีด้วย  :095:

130
ขอบคุณกวางมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ   :015:  :053:

ถ่ายพี่โต้งตอนของขึ้นด้วยอะ อิอิ

131
ขอกราบมนัสการ ร่วมใว้อาลัยด้วยครับ  :054:

133
กุฏิทรงไทยชายน้ำที่ประจำการของ " รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม "
อย่าลืมแวะมาทักทายกันบ้างนะ


กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ...ปีนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งครับที่ได้เจอพระอาจารย์


ไหว้ครูศิษย์จะไปกราบพระอาจารย์ที่กุติครับ

134
ตัวผมเองก็เจอมาเยอะครับ แคล้วคลาดเป็นส่วนใหญ่
ทางด้านมหาเสน่ห์เมตตา ก็พูดได้คำเดียวครับ สุดยอดจริงๆๆ  ดีใจที่เกิดมาเป็นศิษย์วัดบางพระ

ของแบบนี้เป็นปัจจัตตัง ครับ ยินดีต้อนรับครับ

136
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณที่เมตตาสั่งสอนครับ   :054:

137
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับที่ให้ความรู้สั่งสอนศิษย์... :054:

138
เท่าที่ดูๆมา เว็บนี้มีแต่จับผิดกันค่ะ ^^ อย่าซีเรียสค่ะ มันคือเรื่องปกติ ทำตัวให้ชินจะดีกว่าค่ะ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ อย่าสนใจกับอะไรที่ไม่ควรใส่ใจค่ะ

จับผิดยังไงเหรอครับ ...พิมแบบนี้มา มันดูไม่ดีนะครับ... ช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยครับ ..

เวปนี่เขาใว้แรกเปลี่ยนความคิดเห็น...อะไรที่ไม่เหมาะสมก็ต้องโดนติบ้างเป็นธรรมดาอะครับ ไม่ใช่การจับผิด....

139
กราบมนัสการหลวงลุงต้อยครับ ขอให้หลวงลุงสุขภาพแข็งแรงนะครับ  :054:

140
ขอบพระคุณภาพสำหรับบรรยากาศมากครับ  :053:

141
ขอบพระคุณสำหรับภาพบรรยากาศมากนะครับ

เสียดายจังที่ไม่ได้ไป

142
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอนด้วยนะครับ  :054:

143
โหเพียบเลยครับพี่ สวยๆทั้งนั้น  :015:

144
เขี้ยวเสืองดงามมากครับ ...กล้องดัดแปลงได้สุดยอมากเลยครับ

145
สุดยอดเลยครับ งดงามมากๆเลย อยากได้บ้างจัง อิอิ

146
งดงามมากครับพี่.......สุดยอด ..

147
ผมก็เห็นมานานพอสมควรแล้วครับยังไม่ไปไหนซักทีเลย เท่าที่ได้ยินมาพระอาจารย์ท่านนึงนำมาไว้
ข้างล่างลงมามีตัวเล็กอีกตัวพึ่งมาอยู่ได้สองสามเดือน อีกคู่นึงผสมพันธุ์กันอยู่ติดขอบเสาพึ่งมาอยู่วันที่13นี้เอง
เป็นธรรมดาของคนเราที่เห็นของแปลกๆแล้วชอบทัก อย่าคิดมาก

แหม่พี่คนนี้ ...ชอบเรื่อง ผสมพันธุ์ ตลอด 555+  :004: (เป็นการแซวกันเล่นๆนะครับ ..คนอื่นไม่ทราบอาจเข้าใจผิด)

148
มันเป็นจิ้งจกปลอมอะครับ :075: อย่าคิดมาก เขาแปะใว้เล่นๆ

149
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

150
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ ..  :054: ขอบพระคุณสำหรับคำสอนครับ  :054:

151


พี่เสน่ห์เอครับ ไม่ใช่เสน่ห์เอ็มครับ ส่วนอีกคนเฮียหมาครับ

เฮียหมู ไม่ใช่เฮียหมา 5555+ 

152
ผืนนี้เป็นแบบเดียวที่อยู่ที่กุติ หลวงลุงญาครับ ....ความจริงผืนสีฟ้า แต่ถ่ายโดยใช้แสงสีเลยออกมาเป็นแบบนี้อะครับ

ขอบคุณทุกคนนะครับ  ที่เข้ามาเยี่ยมชม :054:

153
กราบมนัสการพระอาจารย์เคารพ...ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วย ครับ  :054:

154


ด้วยความอนุเคราะห์จากพี่ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนึง

155
งดงามมากครับท่านพี่  :015:

156
งดงามมากครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

157
สวยมากเลยครับพี่  :015:   :015:  :015:

158
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

ขอบพระคุณสำหรับบทกวีแนวทางในการปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์มากครับ  :054:

159
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ........... :054:

160
ขอบคุณพี่เอและท่าน ibabynew  จิ๋ววัดตะกล่ำ  มากครับสำหรับข่าวสาร  :015:

161
กราบขอบพระคุณสำหรับเหตุการณ์-รูป เตือนสติในครั้งนี้ด้วยครับ .... ขนาดเรามีสติแล้ว..แต่เขาเองกลับขาดสติ และเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

ปลอดภัยทุกท่านโชคดีมากเลยครับ บุญรักษาแท้จริง  :054:

162
ขอบคุณพี่โองการมากครับที่นำมาให้ชมเป็นตัวอย่าง.......งดงามจริงๆครับ  :015:

163
ขอแจ้งทุกท่านให้ทราบสักนิดนึงครับ กระผม และกลุ่มที่ใช่ชื่อเสน่ห์นำหน้าทุกคนและทางทีมงานเวปบอร์ด
ไม่มีส่วนได้เสียผลประโยชน์ใดๆกับวัตถุมงคลทั้งสิ้น

กระผมและทุกท่านก็เป็นคนที่เคารพหลวงปู่และพระอาจารย์เหมือนกับทุกท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้น...ใครที่สนใจต้องไปบูชาที่วัดเองโดยตรงเท่านั้น

เงินปัจจัยทุกบาทมั่นใจได้เต็มที่ครับทำบุญล้วนๆๆ....เพราะฉะนั้นแล้วไม่มีการรับฝากเช่าบูชาใดๆทั้งสิ้น....พวกผมก็แค่เป็นผู้ให้ข้อมูลเท่านั้น

อนุโมทนากับท่านทั้งหลายด้วยนะครับ..


(ส่วนประสบการณ์ก็แล้วแต่บุคคลที่พบเจอและนำมาบอกเล่ากันเท่านั้น)  :015:

164
ขอบคุณครับพี่บอล สำหรับภาพและบรรยากาศ  :015: กราบมนัสการหลวงพ่อวงษ์ ด้วยครับ  :054:

165
ขอบพระคุณท่านนกสำหรับข่าวสาร  :054:

อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

167
กราบขอบคุณพระอาจารย์   :054:
ขอบพระคุณพี่จ๊อบ และพี่ๆ ทีมงาน สำหรับกิจกรรมดีๆครับ .......  :054:

ขอให้เพื่อนๆพี่น้อง โชคดีทุกคนนะครับ  :015:

168
ไปรับมาแล้วครับเมื่อเช้าตอน 09.00น. อิอิ พารัก-ยมไปรับน้องมาด้วย....กลัวเดี่ยวมีปัญหาเลยพาไปรับ....ชื่อน้องพารวยเหมือน Tiger Number NINE ครับ...เฮงๆๆรับตรุษจีน ครับ เดี่ยวเย็นนี้จะพาเข้าบ้านครับ แต่มีข้อสงสัยนิดหนึ่งว่า ตั้งไว้ระดับเดียวกับขวดรัก-ยมได้เลยไหมครับ

น่าจะได้ครับ ไม่น่ามีปัญหา ..

169
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ งดงามมาก  :015:

170
สวยมากครับ ขอบคุณท่านนกมากครับสำหรับข้อมูลและรูปภาพ ...  :054:

171
ส่ข้อค
ราคาองค์ละเท่าไรหรือค่ะ

ส่งข้อความส่วนตัว ถามเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติม คุณเสน่ห์เอ เสน่ห์ต้นน้ำ และ เสน่ห์ที ได้เลยครับ  :001:
เพราะ 3 คนนี้น่ารักมากจะคอยไปช่วยงานที่วัดทุกอาทิตย์เลย... เสาร์-อาทิตย์ อยู่ที่วัดตลอด..

172
ยังเหลืออยู่ไหมครับ ท่านผมอยากบูชามั้ง อิอิ
ยังมีครับ .....  :001: สอบถามได้ที่ พี่ๆทั้ง 3 คน คุณเสน่ห์เอ เสน่ห์ต้นน้ำ และ เสน่ห์ที เกี่ยวกับข้อมูล..เลยนะครับ

บูชาได้ที่วัดโดยตรงครับ ...  

อนุโมทนาด้วย ครับ

173
ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลและรูปภาพมากนะครับ .... สวยงามมากครับ  :054:

174
ยังเหลือไม่ครับ เก็บให้ผมสักผืนนะครับ เดียวจะไปเอา ถ้ายังเหลือครับ

ยังมีครับผม ลองกราบเรียนสอบถามท่านดูนะครับ  :001:



ผืนสีแดง

175
ของ ท่านพระอาจารย์อภิญญา วัดบางพระครับ    :054:   ท่านเมตตาแจก..ให้ครับ กราบขอบพระคุณท่านด้วยที่เมตตา

มีหลายสีนะครับ ...ผืนนี้เอาแบบผ้ายันต์มาให้ดูเป็นตัวอย่างครับ...

176
ของวัดบางพระ กุมารเทพครับ  :001:

177


เด่นทางด้าน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ครับ แรงเลยทีเดียว ... !

178


ขออนุญาตินำรูปมาให้ชมกันอีกสักครั้ง ขออนุญาติทางผู้ดูแลด้วยครับ.... เครดิตโดยรูปภาพจาก tong_lomsak  ขออนุญาตินำรูปมาลงนะครับ
สุดยอดมวลสาร+การปลุกเสก


พี่ชายผมเล่าให้ฟังว่า เหมือนมีคนมาขย่มเบาะรถเลยครับ เหมือนคอยตามไปไหนมาไหนด้วยตลอด (ประสบการณ์การส่วนบุคคล แล้วแต่คนนะครับ)  

ใครอยากร่วมทำบุญที่วัดยังมีให้บูชานะครับ ....  ใครอยากบูชาทำบุญได้โดยตรงที่วัด

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณเสน่ห์เอ เสน่ห์ต้นน้ำ และ เสน่ห์ที ครับ

อนุโมทนาด้วย....

179
กสิณ จุดมุ่งหมาย ฝึกเพื่อ จิตสงบ ..... ไม่ได้ฝึกเพื่อให้จิตมันฟุ้งซ่านนะครับ ...

ไปอ่านเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์มากก็ฟุ้งซ่านมาก ยิ่งพาให้ออกนอกทางไปกันใหญ่ พระพุทธศาสนาใช้หลักกสิณ 10 เพื่อฝึกให้จิตสงบนะครับ

180
กราบมนัสการหลวงปู่  :054:  ขอร่วมใว้อาลัย ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติตามดีพระพุทธศาสนา  :054:

181
สุดยอดเหนือคำบรรยาย สวยงามมากครับ ยินดีกับพี่เอ็กซ์ด้วย  :053:

182
ของวัดบางพระไม่มีครับ แต่พระอาจารย์บางรูปท่านได้เรียนเสริมจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นสายวิชาอื่นมาก็มีครับ
ไม่ทำได้ก็ดีสุดครับ ...หรือไม่เรียนถามพระอาจารย์ที่สักให้..ตามตรงดีที่สุดครับแล้วจะสบายใจ 

แต่ที่แน่ๆ สาริกาลิ้นทองเสื่อมแน่นอนถ้าทำ

183
สักยันต์หลายครูบาอาจารย์ได้แต่อย่าให้เยอะเกินพอดีๆๆ ทางที่ดีอย่าสักหลายสายหลายสำนักเพราะเหมือนเป็นการไม่เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์เรา
หรือบางสำนักอาจมีข้อห้าม ที่สักไปแล้วห้ามไปสักกับที่อื่น(โดยเด็ดขาด)เช่นสายวัดสาลีโข ควรศึกษากับสำนักที่ท่านจะสักให้ดีก่อนมีข้อห้ามอะไรบ้าง

ถ้าลงสาริกาที่ลิ้น โดยปกติการทำออลลัลเซ็กให้ผู้หญิง ของจะเสื่อมทันที
ส่วนเรื่องสักแล้วไปทำทำออลลัลเซ็กให้ผู้หญิง แล้วแต่สำนักนั้นๆจะห้ามหรือไม่ห้าม ควรศึกษาให้ดีก่อน ..

ทางที่ดีเอาซักที่เถอะครับ หลายที่ได้แต่อย่าหลายสายมาก  และเรื่องข้อห้ามควรถามแต่ครูบาอาจารย์สำนักนั้นให้ดีเพื่อเป็นการไม่หลบหลู่ครูบาอาจารย์ และอาจมีผลกระทบมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสายวิชานั้นๆ

184
เอาจริงๆ ของแบบนี้แล้วแต่บุญวาสนาแล้วแต่บุคคล ...ที่ลงไปในน้ำ โดยที่ตัวท่านไม่เปียก เช่น หลวงปู่นาค วัดห้วยจรเข้ และอีกหลายท่าน

ท่านเหล่านี้มีบุญบารมีสูง สมาธิจิตที่สูง สำเหร็จกสิณทั้ง 10  ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถทำได้ ....

(การฝึกสมาธิและกสิณ หากไม่มีผู้มีความรู้ให้คำแนะนำชี้ทาง อาจหลงทางได้ ใช่ว่าจะศึกษาเองหาเองได้ทุกๆอย่าง รวมทั้งวิชาอาคมด้วยควรมีครูบาอาจารย์ให้ความรู้ถึงจะดีที่สุด...ศิษย์ไร้ครูอยู่ได้ไม่จีรัง..ควรศึกษาดีๆหาความรู้เยอะๆก่อนเพื่อเป็นการไม่หลงทางได้. )

ตำรา..คือเครื่องชี้แนะแนวทางเฉยๆ
ของจริง คือ ประสบการณ์ของแต่ละบุคคล  ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับตำราบ้างก็ได้ แล้วแต่คนใครทำมากก็ย่อมได้มาก
ควรมีครูบาอาจารย์ให้คำชี้แนะดีที่สุด..

186


รุ่นนี้สุดยอดมากครับ ขอบอก ..... ขอบคุณพี่เอที่นำรูปมาให้ชม  :015:

187
 :004: สุดยอดครับ ....  :006:


188
กราบมนัสการครับ ขอแสดงความเสียใจแก่ศิษย์ และ ทุกท่านด้วยนะครับ  :054:

189
นายถามแต่ละอย่างโครตเจ๋งเลยครับใวรุ่น

190
งดงามมากครับ พี่เจมส์  :015: เป็นบุญอย่างยิ่ง

191
พรายลงเครื่อง 2j อ่านะครับ แรงแน่ .... :095:

192


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



หลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ เสกด้วยครับ รุ่นนี้ ........

ขอบพระคุณพี่เสน่ห์เอ ด้วยนะครับที่เมตตา

193

(ขอแจมหน่อยนะครับพี่สุดหล่อ เที่ยวให้สนุกเดินทางปลอดภัย อย่าลืมของฝากน้องๆนะครับ  ) :095:

นั่งเล่นคอมอยู่..แล้วเจ้าตัวนี้ก็หล่นตุ๊บลงมาครับ ตัวเป็นๆ..
หากแฉกนิดเดียวก็ 2หางนะครับ แต่ก็ไม่ได้ไปจับอะไร กลัวบาปกรรมครับ ปล่อยใว้วิ่งเล่นในบ้านดีกว่า  ...
มีการอยู่เฉยๆให้ถ่ายรูปด้วย พอถ่ายเสร็จเขาก็ไป ...

194
พี่เจมส์จะเมตตาเอามาแจกน้องๆเหรอครับ  :095: ขอบคุณล่วงหน้าครับ

195
ไม่เสื่อมครับ ..บารมีหลวงปู่เปิ่นไม่ได้เสื่อมกันง่ายๆ เหมือนใจคนหลอกครับ

แต่ถ้าเพื่อนคุณ คนที่เล่นกับคุณแบบนี้ รู้ว่าคุณแขวนพระ แสดงว่าเพื่อนคุณจิตใจเสื่อมมากเลยครับ ไม่เหมาะสมและก็ไม่สมควรเลย

196
ไม่เป็นไรนี่ครับ เขาแค่ห้าม..ถุยน้ำลายลงโถส้วม กะฉี่ นี่นา

197
กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพ

กราบมนัสการพระอาจารย์โด่งด้วยนะครับ อากาศหนาวรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

198
เหรียญนี้ออกแบบได้งดงามมากครับ ..สวยจริงๆ

ไหว้ครูปีนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ต้องไม่พลาดกันนะครับ

ขอบคุณพี่โองการมากครับ สำหรับข่าวสารและเหรียญสวยๆที่นำมาให้ชมกัน

199
กราบมนัสการพระอาจารย์ทีเคารพ  ขอบพระคุณสำหรับคำสอน :054:

200
กราบขอบพระคุณมากครับ  :054:

201
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ  :054:


202
 :054: สวย....มากครับ........สุดยอด...........

203
เท่าที่ผมเคยเห็นนะครับ มีปี 44 ใหญ่ (เล็กข้อมือ)  ก็ปี 48
และก็มี แบบที่พระอาจารย์ท่านสร้างออกอีก รุ่น สองรุ่น

แต่ไม่ว่าจะรุ่นไหนๆ ยันต์หอมเชียงนี่สุดยอดและครับ  :015:

205
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม ผมวาสนาน้อยได้แต่ชม   :075:

207
ก่อนปีใหม่ก็ ขออันนี้ก่อนละกันครับ


ฮาได้อีก ดาราประวัด 5555+

208
อนุโมทนาด้วยครับพี่   :054:

209
ขอให้ทุกคนพี่น้องชาววัดบางพระ มีความสุขกันทุกคนเลยนะครับ    :114:

ขอให้พระอาจารย์ทุกรูปสุขภาพแข็งแรงด้วยนะครับ    :054:  :054:

210
ธรรมะ / ตอบ: การละทิฏฐิมานะ
« เมื่อ: 23 ธ.ค. 2553, 11:38:16 »
อนุโมทนา สาธุ  :054:

211
สวยงาม.......เข้มขลังมากครับ โชคดีจังเลยครับ .....   :015:


ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

212
อยากได้คาถา สาวๆเมตตาบ้างอะครับ  :077:

ขอบคุณครับสำหรับคาถาเจ้านายเมตตาด้วย 

213
อนุโมทนาด้วย ...  สาธุ

214
ขอบคุณพี่โองการมากครับ สำหรับกิจกรรมดีๆ  :015:

215
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณคำสอนที่เมตตาให้ศิษย์ทั้งหลาย เสมอมาครับ  :054:

216
น้อง Nunew  โหดมากเลยครับ  :075:
ถ้าไปโรงเรียนแล้วผู้ชายทำผู้หญิงนี่โครตแมนเลยเนอะ

แต่ของพวกนี้แล้วแต่คนอะครับ อยู่ที่ความศรัทธาและบุญที่ทำมา รถยนต์ยังต้องเติมน้ำมัน ถ้าคนเราไม่มีบุญของก็ไม่ช่วยหลอกครับ

อยากมีของดีก็ต้องหมั่นไปทำบุญบ่อยๆ รักษาของ เชื่อมั้นเต็ม100 ... ชอบเหนียวๆใจต้องถึง บุญต้องมี  !

217
อนุโมทนาด้วยครับ สาธุ ขอบพระคุณพี่เอที่แจ้งข่าวสาร


218
ตามนั้น ครับ ..... ใว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ ปกติเขาสักกันต้นขา

แต่ข้อควรระวัง ไม่ว่าตะกรุด ผ้ายันต์ เนื้อดินหรือผง ห้ามรวมกับเครื่องราง หรือพระเครื่อง อย่างอื่นโดยเด็ดขาด ควรแยกเดี่ยวเลย ครับ

219
พี่ทีออกอบั้ม 2 แล้วเหรอครับเนี่ย สุดยอด  :007:

220
สุขสันวันเกิดครับพี่เอก ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

 :114:  :114:  :114:

221
สุดยอดมากครับ เป็นบุญตาจริงๆ

223
555555555555555 พี่ที ไม่ว่าจะแบบธรรมดา หรือแบบ พิเศษ ก็ยังฮาได้อีก  :004:

224
ได้รับของแล้วนะครับกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตา

 ขอบคุณเพื่อนต้น พี่เอ พีเอ็กซ์ และพี่ๆทุกคนมากครับ 

225
อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

226
ขอบคุณภาพมากครับ มาเปิดดูตอนนี้เล่นซะหิวข้าวเลย 555+

227
แหวนสอบถามได้ที่  คุณเสน่ห์ต้นน้ำ  ดาราวัดเราได้โดยตรง  ที่วัดเสาร์-อาทิตย์เลยนะครับ

อนุโมทนาด้วย

228
ตัวจริง หล่อ กว่าในรูปนะเนี่ย อิอิ..  :001: คุณแห้งคุง

แต่น้อยกว่าเพื่อนต้นผมหน่อยนึง  :095:

แหวนรีบๆหน่อยนะครับ จำนวนจำกัด...

230
พี่ที ของเรา ........... ดังแล้วครับ ออกอบั้ม แล้วนะจ๊ะวันนี้ 555555555555555555++

231
55555555555555555555555  :004:  :004:

ฮาได้อีกครับ 555+

233
5555555  :  :004:
น้าเผือกแกเห็น คงจี๊ดเลย 555+

เอาของพี่ที มาลงบ้างดิครับพี่เอ    10 กะโหลก 555+

234
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม ยินดีด้วยนะครับ ของดีมากเลยสุดยอดนะรุ่นนี้  :015:

235
งดงามจริงๆครับ ยินดีด้วยนะครับได้ของดีมา  :053:

236
สวย+เข้มขลังมากครับ เห็นแล้วอยากไปวัดเร็วๆๆๆ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

237
ไหวป่าวครับเนี่ย  คุณอาชิตะ 55555

กำดันกดผิดซะงั้น

238
มาป่วนมาปั่นป่าวครับ

กฏก็ต้องเป็นกฏสิครับ....ไม่งั้นเขาจะตั้งทำไม

อ่านใหม่นะ อ่านหลายๆรอบ....ว่าทำไมเขาถึงลบ

239
กราบมนัสการหลวงปู่ และขอบคุณพี่นกมากครับ   :054:

สุดยอด จริงๆครับ

240
สวยจริงๆครับ ยินดีด้วยนะครับที่ได้ของดี

242
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณที่เมตตานำมาให้ชม เป็นบุญตาอย่างยิ่ง ครับ  :054:

243
ชอบคุณพี่นกมากเลยครับ   :054:

245
ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจครับ ...

246
ขอบพระคุณสำหรับข่าวสาร  ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ  :054: ขอให้หลวงลุงหายเร็วๆ  :054:

247
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม งดงามมากครับ  :054:

248
 :054:    ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมเป็นบุญตา อยากได้มากมาย

249
กราบมนัสการหลวงปู่เงิน  หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม  และหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ หลวงพ่อทุกรูป ด้วยครับ  :054:

กราบขอบพระคุณท่านอ้อด้วย ครับ  :054:

250
งดงามมากครับ ได้แบบพิเศษมาตลอดเลยนะครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :054:

251
ลอยสักสวยงดงามเข้มขลังมากครับ ... ยินดีด้วยนะครับ

253
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับภาพบรรยากาศงานกฐินด้วยครับ  :054:

ขอร่วมอนุโมทนากุศลกับท่านในครั้งนี้ด้วยครับ   :054:

254
ขอบคุณครับ สำหรับภาพบรรยากาศ

เสียดายจังที่ไม่ได้ไป ...   ผมมันคนไม่มีคู่ปีนี้ก็เลยต้องลอยคนเดียวอีก   :095:

255
สวยครับ...สวยมาก ....อยากได้บ้างจัง แต่ยังไม่มีวาสนากับล็อคเก็ตรุ่นนี้เลยครับ  :054:

256
กราบขอบพระคุณท่าน ooo มากครับ   :054:

257
 :054: งดงามมากๆครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

258
สวยมากครับ รุ่นนี้หน้าใช้มากเลยครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม กล่องเดิมๆเลย

259
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบระคุณที่นำมาให้ชม  :054: 

260
งดงามจริงๆครับ ช่วงนี้มีแต่ของดีๆ มาให้ชมกันอีกแล้ว  :015:  :054:

261
งดงามมากครับ สุดยอดเลย  :054:

262
ขอบคุณพีเอ็กซ์มากครับ

ขอแจ้ง ฝากพี่เอ ฝากต้นเพื่อนเลิฟส่งมาให้ด้วยนะครับ   :001:

263
ขอบคุณพี่เอ ที่นำมาให้ชมกันครับ

กราบมนัสการหลวงพ่อหลวงพี่ทุกรูป ครับ  :054:

264
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาชี้แนะสั่งสอน  :054:

265
ขอร่วมใว้อาลัยด้วย ครับ

266
กราบมนัสการพระอาจาย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณที่เมตตาสอนครับ  :054:

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ  :054:

267
เรื่องภาษาไทย พิมพ์ให้ถูกหน่อยก็ดีนะครับ อ่านแล้ว งง

วันหลังเจอก็บอกเขาเลยครับ มาโพสในเวปคนๆนั้นเขาคงไม่รู้หลอกครับ  :075:

268
ขอบคุณครับพีเอ็กซ์ รับทราบ
หน้าที่อันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ....  ขออนุโมทนาด้วยครับ
ผมใว้หลังไมค์ละกัน อิอิ

269
 :054:กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณที่เมตตาครับ

270
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณสำหรับประสบการณ์ที่เมตตาเล่าให้ฟังด้วยครับ  :054:

271
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
กราบขอบพระคุณที่เมตตาสั่งสอน  :054:

272
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
กราบขอบพระคุณที่เมตตานำมาให้ชม ครับ  :054:

273
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณที่เมตตาแจ้งข่าวสารครับ  :054:

ขออนุโมทนาท่านทั้งหลายด้วยครับ  :054:

274
ขอบคุณมากครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ

277
กราบมนัสการหลวงลุงต้อย หลวงลุงติ่ง ขอให้หลวงลุงต้อยสุขภาพแข็งแรงนะครับ  ด้วยความเคารพ  :054:

ขอบคุณพี่ปุ๋ยมากครับ

278
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณครับ  :054:

279
ขอบคุณพี่เอ ที่นำมาให้ชม .. จะเอามาแจกน้องๆเหรอครับ อิอิ  :015:

280
     กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ปัญหาที่รุมเร้าเคยปรึกษาพระอาจารย์ราว2ปีก่อน ตอนนี้ปัญหาเบาบางลงอยู่ในระดับที่รับมือได้ อีกปีกว่าๆปัญหานี้ก็จะหมดไปแล้วครับ กราบขอบพระคุณที่พระอาจารย์ได้สอนแนวคิดในการแก้ปัญหาไว้ รวมทั้งแนวคิดต่างๆในชีวิต แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน 2ปีที่ผ่านมาผสานทางโลกและทางธรรมไว้ด้วยกัน ให้อยู่ในโลกใบนี้ได้โดยไม่แปลกแยกจากสังคมที่คบกันมายาวนาน ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่นนแปลง แต่ภายในเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อาจจะไม่ใช่เป็นคนดีที่สุดในสังคมแต่ก็จะไม่เบียดเบียนใคร อาจจะไม่เป็นคนดีทางธรรม100%อาจมีทำผิดอยู่บ้างแต่ก็มีธรรมที่ระลึกอยู่ตลอดเวลา เป้าหมาย การเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม ผมได้เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ มีเพียงอยู่ข้อเดียวที่ยังทำไม่ได้แต่ก็พยายามลด ละ
          ใช้ชีวิตโดยไม่มีธรรมชี้นำมาสี่สิบเอ็ดปีชีวิตพังไม่เป็นท่า ใช้ชีวิตโดยมีธรรมเป็นเข็มทิศเพียงสองปีชีวิตก็ดีขึ้นอย่างทันตา ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้เป็นคนดีไปนานแล้วครับ

" การเดินทางของชีวิต ถูกหรือผิดล้วนแล้วเป็นประสพการณ์ "... เจ็บแล้วต้องจำ ไม่กระทำผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง...
 " คนที่ไม่เคยล้ม จะไม่รู้จักวิธีลุก คนที่ไม่เคยเจอทุกข์ ชีวิตจะไม่แข็งแกร่ง " ...อดีตคือบทเรียนของชีวิต ...
 " ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด "...ตราบใดทีี่ยังมีหนทางไป ใจย่อมไม่นึกถึงพระธรรม แต่เมื่อคุณชอกช้ำ
   พระธรรมคือที่พึ่งสำหรับคุณ.... " การไม่กังวล การไม่ยึดถือและยึดติด นั่นคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ "
      :059: ก้าวเดินตาม    แนวทาง     เพื่อสร้างฝัน
                 จะกี่ปี           กี่วัน         ไม่หวั่นไหว
                เพราะศรัทธา   มั่นคง        คำรงค์ใจ
                 ก้าวต่อไป      จนจบ        ภพชาติเอย  :054:


กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสอน ครับ..

281
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว ทำให้นึกภาพออกเลยครับ  :054:

ข้าวแต่ละเม็ดมีค่ามากกว่าจะโตกว่าจะเก็บเกี่ยว ชาวนาต้องลำบากและอดทน บางปีก็แล้ง บางปีก็ท่วม กว่าจะได้แต่ละต้นแต่ละเม็ด
ผมอยากให้พี่น้องทุกคนอย่ากินข้าวเหลือทิ้งขว้างนะครับ อย่าถือว่าตัวเองซื้อกินเพราะมีตังแต่ให้เห็นถึงคนตาดำๆที่ทำนาปลูกข้าวให้พวกเรากินบ้างครับ  :054:      

282
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ศิษย์ขอร่วมบุญอนุโมทนากุศลในครั้งนี้ด้วยครับ  :054:
กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องเล่าหลังออกพรรษา รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ไหว้ครูปีหน้าคงได้มีโอกาศได้มนัสการพระอาจารย์นะครับ  :054:

283
กราบขอบพระคุณท่าน ooo มากครับที่เมตตาแจ้งข่าวใหทราบกัน   :054:

284
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณที่เมตตาสั่งสอนศิษย์ คอยบอกทางธรรมชี้แนะแก้ไขปัญหาให้ ความเมตตาของพระอาจารย์ศิษย์จะไม่มีวันลืม  :054:

ด้วยความเคารพอย่างสูง เอ็มครับ  :054:

285
พระกริ่งรุ่นนี้สุดยอดมากครับ มวลสารที่หลอม พระหลวงปู่เปิ่น เพียบเลย

286
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

อย่าได้รีบด่วนสรุปในการปฏิบัติธรรม ว่าเรารู้ธรรมแล้ว เข้าใจธรรมหมดแล้ว เพราะสิ่งที่เรารู้
และเราเห็นในขณะนี้นั้น มันเป็นไปตามเหตุและปัจจัยในปัจจุบันนี้ที่เราได้ทำมา ซึ่งถ้าเราทำไปให้ยิ่งกว่านี้
เราก็จะรู้ จะเห็นและเข้าใจไปมากกว่านี้ ตราบใดที่เรายังไม่สิ้นกิเลส จงอย่ารีบด่วนสรุปว่าเรารู้และเข้าใจธรรม
หมดแล้ว เพราะยังมีอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ ยังไม่เห็นและยังไม่เข้าใจ ผู้ที่จะฟันธงชี้ชัดได้ มีแต่พระพุทธเจ้าแต่เพียงผู้เดียว


กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอน ศิษย์จะจดจำใว้ตลอดไปครับ  :054:

287
งดงามมากๆครับพี่  สุดยอด เห็นแล้วอยากมีบ้าง  :015:  :053:

288
บล็อคแกะโดย ช่างเกษม มงคลเจริญ ปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์สายนครปฐม และอื่นๆเพียบ  เช่นหลวงปู่เงิน วัดดอนยายหอม หลวงปู่เต๋คงทอง
หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ..
มี 4 พิม เล็ก กลาง ใหญ่ จัมโบ้(พิเศษ) และแบบแจกกรรมการปัดทองและลงรัก
สร้างจำนวนเท่าไหร่ไม่แน่ใจ รู้แต่เยอะพอสมควร

สาเหตุที่นิยม เพราะเป็นพระพิมสมเด็จที่สวยงามคมชัด และมีประสบการณ์
แต่ถ้าพูดถึง จะบูชาหลวงพ่อไร่ขิง รุ่นไหนก็ดีครับ ดีหมดทุกรุ่น
ยิ่งช่วงประมาณ ปี 30 ขึ้นไป มีหลวงปู่เปิ่นเสกแน่นอน


289
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
ยอมรับความเป็นจริงในสิ่งที่เรามีและเราเป็น
มองให้เห็นความเสื่อมทั้งหลายอันได้แก่กิเลสตัณหา อัตตามานะที่่มีอยู่ในจิตของเรา ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องรู้และต้องเห็น
เสียก่อน จึงจะเข้าไปลดละมันได้ เพราะไม่มีใครที่จะรู้จักตัวเราเท่ากับตัวของเราเอง ขอเพียงเราให้เวลาแก่ชีวิตจิตวิญญาณ
ของตัวเราเองให้มากกว่าที่เป็นอยู่ "


ตอนนี้ศิษย์ได้เห็นความจริงที่เป็นอยู่ ได้เห็นความไม่เที่ยงแท้ทั้งหลายมีความเกิดดับเสื่อมสลายไปกับกาลเวลา แล้วก็ต้องพิจณาและเข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่กับความจริงที่เป็น เห็นประโยชน์และโทษของมัน ตอนนี้ศิษย์รู้สึกสบายใจมากเลยครับ
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์เสมอมา   :054:

290
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ๆต่อไป

291
กราบมนัสการหลวงปู่ครับ หลวงปู่ท่านเมตตามากครับ สาธุ  :054:

292
ขอบคุณมากครับ ที่นำมาให้ชม  เป็นบุญตาวาสนาโดยแท้ครับ  :054:

293
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวีคำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

295
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องรอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

296
ขอบคุณครับพี่บอลที่นำมาให้ชม งดงามมากครับ  :015:

297
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมเป็นแนวทางต่อไป  :054:

298
ขอบพระคุณท่านอ้อมากครับ ที่นำมาให้ได้ชมกัน  :054:

299
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรม รอยกวี คำสอน และรูปภาพ  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป ขอให้พระอาจารย์เดินทางปลอดภัยนะครับ  :054:

300
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมไปปฏิบัติต่อไป  :054:

301
สุขสันวันเกิดนะเพื่อน อย่าลืมไปทำบุญหละครับ

ขอให้โชคดี สุขสมหวัง

302
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

303
ผิดก็ว่ากันไปตามผิดครับ ก็ต้องยอมรับผิดกันไป  :001:

ของผมลบได้นะไม่ว่ากันได้ชี้แจงใว้แล้วเรื่องเจตนา  

ซึ่งตามธรรมดาผาแห่งนี้ก็มีอยู่จริง อ. หนองบัวระเหว จ. ชัยภูมิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
 

305
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้ไปเตือนสติตัวเองต่อไป กราบขอบพระคุณครับ :054:

306
งดงามจริงๆ ช่วงนี้ออกทัวบ่อยนะครับพี่  :015:

ขอบคุณที่นำมาให้ชม

307
สวยงามเกินคำบรรยาย บารมีหลวงปู่สุดยอดครับ

ขอบคุณพี่เจมส์มากครับ สายตรงอีก 1 คนของวัดบางพระ  :015:

308
ขอบคุณครับาหรับกิจกรรมดีๆ และของรางวัล ขออนุโมทนาดว้ยนะครับ

309
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

311
เจดีย์ที่วัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ

ลองทายดูครับ ขอบพระคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ

312
หากรูปภาพหรือข้อความใดไม่เหมาะสมต้องขออภัย ลบได้เลยนะครับ

เจตนาเพียงเพื่อขำๆ ครายเครียดเท่านั้น

313


ขออีกสีก 1 อันแล้วกันครับ ขำๆ . 5555+ ชีวิตที่ไม่เครียด  :007:

317
ธรรมะ / อริยสัจสี่โดยสังเขป...
« เมื่อ: 13 ต.ค. 2553, 05:04:51 »
อริยสัจสี่โดยสังเขป

ความจริงอันประเสริฐ  คือทุกข์,  ความจริงอันประเสริฐ  คือเหตุให้เกิดทุกข์,  ความจริงอันประเสริฐ  คือความดับไม่เหลือของทุกข์,  และความจริงอันประเสริฐ  คือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
ทุกข์  เป็นอย่างไรเล่า ? คำตอบคือ  ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่นห้าอย่าง.  คือ  รูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  และวิญญาณ
เหตุให้เกิดทุกข์  เป็นอย่างไรเล่า ? คือตัณหา  อันประกอบด้วยความกำหนัดเพราะอำนาจความเพลิน  มักทำให้เพลิดเพลินยิ่งในอารมณ์นั้นๆ  ได้แก่  ตัณหาในกาม,ตัณหาในความมีความเป็น,  ตัณหาในความไม่มีไม่เป็น,
ความดับไม่เหลือของทุกข์  เป็นอย่างไรเล่า ?  คือความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหา    ความปล่อยวางซึ่งตัณหานั่นเอง
ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์  เป็นอย่างไรเล่า ? คือหนทางประกอบด้วยองค์ ๘ นี้นั่นเอง  คือ  ความเห็นชอบ  ความดำริชอบ;  การพูดจาชอบ   การทำการงานชอบ   การเลี้ยงชีวิตชอบ ;  ความพากเพียรชอบ  ความระลึกชอบ  ความตั้งใจมั่นชอบ.    พวกเธอพึง ทำความเพียร  เพื่อให้รู้ตามเป็นจริง   ว่า “นี้เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์,  นี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์,” ดังนี้เถิด
.

ที่มาจากเวป วัดหนองป่าพง http://www.watnongpahpong.org/buddha.php  :054:
หากมีท่านใดเคยนำใว้แล้ว กระผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงด้วยครับ  :054:

318
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
ดูหนัง ดูละคร แล้วจงย้อนมาดูตัวเอง " นั้นคือสิ่งที่ต้องฝึกหัดกระทำให้เป็นความเคยชินและกลายเป็นนิสัย นั่นคือสิ่งที่เน้นย้ำ
ให้ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายพึงกระทำ พึงคิดและพิจารณาให้สม่ำเสมอ...


ศิษย์ขอนอบน้อมไปปฏิบัติตามครับ  :054:

319
ขออนุโมทนาด้วยนะครับ   :054:

พระพิมก้ามปูสวยจริงๆครับ พระของหลวงพ่อท่าน ส่วนมากท่านจะจารเองทั้งหมดนะครับ

ท่านอธิฐานเสกมาเลื่อยๆ ก่อนจะมาแจกให้ ยินดีด้วยนะครับ

320
กราบมนัสการหลวงลุงต้อย  :054:

ขอให้ท่ายหายใวๆ สุขภาพแข็งแรงนะครับ

ขอบคุณพี่ปุ๋ยมาก

321
เหรียญนี้เขาเรียก เหรียญหลังลายเซ็นป่าวครับ

หน้าจะออกปี 09 นะครับ

ลองส่ง pm ไปถามคุณ ต้นพระงามดูนะครับ เดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นเขาออนเหมือนกัน ขอให้โชคดีครับ

322
ของหลวงปู่เปิ่นท่าน ลองอธิฐานบอกท่านดูครับ ด้านไหนดีก็ได้ดีทุกด้านครับ

รุ่นอาเสี่ยเล็กที่เขาเจอประสบการณ์เหนียวๆ ส่วนตัวผมเจอหนักไปทางด้านเมตตามหานิยมเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ดีจริงๆครับ

323




เมื่อประมาณเดือนสองเดือนที่แล้ว ผมก็ได้มีโอกาศพาแฟนไปกราบหลวงพ่ออวยพรท่านมาเหมือนกันครับ

ท่านเมตตาได้ให้ป้ายแขวนใบโพธิ์รูปท่านมา ก็แปลกครับผมตั้งแต่ผมไปกราบท่านมาผมก็ไม่เคยบอกว่าที่บ้านผมทำอาชีพอะไร

แต่ตอนท่านให้มาท่านบอกให้เอาไปใว้ที่ร้านใว้ค้าขาย  ซึ่งก่อนไปผมฝันถึงท่านด้วยครับพอไปถึงเหมือนท่านยืนรออยู่หน้ากุติพอดีเลยทั้งที่วันนั้นท่านติดธุระด้วย


324
รุ่น เลข ๑ ไทยด้วย ทันหลวงพ่อเงินด้วย

ส่วนตัวผมชอบครับ คมชัดดี  :015:

325
ทันแน่นอน 100 % ครับ  :001:

รุ่นนี้หน้าบูชามากครับ

326
สุดยอดมากเลยครับ  หลวงปู่ท่านเมตตามากเลยครับ อ่านแล้วรู้สึกเป็นปลื้มแทนเลยครับ :054:

327
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน ความรู้เกี่ยวกับการเพ่งกสินด้วยครับ :054:
เรื่องฤทธิ์เรื่องอภิญญานั้นมันเป็นเพียงผลพลอยได้
ไม่ใช่เป้าหมายของการปฏิบัติที่แท้จริง จิตที่นิ่ง จิตที่สงบ นันคือเป้าหมายของการปฏิบัติ....


ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำใว้ไปปฏิบัติต่อไป  :054:

328
ขอบคุณพี่นนมากครับ   :015:

329
กราบมนัสการพระอาจารย์ด้วยความเคารพ   :054:
ขอบพระคุณที่เมตตาให้ความรู้ครับ   :054:

330
การเพ่งกสิณ ควรระวังเรื่องนิมิตใว้ให้ดีด้วยนะครับ

ด้วยความเป็นห่วง ขอบคุณครับ

331
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ให้ระวังตัวมานะทิฏฐิเป็นอย่างมาก เพราะจะหลง
ไปคิดว่า คนอื่นไ่ม่ดีเท่าเรา ไม่เก่งเท่าเรา เราดีกว่าผู้อื่น เก่งกว่าผู้อื่น จะทำให้ขาดความเคารพต่อครูบาอาจารย์
ลบหลู่ครูบาอาจารย์และผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น แม้จะดูภายนอกอ่อนน้อมแต่จิตใจเย่อหยิ่ง มันเป็นจิตวิปลาส สัญญาวิปลาส "


คำสั่งสอนของพระอาจารย์นี้ ศิษย์ขอนอบน้อมยึดไปปฏิบัติตลอดไปครับ จะใช้สติเตือนตนตลอดเวลา  :054:

332
อยากรู้เกี่ยวกับยันต์แต่ละยันต์มีความหมายด้านใดบ้างครับ

333
อนุโมทนากับพี่ตี๋ด้วยครับ แหม่ลูกชายหล่อจัง อิอิ

334
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมนำไปปฏิบัติต่อไป  :054:

335
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่นกด้วยครับ  :054:

336
คาถาอาคม / ตอบ: การเรียนคาถาอาคม
« เมื่อ: 09 ต.ค. 2553, 01:57:21 »
คุณสมบัติพื้นฐานของผู้สนใจจะท่องคาถา

พระคาถาทุกบทมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองครบถ้วนอยู่แล้ว

แต่การที่เราจะท่องคาถาให้ได้ผลจริงนั้น จำเป็นต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานในตัวเองก่อน ดังต่อไปนี้

๑.ผู้เรียนต้องมีความศรัทธาเชื่อมั่นในคาถาบทนั้นๆ อย่างแน่นแฟ้น

๒. ผู้เรียนต้องเป็นผู้ที่มีสมาธิจิตตั้งมั่นพอสมควรหรือเป็นผู้ที่ฝึกสมาธิสม่ำเสมอ

๓.ผู้เรียนต้องเป็นมีสัจจะ ยึดมั่นคำครูบาอาจารย์

๔.ผู้เรียนต้องมีความเคารพในครูบาอาจารย์เจ้าของคาถาและพระคาถานั้นๆ

๕.ต้องหมั่นท่อง ภาวนา พระคาถาสม่ำเสมอ

 หากมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังกล่าวนี้ ก็สามารถเรียนพระคาถาให้เกิดความขลังและเห็นผลได้แน่นอน

ทั้งนี้พระคาถานั้นๆ ควรได้รับถ่ายทอดมาอย่างถูกต้องและครบถ้วนไม่ขาดหายไป

ยิ้มบทความจากพี่เมฆ อชิตะบ้านวัดชายนาครับ  :001:

337
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ  ลุงอเมซิ่งใจดีจริงๆ

338
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

เราต้องถามตนเองให้ได้คำตอบเสียก่อนว่า " เราทำเพื่ออะไร "
และเมื่อได้คำตอบให้ตนเองแล้ว จึงมาคิดต่อไปว่าทำอย่างไร ศึกษาหาข้อมูลของการปฏิบัติธรรม ว่าควรทำอย่างไร


สำหรับศิษย์แล้วสมัยก่อนต้องการที่จะมีอิทธิฤทธิ์ แต่ก็ได้มาพิจณาดูว่าเป็นสิ่งไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์ได้เลย แถมเป็นการเพิ่มอัตตาและความทุกข์มากยิ่งขึ้น ตอนนี้ศิษย์จะพยายามศึกษาหาความรู้เชื่อครูบาอาจารย์เพื่อดำเนินทางการพ้นทุกข์ต่อไป  :054:

339
ก่อนสวมพระห้อยคอทุกครั้ง

ตั้ง นะโม สามจบ

พุทธัง อาราธนานัง

ธัมมัง อาราธนานัง

สังฆัง อาราธนานัง

พัทธัง ประสิทธิเม

ธัมมัง ประสิทธิเม

สังฆัง ประสิทธิเม

ขอโทษทีนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะแย้งนะครับ

บัวบังใบ ไม่ใช่พุทธคุณครับ ใช้บทอาราธนา นี้ไม่ได้นะครับ

คนละอย่างกันครับ  เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดกัน

340
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

สมาธิที่ไม่มีศีลเป็นพื้นฐานนั้น มันจะขาดคุณธรรมคุ้มครอง
ขาดซึ่งหิริและโอตตัปปะ ทำให้เกิดอัตตาและมานะทิฏฐิ คือการหลงตัวเอง คิดว่าตนเองนั้น
บริสุทธิ์กว่าผู้อื่น เก่งกว่าผู้อื่น ดีกว่าผู้อื่น ซึ่งเป็นการผิดทาง


กระผมจะขอนอบน้อมจดจำคำสอนของพระอาจารย์ เพื่อเตือนสติเป็นหลักในแนวทางปฏิบัติเพื่อทางที่ถูกต้องต่อไป  :054:

341
กราบมนัสการหลวงพี่ญาครับ  :054:

กระผมขอกราบร่วมแสดงมุทิตาจิตด้วยนะครับ ขอให้หลวงพี่ญา สุขภาพแข็งแรง  :054:

และกราบขอบพระคุณทุกๆความเมตตาที่มีให้ต่อผมด้วยครับ  กระผมจะไม่ลืมเลยครับ
 :054:

 :054:  :054:  :054:  :054:   :054:

342
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมไว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

343
ทุกสิ่งจะดีได้ผมว่าอยู่ที่ตัวคนด้วยอะครับ  :001:

344
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมปฏิบัติต่อไป  :054:

345
ตั้งนะโม 3 จบ

นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู

สัพพะประสิทธิมัง ปิยัง มะมะ


หรือ ของพระอาจารย์โด่ง  วัดทุ่งเว้า

นะ รึ รือ ลึ ลือ อึ อือ ออแอ ออ อา เมตตา พุทโธ

หรือบทนี้ท่องใว้ในใจ

เมตตา คุณณัง อะระหัง เมตตา

ก่อนท่องคาถาเมตตาจิตต้องคิดแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นกุศลคิดแล้วให้ใจสบายๆ ก่อนท่องยิ่งดีนะครับ

346
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสั่งสอนของพระอาจารย์ไปปฏิบัติต่อไป จะมีสติอยู่กับหิริและโอตตัปปะ ให้มากขึ้นครับ  :054:

348
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่เมตตาให้ความรู้ครับ  :054:

349
ขอบคุณครับพี่เอ็กซ์ที่นำมาให้ชม สวยๆทั้งนั้น  :015:


350
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:
 
ขอบพระคุณที่เมตตานำมาให้ชม งดงามจริงๆครับ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับพระอาจารย์ อุณหภูมิอยู่ที่ 19 องศาคงอากาศหนาวมาก ด้วยความเคารพครับ :054:

351
ขออนุโมทนาด้วยนะครับพี่ตี๋
ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศแล้วครอบครัวอันอบอุ่นมากๆครับ
เร็วๆนี้ คงได้ไปเที่ยวสมุทสงครามบ้างครับ

352
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมไปปฏิบัติต่อไป  :054:

อนุโมทนาสาธุกับลุงต้อด้วยนะครับ  :054: หากมีโอกาศอยากให้ลุงต้อพาไปบ้างจังครับ  :001:

353
งดงามมากครับพี่เอ็กซ์ ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

354
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
สิ่งสำคัญที่ญาติโยมขาดหายไปนั้น คือความมั่นใจในตนเอง ขาดความเชื่อมั่น
ศิษย์นี้ยังเป็นบุคคลที่ยังขาดความเชื่อมั่นอยู่ แต่ศิษย์จะพยายามปฏิบัติเพื่อให้รู้และเข้าใจในตัวเอง และ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นครับ  :054:

355
ขอบคุณพี่ชาญมากครับ ขอให้หลวงลุงหายอาพาธเร็วๆนะครับ   :054:

356
งดงามเหนือคำบรรยาย เนื้อเงิน :054:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

357
พี่ chotipat   25;  13;

น้ำใจสุดยอดครับ

358
รุ่น1 รุ่น 2 กับ รุ่นปี 2500 น่าจะคนละรุ่นกันนะครับ

แต่บล็อคข้างหน้าน่าจะใช้บล็อคเดียวกัน

ผิดพลาดขออภัย เพราะผมรู้มาแค่ว่า บล็อครุ่น1 2 กับ 2500 ด้านหน้า ใช้บล็อคเดียวกัน

359
โหอลังการ กับเนื้อเงิน จริงๆครับ สุดยอด

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม สวยๆทั้งนั้น

360
ขอบคุณครับสำหรับกิจกรรมดีๆ  :015:

ข้อ1 คือ ปลาฉลามประหลาดที่มีชื่อว่าปลาโรนัน

ที่เหลือหากันเอาเองนะครับ  :095:

361
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณ เรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนในการกระทำ /  ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน /
ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูนจ์คน

ศิษย์ขอจดจำใว้เป็นหลักแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไปครับ 

362
กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอให้พระอาจารย์เดินทางปลอดภัยนะครับ  :054:

363
สวยจริงๆเลยครับพี่เจมส์ สุดยอด

ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

364
สุดยอดเลยครับพี่ สวยงามจริงๆครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :054:

365
ขอบคุณพี่ชาญมากครับ

ขอให้หลวงลุงต้อยท่านสุขภาพแข็งแรง แผลหายไวๆนะครับ   :054:


366
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมไปเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

367
ขอบคุณครับสำหรับกิจกรรมดีๆ  :015:

368
กราบมนัสการหลวงลุงต้อยครับ ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงเร็วๆนะครับ  :054:

369
กราบมนัสพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมปฏิบัติต่อไป   :054:

370
งดงามมากครับ  :015:

ได้ฝังตะกรุดด้วย ยินดีด้วยนะครับ  :015:

372


ฝังตะกรุดทองคำครับ :001:

สุดยอดเลยครับพี่เอ็กซ์ ของดีเยอะจริงๆ  :015:

373
ขอบคุณพี่ชาญมากครับ

ขอให้การผ้าตัดเป็นไปด้วยดีนะครับ ขอให้หลวงลุงหายใวๆ  :054:

374
ขอบคุณพี่บัฟ ขอให้หลวงปู่อั๊บท่านหายเร็วๆ  นะครับ   :054:

375
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

๑.ไม่มีความอาฆาตใคร
๒.มีสติอยู่ทุกเมื่อ
๓.มีสมาธิอยู่ภายใน
๔.บรรเทาความอยากในจิตใจ
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า " บุคคลผู้ใด ได้มีคุณธรรมทั้ง ๔ ประการนี้ บุคคลผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในคำสอนของเราตลอดกาล "


ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติตามต่อไป  :054:

376
กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอบพระคุณที่เมตตาที่ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง  :054:

378
สวยครับ  แต่ละองค์สวยๆทั้งนั้น รอสายตรงมาฟันธงอีกทีนะครับ
พระปรกโพธิ์พิมสะดุ้งกลับ ว่ากันว่ากลับร้ายกลายเป็นดีนะครับ   
เป็นวิชาสายเดียวกับของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว 
 

379
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป :054:

380
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรี่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

                                อย่าดูหมิ่น   บาปกรรม   อันน้อยนิด
                               จะไม่ติด    ตามต้อง     สนองผล
                               เหมือนตุ่มน้ำ  เปิดหงาย รับสายชล
                               ย่อมเปี่ยมล้น  ด้วยอุทก ที่ตกลง

ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำใว้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

381
เพียงแป๊ปเดียว คนเพียบเลยครับ  :074:

หนูขอกุมารเทพนะครับ   15;

382
ระดับพี่ ๗๗๗  สายตรงถ้าไม่แท้ ผมก็ไม่รู้จะพูดว่าไงและครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :015:

383
ขอบคุณครับสำหรับกิจกรรมดีๆ  วันนี้ของรางวัล มีตั้ง 3 ชุดแหนะครับ

หน้าเสือลงยาสวยงดงามมากครับ รุ่นนี้พิธีดีมาก   :015: รีบตอบๆเข้ามานะครับ  


384
อนุโมนาด้วยนะครับ ได้ของดีเพียบเลย   :015:

เจอพี่ๆ แก็งค์เสน่ห์เขาป่าว ครับ อิอิ

385
ขอบคุณครับได้สาระดีๆอีกแล้ว :053:ผมเคยนั่งสมาธิแต่ได้เดี๋ยวเดียวใจก็แว๊บไปคิดอย่างอื่นอีกแล้ว :070:จะลองนั่งสมาธิใหม่อีกครั้ง

จิตคนเรา นั้นเหมือนลิงครับ ธรรมชาติของลิงมันอยู่ไม่นิ่ง  
ต้องค่อยๆฝึกไป ใจเย็นๆครับ อย่ารีบร้อน ลองใช้วิธี นับเลขก็ได้ครับ เพื่อให้จิตมันจับอยู่กับตัวเลข
ถ้าคิดเรื่องอื่น พยายามมีสติรู้ตัวให้รู้ว่ามันคิด ถ้าลืมตัวเลขให้มานับ 1 ใหม่ ครับ

มีอะไรปรึกษาท่านพระอาจารย์ รวี สัจจะ ได้ครับท่านเมตตาชี้แนะแนวทางให้เสมอ
หรือถามพี่ pepsi  หรือพี่ derbyrock ได้ครับ พี่ๆแต่ละท่านเก่งๆทั้งนั้นเลย  :001:


386
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปเพื่อความ ลด ละ เลิก
ในกิเลส ตัณหา อัตตา อุปาทานทั้งหลาย เพื่อความจางคลายของกิเลสทั้งหลาย นั้นคือเป้าหมายของการปฏิบัติธรรม...


ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำคำสั่งสอนของพระอาจารย์เพื่อไม่ให้ดำริผิดพลาดหรือหลงผิดอีก จะพยายามเตือนสติตัวเองอยู่เสมอครับ..  :054:

387
ขอบคุณพี่มากครับ  สมาธิคือการทำจิตให้รวมเป็นหนึ่ง

388
ขอให้เดินทางปลอดภัยครับพี่  ...... ช่วงนี้ใกล้สอบ คงอดไปสักระยะ  :001:

389
ถ้าอยากหาของเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจละก็ ไปบูชาที่วัดบางพระได้ครับ
ราคาทำบุญก็ไม่แพง แถมทำบุญกับวัดโดยตรง
ที่ผมเห็นตั้งแต่ครั้งแรกๆทีไปวัด คือสาริกาไม้คู่ที่เลี่ยมพลาสสติกบูชาใว้ให้แล้ว รู้สึกน่าจะเป็นของเก่า
หรือจะเป็นปลาตะเพียนแกะจากงาผมเห็นในตู้ที่วัด ประมาณ ปี 3 กว่าๆ ทันหลวงปู่ท่านเสกด้วย ราคาทำบุญไม่แพงครับ

ไปกราบสังขารบอกหลวงปู่เปิ่น ฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน และไปลงนะหน้าทองหน่อยก็ดีครับ(ลงทองที่หน้าผากเอาทองแปะเฉยๆไม่ต้องสักด้วยเข็ม) ขอให้โชคดี  

ของพวกนี้อยากใช้ให้เห็นผล ต้องอยู่ที่ตัวบุคคลด้วยครับ ขั้นแรกๆพื้นฐาน ก็ทำบุญก่อน ไม่ต้องทำเยอะ แต่ทำบ่อยๆ แล้วแต่โอกาศและจังหวะครับ
ทำแล้วให้ใจสบายไม่ทุกข์ ผลของบุญมีแน่นอน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ สิ่งศักสิทธิ์ที่เรานับถือ
แล้วค่อยศึกษาเรื่องการปฏิบัติ ผมว่าไม่ยากหากคุณตั้งใจจริง

390
ขอบคุณพี่ตี๋ และ ทุกท่านมากครับ สำหรับความรู้ดีๆ
การสวดมนต์ก็ถือเป็นการทำสมาธิอย่างนึง
สมาธิฝึกได้ทุกขณะ อย่างที่พระอาจารย์ท่านว่าไว้ ไร้รูปแบบแต่ไม่ไร้สาระ

อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ

391
นะโม ๓ จบ
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ

ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ

สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิฯ

อักขระยันตัง อาราธนานัง กะโรมิฯ

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ

นะอุด โมอัด  นะโมพุทธายัด  ตันอึฯ

อะนิทัสสะนะอัปปะติ

อะนิทัสสะนะอัปปะติคา

อนิทัสสะนะอัปปะติคาตายะฯ

อุ สะ หะ สะ ปะ สะ อุฯ

นะมะพะทะ จะภะกะสะฯ

พุทธังประสิทธิ มหาประสิทธิ

ธัมมังประสิทธิ มหาประสิทธิ

สังฆังประสิทธิ มหาประสิทธิ โสมาเร โสมาเรสะ โสมาเรสะฯ

อีกตำราหนึ่งครับ

พุทธบูชา ปฎิหาโร อันขระยันตัง อิอิ วิเสเส อภิปูชะยามิ โสมาเรสะฯ

แบบที่ ๓

นะโมพุทธายะ มะอะอุ ยะธาพุทโมนะ อุอะมะฯ

เลือกใช้ตามสะดวกนะครับ

เมื่ออาราธนาตะกรุดแล้ว จะคาดติดตัวให้ภาวนาคาถาดังนี้ครับ
คาถาคาดตะกรุด
 นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอ ออ นอ อะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง
 อะสุนะอะ ฯ
(บริกรรมก่อนคาด)

- สัตถาเทวะมนุสสานัง ฯ(ภาวนาตอนจะคาด)

- อิมัง กายะพันธนัง อธิษฐามิฯ (บริกรรมขณะคาด)

- พุทโธ ภควาติ ฯ (บริกรรมเมื่อแก้ปมออก)




อีกบทนึง ส่วนตัวผมใช้บทนี้ของข้างดีครับ คือ

คาถาครอบจักรวาล  

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ

นะมะนะอะ นอ ออ นอ อะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ

นะมะพะทะ จะภะกะสะ นอ กอ นอ กะ เอหิจิตตัง มะนุสสานัง ปิยัง มะมะฯ  

 

ภาวนาปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

ป้องกันอันตรายทุกอย่าง

มีเสน่ห์เมตตามหานิยมทุกทางร้อยแปดประการ

เลือกใช้ตามสะดวกเลย
เครดิตจากพี่อชิตะ บ้านวัดชายนานะครับ ....ขอบคุณครับ

392
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ดูความเจริญก้าวหน้าในธรรมและความย่อหย่อนในธรรม ที่เกิดขึ้นในกายและจิตของเรา
วิเคราะห์หาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เป็นไปอย่างนั้น ทั้งในความเสื่อมและความเจริญ ยอมรับในความเป็นจริงในสิ่งที่เป็น
ไม่ลำเอียงเข้าข้างตนเอง โดยหาข้ออ้างว่าเป็นเพราะอย่างนั้น เป็นเพราะอย่างนี้ ที่มาเป็นอุปสรรค มาเป็นปัญหาทำให้
เราไม่เจริญก้าวหน้าในทางธรรม ไม่ไปโทษผู้อื่นและสิ่งอื่น ดูที่กายและใจของเราที่หวั่นไหวคล้อยตามไปกับกิเลสตัณหา
ความประมาทขาดสติของตัวเรา ไม่ไปเพ่งโทษผู้อื่น หรือหาผู้อื่นมารับโทษแทนเรา


ศิษย์ขอนอบน้อมไปปฏิบัติต่อไป  :054:

393
อนุโมทนาด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับบทความ

มีสติทำแต่กรรมดีอันเป็นกุศล เจริญๆ สาธุ  




394
ธรรมะ / อกุศลเจตสิก / กุศลเจตสิก
« เมื่อ: 24 ก.ย. 2553, 09:53:30 »
เจตสิก (อ่านว่า เจตะสิก) แปลว่า ธรรมที่ประกอบกับจิต, สิ่งที่เกิดในใจ, ทางใจ

เจตสิก หมายถึงองค์ประกอบของจิต อาการหรือการแสดงออกของจิต จัดเป็นสมรรถนะหรือคุณสมบัติของจิต
อาการที่ประกอบกับจิตนั้น มีลักษณะ 4 ประการ คือ

            1. เกิดพร้อมกับจิต   2. ดับพร้อมกับจิต    3. มีอารมณ์เดียวกับจิต    4. อาศัยวัตถุเดียวกับจิต

จิตและเจตสิกที่อิงอาศัยกันนี้ ถ้าเปรียบจิตเป็นน้ำ เจตสิกเป็นสีแดง ผสมกันเป็นน้ำแดง เมื่อผสมกันแล้วไม่สามารถแยกน้ำออกจากสีแดงได้ฉันใด จิตและเจตสิกก็ไม่สามารถแยกออกจากกันเป็นอิสระได้ฉันนั้น  สภาวธรรม รวม 4 ประการของเจตสิก มีดังนี้

 

1.  ลักษณะของเจตสิกคือ                   มีการอาศัยจิตเกิดขึ้น
2.  กิจการงานของเจตสิกคือ              เกิดร่วมกับจิต
3.  ผลงานของเจตสิกคือ                     รับอารมณ์อย่างเดียวกับจิต 
4.  เหตุที่ทำให้เจตสิกเกิดขึ้นได้ คือ  การเกิดขึ้นของจิต 
 
อกุศลเจตสิก 14 1.โลภะ ความต้องการในสิ่งยั่วยุไม่รู้จักเต็ม 2.อิสสา ความริษยาในใจอยากได้เหมือนของผู้อื่น 3. มัจฉริยะ ตระหนี่หวงแหนยึดไว้แต่ผู้เดียวจนไม่เกิดคุณ 4. โทสะ ความหงุดหงิดโมโหร้ายพยาบาทหรืออาฆาต 5. อหิริกะ ความหน้าด้าน ไม่ละอายต่อการทำชั่ว 6. อโนตตัปปะ การกระทำความชั่วโดยไม่หวั่นกลัวต่อบาปกรรม 7. อุทธัจจะ ความคิดมากฟุ้งซ่าน จิตใจไม่สงบ 8. กุกกุจจะ ความกลุ้มใจ กังวลใจ กระวนกระวายใจ ร้อนใจ 9. ถีนะ ความหดหู่ เศร้าซึม ง่วงซึม จิตตก หมดกำลังทำงาน 10. มิทธะ ความท้อแท้ ถอดใจ หมดกำลังใจ 11. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยไม่แน่ใจในคำสอนที่จะปฏิบัติตาม 12. โมหะ ความโง่เขลา ความเข้าใจผิด เชื่อตามข้อมูลที่ผิดๆ 13. ทิฏฐิ ความเห็นที่ทำให้ตนหลงยึดติดอย่างเหนียวแน่น 14. มานะ ความหยิ่งทะนงตนจนไม่ยอมรับคำแนะนำจากใคร

กุศลเจตสิก 25 1. สัทธา มีความมั่นใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างมั่นคง 2. สติ มีสติสัมปชัญญะอยู่อย่างไม่ประมาททั้งในเวลาจุติ 3. หิริ ละอายต่อการทำชั่ว ไม่หน้าด้าน 4. โอตัปปะ เกรงกลัวต่อบาปที่จะตามมาจากการกระทำของดัว 5. อโลภะ ความโลภลดลง ไม่ต้องการตามสิ่งยั่วยุ 6. อโทสะ ความโกรธลดลง ไม่หงุดหงิดโมโหร้าย 7. ตัตรมัชณัตตตา จิตนิ่งเฝ้าสังเกตอยู่กับสิ่งที่ทำโดยไม่วอกแวก 8. กายปัสสัทธิ ผิวพรรณผ่องใส มีราศีดี ร่างกายไม่เกร็งตัว 9. จิตตปัสสัทธิ จิตใจผ่องใส สุขภาพจิตดี สบายใจ 10. กายลหุตา ตัวเบา กายเบา ร่างกายผ่อนคลายทุกสัดส่วน 11. จิตตลหุตา สบายใจ มีจิตร่าเริงเบิกบาน ไม่เคร่งเครียดในใจ 12. กายมุทุตา ร่างกายอากัปกิริยานุ่มนวลอ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง 13. จิตตมุทุตา จิตใจดีนุ่มนวลมีอัธยาสัยดี มีเมตตาจิต 14. กายกัมมัญญตา ร่างกายเหมาะกับงานทุกอย่าง 15. จิตตกัมมัญญตา จิตใจเหมาะกับการใช้งานทางสมอง 16. กายปาคุญญตา ร่างกายทำงานได้คล่องแคล่วว่องไว 17. จิตตปาคุญญตา มีความคิดรวดเร็วลึกซึ้งละเอียดในทุกเรื่อง 18. กายุซุกตา คล่องแคล่ว มั่นคงอยู่กับการฝึกนั้นๆได้ 19. จิตตุซุกตา จิตมุ่งตรงไปกับสิ่งที่คิดอย่างมุ่งมั่น ไม่เสียสมาธิ 20. สัมมาวาจา การพูดมีความสุภาพนุ่มนวล ไม่ไร้สาระ 21.สัมมากัมมันตะ พฤติกรรมดี ไม่ก่อโทษให้ใครๆ 22. สัมมาอาชีวะ มีการประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่ทุจริตฉ้อโกง 23. กรุณา มีความสงสารและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความลำบาก 24. มุฑิตา พลอยมีใจยินดีด้วยกับผู้อื่นที่ได้ดี ไม่ริษยา 25. ปัญญา ปัญญาที่รู้ความจริงของชีวิตได้อย่างถูกต้อง

ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.abhidhamonline.org/thesis/cetasika/cetasika.htm
และเวปพลังจิต ขอบคุณครับ
หากมีคนเคยนำมาลงแล้ว ต้องขออภัยด้วย

395
ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วได้ความรู้ดีๆอีกมากเลย
จะนำเอาไปปฏิบัติตามนะคะ

เรื่องการฝึกจิตให้มีสมาธินั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
ยังต้องศึกษาอีกเยอะค่ะ โดยได้รับคำสั่งสอนและชี้แนะ
จากท่านพระอาจารย์โด่ง (พระอาจารย์ รวี สัจจะ)
มาบ้างแล้ว และกำลังพยายามฝึกฝนต่อไปอยู่ค่ะ

                                            ขอบคุณมากนะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับพี่สาวด้วยนะครับ  :054:

396
ขอบคุณมากครับ สำหรับของรางวัล และกิจกรรมดีๆ

อนุโมทนาด้วยนะครับ ขอให้มีความสุข ความเจริญ  :054:

397
ถ้าคนเดียวสักหลายสำนักแล้วของตีกันมีครับ เพราะแรงครู  บางที่เขาถึงห้ามไปสักที่อื่น


แต่คนที่สักต่างสำนักมาเจอกันแล้วไม่ถูกกันเนี่ยหรือของขึ้นใส่กัน ผมว่าเป็นที่คนมากกว่านะครับ  :095:

บางคนสำนักเดียวกันเองก็เคยเห็นทำเป็นของขึ้นต่อยกันใหญ่เลย ผมหละงง สงสัยไม่ชอบขี้หน้ากันมั้งครับ55+  :004:

398
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ    :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

399
1.วิกขัมภนปหาน

2.สมุจเฉทปหาน

3.อภิญญาจิตให้เกิดขึ้นได้

4."เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน"

5.บทสวดพระอภิธรรม ๗ คำภีร์   เป็นบทสวดธรรมขั้นสูงสุดครับ  ธรรมะขั้นสูง ที่กล่าวถึง จิต เจตสิก รูป และนิพพาน

ขอตอบใหม่เลยครับ ขอบคุณครับ  

ใครที่ตอบถูกขอให้ทุกท่านโชคดีครับ

400
ธรรมะ / สมถกรรมฐาน ระงับนิวรณ์ ๕
« เมื่อ: 23 ก.ย. 2553, 07:59:47 »
ภาวนาพุทโธไปจนกว่าจิตจะสงบ มีความสว่าง มีปีติ มีความสุข อันเป็นสมาธิขั้นสมถกรรมฐาน มีจุดมุ่งหมายที่จะระงับนิวรณ์ ๕ ประการ คือ กามฉันทะ ความใคร่ในกามหรือความสุขสบาย พยาปาทะ ความพยาบาทเคียดแค้น ถีนะมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำคาญ วิจิกิจฉา ความลังเลไม่ตกลงใจที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเข้าแลก นี่คือจุดมุ่งหมายของการเจริญกรรมฐานขั้นสมถะ

กรรมฐานอันใดที่เนื่องด้วยบริกรรมภาวนาพุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอพองหนอ เป็นวิธีการปฏิบัติสมถกรรมฐาน ใครปฏิบัติบริกรรมภาวนาอะไรก็ได้ จุดมุ่งหมายเพื่อระงับนิวรณ์ ๕ ให้สงบระงับไปจากจิตในขณะที่ภาวนาอยู่

กรรมฐานอันใดสามารถทำจิตให้สงบ สว่าง มีปีติ มีความสุข มีความเป็นหนึ่ง จิตรู้ ตื่น เบิกบาน นิวรณ์ ๕ หายไปหมดสิ้น กรรมฐานอันนั้นเป็นกรรมฐานที่ถูกต้องใครจะภาวนาแบบไหนอย่างไรก็ตาม เมื่อสามารถทำจิตให้สงบนิ่งเป็นสมาธิ ขจัดนิวรณ์ ๕ ได้ เป็นการใช้ได้ทั้งนั้น ดังนั้น ณ โอกาสต่อไปนี้ ขอเชิญท่านทั้งหลายจงบริกรรมภาวนา ใครคล่องตัวในการบริกรรมภาวนา พุทโธ ก็ว่า สัมมาอรหัง ก็เอา ยุบหนอพองหนอ ก็ใช้ได้ หลักสำคัญ ให้ขจัดนิวรณ์ ๕ ได้ เป็นจุดมุ่งหมายของการเจริญสมาธิขั้นสมถะ อันนี้สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสำหรับผู้ที่ภาวนาเก่งแล้ว จิตมีภูมิจิต ภูมิใจ มีภูมิธรรมเกิดขึ้น เมื่อภาวนาไป จิตเกิดมีความคิด ให้มีสติกำหนดตามรู้ความคิดเรื่อยไปสำหรับผู้ใหม่ ภาวนาพุทโธ พุทโธ เป็นต้น เมื่อจิตทิ้งพุทโธไปคิดอย่างอื่น ให้กลับมานึกพุทโธๆๆ ถ้าจิตสงบลงไปแล้ว หยุดว่าพุทโธ แต่มีปีติ มีความสุข นิ่ง ว่าง อยู่เฉยๆ ก็ปล่อยให้นิ่งว่างอยู่อย่างนั้น ถ้าหากเกิดความคิดขึ้นมา ปล่อยให้คิดไป แต่มีสติตามรู้ไปทุกขณะจิต นี่คือจุดเริ่มต้นของการภาวนา

อย่ากลัวติดสมถะ
สมาธิขั้นสมถะนี่ต้องเอาให้ได้ ต้องพยายามบริกรรมภาวนาเอาให้ได้ ให้จิตสงบ นิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน มีปีติ มีความสุข กายเบา จิตเบา กายสงบ จิตสงบ นิวรณ์ ๕ หายไป ความฟุ้งซ่านรำคาญหายไป มีแต่ปีติและความสุขบังเกิดขึ้นในจิต

จิตมีปีติและความสุขเป็นภักษาหาร ผู้ภาวนาย่อมอยู่อย่างสงบเยือกเย็น หาความสุขอันใดจะเทียมเท่าความสงบจิตที่ประกอบด้วยปีติและความสุขไม่มีแล้วดังนั้น อย่ามองข้ามความสงบ อย่ามองข้ามสมาธิ ต้องให้เอาสมาธิให้ได้อย่าไปกลัวจิตจะติดสมาธิ ถ้าจิตไปติดความสงบ ติดสมาธิ ดี ดีกว่าไปติดอย่างอื่น ให้มันติดสมาธิ ติดความสงบเอาไว้ก่อน อย่าไปกลัว บางทีบางท่านภาวนาพุทโธแล้วกลัวจิตจะติดสมถะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่เคยเป็นสมถะ จิตยังไม่สงบเป็นสมถะ ยังไม่สงบเป็นสมาธิ แต่ไปกลัวจิตจะติดเสียก่อนแล้ว ในเมื่อเกิดกลัวขึ้นมา จิตก็ไม่เป็นสมาธิ เมื่อไม่เป็นสมาธิ วิปัสสนาก็ไม่มี ต้องเอาจิตให้เป็นสมาธิก่อน อันนี้สำหรับผู้ปฏิบัติเบื้องต้น ต้องยึดอันนี้เป็นหลัก

หากมีผู้เคยนำมาลงแล้ว ต้องขออภัยด้วยครับ
ที่มาจากเวป  http://www.thaniyo.com/index.php/2009-05-03-02-45-43

401
ข้อ5.ขอเพิ่ม อีกบท บทสวดพระไตรปิฎก

ตอบหยั่งกะหว่านแห  แต่คงไม่ผิด  กติกานะครับ  :095:

ขออนุญาติเพิ่มคำตอบในข้อที่ 5 ครั้งสุดท้าย

402
ข้อที่ 5 เพิ่ม บทสวดพระอภิธรรม ๗ คำภีร์
เผื่อฟลุค  :001:

403
1.วิกขัมภนปหาน

2.สมุจเฉทปหาน

3.อภิญญาจิตให้เกิดขึ้นได้

4."เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน"

5บทสวดธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร

บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วก็  พาหุง

บทสวด 12 ตำนาน  มงคลสูตร

มั่วตามเคยครับ

ขอบพระคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ  :001:

404
ผมดูไม่เป็นหลอกครับ แต่ผมว่าเหรียญบวมนะครับ  :075:



รอสายตรงมาฟันธงอีกที

405
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

มีสติแนบอยู่กับตัวรู้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พิจารณาลมหายใจเป็นพระไตรลักษณ์ พิจารณากายคตานุสติ
คือพิจารณาร่างกายของเราเอง ให้มันชัดแจ้ง ทั้งกายภายนอกและกายภายใน เมื่อเราเห็นกายและจิตของเราแล้ว
เราก็จะเห็นและเข้าใจในกายและจิตของผู้อื่นเช่นกัน


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

406
ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์มาเล่าให้ฟังกัน บารมีหลวงพ่อท่านคุ้มครองครับ

วันหลังตรวจทานพิมพ์ให้ถูกต้องหน่อยก็ดีนะครับ ผมหละงง   :075:

407
ขอบคุณมากครับ สำหรับของรางวัล และ กิจกรรมดีๆ อนุโมทนาด้วยครับ

408
ประวัติวัดพระธาตุจอมศีล
ตำนานบริเวณวัดพระธาตุจอมศีลในปัจจุบัน ได้มียักษ์ 2 ตน ซึ่งเป็นสามีภรรยากันและเป็นยักษ์ที่รักษาและอยู่บริเวณภูเขานี้มานาน อาหารของยักษ์ก็คือสัตว์ต่างๆ  จากนั้นได้มีพระพุทธเจ้าเสด็จมาบริเวณน้ำออกฮูในปัจจุบันนี้ และในเวลานั้นได้มี ยักษ์ที่หิวมากมาหาอาหารก็ได้พบพระพุทธเจ้าซึ่งได้เสด็จมาบริเวณนั้น จากนั้นยักษ์ คิดว่า มีอาหารแล้วและจะจับพระพุทธเจ้ากินเป็นอาหาร และในทันใดนั้นก็จับพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าก็แสดงอิทธิฤทธิ์โดยยักษ์ก็จะร้อนเป็นไฟจนยักษ์บอกว่าพอแล้วข้ายอมแล้ว และพระพุทธเจ้าบอกว่าเราหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด พอยักษ์หยุดคิดที่จะกินพระพุทธเจ้าแล้ว  จากนั้นจึงยอมทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าได้สั่งสอนไว้และได้และได้จำศีลอยู่ที่ภูเขาและต่อมาชาวบ้านได้มีการสร้างวัดซึ่งได้มีชื่อว่า  วัดพระธาตุจอมศีล และได้สร้างหอเจ้าพ่อล้านช้าง
ไว้ที่สวนรุขชาติที่ตำบลบ้านถ้ำไว้

ที่มาของข้อมูลจากเวป
http://www.phrathatjomsin.com/blackup/new/newsflash8.html

409
วัดพระธาตุจอมศีล ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใด้ จังหวัดพะเยา  ครับ  :075:

410
พี่น้องชาวบางพระ แซวกันเล่นๆ อย่าไปซีเรียสเลยครับท่านขุนแผน   :095:

หัวข้อกระทู้นี้ในความคิดส่วนตัวของผม  ถ้าเป็นศิษย์วัดบางพระหละก็ครูบาอาจารย์ท่านจะสักให้ติดมากน้อยแค่ไหน
เป็นผมคงไม่กล้าไปขอย้ำให้เข้มหลอกครับ  นอกจากท่านจะสักให้เอง
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านให้มาดีหมด เป็นลูกศิษย์มีหน้าที่เชื่อฟังเคารพ ตอบแทนท่าน ก็พอแล้ว
ไปขอให้ท่านสักให้เข้มเหมือนเป็นการรู้ดีกว่าท่าน จึงเป็นการไม่เหมาะสม


ครับพี่เอ็ม แซวบ่อยๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกันนะครับ เหอะ ๆ
ชอบยกเรื่องเสื่อมเสียของผู้นั้นมา ขุดขึ้นมา ทำให้ผู้นั้นอับอายนะครับ  
ด้วยความเคารพครับพี่ ..  :001: :001:

ครับ มันเป็นเรื่องของกรรมครับ สมัยก่อนท่านไปทำอะไรใว้หละครับ    :075:
ก็แน่นอนก็ย่อมมีเป็นธรรมดา หากเรามีขันติ มีความอดทน เฉยๆซะเดี๋ยวก็ดีเอง
ลูกผู้ชายไหนกล้ายอมรับผิดได้ ก็ต้องอดทนได้สิครับ นี่ถือว่าชนะใจตัวเอง
ความผิดเก่าๆที่เขายกที่ขุดกันขึ้นมา ก็เกิดจากท่านทำจริงๆทั้งนั้นหละครับ จริงใหม
 

411
 :075: ว่านนี้น่ากลัวจังครับ


แนะนำเพื่อนๆ สักหัวข้อกระทู้นะครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,12291.html

412
ยินดีกับพี่ Chotipat  ผู้ได้รับรางวัลด้วยนะครับ    :015:

ยินดีกับก็อตด้วยครับ   :016:

 :053:  :053:  :053:  :053:

413
พี่น้องชาวบางพระ แซวกันเล่นๆ อย่าไปซีเรียสเลยครับท่านขุนแผน   :095:

หัวข้อกระทู้นี้ในความคิดส่วนตัวของผม  ถ้าเป็นศิษย์วัดบางพระหละก็ครูบาอาจารย์ท่านจะสักให้ติดมากน้อยแค่ไหน
เป็นผมคงไม่กล้าไปขอย้ำให้เข้มหลอกครับ  นอกจากท่านจะสักให้เอง
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านให้มาดีหมด เป็นลูกศิษย์มีหน้าที่เชื่อฟังเคารพ ตอบแทนท่าน ก็พอแล้ว
ไปขอให้ท่านสักให้เข้มเหมือนเป็นการรู้ดีกว่าท่าน จึงเป็นการไม่เหมาะสม

414
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

เอาหลัก   ของพระธรรม     มาน้อมนำ ปรับให้เป็น
สอนให้   รู้จักคิด              และพินิจ  เมื่อพบเห็น
คิดเป็น    และทำเป็น         ความลำเค็ญ จะหมดไป
ให้รู้   คุณและโทษ            เป็นประโยชน์ ใช่หรือไม่
สิ่งที่  กระทำไป               ผลที่ได้  อย่างไรกัน


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

415
แป่ววววววววววววว 5555+  :095:

416
ภาพที่1คือกำลังเดินอยู่ และกำลังมองอะไรบางอย่าง
ภาพที่ 2 หยุดเดิน คนข้างหลังหายไป  3 คน คือ เสื้อม่วง เสื้อขาว และเสื้อเทา
ภาพที่ 2 ป้ายไม่มี  มอไซค์ไม่เหมือนกันเห็นต่างกันระหว่างภาพที่1และ2  หลอดไฟไม่เหมือนกันภาพ1และ2
ภาพ1 และ 2 ตรงขาขยับท่าทางไม่เหมือนกัน   ตรงเก้าอี้สีแดง  ตรงน้ำที่พื้นถนน  กระบอง ตรงธง  เงากระจกด้านหลัง   เส้นถนน  ไม่เหมือนกันทั้งภาพที่1และ2

ภาพที่1และ2 ตรงคนตรงรถมอไซต์ ภาพที่1มี ภาพที่2 ไม่มี

ท่าถือกระดาษต่างกัน ท่าของตำรวจท่าที่1และ2ต่างกัน

เงาตำรวจภาพที่ 1 และ 2 ไม่เหมือนกัน  ตรงป้าย ตรงข้างๆลอยน้ำที่มีเหมือนใบไม้สีเหลือง  ตรงข้างป้าใส่เสื้อสีชมพูมีกระดาษสีขาว

เก้าอี้สีดำ ภาพที่ 1 มี 3ขาเต็ม ภาพที่ 2 เห็น  2 ขา
ตรงหลังคาด้านบนเห็นไม่เหมือนกัน

ตรงรถมอไซค์ ภาพที่1และ 2 ต่างกัน

มั่วไปเลยยาวๆนะครับ ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ  :001:




417
อนุโมทนาบุญกุศล ในครั้งนี้ด้วยครับ  :054:

418
วันนี้เจอบททดสอบจิต พิมพ์งานเสร็จแล้ว กำลังจะส่งตั้งกระทู้ แอร์การ์ดมีปัญหา
เน็ตหลุด ข้อมูลที่พิมพ์ไว้หายหมด ต้องเขียนใหม่ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
ปรากฏว่า ต้องเขียนถึงสามครั้ง จึงจะส่งข้อความตั้งกระทู้ได้ ตอนเช้าตีห้าครึ่ง
ครั้งหนึ่ง ตอนเที่ยงอีกครั้งหนึ่ง พึ่งจะมาตั้งกระทู้ได้เอาตอนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว
ความไม่แน่นอน เป็นกฏของพระไตรลักษณ์ เป็นบททดสอบความนิ่งของจิต
ความตั้งใจและความเพียรพยายาม ...มันเป็นเช่นนั้นเอง.....ตถตา...

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์พี่น้องชาวบางพระเสมอครับ  :054:
กุศลใดของพระอาจารย์ผมขออนุโมทนาด้วยครับ  :054:

419
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

เรียนทางโลกนั้น เรียนไปๆก็ยิ่งทำให้กิเลสหนาขึ้นทุกขณะ แต่ถ้าเรามาเรียนธรรมะมาเรียนเรื่องละ
ละโลภ ละโกรธ ละหลง ละกิเลสตัณหา มันก็มีแต่จะเบาบางลง จนไม่มีภาระ เมื่อเข้าถึงธรรมะแล้ว
ใจนั้นก็จะเป็นสุข ไม่ทุกข์อยู่กับโลกธรรมทั้งหลาย "


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไปกราบขอบพระคุณครับ ช่วงนี้พระอาจารย์เดินทางไกลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ  :054:

420
เอาไปทำอะไรเหรอครับ สักมาแล้วก็ใช้ได้ครับไม่ต้องท่องคาถาก็ได้

คาถาบัวบังใบ จะเป็นคาถาแนวต่ำกว่าเอวทั้งนั้น

ของท่านเสกมาดีแล้ว เราไม่ต้องปลุกเสกเพิ่มหลอกครับ

หรือไม่ก็ถามพระอาจารย์ท่านดูก็ได้ เผื่อท่านอาจจะให้หรือแนะนำ 

421
งดงามจริงๆครับพี่บอล สุดหล่อ ของดีๆทั้งนั้นเลย

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม เหรียญรุ่นนี้ สุดยอดจริงๆ

422
สุดยอดจริงๆครับ อนุโมทนาด้วย ครับ  :054:

423




หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม :054:

(ศิษย์หลวงปู่เงิน หลานหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม )

424
ธรรมะ / ตอบ: เราอย่าดูจิตคนอื่น...
« เมื่อ: 20 ก.ย. 2553, 12:33:49 »
ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ สำหรับบทความดีๆเป็นประโยชน์

425
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ความโมโหจะนำไปสู่ความตกต่ำ อย่าไปโมโห โกรธผู้อื่น เพราะความโกรธคือไฟ ซึ่งมันจะเผาไหม้เจ้าของเอง
ถ้าเขาทำตัวไม่ดี มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา การที่เราไปโกรธเขา โมโหเขา จึงเท่ากับเราไปแบกรับ
เอาทุกข์ เอากิเลสของเขามา
ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า...การเพ่งโทษผู้อื่นเขา  มันเป็นการเพิ่มกิเลสให้ตัวเราเอง

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอน ศิษย์ขอนอบน้อมฝึกปฏิบัติเพื่อลดละ ให้ได้ครับ  :054:

426
เรื่องใส้ยื่น ไม่ยื่นเนี่ย ผมว่าน่าเป็นชุดมากกว่านะครับ เช่นแรกๆอาจไม่มีใส้ยื่น ชุดหลังๆอาจมีก็ได้   :095:


427
น้ำมนต์ธรณีสาร  น้ำมันต์ถอนโบสถ์ถอนเสมา  น้ำมนต์มหาเถรตำแย

ทางที่ดีไปที่วัด ที่เชี่ยวชาญทางด้านถอนคุณไสย์จะดีกว่าครับ อย่าทำเอง

เช่นวัดท้องไทร

แต่หากคนนั้นไม่ใช่ตัวเรา ให้ไปถามวิธีแก้ และขอน้ำมนต์มา ผสมน้ำที่บ้าน ทั้งกิน ทั้งอาบ
เพราะของพวกนี้มีหลายแบบ ต้องดูด้วยอะครับว่าโดนอะไรมา

428
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน     :054:

น้อมนำมาคิดและพิจารณาเพื่อให้ศรัทธานั้นเกิด
เพราะว่าชีวิตของแต่ละคนที่ผ่านมาย่อมมีคุณค่า
คุณค่าของชีวิตคือจิตที่ใฝ่หาซึ่งความดีของชีวิต
จงคิดใคร่ครวญทบทวนว่า...เรามีคุณค่าของชีวิตแล้วหรือยัง....


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

429
ขอบคุณพี่ชาญมากครับ ขอให้หลวงลุงต้อยท่านสุขภาพดีขึ้นหายภายในเร็ววัน    :054:

430
ทำไมบัวบังใบของผม ไม่เหมือนกันคนอื่นอ่ะครับ

พระอาจารย์ท่านใด เมตตาสักมาให้อะครับ

ที่ไม่เหมือนกับท่านอื่น ท่านอาจจะเสริมอะไรลงไปด้วยป่าวอะครับ เช่นอักขระล้อมเพิ่มเติม

431
บุญรักษา บารมีหลวงปู่ ครูบาอาจารย์คุ้มครอง ครับ

ขอให้แผลหายใวๆ

432
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม แต่ละเหรียญงดงามจริงๆ ครับ  :015:

433
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน และคำสอนของหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ด้วยครับ  :054:

การปฏิบัติธรรมนั้น คือการทำหน้าที่อย่างมีสติและสัมปชัญญะ
ระลึกรู้และรู้ัตัวทั่วพร้อมอยู่ลอดเวลา มีเจตนาคือกุศลจิตในขณะกระทำ ไม่ก้าวล่วงศีลธรรมและประเพณี
ที่ดีงาม ทำตามหน้าที่และความรับผิดชอบของตน รู้จักเหตุและผลในการกระทำนั้นๆ ก็ได้ชื่อว่าท่านเป็น
ผู้ปฏิบัิติธรรม เป็นผู้มีธรรมและอยู่กับธรรม...


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป พยายามฝึกให้มีสติอยู่กับ กาย วาจา ใจ จิต ให้มากขึ้นครับ  :054:

434
บัวบังใบ ไม่ใช่พุทธคุณครับ

แน้นด้านเมตตา มหาเสน่ห์ครับ เป็นวิชา สายหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

435
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน และคำสอนของหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือด้วยครับ  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสอนทั้งหมด ใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัตติต่อไป  :054:

436
ไม่คิดเลยว่าน้องเอ็มมี่ที่แสนจะรักครอบครัวจะถึงกับเขวได้...555 38;

ไหวป่าวครับพี่ที ไหนเห็นวันนั้นบอกชอบน้องเขาไม่ใช่เหรอ
อย่าโอนมาทีผมสิครับ  :095:

437
พระพุทธรูปศักสิทธิ์  พระปฐมเจดีย์โบราณ คำว่าปฐมแปลว่าที่แรก  สถานที่แห่งนี้คือที่แรกที่ศาสนาพุทธเข้ามาที่ประเทศไทย

พิธีดี พระเกจิสายนครปฐมเสกเพียบครับ สบายใจหายห่วง

ปกติงานพระปฐมเจดีย์แทบทุกปีผมจะไปมนัสการที่องค์พระตลอดเลยครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชม   :015:

438
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน และคำสอนของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพงด้วยครับ  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

439
ขอบคุณข่าวสารงานบุญจากท่านรัตนะมากครับ อนุโมทนาด้วย  :054:

440
ขอบคุณมากครับสำหรับกิจกรรมดีๆ สำหรับพี่น้องชาวเวปวัดบางพระ อนุโมทนาด้วยนะครับ

เหรียญชุดนี้สวยงามมากครับ  :015:

441
สวยงดงามจริงๆครับพี่เจมส์ ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :015:

442


หนุมาน พบ 7 ยอดมนุษย์  13;

ตามลิ้งด้านล่างเลยครับ

http://www.clipmass.com/movie/หนุมานพบ-7-ยอดมนุษย์-1---202017394238965

http://www.clipmass.com/movie/หนุมานพบ-7-ยอดมนุษย์-2---1580111596238977

http://www.clipmass.com/movie/หนุมานพบ-7-ยอดมนุษย์-3---1336014009238981

 :109: :039: 09;



443
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ดูกาย ดูจิต ให้รู้ความคิด ให้รู้การกระทำ มีคุณธรรมคือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

444
ขอบคุณมากครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ  :054:

445
งดงามมากครับพี่บอล สุดยอดเลย

ขอบคุณที่นำมาให้ชมกัน  :015:

446
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์จะตั้งใจปฏิบัติต่อไป ตามแนวทางของพระอาจารย์สอนครับ กราบขอบพระคุณที่เมตตาเสมอมา  :054:


447
ถ้างั้นอย่าเพิ่งลงจะดีกว่าใหมครับ ตามที่เล่ามา  11;

หาบูชาแบบห้อยคอก็ได้ครับ

448
ขอบคุณมากครับสำหรับกิจกรรมดีๆ  อนุโมทนาด้วย

449
พระครูจันทคุณาภรณ์ (หลวงพ่อจำปา จนฺทูปโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่  

ขอตอบมั่วๆไปครับ ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ  :001:

ขอบคุณครับพี่เจมส์ ท่านประธาน ใว้มีโอกาศคงได้ไปครับ อิอิ

  ไม่น่าจะมั่วนะเอ็มนะ ว่างๆเราไปเที่ยววัดทุ่งคอก สุพรรณบุรีกันบ้างดีไหม ขอให้โชคดีนะครับ

                                                                                                  ขอบคุณครับกับกิจกรรมดีๆครับ

ขอบคุณครับพี่เจมส์ ท่านประธาน ใว้มีโอกาศคงได้ไปครับ อิอิ

450
พระครูจันทคุณาภรณ์ (หลวงพ่อจำปา จนฺทูปโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่  

ขอตอบมั่วๆไปครับ ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ  :001:

451
ขอขอบพระคุณสำหรับข่าวสารครับ

ขอให้หลวงลุงต้อยหายใวๆ ครับ  :054:

452
หลวงพี่มาร์ค สักได้สวยงดงามมากครับ ขนาดน้ำมัน  :015:

453
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ทานัง เทติ...การให้ทานนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาอันดับแรก ทำบ่อยๆแล้วความเห็นแก่ตัวก็จะเบาบางลง
รู้จักเสียสละ ไม่ตระหนี่หวงแหน แล้วคุณธรรมที่สูงกว่าดีกว่าก็จะปรากฏขึ้นมาในจิตของผู้นั้นเอง


การให้ทานนั้นเมื่อนึกถึงขึ้นทีไรก็มีแต่ความสุขครับ กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

454
เห็นด้วยครับ ไม่เหมาะสมเลยจริงๆๆ

หากเคารพและศรัทธาหลวงปู่ ไม่ควรจะทำกันแบบนี้

อยากรู้จริงๆ ว่าคนที่ใส่ไปเขาคิดอะไรอยู่  42;

455
ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยครับ  :054:

ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมครับ ทุกอย่างล้วนอนิจจัง    :054:

456
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลา เกิดขึ้นอยู่เสมอ ผู้มีปัญญาย่อมน้อมเข้ามาสู่ตนเอง คือน้อมเข้ามาพิจารณา
ในตัวเอง เมื่อพิจารณามากเข้าก็จะถึงซึ่งความเป็นปัจจัตตัง คือสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ทำเองเห็นเองและรู้เองในสิ่งที่ทำ


กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอนในวันนี้ ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปครับ  :054:

457


ส่วนอันนี้คงต้องบอกว่า ติดตัวตลอด ไปไหนไปด้วยกัน อิอิ

ได้รับความเมตตามาจาก หลวงพี่ญา วัดบางพระ  :054:

458


ปลัดขิกวัดบางพระ อุดกริ่ง   :015:

มีเพียงนิดหน่อยครับ แบ่งมาให้ชมกัน ใช้ติดตัวมานานและครับ

459
สุดยอดเลยครับ งดงามมาก  :015:

460
แล้วท่านขุนแผน ห้อยพระอะไรอยู่ครับ



1.เหรียญใบตำลึงหลวงพ่อประเทือง วัดหนองย่างทอย เพชรบูรณ์ครับ
2.เหรียญกงจักร รุ่นแรก ทบ. หลวงพ่อประเทือง วัดหนองย่างทอย เพชรบูรณ์ครับ
3.กำแหงหนุมาน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยาครับ
4.เหรียญเสมาหลังสิงห์ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยาครับ
5.รูปหล่อหลวงพ่อประเทือง วัดหนองย่างทอยรุ่น 2  คุณอาได้มาจากงานกฐิน
6.เหรียญรุ่นประสพการณ์ หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ นครปฐม
7.รูปหล่อหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยารุ่นแรก   
8.เหรียญนารายทรงครุฑหลวงพ่อพรหม วันขนอนเหนือ บางประอิน อยุธยา ปี2532
9.เหรียญเสมาหลังยันต์ครู หลวงพ่อประเืทือง วัดหนองย่างทอย เพชรบูรณ์



รูปหล่อหลวงพ่อประเทือง วัดหนองย่างทอย รุ่นแรก


ใส่ประจำๆ ก็มีเท่านี้ ตะกรุดนานๆ จะใส่ครับพี่


ไม่หนักคอเหรอครับ  เพียบเลย :075:

461
ขอบคุณมากๆๆครับ
แต่ขุนแผนที่ผมได้มาจากอาจาร์ยนั้นคือ พระครูปลัดกฤต ฐิติวิริโย

รูปครับ



http://www.uppicweb.com/show.php?id=0933c842f0fb2ececd739cbe08ea407f


http://www.uppicweb.com/show.php?id=1e6fb62c4b50d1e8d4e4c64359646e63



http://www.uppicweb.com/show.php?id=96d0451dd6903377297e8de99c6f8c37

ก็แล้วแต่ชอบนะครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน ความคิดต่างกัน
ถ้าดีก็ใช้ไป ถ้าไม่ดีก็เลิกใช้ ทุกอย่างมันแล้วแต่คนและประสบการณ์ที่เจอมา
ประสบการณ์จะเป็นตัวสอนให้เข้าใจเองครับ ว่า ดี หรือ ไม่  แล้วแต่ทางที่บุคคลนั้นจะเลือกเดิน

462
อยู่ที่เจตนาครับ ... ถ้าไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้คิดที่จะลบหลู่ก็ไม่เป็นไร

งี้เวลาไปตามห้างทำไงหละครับ ขึ้นบันไดเลื่อนถ้าผู้หญิงขึ้นก่อนเราแล้วอยู่สูงกว่า
งี้เวลาผู้หญิงสักมาทำไงหละครับ ก็ห้ามให้ผู้ชายขึ้นอยู่เหนือกว่าสิครับ งี้ทั้งชายทั้งหญิงสักมาทั้งคู่แย่เลยดิครับ   :095:

ลองไปศึกษาเรื่องข้อห้ามของ วัดบางพระดูนะครับ ไปหาที่ช่องค้นหา ว่ามีอะไรบ้างเอาเท่านั้นพอ

ข้อห้าม เช่น ห้ามกินน้ำเต้า มะเฟือง
ห้ามผิดลูกผิดเมีย
และอีกหลายๆข้อ

ส่วนข้อที่มันไม่มีก็ไม่ต้องไปซีเรียสมันครับ  ครูบาอาจารย์ท่านห้ามใว้แค่ไหนก็แค่นั้น ที่สำคัญต้องเป็นคนดีครับ

463
พื้นที่สกปรก ได้แก่  ท่อระบายน้ำ บางทีเราไม่รู้ว่าตามท้องล่องท่อละบายน้ำ เป็นน้ำที่เขาถ่ายหนักเบา หรือป่าว



คำครูที่ท่านห้าม ถ้าเรารู้ไปทำก็เสื่อม ... เพราะถือว่าไม่เชื่อฟัง 


464
กราบขอบพระคุณท่าน ooo มากครับที่แจ้งข่าว  :054:

ขอให้หลวงพี่ตั๊ก หายใวๆนะครับ

466
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

การละบาปนั้น บาปมันมาอย่างไร บาปมันเกิดที่จิตใจ ความโกรธ ความโลภ ความหลงเป็นบาป
การชำระบาปทั้งหลายนั้น ชำระด้วยการปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญสติภาวนา เพื่อไม่ให้บาปนั้นกำเริบเสิบสาน
ไม่ให้มันมีกำลังมากขึ้น แก่กล้าขึ้น ซึ่งหากปล่อยให้ไปตามอำนาจของกิเลสนั้น จะทำให้เดือดร้อนทำลายตัวเราเอง


ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

467
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

การปฏิบัติธรรมนั้น อย่าไปอยากรู้อยากเห็นอยากเป็นในสิ่งใดๆ ให้มันรู้อยู่อย่างเดียว มีอะไรก็ช่าง
รู้อยู่อย่างเดียว ความอยากนั้นทำให้จิตวุ่นวาย หลุดออกจากสมาธิ เราปฏิบัติเพื่อความปล่อยวาง เพื่อจะละ
จะลดซึ่งความยึดมั่นถือมั่นต่างๆให้เบาบางลง เพื่อละความยินดียินร้าย เราเป็นผู้ดูไม่ใช่ผู้บังคับให้มันเป็น


กราบขอบพระคุณที่เมตตาชี้แนะสั่งสอนเสมอมาครับ ศิษย์จะจดใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

468
สุดยอดเลยครับพี่เจมส์ ของดีเยอะมากเลยครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

469
ห้ามบ้วนลงโถส้วม หรือ พื้นที่มีสิ่งสกปรก ครับ

วิธีแก้ คือไปลงใหม่ซะ แต่ข้อห้ามข้อนี้ สำหรับผู้ลงสาริกาลิ้นทอง  แต่นะหน้าทองผมไม่แน่ใจ

ไปลงใหม่ก็ได้ครับ เพื่อความสบายใจ

470
น่าจะเป็นพระขุนแผน พิมไข่ผ่าซีก หรือ พิมเม็ดขนุนนะครับ

แต่ที่ไหนไม่อาจทราบได้ เพราะสร้างออกมาเยอะแยะมากมาย หลายวัดครับ หลากหลายสำนักเหลือเกิน

วัดที่ดังๆ ก็ต้องเป็นแถบสุพรรณบุรี วัดพระรูป กับ วัดป่าเลไลย์  แต่องค์นี้ไม่ทราบว่าใช่หรือป่าว

471
ชุดนี้สุดยอดครับพี่นก ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :054:

472
เหอะๆ เอ็มก็รักครอบครัวมั้งอะ    05;

รักครอบครัวไม่ว่า เอ็มรักเดียวใจเดียวด้วยดิ  04;  38;

473
มนัสการหลวงพ่อโหน่ง  :054:
ขอบคุณข้อมูล และ ภาพบรรยากาศมากครับ  :015:

474
ขึ้นอยู่กับแต่ละสำนักที่ห้ามมานะครับ สำหรับผมไม่ซีเรียสครับเรื่องแบบนี้
มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ก่อนทำอะไรบอกกล่าวท่านก่อนก็ดีครับเชิญท่านออกก่อนชั่วคราว ไม่ใช่กำลังทำแล้วนึกถึงเหอๆๆอันนี้น่ากลัวครับ

เรื่องแบบนี้ผมเคยถามพระอาจารย์ท่านทีและครับท่านก็ได้เมตตาให้ความรู้มาว่า  

จริงๆแล้วในขณะที่เรามีเพศสัมพันธ์กันนั้น เทวดาหรือครูบาอาจารย์
ท่านจะไม่อยู่ ท่านจะออกไปชั่วคราว ในจังหวะนั้นเขาเรียกว่า "ปลอง "
หรือในขณะที่เรากำลังนั่งถ่ายทุกข์อยู่นั้น เทวดาหรือครูบาอาจารย์ท่าน
จะไม่อยู่ คนที่เคยหนังเหนียว คงกระพัน ก็จะเปื่อยไม่เหนียวไม่คง
แต่เมือเราเสร็จกิจแล้ว ครูบาอาจารย์เทวดาท่านก็จะกลับเข้ามาคุ้มครองเราใหม่
จังหวะที่เรากำลังทำกิจนั้น เขาเรียกว่า "ว่างเทวดา " อย่าไปสงสัยหรือกังวลใจ
ของนั้นยังอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก่อนจะทำกิจก็เชิญครูบาอาจารย์ออกเสียก่อน
เสร็จกิจแล้วค่อยเชิญท่านเข้ามาใหม่

ขออนุญาตกราบพระอาจารย์นำความรู้นี้มาเผยแพร่อีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางเข้าใจอย่างถูกต้องต่อไป   :054:
แต่ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละสำนักด้วยนะครับว่า เขาห้ามหรือป่าว หรือครูบาอาจารย์ท่านสั่งมาว่าห้าม ถ้าห้ามก็ไม่สมควรทำครับของวัดบางพระในการสักยันต์ไม่มีข้อห้าม ข้อนี้ นอกจากลงสาริกาลิ้นทองมาครับก็ไม่สมควรทำ
ขอให้โชคดี

475
แอบอึ้งคาถาท่านเอ็มนิดๆ !! ^^

ครับ วันนี้นึกว่าแอบไปวัดกับพี่โต้ง( tong_lomsak)ซะอีก อิอิ  ^ ^''

476
ขอบคุณสำหรับบทความครับ

อวิชชา แปลว่า ความไม่รู้แจ้ง  ก็เลยทำผิดเดินหลงทางรับโทษกรรมไป  สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม... ทำเองโดนเอง

477

คาถาบูชาปลัดขิกอีก 2 บท สำหรับคนที่ชอบและใช้อยู่ครับ


คาถาบูชาปลัดขิกว่าดังนี้ (ของหลวงพ่อเหลือ)
...โอมแม่น้ำสามจอก กูจะถอกขึ้นบนหลังคา โอมมะถอกขาว ถอกเขียว ถอกเยี่ยวรดผ้า ถอกฆ่าคนตาย ถอกขายคนกิน ถอกอินทนิน ถอกออกนอกฟ้า ป่าหิมพานต์ ถอกกินบ้านกินเมือง
...โอมอีจ้าย จักรวรรดิ์ ยกบัตรเมืองนนท์ ขุนพลลพบุรี ถือแยกแหกหี ตีกระเชียง ถอกแตด หนามแรดเกี่ยวควยช้าง คนหีกว้าง สะบัดหนอก นอนหงายแตดแห้ง นอนตะแคงแตดชุ่ม โอมมารุม มารุม ชำเราเอาเถิด
...โอมแม่น้ำสามจอก ถอกรดไม่หนาว ขี้เปลียก น้ำมะนาว โอมมะแยก แยก แหก แหก เพี้ยง เพี้ยง อะสังวิสุโลปุสะพุพะ.....
   และมีอีกบทหนึ่งเป็นของพระอาจารย์โด่ง วัดทุ่งเว้า
คาถาว่าดังนี้
...โอมเจ้าโลกคือตัวกู มีหีมีรู ต่างมาหาข้า อยู่ใต้หว่างขา โอมนะกระดอล่อหี ดูดอดีดี อาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ
มานิมามา หญิงมาชายมา โสมาเรสะ มามะมามา...

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาครับ ให้ความรู้เสมอมาครับ    :054:
ผมเองก็ชอบปลัดขิกเหมือนกันครับเมตตาดี  

ทุกอย่างที่เอามาโพสเป็นคาถาใช้กับปลัดขิกจริงๆ เพื่อเป็นแนวทางและความรู้นะครับ อย่าคิดมาก

478
ชุดใหญ่เลยนะครับพี่เจมส์ สุดยอดครับสวยงามมาก  :015:

479
ช่วงนี้ได้ของดีอีกแล้วนะครับพี่ชายสุดหล่อ 

สุดยอดเลยครับพี่ ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

480
งดงามมากๆครับ  ขอบคุณพี่ฟอร์ดมากครับ ที่นำมาให้ชม  :015:

481
บทความ บทกวี / ตอบ: คนตัดไม้
« เมื่อ: 09 ก.ย. 2553, 10:34:57 »
ขอบคุณพี่รัตนะมากครับ สำหรับบทความดีๆ  :054:

482
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ลูกศิษย์ทั้งหลาย ถ้าฝ่าฝืนครูบาอาจารย์ ไม่ทำตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอน เป็นคน
หัวดื้อ หัวรั้น บุคคลเช่นนั้นนับวันก็จะมีแต่ความเสื่อม แต่ถ้าบุคคลใดเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย ปฏิบัติตาม
คำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ บุคคลนั้นย่อมจะพบแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
เวลาพูด ให้พูดด้วยความมีสติ มันจึงจะเป็นสาระเป็นประโยชน์ แต่ถ้าพูดด้วยความขาดสติ
มันก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และจะสร้่างโทษให้แก่ตัวผู้พูดเอง


ศิษย์ขอนอบน้อมจดจำยึดใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

483
ยินดีที่ไม่รู้จักครับ ...................  :095:

ถ้าเป็นยันต์แม่ทัพ ด้านพุทธคุณก็ตามชื่อของยันต์อะครับ

484
ขอบคุณพี่เจมส์ครับ ดูแล้วน่าจะเจ็บนะครับ :075:

อย่างพี่เอ็กซ์ เจ็บอีกเหรอครับ ฝังเล่มที่ 100 ยังครับเนี่ย เพียบเลย  :075:

485
ขอบคุณพี่เจมส์ ท่านประธานคนรักเด็กมากครับ 
อยากดูอยู่พอดีเลย

486
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

อบรมตนเองให้รู้จักข้อวัตรปฏิบัติ ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี อะไรผิดเราก็จะต้องพยายามลดละ
แก้ไข ไม่ทำตามความคิดฝ่ายต่ำของตัวเราเอง อะไรที่ดีแล้วถูกต้องแล้วก็พยายามขวนขวายกระทำต่อไปให้ยิ่งขึ้น
....ทรัพย์สมบัติใดๆในโลกนี้ที่มีอยู่ ก็ไม่สู้ธรรมะสมบัติได้ ถ้าเรามีทรัพย์คือธรรมะประดับใจของเราแล้ว ย่อมเป็นผู้
เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปแน่นอน....พระคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องอโหสิ อะเวรัง อะสะปัตตัง  พระพุทธเจ้าทรงสอน
ให้พวกเราเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่จองเวร เป็นผู้อโหสิ...


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัตติต่อไป  :054:
ทุกวันนี้ศิษย์ได้นำคำสอนของพระอาจารย์ไปไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน  ทำให้รู้สึก ลดละ อกุศลได้ดียิ่งขึ้น รู้สึกใจเย็นลง มีสติรู้จักอะไรผิดถูกชั่วดี
ถึงจะยังกำจัดไม่หมด แต่ศิษย์ก็จะพยายามต่อไป กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาตลอดมา  :054:

487
หยอดปัจจัยใส่ตู้ทำบุญแล้วบอกหลวงปู่ก็ได้ครับ  :001:

488
ชุดนี้งามจริงๆครับ พี่เจมส์ ชอบครับ  :015:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

489
งดงามจริงๆครับ ขอบคุณท่านประธานสำหรับข้อมูล  :015:

490
ขอบพระคุณพี่ ๛][รัตu:][๛  มากครับ สำหรับบทความดีๆ ได้ความรู้   :054:

491
กราบขอบพระคุณท่าน ooo ที่แจ้งข่าวมาให้ทราบครับ  :054:

ขอให้หลวงลุงต้อยท่านหายใวๆครับ   :054:

492
อ.หนวดท่านบอกว่า  ถ้าลงด้านเมตตาให้ลงวันจันทร์ก็ดีครับเป็นการเสริม  :001:

ผมว่าแล้วแต่สะดวกดีที่สุดครับ...โชคดีครับเดินทางปลอดภัย  :017:

493
ขอบคุณครับพี่จ๊อบที่นำมาให้ชม  แต่ละอย่างสุดยอดเลย  :015:

494
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ฉะนั้นจึงอย่าได้รีบด่วนสรุป
หรือไปฟันธงว่า มันต้องเป็นอย่างนั้น มันต้องเป็นอย่างนี้ ผู้ที่สามารถจะชี้ชัดฟันธงได้นั้นมีเพียงพระพุทธเจ้า
เพียงผู้เดียวเท่านั้น ฉะนั้นเราจึงต้องเตือนสติตัวเราอยู่ตลอดเวลาไม่ให้หลงสติไปยึดถือในสิ่งที่รู้และเห็นจนเกินไป
และเมื่อรู้อะไร เห็นอะไร ให้เราเอาไปเทียบกับหลักธรรม ว่าตรงกันหรือไม่

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป :054:

495
ขอบคุณพี่ชาญมากนะครับสำหรับข่าวที่แจ้งมาให้พี่น้องได้ทราบกัน

ขอให้หลวงลุงต้อยท่านหายใวๆครับ  :054:

496
ไปได้ทุกวันตามสะดวกครับ/ แต่เสาร์-อาทิตย์คนค่อนข้างจะเยอะครับเพราะตรงกับวันหยุด ควรไปเช้าๆหน่อยก็ดีครับ

ค่าครู 25 บาท/ ชุดดอกไม้ธูปเทียนบุหรี่ เช่าตามหน้ากุติเอานะครับ(สักและลงนะหน้าทอง) / หลวงลุงติ่ง หลวงลุงต้อย 2ท่านนี้ ลงนะหน้าทอง  / แผ่นทองคำซื้อไปเองตางหากได้นะครับ

หรือลงทองกับหลวงพ่อสำอางค์ที่กุติใหญ่ กุติที่ใว้สังขารหลวงปู่เปิ่น ทำบุญ20 บาทได้3 แผ่น 9 แผ่น 60บาท ครับ  

(ช่วงนี้หลวงลุงต้อยท่านอาพาธอยู่นะครับ รอท่านหายดีก่อนก็ได้ครับ)

497
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับจะแขวนกี่องค์ก็ได้  หากใจเราศรัทธา

ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่เราคิด ถ้าเราคิดไม่ดีก็ไม่ดี หากเราคิดดีอะๆไรก็ดีเสมอ

จิตที่เป็นกุศลไม่ว่าจะทำอะไรย่อมดีเสมอครับ  :001:

แฟนผมยังห้อย 2 องค์เลยครับเมตตามหานิยมดี เดินทางไกลก็แคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีปัญหาครับ  :001:

498
ดีนะครับที่รอดมาได้ ขอให้ลุงต้อหายใวๆนะครับ บุญรักษาครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณสำหรับเหรียญนี้ที่นำมาให้ชมครับ คนดีไม่ว่าพระองค์ไหนหลวงพ่ออะไรก็คุ้มครองครับ

จากหนักกลายเป็นเบา ฟาดเคราะห์นะครับเดี๋ยวอะไรดีๆก็ตามมาครับ ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ

499
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:

ขอใว้อาลัยให้กับโยมคุณแม่ของพระสหายธรรมของพระอาจารย์ด้วยครับ   :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวีคำสอน   :054:
          การทำดี  ต้องเริ่มที่   การฝึกคิด
           ฝึกทำจิต    คิดดี      หลายทีซ้ำ
           คิดอะไร    ก็ให้ดี     มาชี้นำ
           คือฝึกทำ  ฝึกจิต     ให้คิดเป็น

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปครับ  :054:

500
งดงามมากครับพี่เซอร์ดอน หลวงพี่ญาท่านเมตตามากครับ  :054:

501
ขอให้หลวงลุงต้อย หายอาพาธไวๆนะครับ  ด้วยความเคารพหลวงลุงอย่างสูง  :054:

อ.หนวดท่านเมตตมากครับพี่เจมส์ ยินดีด้วยนะครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมสวยมาก

502
ไม่ทราบว่าต้องการข้อมูลไปทำอะไรเหรอครับ ?

ใช่ครับ ถามไปเพื่ออะไรเหรอครับ ไม่เข้าใจ

หลวงพี่ หลวงลุง พระอาจารย์ส่วนมาก ก็เรียนทันและเรียนโดยตรงกับหลวงปู่เปิ่นทั้งนั้นแหละครับ ไม่มีศิษย์เอก หรือโท

หากศรัทธาก็มาด้วยใจครับ  

503
อยากดูด้านหลัง แบบแกะกรอบพลาสสติกชัดๆ เต็มๆ รวมถึงขอบเหรียญด้วยยิ่งดีครับ

เหรียญรุ่นนี้ปลอมเยอะมาก เหมือนมากด้วย แต่ก็มีข้อสังเกตุหลายจุดเหมือนกัน

แบบนี้ถ่ายมาให้ดูดูยากครับ

504
สุดยอดเลยครับ ยินดีกับพี่สายชลด้วยนะครับ จะเสน่ห์แรงไปถึงไหน อิอิ  :095:

505
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

506
งดงามมากๆครับพี่เจมส์ สุดยอด  :015:

507
สวยงดงาม พิธีดี น่าบูชามากเลยครับพี่เจมส์  :015:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

508
ของท่านเสกมาดีแล้ว ครับ ไม่ต้องก็ได้ครับ

หัวใจเสือ กุรุสุกุ

509
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ให้รู้อยู่กับปัจจุบัน อดีตล่วงไปแล้วไม่ไปคิดถึง อนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็อย่าไปคิดกังวล อยู่กับ
ปัจจุบันธรรม หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้  ลมหายใจมันสั้นก็รู้ ลมหายใจยาวมันก็รู้ หายใจโปร่งโล่งเบาสบายก็รู้ อยู่กับลมหายใจ
เพียงเท่านั้นก็เพียงพอ ต่อการปฏิบัติธรรม


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

510
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เมตตาครับ เห็นแล้วครับ ตัวเล็กๆ  :054:

511
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณมากครับที่นำมาให้ชม เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกครับ สำหรับปากโพรงทางเข้ารังของชันนะโรง

ผมมีข้อสงสัยนิดครับ ตัวที่อยู่ในรังเป็นยังไงเหรอครับ กราบขอบพระคุณมากครับ  :054:
 

512
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

คนเราชอบขอพึ่งบารมีของครูบาอาจารย์ ไม่รู้จักพึ่งตนเอง ไม่ขัดเกลา
ตนเอง ไม่ชำระตัวเองให้จิตสะอาดบริสุทธิ์จากราคะ โทสะ โมหะ ต้องการได้ของดีๆแต่ไม่ได้กระทำตนเองให้ดีเสียก่อน


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  กราบขอบพระคุณที่เตือนสติ ของจะดีได้ ตัวเราต้องดีก่อนด้วย  :054:

513
อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

514
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

515
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

516
ปลุกเสกได้ครับ อย่าไปสนใจเรื่องมวลสาร
มวลสารที่ผสมลงไปในเนื้ออาจมีพลังพุทธคุณอยู่จริง
แต่ถ้าเรานำพระไปเสกใหม่ พระก็มีพุทธคุณได้เหมือนกัน  เป็นพระแท้ที่มีค่าทางจิตใจ ใครจะว่ายังไงอย่าไปสนใจ เราแขวนเอง คนอื่นไม่ได้แขวนกับเรา หากเราไม่ได้สนใจในราคาค่างวดอะไร สนใจแต่พุทธคุณ คุณค่าทางจิตใจ  ก็ทำเถอะครับ
แต่ขอแนะนำการเสกพระควรให้พระที่สายเดียวกันเสก หรือ เรียนมาสำนักเดียวกันเสกดีที่สุด หรือไปให้หลวงพ่อที่เรานับถือท่านเสกเดี่ยวเลยดีที่สุด ให้ท่านจารเพื่อเป็นที่ระลึกทางจิตใจยิ่งดี (ส่วนที่วัดบางพระเสกได้ทุกรูปครับเก่งๆทั้งนั้น อยู่ที่ท่านจะว่างหรือป่าวครับ )
อยู่ที่ใจคุณศรัทธาและชอบครับ ..... อย่าลังเลและสงสัย  
สังเกตุพระที่เขาสร้างจากเนื้อดิน ก็ดินธรรมดานี่หละครับ นำไปเสกก็ยังมีพุทธคุณ ดังมาแล้วมากมาย

517
ขอบคุณครับพี่นกที่นำมาให้ชมเป็นบุญตา  :054:
และความรู้ดีๆ ครับ

518
กราบมนัสการหลวงปู่ขอมครับ  :054:

ขอบคุณมากนะครับสำหรับภาพบรรยากาศ เคยไปสมัยเด็กๆ จำไม่ค่อยได้และครับ

519
คาถานั้นไม่สำคัญ อยู่ที่ใจเชื่อมั่นและศรัทธา

เขาของเสกมาดีแล้วครับ  :001:

520
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี  คำสอน  :054:

ฉะนั้นถ้าอยากให้สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นกับตัวเรา เราก็ต้องมาทำเครื่องรับของเราให้มันดี
คือมาปรับจิตปรับใจของเราให้มันดี คือทำจิตทำใจให้เป็นบุญกุศลเสียก่อน เมื่อกายและใจของเรานั้น
อยู่กับบุญกุลแล้ว สิ่งที่ดีย่อมบังเกิดขึ้นแก่เรา


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

521
กราบมนัสการหลวงพี่หนึ่ง และ พระอาจารย์ทุกรูป  :054:

ขอบคุณพี่เอมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ  อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ

522
ขอบคุณครับพี่นน  เป็นความรู้ให้กับพี่น้องชาววัดบางพระ เพื่อได้ใช้คำสรรพนามไม่ผิด

523
ท่านขุนแผนกลับมา พี่้น้องก็ดีใจ จะได้มีเกร็ดความรู้มาฝากกันอีกเรื่อยๆ หรืออย่างน้อยก็เข้ามาทำให้กระดานสนทนาอบอุ่นเหมือนเช่นเคย

ผมก็แฟนท่านขุนแผนคนหนึ่ง  เป็นกำลังใจให้ครับ  :089: :089: :089: :089: :089: :089: :089: :089:

หายไปนานเลยนะครับพี่ อิอิ คิดถึงมากมาย  ยินดีครบรอบกับบอร์พี่ด้วยนะครับ   :002:

524
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

                               เมื่อคิดดี    และทำดี  อย่างที่คิด
                                กำหนดจิต  เป็นกุศล  ในทุกที่
                                เพิ่มกำลัง    ศรัทธา   ให้มากมี
                                เมื่อคิดดี    และทำดี   ก็สุขใจ

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

525
สุขสันต์วันเกิดครับน้องเอ็มมี่โทษทีมาช้าไปหน่อยเพิ่งกลับมาอะจ๊ะ
ขอให้น้องมีแฟนเยอะๆๆๆๆๆอย่างที่หวังไว้ครับ

 :075: ผมไม่ได้หวังจะมีแฟนเยอะๆ สักหน่อยครับพี่เอ  11;  41;  05;

ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ สำหรับคำอวยพร ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆนะครับ   21;

526
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

การปฏิบัตินั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอน ใจร้อนและข้ามขั้นตอนไม่ได้ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำให้เกิด
ความเคยชิน รู้และเข้าใจชำนาญเสียก่อนในรูปแบบ แล้วจึงจะละรูปแบบนั้นได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและ
แบบแผนทั้งในทางโลกและทางธรรม...


กราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับคำสั่งสอนเสมอมา  :054:




527
1. หลักๆของวัด  มีหลวงพี่ญา หลวงลุงต้อย หลวงลุงติ่ง หลวงพี่แป้ว

2. เก่งหมดทุกท่านครับ  ทุกรูป ทุกด้าน แต่ละท่านก็เรียนโดยตรงทั้งนั้นหละครับ

3.อยู่ที่บุญวาสนานะครับของแบบนี้  เวลาไปสักก็บอกกับท่านว่าจะแน้นด้านไหนเป็นพอครับ เดี่ยวท่านพิจณาให้ตามเหมาะสม

4. ได้ครับ

5.พิเศษ ตั้งกระทู้ มือใหม่หัดสัก งงมากมายครับ นึกว่าคุณจะหัดสักยันต์ ต้องบอกว่า ศิษย์ใหม่ขอคำแนะนำ ไม่ใช่มือใหม่หัดสัก
ไม่ใช่การขับขี่รถนะครับ  

528
ยินดีต้อนรับกลับสู่บอร์ดบางพระ อีกครั้ง

คิดดี ทำดี พูดดี เป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด

กล้าขอโทษ ทุกคนก็กล้าที่จะให้อภัยได้เสมอ  

ดีแล้วครับ ยอมรับผิดนี่หละลูกผู้ชายตัวจริง แบบนี้สิที่น่าให้คนนับถือ  

529
งดงามจริงๆครับ ...  :015: ผมได้จากพระอาจารย์ญา มาเหรียญเหมือนกัน แต่เนื้อทองแดง เป็นเหรียญที่มีคุณค่าทางจิตใจสูงมากครับ

ใว้มีโอกาศคงให้ท่านจารให้บ้าง

ขอบคุณครับ ที่นำมาให้ชม

530
ไม่ยากครับ จะสักกับทีไหนมาก็แล้วแต่ก่อนมาสักที่วัดบางพระ ก็ถามหลวงพ่อของคุณว่าผมไปสักที่อื่นอกจากที่นี่ได้ใหม

แค่นั้นหละครับ ถ้าได้ก็ลุยไปวัดบางพระเลย ส่วนจะสักยังไงตรงไหน ควรให้พระอาจารย์ท่านสักให้เองเลือกให้เองดีสุด

น้ำมันกับน้ำมันผมก็เห็นทับกันมาเยอะแล้ว ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับไม่ใช่หมึก


(ส่วนถ้าสักน้ำมันที่วัดบางพระ ไม่จำเป็นต้องลง 9 ยอดก่อนเสมอครับ แล้วแต่ท่านจะพิจณา)

531
เพียบเลยครับ สุดยอดจริงๆๆ  :015:

แต่ละองค์งดงามมาก  :015:

532
สุดยอดเลยครับพี่เจมส์  หลวงลุงต้อยท่านเมตตามากจริงๆ  :054:

533
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

กราบขอบพระคุณคำสอนสำหรับวันนี้มากครับ ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

534
เหรียญหลวงปู่เปิ่น หลังนางกวัก ปี 20 เหรียญในฝันผมเลย ครับ  15;

ขอบคุณมากครับ ที่นำมาให้ชม  :015:

535
มีสติ  .................... ครับ

อย่าไปคิดว่าสักมาแล้วจะทำให้ร้อน หรือใจร้อน หรืออย่าคิดว่าแน่แล้วไปหาเรื่องใคร  ให้คิดสิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นกุศล นึกถึงครูบาอาจารย์

ทำใจให้นิ่งๆ สบายๆ นึกถึงสิ่งดีๆในชีวิตที่น่าจดจำ ครับ ...

536
กราบมนัสการหลวงปู่เปิ่น
งดงามจริงๆครับ แบบนี้เพิ่งเคยเห็น

เป็นบุญตาแท้ๆ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน

537
กราบมนัสการหลวงพี่จรัญครับ  :054:

ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ   :054:

538
งดงามจริงๆครับท่านพี่เซอร์ดอน  :015:

539
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี  คำสอน  :054:

                  เมื่อเห็นทุกข์  เห็นธรรม  เพราะทำจิต
                  เปลี่ยนความคิด  ตั้งจิต   กับสิ่งใหม่
                  อยู่กับธรรม    มีธรรม   ประจำใจ
                  ก้าวเดินไป  ตามทางธรรม  พระสัมมา

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

540
งดงามจริงๆครับพี่ คลังหลวงปู่ตัวจริงเลย  :015:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :015:

541
อนุโมทนา ครับ

ขอบคุณมากครับ

542
งดงามจริงๆครับ ยินดีด้วยนะครับ กับเสือครู  :015:

543
เจริญสุข เจริญธรรม...จากพระอาจารย์

กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณมากครับ  :054:

ขอบคุณพี่เอ็กซ์พี่ชายมากนะครับ ขอบคุณจริงๆสำหรับกระทู้ ตกใจหมดเลยพี่เอ็กซ์รู้ได้ยังไง

ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ และทุกๆท่านมากนะครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพร

ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุขเช่นกันครับ ขอให้บารมีพระรัตนตรัย หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงปู่เปิ่น พระอาจารย์ ครูบาอาจารย์ ทุกท่านคุ้มครอง

 :054:  :054:  :054:  :054:  :054:

544
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน :054:

                                     เสียอะไร   เสียได้   ใจอย่าเสีย
                                   ถึงจะอ่อน  จะเพลีย   อย่าได้หลง
                                   มีสติ    กำลังใจ     ที่มั่นคง
                                   จะเสริมส่ง  ปลุกใจ  ให้กลับมา

ศิษย์ขอนอบน้อมเป็นแนวทางต่อไปครับ  ศิษย์เริ่มเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วครับกราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับที่คอยเตือนสติ :054:


                  ความเป็นเพื่อน   ไม่ลืมเลือน   ไปจากจิต
                    คิดถึงมิตร     ยามเมื่อ   ไม่พบเห็น
                   อยากจะรู้    ความเป็นอยู่  ที่เพื่อนเป็น
                   อยากจะเห็น  พบปะ     สนทนา

ถ้าไม่มีเพื่อน ก็คงไม่มีความสำเหร็จวันนี้ครับ กราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับ  :054:

545
งดงามมากครับพี่ท่านประธาน

ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

546
ขอบคุณภาพบรรยากาศมากครับ  น่าไปเที่ยวจริงๆ  :015:

547
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ         :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน    :054:

                                      มันจึงเป็น  ความคิด  จิตกำหนด
                                       จึงปรากฏ   ให้เห็น   ต้องแก้ไข
                                       ต้องละวาง  ความจำ  นั้นออกไป
                                       เริ่มต้นใหม่  ทิ้งสัญญา มาทำจริง

                                       ให้ทุกอย่าง    เป็นไป  ตามเหตุผล
                                       ฝึกทำตน     อยู่กับ     สรรพสิ่ง
                                       ให้สงบ      พบธรรม    ที่เป็นจริง
                                        ให้จิตนิ่ง    โดยธรรม    ที่ทำมา

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอนเตือนสติ ศิษย์ขอนอบน้อมไปปฏิบัติตาม  :054:

548
งดงามทุกชิ้นเลยครับเพื่อนโจ ขอบคุณมากที่นำมาให้ชม  :015:

549
นึกถึงหลวงปู่เปิ่น กับ หลวงพี่ญา ครูบาอาจารย์ใว้ครับ เท่านั้นพอแล้ว

550
ศิษย์คือใคร?
๑. ความหมายของศิษย์
ศิษย์ คือ ผู้ศึกษา, ผู้เชื่อฟัง, ผู้ที่ยอมรับให้ครูอาจารย์สอน
ศิษย์ที่ดี คือ ผู้ที่ครูอาจารย์สามารถนำไปสู่จุดหมายปลายทางได้
๒. ประเภทของศิษย์

ศิษย์แบ่งได้ ๒ ประเภทคือ
๑ ศิษย์กตัญญู คือศิษย์ที่ดีสำนึกในพระคุณของครูแล้วตอบแทน
๒ ศิษย์อกตัญญู คือศิษย์เนรคุณ ไม่สำนึกในพระคุณของครู คิดล้างผลาญครู

๒.. ศิษย์เกิดจากอะไร?เกิดจาก การที่ต้องการสติ – ปัญญา ความรู้จึงยินยอมมอบกายและจิตใจให้ครูอาจารย์ทำการอบรมสั่งสอน

๓ เป็นศิษย์เพื่ออะไร? เพื่อ ยกระดับจิตวิญญาณของตนให้สูงขึ้น

๔.เป็นศิษย์โดยวิธีใด?

โดย การเป็นศิษย์ที่ดี และทำหน้าที่ของศิษย์ที่ดีได้ถูกต้องดังนี้

๑. ศิษย์ที่ดี
๑. ฟังดี – ฟังถูกต้อง
๒. คิดดี – คิดถูกต้อง
๓. เชื่อดี – เชื่อถูกต้อง
๔. ทำตามอย่างดี – ทำตามอย่างถูกต้อง
๕. ทำการสืบต่อไปอย่างดี – อย่างถูกต้อง

นักเรียน (ศิษย์) ที่ดี
๑. ไม่โยกเก้าอี้ ๒. ไม่หนีโรงเรียน ๓. ไม่เขียนข้างฝา
๔. ไม่ด่าครูสอน ๕. ไม่นอนตื่นสาย ๖. ไม่หน่ายการเรียน
๗. ไม่เพียรทำผิด ๘. ไม่คิดมุ่งร้าย ๙. ไม่อายการงาน
๑๐. ไม่ผลาญเงินตรา ๑๑. ไม่ซ่าหาเรื่อง ๑๒. ไม่เคืองโกรธกัน
๑๓. ไม่หันหาอบายมุข ๑๔. ไม่คลุกกับเกมส์
๑๕. เกษมแน่ ๆ พ่อแม่ก็ชื่นใจ ครูก็ชื่นใจ

หน้าที่ของศิษย์ที่ดี
๑. ลุกขึ้นยืนต้อนรับ เป็นการแสดงความเคารพ
๒. เข้าไปยืนคอยรับใช้ เมื่อท่านมีกิจธุระ
๓. เชื่อฟังคำสั่งสอนและปฏิบัติตาม
๔. อุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิด
๕. ตั้งใจเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ
หน้าที่ของศิษย์ที่ดีอีกนัยหนึ่ง
๑. ต้องมีความเคารพ
๒. คบการศึกษา
๓. กล้ารับความผิด
๔. คิดช่วยเหลือครู
๕. กตัญญูต่อสถาบัน

อุดมการณ์ของนักเรียน (ศิษย์) ที่ดี
๑. แสวงหาความรู้ ๒. เคารพครูอาจารย์
๓. รักการศึกษา ๔. มีจรรยาเรียบร้อย
๕. มักน้อยตามฐานะ ๖. เสียสละเพื่อสถาบัน
๗. มุ่งมั่นประพฤติดี ๘. หลีกหนีสิ่งชั่ว
๙. ไม่มั่วสิ่งเสพติด ๑๐. รู้จักคิดใช้ปัญญา

อุดมการณ์ของนักเรียน (ศิษย์) ที่ดีอีกนัยหนึ่ง
๑. เคารพ ๒. เชื่อฟัง ๓. ตั้งใจเรียน
๔. เพียรขยัน ๕. ไม่ดื้อรั้น ๖. มารยาทดี
๗. มีระเบียบวินัย ๘. น้ำใจเอื้อเฟื้อ ๙. เชื่อมั่นตนเอง
๑๐. เกรงกลัวความชั่ว ๑๑. ทำตัวกล้าหาญ ๑๒. การงานซื่อตรง
๑๓. ตรงต่อเวลา ๑๔. วาจาน่ารัก ๑๕. รู้จักพอดี
๑๖. มีความอดทน ๑๗. เป็นคนกตัญญู ๑๘. รู้จักคิดใช้ปัญญา

หน้าที่ ของชาวประมงคือหาปลา
หน้าที่ ของพ่อค้าคือหาผลกำไรจากการทำมาหากิน
หน้าที่ ของศิลปินคือสร้างศิลปะ
หน้าที่ ของพระคือสอนมนุษย์
หน้าที่ ของชาวพุทธคือทำดี
หน้าที่ ของศิษย์ที่ดี คือ กตัญญูกตเวทีต่อครูอาจารย์


ผลดี ของการทำหน้าที่ศิษย์ที่ดี
๑. ทำให้เป็นคนมีปัญญาดี
๒. ทำให้ครูอาจารย์ชื่นใจสุขใจ สบายใจ เย็นใจ
๓. ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากบัณฑิต
๔. เป็นที่รักของคนทั่วไป
๕. ใคร ๆ ก็อยากคบหาสมาคมด้วย
๖. เป็นผู้มีความเจริญสุขในชีวิต
๗. สังคมสงบสุข
๘. ประเทศชาติได้คนดี

โทษ ที่ไม่สามารถเป็นศิษย์ที่ดีได้
๑. ทำให้เป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา
๒. ทำให้ครูอาจารย์เดือดร้อนใจ
๓. ถูกติเตียนจากบัณฑิต
๔. เป็นที่เกลียดชังของคนทั่วไป
๕. ใคร ๆ ไม่อยากคบเป็นเพื่อนด้วย
๖. ไม่เป็นผู้เจริญสุขในชีวิต
๗. สังคมวุ่นวาย
๘. ประเทศชาติได้คนไม่ดี

หน้าที่ของศิษย์พึงมีต่อครูอาจารย์
๑. ให้การต้อนรับ
๒. เสนอตัวรับใช้
๓. เชื่อฟัง
๔. คอยปรนนิบัติ
๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ

" ศิษย์ที่ดี พึงจดจำ "
ถึงสูงเยี่ยม เทียมฟ้า อย่าดูถูก
ครูซึ่งปลูก วิชา มาแต่หลัง
ศิษย์ไร้ครู อยู่ได้ ไม่จีรัง
อย่าโอหัง บังอาจ ประมาทครู
สักวันหนึ่ง คงจะรู้ ว่าครูรัก
สักวันหนึ่ง คงประจักษ์ เป็นสักขี
สักวันหนึ่ง คงจะรู้ ว่าครูดี
สักวันหนึ่ง คงได้ดี เพราะเชื่อครู


ขอบคุณบทความจากเวปธรรมจักรครับ

551
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ        :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

552
ชอบเหรียญรุ่น 3 มากเลยครับ   :015:

553
เห็นด้วยกับท่านประธานพี่เจมส์ครับ
ไม่เสื่อมหลอกครับอีกอย่างเราไม่ได้ตั้งใจที่จะลบหลู่ ถ้าเราคิดมาก คิดฟุ้งซ่าน ก็ทำให้ขาดศรัทธาไม่แน่ใจ นั่นหละทำให้ของไม่ขลังครับ

อีกอย่างศึกษาเครื่องรางพระเครื่องแต่ละที่ก่อนว่าเขามีข้อห้ามอะไรบ้าง อะไรที่นอกเหนือที่เขาไม่ได้ห้ามก็ไม่เป็นอะไรครับ อย่าคิดมาก

554
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ       :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางปฏิบบัติต่อไป    :054:

555
ยินดีกับพีเอ้ด้วยนะครับ ได้ของดีมาเพียบเลย  :015:

556
ขอบคุณครับสำหรับตำแหน่งอันทรงเกียรติ

เอารูปลงให้ชมเลย หล่อไหมละ จะได้ไม่มีคนแซวว่าแก่อีก....

แมนมากครับ 21; ใว้คราวหน้าเจอกันอย่าลืมบอกล่วงหน้านะครับ เดี๋ยวมีของไปฝาก อิอิ

557
ผมไม่ใช่สายตรงนะครับ  แต่ก็ชอบพระสาย วัดดอนยายหอมเหมือนกัน

พิมนี้ไม่เคยเห็นผ่านตาเลยครับ สำหรับพระของหลวงพ่อเงินที่ท่านสร้างใว้

อาจจะเป็นศิษย์ท่านสร้างใว้ก็เป็นได้ครับ

558
สุดยอดเลยนะครับพีเอ็กซ์ เนื้อเงินเพียบเลย  :053:
วันนี้รู้สึกจะจัดชุดใหญ่มาให้น้องๆได้ชม ได้ศึกษากันมากมายทีเดียว ขอบคุณครับ

559
เปิดตัวชุดใหญ่เลยนะครับพีเอ็กซ์  สุดยอดมาก  :015:  :053: สวยงามทุกเหรียญ

ผมวาสนาน้อย ค่อยๆ สะสมไป  05;

560
โห อลังการงานสร้างมากครับพีเอ็กซ์   :015: สุดยอด

561


ชุดนี้ผมแกะออกมา ถักใหม่นะครับ เนื่องจากปลอกเดิมแตก เปลี่ยนปลอกใหม่
เป็นลอยจารมือด้วยครับ  :015:
รบกวนขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะครับ เพื่อเป็นความรู้เกี่ยวกับตะกรุดชุดนี้  พระอาจารย์ท่านใดจาร

ขอบคุณสำหรับท่านผู้สุดหล่อด้วยนะครับที่มอบให้มา   :054:

562
ขอบคุณเพื่อนโจที่นำมาให้ชม มีของดีๆหายากเพียบเลยนะ อิอิ  :015:

563
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม ...หลวงพี่มาร์คสักได้สวยงดงามเข้มขลังมากครับ  :015:

564
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ      :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

                                   รู้จักโลก  รู้จักธรรม  นำมาใช้
                                  ให้เป็นไป  โดยชอบ ในกุศล
                                  รู้จักโลก  รู้จักธรรม   แล้วทำตน
                                  ให้หลุดพ้น  จากโลก  ที่วุ่นวาย...

ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสั่งสอนของพระอาจารย์ทั้งหมดในวันนี้ ใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัตติต่อไปครับ  :054:

565
ธรรมะ / ชนะตนนั่นแลดีกว่า
« เมื่อ: 21 ส.ค. 2553, 04:07:43 »
ชนะตนนั่นแลดีกว่า

ชัยชนะเป็นความปรารถนาของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงเพราะเป็นสิ่งที่ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู่เพื่อแสวงหาอาหารของสัตว์ป่า การทำสงครามเพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการของผู้มีอำนาจ การต่อสู่เพื่อครอบครองดินแดน เป็นชัยชนะที่ทำให้เกิดศัตรูหรือเป็นคู่ปรปักษ์กัน ไม่ได้นำมาเพื่อสันติภาพ เพราะเป็นชัยชนะที่สร้างความเกลียดชัง ความอาฆาต จอวเวรกันมากขึ้นและจะเกิดการต่อสู่ไม่มีที่สิ้นสุด มีการแพ้และชนะกันไปมา และรุนแรงยิ่งขึ้นไป ดังนั้นการชนะศัตรูไม่ได้นำมาซึ่งสันติภาพ การชนะตนเองเท่านั้นจะนำมาซึ่งความสุขตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
          การชนะตน คือ ความสามารถในการควบคุมตนเองให้ประพฤติในสิ่งที่ดีงาม ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา การควบคุมตนเองหมายถึงการควบคุมทั้งทางกาย วาจา ใจ หรือ กล่าวได้ว่า เป็นหลักธรรม ที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงพุทธวจนะไว้ ในวันมาฆบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) ที่เรียกว่า โอวาทปาฏิโมกข์ หรือ โอวาท 3 คือ การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส
         การชนะตนเอง หมายถึง การเอาชนะกิเลสของตนเองให้ได้ การชนะแบบนี้เท่านั้นนำมาซึ่งสันติภาพ เมื่อชนะใจตนเองแล้วการชนะใจผู้อื่นจะยิ่งนำมาซึ่งสันติภาพของโลก เหมือนกับที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ พระองค์ทรงชนะตนเองแล้วจึงชนะใจผู้อื่น ด้วยการอบรมสั่งสอนสาวกให้เลื่อมใสในพระธรรม เมื่อปวงชนได้นำหลักธรรมมาประพฤติปฏิบัติย่อมเกิดความสงบสุขทำให้เกิดสันติภาพบนโลก

ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.sainampeung.ac.th/chalengsak/units/unit1/chapter%205/buddha_supasit/chanaton.html

566
มนัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่ตี๋มากครับ สำหรับคติธรรมคำสอนของท่าน

567
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ     :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน     :054:

จงถามตัวเองว่า...แสวงหาสิ่งใด..?
ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาของตนเองเสียใหม่


2 บรรทัดนี้จะจดจำใว้เป็นคำถามเตือนสติศิษย์เพื่อไม่ให้หลงทางในการปฏิบัติและดำริผิดอีกเป็นครั้งที่ 2

ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสอนของพระอาจารย์ทั้งหมดในวันนี้ ใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปกราบขอบคุณครับ :054:



568
รับทราบครับ  ดีครับได้ไม่เป็นการล่วงเกินผู้หลักผู้ใหญ่ในบอร์ดด้วย สำหรับคนที่ไม่รู้

569
แล้วแต่ผิวหนังคนอะครับ แต่ผมว่าควรเว้นใว้ สัก 2-3 วันนะครับหรือ จนกว่าแผลจะตกสะเก็ด ถึงค่อยฟอกสบู่
ไม่งั้นจะเป็นสีขาวๆในหมึกนะครับหรือเป็นประหรวด(พิมผิดขออภัย) เพราะแผลยังไม่หายดี

570
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม งดงามจริงๆ สภาพเหรียญสวยงามมากเลยครับ  :015:

571
รับทราบครับ ท่านผู้คุมกฎ กับท่านผู้ดูแล

 :080:

572
ขอบคุณพี่หอมเชียงที่นำมาให้ชมเป็นวิทยาทาน   :015: งดงามครับ  :053:

573
เป็นรุ่นสุดท้ายครับที่นำพระรักหลวงพ่อไร่ขิงแปะใว้ด้านหลัง  พิธีดีครับเจตนาดี

ปิดการจองหลัง 6 โมงเย็นเมื่อวานและครับ (ส่วนตัวผมก็ไม่ได้จองไม่มีตัง  :095:)

ลองค้นหาเบอร์โทรลองไปสอบถามทางวัดเองก็ได้ครับ

574
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ    :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน    :054:

คิดถึงองค์แห่งคุณธรรม ๓ อันได้แก่..
   ๑.อาตาปี...ความเพียรตั้งใจจริง
   ๒.สติมา....การมีสติระลึกรู้เท่าทันอารมณ์
   ๓.สัมปชาโน...มีความรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะ
องค์คุณธรรมทั้ง ๓ นี้คือหลักและหัวใจของการปฏิบัติธรรมที่ต้องมีและทำให้มีเสมอกัน

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสอน ศิษย์ขอน้อมไปปฏิบัติต่อไป  :054:

575
งดงามจริงๆเลยครับพี่ ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

ชอบเหรียญ รุ่น 3 จัง

576
กราบมนัสการพระอาจารย์ทุกๆรูป  :054: กราบมนัสการพระอาจารย์ญา ที่เมตตาสำหรับผ้ายันต์ครับ  :054:
ขอบคุณพี่นาวสุดสวยมากครับ สำหรับภาพบบรรยากาศ
ขอบคุณพี่ราหู สำหรับของฝากมากครับ

577
ขอบคุณพี่นนสำหรับข่าวสารมากครับ 

ขออนุโมทนาด้วยครับ   :054:

578
งดงามอลังการงานสร้างมากครับแต่ละท่าน ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม
พีเอ็ก์ไม่มีที่ให้สักแล้วมั้งครับ เต็มตัวแล้ว อิอิ

579
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,17237.0.html


ลองอ่านบทความของพระอาจารย์ดูครับ  :001:

ของจะขึ้นหรือไม่ ไม่สำคัญหลอกครับสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติและเชื่อฟังครูบาอาจารย์หรือป่าว

หนุมาน ยังไง ก็มีแค่ตัวเดียวครับ

580
ขอบคุณพี่เอ็กซ์ เจ้าของกระทู้ และทุกๆท่าน เสือสวยงามมากเลยครับ ปีนี้ปีเสือ ดุใช่ย่อย อิอิ

581
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

                    อย่าโอ้อวดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น วิเศษกว่าผู้อื่น
                     อย่าคิดว่าเรานั้นรู้ดีมากกว่าผู้อื่น รู้ดีกว่าผู้อื่น
                     เพราะมันจะเป็นเหตุให้ก่อเกิดอัตตามานะทิฏฐิ
                     การเย่อหยิ่ง ถือตัวถือตน นั้นจะเกิดขึ้นตามมา
                     ซึ่งสิ่งที่ว่ามานั้นคือการแสดงความโง่ของตัวเราเอง

ศิษย์ขอนอบน้อมนำคำสั่งสอนของพระอาจารย์ ใว้เป็นคติเตือนใจตนเอง ตลอดไปในการปฏิบัติครับ  :054:


582
งดงามทุกองค์เลยครับ สุดยอดจริงๆครับ พี่๗๗๗มีของดีเพียบเลย   :053:

583
ไปวัดบางพระครั้งล่าสุด ยังเห็นมีรักยมให้บูชาอยู่นะครับ เล็ก  50 กับใหญ่ 100 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ

วัดตาก้อง วัดสามง่าม วัดบางพระ ไกลกันพอสมควรครับเพราะอยู่คนละอำเภอกันเลยครับ  

วัดบางพระ-วัดกลางบางพระ ใกล้ๆกัน อ.นครชัยศรี /วัดสามง่าม อ.ดอนตูม   / วัดตาก้อง อ.เมืองนครปฐม  กับ วัดพะเนียงแตก จะอยู่แถบๆเดียวกัน

ส่วนพระปฐมเจดีย์ วัดไผ่ล้อม เขตตัวเมืองครับ / วัดไร่ขิง อ.สามพราน

584
ขอให้ทั้ง 2 ท่านมีความสุข มีแต่ความเจริญ รวยๆๆ โชคดีมีความสุขนะครับ

585
สุดยอดเลยเพื่อนโจ เหรียญสวยกริ๊บเลย อิอิ  :015:

586
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ไทเป
« เมื่อ: 18 ส.ค. 2553, 04:04:40 »
กราบขอบพระคุณ ท่าน joker  มากครับสำหรับรูปภาพบรรยากาศ  :054:

สุดยอดเลยครับท่าน อ.หนวด  .....ดังไกลไปถึงต่างแดน  :053:

587
ผมว่าเป็นที่เด็กอะครับ ไม่เกี่ยวกับการสักเลย

แนะนำไปหาจิตแพทย์ หรือบุคคลที่มีความรู้ทางด้านนี้ดีกว่าครับ

และเห็นด้วยกับท่านโองการนะครับ

588
เบี้ยแก้ของวัดกลางบางพระเนี่ย....เป็นของสร้างในสมัยหลวงพ่อพุฒรึเปล่าครับ

ลองสอบถามหลวงพี่ หรือ เจ้าหน้าที่ ที่ตู้ดูเลยครับ ถึงไม่ทันก็ใช้ได้เหมือนกัน
ยังไงก็เสกเข้าพิธีถูกต้องใช้ได้หละครับ ดีกว่าของที่ใครทำก็ไม่รู้แถมไม่ได้เสกอีกตางหาก

589
ขอบคุณพี่ชาญ มากครับสำหรับประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ในครั้งดีให้ชาวพี่น้องวัดบางพระ ได้ระมัดระวังกันมากขึ้น

ของเอาไปซื้อใหม่ได้ ชีวิตคนเสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้ครับ

ขอบคุณสำหรับเหรียญหลวงปู่อีกครั้งด้วยนะครับ

590
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ           :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน      :054:

ฉะนั้นเราจึงไม่ควรที่จะด่วนสรุปอะไรในสิ่งที่ผ่านมา ว่าเรานั้นรู้แล้ว เข้าใจแล้ว
เมื่อได้ฟัง ได้อ่านและได้ทำ เพราะว่าในเวลานั้นความรู้ความเข้าใจของเรามันมีอยู่เท่านั้น จึงรู้และเข้าใจ
ได้เพียงขนาดนั้น


กราบขอบพระคุณสำหรับแนวทางศิษย์ขอน้อมจดจำใว้เป็นข้อเตือนสติ ตลอดไป .......... :054:

591
งดงามมากครับ ชอบเหรียญรุ่นนี้จังเลย   :053:

ขอบคุณครับที่นำมาใหชม  :054:

592
งดงามจริงๆครับพี่ ท่านประธาน  :015: ทุกองค์ไม่ธรรมดาเลย :053:

593
สายตรงเขี้ยวเสือของบอร์ดนี้ ยกให้กับพี่ levis  เลยครับ ลองสอบถามความรู้จากพี่เขาดูได้ 

594
2ดอกนี้อยู่บ้านผมมานานเเล้วครับ ผมเอง ก็ ใด้มาจากพ่อ พ่อผมก็ไม่รู้ว่า ใครเอามาเหมือนกันจำกันไม่ได้ซะงั้นผมจะเอามาติดตัวเลย อยากรู้ ที่มาเท่านั้นครับ

ไม่ลองถามคุณพ่อคุณดูหละครับดีที่สุด หรือถ้าไม่รู้ก็ถือว่าเป็นสมบัติของคุณพ่อ แขวนแล้วนึกถึงคุณพ่อคุณก็ได้
ถ้ามั่นใจก็แขวนเลยอย่าไปสนใจของที่ไหน ทุกอย่างอยู่ที่ใจและศรัทธา และเป็นคนดี มีศิลมีธรรม
หากแขวนแล้วยังเกิดความลังเล ของก็ไม่ขลังหลอกครับผม

ตะกรุดหนังเสือส่วนมากคาดเอวได้ครับ
ขอให้โชคดี  :001:

595
เรื่องตะกรุด หรือเครื่องรางเป็นสิ่งที่พูดได้ยาก ว่าของจากทีไหนอย่างไรแท้หรือไม่ ของปลอมก็เยอะแยะเหมือนซะด้วย
นอกจากมีเอกลักษณ์เฉพาะ หรือ ได้รับมากับมือหรือเช่าที่วัดถึงจะทราบชัดเจนที่สุด เพื่อความสบายใจเช่าที่วัดดีกว่าครับ  :001:

596
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

งดงามจริงๆครับสุดยอดเลย  กราบขอบพระคุณที่นำมาให้ชมเป็นบุญตา  :054:

597
ขอบคุณนะครับท่านที่นำมาให้ชม    :015:

598
ของดีเพียบเลยนะครับ แต่ละชิ้นงดงามจริงๆ  :015:

599
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:      

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน    :054:

กิเลสทั้งหมดเกิดรวมที่จิต ให้เพ่งมองดูที่จิต อันไหนเกิดก่อน ให้ละอันนั้นก่อน
 หลักธรรมที่แท้จริงนั้นคือจิต ให้กำหนดดูจิต ให้เข้าใจจิตตนเองให้ลึกซึ้ง
  เมื่อเข้าใจจิตตนเองได้ลึกซึ้งแล้ว นั้นแหละได้แล้วซึ่งหลักธรรม
 การไม่กังวล การไม่ยึดติด นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ


ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:
ตอนนี้กิเลสผมมันหนาเหลือเกินครับ ในความอยากที่ไม่รู้จักพอในวัตถุมงคล จนทำให้เกิดทุกข์ ร้อนจิตใจ อยากได้นู่น อยากได้นี่ จนรู้สึกขุ่นมัวในจิตใจมากบางทีตัดได้ก็เร็ว บางทีหลงไปอยู่กับมันก็นานหน่อยครับ
แต่ก็ได้ทำตามที่พระอาจารย์เคยสั่งสอนมา ให้ย้อนกลับไปพิจณาดูในเหตุแห่งทุกข์ ก็หายทุกข์ ... แต่พอซักพักนานๆไปกิเลสก็กลับมาอีก ก็ค่อยๆทำต่อไปเลื่อยๆจนกว่าทุกข์นั้นมันจะหายไปเลย  ต้องกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอน หากมีอะไรชี้แนะเพิ่มเติมศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป    :054:

600
งดงามจริงๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

602
ยินดีด้วยครับท่านพี่เซอร์ดอน  งดงามมากๆครับ :015:

เลสสั่งตามจำนวนจองด้วย  :015:

603
กราบมนัสการหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทรด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่บัฟมากครับ

604
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ     :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอน้อมจดจำคำสอนของพระอาจารย์ใว้เป็นแนวทางต่อไป    :054:

605
อ.หนวด สุดยอดจริงๆ ครับ  :053:   :015:

ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว ขลังด้วย  :015:

606
กทิงวันปีนี้ .....ตรงกับ ปีเสือ เดือนสิง  ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙
ในวันพฤหัสบดี ที่  19 สิงหาคม พ.ศ. 2553



607
ตามนั้น ครับ อย่างที่เข้าใจ ....  หาเช่าของวัดบางพระ กับ ของหลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ และ วัดกลางบางพระ ก็ได้ครับ ตอนนี้  

608
หนังหน้าผากเสือหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ยังพอมีเหลือใม้ครับ?

ผมเห็นอยู่ในตู้กระจก ที่กุฏิใหญ่ มีอยู่หลายชิ้นเลยครับ ให้เช่าบูชา อยู่ครับ :054:

ขอบพระคุณพี่ชาญ สำหรับเหรียญหลวงปู่เปิ่น เมื่อวันงานที่12ด้วยครับ  :054:

609
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ     :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:   
                                                       จงอย่าเอา    ตัวเรา   มาเป็นใหญ่
                                                        ทำอะไร     ควรคิด    ด้วยจิตว่าง
                                                         คือทิฏฐิ      มานะ     ควรละวาง
                                                         มองทุกอย่าง เป็นธรรมะ  ละอัตตา

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

610
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ      :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน       :054:

                          ยอมรับ  ในสิ่ง   พลาดผิด
                          ค้นคิด    หาซึ่ง   เหตุผล
                          อย่าคิด   เข้าข้าง ฝ่ายตน
                          ฝึกค้น    เป็นกลาง วางใจ


ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป    :054:

611
งานนี้ของกราบมนัสการหลวงพี่ญา และพระอาจารย์ทุกรูปด้วยครับ  :054:

และขอขอบคุณมิตรภาพและของฝากจาก ลุงต้อ พี่นาว ต้นน้ำ พี่บอล พี่เอ็กซ์ และพี่ๆทุกๆคนด้วยนะครับ

612
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ    :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน      :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป     :054:

613
กราบมนัสการหลวงพี่เวป   :054:

ขอบพระคุณสำหรับคลิปวีดีโอดีๆมากครับ

614
ขอบคุณพี่เอมากครับ งดงามจริงๆ เสียดายที่ไม่ได้จองกับเขาเลย

 :015:  :015:  :015:  :015:

615
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ   :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน     :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป    :054:

616
ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศมากครับ

617
งดงามมากๆเลยครับ
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

618
เรื่องการพนันเคยได้ยินครับ
ประมาณว่าใครแขวนหลวงปู่ทวดไปเล่นการพนัน มีแต่หมด เพราะท่านไม่ชอบประมาณนี้ครับ

พระทุกองค์หละครับ ถ้าให้ดีควรไม่ทำบาปสร้างกรรมจะดีและขลังที่สุด หลักๆศิล 5 ข้อเลย

619
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

621


พระนางพญาองค์นี้ผมได้จากคุณอาของผมครับ  ใครรู้ว่าของทีไหนบอกด้วยนะครับ

ประสบการณ์องค์นี้ก็คือ ประมาณปี 2548 สมัยผมเรียนอยู่ปวช ปี 2
กำลังนั่งรถกลับบ้านเป็นรถประจำทางสาย 402 มหาชัย-นครปฐม  ช่วงเย็นๆหลังเลิกเรียน
พอถึงใกล้ๆประมาณพุทธมณฑลสาย 8  ตรงบริเวณเลยศาลาแคแถวมาหน่อย
มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ใส่หมวกกันน็อค ทั้ง 2  จอดรถประกบยิงตรงบริเวณประตูตรงที่ผมนั่งอยู่พอดี
ปรากฏว่าไม่ออก คนร้ายก็ไม่ละความพยายาม ขี่ตามมาอีกจากที่ไหนไม่รู้อีก 1-2 คันประกบไล่ยิงตั้งแต่พุทธมณฑลสาย 8 ถึงประมาณหน้าสวนสามพรานได้ประมาณ 5-6 ครั้ง
ปรากฏว่าทุกครั้งที่ยิง ยิงไม่ออกเลยสักนัด ทั้งที่มีปืนทั้ง 2 คน ที่ขี่ตามประกบมา  
วันนั้นผมรอดตายมาได้ เพราะพระองค์นี้ที่คอองค์เดียว กับ ตะกรุดโทนวัดบางพระดอกเงินๆเชือกสีเหลือง เพียงดอกเดียว
แต่น่าเสียดายครับ ตะกรุดดอกนั้นดันโดนเพื่อนเอาไปแล้วเลยไม่มีรูปมาลงให้ชมกัน ผมตามหายังไงก็ไม่เจอ บูชาจากวัด 100 เดียว
ถ้าวันนั้นกระสุนออก ผมคงโดนยิงเต็มๆ เพราะปากกระบอกปืนหันมาที่ผม สงสัยบุญเก่ารักษาบารมีคุณพระและหลวงปู่ช่วยกระมังเลยรอดมาได้

ที่พิมมาไม่ได้มีเจตนาโอ้อวดครับแต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์กัน  ใครมีประสบการณ์การก็แบ่งปันกันได้
ของแบบนี้ต้องพูดได้คำเดียวว่า ใครไม่เคยเจอกับตัวเองย่อมไม่รู้หลอกครับ ขอบคุณครับ  :054:

622
ขอบพระคุณพี่  โองการยันนะรังสี  มากครับ สำหรับข้อมูล


623
กราบขอบพระคุณท่าน ooo ด้วยครับที่แจ้งข่าว  :054:

ขอร่วมใว้อาลัยกับการจากไป อาจารย์บุญมี ด้วยครับ

624
กราบมนัสการพระอาจารย์ทุกรูป   :054:

ขอบคุณพี่ข้าวหลามตัดมากครับสำหรับภาพบรรยากาศ

พิธีเข้มขลังสุดๆเลยครับ

625
สุดยอดเลยครับ งดงามมากๆ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

626
งดงามเหนือคำบรรยาย ชุดนี้ชอบมากเลยครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชม

627
ขอให้พี่เจมส์มีความสุข สุขภาพแข็งแรงด้วยนะครับ รวยๆ   กิ๊กเยอะๆ สาวเพียบ  55+  21;



เกิดเดือนเดียวกันด้วยนะครับพี่ชาย อิอิ

628
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  วันนี้ได้ความรู้ใหม่ๆอีกแล้วครับ จะขอใช้อิทธิบาท 4 เป็นหลักความเพียรในการฝึกต่อไปไม่ย่อท้อ :054:

629
ขอบพระคุณพี่ธรรมะรักโขมากครับ สำหรับข้อมูล

630
ขอแสดงความยินดีกับพี่บัฟด้วยนะครับ

งดงามมากครับกับเหรียญนี้

631
ขอร่วมใว้อาลัยด้วยครับ

ขอบคุณพี่พีชมากครับ

632
สุดยอดจริงๆครับ งดงามเหนือคำบรรยาย  :054:

633
ขอบคุณพี่นาวสุดสวยสำหรับภาพถ่ายบรรยากาศมากครับ

อบอุ่นจริงๆ

634
ยินดีกับพี่เอ็กซ์ และเพื่อนต้น ด้วยนะครับ

ของฝากจากท่านพี่ อ.ดอน งดงามจริงๆ  :053:

635
ขอบพระคุณสำหรับภาพบรรยากาศ ครับ
อนุโมทนาด้วย

636
งดงามมากครับท่านพี่ มีลอยจารด้วย

ขอบคุณนะครับที่นำมาให้ชม  :015:

637
ขอบคุณสำหรับรูปภาพเหรียญสวยๆ  และข้อมูลครับ

638
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

รับฟัง พินิจ พิจารณา ไตร่ตรอง หาเหตุและผล ข้อดีและข้อเสีย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น  :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

639
สักไปเพื่อไรอ่ะ  :064:

อันนี้แล้วแต่มุมมองนะครับ สำหรับผมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และมีกำลังใจครับ ด้วยแรงแห่งครูบาอาจารย์ปฏิหารย์จะบังเกิด
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผลซึ่งกันและกันเสมอนะครับ
ไปอ่านกระทู้ของพระอาจารย์ก็ได้ครับท่านได้ให้คำตอบใว้แล้ว

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,17237.0.html

ส่วนของดีจะดีหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ของขึ้นไม่ขึ้นครับ
อยู่ที่คุณเป็นคนดี เชื่อฟังและเคารพครูบาอาจารย์ พระอาจารย์หรือป่าว ผิดคำที่ท่านสอนใหม มีความกตัญญูใหม
ถ้ากลัวว่าของจะขึ้นก็บอกท่านก็ได้ครับ ถามท่านว่าจะทำยังไง ท่านเมตตาอยู่แล้วครับ
ขอให้โชคดี ครับ

640
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับภาพการทำงานคือการปฏิบัติธรรม คำสอนด้วยครับ  :054:

นี่หละครับ วัดกับพระที่เป็นที่พึ่ง และชาวบ้านที่อยู่ร่วมกันแบบสมัยก่อนจริงๆ เข้าวัดได้ทั้งบุญและความรู้

641
ได้ครับ ปกติผมจะให้หลวงพ่อสำอางค์ หลวงพี่ญา หลวงลุงต้อย เป่าให้ครับ

สายเดียวกัน วัดบางพระเหมือนกันไม่มีปัญหาครับ

642
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

643
ยินดีด้วยนะครับ

ยันต์ตรงกลางสาริกา น่าจะเป็น ยันต์นะพระฉิมพลี นะครับ โชคลาภ เมตตา

644
มนัสการหลวงปู่พลอย ฐิติญาโณ  ด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ สำหรับประวัติของท่าน

645
ขอบคุณครับพี่นกที่นำมาให้ชม  งดงามจริงๆ ครับ

ประสบการณ์แน่นเลยครับ

646
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพพระกรุนาดูนที่มาให้ศึกษากันด้วยครับ งดงามจริงๆครับ สำหรับศิลปะพระกรุนี้ :054:


647
ขอบคุณพี่เจมส์สุดหล่อมากครับ ที่นำมาให้ชม งดงามจริงๆ

648
jam


กราบขอบพระคุณท่านปูดำสำหรับรูปภาพ เลสข้อมือหน้าเสือมากครับ เห็นของจริงแล้วงดงามจริงๆ มีเส้นใหญ่กับเล็ก   :054:

649
ขอบคุณพี่บัฟมากครับ สำหรับรูปวัตถุมงคลหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร

งดงามจริงๆครับ

650
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณที่นำมาให้ชมเป็นบุญตาครับ งดงามจริงๆมีเกศาเพียบเลย  :054:

651
ขอนอบน้อมกราบมนัสการหลวงปู่ครับ   :054:

ขอบคุณเพื่อนต้นมากครับ

652
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

งดงามจริงๆครับเป็นบุญตาแท้ๆที่ได้ชม ศิลปะงดงามจริงๆครับ แถมการปลุกเสกก็ยากด้วย :054:

ต้องกราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับความรู้เรื่องปลัดขิกในคราวก่อน  และรูปภาพปลัดขิกสายในตำนานด้วยครับ  :054:

พูดได้ครับเดียวครับสุดยอด หากมีวาสนาคงได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์บ้างครับ  :054:

653
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

อยู่คนเดียวให้ระวังจิต  อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

654
แหม่มาทำให้เกิดกิเลสกันใหญ่เลยนะครับพี่ 2 คนนี่ 

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม สวยกรี๊บบาดตาบาดใจ

655
ขอบคุณมากครับ
กลับอดีตที่จากไปคงเพราะหมดบุญหมดกรรมกันแล้ว
เศร้าจัง ...

656
ยินดีด้วยนะครับ
หลวงพี่ญาท่านเมตตาศิษย์เสมอครับ
ท่านใจดีมากครับ  น่ายินดีได้ฝังตะกรุดด้วย


657
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ช่วงนี้ฝนตกหนักรักษาสุขภาพด้วยนะครับ  :054:
กราบขอบคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:
ศิษย์ขอน้อมนำคำสอน และแนวทางของพระอาจารย์ ใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป   :054:


658
ขอบคุณพี่เซอร์ดอนด้วยครับ พระปิดตารุ่นนี้มวลสารแน่นเลยครับ

อนุโมทนาด้วยครับกับการไปปฏิบัติธรรม

659
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณที่นำมาให้ชมกันเป็นบุญตาครับ งดงามจริงๆครับแต่ละแบบ  :054:


660
ขอบคุณครับพี่บอลที่นำมาให้ชม

แหม่พี่ชายมีของหลวงพ่อมีด้วยก็ไม่บอก อิอิ น่ายินดีครับเหรียญสิงห์ป้อนเหยื่อเมตตาแรงน่าดู
เหมาะกับพี่บอลเลยครับ ด้านเมตตาเนี่ย อิอิ

661
กราบมนัสการหลวงปู่เปิ่นที่เคารพ และพระอาจารย์วัดบางพระทุกรูป  :054:

เห็นภาพหลวงปู่แล้วรู้สึกมีความสุขจังครับท่านเมตาศิษย์มาก ถึงผมจะเกิดไม่ทันมาพบท่านแต่ก็ดีใจครับทีได้มาเป็นลูกศิษย์วัดบางพระ  :054:

ขอบคุณพี่บางแก้วฟ้าด้วยครับ

662
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

663
เหรียญนางกวัก เป็นเหรียญที่ผมชอบมากเลยครับ


ขอบคุณมากครับที่นำมาให้ชมเป็นบุญตา

664
ต้องขอบคุณพี่ชายใจดีท่านนึง สอนผมดูมาอีกทีครับ  :054:

665
ขอบคุณที่นำมาให้ชม ส่วนตัวผมว่าดูดีครับ

หากผิดพลาดก็ขออภัย มือใหม่กำลังหัดดูครับ อิอิ

รอพี่ๆ รุ่นใหญ่ๆ มาช่วยฟันธงอีกทีครับ

666
งดงามมากครับ  ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :053:

667
ขอบคุณพี่หอมเชียงมากครับ เป็นบุญตาจริงๆ

668
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยทาง รอยกวี คำสอน   :054:

บทกวีวันนี้ทำให้ศิษย์ได้สติคืนมาสำหรับคำว่า '' พอ '' ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป ขอบพระคุณครับ  :054:

669
ขอบคุณครับพี่บอล ที่นำมาให้ชม
ช่วงนี้กำลังลื้อกรุ อย่าลืมนำพระดีๆมาให้ชมอีกนะครับ

670
สุดยอดเลยครับพี่นก ... งดงามจริงๆๆๆๆๆ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

671
ขอบคุณพี่เจมส์ สำหรับภาพเหตุการณ์จริง ครับ

สุดยอดเลย บารมีหลวงปู่เปิ่นคุ้มครอง

672
ขอบคุณพี่เอ็กซ์ กับพี่นกมากครับ

ภาพวัตถุมงคล งดงามจริงๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชมกัน  :015:

673
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน ประจำวันนี้ครับ   :054:
ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

674
ขอบคุณครับพี่ที่นำมาให้ชม

งดงามมากเลยครับ  :015:

675
ยินดีกับกวางด้วย อิอิ  :053:   

ได้ของดีมาเพียบเลย วันเกิดปีนี้ ขอให้มีความสุขมากๆนะ

หลวงพี่ญาเมตตามากเลยครับ ....  :054:

676
สาธุครับ

หลวงพี่ญาเมตตาต่อศิษย์เสมอ  :054:

677
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตต่อไป ขอบพระคุณทุกความเมตตาชี้แนะสั่งสอนให้เดินถูกทาง  :054:

678
สาธุครับ หายเร็วๆนะครับ บารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ

679
ธรรมะ / +++ กิเลส +++
« เมื่อ: 01 ส.ค. 2553, 01:52:16 »


เมื่อกิเลสยึดครองโลก

เมื่อกิเลส ไหลนอง ยึดครองโลก
  
มันสุดแสน โสโครก ที่โกรกไหล

เมื่อกระแส ไฟตัณหา ไหม้พาไป

ทิ้งซากไว้ ระเกะระกะ อนิจจัง


กลับยกย่อง ว่านั่นสิ่ง ศิวิไลซ์

ยั่วความใคร่ เพิ่มเหยื่อ แก่เนื้อหนัง

เป็นเครื่องล่อ กามา บ้าติดตัง

ทั่วโลกคลั่ง ก็ยิ่งคล้าย อบายภพ


ทั้งแก่เฒ่า สาวหนุ่ม ล้วนจมกาม

เกลียดศีลธรรมเห็นเป็นหนามระคายขบ

อาชญากรรม ลุกลาม สงครามครบ

ร้อนตลบ โลกกิเลส สังเวชจริงฯ  


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กิเลส
คำว่า กิเลส แปลว่า สิ่งที่เศร้าหมอง หรือ เครื่องทำให้เกิดความเศร้าหมอง
มีความหมาย ๓ อย่าง คือ


ให้เกิดความสกปรก หรือ เศร้าหมองอย่างหนึ่ง
ให้เกิดความมืดมิดไม่สว่างไสวอย่างหนึ่ง
ให้เกิดความกระวนกระวายไม่มีความสงบอีกอย่างหนึ่ง



เพื่อให้เข้าใจง่าย ท่านแบ่งชั้นกิเลสเป็น ๓ ชั้น คือ ชั้นละเอียดหรือชั้นใน
อย่างหนึ่ง, ชั้นกลางอย่างหนึ่ง, ชั้นหยาบหรือชั้นนอก อย่างหนึ่ง

ที่เป็นชั้นใน หมายถึงชั้นที่นอนนิ่งอยู่ในสันดานอย่างเงียบๆ จนกว่าจะมีอารมณ์มา
กระทบ จึงจะปรุงขึ้นเป็นกิเลสชั้นกลางที่เกิดขึ้นกลุ้มรุมจิต หรือเป็นกิเลสชั้นหยาบ
ที่ทะลุออกมาปรากฏเป็นกิริยาต่างๆ ที่ชั่วร้ายภายนอก ตัวอย่างกิเลสชั้นละเอียดที่
เป็นภายในมีชื่อเรียกว่า อกุศลมูล มี ๓ อย่าง คือ โลภะ-ความโลภ, โทสะ-ความ
โกรธ ประทุษร้าย, โมหะ-ความหลง หรือ ที่มีชื่อเป็นอย่างอื่นอีกมากชื่อ  แต่โดย
ใจความแล้ว ได้แก่ กิเลสที่ยังสงบอยู่ภายใน จนกว่า ได้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องจน
เกิดความรู้สึกอยากได้รุนแรง รบกวนอยู่ในใจ พลุ่งพล่านอยู่ด้วยความอยาก หรือ
พลุ่งพล่าน อยู่ด้วยความโกรธแค้นเกลียดชัง หรือ พลุ่งพล่านอยู่ด้วยความโง่สงสัย
กระวนกระวายอยู่ในใจ เป็นกิเลสชั้นกลางเรียกชื่อว่า นิวรณ์ มี ๕ อย่าง คือ
กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา. ถ้าความปรุงแต่งไม่หยุด
อยู่แต่เพียงเท่านั้น ก็จะทะลุออกมา ทางกาย ทางวาจา เป็นการกระทำด้วยเจตนา
เช่น การล่วงละเมิดในทางกาม การฆ่าเขา เบียดเบียนเขา การพูดเท็จ ตลอดจน
การดื่มน้ำเมา เป็นต้น
ซึ่งเรียกว่า กิเลสหยาบ ถ้าพิจารณากันอีกทางหนึ่ง จะเห็นได้
ว่า ตัวกิเลสที่แท้นั้น คือ กิเลสชั้นใน หรือ ชั้นละเอียดนั่นเอง ส่วนอีก ๒ ชั้นที่เหลือ
เป็นเพียงกิริยาอาการของกิเลสชั้นในที่แสดงออกมา มากกว่าที่จะเป็นตัวกิเลสเอง
แต่โดยเหตุที่ท่านเพี่งเล็งถึงตัวความเศร้าหมองมืดมัวและไม่สงบ ท่านจึงจัดกิริยา
อาการของกิเลสอย่างนั้นทั้ง ๒ ชั้น ว่าเป็นตัวกิเลสโดยตรงอีกด้วย เช่นกิริยาอาการ
ที่เรียกว่า กามฉันทะ หรือ พยาบาทนั้น ทำให้มโนทวาร หรือ ใจเศร้าหมอง และ
กิเลสในการล่วงละเมิดในกาม และการพูดเท็จ เป็นต้นนั้น ทำให้กายและวาจาเศร้า
หมอง ในทำนองเดียวกันกับที่กิเลสชั้นละเอียดได้ทำให้สันดานพื้นฐานส่วนลึกของ
ใจเศร้าหมอง ในที่สุดเราก็จะได้เป็นคู่ๆ กันดังนี้

๑. กิเลสชั้นละเอียด ทำให้สันดานเศร้าหมอง
๒. กิเลสชั้นกลาง ทำให้มโนทวารเศร้าหมอง
๓. กิเลสชั้นหยาบ ทำให้วจีทวารและกายทวารเศร้าหมอง


กิเลสชั้นละเอียด ซึ่งได้กล่าวแล้วเรียกว่า อกุศลมูล ในที่นี้ มีเพียง ๓ อย่าง แต่ใน
ที่อื่นมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น และจำแนกออกไปมากกว่า ๓ อย่าง ตัวอย่างเช่น
แทนที่จะจำแนกเป็น โลภะ โทสะ โมหะ ก็จำแนกเป็น กามราคะ ปฏิฆะ ทิฎฐิ
วิจิกิจฉา มานะ ภวราคะ อวิชชา รวมเป็น ๗ อย่าง และเรียกว่า อนุสัย แต่ในที่สุด
เราก็เห็นได้ว่า กามราคะ ความกำหนัดในกาม และ ภวราคะ ความกำหนัด ใน
ความมีความเป็น ในที่นี้ ได้แก่ โลภะ หรือ ราคะ นั่นเอง ปฏิฆะ ในที่นี้ ก็คือ โทสะ
นั่นเอง ส่วน ทิฎฐิ วิจิกิจฉา มานะ อวิชชา ทั้ง ๔ อย่างนี้ สรุปลงรวมได้ในโมหะ
จึงยังคงเหลือเพียง โลภะ โทสะ โมหะ อยู่นั่นเอง แม้จะจำแนกให้มากออกไปกว่า
นี้ เช่น เป็น สังโยชน์ ๑๐ ก็ทำนองเดียวกัน คือ อาจจะย่นให้เหลือ เพียง ๓ ได้
ดังกล่าว หากแต่ว่า เป็นเรื่องละเอียดเกินภูมิ ของผู้เริ่มศึกษา จะงด ไม่กล่าวถึง



คัดจาก หนังสือ ศึกษาธรรมะอย่างถูกวิธี หรือ ธรรมวิภาค นวกภูมิ  
คำบรรยายธรรมะ ของ พุทธทาสภิกขุ ในพรรษา ปีพุทธศักราช ๒๕๐๐  
พิมพ์โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ
ความรู้จากเวป http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/kires.html
กราบมนัสการหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ  :054:

680
ขออนุญาตขุดให้พี่น้องสมาชิกใหม่ ที่เข้าไปตอบกระทู้เก่าๆได้ทราบกัน

ก่อนตอบโปรดดูวันที่ด้วยครับ หากกระทู้นั้นไม่มีคนตอบ เกิน 120 วันไปแล้ว ไม่ควรกดตอบโพสกระทู้อีก


อ่านกฏเวปก่อนกดตอบกระทู้สักนิดจะช่วยขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณครับ


681
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวีคำสอน  :054:

วันนี้ศิษย์ได้ความรู้เยอะเลย จะขอน้อมนำคำสอนใว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป  :054:

682
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวีคำสอน   :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

683
กราบมนัสการหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทรด้วยครับ  :054:

ขอบคุณพี่บัฟสำหรับภาพบรรยากาศ  วันที่ 12 สิงหานี้คงได้พบกันนะครับ  :001:

684
งดงามมากครับพี่เอ็กซ์  03; เสือนั่งเนื้อเงินกริ๊บเลย  :015:

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ มีแต่คนเอาของดีๆมาลงเอ็มไม่เห็นมีอะไรมาลงให้คนอื่นดูบ้างเลย  05;

685
ขอบพระคุณพี่ธรรมมะรักโขสำหรับข่าวสารมากนะครับ 

อนุโมทนาด้วย

686
ขอบพระคุณพี่นกมากครับ สำหรับภาพวัตถุมงคล และข้อมูล

ซึ้งตามากเลยครับ งดงามจริงๆ หายไปนานแต่ของดีเพียบเลยนะครับ

687
ธรรมะ / บุญ กับ กุศล
« เมื่อ: 30 ก.ค. 2553, 01:51:04 »


เมื่อใดมีการพิจารณากันให้ละเอียดถี่ถ้วน เมื่อนั้นจะพบความแตกต่างระหว่าง
สิ่งที่เรียกกันว่า "บุญ" กับ สิ่งที่เรียกว่า "กุศล" บ้างไม่มากก็น้อย
แล้วแต่ความสามารถ ในการพินิจพิจารณา แต่ว่า โดยเนื้อแท้แล้ว
บุญ กับ กุศล ควรจะเป็น คนละอย่าง หรือ เรียกได้ว่า ตรงกันข้าม
ตามความหมาย ของรูปศัพท์ แห่งคำสองคำ นี้ทีเดียว

คำว่า บุญ มีความหมายว่า ทำให้ฟู หรือ พองขึ้น บวมขึ้น นูนขึ้น,
ส่วนคำว่า กุศล นั้น แปลว่า แผ้วถาง ให้ราบเตียนไป โดยความหมาย
เช่นนี้ เราย่อมเห็นได้ว่า เป็นของคนละอย่างหรือเดินคนละทาง


บุญ เป็นสิ่งที่ทำให้ฟูใจพอใจชอบใจ เช่น ทำบุญให้ทานหรือรักษาศีลก็ตาม
แล้วก็ฟูใจ อิ่มเอิบ หรือ แม้ที่สุดแต่รู้สึกว่า ตัวได้ทำสิ่งที่ทำยาก
ในกรณีที่
ทำบุญเอาหน้า เอาเกียรติ อย่างนี้ ก็ได้ชื่อว่า ได้บุญ เหมือนกัน แม้จะ
เป็น บุญชนิดที่ไม่สู้จะแพ้ หรือแม้ในกรณีที่ทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เพื่อเอาบุญกันจริงๆ ก็ยังอดฟูใจไม่ได้ว่า ตนจะได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์
มีความปรารถนาอย่างนั้น อย่างนี้ ในภพนั้น ภพนี้ อันเป็น ภวตัณหา นำไปสู่
การเกิดในภพใหม่ เพื่อเป็น อย่างนั้น อย่างนี้ ตามแต่ ตนจะปรารถนา ไม่ออก
ไปจาก การเวียนว่ายตายเกิด ในวัฎสงสาร ได้ แม้จะไปเกิดในโลกที่เป็นสุคติ
อย่างไรก็ตาม ฉะนั้น ความหมายของคำว่า บุญ จึงหมายถึง สิ่งที่ทำให้ฟูใจ
และ เวียนไปเพื่อความเกิดอีก ไม่มีวันที่สิ้นสุดลงได้

ส่วนกุศลนั้น เป็นสิ่งที่ ทำหน้าที่ แผ้วถาง สิ่งกีดขวาง ผูกรัด หรือ รกรุงรัง
ไม่ข้องแวะ กับความฟูใจ หรือ พอใจ เช่นนั้น แต่มีความมุ่งหมายจะกำจัดเสียซึ่ง
สิ่งต่างๆ อันเป็นเหตุ ให้พัวพัน อยู่ใน กิเลสตัณหา อันเป็น เครื่องนำให้ เกิดแล้ว
เกิดอีก
และมีจุดมุ่งหมาย กวาดล้างสิ่งเหล่านั้นออกไปจากตัว ในเมื่อบุญต้องการ
โอบรัด เข้ามาหาตัว ให้มีเป็น ของของตัว มากขึ้น ในเมื่อฝ่ายที่ถือข้างบุญยึดถือ
อะไรเอาไว้มากๆ และพอใจ ดีใจนั้น  ฝ่ายที่ถือข้างกุศล ก็เห็นว่า การทำอย่างนั้น
เป็นความโง่เขลา ขนาดเข้าไป กอดรัดงูเห่า ทีเดียว ฝ่ายข้างกุศล หรือ ที่เรียกว่า
ฉลาด นั้น ต้องการจะ ปล่อยวาง หรือ ผ่านพ้นไป ทั้งช่วยผู้อื่น ให้ปล่อยวาง หรือ
ผ่านพ้นไปด้วยกัน ฝ่ายข้างกุศล จึงถือว่า ฝ่ายข้างบุญนั้น ยังเป็นความมืดบอดอยู่

แต่ว่า บุญ กับ กุศล สองอย่างนี้ ทั้งที่มี เจตนารมณ์ แตกต่างกัน ก็ยังมี การกระทำ
ทางภายนอกอย่างเดียวกัน ซึ่งทำให้เราหลงใหลในคำสองนี้อย่างฟั่นเฝือ เพื่อจะให้
เข้าใจกันง่ายๆ เราต้องพิจารณา ดูที่ตัวอย่างต่างๆ ที่เรา กระทำกัน อยู่จริงๆ คือ
ในการให้ทาน ถ้าให้เพราะจะเอาหน้าเอาเกียรติ หรือ เอาของตอบแทน เป็นกำไร
หรือ เพื่อผูกมิตร หาพวกพ้อง หรือ แม้ที่สุดแต่ เพื่อให้บังเกิดในสวรรค์ อย่างนี้
เรียกว่า ให้ทานเอาบุญหรือได้บุญ แต่ถ้าให้ทาน อย่างเดียวกันนั่นเอง แต่ต้องการ
เพื่อขูดความขี้เหนียว ของตัว ขูดความเห็นแก่ตัว หรือให้เพื่อค้ำจุนศาสนา เอาไว้
เพราะเห็นว่า ศาสนาเป็น เครื่องขูดทุกข์ ของโลก หรือ ให้เพราะ เมตตาล้วนๆ
โดยบริสุทธิ์ใจ หรืออำนาจเหตุผล อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่ง ปัญญาเป็นผู้ชี้ขาดว่า
ให้ไปเสีย มีประโยชน์มากกว่าเอาไว้อย่างนี้ เรียกว่า ให้ทานเอากุศล หรือได้กุศล
ซึ่งมันแตกต่างๆ ไปคนละทิศ ละทางกับการให้ทานเอาบุญ เราจะเห็นได้กันสืบไป
อีกว่า การให้ทานเอาบุญนั่นเอง ที่ทำให้เกิดการฟุ่มเฟือยขึ้นในสังคม ฝ่ายผู้รับทาน
จนกลายเป็นผลร้ายขึ้น ในวงพระศาสนาเอง หรือในวงสังคมรูปอื่นๆ เช่น มีคน
ขอทานในประเทศมากเกินไป เป็นต้น การให้ทาน ถูกนักคิดพากันวิพากษ์วิจารณ์
ในแง่เสื่อมเสีย ก็ได้แก่ การให้ทานเอาบุญนี้เอง ส่วนการให้ทานเอากุศลนั้นอยู่สูง
พ้นการที่ถูกเหยียดอย่างนี้ เพราะว่ามีปัญญาหรือเหตุผลเข้าควบคุม แม้ว่าอยากจะ
ให้ทาน เพื่อขูดเกลา ความขี้เหนียว ในจิตใจ ของเขา ก็ยังมีปัญญา รู้จักเหตุผลว่า
ควรให้ ไปในรูปไหน มิใช่เป็นการให้ไปในรูปละโมบบุญหรือเมาบุญ เพราะว่ากุศล
ไม่ได้เป็นสิ่งที่หวานเหมือนกับบุญ จึงไม่มีใครเมา และไม่ทำให้เกิดการเหลือเฟือ
ผิดความสมดุลขึ้นในวงสังคมได้เลย นี่เราพอจะเห็นได้ว่า ให้ทานเอาบุญ กับ
ให้ทานเอากุศลนั่น ผิดกันเป็นคนละอันอย่างไร

ในการรักษาศีล ก็เป็นทำนองเดียวกันอีก รักษาศีลเอาบุญ คือรักษาไปทั้งที่ไม่รู้จัก
ความมุ่งหมายของศีล เป็นแต่ยึดถือในรูปร่างของการรักษาศีล แล้วรักษาเพื่ออวด
เพื่อนฝูง หรือ เพื่อแลกเอาสวรรค์ ตามที่ นักพรรณนาอานิสงส์ เขาพรรณนากันไว้
หรือ ทำอย่างละเมอไปตามความนิยมของคนที่มีอายุล่วงมาถึงวัยนั้นวัยนี้ เป็นต้น
ยิ่งเคร่งเท่าใด ยิ่งส่อความเห็นแก่ตัว และความยกตัว มากขึ้น เท่านั้น
ยิ่งมีความ
ยุ่งยากในครอบครัว หรือวงสังคม เกิดขึ้นใหม่ๆ แปลกๆ เพราะ ความเคร่งครัด
ในศีลของบุคคลประเภทนี้อย่างนี้ เรียกว่ารักษาศีลเอาบุญ ส่วนบุคคลอีกประเภท
หนึ่ง รักษาศีลเพียงเพื่อให้เกิดการบังคับตัวเอง สำหรับจะเป็นทางให้เกิดความ
บริสุทธิ์ และความสงบสุขแก่ตัวเองและเพื่อนมนุษย์เพื่อใจสงบ สำหรับเกิดปัญญา
ชั้นสูง นี้เรียกว่า รักษาศีลเอากุศล รักษามีจำนวน เท่ากัน ลักษณะเดียวกัน ในวัด
เดียวกัน แต่กลับเดินไป คนละทิศละทาง อย่างนี้เป็นเครื่องชี้ ให้เห็นภาวะ แห่ง
ความแตกต่าง ระหว่างคำว่า บุญ กับคำว่า กุศล คำว่า กุศลนั้น ทำอย่างไรเสีย ก็
ไม่มีทางตกหล่ม จมปลักได้เลย ไม่เหมือนกับคำว่า บุญ และกินเข้าไป มากเท่าไร
ก็ไม่มีเมา ไม่เกิดโทษ ไม่เป็นพิษ ในขณะที่ คำว่า บุญ แปลว่า เครื่องฟูใจนั้น คำว่า
กุศล แปลว่า ความฉลาดหรือ เครื่องทำให้ฉลาด และ ปลอดภัย ร้อยเปอร์เซ็นต์

ในการเจริญสมาธิ ก็เป็นอย่างเดียวกันอีก คือ สมาธิเอาบุญ ก็ได้ เอากุศลก็ได้
สมาธิเพื่อดูนั่นดูนี่ ติดต่อกับ คนโน้นคนนี้ ที่โลกอื่น ตามที่ ตนกระหาย จะทำให้
 เก่งกว่าคนอื่น หรือ สมาธิ เพื่อการไปเกิด ในภพนั้น ภพนี้ อย่างนี้เรียกว่า
สมาธิเอาบุญ หรือ ได้บุญ เพราะทำใจให้ฟู ให้พอง ตามความหมายของมัน
นั่นเอง ซึ่งเป็นของที่ปรากฏว่า ทำอันตราย แก่เจ้าของ ถึงกับต้อง รับการรักษา
เป็นพิเศษ หรือ รักษาไม่หาย จนตลอดชีวิต ก็มีอยู่ไม่น้อย เพราะว่า สมาธิเช่นนี้
มีตัณหาและทิฎฐิเป็นสมุฎฐาน
แม้จะได้ผลอย่างดีที่สุดก็เพียงได้เกิดในวัฏสงสาร
ตามที่ตนปรารถนาเท่านั้น ไม่เป็นไป เพื่อนิพพาน ส่วนสมาธิ ที่มีความมุ่งหมาย
เพื่อการบังคับใจตัวเอง ให้อยู่ในอำนาจ เพื่อกวาดล้าง กิเลส อันกลุ้มรุมจิตให้
ราบเตียน ข่มขี่มิจฉาทิฎฐิ อันจรมา ในปริมณฑลของจิต ทำจิตให้ผ่องใส เป็น
ทางเกิดของวิปัสสนาปัญญา อันดิ่งไปยังนิพพาน เช่นนี้เรียกว่า สมาธิได้กุศล
ไม่ทำอันตรายใคร ไม่ต้องหาหมอรักษา ไม่หลงวนเวียน ในวัฎสงสาร จึง
ตรงกันข้าม จากสมาธิเอาบุญ

ครั้นมาถึงปัญญา นี้ไม่มีแยกเป็นสองฝ่าย คือไม่มีปัญญาเอาบุญ เพราะตัว
ปัญญานั้น เป็นตัวกุศล เสียเองแล้ว เป็นกุศลฝ่ายเดียว นำออกจากทุกข์
อย่างเดียว แม้ยังจะต้อง เกิดในโลกอีก เพราะยังไม่แก่ถึงขนาด ก็มีความ
รู้สึกตัว เดินออกนอกวัฎสงสาร มีทิศทางดิ่งไปยังนิพพานเสมอ ไม่วนเวียน
จนติดหล่ม จมเลน โดยความไม่รู้สึกตัว ถ้ายังไม่ถึงขนาดนี้ ก็ยังไม่เรียกว่า
ปัญญาในกองธรรม หรือ ธรรมขันธ์ ของพุทธศาสนา ดังเช่น ปัญญาในทาง
อาชีพหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เป็นต้น

ตามตัวอย่าง ที่เป็นอยู่ในเรื่องจริง ที่เกี่ยวกับ การกระทำ ของพวกเราเอง
ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ทำให้เราเห็นได้ว่า การที่เราเผลอ หรือ ถึงกับหลงเอา
บุญ กับ กุศล มาปนเป เป็นอันเดียวกันนั้น ได้ทำให้เกิด ความสับสนอลเวง
เพียงไร และทำให้คว้าไม่ถูกตัวสิ่งที่เราต้องการ จนเกิดความยุ่งยากสับสน
อลหม่าน ในวงพวกพุทธบริษัทเองเพียงไร ถ้าเรายังขืนทำสุ่มสี่สุ่มห้า เอา
ของสองอย่างนี้ เป็นของอันเดียวกัน อย่างที่ เรียกกัน พล่อยๆ ติดปากชาวบ้านว่า
"บุญกุศลๆ" เช่นนี้อยู่สืบไปแล้ว เราก็จะไม่สามารถ แก้ปัญหา ต่างๆ อันเกี่ยวกับ
การทำบุญกุศล นี้  ให้ลุล่วงไป ด้วยความดี จนตลอดกัลปาวสาน ก็ได้

ถ้ากล่าวให้ชัดๆ สั้นๆ บุญเป็นเครื่องหุ้มห่อ กีดกั้นบาป ไม่ให้งอกงาม หรือ
ปรากฏ หมดอำนาจบุญเมื่อใด บาปก็จะโผล่ออกมา และงอกงามสืบไปอีก


ส่วนกุศลนั้น เป็นเครื่องตัด รากเหง้าของบาป อยู่เรื่อยไป จนมันเหี่ยวแห้ง
สูญสิ้นไม่มีเหลือ ความต่างกัน อย่างยิ่ง ย่อมมีอยู่ ดังกล่าวนี้


คนปรารถนาบุญ จงได้บุญ คนปรารถนากุศล ก็จงได้กุศล
และปลอดภัย ตามความปรารถนา แล้วแต่ใคร จะมองเห็น
และจะสมัครใจ จะปรารถนาอย่างไร ได้เช่นนี้ เมื่อใดจึงจะชื่อว่า
พวกเรารู้จัก บุญกุศล กันจริงๆ รู้ทิศทางแห่งการก้าวหน้า และ
ทิศทางที่วกเวียน ว่าเป็นของที่ไม่อาจจะเอามาเป็นอันเดียวกัน
ได้เลย แม้จะเรียกว่า "ทางๆ" เหมือนกัน ทั้งสองฝ่าย

คัดจาก หนังสือ ชุมนุมข้อคิดอิสระ พุทธทาสภิกขุ  
พิมพ์ ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๓๘ โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ
ขอบคุณที่มากจากเวป http://www.buddhadasa.com/freethinkbook/boonkusol.html


กราบมนัสการหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุด้วยครับ สาธุ   :054:

688
ขอบคุณพี่เจมส์สุดหล่อมากครับ สำหรับภาพบรรยากาศน่าไปเที่ยวจังเลย
ไปไหว้พระมาด้วย ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ

689
ในวันที่ 31 กรกฏาคม พ.ศ. 2553 ครบรอบวันเกิดท่าน เสน่ห์กวาง


เอ็ม ก็ขออวยพรให้กวางล่วงหน้านะ ขอให้มีความสุขมากๆ รวยๆๆ โชคดีมีความสุข ไม่เจ็บไม่จน

สุขสันต์วันเกิดนะครับ H B D  ... แล้ววันที่ 12 สิงหาพบกัน
 


690
ธรรมะ / ตอบ: พรหมวิหาร 4
« เมื่อ: 30 ก.ค. 2553, 09:21:42 »
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอน และความรู้   :054:

ศิษย์เข้าใจแล้วครับจะขอน้อมใว้ปฏิบัติตามต่อไป   :054:

691
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:

กราบขอบพระคุณ สำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี และคำสอน

ศิษย์ขอน้อมศึกษาใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:

692
ขอบพระคุณพี่นกมากครับ งดงามจริงๆ  :054:

เมื่อไหร่พี่นกจะเมตตาน้องๆ บ้างหละครับ อิอิ

693
ธรรมะ / พรหมวิหาร 4
« เมื่อ: 29 ก.ค. 2553, 04:34:33 »
ความหมายของพรหมวิหาร 4- พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่

เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา การรู้จักวางเฉย


คำอธิบายพรหมวิหาร 4
1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้
และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น
2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย
ไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

- ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ
ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์

- ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์


3. มุทิตา :
ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง

4. อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.learntripitaka.com/scruple/prom4.html

694
ธรรมะ / มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )
« เมื่อ: 29 ก.ค. 2553, 04:31:12 »
มรรค = อริยมรรค = มัชฌิมาปฏิปทา = มรรคแปด = ทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐ = ทางสายกลาง)
..........แนวทางดำเนินอันประเสริฐของชีวิตหรือกาย วาจา ใจ เพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์
.....เรียกว่า อริยมรรค แปลว่าทางอันประเสริฐ เป็นข้อปฏิบัติที่มีหลักไม่อ่อนแอ จนถึงกับ
.....ตกอยู่ใต้อำนาจ ความอยากแห่งใจ แต่ก็ไม่แข็งตึงจนถึงกับเป็นการทรมานกายให้เหือด
.....แห้งจากความสุขทางกาย เพราะฉะนั้นจึงได้เรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา คือทางดำเนินสาย
.....กลาง ไม่หย่อนไม่ตึง แต่พอเหมาะเช่นสายดนตรีที่เทียบเสียงได้ที่แล้ว


..........คำว่ามรรค แปลว่าทาง ในที่นี้หมายถึงทางเดินของใจ เป็นการเดินจากความทุกข์
.....ไปสู่ความเป็นอิสระหลุดพ้นจากทุกข์ซึ่งมนุษย์หลงยึดถือและประกอบขึ้นใส่ตนด้วย
.....อำนาจของอวิชชา ....มรรคมีองค์แปด คือต้องพร้อมเป็นอันเดียวกันทั้งแปดอย่างดุจเชือก
.....ฟั่นแปดเกลียว องค์แปดคือ :-
1. สัมมาทิฏฐิ ิคือความเข้าใจถูกต้อง
2. สัมมาสังกัปปะ คือความใฝ่ใจถูกต้อง
3. สัมมาวาจา คือการพูดจาถูกต้อง
4. สัมมากัมมันตะ คือการกระทำถูกต้อง
5. สัมมาอาชีวะ คือการดำรงชีพถูกต้อง
6. สัมมาวายามะ คือความพากเพียรถูกต้อง
7. สัมมาสติ คือการระลึกประจำใจถูกต้อง
8. สัมมาสมาธิ คือการตั้งใจมั่นถูกต้อง

.....การปฏิบัติธรรมทุกขั้นตอน รวมลงในมรรคอันประกอบด้วยองค์แปดนี้ เมื่อย่นรวมกัน
.....แล้วเหลือเพียง 3 คือ ศีล - สมาธิ - ปัญญา สรุปสั้น ๆ ก็คือ
...............การปฏิบัติธรรม(ศีล-สมาธิ-ปัญญา)ก็คือการเดินตามมรรค

สัมมาทิฏฐิ(ปัญญา)
.....คือความเข้าใจถูกต้อง ย่อมต้องการใช้ในกิจการทั่วไปทุกประเภททั้งทางโลกและ
.....ทางธรรม แต่สำหรับฝ่ายธรรมชั้นสูงอันเกี่ยวกับการเห็นทุกข์หรืออาสวะซึ่งจัดเป็น
.....การเห็นอริยสัจจ์นั้นย่อมต้องการฝึกฝนอย่างจริงจังเป็นพิเศษ ความเข้าใจถูกต้อง
.....คือต้องเข้าใจอย่างทั่วถึงว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไร อย่างหยาบๆ ที่ปรากฎชัดๆ เป็นอย่างไร
.... อย่างละเอียดที่แอบแฝงเป็นอย่างไร เหตุให้เกิดทุกข์เป็นอย่างไร ความดับสนิท
.....ของทุกข์มีภาวะอย่างไร มีลำดับอย่างไร ทางให้ถึงความดับทุกข์คืออะไร เดินให้ถึงได้
.....อย่างไร สัมมาทิฏฐิมีทั้งที่เป็นโลกิยะคือของบุคคลที่ต้องขวนขวายปฏิบัติก้าวหน้าอยู่
.....และสัมมาทิฎฐิที่เป็นโลกกุตตระ คือของพระอริยบุคคลต้นๆ ส่วนของพระอรหันต์นั้น
เรียกเป็นวิชชาไปและไม่เรียกว่าองค์แห่งมรรค เพราะท่านถึงที่สุดแล้ว
 สัมมาสังกัปปะ(ปัญญา)
.....คือความใฝ่ใจถูกต้อง คือคิดหาทางออกไปจากทุกข์ตามกฎแห่งเหตุผล ที่เห็นขอบมาแล้ว
.....ข้อสัมมาทิฏฐินั่นเอง เริ่มตั้งแต่การใฝ่ใจที่น้อมไปในการออกบวช การไม่เพ่งร้าย การ
.....ไม่ทำทุกข์ให้แก่ผู้อื่นแม้เพราะเผลอ รวมทั้งความใฝ่ใจถูกต้องทุกๆอย่างที่เป็นไปเพื่อ
.....ความหลุดพ้นจากสิ่งที่มนุษย์ไม่ประสงค์  
 .สัมมาวาจา (ศีล)
.....คือการพูดจาถูกต้อง ไม่เป็นโทษต่อตนเอง และผู้อื่น
 .สัมมากัมมันตะ (ศีล)
.....คือการกระทำถูกต้อง ไม่เป็นโทษต่อตนเอง และผู้อื่น
 .สัมมาอาชีวะ (ศีล)
.....คือการดำรงชีพถูกต้อง ไม่เป็นโทษต่อตนเอง และผู้อื่น
 .สัมมาวายามะ (สมาธิ)
.....คือความพากเพียรถูกต้อง เป็นส่วนของใจที่บากบั่นในอันที่จะก้าวหน้า ไม่ถอยหลังจากทาง
.....ดำเนินตามมรรค ถึงกับมีการอธิษฐานอย่างแรงกล้า
 .สัมมาสติ (สมาธิ)
.....คือการระลึกประจำใจถูกต้อง ระลึกแต่ในสิ่งที่เกื้อหนุนแก่ปัญญาที่จะแทงตลอด
.....อวิชชาที่ครอบงำตนอยู่ โดยเฉพาะได้แก่กายนี้ และธรรมอันเนื่องเกี่ยวกับกายนี้ เมื่อ
.....พบความจริงของกายนี้ อวิชชาหรือหัวหน้าแห่งมูลทุกข์ก็สิ้นไป
 .สัมมาสมาธิ (สมาธิ)
.....คือการตั้งใจมั่นถูกต้อง ได้แก่สมาธิ เป็นของจำเป็นในกิจการทุกอย่าง สำหรับในที่นี้เป็น
.....อาการของใจที่รวมกำลังเป็นจุดเดียว กล้าแข็งพอทีจะให้เกิดปัญญา
.....ทำการแทงตลอดอวิชชาได้ และยังเป็นการพักผ่อนของใจ ซึ่งเป็นเหมือนการลับให้
.....แหลมคมอยู่เสมอด้วย ฯลฯ


องค์มรรคบางองค์ เป็นส่วนหยาบและสะสมขึ้นในตัวเราได้โดยง่ายคือ สัมมาวาจา
.....สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สามองค์นี้ถูกอบรมให้สำเร็จเป็นวิรัติเจตสิกจำพวกกุศล
.....เจตสิกเป็นเชื้อนอนนิ่งอยู่ในสันดาน เตรียมพร้อมที่จะมาผสมจิตคราวเดียวกันกับ
.....มรรคองค์อื่นๆ เมื่อได้โอกาสอันเหมาะ แม้องค์มรรคที่ยากๆ เช่นสัมมาทิฏฐิ-สติ-สมาธิ
..... ก็เหมือนกัน ได้ฝึกอบรมมาเท่าใดก็เข้าไปนอนเนื่องติดอยู่ในสันดานเป็นกุศลเจตสิก
.....อยู่อย่างเดียวกัน รอคอยกันจนกว่าจะครบทุกองค์และมีสัดส่วนพอดีกัน ก็ประชุมกัน
.....เป็นอริยมรรคขึ้น ตัดกิเลสหรือสัญโญชน์ให้หมดไปได้คราวหนึ่งตามกำลังหรือชั้นของ
.....ตน อาการสะสมกำลังแห่งองค์มรรคนี้ตรัสเรียกว่า "การอบรมทำให้มาก"
.....สัมมาทิฏฐิเป็นตัวนำ เกิดขึ้นอ่อนๆก่อน เกิดขึ้นเท่าใดก็จูงองค์อื่นๆ ให้เกิดขึ้นตามส่วน
.....องค์ที่เกิดขึ้นนั้นกลับช่วยสัมมาทิฏฐิให้คมกล้าขึ้นไปอีก สัมมาทิฏฐินั้นก็่จูงองค์นั้นๆให้
.....กล้าขึ้นอีก และส่งเสริมชักจูงกันไปอีกทำนองนี้ จนกว่าจะถึงขีดที่เพียงพอและสามัคคี
.....พร้อมกันได้ครบองค์ การอบรมทำให้มากอยู่เสมอนี้เองคือระยะแห่งการปฏิบัติธรรม
.....ยิ่งมากก็ยิ่งเร็ว ยิ่งอธิษฐานใจกล้าก็ยิ่งแรง ยิ่งที่วิเวกก็ยิ่งสุขุมลึกซึ้ง ยิ่งชำนาญก็ยิ่งคมกล้า

ขอบคุณที่มาขากเวป http://www.learntripitaka.com/scruple/muck8.html#muck

695
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม และบทร้อยกวีคติธรรม  ด้วยครับ  :054:
จะขอนอบน้อมใว้เพื่อเป็นแนวทางต่อไป   :054:

696
ขอบพระคุณสำหรับข่าวสารครับ   :054:

697
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ ... :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับ บทกวีคำสอนในหลักธรรม ศิษย์จะขอน้อมใว้เตือนสติและเป็นแนวทางต่อไป  :054:
และกราบขอบพระคุณและเรื่องราวบันทึกธรรมประจำวันด้วย ครับ  :054: 


698
ขอบคุณครับ ที่นำมาให้ชม

งดงามจริงๆ 

699
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ
หลวงพี่ญาท่านเมตตาศิษย์เสมอ
เก็บใว้ให้ดีนะครับของดี เลี่ยมแขวนคอเลยครับสำหรับตะกรุดทอง

ผมบอกไปไม่ครบ ตะกรุดทองที่ท่านให้โดยการฝังครับ

ของท่านศักสิทธิ์จริงๆครับ เพิ่งสักเสร็จ ตอนฝังตะกรุดเข็มก็แทงไม่เข้าเสียแล้ว

รู้สึกดีใจจริงๆ ที่ได้เป็นลูกศิษย์วัดบางพระครับ

ยินดีด้วยนะครับ ... ได้ของดีมาก็หมั่นรักษาข้อห้าม ด้วยนะครับ  
ตะกรุดทองคำนั้น ถ้าได้รู้ถึงวิธีการสร้างและเสก จะบอกว่าสุดยอดมากครับไม่ธรรมดาจริงๆ
การสร้างไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกว่าจะได้ตะกรุดดอกเล็กๆแต่ละดอก ภูมิใจได้เลยครับของดีมากๆ

700
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ
หลวงพี่ญาท่านเมตตาศิษย์เสมอ
เก็บใว้ให้ดีนะครับของดี เลี่ยมแขวนคอเลยครับสำหรับตะกรุดทอง

701
กราบมนัสการหลวงพ่อเกษม เขมโก ด้วยครับ  :054:

ขอบพระคุณสำหรับภาพบรรยากาศนะครับ ไปเที่ยวมีอะไรมาฝากน้องๆมั่งป่าวอะครับ อิอิ

702
กรรมดี นำชีวิต            เป็นนิมิต แห่งวันใหม่
   กรรมชั่ว ต้องชดใช้        แต่อย่าไป ผูกใจจำ
   เมตตา อโหสิ              ลดทิฏฐิ ก็ลดกรรม
   เดินตาม เส้นทางธรรม    ซึ่งชี้นำ สู่ทางดี

กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

703
" ไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้สาระ " ฝึกร่างกายให้มีความเคยชินกับการนั่งให้ได้เสียก่อน
คลายวง ขา ที่กดทับกัน ให้กว้างออกสักนิด เพราะอาการที่ปวดหัวเข่าด้านขวานั้น
เกิดจากการที่เรา " เกร็ง "กดเข่าให้แนบชิดกันเกินไป เวลาที่จะวางขาขวาทับขาซ้ายนั้น
ยกขาขึ้นมาทับเบาๆ เขย่าขาขวา ให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทิ้งน้ำหนักตัวให้ลงไปที่ก้นกบ
หรือถ้ายังมีอาการปวดอยู่อีก ก็ไม่ต้องวางขาทับกัน นั่งสบายๆ แต่ให้มีสติอยู่กับองค์ภาวนา
และก่อนจะนั่งสมาธิภาวนานั้น ควรจะเดินให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นคลายตัวเสียก่อน จึงจะมานั่ง

กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอบพระคุณมากครับที่เมตตา  :054:

704
ขอบคุณสำหรับภาพด้วยครับพี่ตี๋ อนุโมทนาด้วยครับ

ครอบครัวนี้มีความสุขจริงๆ น่ารักจริงๆ

705
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

จะขอติดตามอ่าน รอยทางและรอยธรรม ของพระอาจารย์เพื่อเป็นแนวศึกษาทางความรู้ต่อไป   :054:

ตอนนี้มีปัญหาเรื่อง มีอาการปวดหัวเข่าข้างขวาเข้ามาแทรกในอารมณ์เวลานั่ง ขณะนั่งได้สักพักนึงประมาณ3-4 นาทีได้ครับ
ต้องลุกขึ้นเพราะทนอาการปวดนั้นไม่ไหวครับ แล้วค่อยนั่งใหม่ ใช้เวลานานพอสมควรเลยครับลุกๆนั่งๆกว่าจะเข้าที่
ควรจะทำอย่างไรดีครับ...ได้โปรดพระอาจารย์ช่วยเมตตาชี้แนะแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยครับ

กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอบคุณครับ  :054:

706
น่าจะสักนะครับ ..วันหยุดคนคงเยอะตามปกติครับ  

เดินทางปลอดภัย...โชคดีครับ:001:

707
แล้วถ้า ไม่ได้ยันต์ ครู มาละครับ

จะมีผลอะไรรึป่าวครับ

ไม่เป็นไรหลอกครับแล้วแต่ดุลพินิจของพระอาจารย์ที่ท่านเลือกให้เอง แต่ละบุคคลมักไม่เหมือนกันทุกคนเสมอไปหลอกครับ
ได้อะไรมาก็เหมาะสมที่สุดแล้ว ...เชื่อมั่นได้เลย 100 %

708
แหมๆ คุณก้ ไอ้ไม่กลัว อะ

มันก้ไม่ใช่ว่าจะประปราศจากไปเลยเสียทีเดียว คนเรามันก้มีบ้างความวิตกกังวล

แต่มันขึ้นอยุกับว่า ความกลัวหรือความกล้า มันจะมากกว่าในจังหวะนั้น

ใน จังหวะนั้น ความกลัวมันไม่มีไง อยากได้ก้อยากได้ อยากสักก้อยากสัก รอนานเปนวันๆ ข้าวก้ไม่ได้กิน มิหนำซ้ำคนอื่นมาทีหลังยังได้สักก่อนอีก ไอ้เราก้นั่งขึงหนัง จับหลังอยุนั่น ตั้งแต่เก้าโมง ยันสามทุ่ม จะให้กลับบ้านมือปล่าวก้ยังไงๆอยุ

บอกได้เลยตอนนั้นปราศจากความวิตกกังวล ความกลัว ใดๆทั้งสิน

แต่พอนานวันไปมาประมวล ดูแล้ว ก้ มีความวิตกขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะอย่างน้อยก้มีแอลกอฮอใช้แกว่งเขมอยุบ้าง
 
แต่ถ้าโอกาสหน้ามีเวลาว่างที่พอจะไปได้ ก้ กะจะซื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อสักขวด ถาดอโลมีเนียม สักอันไปฝากหลวงพี่ซักหน่อย

เผื่อจะได้ใช้แช่เขม บ้าง แล้วก้เอาไว้เปนสมบัติของวัดไปเลย อย่างน้อยก้เพื่อความสบายใจของตัวผมเอง และก้ท่านอื่นๆที่มีความวิตกกังวลเช่นเดียวกับผม

สำหรับเครื่องทำความร้อน ต้มน้ำร้อนไม่ยากคับ หม้อหุงข้าวเราเนี่ยก้ได้แล้วคับ

หากท่านอื่นท่านใด มีแนวคิดดีๆ ที่แตกต่าง ก้ตามแต่จะนำไปปฎิบัตินะครับ ตามความสะบายใจของแต่ละบุคล สำหรับผมแนวทางนี้ผมสบายใจ ก้ปล่อยผมเถอะ อย่าได้ขัดขวางผมเลย เพราะผมคิดว่ามันจะเปนประโยชน์กับส่วนรวมด้วย

สำหรับค่ำคืนนี้ ก้พอแค่นี้ก่อนนะครับ

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ คุณพระรักษา ครับทุกท่าน

เอ่อขอโทษทีนะครับ 
แต่ถ้าโอกาสหน้ามีเวลาว่างที่พอจะไปได้ ก้ กะจะซื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อสักขวด ถาดอโลมีเนียม สักอันไปฝากหลวงพี่ซักหน่อย
ควรจะใช้คำว่าถวายดีกว่านะครับ จะเหมาะสมกว่า พระอาจารย์ท่านไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะครับ
แล้วที่น่ากลัว คือภาษาไทยที่คุณพิมพ์มาหละครับแลจะน่ากลัวกว่า อ่านตกๆหล่นๆ งงครับ
เพื่อความสบายใจก็ไปตรวจดูสิครับได้ไม่ต้องมานั่งบ่น ...มันอยู่ที่ความเชื่อมั่นและศรัทธานะครับของแบบนี้  :075:

709
ขอบพระคุณมากครับที่นำมาให้ชม งดงามจริงๆ  :015: 

 

710
ขอบคุณพี่เจมส์ สำหรับรูปภาพบรรยากาศเที่ยวเหนือครับ น้องยังไม่มีโอกาศได้ไปเลย

แหม่นายแบบ หล่อนะครับ เป็นหัวหน้าแก๊งค์คนรักเด็กด้วย  ..อิอิ..

711
กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้นำลูกปัดโบราณมาให้ชมกันครับ  น่าศึกษามากเลยครับงดงามจริงๆศิลปะสมัยโบราณ

มองแล้วก็ได้แง่คิดเปรียบลูกปัดเหมือนคน ที่เกิดจากหลายร้อยพ่อพันแม่ต่างนิสัยต่างความคิดเหมือนลูกปัดที่มีหลากสีหลายลายหลายแบบ
แต่ถ้าหากคนเราหาจุดเชื่อมที่ดีมีความสามัคคี ก็จะเหมือนลูกปัดที่หลากหลายสีหลากหลายแบบมารวมกันเป็นเส้นที่สวยงามได้
สามัคคี คือพลัง ครับ  

:054:  :054:  :054:

712
ยินดีด้วยนะครับ งดงามมากลายเส้นหลวงพี่นัน
ได้ของดีมาแล้วรักษาของใว้ให้ดีนะครับ
ขอบคุณที่นำมาให้ชม  :015:

713
งดงามจริงๆครับท่านพี่เซอร์ดอน

ขอบคุณที่นำมาให้ชมกันนะครับ  :015:

714
งดงามมากครับพี่โด้ ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม เพียบเลย  :015:

715
ขอบคุณค่ะ
แค่แกะที่ปิดหลอดออกดูว่ามีตะกรุดอะไรข้างใน ไม่ได้คลี่ดูค่ะ
รู้อย่างนี้ค่อยรู้สึกดีหน่อย
 :054: :054:

อ๋องั้นไม่เป็นไรครับ สบายใจได้เลย 100 %

ขอบคุณครับ

716
เอ่อ.....เคยแกะตะกรุดหนังเสือดูข้างในค่ะ
แบบว่าดูว่าข้างในมีแผ่นตะกรุดทองเหลืองทองแดงเหมือนกันหรือเปล่า
แบบนี้จะเสื่อมหรือเปล่าคะ ชักจะกังวล :075: :075:
 :054: :054: :054:


ถ้าเป็นตะกรุดหนังเสือของวัดบางพระไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับ ...ที่เลี่ยมใส่หลอดใว้ให้บูชา
แต่ถ้าข้างใน มีตะกรุด หรือ แผ่นปั๊มเราก็จะได้รู้ครับ แต่อย่าคลี่ดูนะครับ มองดูก็รู้ว่าเป็นอะไรเพราะแผ่นปั๊มจะดูง่ายครับ
เพราะบางทีข้างในเป็นแผ่นปั๊มรูปหลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ พวกผมไม่นิยมแขวนที่เอวกันครับ (เฉพาะพวกผมนะครับ)

(เป็นความเห็นส่วนตัว และก็ส่วนตัวก็เคยคลี่ดูด้วย หากผิดพลาดขออภัย )

717
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณภาพงานหล่อพระด้วยครับ  :054:

การจะสร้างพระพุทธรูปองค์นึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับ อนุโมทนาสาธุด้วย  :054:

718
เคยเห็นหลวงพี่ญาท่านทำแจกนะครับ ... ยังไง ลองสอบถามท่านดู  

ไม่แน่ใจว่าหมดหรือยัง ถามพวกพี่แก๊งเสน่ห์ดูก็ได้ครับ 

719
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับรูปภาพบรรยากาศพาเที่ยววัดเจดีย์ชัยมงคล งดงามมากครับ
มีศิลปะที่สวยงามมากเลยครับ  น่าไปให้เห็นกับตาจริงๆสักที

 :054:  :054:  :054:  :054:

720
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพบรรยากาศมากครับ
กลิ่นอายความโบราณขอศาสนาฮินดู ผสมผสานศิลปะแบบพุทธบ้าง ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

 :054:  :054:  :054:

721


อนุโมทนากับทุกท่าน ล่วงหน้าเลยนะครับ  :054:

722
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลด้วยนะครับ เห็นแล้ว รู้สึกเป็นปิติสุขอย่างยิ่ง 
กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพการสร้างกุฏิกรรมฐานและคำสอนด้วยครับ 

 :054:  :054:  :054:  :054:

723
ได้ครับ
แต่ต้องถามกับพระอาจารย์ หรือ อาจารย์ที่สักมาก่อนหน้านี้   ก่อนว่าเราไปสักที่อื่นนอกจากที่นี่ได้หรือไม่ ครับ

724
ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องความฝัน
ผมเองก็ ฝันถึงพระอาจารย์ที่วัดบางพระ หลวงพี่ญาบ่อยสุดละครับ 3-4 ครั้งได้ แล้วก็หลวงลุงต้อย
แต่ไม่เคยฝันถึงหลวงปู่เปิ่นเลย ครับ
แล้วก็ฝันถึงหลวงพ่อ หลวงปู่ ที่เราไปกราบอยู่    เช่น หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม หลายครั้ง หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
ผมก็ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปป่าวนะครับ เหอๆๆถึงฝันบ่อย ...  :075:

725
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณบทกวีคำสอนและรูปภาพผีเสื้อสวยๆครับ

เฉกเช่นกับชีวิตของคน  กว่าจะได้รับความยอมรับจากสังคม
ก็ต้องผ่านกาลเวลา ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
       " ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน "


กราบขอบพระคุณมากครับ ศิษย์จะจำใว้เป็นคำสอนสำหรับตัวเองด้วย  :054:  :054:  :054:

726
ขอบพระคุณท่านปูดำ ที่แจ้งข่าวสารให้ทราบกันครับ  :054:

727
โหแหล่มเลย .... :015: งดงามมากครับ  หลวงพ่อประเทืองมีเนื้อเงินด้วย  :015:

ชอบทุกเหรียญเลยพี่ เมื่อไหร่จะเปิดกรุใหญ่มาให้ชมสักหละครับ  :095:

728
งดงามจริงๆครับพี่เอ็กซ์ ทุกเหรียญ ทุกแบบ ทุกเนื้อ มีโค๊ตเลข เหรียญที่ 50 ด้วย

ขอบคุณพี่เอ็กซ์ครับที่นำมาให้ชม  :053:  :015:  :015:  :015:

729
ธรรมะ / +++ ตัณหา ๓ +++
« เมื่อ: 21 ก.ค. 2553, 05:16:32 »
ตัณหา ๓

ขอให้รู้จักความอยาก โดยความหมาย มีสองชนิด ในภาษาไทย
อย่างนี้ ในภาษาบาลี ถ้าจะเรียกว่า กิเลสตัณหา หรือ ความโลภ
แล้ว ต้องเป็น เรื่องที่มาจากอวิชชา ถ้ามาจากวิชชา ก็เรียกเป็น
อย่างอื่น เรียกว่าเป็น ความปรารถนา หรือ ความต้องการ หรือ
ความขยัน ขันแข็ง ในหน้าที่การงาน ไปเสียทางโน้น ไม่ได้เป็น
เหตุ ให้เกิดความทุกข์ แต่ว่ากลับเป็น สิ่งที่จะทำลายความทุกข์
ความต้องการที่มันมีถูกต้อง แทนที่จะเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
กลายเป็นเรื่องจะดับความทุกข์ ความอยาก ในภาษาไทย
ภาษากำกวม เพราะว่า เราไม่มี ความหมาย รัดกุม เหมือน
ภาษาบาลี ให้รู้กันไว้อย่างนี้

กามตัณหา

นี้อย่างที่หนึ่ง อยากในกาม กามตัณหา ก็ด้วยความโง่ ความหลง
ความยึดมั่น ถือมั่น ด้วยอวิชชา จึงอยากในกาม มันก็เร่าร้อน
ตั้งแต่เริ่มอยาก แล้วก็เริ่มประพฤติ ปฏิบัติ กระทำลงไป แต่ข้อนี้
สำหรับ ฆราวาสทั่วไป เขาก็มิได้หมายความว่า จะไม่ต้องเกี่ยว
ข้องกับกาม เพราะคำว่า กาม มีความหมาย หลายอย่าง, กาม
เรื่องเกี่ยวกับเพศ เพศหญิง เพศชาย นี้ก็กาม นี้ส่วนที่มันเนื่อง
กัน ไม่ถึงขนาดนั้น ก็ยังเรียกว่า กาม เช่น ชอบอาหารเอร็ดอร่อย
ชอบเสียงไพเราะ แม้ยังไม่เกี่ยวกับเพศ ก็ยังเรียกว่า กาม
เหมือนกัน เพราะมันเนื่องกัน โดยส่วนลึก

ถ้าเราไปเกี่ยวข้องด้วย คือ ไปอยากด้วยความโง่ ความหลงอะไร
มันก็เกิดสิ่งเร่าร้อน หรือเป็นทุกข์ขึ้นมา แต่ถ้าต้องไปเกี่ยวข้อง
ด้วย สติสัมปชัญญะ ก็มีความเป็นกามน้อยลง แม้เรื่องเพศ ที่จะ
ประกอบกิจกรรมทางเพศ ด้วยความรู้สึก ที่เป็นหน้าที่ของฆราวาส
แล้วก็ทำไปด้วย สติสัมปชัญญะ อย่างนี้ ความที่เรียกว่า เป็นกาม
มันก็น้อยลง มันก็มีความเป็น กามตัณหา น้อยลง ถ้าสมมติว่า
บริสุทธิ์ใจจริงๆ ในการที่จะทำเพียง หน้าที่ เพื่อการสืบพันธุ์ ล้วนๆ
ถ้ามันเป็นสิ่งที่ ปฏิบัติได้ มันก็ไม่ถึงกับจัดว่า เป็นกาม มันกลาย
เป็นหน้าที่ ไปก็ได้ แต่ตามปกติ ไม่มีใครทำได้ เพราะว่าธรรมชาติ
มันลึกกว่า มันลึกซึ้งกว่า มันใส่กาม ไว้กับการสืบพันธุ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่
ไม่ค่อยมีใคร ชอบทำกันนัก แต่โดยเหตุ มันเอากาม มาจ้าง เอา
ความรู้สึก ทางกามนี้ มาจ้างให้ สัตว์ทั้งหลาย ทำหน้าที่สืบพันธุ์
มันยุ่งยาก ลำบาก เท่าไร มันก็ยอมทน

นี้ถ้าเราไปโง่ ไปหลงกินเหยื่อ ของธรรมชาติ อันนี้เข้า มันก็เกิด
ความทุกข์ จากสิ่งที่เรียกว่า กามตัณหา เมื่อคนยังมี อวิชชา อยู่
มันก็ต้องโง่ ก็ต้องตกเป็นเหยื่อ ของสิ่งนี้  เป็นทาสของอวิชชา
เป็นทาสของตัณหา แล้วคนยอมลำบาก ให้สิ่งที่เรียกว่า ตัณหา
โดยเฉพาะกามตัณหานี้ เคี้ยวกิน ภาษาบาลีเขาใช้คำว่า เคี้ยวกิน
คือ คนมันเป็นทาส ของกามตัณหา ยอมทนลำบาก นานาประการ
เพื่อจะให้ได้มา นี้คือสิ่งที่เรียกว่า กามตัณหา หมายถึง เรื่องเพศ
โดยตรง

สิ่งที่เป็นอุปกรณ์ทางเพศ ความไพเราะ สนุกสนาน เอร็ดอร่อย
แม้ไม่เกี่ยวกับเพศ โดยตรง มันก็เป็นกาม นี้ไปเกี่ยวกับเพศ
โดยตรง แล้วยิ่งเป็นกาม อย่างยิ่ง นี้อย่างที่หนึ่ง เรียกว่า
กามตัณหา

ภวตัณหา

อย่างที่สอง ก็คือว่า อยากเป็น ความเป็นอย่างไรที่น่าเป็น
เรียกว่า ภ.สำเภา ว.แหวน ภวตัณหา คือภพ แปลว่า เป็น
ภวตัณหา แปลว่า อยากเป็น นี่ก็อยาก ด้วยอวิชชา อีกเหมือนกัน
อยากเป็นนั่นเป็นนี่ ที่มันยั่วกิเลส ยั่วความอยาก บางทีมันก็ปนเป
กับกามตัณหา เช่น อยากเป็นหญิง อยากเป็นชาย อยากเป็นนั่น
เป็นนี่ ที่มันไปเกี่ยวกับทางเพศ ก็มี อยากเป็นใหญ่เป็นโต อยาก
มีหน้ามีตา อยากเป็นผู้มีชื่อเสียง อยากเป็นผู้มีอำนาจวาสนา

ถ้าทำไปด้วยความโง่ ของอวิชชา มันก็รุนแรง แล้วเป็นภวตัณหา
แล้วก็เกิดทุกข์ แต่ถ้าเรามี ความรู้สึก ผิดชอบชั่วดี มีวิชชา เช่นว่า
เป็นนักศึกษา อย่างที่นั่งอยู่นี้ ก็อยากจะเป็น นักศึกษาที่ดี ที่ถูกต้อง
ตรงตามความหมาย อย่างนี้ก็ไม่ใช่ตัณหา ไม่ใช่ภวตัณหา เพราะ
มันไม่ได้ทำไป ด้วยอวิชชา ทำไปด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยปัญญา
อยากเป็นนักเรียนที่ดี อยากเป็นนักศึกษาที่ดี แม้ที่สุด แต่ว่าอยาก
จะเป็น พ่อบ้าน แม่เรือน ที่ดี ถ้ามันไม่ได้ทำไป ด้วยความโง่ ด้วย
อวิชชา ด้วยความไม่รู้เท่า ในสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ถูกจัดเป็นตัณหา
แต่เป็นความปรารถนา ความต้องการ ที่ควรจะปรารถนา ฉะนั้น
ขอให้มัน แน่ลงไปทีว่า มันอยากด้วยวิชชา หรือ อยากด้วยอวิชชา

แล้วก็อย่าลืม อย่างเดียวกันอีก เชื่อว่า คนบางพวก อาจารย์บาง
หมู่ เขาสอนกันลงไปตรงๆเลย ขึ้นชื่อว่า ความอยากแล้ว เป็น
กิเลสตัณหา ไปหมด นี้ผมไม่ถืออย่างนั้น ไม่เข้าใจอย่างนั้น
หลังจากที่ได้ศึกษา มาถึงป่านนี้แล้ว ไม่ทำให้เข้าใจอย่างนั้น
ถ้าเผื่ออยากเป็นอะไร ให้มันดีขึ้นไป ให้มันถูกต้อง ให้มันสำเร็จ
ประโยชน์ ด้วยการรู้สึกตัวนี้ ไม่เรียกว่า ตัณหา

ยกตัวอย่าง เช่นว่า อยากเป็นเทวดานี้ มันก็อยากด้วยอวิชชา
ถ้าไปพิจารณาดูให้ดี แล้วเทวดานี้ มันไม่น่าเป็นดอก แล้วมัน
ก็ไม่อยาก เองแหละ ก็มันมีอะไรที่น่าเป็น ที่ควรจะเป็น มีความ
รู้สึกผิดชอบชั่วดี พิจารณาดูแล้ว มันควรจะเป็น หรือควรจะรับ
หน้าที่ อันนั้น มันก็เป็นได้ โดยไม่ต้องเป็นตัณหา อย่างจะเป็น
อาจารย์อย่างนี้ เป็นตัณหาก็ได้ ไม่เป็นตัณหาก็ได้ มันแล้วแต่
ความอยากนั้น มีมูลมาจากอะไร จากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ถูกต้องสมบูรณ์นี้ มันก็ไม่ต้องเป็นตัณหา หรือถ้ายิ่งไปกว่านั้น
อยากจะเป็น ผู้ครองบ้าน ครองเมือง ก็ต้องรู้โดย หลักเกณฑ์
อันเดียวกัน ถ้าทำไปด้วยความโลภ ด้วยความโง่ ด้วยความหลง
ด้วยความยึดมั่น มันแล้ว มันก็เป็น ตัณหาทั้งนั้น แล้วก็เป็น
ความทุกข์ แต่ถ้าเป็นความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดี มีเหตุผล มีความ
ลืมหูลืมตา มีสติสัมปชัญญะอยู่ รู้ว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องช่วยเหลือ
เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างนี้ ไม่เป็นตัณหา ไม่เป็นกิเลสตัณหา

แต่แล้ว มันก็หายากนะ หาโอกาสยากนะ หรือว่า เขาสมมติว่า
พระพุทธเจ้า ท่านตั้งความปรารถนา ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า นี้
ด้วยเหตุผลอย่างนั้นๆ ตามที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ อย่างนี้จะเรียก
ว่า เป็นตัณหาไม่ได้ มันเป็นความปรารถนา แม้จะทำรุนแรง
เป็นการอธิษฐานจิต ตั้งสัจจาทิฎฐาน อะไรนี้ ก็ไม่เป็นตัณหา
ได้ เพราะทำได้ ด้วยความรู้สึก ผิดชอบชั่วดี ของวิชา ของสติ
สัมปชัญญะ การที่อยากเป็นอะไร ด้วยความลุ่มหลง ในผลของ
การที่จะได้เป็นแล้ว มันก็เป็นตัณหา

วิภวตัณหา

นี้มาถึง อันที่สาม ก็เป็น วิภวตัณหา อยากไม่เป็น อยากไม่เป็น
อย่างนั้น อยากไม่เป็นอย่างนี้ กระทั่ง อยากไม่เป็น เสียเลย ไม่
เป็นอยู่เลย เช่น อยากตาย เป็นต้น พวกอยากเป็นนั่น เป็นนี่ มัน
อาศัย สัสสตทิฎฐิ ยึดมั่นถือมั่น ในความเป็นอยู่ อย่างเที่ยงแท้
ถาวร พอมาถึงตอนนี้ มันเกิด อุจเฉททิฎฐิ เชื่อว่าต้องขาดสูญ
หรือไม่ได้เป็นอยู่ อย่างถาวร อุจเฉททิฎฐิ นี้ มันชักจูงตัณหา
ให้เกิด ภวตัณหา ไม่อยากเป็น ไม่อยากเป็นนั่น ไม่อยากเป็นนี่
ก็ด้วยความโง่ ไม่ใช่ไม่อยากเป็น ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง มันไม่
อยากเป็น ด้วยความโง่ ความเอือมระอา ความอะไรที่เป็นความ
โง่ จนกระทั่ง อยากตาย แล้วก็ฆ่าตัวตาย เป็นต้น นี้ผู้ที่จะ
ปราศจากตัณหาแล้ว ก็จะไม่มี ความอยากอย่างนี้ ความอยาก
ไม่เป็นนั่น ไม่เป็นนี่ นี้ก็เร่าร้อน เหมือนกันแหละ

คุณลองสังเกตดู เมื่อรู้สึกว่า เราไม่ได้อะไร อย่างอก อย่างใจ
มันก็เดือดร้อน แล้วก็เป็นทุกข์ ฉะนั้นอย่าได้มี ตัณหาสามอย่าง
นี้ แล้วก็ไม่มีทุกข์ ชนิดที่ระบุไปว่า ตัณหาสามอย่างนี้ เป็นเหตุ
ให้เกิดทุกข์

ทีนี้ ที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป พระพุทธเจ้าท่านตรัส ระบุตัณหาไว้ว่า
โปโนพฺภวิกา นนฺทิราค สหคตา ตตฺร ตตฺราภินนฺทินี นี่ นันทิราคะ
สะหะคะตา นี้คือ กามตัณหาโดยตรง แล้วก็ปัญหานอกนั้น โดย
อ้อมก็ได้ ตัตตร ตัตตราภินันทิ นันทินี นี้มันหลงใหล เคลิบเคลิ้ม
อยู่ในสิ่งนั้นๆ แล้วก็มีคำว่า โปโนพฺภวิกา เป็นไปเพื่อให้เกิดภพ
ใหม่ เกิดชาติใหม่นี่ พอเราอยาก มีตัณหาขึ้นมาแล้ว เราจะ
รู้สึกว่า เราอยาก เราผู้อยาก ฉันอยาก กูอยาก อะไรก็เดือด
พล่านอยู่นี้ นี่เรียกว่า เกิดตัวกูตัวใหม่ขึ้นมา หลังจากเกิดความ
อยากอย่างนี้ก็เรียก่า โปโนพฺภวิกา ได้ เมื่อเราอยู่เฉยๆ เรา
ไม่รู้สึกว่า มีตัวเรา หรือ เราตัองการอะไร แต่พอมีการกระทำ
ให้เกิดความอยากแล้ว หลังจากความอยากแล้ว ต้องเกิดความ
ยึดถือ เป็นอุปาทานแล้ว ตัวกูนี้ จะเอาให้ได้ คือตัวกูมันอยาก
มันจึงเห็นได้ชัดว่า ตัณหานี้ มันเป็นเหตุ ให้เกิดตัวกู คือ ชาติ
แห่งตัวกู อันใหม่ขึ้นมา เกิดอย่างนี้บ่อยๆ บ่อยๆ ก็คือ ใหม่
เรื่อยไปทุกที อันนี้จะเห็นชัดในเรื่องของ ปฏิจจสมุปบาท

นี้ผมพูดโดยอริยสัจจ์เล็ก ว่า เหตุให้เกิดทุกข์นั้น คือ ตัณหา
สามประการ สรุปโดยย่อว่า ความอยากที่มาจากอวิชชา ไม่รู้
ตามที่เป็นจริง มันก็อยาก ไปในรูปของกาม เรื่องเพศบ้าง ถ้า
อยาก ไปในเรื่องของภพ คือ เป็นนั่นเป็นนี่ แม้ไม่เกี่ยวกับ
กามบ้าง แล้วเป็นวิภพ คือ ไม่อยากเป็นนั่นเป็นนี่.

กราบมนัสการ หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ
ที่มาจากเวปhttp://www.buddhadasa.com/dhamanukom/tanha62.html

730
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับบทกวีคติธรรมและคำสอนครับ 

 :054:  :054:  :054:


731
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณบทกวีคติธรรมสอนใจด้วยครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:

732
งดงาม จริงๆครับ :015:
หลวงพี่ญา หลวงพี่นัน ท่านเมตตาต่อศิษย์เสมอ ยินดีด้วยนะครับ ได้ของดีมา

ขนาดไฟล์รูปที่เอามาลงมีขนาดใหญ่มากครับ โหลดช้า วันหลังย่อๆหน่อยก็ดีนะครับ

733
ขอบพระคุณที่บัฟสำหรับข่าวสารมากครับ

ขอให้หลวงปู่หายอาพาธใวๆ  ครับ  :054: มนัสการหลวงปู่อั๊บ

734
สมัยนี้มีอีกประเพณี หรืออาจมีมานานแล้วก็ได้ผมก็เกิดไม่ทัน
ที่ผมเห็นว่าไม่เหมาะสมกับงานบุญงานบวชเลย ก็คือ งานบุญงานกุศล เหล้าเบียร์เพียบบบ   :075:

ผมว่าคนไทยควรลดสิ่งนี้นะครับ จะกินกันในงานเลี้ยงไม่ว่ากัน
แต่ที่เห็นคือ มือนึงถือร่มกางให้นาค อีกมือนึงถือขวดเบียร์ แห่กันไปก็เมากันไปพอขาดสติจากงานบุญจะกลายเป็นงานบาปละเลงเลือดกันมันเลย
เหอๆๆ   เฮ้ออ..กรรม

735
ธรรมะ / วิธีแก้ไข นิวรณ์ 5 ........
« เมื่อ: 20 ก.ค. 2553, 01:31:40 »
นิวรณ์ คือสิ่งที่ขวางกั้นจิตทำให้สมาธิไม่อาจเกิดขึ้นได้ มี 5 อย่างคือ

กามฉันทะ คือความยินดี พอใจ เพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์ ได้แก่ ความยินดี พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ(สิ่งสัมผัสทางกาย) อันน่ายินดี น่ารักใคร่พอใจ รวมทั้งความคิดอันเกี่ยวเนื่องด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะนั้น (คำว่ากามในทางธรรมนั้น ไม่ได้หมายถึงเรื่องเพศเท่านั้น)

พยาปาทะ คือ ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ ขัดเคืองใจ

ถีนมิทธะ แยกเป็นถีนะคือความหดหู่ท้อถอย และมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอน
ถีนะและมิทธะนั้นมีอาการแสดงออกที่คล้ายกันมาก คือทำให้เกิดอาการเซื่องซึมเหมือนกัน แต่มีสาเหตุที่ต่างกันคือ ถีนะเป็นกิเลสชนิดหนึ่ง เกิดจากการปรุงแต่งของจิต ทำให้เกิดความย่อท้อ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังที่จะทำความเพียรต่อไป  ส่วนมิทธะนั้นเกิดจากความเมื่อยล้าอ่อนเพลียของร่างกาย หรือจิตใจจริง ๆ เนื่องจากตรากตรำมามาก หรือขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ หรือการรับประทานอาหารที่มากเกินไป มิทธะนี้ไม่จัดเป็นกิเลส (พระอรหันต์ไม่มีถีนะแล้ว แต่ยังมีมิทธะได้เป็นบางครั้ง)

อุทธัจจกุกกุจจะ แยกเป็นอุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต และกุกกุจจะคือความรำคาญใจ  อุทธัจจะนั้นคือการที่จิตไม่สามารถยึดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นเวลานาน จึงเกิดอาการฟุ้งซ่าน เลื่อนลอยไปเรื่องนั้นที เรื่องนี้ที   ส่วนกุกกุจจะนั้นเกิดจากความกังวลใจ หรือไม่สบายใจถึงอกุศลที่ได้ทำไปแล้วในอดีต ว่าไม่น่าทำไปอย่างนั้นเลย หรือบุญกุศลต่างๆ ที่ควรทำแต่ยังไม่ได้ทำ ว่าน่าจะได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้

วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ หรือไม่ปักใจเชื่อว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด หรือควรทำแบบไหนดี จิตจึงไม่อาจมุ่งมั่นในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้อย่างเต็มที่ สมาธิจึงไม่เกิดขึ้น

นิวรณ์ทั้ง 5 ตัวนี้ มีเฉพาะอุทธัจจะเท่านั้นที่เกิดขึ้นตัวเดียวได้ ส่วนนิวรณ์ตัวอื่น ๆ นอกนั้น เมื่อเกิดจะเกิดขึ้นร่วมกับอุทธัจจะเสมอ

นิวรณ์ทั้ง5 เป็นอุปสรรคสำคัญในการทำสมาธิ ถ้านิวรณ์ตัวใดตัวหนึ่ง หรือหลายตัวเกิดขึ้น สมาธิก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย แต่นิวรณ์ทั้ง 5 นี้ไม่เป็นตัวขวางกั้นวิปัสสนาเลย ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่วิปัสสนาอีกด้วย เพราะวิปัสสนานั้นเป็นการเรียนรู้ธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่ว่าขณะนั้นอะไรจะเกิดขึ้น ก็เป็นประโยชน์ให้เรียนรู้ได้เสมอ นิวรณ์ทั้ง 5 นี้ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ๆ ของจิตที่เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ ให้เห็นถึงความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่อยู่ในอำนาจ ของจิตเช่นกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

๏ วิธีแก้ไขนิวรณ์ 5
เมื่อนิวรณ์เกิดขึ้นมีวิธีแก้ดังนี้คือ

1.) กามฉันทะ แก้ได้หลายวิธีตามลักษณะของกามฉันทะที่เกิดขึ้น ดังนี้

พิจารณาถึงความจริงที่ว่ากามคุณทั้งหลายนั้นมีสุขน้อยมีทุกข์มาก คือให้ความสุขในช่วงที่ได้มาใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเสมือนเหยื่อล่อให้ติด ครั้นเมื่อติดในสิ่งนั้น ๆ แล้ว ความทุกข์ทั้งหลายก็จะตามมา ถ้ายิ่งถูกใจมากเท่าใด ก็จะยิ่งนำความทุกข์มาให้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทุกข์จากการแสวงหาเพื่อให้ได้มากยิ่งขึ้น ทุกข์จากการพยายามรักษาสิ่งนั้นเอาไว้ ทุกข์จากความหวงแหน ความกลัวว่าจะต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป และเมื่อต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป ก็จะยิ่งเป็นทุกข์ยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเราทั้งหลายล้วนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักที่พอใจ ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

พิจารณาถึงความที่สิ่งทั้งหลายมีความแปรปรวนไปตลอดเวลา สิ่งที่ให้ความสุขในวันนี้ ก็อาจจะนำความทุกข์มาให้ได้ในวันข้างหน้า เช่น คนที่ทำดีกับเราในวันนี้ ต่อไปถ้าเขาเบื่อ หรือไม่พอใจอะไรเราขึ้นมา เขาก็อาจจะร้ายกับเราอย่างมากก็ได้

พิจารณาถึงความเป็นอสุภะ คือเป็นของไม่สวยไม่งาม เต็มไปด้วยของไม่สะอาด ร่างกายที่เห็นว่าสวยงามในตอนนี้ จะคงสภาพอยู่ได้นานสักเท่าใด พอแก่ตัวขึ้นก็ย่อมจะหย่อนยาน เหี่ยวย่นไม่น่าดู ถึงแม้ในตอนนี้เอง ก็เต็มไปด้วยของสกปรกไปทั้งตัว ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า (ไม่เชื่อก็ลองไม่อาบน้ำดูสักวันสองวันก็จะรู้เอง) ลองพิจารณาดูเถิด ว่ามีส่วนไหนที่ไม่ต้องคอยทำความสะอาดบ้าง และถ้าถึงเวลาที่กลายสภาพเป็นเพียงซากศพแล้วจะขนาดไหน

พิจารณาถึงคุณของการออกจากกาม หรือประโยชน์ของสมาธิ เช่น

เป็นความสุขที่ประณีต ละเอียดอ่อน เบาสบายไม่หนักอึ้งเหมือนกาม คนที่ได้สัมผัสกับความสุขจากสมาธิสักครั้ง ก็จะรู้ได้เองว่าเหนือกว่าความสุขจากกามมากเพียงใด

เป็นความสุขที่ไม่ต้องแสวงหาจากภายนอก เพราะเกิดจากความสงบภายใน จึงไม่ต้องมีการแย่งชิง ไม่ต้องยื้อแย่งแข่งขัน ไม่ต้องกลัวถูกลักขโมย

เป็นความสุขที่ไม่ต้องมีวัตถุใดๆ มาเป็นเครื่องล่อ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

2.) พยาปาทะ มีวิธีแก้ดังนี้

มองโลกในแง่ดีให้เห็นว่าคนที่ทำให้เราไม่พอใจนั้น เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาคงทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเข้าใจผิด หรือถูกเหตุการณ์บังคับ ถ้าเขารู้หรือเลือกได้เขาคงไม่ทำอย่างนั้น

คิดถึงหลักความจริงที่ว่า คนเราเมื่ออยู่ใกล้กัน ก็ย่อมมีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจคนอื่น ได้เป็นครั้งคราวอยู่แล้ว เพราะคงไม่มีใครสามารถทำให้ถูกใจคนอื่นได้ตลอดเวลา แม้ตัวเราเองก็ยังเคยทำให้คนอื่นไม่พอใจเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อคนอื่นทำไม่ถูกใจเราบ้าง ก็ย่อมจะเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ควรจะถือโทษโกรธกันให้เป็นทุกข์กันไปเปล่าๆ

พิจารณาถึงคุณของการให้อภัย ว่าอภัยทานนั้นเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ เป็นการทำบุญโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย

คิดเสียว่าเป็นการฝึกจิตของตัวเราเองให้เข้มแข็งขึ้น โดยการพยายามเอาชนะใจตนเอง เอาชนะความโกรธ และขอบคุณผู้ที่ทำให้เราโกรธที่ให้โอกาสในการฝึกจิตแก่เรา ให้เราได้สร้างและเพิ่มพูนขันติบารมี

คิดถึงเรื่องกฎแห่งกรรม ว่าสัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน ใครสร้างกรรมอันใดไว้ ย่อมต้องรับผลกรรมนั้นๆ สืบไป การที่เราเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีในครั้งนี้ ก็คงเป็นเพราะกรรมเก่าที่เราได้ทำเอาไว้ สำหรับคนที่ทำไม่ดีกับเราในครั้งนี้นั้น เขาก็จะได้รับผลกรรมนั้นเองในวันข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ให้ความรู้สึกสงสารผู้ที่ทำไม่ดีกับเราในครั้งนี้ ว่าเขาไม่น่าทำอย่างนั้นเลย เพราะเมื่อเขาทำแล้ว ต่อไปเมื่อกรรมนั้นส่งผล เขาก็จะต้องเป็นทุกข์ทรมานเพราะกรรมนั้น

พิจารณาโทษของความโกรธ ว่าคนที่โกรธก็เหมือนกับจุดไฟเผาตัวเอง ทำให้ต้องเป็นทุกข์เร่าร้อน หน้าตาก็ไม่น่าดู แถมยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็มีแต่คนโง่ กับคนบ้าเท่านั้นที่ผูกโกรธเอาไว้

แผ่เมตตาให้กับคนที่เราโกรธ ถ้าทำได้นอกจากจะดับทุกข์จากความโกรธได้แล้ว ยังทำให้มีความสุขจากการแผ่เมตตานั้นอีกด้วย และยังจะเป็นการพัฒนาจิตให้สูงขึ้นไปด้วย

3.) ถีนมิทธะ แยกเป็นถีนะคือความหดหู่ท้อถอยนั้นแก้โดย

พิจารณาถึงโทษของกามและคุณของสมาธิ เพื่อทำให้เกิดความเพียร ในการปฏิบัติให้พ้นจากโทษของกามเหล่านั้น

คบหากับคนที่มีความเพียร ฝักใฝ่ยินดีในการทำสมาธิ

หลีกเว้นจากคนที่ไม่ชอบทำสมาธิ หรือคนที่เบื่อหน่ายในสมาธิ

ส่วนมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอนนั้น มีวิธีแก้หลายวิธี ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระโมคคัลลานะ สรุปได้เป็นขั้นๆ ดังนี้

ในขณะที่เพ่งจิตในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ เพื่อทำสมาธิหรือวิปัสสนาก็ตาม แล้วเกิดความง่วงขึ้นมา ให้เพ่งสิ่งนั้นให้มาก หรือให้หนักแน่นขึ้นไปอีก ก็จะทำให้หายง่วงได้

ถ้ายังไม่หายง่วง ให้ตรึกตรอง พิจารณาธรรมที่ได้อ่าน หรือได้ฟัง ได้เรียนมาแล้ว โดยนึกในใจ

ถ้ายังไม่หายง่วงให้สาธยายธรรมที่ได้อ่าน ได้ฟัง หรือได้เรียนมาแล้ว คือให้พูดออกเสียงด้วย

ถ้ายังไม่หายง่วงให้ยอนช่องหูทั้งสองข้าง (เอานิ้วไชเข้าไปในรูหู) เอามือลูบตัว

ถ้ายังไม่หายง่วง ให้ลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ (คือให้มองไปทางโน้นทีทางนี้ที บิดคอไปมา)

ถ้ายังไม่หายง่วง ให้ทำในใจถึงอาโลกสัญญา (นึกถึงแสงสว่าง) ตั้งความสำคัญในกลางวัน ว่ากลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด (คือให้ทำความรู้สึกเหมือนกับว่า กลางคืนนั้นสว่างราวกับเป็นกลางวัน)

ถ้ายังไม่หายง่วง ให้เดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก (ควรเดินเร็วๆ ให้หายง่วง)

ถ้ายังไม่หายง่วงอีก ให้สำเร็จสีหไสยาสน์ คือ นอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า (เหมือนพระพุทธรูปนอน) มีสติสัมปชัญญะ โดยบอกกับตัวเองว่า ทันทีที่รู้สึกตัวตื่นแล้ว จะรีบลุกขึ้นทันที ด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ

4.) อุทธัจจกุกกุจจะ แยกเป็นอุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต แก้โดย
ใช้เทคนิคกลั้นลมหายใจ (เทคนิคนี้นอกจากจะใช้แก้ความฟุ้งซ่านได้แล้ว ยังใช้ในการแก้ความง่วงได้อีกด้วย) โดยการทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
เริ่มจากการหายใจเข้าออกให้ลึกที่สุด โดยทำเหมือนถอนหายใจแรงๆ สัก 3 รอบ  จากนั้นทำสิ่งต่อไปนี้พร้อมกันคือ  ใช้ลิ้นดุนเพดานปากอย่างแรง  หลับตาปี๋  เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า และกล้ามเนื้อทั่วร่างกายให้มากที่สุด   กลั้นลมหายใจให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับทำสมาธิ โดยกำหนดจิตไว้ที่การกลั้นลมหายใจนั้น เพิ่มความหนักแน่น หรือความถี่ของสิ่งที่ใช้ยึดจิตขึ้นไปอีก เพื่อให้สามารถประคองจิตได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือลดโอกาสในการฟุ้งให้น้อยลง เช่น ถ้าตอนแรกใช้กำหนดลมหายใจเข้า/ออก โดยบริกรรมว่าพุทธ/โธ หรือ เข้า/ออก ซ้ำไปซ้ำมา ก็เปลี่ยนเป็นนับลมหายใจแทน โดยหายใจเข้านับ 1 ออกนับ 1 เข้า-2 ออก-2 ... จนถึง เข้า-10 ออก-10 แล้วเริ่มนับ 1 ใหม่ การนับนี้ให้ลากเสียง(ในใจ) ให้ยาวตั้งแต่เริ่มหายใจเข้าหรือออก จนกระทั่งสุดลมหายใจ เพื่อให้จิตเกาะติดกับเสียงนั้นไปตลอด

ถ้ายังไม่หายก็เปลี่ยนเป็น เข้า-1 ออก-2 เข้า-3 ออก-4 ...... เข้า-9 ออก-10 แล้วเริ่มนับ 1 ใหม่

ถ้ายังไม่หายอีกก็เปลี่ยนเป็นรอบแรกนับจาก 1จนถึง 10 (เหมือนครั้งที่แล้ว) รอบที่สองนับจาก 1 - 9 ลดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือนับ 1 - 5 แล้วค่อยเพิ่มขึ้นเป็น 1 - 6 ...... จนถึง 1 - 10 แล้วลดลงใหม่จนเหลือ 1 - 5 แล้วเพิ่มขึ้นจนถึง 1 - 10 กลับไปกลับมาเรื่อยๆ เพื่อให้ต้องเพิ่มความตั้งใจขึ้นอีก

ถ้ายังไม่หายอีกก็เปลี่ยนเป็นนับเลขอย่างเร็ว คือขณะหายใจเข้าแต่ละครั้งก็นับเลข 1,2,3,... อย่างรวดเร็วจนกว่าจะสุดลมหายใจ พอเริ่มหายใจออกก็เริ่มนับ 1,2,3,... ใหม่จนสุดลมหายใจเช่นกัน ทั้งนี้ไม่ต้องไปกำหนดว่าตอนหายใจเข้า/ออกแต่ละครั้งจะต้องนับได้ถึงเลขอะไร เช่น หายใจเข้าครั้งแรกอาจจะนับได้ถึง 12 พอหายใจออกอาจจะได้แค่ 10 หายใจเข้าครั้งต่อไปอาจจะได้แค่ 9 ก็ได้

*** ในการหายใจนั้นที่สำคัญคือให้หายใจให้เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด อย่าไปบังคับลมหายใจให้ยาวหรือสั้น บางขณะอาจหายใจยาว บางขณะอาจสั้นก็ปล่อยไปตามธรรมชาติของมัน เรามีหน้าที่เพียงแค่สังเกตดูเท่านั้น

*** ทำใจให้สบาย อย่ามุ่งมั่นมากเกินไปจนเครียด จะทำให้ฟุ้งซ่านหนักขึ้น ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วจะดีขึ้นเอง อย่าหวัง อย่ากำหนดกฎเกณฑ์ว่าวันนี้จะต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ ปล่อยวางให้มากที่สุด ทำใจให้อยู่กับปัจจุบัน คือเพียงแค่สังเกตว่าตอนนี้เป็นอย่างไรก็พอแล้ว อย่าคิดบังคับให้สมาธิเกิด ยิ่งบีบแน่นมันจะยิ่งทะลักออกมา ยิ่งฟุ้งไปกันใหญ่

*** ถ้านับเลขผิดให้เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ แล้วดูว่าวันนี้จะนับได้มากที่สุดถึงแค่ไหน

*** เมื่อนับถี่ที่สุดถึงขั้นไหนแล้วเอาจิตให้อยู่ได้ก็หยุดอยู่แค่ขั้นนั้น พอฝึกจิตได้นิ่งพอสมควรแล้ว ก็ลองลดการนับไปใช้ขั้นที่เบาลงเรื่อยๆ จิตจะได้ประณีตขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนกุกกุจจะคือความรำคาญใจ นั้นแก้ได้โดย
พยายามปล่อยวางในสิ่งนั้นๆ โดยคิดว่าอดีตก็ผ่านไปแล้ว คิดมากไปก็เท่านั้น อนาคตก็ยังมาไม่ถึง เรามาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่า ตอนนี้เป็นเวลาทำกรรมฐาน เพราะฉะนั้นอย่างอื่นพักไว้ก่อน ยังไม่ถึงเวลาคิดเรื่องเหล่านั้น
ถ้าแก้ไม่หายจริงๆ ก็ไปจัดการเรื่องเหล่านั้นให้เรียบร้อย แล้วถึงกลับมาทำกรรมฐานใหม่ก็ได้

5.) วิจิกิจฉา แก้ได้โดย พยายามศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด
ถ้ายังไม่แน่ใจก็คิดว่าเราจะลองทางนี้ดูก่อน ถ้าถูกก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าผิดเราก็จะได้รู้ว่าผิด จะได้หายสงสัย แล้วจะได้พิจารณาหาทางอื่นที่ถูกได้ ยังไงก็ดีกว่ามัวแต่สงสัยอยู่ แล้วไม่ได้ลองทำอะไรเลย ซึ่งจะทำให้ต้องสงสัยตลอดไป

ขอบคุณข้อมูลจากเวป http://www.dhammathai.org/treatment/concentration/concentrate01.php


736
ธรรมะ / ตอบ: เหตุที่ทำให้ได้บุญ
« เมื่อ: 20 ก.ค. 2553, 12:52:02 »
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับความรู้และคำสั่งสอนอ่านแล้วได้ความรู้มาก ศิษย์ขอน้อมความรู้นี้ใว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป  :054:

อนุโมทนาด้วยครับ สาธุ  :054:

 :054:  :054:  :054:

737
กราบมนัสการหลวงปู่ดุลย์ ด้วยครับ  :054:

ขอบคุณท่านกระแบนท้องน้ำ สำหรับเรื่องราวดีๆ และเหรียญอันทรงคุณค่า

738
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณที่นำมาให้ชมกัน งดงามจริงๆครับสร้อยลูกปัดโบราณ

 :054:  :054:  :054:

739
เป็นพระร่วงรางปืน ครับ

พระร่วงหลังรางปืน หรือพระร่วงรางปืน มีทั้งพระกรุ และ ที่สร้างออกมาใหม่อีกหลายๆวัด  ของเก๊ก็เยอะพอสมควร
เก๊หรือแท้ หรือวัดไหนสร้างดูไม่เป็นครับ   ขอเป็นกำลังใจให้
ส่วนมาก พระกรุจะไปทางเนื้อชิน  ของใหม่ๆ ก็มีหลายๆเนื้อให้เห็น

740
การจะสักทับ ได้หรือไม่ได้ หรือกี่พระอาจารย์ อาจารย์ จะเป็นหมึกหรือน้ำมัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละสายวิชาแต่ละสำนักเพราะไม่เหมือนกัน
เช่นสายวิชาของ วัดสาลีโข ไม่ว่าหมึกหรือน้ำมัน เมื่อสักที่นี่แล้วก็ห้ามไปสักที่อื่น

ก็ควรสอบถามก่อน แต่ถ้าเป็นสายวัดบางพระ ทุกกุติ  ย่อมได้ครับเพราะครูบาอาจารย์เดียวกัน
นอกจากเสียว่าวิชาที่สักของพระอาจารย์วัดบางพระนั้นไปเรียนเพิ่มเติมจากที่อื่นมาหรือป่าว ท่านจะใช้ดุจพินิจพิจณาให้เองครับ
ถ้าของวัดบางพระไม่ต้อง ครบ 7 ท่านก็ได้ ถ้าวัดบางพระมีไม่ถึง 7 ท่านก็คงวุ่นน่าดู หรือ ใครเคยสักมาเกิน 7 ก็ไม่เป็นไรครับไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีข้อห้าม ในหลักของข้อห้าม

ถ้าให้ดีควรสักเป็นที่ๆไป อย่ามั่ว ใช่ว่าใครว่าที่นู่นดี ที่นี่ดี ก็ตามเขาไปกันหมด
แบบนี้ระวังของตีกันนะครับไม่ดีแน่นอน อีกอย่างเหมือนเป็นการไม่มั่นใจในครูบาอาจารย์ของเรา จิตใจโลเล
ศรัทธาและยึดมั่นในครูบาอาจารย์ยึดที่ไหนก็สักที่ ที่ที่เราศรัทธานับถือเชื่อมั่น แล้วบารมีครูบาอาจารย์ท่านจะเมตตาครับคุ้มครองเราแบบไม่ต้องกังวล

741
อิทธิบาท ๔
คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม
เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้อง
ทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น


ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน

ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้
ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึงการการะทำที่ติดต่อไม่ขาดตอนเป็นระยะยาว
จนประสบความสำเร็จ คำนี้มีความหมายของความกล้าหาญเจืออยู่ด้วยส่วนหนึ่ง

จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้งสิ่งนั้น ไปจากความรู้สึกของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น
วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ
อยู่ด้วยอย่างเต็มที่


วิมังสา หมายถึงความสอดส่องในเหตุและผลแห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้รวมความหมายของคำว่าปัญญาไว้อย่างเต็มที่

บุคคลเมื่อประกอบด้วย คุณธรรม ๔ อย่างนี้แล้ว ย่อมประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่
ไม่เหลือวิสัยของมนุษย์ ซึ่งโดยตรงทางหมายถึงความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง ที่เรียก
ว่า นิพพาน ส่วนเรื่องอื่น นอกนั้นไป ถือว่าเป็น เรื่องพิเศษ และ ไม่มี ขอบขีดจำกัด
เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับ เรื่องนอกเหนือ วิสัยธรรมดา อยู่มาก เช่นเรื่องที่ว่า คนเรา
อาจมีอายุยืน ถึงกัลป์ ด้วยอำนาจแห่งอิทธิบาททั้ง ๔ นี้ ซึ่งข้อนี้มิได้มีความหมาย
ขัดกัน ในข้อที่ว่า อิทธิบาท ๔ นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้อายุยืนถึงปานนั้นได้หรือไม่ แต่
มีปัญหาอยู่ที่ว่า คนเราจะสามารถ เจริญอิทธบาทให้มากถึงเท่านั้นได้หรือไม่ ต่าง
หาก เพราะฉะนั้น ท่านจึงถือว่า หลักเกี่ยวกับอิทธิบาท นี้ คงมีความหมาย ไปตาม
ตัวหนังสือ โดยไม่ต้องมีขอบขีดจำกัดว่าอะไรบ้าง สรุปความสั้นๆว่าวิสัยของใคร
ทำให้เขาเจริญอิทธิบาทได้มากเท่าใด เขาย่อมได้รับผลเต็มกำลังของอิทธิบาทนั้น
แม้ในสิ่งที่บางคน ถือว่าเป็นของเหลือวิสัย โดยเฉพาะเช่น การบรรลุนิพพาน

ในที่บางแห่ง ท่านเติมคำว่า อธิปเตยย เข้าข้างท้ายคำเหล่านี้ เป็น ฉันทาธิปไตย
วิริยาธิปไตย วิมังสาธิปไตย ไปดังนี้ก็มี แปลว่า ความมีฉันทะเป็นใหญ่ เป็นต้น
ซึ่งที่แท้ ก็ได้แก่ อิทธิบาท อย่างเดียวกัน นั่นเอง แต่ใช้คำว่า ที่มีความหมาย ที่
เห็นได้ชัด ยิ่งขึ้นว่า ในการทำกิจใดๆ ก็ดี ย่อมมีฉันทะ เป็นต้น เหล่านี้เป็นใหญ่
หรือเป็นประธานในความสำเร็จ เป็นการชวนให้สนใจในสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท
นี้ยิ่งขึ้น มีพระพุทธภาษิต ยืนยัน อยู่ในที่ หลายแห่ง ว่า การตรัสรู้ อนุตรสัมมา
สัมโพธิญาณ ของพระองค์เอง สำเร็จได้โดยมี อิทธิบาท๔ นี้ เป็นประธาน แห่ง
การกระทำ ในลำดับนั้นๆ ฉะนั้น จึงถือว่าเป็น อุปกรณ์อันขาดเสียไม่ได้ในความ
สำเร็จทุกชนิด ผู้ปฏิบัติ เพื่อความ ความดับทุกข์ จึงต้องสนใจเป็นพิเศษ แม้การ
ประกอบ ประโยชน์ ในทางโลก ก็ใช้หลักเกณฑ์ อันเดียวกันนี้ได้เป็นอย่างดี โดย
เท่าเทียมกัน แม้ที่สุด แต่ในกรณีที่เป็น การทำชั่ว ทำบาป ก็ยังอาจนำไปใช้ ให้
บรรลุผลได้ตามที่ตนประสงค์ ฉะนั้น ท่านจึงจัดเป็น หลักธรรม ที่สำคัญหมวด
หนึ่ง ในบรรดา โพธิปักขิยธรรม ทั้งหลาย

นี้นับว่า เป็นอุปกรณ์ในฐานะเป็น เครื่องช่วยให้เกิดการปฏิบัติ ดำเนินไปได้ โดย
ปราศจากอุปสรรค ตั้งแต่ต้น จนถึง จุดหมายปลายทาง

กราบมนัสการหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ คัดลอกมาจากเวป http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/itibath4.html

742
ธรรมะ / +++ ความกลัว ++++
« เมื่อ: 19 ก.ค. 2553, 05:13:57 »
ความกลัว
ความกลัว เป็นสิ่งที่มีอำนาจมากสิ่งหนึ่ง
ในบรรดา สิ่งที่ทำลาย ความสุข สำราญ
หรือ รบกวนประสาท ของมนุษย์ เป็นอย่างยิ่ง ด้วยกัน

ความกลัวนี้ ย่อมมีลักษณะ และพิษสง มากน้อยกว่ากัน เป็นขั้นๆ
ตามความรู้สึก อันสูงต่ำ ของจิต

เด็กๆ สร้างภาพ ของสิ่งที่น่ากลัว ขึ้นในใจ ตามที่ผู้ใหญ่ นำมาขู่
หรือได้ยิน เขาเล่า เรื่อง อันน่ากลัว เกี่ยวกับผี เป็นต้น สืบๆ กันมา
แล้วก็กลัว เอาจริงๆ จนเป็นผู้ใหญ่ ความกลัวนั้น ก็ไม่หมดสิ้นไป

ความกลัว เป็นสัญชาตญาณ อันหนึ่งของมนุษย์ เหมือนกันหมด
แต่ว่า วัตถุที่กลัว นั่นแหละต่างกัน ตามแต่เรื่องราวที่ตนรับ
เข้าไว้ในสมอง

วัตถุอันเป็น ที่ตั้งของความกลัว ที่กลัวกันเป็นส่วนมากนั้น
โดยมากหาใช่วัตถุ ที่มีตัวตน จริงจัง อะไรไม่ มันเป็นเพียงสิ่งที่ใจสร้างขึ้น
สำหรับกลัวเท่านั้น ส่วนที่เป็น ตัวตน จริงๆ นั้น ไม่ได้ ทำให้เรากลัวนาน
หรือ มากเท่าสิ่งที่ใจสร้างขึ้นเอง มันมักเป็น เรื่องเป็นราวลุล่วงไปเสียในไม่ช้านัก

บางที เราไม่ทันนึก กลัว ด้วยซ้ำไป
เรื่องนั้นก็ได้มาถึงเรา เป็นไปตามเรื่องของมัน
และผ่านพ้นไปแล้ว มันจึงมิได้ทรมานจิตของมนุษย์
มากเท่าเรื่องหลอกๆ ที่ใจสร้างขึ้นเอง

เด็กๆ หรือคนธรรมดา เดินผ่านร้านขายโลง ซึ่งยังไม่เคย ใส่ศพเลย
ก็รู้สึกว่า เป็นที่น่ารังเกียจ หรือเป็นที่ อวมงคล เสียจริงๆ
เศษกระดาษ ชนิดที่เขา ใช้ปิดโลง ขาดตก อยู่ในที่ใด
ที่นั้น ก็มี ผี สำหรับเด็กๆ

เมื่อเอาสีดำ กับกระดาษ เขียนกันเข้า เป็น รูปหัวกระโหลก ตากลวง
ความรู้สึกว่าผี ก็มาสิง อยู่ใน กระดาษ นั้นทันที

เอากระดาษฟาง กับกาวและสี มาประกอบกัน เข้าเป็น หัวคนป่า ที่น่ากลัว
มีสายยนต์ ชักให้แลบลิ้น เหลือกตา ได้ มันก็พอที่ทำให้ใคร ตกใจเป็นไข้ได้
ในเมื่อนำไปแอบ คอยที่ชักหลอกอยู่ในป่า หรือที่ขมุกขมัว
และแม้ที่สุด แต่ผู้ที่เป็นนายช่าง ทำมันขึ้นนั่นเอง ก็รู้สึกไปว่า
มันมิใช่กระดาษฟาง กับกาวและสี เหมือนเมื่อก่อน เสียแล้ว
ถ้าปรากฏว่า มันทำให้ใคร เป็นไข้ ได้สักคนหนึ่ง

เราจะเห็นได้ ในอุทาหรณ์ เหล่านี้ ว่า
ความกลัวนั้น ถูกสร้างขึ้น ด้วยสัญญาในอดีตของเราเอง ทั้งนั้น
เพราะปรากฏว่า สิ่งนั้นๆ ยังมิได้เนื่องกับผีที่แท้จริง แม้แต่นิดเดียว และ

สิ่งที่เรียกว่า ผี ผี , มันก็ เกิดมาจากกระแส ที่เต็มไปด้วย อานุภาพอันหนึ่ง
อันเกิดมาจาก กำลังความเชื่อแห่งจิต
ของคนเกือบทั้งประเทศ หรือ ทั้งโลก เชื่อกันเช่นนั้น
อำนาจนั้นๆ มัน แผ่ซ่าน ไปครอบงำจิตของคนทุกคน
ให้สร้าง ผีในมโนคติ ตรงกันหมด
และทำให้เชื่อ ในเรื่องผี ยิ่งขึ้น และผีก็มีชีวิต อยู่ในโลกนี้ได้

จนกว่าเมื่อใด เราจะหยุดเชื่อเรื่องผี หรือ เรื่องหลอก นี้กันเสียที ให้หมดทุกๆ คน
ผีก็จะตายหมดสิ้นไปจากโลกเอง จึงกล่าวได้ว่า
ความกลัวที่เรากลัวกันนั้น เป็นเรื่องหลอก ที่ใจสร้างขึ้นเอง
ด้วยเหตุผล อันผิดๆ เสียหลายสิบเปอร์เซ็นต์

ความกลัว เป็นภัยต่อความสำราญ เท่ากับความรัก โกรธ เกลียด หลงใหล และอื่นๆ
หรือบางที จะมากกว่าด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่า
ธรรมชาติ ได้สร้างสัญชาตญาณ อันนี้ให้แก่สัตว์ ตั้งแต่ เริ่มออกจากครรภ์ ทีเดียว,
ลูกนก หรือ ลูกแมว พอลืมตา ก็กลัวเป็นแล้ว แสดงอาการหนี
หรือป้องกันภัย ในเมื่อเราเข้าไปใกล้

เด็กๆ จะกลัวที่มืด หรือการถูกทิ้ง ไว้ผู้เดียว
ทั้งที่ เขายังไม่เคย มีเรื่องผูกเวร กับใครไว้
อันจะนำให้กลัวไปว่า จะมีผู้ลอบทำร้าย
เพียงแต่ผู้ใหญ่ ชี้ไปตรงที่มืด แล้วทำท่ากลัว ให้ดูสักครั้งเท่านั้น
เด็กก็จะกลัว ติดอยู่ในใจไปได้นาน
คนโตแล้วบางคน นั่งฟังเพื่อนกันเล่าเรื่องผีเวลากลางคืน
มักจะค่อยๆ ขยับๆ จนเข้าไป นั่งอยู่กลางวง โดยไม่รู้สึกตัว
และยังไปนอนกลัว ในที่นอนอีกมาก กว่าจะหลับไปได้

เดินผ่านป่าช้าโดยไม่รู้ เพิ่งมารู้และกลัวเอาที่บ้านก็มี
สำหรับบางคน ทั้งหมดนี้ เป็น เครื่องแสดงว่า
ความกลัว เป็นเรื่องของจิต มากกว่า วัตถุ
ผู้ใด ไม่มี ความรู้ ในการควบคุม จิตของตน ในเรื่องนี้
เขาจะถูกความกลัวกลุ้มรุมทำลายกำลังประสาท
และความสดชื่นของใจเสียอย่างน่าสงสาร

ในทำนอง ตรงกันข้าม สำหรับผู้ที่มีอุบายข่มขี่ความกลัว
ย่อม จะได้รับ ความผาสุก มากกว่า มีกำลังใจ เข้มแข็งกว่า
เหมาะที่จะเป็น หัวหน้าหมู่ หรือ ครอบครัว

เมื่อปรากฏว่า ความกลัว เป็นภัย แก่ความผาสุก เช่นนี้แล้ว
บัดนี้ เราก็มาถึง ข้อปัญหาว่า เราจะเอา ชนะความกลัว ได้อย่างไร สืบไป
เพราะเหตุว่า การที่ทราบแต่เพียงว่า
ความกลัว เป็นภัย ของความผาสุกนั้น
เรายังได้รับผลดีจากความรู้นั้น น้อยเกินไป
เราอาจปัดเป่า ความกลัวออกไปเสียจากจิต โดยววิธีต่างๆ กัน

แต่เมื่อจะสรุปความ ขึ้นเป็นหลักสำคัญๆ แล้ว อย่างน้อย เราจะได้สามประการ คือ

๑. สร้างความเชื่ออย่างเต็มที่ ในสิ่งที่ยึดเอาเป็นที่พึ่ง
๒. ส่งใจไปเสียในที่อื่น ผูกมัดไว้กับสิ่งอื่น
๓. ตัดต้นเหตุ ของความกลัวนั้นๆ เสีย

ในประการต้น อันเราอาจเห็นได้ทั่วไป คือ วิธีของ เด็กๆ ที่เชื่อตะกรุด หรือ
เครื่องราง ฯลฯ ตลอดจน พระเครื่ององค์เล็ก ที่แขวนคอ
และเป็นวิธีของผู้ใหญ่บางคน ที่มีความรู้สึกอยู่ในระดับเดียวกับเด็กด้วย

คนในสมัยอนารยะ ถือภูเขาไฟ ต้นไม้ ฟ้า หรือ สิ่งที่ตนเห็นว่า มีอำนาจน่ากลัว
ควรถือเอา เป็นที่มอบกายถวายตัว ได้อย่างหนึ่ง นี่ก็อยู่ในประเภทเดียวกัน
ที่ยังเหลือมาจนทุกวันนี้ เช่น พวกที่บนบานต้นโพธิ์ พระเจดีย์ เป็นต้น
เพื่อความเบาใจของตน ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
วิธีนี้ เป็นผลดีที่สุด ได้ตลอดเวลา ที่ตน ยังมีความเชื่อมั่นคงอยู่
ความเชื่อที่เป็นไปแรงกล้า อาจหลอกตัวเอง
ให้เห็นสิ่งที่ควรกลัวกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรกลัวไปก็ได้
ถ้าหากจะมีอุบายสร้างความเชื่อชนิดนั้น ให้เกิดขึ้นได้มากๆ

เมื่อใดความเชื่อหมดไป หรือมีน้อย ไม่มีกำลังพอที่จะหลอกตัวเองให้กล้าหาญแล้ว
วิธีนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ กลายเป็นของน่าหัวเราะเท่านั้น

เล่ากันมาว่า เคยมีคนๆ หนึ่ง อมพระเครื่อง เข้าตะลุมบอน ฆ่าฟันกัน
เชื่อว่า ทำให้อยู่คง ฟันไม่เข้า เป็นต้น ดูเหมือนได้ผล เป็นที่น่าพอใจ เขาจริงๆ
ขณะหนึ่ง พระตกจากปากลงพื้นดิน ในท้องนา
ตะลีตะลานคว้าใส่ปากทั้งที่เห็นไม่ถนัด
แทนที่ จะได้พระ กลับเป็นเขียดตัวหนึ่ง เข้าไปดิ้นอยู่ในปาก
ก็รบ เรื่อยไป โดยยิ่งเชื่อมั่นขึ้นอีกว่า พระในปาก แสดงปาฏิหาริย์
ดิ้นไปดิ้นมา เมื่อเลิกรบ รีบคายออกดู เห็นเป็นเขียดตาย
ก็เลยหมดความเชื่อ ตั้งแต่นั้นมา
ไม่ปรากฏว่า พระเครื่ององค์ใด ทำความพอใจ ให้เขาได้อีก

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า วิธีนี้ ไม่ใช่ ที่พึ่ง อันเกษม คือ
ทำความปลอดภัยให้ได้อย่างแท้จริง
ไม่ใช่ วิธีสูงสุด, เนตํ สรณํ เขมํ เนตํ สรณมุตฺตมํ

ประการที่สอง สูงขึ้นมาสักหน่อย พอที่จะเรียกได้ว่า
อยู่ในชั้นที่จัดว่า เป็นกุศโลบาย
หลักสำคัญอยู่ที่ส่งความคิดนึก ของใจไปเสียที่อื่น

ซึ่งจะเป็นความรักใครที่ไหน โกรธใครที่ไหน เกลียดใครที่ไหน ก็ตาม
หรือหยุดใจเสียจากความคิดนึก ทุกอย่าง (สมาธิ) ก็ตาม เรียกว่า
ส่งใจไปเสียในที่อื่น คือจากสิ่งที่เรากลัวนั้นก็แล้วกัน
ที่เราเห็นกันได้ทั่วไป เช่น กำลังเมารัก บ้าเลือด เหล่านี้เป็นต้น
จะไม่มีความกลัวผี กลัวเสือ กลัวเจ็บ
แม้เรื่องราวในหนังสือข่าวรายวัน ก็เป็นพยาน ในเรื่องนี้ได้มาก
แต่เรื่องชนิดนี้ เป็นได้โดย ไม่ต้องเจตนา ทำความรู้สึก เพื่อส่งใจไปที่อื่น
เพราะมันส่งไปเองแล้ว ถึงกระนั้น
ทุกๆ เรื่อง เราอาจปลูกอาการเช่นนี้ขึ้นได้ในเมื่อต้องการ
และมันไม่เป็นขึ้นมาเอง การคิดนึกถึงผลดีที่จะได้รับ คิดถึงสิ่งที่เรารักมาก
จนใฝ่ฝัน คิดถึง ชาติประเทศ คิดถึงหัวหน้าที่กล้าหาญ ดูสิ่งที่ยั่วใจให้กล้า เช่น
ระเบียบให้มองดู ธงของผู้นำทัพ ในเมื่อตนรู้สึกขลาด
อันปรากฏอยู่ในนิยาย เทวาสุรสงคราม ในพระคัมภีร์ เป็นต้น
เหล่านี้ ล้วน แต่ช่วยให้ใจแล่นไปในที่อื่น จนลืมความกลัว ได้ทั้งนั้น ในชั้นนี้
พระผู้มีพระภาคทรงสอนให้ระลึกถึงพระองค์
หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง
ในเมื่อภิกษุใดเกิดความกลัวขึ้นมา ในขณะที่ตนอยู่ในที่เงียบสงัด
เช่นในป่าหรือถ้ำ เป็นต้น
อาการเช่นนี้ทำนองค่อนไปข้างสมาธิ แต่ยังมิใช่สมาธิแท้ทีเดียว
แต่ถ้าหากว่า ผู้ใดแม้ระลึกถึง พระพุทธองค์ก็จริง แต่ระลึกไปในทำนองเชื่อมั่น
มันก็ไปตรงกันเข้ากับประการต้น คือความเชื่อ เช่น
เชื่อพระเครื่อง หรือคนป่าเชื่อปู่เจ้าเขาเขียว
ต่อเมื่อระลึก ในอาการเลื่อมใสปิติในพระพุทธคุณ เป็นต้น
จึงจะเข้ากับประการที่สองนี้

ส่วนอาการที่สงบใจไว้ด้วยสมาธินั้น เป็นอุบายข่มความกลัว ได้สนิทแท้
เพราะว่า ในขณะแห่งสมาธิ ใจไม่มีการคิดนึก อันใดเลย
นอกจากจับอยู่ที่สิ่งซึ่งผู้นั้น ถือเอาเป็นอารมณ์ หรือนิมิต
ที่เกาะของจิตอยู่ในภายในเท่านั้น

แต่ว่าใจที่ เต็มไป ด้วยความกลัว ยากที่จะเป็นสมาธิ
เพราะฉะนั้น ต้องเป็นสมาธิ ที่ชำนาญ อย่างยิ่งจริงๆ
จนเกือบกลายเป็นความจำอันหนึ่งไป พอระลึกเมื่อใด
นิมิตนั้นมาปรากฏเด่นอยู่ที่ "ดวงตาภายใน" ได้ทันที
นั่นแหละ จึงจะเป็นผล แม้ข้อที่ พระองค์สอนให้ระลึกถึงพระองค์
หรือพระธรรม พระสงฆ์ ตามนัยแห่งบาลี ธชัคคสูตรนั้น ก็หมายถึง
พุทธานุสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ อยู่แล้ว
แม้ว่าจะเป็นเพียง อุปจารสมาธิ ยังไม่ถึงขึดฌาณก็ตาม
ล้วนแต่ต้องการความชำนาญ
จึงอาจเปลี่ยนอารมณ์ที่กลัวให้เป็นพุทธานุสสติ เป็นต้นได้

ส่วนสมาธิ ที่เป็นได้ถึงฌาณ เช่น พรหมวิหาร เป็นต้น
เมื่อชำนาญแล้ว สามารถที่จะข่มความกลัว ได้เด็ดขาดจริงๆ
ยิ่งโดยเฉพาะ เมตตา พรหมวิหาร ยิ่งเป็นไปได้ง่ายที่สุด

แต่พึงทราบว่า ทั้งนี้เป็นเพียงข่มไว้เท่านั้น เชื้อของความกลัว ยังไม่ถูกรื้อถอนออก
เมื่อใดหยุดข่ม มันก็เกิดขึ้นตามเดิม อีกประการหนึ่ง ไม่ใช่วิธีที่ง่ายสำหรับคนทั่วไป
สำหรับการข่มด้วยสมาธิ
คนธรรมดาเหมาะสำหรับเพียงแต่เปลี่ยนเรื่องคิดนึกของใจเท่านั้น 
หาอาจทำ การหยุด พฤติการของจิต ให้ชะงักลงได้ง่ายๆ เหมือน นักสมาธิไม่
และค่อนข้าง จะเป็นการแนะให้เอา ลูกพรวน เข้าไปแขวนผูกคอแมวไป
ในเมื่อสอนให้ คนธรรมดาใช้วิธ๊นี้

และน่าประหลาดใจอีกอย่างหนึ่งว่า วิธีที่สาม ที่จะกล่าวต่อไปข้างหน้า
ฃึ่งเป็นวิธีที่สูงนั้น กลับจะเหมาะสำหรับคนทั่วไป และได้ผลดีกว่าเสียอีก
วิธีนั้น คือ ตัดต้นเหตุ แห่งความกลัวเสีย ตามแต่ที่กำลังปัญญาความรู้ของผู้นั้น
จะตัดได้มากน้อยเพียงไร ดังจะได้พิจารณากันอย่างละเอียด กว่าวิธีอื่น ดังต่อไปนี้

เมื่อมาถึงประการ ที่สามนี้ ขอให้เราเริ่มต้นด้วย อุทาหรณ์ง่ายๆ
ของท่านภิกขุ อานันท เกาศัลยายนะ
[เขียนไว้ในเรื่อง คนเราเอาชนะความกลัวได้อย่างไร ในหนังสือพิมพ์มหาโพธิ
และบริติชพุทธิสต์ แต่เขียนสั้นๆ เพียงสองหน้ากระดาษเท่านั้น และกล่าวเฉพาะ
การประพฤติ กายวาจาใจ ให้สุจริตอย่างเดียว ว่า เป็นการตัดต้นเหตุแห่งความกลัว]
เขียนไว้เรื่องหนึ่งเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายในข้อที่ว่า
การสะสางที่มูลเหตุ นั้นสำคัญเพียงไร
อุทาหรณ์ นั้น เป็นเพียงเรื่องที่ผูกขึ้นให้เหมาะสมกับความรู้สึกของคนเราทั่วไป
เรื่องมีว่า เด็กคนหนึ่งมีความกลัวเป็นอันมาก ในการที่จะเข้าไปใน ห้องมืดห้องหนึ่ง
ในเรือนของบิดาของเขาเอง เขาเชื่อว่า มีผีดุตัวหนึ่งในห้องนั้น และจะกินเขา
ในเมื่อเขาเพียงแต่เข้าไป บิดาได้พยายามเป็นอย่างดีที่สุด ที่จะทำได้ ทุกๆ ทาง
เพื่อให้บุตรของตน เข้าใจถูกว่า ไม่มีอะไร ในห้องนั้น เขากลัวไปเอง
อย่างไม่มีเหตุผล แต่เด็กคนนั้น ได้เคยนึกเห็นตัวผีมาแล้ว เขาเชื่อว่า
ไม่มีทางใดที่จะช่วยบุตรของตน ให้หลุดพ้นจากการกลัวผี
ซึ่งเขาสร้างขี้นเป็นภาพใส่ใจของเขาเองด้วยมโนคติได้จริงแล้ว
ก็คิดวางอุบาย มีคนใช้คนหนึ่ง เป็นผู้ร่วมใจด้วย ฤกษ์งามยามดีวันหนึ่ง
เขาเรียกบุตร คนนั้นมา แล้วกล่าวว่า "ฟังซิ ลูกของพ่อ ตั้งนานมาแล้ว
ที่พ่อเข้าใจว่า พ่อเป็นฝ่ายถูก เจ้าเป็นฝ่ายผิด ก่อนหน้านี้ พ่อคิดว่า
ไม่มีผีดุ ในห้องนั้น บัดนี้ พ่อพบด้วยตนเองว่า มันมีอยู่ตัวหนึ่ง
และเป็นชนิดที่น่าอันตรายมาก เสียด้วย พวกเราทุกคน จักต้องระวังให้ดี"

ต่อมาอีกไม่กี่วัน บิดาได้เรียกบุตรมาอีก ด้วยท่าทาง เอาจริงเอาจัง กล่าวว่า
"หลายวันมาแล้ว ผีพึ่งปรากฏตัววันนี้เอง พ่อคิดจะจับและฆ่ามันเสีย
ถ้าเจ้าจะร่วมมือกับพ่อด้วย ไปเอาไม้ถือ ของเจ้า มาเร็วๆ เข้าเถิด
ไม่มีเวลาที่จะรอ แม้นาทีเดียว เพราะมันอาจหนีไปเสีย" เด็กน้อยตื่นมาก
แต่ไม่มีเวลาคิด ไปเอาไม้ถือมาทันที พากันไปสู่ห้องนั้น เมื่อเข้าไปก็ได้พบผี
(ซึ่งเรารู้ดีว่า เป็นฝีมือของคนใช้ทำขึ้น และคอยเชิดมันในห้องมืดนั้น)
สองคนพ่อลูกช่วยกันระดมตีผี ด้วยไม้ถือ และไม้พลอง จนมันล้มลง
มีอาการของคนตาย พ่อลูกดีใจ คนในครอบครัวทั้งหลาย มีการรื่นเริง
กินเลี้ยงกันในการปราบผี ได้สำเร็จ ฉลองวันชัย และเป็นวันแรก ที่เด็กนั้น
กล้าเข้าไปในห้องนั้น โดยปราศจากความกลัวสืบไป
นี่เราจะเห็นได้ว่า เพียงทำลายล้างผี ที่เด็กสร้างขึ้น ด้วยมันสมองของเขาเอง
บิดาต้องสร้างผี ขึ้นตัวหนึ่งจริงๆ จึงทำลายได้สำเร็จ โดยอาศัยความฉลาด
รู้เท่าทันการ รู้จักตัดต้นเหตุ คนโง่ กับคนฉลาด นั้น ผิดกันในส่วนที่
ระงับเหตุร้าย ลงไปจากทางปลาย หรือตัดรากเหง้า ขึ้นมาจากภายใต้

เสือย่อมกระโดด สวนทาง เสียงปืน เข้าไปหาผู้ยิง ในเมื่อรู้สึกว่า ตนถูกยิง
แต่สุนัข ย่อมมัว ขบกัด ตรงปลายไม้ ที่มีผู้แหย่ ตนนั่นเอง
หาคิดว่าต้นเหตุสำคัญ อยู่ที่ผู้แหย่ไม่

เมื่อเราพบจุดสำคัญว่า การตัดต้นเหตุเป็นวิธีที่ดีที่สุด ดังนี้แล้ว
เราก็ประจัญกันเข้ากับปัญหาว่า อะไรเล่า ที่เป็นต้นเหตุแห่งความกลัว ?

เมื่อเราคิดดูให้ดีแล้ว อาจตอบได้ว่า เท่าที่คนเราส่วนมาก จะคิดเห็นนั้น
ความกลัวผี มีต้นเหตุมากมาย คือ ความไม่เข้าใจในสิ่งนั้นบ้าง
การมีความกลัวติดตัวอยู่บ้าง ใจอ่อนเพราะเป็นโรคประสาทบ้าง
อาฆาตจองเวรไว้กับคนไม่ชอบพอกันบ้าง รักตัวเองไม่อยากตายบ้าง
เหล่านี้ ล้วนเป็น เหตุแห่งความกลัว

มูลเหตุอันแท้จริง เป็นรวบยอด แห่งมูลเหตุทั้งหลาย คืออะไรนั้น
ค่อนข้างยากที่จะตอบได้ เพราะเท่าที่เห็นกันนั้น เห็นว่า มันมีมูลมากมายเสียจริงๆ
แต่แท้ที่จริงนั้น ความกลัวก็เป็นสิ่งที่ เกิดมาจากมูลเหตุอันสำคัญอันเดียว
เช่นเดียวกับ ความรัก ความโกรธ ความเกลียด และ ความหลง
เพราะว่า ความกลัว ก็เป็นพวกเดียวกันกับ ความหลง (โมหะ หรือเข้าใจผิด)
มูลเหตุอันเดียวที่ว่านั้น ก็คือ อุปาทาน
ความยึดถือต่อตัวเองว่า ฉันมี ฉันเป็น นั่นของฉัน นี่ของฉัน เป็นต้น
อันเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อัสมิมานะ (เรื่องนี้ ข้าพเจ้าเคย อธิบายไว้บ้างแล้ว
ในเรื่อง "สุขกถา" ที่คณะธรรมทาน เคยพิมพ์โฆษณาแล้ว)

ความรู้สึก หรือ ยึดถืออยู่เอง ในภายในใจ ตามสัญชาตญาณนั้น
มันคลอดสิ่งที่เราเรียกกันว่า "ฉัน" ขึ้นมา และความรู้สึกนั้น ขยายตัวออกสืบไปว่า
ฉันเป็นผู้ทำเช่นนั้น เช่นนี้ ฉันจะได้รับนั่น รับนี่ หรือเสียนั่น เสียนี่ไป
นั่นจะส่งเสริมฉัน เป็นมิตรของฉัน นี่จะตัดรอนฉัน ทำลายฉัน เป็นศัตรูของฉัน
"ฉัน" สิ่งเดียวนี้ เป็นรากเหง้า ของความรัก โกรธ เกลียด กลัว หลงใหล
อันจักทำลาย ความผาสุก และอิสรภาพ ของคนเรา
ยิ่งไปกว่าที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันทำแก่เรา มากกว่ามากหลายเท่า หลายส่วนนัก

อุปาทาน ผูกมัดเรา ทำเข็ญให้เรา
ยิ่งกว่าที่หากเราจะถูกแกล้งหาเรื่องจับจองจำในคุกในตะรางเสียอีก
เพราะปรากฏว่ามันไม่เคยผ่อนผันให้เราเป็นอิสระ หรือพักผ่อน แม้ชั่วครู่ชั่วยาม

เมื่อมี "ฉัน" ขึ้นมาในสันดานแล้ว "ฉัน" ก็อยากนั่น อยากนี่
อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อยากไม่ให้ เป็นอย่างนั้น อย่างนี้
ซึ่งเมื่อพิจารณาดู ซ้ำอีกทีหนึ่งแล้ว จะเห็นว่า เต็มไปด้วย ความเห็นแก่ตนเอง
หรือ "ฉัน" นั้น ร้อยเปอร์เซ็นต์ "ฉัน" ไม่อยากเจ็บปวด ไม่อยากตาย
หรือแหลก ละลายไปเสีย ฉัน จึงกลัวเจ็บกลัวตาย เป็นสัญชาตญาณ ของ "ฉัน"
เมื่อกลัวตายอย่างเดียว อยู่ภายในใจแล้ว ก็กลัวง่าย ไปทุกสิ่งที่เชื่อกันว่า
มันจะทำให้ตาย หรือทำให้เจ็บป่วย ซึ่งเป็นน้องของตาย ทำให้ฉันกลัว
ผีจะหักคอฉัน กินฉันหลอกฉันขู่ฉัน กลัวเสือซึ่งไม่เคยปรากฏว่าเป็นเพื่อนกันได้
และ
กลัวสัตว์อื่นๆ แม้แต่งูตัวนิดๆ กลัวที่มืดซึ่งเป็นที่อาศัยของสิ่งน่ารังเกียจเหล่านั้น
กลัวที่เปลี่ยว ซึ่งไม่มีโอกาส ที่ตนจะต่อสู้ป้องกันตัวได้
กลัวคู่เวร จะลอบทำฉันให้แตกดับ
กลัวฉันจะอับอายขายหน้าสักวันหนึ่ง เพราะฉัน มีความผิดปกปิดไว้ 
บางอย่าง ฉันกลัว เพราะไม่เข้าใจว่า สิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ไม่รู้ เช่น
ผลไม้ดีๆ บางอย่าง แต่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้ารูปร่าง หรือ สีมันชอบกลแล้ว
ฉันก็กลัว ไม่กล้ากิน หรือแม้แต่จะชิมก็ขนลุก และในที่สุดเมื่อ
"ฉัน" ปั่นป่วน ในปัญหาการอาชีพ หรือ ชื่อเสียงเป็นต้นของฉัน
กลัวว่า ฉันจะเสื่อมเสียอยู่เสมอ ฉันก็เป็นโรคใจอ่อน หรือโรคประสาท
สะดุ้งง่าย ใจลอย ความยึดถือว่า ฉันเป็นฉัน เหล่านี้เป็น มูลเหตุของความกลัว
ซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ก็กวาดความสดใส ชุ่มชื่นเยือกเย็น ให้หมดเตียนไปจากดวงจิตนั้น

เมื่อพบว่า ต้นเหตุ ของความกลัว คืออะไร ดังนี้แล้ว
เราก็มาถึง ปัญหา ว่าจะตัดต้นเหตุนั้นได้อย่างไร เข้าอีกโดยลำดับ
ในตอนนี้เป็นการจำเป็น ที่เราจะต้องแบ่งการกระทำ ออกเป็นสองชั้น
ตามความสูงต่ำ แห่งปัญญา หรือความรู้ ของคนผู้เป็นเจ้าทุกข์
คือถ้าเขามีต้นทุนสูงพอ ที่จะทำลายอุปาทาน ให้แหลกลงไปได้
ก็จะได้ ตรงเข้าทำลาย อุปาทาน ซึ่งเมื่อทำลายได้แล้ว
ความทุกข์ทุกชนิด จะพากันละลายสาบสูญไปอย่างหมดจดด้วย นี้ประเภทหนึ่ง
และอีกประเภทหนึ่ง คือ พยายาม เพียงบรรเทาต้นเหตุให้เบาบางไปก่อน
ได้แก่ การสะสางมูลเหตุนั้น ให้สะอาดหมดจด ยิ่งขึ้น

ประเภทแรก สำเร็จได้ด้วยการปฏิบัติธรรมทางใจ ให้ก้าวหน้าสูงขึ้นตามลำดับๆ
จนกว่าจะหมดอุปาทาน ตามวิธีแห่งการปฏิบัติธรรม อันเป็นเรื่องยาวอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สำเร็จ ในประเภทนี้ คือ พระอรหันต์ จึงเป็นอันว่า จักงดวิธีนี้ไว้ก่อน
เพราะไม่เป็นเรื่องที่สาธารณะแก่บุคคลทั่วไป
และเป็นเรื่องที่เคยอธิบายกันไว้อย่างมาก ต่างหากแล้ว

ส่วนประเภทหลัง นั้นคือ การพยายาม ประพฤติ ความดี ทั้งทางโลก และทางธรรม
ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับ จนตนติเตียนตนเองไม่ได้ ใครที่เป็นผู้รู้ แม้จะมีทิพยโสต
หรือทิพยจักษุ มาค้นหา ความผิด เพื่อติเตียนก็ไม่ได้
เป็นผู้เชื่อถือ และเคารพตัวเองได้เต็มเปี่ยม ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนท่าน
ไม่มีเวรภัยที่ผูกกันไว้กับใครรู้กฏความจริงของโลกศึกษาให้เข้าใจในหลักครองชีพ
หาความ หนักแน่น มั่นใจให้แก่ตัวเอง ในหลักการครองชีพ และรักษา ชื่อเสียง
หรือคุณความดี พยายามทำแต่สิ่งที่เป็นธรรมด้วย ความหนักแน่น เยือกเย็น
ไม่เปิดโอกาสให้ใครเหยียดหยามได้ ก็จะไม่ต้องเป็นโรคใจอ่อน หรือโรคประสาท
เพราะมีความ แน่ใจตัวเอง เป็นเครื่องป้องกัน และสำเหนียก อยู่ในใจ เสมอว่า
สิ่งทั้งปวงเป็น อนัตตา เป็นไปตามเรื่อง คือ เหตุปัจจัยของมัน ไม่เป็นของแปลก
หรือได้เปรียบ เสียเปรียบ อะไรแก่กัน ในเรื่องนี้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความกลัว ก็หมดไป ใจได้ที่พึ่ง ที่เกษม ที่อุดม ยิ่งขึ้น
สมตาม พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสการเห็นแจ้ง อริยสัจ สี่ประการ ไว้ในรองลำดับ
แห่งการถือ ที่พึ่งด้วยการถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ
อริยสัจ ก็คือการรู ้ เหตุผลของความทุกข์ และของความพ้นทุกข์
ความกลัว ก็รวมอยู่ในพวกทุกข์ เห็นอริยสัจอย่างเพลา
ก็คือ การเห็น และตัดต้นเหตุแห่งความกลัว
ประเภททีหลังนี้ เห็นอริยสัจ เต็มที่ถึงที่สุด ก็คือ
พระอรหันต์ หรือ การตัดต้นเหตุประเภทแรก ได้เด็ดขาด

ข้าพเจ้าขอจบ เรื่องนี้ลง ด้วย พระพุทธภาษิต
ที่เราควร สำเหนียก ไว้ในใจ อยู่เสมอ
อันจะเป็นดุจ เกราะ ป้องกันภัย จาก ความกลัว ได้อย่างดี ดังต่อไปนี้

"มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก ถูกความกลัว คุกคาม เอาแล้ว
  ย่อม ยึดถือเอา ภูเขาบ้าง ป่าไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง
  สวนที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง รุกขเจดีย์บ้าง เป็นที่พึ่งของตนๆ
  นั่นไม่ใช่ ที่พึ่ง อันทำความ เกษม ให้ได้เลย
  นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด ผู้ใดถือสิ่งนั้นๆ เป็นที่พึ่งแล้ว
  ก็ยังไม่อาจ หลุดพ้น ไปจากความทุกข์ ทั้งปวงได้

  ส่วนผู้ใดที่ถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งแล้ว
  เห็นอริยสัจทั้งสี่ ด้วยปัญญาอันถูกต้อง คือ เห็นทุกข์ เห็นเหตุ
  เครื่องให้เกิดทุกข์ เห็นการก้าวล่วงไปเสียได้จากทุกข์ และ
  เห็นหนทาง อันประกอบด้วยองค์แปดประการ อันประเสริฐ
  อันเป็นเครื่องยังผู้นั้น ให้เข้าถึง ความรำงับแห่งทุกข์ นั่นแหละ
  คือ ที่พึ่งอันเกษม นั่นแหละ คือที่พึ่งอันสูงสุด
  ผู้ใด ถือเอา ที่พึ่ง นั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้น จากทุกข์ทั้งปวงได้ (ธ. ขุ. ๔๐)

  ความโศก ย่อมเกิดแต่ความรัก
  ความกลัว ย่อมเกิดแต่ความรัก
  สำหรับผู้ที่พ้นแล้ว จากความรัก
  ย่อมไม่มีความโศก
  ความกลัว จักมีมาแต่ที่ไหนเล่า

  ความโศก ย่อมเกิดมาจาก ตัณหา (ความอยากอย่างนั้นอย่างนี้)
  ความกลัว ย่อมเกิดมาจาก ตัณหา (เพราะกลัวไม่สมอยาก)
  สำหรับผู้ที่พ้นแล้วจาก ตัณหา ย่อมไม่มีความโศก
  ความกลัว จักมีมา แต่ที่ไหนเล่า " (ธ. ขุ. ๔๓)

ขอให้ความกลัว หมดไปจากจิต ความสุข จงมีแต่ สรรพสัตว์ เทอญ


กราบมนัสการหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ เครดิตจากเวปhttp://www.buddhadasa.com/shortbook/fearghost.html

743
อักขระที่จาร เหมือนของวัดบางพระเลยครับ อิสวาสุ  สุสวาอิ  
ท่าทางจะของดี แต่ไม่ทราบที่ครับ เป็นกำลังใจให้และกัน

744
ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งนะครับท่านพี่

ขออนุโมทนากับพระอาจารย์ที่ไปร่วมบุญและทำบุญทุกท่านด้วยครับ  :054:
พระอาจารย์วัดบางพระเราเมตตาเสมอครับ  :054:

พ่อปู่องค์นี้ งดงามมากจริงๆครับ แถมเลี่ยมก็สวย ขอบพระคุณท่านพี่ที่นำมาให้ชม


745
ขอบคุณครับพี่โองการ
สำหรับเรื่องบทความดีๆ ที่มาแบ่งปันน้องๆ 


746
เรื่องความรัก พี่ๆเพื่อนๆ ก็ได้ตอบกันทุกคนแล้ว

พูดถึงเรื่องน้ำมันพราย ผมว่าระวังหน่อยครับตามเวป เดี๋ยวนี้ของปลอม ซื้อไปก็ใช้ไม่ได้ผลหลอกครับเสียตังเปล่าๆ
แล้วอีกอย่าง มันเป็นบาปกรรม แถมโทษอาจวิ่งเข้าหาคุณโดยไม่รู้ตัว อันตรายมากครับ
อย่าไปสนใจกับของพวกนี้เลยครับ เปรียบเสมือนยาพิษ  อยู่ห่างๆ ใว้  :001:

ขอให้โชคดีเจอรักใหม่เร็วๆ ไม่มีใครล้มและนั่งอยู่กับที่ ชีวิตมันต้องเดินต่อ  ยังมีคนที่หนักกว่าคุณอีกเยอะจงมองโลกให้กว้างๆครับ
ดูชีวิตหลายๆ มุม แล้วคุณจะเข้าใจ

747
ขอบพระคุณพี่ตี๋มากครับ สำหรับรูปภาพบรรยากาศ และครอบครัวอันอบอุ่น

อนุโมทนาด้วยบุญ ครับ  :054:


748
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ในชีวิตอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งจริงๆ งดงามมากๆ กราบขอบพระคุณมากครับ  :054:

749
อนุโมทนากับท่าน กวงเจาด้วยนะครับ 

ผมก็เป็นอีกคนนึงแต่ก็จะพยายามต่อไปมีความเพียรเป็นหลัก สู้ๆครับ สู้ต่อไป เป็นกำลังใจให้

750
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบคุณสำหรับบทกวีและภาพบรรยากาศ  น่าไปเที่ยวจังเลยครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:

751
กิเลสชั้นละเอียด ที่ถูกปรุงขึ้นมาเป็นกิเลสชั้นกลาง เรียกว่า "นิวรณ์ ๕" รบกวน
อยู่ที่ มโนทวาร นั้น มีเรื่องที่พึงศึกษาดังนี้

คำว่า นิวรณ์  แปลว่า เครื่องห้าม หรือ เครื่องกั้น ในที่นี้หมายถึง เครื่องกั้นจิต
มิให้บรรลุถึงธรรม ที่สูงขึ้นไป
อธิบายว่า ตามปรกติ คนเรา มักมีความรู้สึกที่
เรียกว่า นิวรณ์ อยู่ด้วยกันทุกคน ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่ง ตามวิสัยของ ปุถุชน
เพราะฉะนั้น จึงเป็นอันว่า จิตของ ปุถุชน ถูกนิวรณ์ เหล่านี้ กีดกันไว้ จากการ
บรรลุธรรมะ ที่สูงขึ้นไป อยู่ทุกครั้ง ที่ กิเลสชั้นละเอียด ถูกปรุง ฟุ้งป่วน ขึ้น
เป็นความกลัดกลุ้ม วุ่นวาย ไม่สงบ รำงับ ในภายใน ผู้ที่สามารถทำจิตให้ว่าง
จากนิวรณ์ ได้ตาม ความต้องการ ของตน นับว่า เป็นปุถุชนพิเศษ หรือ กัลยาณ
ปุถุชน ได้แก่ ผู้มีปัญญา ในการที่จะเปลื้องนิวรณ์ เหล่านี้ ออกไป เสียจากจิต
โดยการยกจิต ขึ้นมาสู่ สมาธิได้สำเร็จ ตามวิธีใด วิธีหนึ่ง เป็นต้น

กามฉันทะ แปลว่า ความพอใจในกาม แต่ความหมาย หมายถึง ความกลัดกลุ้ม
อยู่ด้วยความกำหนัดในกาม จนมืดมัว ไม่แจ่มใส ไม่เห็นแจ้ง ในธรรมตามที่เป็น
จริง ท่านเปรียบอุปมาเหมือนน้ำใส แต่มีสี ต่างๆ มาเจือปน จนหมดความใส

พยาบาท หมายถึง ความกลัดกลุ้ม อยู่ด้วยความไม่พอใจ โกรธแค้น เกลียดชัง
เป็นต้น ซึ่งทำความมืดมัว ให้อีก ในลักษณะหนึ่ง ซึ่งท่าน เปรียบด้วยน้ำที่ใส
แต่ถูกทำให้เดือด พลุ่งพล่าน อยู่ ก็ไม่อาจ ทำให้ผู้มอง มองเห็น สิ่งต่างๆ ที่มี
อยู่ ภายใต้น้ำ นั้นได้

ถีนมิทธะ ความที่จิตหดหู่ เคลิบเคลิ้ม ไม่ร่าเริง แจ่มใส ทำให้ จิต ไม่มีสมรรถ
ภาพ ในการที่จะเห็นแจ้ง ในธรรม ท่านเปรียบเหมือน น้ำใส แต่มีพืช เช่น
ตะไคร่ หรือ สาหร่าย เกิด อยู่เต็ม ก็ไม่อาจจะ มองเห็น สิ่งต่างๆ ใต้น้ำ ได้
เช่นเดียวกัน

อุทธัจจกุกกุจจะ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน รำคาญ กระสับกระส่าย ในลักษณะที่
ตรงกันข้าม จากถีนมิทธะ ท่านเปรียบอุปมา ไว้เหมือนน้ำใส แต่ถูก ทำให้เป็น
ละลอกคลื่น หรือ กระเพื่อม อยู่เป็นนิจ ทำให้ไม่สามารถ จะมองเห็นสิ่งใต้น้ำ
เช่น กรวด ปลา และ หอย ได้เช่นเดียวกัน

วิจิกิจฉา ข้อสุดท้ายนั้น หมายถึง ความสงสัย เพราะไม่รู้  หรือ มีอะไร มา
รบกวน ความอยากรู้ ไม่มีความสงบลงได้ ทำให้ เกิดความมืดมัว แก่จิต ไม่
อาจจะเห็นแจ้ง ในสิ่งที่ควรเห็นแจ้ง ท่านเปรียบเหมือน น้ำใส อยู่ในที่มืด
ย่อมไม่อำนวยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ในน้ำนั้นได้

เมื่อพิจารณา ดูจากอุปมาเหล่านี้ จะเห็นความหมายได้ว่า จิตที่เป็นเดิมๆ นั้น
มีลักษณะเป็นประภัสสร คือใสกระจ่าง แต่ได้สูญเสีย ความในกระจ่างไป
เพราะสิ่งภายนอก เข้าไปแทรกแซง โดยการปรุงแต่ง ต่างๆ กัน ใน ๕ ลักษณะ
ที่กล่าวแล้ว เรามีหวัง ที่จะขจัด สิ่งซึ่งเป็น นิวรณ์ เหล่านั้น เช่นเดียวกับ อาจ
จะขจัด สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำ ตามที่กล่าวแล้วในอุปมา ฉะนั้น จึงถือว่า เป็น
สิ่งที่ ไม่เหลือวิสัย และมีลู่ทาง สำหรับให้ปฏิบัติ จนประสบผล ได้โดยแน่นอน
ถ้าสังเกตให้ดี จากอุปมา จะเห็นว่า กามฉันทะ เป็นสิ่งที่ ขจัดยาก เช่นเดียวกับ
น้ำผสมสี เป็นการยาก ที่จะแยกเอาสี ออกจากน้ำ ได้ง่ายๆ ไม่เหมือนกับ การยก
สาหร่าย หรือ จอกแหน ขึ้นจากน้ำ ในอุปมาของ ถีนมิทธะ เป็นต้น เพราะฉะนั้น
ผู้ปฎิบัติ จะต้องเลือกหา ข้อปฏิบัติ ที่เป็น คู่ปรับ โดยตรง กับนิวรณ์ ของตนๆ
โดย หลักทั่วๆ ไป ท่านถือเป็นหลัก เลือกวิธีขจัด นิวรณ์ ๕ ด้วย กัมมัฏฐาน
อารมณ์ ต่างกัน เป็น ๕ อย่าง ดังนี้:

(๑) ให้พิจารณาในทาง อสุภะ และปฏิกูล เช่น กายคตาสติ เป็นต้น ซึ่งจะกำจัด
กามฉันทะได้

(๒) ให้ เจริญ เมตตา โดยนัยเป็นต้นว่า ให้เห็น โดยความเป็น เพื่อนสัตว์ ที่เกิด
แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมด ทุกคน ทุกชีวิต นี่ ย่อม กำจัด พยาบาท

(๓) ให้ทำในใจ ถึง แสงสว่างเป็นอารมณ์ เช่น การเจริญ อโลกสัญญา เป็นต้น
ย่อมกำจัด ถีนมิทธะ ข้อนี้ แม้การทำในใจ ถึงสิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่ง ความเลื่อมใส
หรือ อิ่มใจ เช่น การเจริญ พุทธานุสติ เป็นต้น ก็ อาจจะช่วย กำจัด ถีนมิธะ ได้
ตามสมควร

(๔) ให้ทำจิต จดจ่อ อยู่ที่ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งง่ายแก่การ จดจ่อ เช่น การเจริญกสิณ
ทั่วๆไป หรือ แม้แต่ การเจริญอานาปานสติ ย่อมกำจัด อุทธัจจะกุกกุจจะได้

(๕) ให้ทำความเชื่อ ในสิ่งที่ควรเชื่อ แน่ใจในสิ่งที่ควรแน่ใจ ทำให้รู้ในสิ่งที่ควรรู้
เช่น เชื่อในการตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า แน่ใจในเรื่องกรรม หรือทำความรู้ ในเรื่อง
ไตรลักษณ์ อย่างนี้เป็นต้น ย่อมกำจัด วิจิกิจฉา ให้สิ้นไป

ถ้ากล่าวกลับกัน อีกทางหนึ่ง ถ้าผู้ใด สามารถทำสมาธิให้เกิดขึ้น โดยวิธีใดก็ตาม
จนกระทั่งเป็น อัปปนาสมาธิ คือ สมาธิที่แน่วแน่ แล้ว นิวรณ์ทั้ง ๕ ย่อมเป็นอัน
ระงับไปหมดสิ้น ฉะนั้น ในอันดับแรกนี้ บุคคล ควรเริ่มต้น ด้วยการ เจริญสมาธิ
ที่สะดวกสบาย เช่น อานาปานสติ เป็นต้น ต่อเมื่อทำไปไม่สำเร็จ เพราะนิวรณ์
อย่างใด รบกวนพิเศษ จึงค่อยหันไป เจริญสมาธิ ที่เป็นคู่ปรับกับนิวรณ์นั้นโดย
ตรง จะเป้นวิธีที่ สะดวกกว่า และ ได้ผลดีกว่า

ความไม่มีนิวรณ์ หมายถึง จิตมีลักษณะบริสุทธิ์ ผ่องใส เยือกเย็น ปลอดโปร่ง
เป็นความพร้อม ที่จะรู้แจ้งเห็นจริง ในอรรถะ และธรรม อันลึก นับว่า เป็นสิ่ง
ที่จำเป็น จะต้องมี หรือ ต้องฝึกหัด สำหรับ ผู้ที่ประสงค์ จะก้าวหน้า ไปในทาง
ธรรม แม้จะกล่าวกันอย่างโลกๆ เวลาที่จิต ไม่ถูกนิวรณ์ รบกวน ก็กล่าวได้ว่า เป็น
เวลา ที่มีความ ผาสุก ที่สุด จึงได้มีผู้ หลงใหล ใน รสของ สมาธิ หรือ ฌาน จน
ถึงสิ่งนี้เคยถูก บัญญัติ เหมาเอาว่า เป็น นิพพาน มาแล้ว ในยุคหนึ่ง คือ ยุค ที่ยัง
ไม่มีความรู้ ในทางจิตสูงไปกว่านั้น

กราบขอบพระคุณบทความของ ...หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ  :054:

จากเวป http://www.buddhadasa.com/index.html

752
ขอบคุณครับพีเอ็กซ์ ที่นำมาให้ชม งดงามจริงๆๆๆๆๆ  :015:

เนิ้อเงินลงยา งามจับใจจริงๆ

753
กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพมากครับ ผมก็เพิ่งจะเคยเห็นปืนแบบนี้เป็นครั้งแรกครับ แปลกดี

754
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณรูปภาพและบทกวีคำสอนให้แง่คิด   :054:

755
กราบขอบพระคุณด้วยครับ สำหรับข่าวสาร  :054:

อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

756
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบคุณสำหรับความรู้และคำสั่งสอน ศิษย์ขอน้อมไปปฏิบัติตามครับ  :054:

757
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับบทกวีให้แง่คิดคำสอนครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:


758
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับความรู้และคำสั่งสอน ศิษย์จะนำไปปฏิบัติตาม  :054:

 :054:   :054:   :054:

759
กราบขอบพระคุณท่าน ooo  สำหรับรูปภาพบรรยากาศมากครับ   :054:

อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

760
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณ สำหรับรูปผีเสื้อสวยๆ พร้อมยังให้ความรู้ด้วยครับ  :054:

เป็นความสวยแบบธรรมชาติที่มองแล้วสบายตาจริงๆ

 :054:  :054:  :054:

761
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ :054:

ขอกราบขอบพระคุณบรรยากาศ ที่วัดทุ่งเว้าครับ ถ้ามีโอกาศอยากไปสักครั้ง

 :054:  :054:  :054:  :054:

762
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอบคุณสำหรับภาพผีเสื้อมองและมีความสุขครับ นี่หละครับความสวยงามแบบของธรรมชาติ

 :054:  :054:  :054:

763
วัดถุมงคลที่มีรูปหลวงปู่ทวดทุกชิ้นนั้น มีเทวดารักษาอยู่ทุกชิ้น
แม้จะไม่ได้ผ่านการเข้าพิธีปลุกเสกหรืออธิษฐานจิตมาก็ตาม
มีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ทุกชิ้นที่มีรูปท่าน(หลวงปู่ทวด)
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า...ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ด้วยบุญฤทธิ์
และด้วยบารมีของมหาโพธิสัตย์ที่เต็มเปี่ยม...จึงมีเทวดาที่จะมาร่วมสร้าง
บารมีกับท่าน(หลวงปู่ทวด)มาอยู่รักษาวัตถุมงคลที่มีรูปท่าน(หลวงปู่ทวด)
เพื่อร่วมสร้างบารมี สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คน...
ซึ่งจะสงเคราะห์เฉพาะในสิ่งที่ชอบ ประกอบด้วยกุศล ในสิ่งที่เป็นมงคลแก่ชีวิต
ในทางที่ผิดศีลธรรมท่านจะไม่ช่วยเหลือ และผู้ใดที่บูชาท่านไว้ เป็นคนมีศีลมีธรรม
ย่อมจะได้รับผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาเร็วกว่าคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรม

กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ศิษย์ขอบพระคุณสำหรับความรู้ด้วยครับ  :054:

764
กราบมนัสการหลวงพี่เวป   :054:

ขอขอบพระคุณสำหรับคลิปวีดีโอดีๆด้วยครับ

765
งดงามมากครับพี่จ๊อบ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมกัน  :015:

766
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับภาพชีวิตสัตว์น้อย-ใหญ่ในป่าใหญ่

เห็นแล้วมีความสุข อยากให้สัตว์เหล่านี้และป่า อยู่กับประเทศไทยเราต่อไป

 :054:  :054:  :054:

767
บทความ บทกวี / กลอนธรรมมะ ....
« เมื่อ: 14 ก.ค. 2553, 11:28:42 »
ตัวกู-ของกู


ถ้าจะอยู่ ในโลกนี้ อย่างมีสุข

อย่าประยุกต์ สิ่งทั้งผอง เป็นของฉัน

มันจะสุม เผากระบาล ท่านทั้งวัน

ต้องปล่อยมัน เป็นของมัน อย่าผันมา

เป็นของกู ในอำนาจ แห่งตัวกู

มันจะดู วุ่นวาย คล้ายคนบ้า

อย่างน้อยก็ เป็นนกเขา เข้าตำรา

มันคึกว่า "กู-ของ-กู" อยู่ร่ำไป

จะหามา มีไว้ ใช้หรือกิน

ตามระบิล อย่างอิ่มหนำ ก็ทำได้

โดยไม่ต้อง มั่นหมาย ให้อะไรๆ

ผูกยึดไว้ ว่า "ตัวกู" หรือ "ของกู"ฯ


.......................................................................
"สักกายทิฏฐิ" หมายถึง ความยึดถือว่า กายกับใจนี้เป็นของตน เมื่อมีความรู้สึกคิดเช่นนั้นแล้ว เขาก็หวงแหน อยากให้มันดีให้มันเที่ยงแท้ถาวร เพื่อประโยชน์แก่ "ตัวเขา" โดยธรรมชาติที่แท้นั้น มันไม่มีอะไรที่จะเป็นของเขาได้เลย แต่ความหลงผิด ทำให้เขาเข้าใจว่ามันมีอะไรๆ เป็นของเขาจนได้ โดยเหตุนี้ สิ่งที่เป็นเพียงธาตุดินน้ำลมไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ที่รวมกลุ่มกันอยู่ ก็ถูกยึดถือเป็นกายและใจ "ของเขา" มันจึงมีลักษณะเป็น ความเห็นแก่ตัว แล้วก็ทำอะไรๆ ไปในลักษณะที่เป็นความทุกข์ยากลำบากแก่ตัวเองและแก่ผู้อื่น ปัญญาอย่างโลกๆ ก็ส่งเสริม "ตัวตน-ของตน" ให้หนักยิ่งขึ้น ต่อเมื่อได้รับการศึกษาอบรมที่ถูกทาง หรือปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักแห่งพุทธศาสนา เขาจึงจะไม่อาจมี "ตัวตน-ของตน" ชนิดที่จะไปฆ่าไปลัก หรือเบียดเบียนผู้อื่น และจะเริ่มนึกถึงการที่กายทุกกาย หรือธาตุทุกกลุ่ม เป็นเพื่อเกิดแก่เจ็บตายอย่างเดียวกัน จึงลดความหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาประโยชน์ จากผู้อื่นมาเป็นของตนเองล้วนๆ ดังแต่ก่อน

ความลดไปแห่งสักกายทิฏฐินี้ ทำให้เกิดความสงบเย็น ความสงบเย็นทำให้เกิดสติสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะก็ทำความปลอดภัยให้แก่ตนเองและผู้อื่น ถ้าเพียงแต่คนเราสามารถ ละสังโยชน์ข้อที่ ๑ นี้ได้เท่านั้น โลกนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไป อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ อย่างน้อยที่สุด การเบียดเบียนกันจะหายไปจากโลก มีแต่การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอย่างแท้จริง เข้ามาแทน




ท่านพระอาจารย์พุทธทาส .....ภิกขุ เวป http://www.buddhadasa.com/history/budprofile1.html

768
โหเพียบเลยครับ ยินดีกับพี่ด้วยนะครับได้ของดีมาเยอะแยะเลย  :015:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม  :015:

769
ขอบพระคุณครับพี่ตี๋ อนุโมทนาด้วย

การละ การปล่อยว่าง การลดอัตตา  สังโยชน์ ๑๐ ประการ ถ้าเราทำได้เราจะพบกับความสุขที่แท้จริง

อันกิเลศเหมือนบ่วงมาร ที่คอยดึงเราไปสู่ความทุกข์จริงๆ


770
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:
ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งครับสำหรับภาพบรรยากาศ
หลายขั้นตอนหลายพิธีมากเลยครับกว่าจะนำให้ศิษย์มาบูชากันได้  พิธีสมบูรณ์แบบจริงๆแถมเจตนาการสร้างดี น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งครับ

 :054:  :054:  :054:

771
ขอแสดงความเสียใจกับท่านพี่มาสเซอร์ดอน ด้วยนะครับ

ขอให้ท่านไปสู่สุขติภพครับ

772
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์สำหรับภาพบรรยากาศงานปลุกเสกวัตถุมงคล
เข้มขลังมากเลยครับ     :054:

ขออนุโมทนา กับ ท่านทั้งหลายที่มาบวชชีพราหมณ์และปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ด้วยครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:

773
ขอบคุณมากนะครับ สำหรับภาพบรรยากาศ และภาพพระขุนแผน สุดยอดเลยครับ  :053:

ไม่ได้ไปนานและครับวัดป่าเลไลย์ สงสัยต้องไปชมเองให้เห็นกับตาสักครั้งและครับ

774
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณในคำสั่งสอน ความรู้นี้ศิษย์จะขอนำไปปฏิบัติต่อไป

อนุโมทนาด้วยครับ   :054:   :054:  :054:


775
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอน ศิษย์พร้อมปฏิบัติทำตามและทบทวนใหม่ทุกครั้งที่เริ่มปฏิบัติ
 
ต้องขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับความรู้ที่ทำให้ได้เข้าใจหลักในการปฏิบัติอย่างถูกต้องเสมอมา
อนุโมทนาด้วย ครับ   :054:


776
สุดยอดเลย ครับ  :015: งดงามทุกองค์จริงๆๆ
พี่นี่มีของดีเยอะนะครับ  ขอบคุณที่นำมาให้ชม

777
ไม่เห็นแป๊ปเดียว สักมาเยอะเลยนะครับเนี่ย   งดงามจริงๆ :015:

อะไร อวบๆเหรอครับ ผมว่ากวางไม่อวบนะครับ  สงสัยคนที่สักแย่งกวางกินหมด อิอิ เลยอวบแทนกวาง (แซวเล่นนะครับ )  :095:

ยินดีด้วย ครับ ได้ของดีมาเพียบเลย  :001:

778
บทความ บทกวี / ตอบ: วันเข้าพรรษา
« เมื่อ: 12 ก.ค. 2553, 10:35:06 »
ขอบพระคุณท่านรัตนะ สำหรับความรู้ดีๆ ด้วยนะครับ

อนุโมทนาด้วย  :054:

779
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ   :054:

กราบขอบพระคุณ สำหรับภาพการสร้างวัตถุมงคลครับ

เรียบง่ายแต่เข้มขลังด้วยความเมตา พลังแห่งจิต บารมีครูบาอาจารย์และมวลสารอันสุดยอด

 :054:   :054:  :054:

780
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ  :054:
กราบขอบพระคุณท่าน  joker  ที่แจ้งข่าวสารครับ  :054:

ของที่ระลึกปีนี้งดงามเข้มขลังมากๆครับ  :054:

781
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:
ขอกราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพบรรยากาศไหว้ครูที่วัดทุ่งเว้าครับ  :054:

782
เดี๋ยวนี้เวปเรามีนางแบบ ยันต์กระทู้ 7 แบกด้วยนะครับเนี่ย  :095:

มาดูนายแบบของเรามั่งดีกว่า




จัดไปภาพของพี่เสน่ห์เอ็กสุดหล่อ (เครดิตพี่เสน่ห์เอ็กซ์)  ศรัทธาแห่งความเชื่อมั่นของศิษย์วัดบางพระที่แท้จริง

783
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:
กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพความงดงามของธรรมชาติและสถานท่องเที่ยว
อยากไปบ้างจังเลยครับ

 :054:  :054:  :054:   :054:  :054:

784
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพช้างอยู่ในป่าธรรมชาติ ปกติช้างที่อยู่ในป่าจะน่ากลัวมากไม่เหมือนช้างบ้าน
ช้างไทยเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ 
อยากให้คนไทยเลิกนำช้างออกมาหากินตามข้างถนนจังเลยครับน่าสงสาร

 :054:  :054:  :054:

785
นะโม 3 จบ

พุทโธล้อม ธัมโมล้อม สังโฆล้อม

พระพุทธเจ้ามาพร้อม สมเด็จพระพุทธโธ นะโมพุทธายะ
ท่อง 3 จบก่อนคล้องพระออกจากบ้าน สั้นๆง่ายๆได้ใจความ

 



หรือบทอื่นๆ

พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
พุทธะคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆะคุณัง
พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม

หรือ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะมะกะสะ


หรือของเวปเพื่อนบ้าน (เครดิตจากพี่อชิตะ ครับ)

พุทโธ อะนุตตะโร อะระหัง ประสิทธิเมฯ

หรือ

พระพุทธอยู่หลัง พระอะระััหังอยู่หน้า ตรงกลางคือตัวข้า มะหาเตชา ภะวันตุเมฯ

หรือ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ
หรือ

นะอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ สิ่งดีๆ จงมาสู่ตัวข้าพเจ้าตลอดวันนี้ โสมาเรสะฯ

เลือกใช้ บทใด บทนึงตามสะดวกพอนะครับ
ใครมีบทใดดีๆ ก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ ขอบคุณครับ

786
ของที่ไหนอะครับพี่ job@love  ทำไมเหมือนกันเลย

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

787
เรียกได้ทั้ง 2แบบหละครับ 7ยอดก็ได้ นะลือชาก็ได้ ดูตรงกลางต่างจากยันต์ 7 ยอดทั่วไปเพราะเป็นตัวลือครับ ปกติเป็นตัวนะ
พุทธคุณแน้นเมตตามหานิยมเป็นหลักหละครับ ถือเป็นสุดยอดด้านเมตตามหานิยมเลยก็ว่าได้

ผิดพลาดก็ขออภัย

788
กราบมนัสการหลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ และหลวงปู่เจือด้วย ครับ  :054:

ขอบพระคุณท่าน  Jakkrit  สำหรับรูปภาพ อนุโมทนาบุญด้วยครับ

789
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอกราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพนกสวยๆ และ บทกลอนสอนใจที่อ่านแล้วทำให้คิดได้ด้วยนะครับ  :054:

นกในบ้านเราหลายพันธุ์ก็เริ่มจะสูญพันธุ์กันไปบ้างแล้ว เราควรมาช่วยกันอนุลักษณ์ใว้เพื่อให้นกอยู่คู่กับป่าตลอดไป
เราคนละความเห็นแก่ตัวกักขังทรมานมัน เพราะถ้าเป็นคนไปโดนขังบ้างก็คงจะไม่ชอบ
เราควรมาช่วยๆกันนะครับ

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย  :054:  :054:  :054:

790
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพเสือที่อยู่ในป่ามากเลยครับ สมัยนี้จะเห็นแต่เสือที่อยู่ในสวนสัตว์เท่านั้น
ถือว่าเป็นชีวิตธรรมชาติของเสือที่ต้องดำเนินในกฏแห่งกรรมของชีวิต เพราะเสือไม่เหมือนมนุษย์ที่แยกแยะดีชั่วออกได้
ได้เกิดมาเป็นคนทั้งทีขอทำแต่ความดีแล้วกันครับ  

 :054:  :054:  :054:

791
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,2148.msg12037.html#msg12037

ให้เข้าไปที่เวป ด้านบนนี้อะครับ จะมีบอกวิธีการลงรูปให้ครับ :001:

792
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,2148.msg12037.html#msg12037

วิธีการลงรูปภาพในบอร์ด ครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

793
กราบมนัสการพระอาจารย์  :054:

กราบขอบพระคุณครับที่นำมาให้ชม งดงามมากครับ  ทั้ง 2 แบบ เลย ครับ

794
อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยครับ
กราบมนัสการขอบพระคุณสำหรับข่าวสาร ในงานบุญ
ผมขอส่งใจไปร่วมก่อนและกันครับตอนนี้ สาธุ ขอให้เสร็จไวๆนะครับ
หรือหากมีที่สมทบทุนสำหรับคนมีปัจจัยแค่น้อยนิด บอกด้วยนะครับ

ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:

795
อ่อขอโทษนะครับ น่าจะเป็นการวาดรูปภาพขึ้นมาใหม่
ไม่ใช่หนุมานตัว 10 แบบสำนักที่รู้จักๆ กันหลอกครับ  :075:

ขออภัยความเห็นที่ต่าง

796
เลี่ยมทำเป็นพวงกุญแจได้ครับ

ด้านเมตตามหานิยมครับ มหาเสน่ห์ โชคลาภ 
คาถาไม่ต้องก็ได้ครับ ของหลวงพี่ญา ท่านเสกมาดีอยู่แล้วครับ

ยินดีด้วยนะครับได้ของดีมา

797
ขอบคุณครับท่านพี่เซอร์ดอน ผีมือไม่ธรรมดาเลยนะครับเนี่ย สวยงาม
อยากไปบ้างจังครับ อนุโมทนาด้วยครับ

798
พี่บอล(ราหู) ผมงานเข้าละครับ  11;

พี่เอ็กซ์เล่นซะ   :095:

 :109:

799
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ :054:
กราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพครับ ในชีวิตอยากเห็นของจริงสักครั้งบ้างจัง ครับ   :054:

800
ไม่เป็นไรครับ  ถือว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน
ชีวิตต้องเดินหน้าและสู้ต่อไป

801
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:
กระผมขอกราบถามนอกเรื่องหน่อยครับ  

ถ้าเรากำลังเจริญสมถะ กำลังภาวนาอยู่ แล้วเกิดมีเพลงที่เคยฟังมาแล้ว เสียงดนตรีที่เราเคยฟังมันติดหูเข้ามาในระหว่างภาวนา
เราควรจะทำอย่างไรดีครับเพื่อตัดให้ถูกวิธี  ถูกต้องตามหลัก

ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

  " รู้กิจ รู้กาล รู้งานที่ทำ "มีสติเตือนตนว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่
     สิ่งที่คิดที่นึกนั้น  มันสมควรแก่กาลแก่งานที่เราทำอยู่หรือไม่
     ใช่เวลาที่จะนึกคิดเรื่องเหล่านี้หรือไม่ รู้เห็นและเข้าใจในสิ่งที่คิด
     แยกแยะถูกผิด ว่าควรจะคิดในเรื่องเหล่านี้ ในเวลานี้หรือไม่
     ทำความรู้ความเข้าใจในความคิด ในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วจึงไปตัดมัน

กราบมนัสการ กราบขอบพระคุณครับ อนุโมทนาด้วย เข้าใจและครับ  :054:

802
กราบมนัสการ หลวงปู่เฮี้ยง ปุณฺณจฺฉนฺโท ด้วยครับ  :054:

ขอบพระคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ สำหรับประวัติ หลวงปู่ด้วย ครับ

803
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ   :054:
กระผมขอกราบถามนอกเรื่องหน่อยครับ 

ถ้าเรากำลังเจริญสมถะ กำลังภาวนาอยู่ แล้วเกิดมีเพลงที่เคยฟังมาแล้ว เสียงดนตรีที่เราเคยฟังมันติดหูเข้ามาในระหว่างภาวนา
เราควรจะทำอย่างไรดีครับเพื่อตัดให้ถูกวิธี  ถูกต้องตามหลัก

ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

804
ขอบพระคุณครับที่นำมาให้ชม งดงามจริงๆ 

805
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ขอกราบขอบพระคุณสำหรับรูปภาพสวยงามมากครับ หากมีโอกาศในชีวิตครั้งนึงอยากไปสักครั้ง
แถมยังมองได้คติธรรมสอนใจแบบพี่ธรรมมะรักโขอีก ขอบคุณครับ

 :054:  :054:  :054:  :054:



806
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ขอกราบขอบคุณสำหรับรูปภาพปริศนาธรรมและบทกวีสอนใจ

แม้แต่หนอนที่น่าเกลียด ก็ย่อม เปลี่ยนเป็นผีเสือที่สวยงามได้ 

:054:   :054:  :054:   :054:

807
พูดได้คำเดียว โครตสวยเลยครับ

ขอบคุณพี่โองการที่นำมาให้ชม

808
ดีค่ะ
เพิ่งสักกับอาจารย์ต้อยมาค่ะ


ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ  :001:

วันหลังอย่าขุดกระทู้เก่าขึ้นมานะครับ ถ้าจะตั้ง ตั้งกระทู้ใหม่เลยครับ ผิดกฏเวป ขอบคุณ

 เรียกกระทู้ 7 แบก  อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา  สักสลับกันไปมา ยินดีด้วยทีได้ของดีครับ

809
โห สุดยอดครับพี่ หนูอยากได้   :095:
งดงามจริงๆครับ ทั้งล็อคเก็ตฝังตะกรุด และ เหรียญ  แหม่พี่เอ็กซ์ของดีเยอะจริงๆ

810
ขอบคุณครับพี่เอ สำหรับข่าวสารกำหนดงาน
ไม่แน่ ปีนี้ผมอาจพลาดอีกแล้ว เฮ้อ ..

811
ขอกราบมนัสการพระอาจารย์ครับ  :054:  
ขอขอบพระคุณรูปภาพบรรยากาศในงานด้วยนะครับ
พระอาจารย์ยังเมตตาศิษย์เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่วัดทุ่งเว้า หรือ วัดบางพระ   ขออนุโมทนาด้วยครับ  :054:

812
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ  :054:

813
ยินดีกับท่านรัตนะ ด้วยนะครับ แต่หละอย่างแหม่สวยงดงามจริงๆ
ชอบหนุมานมากเลยครับ งดงามมากๆๆ
ผมวาสนายังไม่ถึง

814
น้องเอ็มพี่ปุ๋ยก็มีอยู่ 3 เหรียญ อิอิ

ยินดีด้วยนะครับ พี่ปุ๋ยแหม่ของดีเพียบเลย
เหรียญนี้ต้องระวังนะครับ ให้สังเกตุตรงหนวดเสือใว้ให้ดี ปลอมเยอะจริงๆรุ่นนี้  อิอิ

ขอบคุณพี่ชายใจดี ที่สอนดูตำหนิและจุดสังเกตุให้ด้วยครับ


เช๊อะ!!!!!!...........ซุ่มตลอดแหละ :037:

แหม่คงสู้เพื่อนไม่ได้หลอก เหรียญหน้าเสือ ปี 23 สวยๆงามๆ
แถมมีเกศาหลวงปู่เพียบเลย  มีเหรียญหล่อรุ่นสร้างสะพานที่มีลอยเจิมจากมือหลวงปู่เลย ถือว่าหายากด้วย อิอิ  :015:
ต้นน้ำ ลูกบางพระตัวจริง  :053:
 

815
คาถาปลุกเสกรอยสัก
อิติปิโสภะคะวา อะภินิหาระ ปะระมิ สัมปันโน
มะหากะรุณา มะหาปัญญา อะธิษฐานะ
อิทธิมะโน มะหิทธิ จิตตะ ทิพพะจักขุ
ภาวะนา อิทธิปาทะปัญญา พะละญาณะ
อาราธะนา จะ สัทธัง อิทธิพะลัง อิทธิจิตตัง
โสปิติอิ นะโม พุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ นะมะนะอะ สัมมาทะสะ อะระหัง พุทโธ

คาถาปลุกเสกรอยสัก พระคาถานี้เพื่อปลุกเสกรอยสักที่ได้ สักมาจากครูบาอาจารย์แล้ว
เพื่อเพิ่มความเข้มขลังขึ้นมีประสิทธิคุณมากขึ้นในการปกป้อง
คุ้มครองตนเองจากภยันตรายต่างๆ


ปกติ ผม ไม่ได้ ค่อยให้ใคร นะ คับ

ต้องนั่งสมาธิบ่อยๆๆ นะคับ นึกถึงครูบาอาจารย์ สวดมนต์บ่อยๆ

ตั้ง นโม 3 จบ ก่อน

ท่องทุกวัน ยิ่งขลัง หลวงพี่บอกว่า เปรียบเสมือนมีด ถ้าไม่ได้ใช้มันก็เริ่มเกิดสนิมและไม่คม เราต้องคอยลับใบมีดเพื่อจะได้ให้มันคม 

:075: บทนี้เห็นตามเวปเพียบเลยนี่ครับ  วันหลังก๊อบเอามา ก็ให้เครดิตเวปด้วยนะครับ  ขอบคุณ


816
ยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยนะครับ  :053:

ขอบคุณพี่โองการสำหรับกิจกรรมดีๆครับ  :054:

817
เหอๆๆ ปกติหลวงพี่หนึ่ง กับ หลวงลุงต้อยมือท่านหนักมากนะครับ

ถ้าเป็นผู้หญิงท่านอาจสักให้เบาๆครับ

ส่วนผู้ชายต้องลองเอง  ถ้าไม่หนักไม่สะใจบอกครับ เดี่ยวให้พี่ๆกระซิบบอกท่านให้ว่าเบาไปหน่อยขอแรงๆเข้มๆหน่อย  :095:

หนักหรือเบาไม่สำคัญครับ สำคัญอยู่ที่ความศรัทธาและอดทน อยากได้ของดีต้องอดทนครับ 
สำหรับผู้หญิงบอกท่านได้ครับ ท่านเมตตาอยู่แล้ว

 

818
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

ขอบคุณสำหรับข่าวสารงานบุญครับ อนุโมทนาด้วยครับ  :054:

819
ไม่มีครับ ที่วัดบางพระไม่สักหมึกแดง

820
ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับพี่ตี๋ด้วยนะครับ
ขอบคุณสำหรับรูปภาพบรรยากาศมากครับ ครอบครัวพี่ตี๋อบอุ่นมากเลยนะครับ  :001:

821
ไม่น่าจะมีนะครับ ไม่เคยเห็นเลยนะครับที่วัดบางพระ  :075:



ขอบคุณครับ สาธุ

822
กลับมาแล้วครับ  ยังเห็นเมตตาสักให้ศิษย์เหมือนเดิม   :001:

823
ร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยครับ  :054:

824
รุ่นนี้เรียกว่าเสือพบสิงครับผมก็มีเหรียญหนึ่งครับ

ขออภัยครับ เห็นเป็นเสือ 2 ตัว เลยเรียกตามนั้น ครับ ไม่รู้ว่าเขาเรียกเหรียญอะไร  :075:

825





นำมาให้ชมก่อนไปเลี่ยมครับ  ได้รับความเมตตามาจากพี่ที่ใจดี    :065:  
ขอบคุณมากนะครับจะเก็บใว้อย่างดีเลย  :054:


ขอประทานโทษครับพิมพ์ปีผิด ปี 28 ครับ กดผิดขออภัย  :054:

826
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ กราบมนัสการหลวงพี่เวป  :054:
กราบขอบพระคุณสำหรับข่าวสารงานบุญในครั้งนี้  :054:

827
ลองไปดูแถบค้นหาด้านบน หาวิธีการเกี่ยวกับลงรูปภาพในบอร์ดดูนะครับ

หลวงปู่บุญสมัยนี้น่ากลัวมากครับ ปลอมเยอะจริงๆ ปลอมเนียนด้วย ปลอมมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นตา

ใครที่ชอบสายนี้ก็ขอให้ได้เจอของดีของแท้นะครับ  :001:

828
ใช่ครับพี่เอ็มครับรอยสักพี่เอ็กสวยจริงๆครับ...อยากมีบ้างจัง..เสน่ห์แบงค์ครับ 09;

เอ่อขอโทษทีนะครับคุณเสน่ห์แบงค์ ช่วยบอกหน่อยได้ใหมครับว่าคุณคือใคร งงมากครับ

เป็นน้องชายพี่ทีหรือป่าวครับ หรือยังไง งงมาก  :010:

829

















ลอยสักเสือของพี่เอ็กซ์ นี่สวยจังครับเป็นสัญลักษณ์ ของวัดบางพระแท้ๆ เลยเชียว  :015:

งดงาม เต็ม 10  :015:

830
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ขอบพระคุณมากครับ  ที่ได้ชี้แนะแล้วให้ความรู้อย่างถูกต้อง  :054:
อนุโมธนาครับ

831
ครับ ถ้าคิดจะทำดีเจตนาดี ถึงทำหล่นลงมาเสียหายก็ไม่บาปครับ ตามนั้น

ขออภัยด้วยครับ

832
กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอนและรูปภาพเปรียบเทียบครับ

ศิษย์ขอน้อมปฏิบัติตาม  :054: :054: :054:

833
แล้วสรุปเรื่องทำพระพุทธรูปตกแตก โดยไม่ได้เจตนา นี่ได้กระทำหรือยังอะครับ  แล้วเกิดจากการกระทำหรือยังอะครับ
พระพุทธรูปท่านวางอยู่ดีๆ อะครับ ไม่เหมือนรถที่กำลังวิ่ง แล้วมีคนกระโดดเข้ามาใส่หลอกครับ เหอๆๆ

834
คิดถึงวัดครับ คิดถึงพระอาจารย์ครับ ..........
กราบขอบพระคุณ รูปสวยงามมากเลยครับ

835
อะครับ ขอน้อมคำชี้แนะ แล้วแต่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ  
จะบาปหรือไม่ ถึงเวลาก็ได้รู้เองหละครับ
ถ้าข้อคิดเห็นส่วนตัว ไม่ถูกใจใคร ก็ขออภัยด้วย

กรรมคือการกระทำย่อมได้รับผลของการกระทำออกไป ไม่ได้เจตนาแต่ทำออกไปแล้ว! สรุปได้กระทำหรือป่าวเอ่ย

836
งดงามจริงๆครับ ลายเส้นอ.หนวด คมสวยงามจริงๆครับ

837
โดยปกติแล้ว ปลาตะเพียนจะแน้นไปทางเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย ครับ

838
ธรรมะ / ตอบ: จิตคือพุทธะ
« เมื่อ: 29 มิ.ย. 2553, 03:59:29 »
ขอบคุณครับ อนุโมธนาด้วยครับ

839
มั่วไม่ออกเลย ขอตอบ สิงหาคม และกันครับ

840
บาปครับ ถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจแต่เกิดจากความประมาทของเราเองครับ ประมาทเพราะขาดสติ

ถ้าตั้งใจก็บาปมาก
ถ้าไม่ได้ตั้งใจก็บาปน้อย
 

เป็นไปตามของเจตนาที่ทำ ............... จะบอกว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ ไม่งั้นคนที่ทำผิดแล้วอ้างไม่รู้ก็บริสุทธิ์ไปหมดแล้วสิครับ ขอขยายหน่อยละกัน
อย่าเข้าใจผิดๆ เหมือนคุณไปขับรถชนคนตายโดยไม่ได้เจตนา คุณบอกคุณไม่ได้ตั้งใจแล้วทางกฏหมายมันมีใหมหละครับว่า ฆ่าคนตายไม่ได้เจตนาไม่ผิด

อย่าคิดมากครับ...ไปซ่อมก็ได้ครับ หมั่นทำบุญเลื่อยๆ ถือศิล สวดมนต์ขอขมาซะ แล้วอะไรดีๆจะตามมา
ถ้าไม่ได้เจตนาก็เบาหน่อยครับ แล้วมาอ่านไปอย่าไปคิดมากนะครับ ถ้าจิตตกแล้วอย่างอื่นก็จะตกตาม
ทำใจให้สบายๆ ลืมๆ ซะกะสิ่งทีเราทำผิด เมื่อใจสบายจะทำอะไรก็สบาย คนเราเกิดมาก็ต้องมีการผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดาขึ้นอยู่กับจะมากหรือน้อย

ขอโทษทีนะครับที่มาพิมไม่ได้มีเจตนาอวดรู้ แต่อยากให้ทุกคนระวังและมีสติครับ
ถ้าคิดว่าไม่ผิดไม่บาปกันอยู่แบบนี้ อีกหน่อยก็ไม่ระวังกันก็แย่สิครับ
 



841
สุขสันวันเกิดเพื่อน ขอให้มีความสุขมากๆเวอร์ๆๆๆๆ ตลอดการ ++++++
รวยๆ  เฮง เฮง เฮง   

842
ประมาณ 8 ปีได้ครับ   อิอิ

843


ขออนุญาตินำมาลงในกระทู้นี้เลยนะครับ ไม่อยากตั้งกระทู้ใหม่

น้ำมันเสือโคร่ง(ได้จากเสือที่ตายโดยธรรมชาติไม่ถูกฆ่าตาย) ฝากให้พี่ราหู กับพี่เสน่ห์เอ็กซ์ได้ชมกัน อิอิ

844
กราบมนัสพระอาจารย์ และกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ให้ความรู้

สาธุอนุโมธนาด้วยครับ  :054:

845
ขอบคุณพี่ตี๋มากครับ งดงามมากครับ กับเสือครู   :015:

ความอดทนสูงมากเลยครับคนนี้  :015:


846




ตะกรุด หลวงปู่เต้า วัดเกาะวังไทร  จ.นครปฐม

ได้รับความเมตตามากจากผู้ใหญ่แถวพื้นที่มาท่านนึงครับ   :001:

847
สุดยอดครับ ..... ขอบคุณท่านเซอร์ดอน ที่นำมาให้ชมกัน
งดงามจริงๆครับ  :015:

848
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล เยี่ยมมาก   :015:
อยากได้สักองค์เหมือนกัน  ยังไม่มีโอกาศหาเช่าเก็บใว้เลย

849
ขอบคุณพี่หอมเชียมมากครับ ที่นำมาให้ชม

เหรียญนี้สุดยอดครับ ประสบการณ์แน่น  :015:

850
อนุโมธนาด้วยครับพี่กุ้ง  ขอแสดงความยินดีในวาระครบรอบ 3 ปีของเวปด้วยครับ

851
ขอบคุณครับพี่โองการ ที่นำมาให้ชม

งดงามมากครับ เขาว่ามวลสารแน่นเลยใช่ใหมครับ  :015:

852
ขอบคุณครับบรรยากาศหน้าไปมากเลยครับ....... :015:

853
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: wellcome back
« เมื่อ: 24 มิ.ย. 2553, 10:40:59 »
กราบขอบพระคุณครับ สำหรับข่าวสาร
น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งครับ อ.หนวดกลับมาแล้ว

854
กราบมนัสการพระอาจารย์ ขอบพระคุณที่ให้ความรู้   :054:

ศิษย์ขอน้อมไปปฏิบัติตามทุกคำสอน   :054:

สาธุอนุโมธนา ครับ   :054:

855
งดงามจริงๆครับ ทั้ง 2 เหรียญเลย ขอบคุณพี่จ๊อบมากครับ ที่นำมาให้ชม  :015:

856
ขอบพระคุณพระอาจารย์ ที่ให้ความรู้ครับ
ต่อไปนี้จะใช้สติไตร่ตรองตรวจดูก่อนพิม พูด หรือ เขียนออกไปครับ

 :054: :054: :054:

857
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: มหาชัย
« เมื่อ: 23 มิ.ย. 2553, 11:20:52 »
กราบขอบพระคุณสำหรับภาพบรรยากาศเพิ่มเติมครับ    อนุโมธนาบุญด้วยครับ  :054:

858
กราบมนัสการพระอาจารย์  :054:
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ชี้แนะแนวทางการสั่งสอน  ความรู้นี้จะยึดเป็นแนวทางต่อไป
ผมจะค่อยๆเป็นค่อยไป จะขอตั้งฐานให้ดีก่อน ไม่รีบร้อนอีกต่อไป 

ขอบคุณครับ  :054: :054:

859
สุดยอดเลยครับ ยินดีด้วยนะครับได้ยันต์หอมเชียงมาสมใจสักทีครับ

บารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ

860
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: มหาชัย
« เมื่อ: 22 มิ.ย. 2553, 10:31:20 »
กราบขอบพระคุณ ภาพบรรยากาศที่วัดกาหลง  และข่าวสารงานบุญมากครับ   :054:
มนัสการหลวงปู่สุดด้วย ครับ  :054:

861
ขอบคุณมากครับพี่ธรรมมะรักโข อนุโมธนาด้วยครับ

862
ก่อนที่จะนั่งสมาธิ ใช้คำสมาทานกรรมฐาน ก่อนนั่งสมาธิด้วยบทนี้ครับ
หรือมีบทอื่นก็ใช้ได้เช่นกัน

นะโม 3 จบ

อุกาสะ อุกาสะ ณ โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้าขอสมาทานเอา ซึ่งพระกรรมฐาน ขอขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ และวิปัสสนาญาณ ขอจงบังเกิดขึ้น ในขันธสันดานของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตั้งสติกำหนดไว้ ที่ลมหายใจเข้าออก ลมหายใจเข้ารู้ ลมหายใจออกรู้ สามหนและเจ็ดหน ร้อยหน และพันหน ด้วยความไม่ประมาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.

ขอขอบคุณข้อมูลจากเวป วัดพิชโสภาราม

อนุโมธนาสาธุ ครับ  :054:


863
      :059: มันเป็นความกังวลหวังผลในฤทธิ์ ที่เรียกว่าอิทธิปลิโพธ เมื่อเราไปมุ่งหวังในสิ่งนั้น มันจะก่อให้เกิดอัตตา
มานะทิฐิ ถือตัวถือตน สำคัญตนว่าเราเก่งกว่าผู้อื่นดีกว่าผู้อื่น เพราะการที่เราไปหวังในฤทธิ์ทำให้เราไปกดจิตให้มันนิ่ง
มันจึงเกิดอาการเครียด เพราะเราเริ่มปฏิบัติด้วยจิตที่ปรารถนาลามก คือมุ่งหวังผลในการปฏิบัติเพื่อให้ดีกว่าคนอื่นเก่งกว่าคนอื่น
ดำริเจตนาเริ่มแรกมันก็ผิดแล้ว เมื่อก้าวแรกผิดก้าวต่อไปย่อมผิดตาม แต่คนที่เดินนั้นคิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะมันไปข้างหน้า
แต่แท้ที่จริงแล้วมันเฉออกห่างจากจุดหมายปลายทาง ถ้าทำอย่างนั้นผลมันก็ออกมาอย่างนั้น ถูกของผู้ทำ แต่ไม่ถูกกับหลักธรรม
ในพระพุทธศาสนา  เพราะการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปเพื่อรู้ เพื่อตื่น เพื่อเบิกบาน ในธรรมที่เป็นกุศลทั้งหลาย
   :059: การแก้ปัญหาก็คือกลับมาเริ่มใหม่ ทำเหมือนคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไร มาเริ่มเดินใหม่ที่จุดเริ่มต้น ลืมอารมณ์เก่าๆไป
จิตอย่าไปปรุ่งแต่งสร้างอารมณ์ขึ้นมา ให้มันเป็นไปของมันตามธรรมชาติของจิต กลับไปอ่านกระทู้ ปรับกาย ปรับจิต ปรับความคิด
สู่การกระทำเสียใหม่หลายๆรอบ ว่าเราข้ามขั้นตอนตัวใดไป อะไรที่เรายังไมใ่ได้ทำ ก่อนที่เราจะเข้าสู่การปฏิบัติ....
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ
ขอบพระคุณพระอาจารย์ ศิษย์ข้อน้อมปฏิบัติตามคำสั่งสอน   :054: :054: :054:

864
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ มีเรื่องจะสารภาพครับ

คือกรรมฐานที่ผมฝึก ผมฝึกทุกวัน ฝึกมาหลายเดือนแล้วครับ ประมาณตั้งแต่เข้าพรรษาปีที่แล้ว ใช้เวลาและความเพียรทุกวัน
แรกๆฝึกก็ไม่ได้คิดอะไรหลอกครับ ฝึกเพื่อให้จิตสงบ โดยได้คำแนะนำจากพี่ท่านนึง
การฝึกเริ่มแรก ผมฝึกด้านสมถะครับ


โดยนั่งภาวนาพุทธโธ หายใจ-เข้าออก แล้วก็เพ่งไปที่ตัวเอง แล้วก็ แยกตัวเองออกเป็นธาตุ 4 ให้มันสลายตัวกลืนกินไปกับธรรมชาติ
แล้วก็มาจับคำภาวนากับลมหายใจเข้าออกใหม่ โดยไม่ได้สนใจในรูปขันธ์ จิตจับอยู่ที่ คำภาวนากับลมหายใจเข้าออก
หายเข้าลึกๆๆ -หายใจออกยาวๆๆๆ จนคำภาวนาหายจิตจับอยู่แค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น รู้สึกเริ่มสงบ  แล้วเกิดความสุขแล้วเหมือนมีแสงสว่าง เป็นความสุขแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต สักพักสติก็กลับมาดูลมหาย-ใจเข้าออกอีก ก็จะทรงอยู่ในอารมณ์นั้น โดยแรกๆ ก็แป๊ปเดียวหายไป บางวันก็นานหน่อย
บางวันก็นั่งๆ เหมือนตัวหมุนติ้วๆๆๆๆ บางวันก็เกิดขนลุก บางวันนั่งเสร็จมีน้ำตาไหลออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีความสุข ซึ่งแต่ละครั้งก็จะเกิดบ้างไม่เกิดบ้างต่างกันไปแต่ละวันครับ

ผมก็พยายามฝึกไปเลื่อยๆๆ ทุกๆวัน  จนนั่งไปเลื่อยๆ จิตทิ้งดิ่ง แทบจะไม่รับรู้อะไรเลยมีแต่ดวงแสงสว่าง ร่างกายหายไป  ทุกอย่างนิ่งไปหมด ไม่ได้ยินเสียง ลมหายใจแทบจะไม่รู้สึกว่าหายใจเข้าออกเพราะเบามากๆๆ สักพัก ก็ตกใจมาดูลมหายใจเข้าออกใหม่โดยไม่ได้สนใจองค์ภาวนาแต่แรก  ก็กลับไปสู่ระดับปกติอีกครั้งก็พยามฝึกไปทุกๆวันนะครับ ฝึกไปสักระยะ
ก็เลยมาเปิดเวปดู แล้วก็มานั่งอ่านว่า อ่ออาการแบบนี้คือระดับนี้  คราวนี้พออ่านไปกลับไปทำใหม่มันทำไม่ได้และอะครับ ก็เลยพยามลืมๆ กลับไปเริ่มฝึกใหม่โดยไม่ได้สนใจในสิ่งทีอ่านมา

ปัญหาก็คือว่าหลังๆผมฝึกไปสักระยะ  ก็นึกถึงอารมณ์แห่งความสงบนั้นที่ทรงได้ แล้วเอาอารมณ์ระหว่างนั้นไปท่องกับคาถา เอาไปอธิฐานบ้างไปหลงอยู่ในผลหรือสิ่งที่เกิดขึ้นจนไปยึดติดมัน
จนหลังๆ มันเริ่มมีความหึกเหิมอยู่ในใจ ยิ่งฝึกยิ่งอยากได้ ก็เลยยิ่งไปอ่านด้านปฏิหารก็ยิ่งฝึกยิ่งอยากได้อีก จนหลังๆ ฝึกและเครียด
เพราะนอนไม่ได้นอนครับฝึกทั้งวันทั้งคืน จิตเริ่มฟุ่งซ่านไปหมด พอจะคิดอะไรดีๆคิดถึงพระคิดถึงบุญก็ต้องมีคำไม่ดีโผล่มาก็ยังไปยึดติดไปเครียดปล่อยวางไม่ได้ฟุ้งซ่านไปหมด
และก็มีอาการที่ผมเคยกราบเรียนบอกพระอาจารย์ไปอะครับ จนยิ่งแย่ๆๆ ขึ้นทุกวัน สุขภาพร่างกายทรุดโทรมไม่ได้นอนเครียด จิตฟุ่งซ่านส่ายไปมาคุมไม่อยู่ นี่คือผมกำลังหลงทางใช่ใหมครับ
เพราะไปหวังผลในปฏิหารมากเกินไป (นี่คืออาการที่เป็นอยู่ครับช่วงหลังๆ)


กราบมนัสการพระอาจารย์ที่คอยสอนเตือนและชี้ทางให้ครับ บางสิ่งผมอธิบายในการพิมไม่ได้อะครับ เพราะไม่รู้จะพิมยังไงดีอะครับ เพราะผมไม่ชำนาญทางหลักภาษาบาลี
ตอนนี้พยายามละสมถะลงครับ อยากไปทางวิปัสสนา จะเป็นผลดีกับตัวเองหรือป่าวครับ

กราบขอบพระคุณมากครับ  สิ่งใดที่อธิบายผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง ก็ขออภัยด้วยนะครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง  :054:

865
ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ อนุโมธนาสาธุด้วยครับ

866
เราต้องรู้ว่าเรากำลังปฏิบัติแนวใด สมถะกรรมฐานหรือวิปัสนากรรมฐาน ต้องแยกอารมณ์ให้ถูก
สมถะกรรมฐานนั้นคือการปฏิบัติเพื่อให้จิตสงบ เข้าสู่อารมณ์สมาธิ สภาวะธรรมทั้งหลายอยู่ใน
องค์ของฌาน ๔  คือ วิตกวิจาร ปิติ สุข เอตคตารมณ์ (วิตกวิจารคือการยกข้อธรรมมาพิจารณา)
แต่ทุกอารมณ์นั้นมีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา จิตอยู่กับองค์ภาวนาไม่ให้ขาดตอน รู้สภาวะธรรมที่เกิดขึ้น
แต่จิตไม่เข้าไปปรุงแต่ง ไม่สนใจในอารมณ์เหล่านั้น จิตจดจ่ออยู่กับองค์ภาวนาตลอดเวลา ภาวนาไปจนจิตสงบ
เข้าสู่เอตคตารมณ์คือความสงบนิ่ง แล้วจึงถอนจิตขึ้นสู่วิปัสสนา(ยกจิตขึ้นสู่การพิจารณา)ตามแนวของสติปัฏฐาน ๔
คือพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ให้เห็นการเกิดดับของธรรมทั้งหลายนั้น ปฏิบัติไปตามขั้นตอน ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
(ให้ไปอ่านกระทู้...ที่พระอาจารย์ตอบในวันนี้ ...น้องใหม่ มีคำถาม.. ซึ่งจะมีคำตอบอยู่ในกระทู้นั้นแล้ว)

กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ครับ  :054:  :054:  :054:  :054:  ที่ชี้แนะแนวทางสว่างให้

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ สาธุๆ อนุโมธามิ
 :054: :054: :054: :054: :054:

867
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ โชคดีเงินไหลมาเทมา สาธุ

868
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ
กระผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกรรมฐานครับ

วิธีที่1
ถ้าผมนั่งสมาธิ ไปจนถึงเกิดปิติ เช่นมีความสุขอยู่ในอารมณ์นั้นๆ เมื่อสติรู้ว่า ตอนนี้เรากำลังมีความสุขอยู่ในอารมณ์
แล้วพิจณาตามหลักขันธ์ 5 แยกออกไป อารมณ์ความสุขเป็นเวทนาขันธ์ เมื่อเรารู้แล้ว ใช้หลักพระไตรลักษณ์
พิจณาความสุขนี้ คือมองดูอารมณ์ของความสุขว่า มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ไม่สามารถยื้อใว้ได้ จนอารมณ์นั้นหายไปเอง
เมื่อจิตเกิดความสงบ ก็ตามดูอารมณ์นั้นหรือสิ่งที่มากระทบจิตของขันธ์ 5 แล้วพิจณาไปเลื่อยๆ
อันนี้ผิดวิธีหรือป่าวครับ  

วิธีที่2
หรือว่าให้เราตามดูอารมณ์หรือสิ่งที่มากระทบจิตนั้นเฉยๆ จนหายไปเอง โดยไม่ต้องพิจณา ให้จิตเกาะจับอยู่กับอารมณ์นั้นๆแล้วมองดูเฉยๆให้สติรู้ถึงอารมณ์ในขณะนั้น ว่าเป็นอย่างไร


ขอบพระคุณพระอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ ผมสังสยมานานแล้วครับ ขอพระอาจารย์เมตตาชี้แนะแนวทางด้วยครับ
เพื่อเป็นความรู้และวิธีการที่ถูกต้องต่อไป สาธุอนุโมธามิ

 :054:  :054:  :054:  :054:

869
กราบมนัสการพระอาจารย์มากครับ
ขอบพระคุณสำหรับความรู้  ความรู้นี้ช่วยผมได้เยอะเลยครับ  ขออนุโมธนา
ทุกกระทู้ ช่วยผม ได้เยอะเลยครับ กับสถาวะที่เป็นอยู่ แล้วได้เข้าใจ

สาธุอนุโมธนา  กราบมนัสการด้วยความเคารพ

870
ยินดีกับพีเอ็กซ์ด้วยนะครับ  ได้ของดีมาเพียบเลย

ขอบคุณครับ ที่นำมาให้ชม งดงามมากๆ  :015:

871
ไปหาข้อมูลมาแล้ว  ขอพี่ ๆ น้อง ๆ ช่วยพิจารณา

ว่าใช่ยันต์เดียวกันมั้ยคะ

แต่ส่วนตัวคิดว่าใช่นะ ชิมิชิมิ
  :054: :054:



คาถา บูชา นะ โม พุท ธา ยะ

ผิดถูกประการใด ขอพี่น้องช่วยแก้ไขและเพิ่มเติม

              ขอบพระคุณค่ะ


ใช่ครับแต่อาจจะมีแตกต่างบ้างนิดหน่อย  ส่วนคาถาบูชา สวดคาถาบูชาหลวงปู่เปิ่นก็พอครับ   ทุกยันต์ ทุกอักขระ

พุทธคุณรอบด้าน ครับ เมตตาก็ได้ครับ แคล้วคลาด คงกระพัน ยันต์นี้ดีทุกด้านครับ

872
ขอบคุณครับ พี่ธรรมมะรักโข อนุโมธนาด้วยด้วยนะครับ  :054:

873
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: อย
« เมื่อ: 21 มิ.ย. 2553, 10:35:13 »
กราบขอบพระคุณ สำหรับรูปถ่ายมากครับ  ภาพสวยงามมากครับ

อนุโมธนาด้วยครับ สาธุ  :054:

874
กราบมนัสการ กราบขอบ พระคุณพระอาจารย์ ที่เมตตาชี้แนะแนวทางในการสั่งสอนครับ

เป็นความรู้อย่างสูง ขออนุโมธนาสาธุด้วยครับ  :054:

875
อนุโมธนาสาธุด้วยนะครับ

สุขสันวันเกิด ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

876
ยันต์ 5 แถวไม่ใช่ยันต์ครูของวัดบางพระ ครับ

แต่หลวงพี่หรือพระอาจารย์จะสัก ให้อะไรก่อนหลัง แล้วแต่ท่านจะพิจณาตามเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องว่าได้ยันต์ครูเสมอไป

เหมือนการสักน้ำมันอะครับ ไมจำเป็นต้องได้ 9 ยอดก่อนเสมอไป  แล้วแต่ท่านจะพิจณาความเหมาะสม

ท่านให้อะไรดีทุกอย่างอะครับ เชื่อมั่นใว้เถอะครับ

877
กราบมนัสการพระอาจารย์ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการสักยันต์ และความหมายดีๆ ทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

จะขอเป็นความรู้ นำไปปฏิบัติตามต่อไป  สาธุอนุโมธนาด้วย ครับ  :054: :054:

878
ล็อกเก็ตเสาร์5ปี36รุ่นนี้หลวงพ่อท่านจารเองหรือเปล่าครับ

กรุณา อย่าขุด ปั๊มกระทู้ เก่าขึ้นมาครับ

ขอบคุณครับ

879
กราบมนัสการพระอาจารย์   :054:

ขอบคุณที่ชี้แนะแนวทางครับในการปฏิบัติครับ

 สาธุ อนุโมธนาครับ  :054:

880
งดงามจริงๆครับ ขอบคุณนะครับที่นำมาให้ชม
ขอแสดงความนับถือ ในความอดทนครับ

กราบมนัสการหลวงพี่ญาด้วย ท่านเมตตาจริงๆ ครับ

881
ขออนุญาติ ครับ ขอขยายคำว่า มีสติ ไม่ประมาท ในความตาย
ไม่ใช่หมายถึง การมีสติก่อนสตาร์ทรถขับขี่รถ หรือ พึงระวังอุบัตติเหตุเท่านั้น

แต่หมายถึงการมีสติ ไม่ประมาทในควายตาย ว่าคนเราไม่แน่นอนตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ควรมีสติในการทำดี
ดั่งคำสอนว่า ให้รู้รู้สติใว้ว่าคนเราเกิดมาต้องตายทุกคน ไม่มีใครหนีความตายพ้น
ก่อนจะตาย ควรมีสติ อยู่ในความไม่ประมาท มีสติรู้จักดีชอบชั่วดีก่อนทำอะไร ควรมีสติว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิด ควรหรือไม่
เพราะสติเป็นบ่อเกิดของปัญญา เมื่อมีสติก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราจะทำเช่น กำลังลงมือจะฆ่าคน มันถูกหรือผิด บาปหรือป่าว
เพราะสติจะเป็นตัวเตือนว่าสิ่งทีเราทำควรหรือไม่ เมื่อละเว้นความชั่วตายไปก็จะได้ผลของกรรมดีนั้นนั่นเอง
สาธุ

882
กฎแห่งกรรม / +++ผลกรรมเมื่อผิดศีล 5+++
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2553, 04:34:32 »
ผิดศีลข้อ 1
(ฆ่าสัตว์ เบียดเบียนทำร้ายสัตว์ กักขังทรมานสัตว์)

ผลกรรมคือ
1.มักมีปัญหาสุขภาพ ขี้โรค มีโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย รักษายุ่งยาก
2.มีอุบัติเหตุบ่อย ๆ อาจมีอุปฆาตกรรม คือกรรมตัดรอน ทำให้ตายก่อนอายุขัย
3.อาจพิกลพิการ มีปัญหาร่างกายไม่สมส่วน ไม่สมประกอบ
4.กำพร้าพ่อแม่ คนใกล้ตัวโดนฆ่า
5.อายุสั้น ตายทรมาน ตายแบบเดียวกับที่ไปฆ่าไปทรมานสัตว์ไว้
6.อัปลักษณ์ มีปมด้อยด้านสังขาร

แนะนำหนทางทุเลา : ตั้งสัจจะว่าจะพยายามไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียน ไม่แกล้ง ไม่กักขัง ว่าง ๆ ก็ไถ่ชีวิตสัตว์ เช่น ไปตลาดซื้อปลาที่เค้ากำลังจ ะขายให้คนไปทำกินให้เราซื้อไปปล่อยในเขตอภัยทาน (ท่าน้ำของวัด) หรือ ซื้อยาสมุนไพรยาแผนปัจจุบันไปให้ถวายพระที่วัด หรือไปตามโรงพยาบาลทั้งของคนปกติและของสงฆ์เพื่อบริจาคค่ารักษา หรือรับอุปถัมภ์ค่ารักษาพยาบาลบริจาคเลือดและร่างกาย ให้สภากาชาดไทยหรือตามโรงพยาบาลต่าง ๆ และอื่น ๆ ตามแต่จะสะดวกและตามกำลัง



ผิดศีลข้อที่ 2
(ลักทรัพย์ ขโมย ฉ้อโกง ยักยอก ทำลายทรัพย์)

ผลกรรมคือ
1.ธุรกิจไม่เจริญก้าวหน้า เจ๊ง ขาดทุน ฝืดเคือง โดนโกง
2.มีแต่อุบัติเหตุให้เสียทรัพย์สิน ต้องชดใช้ให้คนอื่นอย่างไร้เหตุผล
3.ทรัพย์หายบ่อย ๆ หลงลืมทรัพย์วางไว้ไม่เป็นที่ หาก็ไม่เจอ
4.มีคนมาผลาญทรัพย์เรื่อย ๆ ทั้งคนใกล้ตัวและคนทั่วไป
5.ลูกหลานแย่งชิงมรดก โดนลักขโมยบ่อย ๆ
6.ตระกูลอับจนไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่คนมาทำลายทรัพย์

แนะนำหนทางทุเลา : ตั้งสัจจะไม่ยุ่งกับทรัพย์สินของคนอื่น หากอยากได้ให้ขอเสียก่อน จนกว่าเจ้าของจะอนุญาตด้วยความเต็มใจ หมั่นทำบุญสังฆทาน บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟวัดเ พื่อที่ศาสนาจะได้ไม่ขาดแคลนปัจจัย ส่งผลบุญให้เราไม่ขัดสน มอบทุนการศึกษาแด่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผลบุญทำให้เรามีปัญญาที่จะหาทรัพย์อย่างสุจริตรวม ทั้งต้องตั้งสัจจะที่จะมีสัมมาอาชีพ ไม่ฉ้อโกงใคร แม้แต่สลึงเดียวและอื่น ๆ ตามแต่จะสะดวกและตามกำลัง



ผิดศีลข้อ 3
(ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกเมียเขา ล่วงเกินบุตรธิดาของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต แย่งคนรักของคนอื่น กีดกันความรักคนอื่น นอกใจคู่ครอง หลอกลวง ข่มขืน ค้าประเวณี ล่วงเกินทางเพศต่าง ๆ)

ผลกรรมคือ

1.หาคู่ครองไม่ได้,ไม่มีใครเอา, หน้าตาอัปลักษณ์, โดนเพศตรงข้ามล้อเลียนจนมีปมด้อย
2.เป็นหม้าย, ผัวเมียตายจาก, ผัวหย่าเมียร้าง, คบใครก็มีเหตุให้หย่าร้างเลิกรา
3.คนรักนอกใจ, คนรักมีชู้, มีเมียน้อย, คบใครก็เจอแต่คนเจ้าชู้, โดนหลอกฟัน, ท้องไม่รับ, เสียตัวฟรี, โดนข่มขืน
4.ไม่มีมิตรจริงใจ, เพื่อนฝูงไม่รัก, พี่น้องก็ไม่รัก, พ่อแม่ทอดทิ้ง, ชีวิตขาดความอบอุ่น, มีแฟนก็ไม่มีใครจริงจังด้วย, ครอบครัวไม่อบอุ่น
5.มีความผิดปกติทางเพศ, ทางร่างกาย, ทางจิตใจ, ถูกกีดกันทางความรัก, สังคมไม่ยอมรับความรักของตน, มีความรักหลบ ๆ ซ่อน ๆ
6.ต้องมีเหตุพลัดพรากจากคนรักและของรักอยู่เสมอ (ก่อนเวลาอันควร)

แนะนำหนทางทุเลา : ตั้งสัจจะว่าจะไม่ทำผิดเรื่องทางเพศ ไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ไม่กีดกัน ไม่คิดแย่งหรือไปรักกับคนรักของใคร ไม่คิดทำร้ายความรู้สึกคนรัก ไม่ล่วงเกินบุตรธิดาของใครก่อนได้รับอนุญาต รักเดียวใจเดียว ไม่นอกใจไม่มีกิ๊ก พอใจในคู่ครองของตนเอง หมั่นทำบุญถวายเทียนคู่ให้วัด ถวายธงคู่ประดับวัด ช่วยออกค่าใช้จ่ายงานแต่งงานและอื่น ๆ ตามแต่จะสะดวกและตามกำลัง หรือให้ธรรมะด้านความรักแก่คู่รักที่รู้จักเอาใจใส่คู่ครอง คนรักเอาใจใส่พ่อแม่ของตนเอง หากรักพ่อแม่เอาใจใส่พ่อแม่อย่างดีจะได้รับผลบุญ ทำให้ความรักของเราสดใสไม่เจ็บช้ำหากทรมานพ่อแม่ ทำอย่างไรกับพ่อแม่ไว้ต่อไปชีวิตรักก็จะเลวร้ายพอ ๆ กับความรู้สึกเสียใจของพ่อแม่ที่เราได้กระทำไว้



ผิดศีลข้อ 4
(โกหก ปลิ้นปล้อน กลับคำ ไม่มีสัจจะ หลอกลวงผู้อื่นใส่ร้ายผู้อื่น ยุแยงให้คนแตกกัน ใช้วาจาดูหมิ่น พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ ขี้โม้ นินทา ด่าทอ ด่าพ่อล้อแม่ ด่าและเถียงผู้มีพระคุณ ผิดสัญญาสาบานแล้วไม่ทำตาม)

ผลกรรมคือ

1.ปากไม่สวย ฟันไม่สวย มีกลิ่นปาก มีปัญหาเรื่องปากเรื่องฟันอยู่เนืองนิจ
2.มีแต่คนพูดให้เสียหาย มีคนซุบซิบนินทาเรื่องของเรา มีคนคอยใส่ร้ายดูหมิ่นและส่อเสียดเราอยู่เสมอ
3.ไม่มีใครจริงใจด้วย มีแต่คนมาพูดจาหลอกลวง ผิดสัญญาต่อเรา
4.เกิดในสังคมที่พูดแต่คำหยาบคำส่อเสียดปลิ้นปล้อน นินทาอยู่เนืองนิจ เพียงตื่นมาก็พบเจอความไม่เป็นมงคล (สังคมที่ปากไม่เป็นมงคล)
5.หลงเชื่อคนอื่นได้ง่าย โดนหลอกได้ง่าย ไม่มีความระวังเวลาโดนโกหก
6.ไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเรา, เป็นคนที่พูดอะไรแล้วคนเมิน,พูดติดๆขัดๆ, นึกจะพูดอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ

แนะนำหนทางทุเลา : ตั้งสัจจะว่าจะไม่พลั้งปากโกหกหรือส่อเสียดนินทายุแยงใคร ไม่ด่าใคร พูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง สิ่งใดควรพูดก็ควรพูด ไม่ควรพูดก็อดทนไว้ ไม่ด่า ไม่เถี ยง ไม่นินทาผู้มีพระคุณ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ให้คำสั ญญาใครไว้ต้องรักษา อย่าสาบานอะไรพร่ำเพรื่อ ว่าง ๆ ก็ออกค่าใช้จ่ายให้ค่าทำฟันแก่คนยากคนจนและอื่น ๆ ตามแต่จะสะดวกและตามกำลัง หมั่นให้สัจธรรมความจริงแก่คนทั่วไป พูดแต่ธรรมะ สอนธรรมะอยู่เสมอ หมั่นพูดหรือเผยแพร่ธรรมะให้คนอื่นฟังบ่อย ๆ ทำตัวให้มีธรรมะให้มีสัจจะพูดอะไรก็ไม่ผิดคำพูด ไม่กลับคำ ไม่หลอกลวงใคร คนจะเชื่อถือมากขึ้น


ผิดศีลข้อ 5
(ดื่มของมึนเมา เสพยาเสพติด ให้ยาเสพติด ให้ของมึนเมา ขายของมึนเมา ขายยาเสพติด)

ผลกรรมคือ
1.สติปัญญาไม่ดี ขี้หลงขี้ลืม เรียนไม่เก่ง อ่านหนังสือไม่จำ อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ
2.เกิดในตระกูลที่โง่เขลา เต็มไปด้วยอบายมุข
3.หากกรรมหนักจะเกิดเป็นเอ๋อ ปัญญาอ่อน เป็นโรคทางปัญญา
4.ลูกหลานสำมะเลเทเมา มีลูกหลานติดยาเสพติด
5.เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่มีสติระวัง มีแต่ความประมาท
6.มักลุ่มหลงในสิ่งผิดได้ง่าย เป็นคนที่โดนมอมเมาให้หลงใหลในสิ่งผิดได้ง่าย (ขาดสติ)

แนะนำหนทางทุเลา : ตั้งสัจจะว่าจะไม่ดื่มของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด ไม่จำหน่ายจ่ายแจกของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด หมั่นทำธรรมทาน วิทยาทานให้ปัญญาความรู้แก่คนทั่วไปและอื่น ๆ ตามแต่จะสะดวกและตามกำลัง


ขอบขอบคุณที่มาจากเวป http://www.baanmaha.com/community/thread25520.html
หากมีคนเคยนำมาลงใว้แล้ว ผมขออภัยด้วยครับ  :054:

883
มีคนชอบถาม คุณรู้ได้ไง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง บุญบาปมีจริง  ผีมีจริง
ก็เหมือนคนที่เขาเคยเห็นผีเขาก็จะรู้ว่ามีจริง ส่วนคนที่ไม่เคยเห็นพูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อเพราะเขาไม่เคยเห็น
เพราะฉะนั้นกว่าจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่จะรู้ หรือจะได้เห็นก็ตายก่อนถึงจะได้เห็นว่านรก สวรรค์มีจริงๆนะ

อย่าปล่อยให้คำว่าสายไปหรือไม่น่าเลยเรารู้งี้ทำดีซะดีกว่า อยู่ในชีวิตคุณเลย
มีสติ หมั่นทำบุญ กุศล วันละนิด ชีวิตแจ่มใสครับ  อิอิ

ธรรมมะคือทางส่องใจให้สว่าง คือความรู้ที่ทำให้เกิดปัญญา
สาธุกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วย ครับ อาจจะงงๆหน่อย  ขออภัยด้วย

884
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับธรรมมะเรื่องนึง มาแบ่งปันให้พี่น้องวัดชาวบางพระได้อ่านกันครับ
ซึ่งผมก็ได้รับฟังมาอีกที บางท่านก็อาจจะเคยได้ยิน บางท่านก็อาจจะยังไม่เคยได้ยิน
ใครเคยได้ยินหรือเคยอ่านฟังแล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ


เรื่องมีอยู่ว่า มีสามี ภรรยาคู่นึง ซึ่งสามีชาติที่แล้วทำกรรมมาดี เกิดมาชาตินี้ ก็มีทรัพย์สมบัติพอมีอยู่กินไม่อดอยาก
มีภรรยาก็ภรรยาดี แต่ทว่าในชาตินี้สามีกับมีแต่ความโลภหลงในทรัพย์สมบัติ ไม่รู้จักทำความดีเอาซะเลย
แต่ภรรยานั้นเป็นคนดี เชื่อเรื่องเวรกรรม มีศิลธรรม เป็นคนทำบุญสม่ำเสมอ ก็ชวนให้สามีมาทำความดี แต่สามีกับไม่สนใจ

แล้วมีอยู่วันๆนึง ภรรยาก็ออกมาใส่บาตรพระปกติ (ซึ่งปกติภรรยานั้นจะออกมาทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ทุกเช้าเป็นประจำ)
วันนั้นเอง สามีก็เกิดขุ่นเคืองใจ เลยพูดกับภรรยาว่า

สามี: ทำ ทำไมบุญ ไม่มีจริงหลอก เสียดายของป่าวๆเปลือง มีแต่ของดีๆ ทำไมไม่เก็บใว้กินเอง อีกหน่อยก็อดตายหลอก
ภรรยา : ก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ใส่บาตรพระตามปกติ

แล้วอีกวันนึง  ภรรยากำลังจะไปวัดเพื่อไปฟังเทศน์ฟังธรรม ที่วัด

ภรรยา : คุณค่ะคุณ ไปวัดกันใหม ไปฟังเทศน์ฟังธรรมซะบ้าง ได้มีปัญญา ได้บุญได้กุศล
สมามี : วู้ไม่ไปหลอก เสียเวลาป่าวๆ วันนี้ว่าจะไปตกปลา บ่อตกปลามาเปิดใหม่ น่าสนุกกว่าอีกไม่น่าเบื่อ

แล้วต่อมาอีกวัน มีงานเทศการทำบุญเอาของไปแจกเด็กๆกำพร้าผู้ยากไร้

ภรรยา
: กำลังขนของ ใส่รถกระบะ เพื่อนำของไปแจกเด็กๆ โดยมีลูกๆมาช่วยกันขน
สามี : พอเห็นเข้าก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว บอกกับภรรยาว่า - เอาไปแจกทำไม เปลือง ของบ้านเรากว่าจะหามาได้ต้องทำงานมาไม่รู้เท่าไหร่
              นี่อยู่ดีๆจะเอาไปให้ใครไม่รู้ บ้าหรือป่าว อีกหน่อย อดตายไม่มีของใช้ของกินแล้วจะรู้มัวแต่เอาไปแจกให้ชาวบ้าน

ภรรยา
: ได้ยินก็เฉยๆๆ ก็ให้ลูกๆๆขนของกันต่อไป

แล้วเวลาก็ผ่านไป 30 ปี สามีภรรยาคู่นี้ก็แก่ตัวลง สามีดันเป็นโรคมะเร็งโดย เพียง 2 เดือนก็ถึงแก่กรรม
เมื่อตายวิญญาณ ก็ออกจากร่าง ยมบาลก็พาไปสู่ขุมนรก เปิดบัญชีดู


ยมบาล : เจ้าผู้นี่ชาติที่แล้วทำความดี ชาตินี้เลยเกิดมาสุขสบายมีทรัพสมบัติมาก แต่ด้วยชาตินี้มีแต่ความโง่เขลา ไม่คิดทำบุญ ถือศิล ไม่รุ้จักทำบุญทำทาน ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ตายมาชาตินี้ก็ไม่ได้มีบุญติดตัวมาเลย ผลของกรรมเจ้า ต้องตกนรกโดนทรมาน เกิดมาชาติหน้าเป็นคนพิการมีแต่โรคเพราะชอบฆ่าสัตว์ ไม่มีทรัพสมบัติใดๆ แม้แต่บ้านก็ไม่มี  


สามีที่ตายแล้ว  : ผมจะไม่มีอะไรได้ไง บ้านผมก็มี รถผมก็มี 3-4 คัน ทรัพย์สมบัติมีมากโข ทำไมตายไปผมกับไม่ได้อะไรสักอย่างเดียว ทำไม

ยมบาล :    ก็เจ้าไม่รู้จักทำบุญสร้างกุศลแล้วเหตุใดของเหล่านั้นจะติดตัวเจ้ามาด้วยหละ ของที่เจ้ามีที่เจ้าเห็นล้วนเป็นสมบัติภายนอก ตายไปก็เอาอะไรมาไม่ได้สักอย่าง  เจ้าลองดูนี่สิภรรยาเจ้าสิเป็นคนดี หมั่นรักษาศิลทำบุญสร้างกุศล ดูซะ ถ้าภรรยาเจ้าตายไปจะได้อะไรมาบ้าง

แล้วยมบาลก็เนรมิตรให้ดูบุญกุศลที่ภรรยาของสามีผู้ตายได้บำเพ็ญทำมา - สามีก็มองไป เห็นแสงสว่างเจิดจ้า มีของกินของใช้เพียบเต็มไปหมดประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับนานาชนิด -ซึ่งสามีเห็นก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่ตนตอนมีชีวิตอยู่ไม่รู้จักทำบุญสร้างกุศลใว้เลยตายไปก็ไม่มีอะไรติดตัวมา
ส่วนภรรยานั้นเมื่อตายไป   ด้วยบุญกุศล ก็จะได้เกิดเป็นเทวดามีของประดับสวยงามอยู่อย่างมีความสุขบนสวรรค์เมื่อบุญหมดเศษบุญที่ติดตัวมา ก็จะได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์
ที่มีความพร้อมทั้งด้านปัญญา ทรัพสินเงินทอง


เพราะฉะนั้นเรามาทำความดี  ทำบุญสร้างกุศล ก่อนที่เราจะตายกันเถอะครับ สาธุ
การมีสติ คือความรู้ผิดชอบดีชั่ว ในความไม่ประมาทในความตาย คนเราตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ก่อนตายมีสติ ละเว้นชั่ว สร้างแต่บุญ ความดีใว้เถอะครับ

885
ขอบคุณที่นำสาระความรู้มาเผยแพร่ครับ...ว่าแต่มีคาถาปลุกปลัดของหลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานีรึปล่าวครับ

ส่วนมากคาถาด้านบน ก็น่าจะใช้แทนได้ทุกสำนักนะครับ (ในความเห็นส่วนตัว)
หรือไม่ ก็ท่อง นะมะพะทะ สลับกันไปมา แทนก็ได้ครับได้ทุกสำนัก (พี่ใจดีสอนมาอีกทีนึง อิอิ) ขอให้มีความเชื่อมั่น จะไปด้านไหนก็อธิฐานเอานะครับ สาธุ

ปกติปลัดขิกก็ขลังอยู่ในตัวเองอยู่แล้วครับ อิอิ แล้วแต่พระอาจารย์ หลวงพ่อ หลวงลุง จะเสกแน้นไปทางด้านไหน

886
สุดยอดยินด้วยนะครับ  หลวงพี่ญา ท่านเมตตามากครับ สาธุ

887
ยินดีกับพี่ๆทั้ง 4 คนทีได้รับรางวัลด้วยนะครับ   21;    30;

ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโข สำหรับกิจกรรมดีๆ อีกครั้งครับ  :015:

888
--------------------------------------------------------------------------------
อ้างจาก: ~เสน่ห์ack01~ ที่ ๑๒ มิ.ย. ๕๓, ๐๘:๑๑:๒๖
อยากมีพระเก่าๆแบบคนอื่นบ้างจังครับ  


 ต้องการดูรูปภาพขนาดต้นฉบับเดิมคลิกที่นี่...  
......หรอครับคุณเอ็ก


....งงมากครับพี่ที... 07; 07; 07;

สงสัยช่วงนี้พี่ทีจะเบลอๆนะครับ ไหวป่าวครับพี่ที เฮ้อออ  กรรม 555+
โดนสาวคาราโอเกะเล่นไปและมั้ง เบลอเลย  :075:

 42;  11;  39;  12;

889
คาถาอาคม / ตอบ: คาถาถอนคุณไสย์+++
« เมื่อ: 16 มิ.ย. 2553, 05:07:08 »
สมัยที่ยังบวชเรียนอยู่ ท่านเจ้าคุณบอกว่า....
ถ้าหากโดนคนทำ ให้ตั้งจิตให้มั่น บริกรรมคำถอนพัทธเสมา....
.....ท่านว่ากันได้ ถอนได้ทุกอย่าง...... :001:

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=12915

ทุกอย่างล้วนแต่ชื่อมั่นศรัทธา สมาธิ ไม่แครงใจ ก็ทำให้ขลังได้ทุกบทหละครับ อิอิ
แนะนำพระคาถา มงกุฎพระพุทธเจ้า ก็ใช้ได้เหมือนกันอยู่ที่จะอธิฐานและกำลังจิตไปด้านไหน ครอบจักรวาลจริงๆ

890
น้องเอ็มเมื่อวันเสาร์พี่ปุ๋ยไปวัดมาหลวงพี่ต้อยให้มาอันนึงอ่ะค่ะคล้องเป็นพวงกุญแจเรียบร้อยแล้ว

ยินดีด้วยครับพี่ปุ๋ย เป็นแบบพี่กริ่งข้างในปะครับ พี่ อิอิ

มีจิ้งจกสองตัวอยู่บนปลัดขิกอ่ะค่ะน้องเอ็มหลวงพี่บอกเป็นเนื้อนวะแล้วก็บอกอะไรพี่มาอีกนิดหน่อย

อ่าครับ ของดีมากเลยนะนั่น เก็บใว้ให้ดีนะครับ   :015:

891
น้องเอ็มเมื่อวันเสาร์พี่ปุ๋ยไปวัดมาหลวงพี่ต้อยให้มาอันนึงอ่ะค่ะคล้องเป็นพวงกุญแจเรียบร้อยแล้ว

ยินดีด้วยครับพี่ปุ๋ย เป็นแบบพี่กริ่งข้างในปะครับ พี่ อิอิ

893
ขอขำๆ คลายเครียดอีกทีนะครับ พี่ธรรมมะรักโข อิอิ

ขอตอบ

1.ร้านขายก๋วยเตี๋ยว
2.ร้านขายรองเท้า
3.ร้านขายของชำ
4.ร้านขายกาแฟสด
5.ร้านขายเครื่องเขียน
6.ร้านขายวัสดุก่อสร้าง
7.ร้านขายเสื้อผ้า
8.ร้านขายอาหารตามสั่ง
9.ร้านขายเครื่องไฟฟ้าทุกชนิด
10.โรงพิมพ์
11.โรงเบียร์
12.คลีนิคหมอฟัน

(เพราะในคำถามไม่ได้มีบอกใว้ ว่า ให้เลือกคำตอบเพียงข้อเดียว ผมขอเล่นแบบนี้เลยละกัน (สงวนลิขสิทธิ์ใว้นะจ๊ะห้ามทำตาม )
 :095: ล้อเล่นนะครับ ขำๆๆ แก้ร้อน  
ยังไงก็ขอขอบคุณอีกทีละกันพี่ กระทู้กำลังฮดต อิอิ

894
ร้านขายเสื้อผ้าละกันครับ

ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโข สำหรับกิจกรรมดีๆ  :054:

895
คาถาอาคม / ตอบ: +++++ การตั้งธาตุ +++++
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2553, 10:13:05 »
เอ็มมี่ จอมขมังเวทย์.. :095:

กำแหม่พีเอ็กซ์ก็แซว อิอิ อ่านใว้เป็นความรู้อะครับเฉยๆอะครับ

นับถือพระอาจารย์ให้ท่านช่วยก็พอละ มีท่านเป็นที่พึ่งก็อุ่นใจ เราขอเป็นศิษย์ที่ดีเคารพท่านก็พอแล้ว

แหม่ถ้าเรื่องเสน่ห์กับสาวๆเพียบ ต้องปรึกษาพีเอ็กซ์ หละ อิอิ ตัวจริงเสียงจริงเลย อิอิ (โดนอีก 1 ) 555+

896
คาถาปลัดขิกหลวงพ่อยิดวัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์

นะเฮนะฮา ประสกที่มาสีกาที่นั่ง หัวเราะได้ดัง อุกขิตตะขัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก คนรักทั้งเมือง




สุดยอดเลยพี่เอ็กซ์  เจ้าพ่อปลัด  สายเสน่ห์ตัวจริง  :015:
อย่าลืมปลัดขิกเสาร์ 5 น้องนะ อิอิ

897

ถ้าเก่งขนาดนั้น มีแฟนไปนานแล้วครับ... :095:

...ตอนนี้ยังโสดอยุ่เลย.... 09;

 :095: ช่ายหรา..ที่ไม่ยอมมีเพราะ ยังลังเลเลือกไม่ถูกปะเอ่ย :086:
ประมาณ คนหนึ่งก็รัก อิกคนก็แสนดี หล่อ ๆ อย่างเรา   :006:
หม่ำขนมมากระวัง อ้วน นะคะ พี่เอ็กซ์  เป็นห่วงนะคะ   :025:

ไม่เหมือนเอ็ม เขาเลือกแล้ว
  :017:




ใช่ครับพี่นาวสุดสวย อิอิ ผมเลือกแล้วเลือกครอบครัว ผมเป็นคนรักครอบครัวครับ ประเภทรักเดียวใจเดียว คิกๆๆ   13;

พีเอ็กซ์ เลือกแล้วเหมือนกัน แต่ท่าจะเพียบเลย 55+ เลือกหลายคน  :034:

ส่วนพี่ทีแกเป็นหุ่นพยนต์ไปและครับ กำ  11;

898
โหพี่โต้ง สาวเพียบเลย ของเขาดีจริงๆ ใช่ปะครับ  อิอิ




899
สำหรับคนที่ชอบ ปลัดขิกนะครับ คิกคิกๆๆๆๆ

คาถาเรียกปลัดขิกใช้งาน
โอมละลวย..มหาละลวย..สามสิบสองตวยตาขุนเพ็ด

(...)ย็ดน้องเข้าสองที เข้าแล้วอย่าให้ออก ดอกให้เปื่อย ดอกให้เปื่อย ฯ

ตรง(...) ตรงนี้ให้ใส่สระ เอ นะครับ เหอๆๆ อาจติดเหรดนิดขออภัย


คาถาใช้งานปลัดขิก


โอม . . . มหาปลัดขิก ศิวลึงค์ อึงคะนึงอื้อฉาว

คุ้มครองตัวข้าพเจ้าด้วย กัณหะ เณหะ อุอุ อะอะ มะมะ อะอุ โอมฯ


จากนั้นก็อาราธนาขอให้ปลัดขิกช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ จะแคล้วคลาด คงกะพัน

เมตตา หรือโชคลาภก็ได้ตามแต่จะอธิษฐานครับ



เครดิตจากพี่อชิตะ  วัดชายนานะครับ

900
คาถาอาคม / +++++ การตั้งธาตุ +++++
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2553, 01:05:41 »
ในการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลและเครื่องรางๆ ต่างๆ

ซึ่งหนึ่งซึ่งขาดไม่ได้คือการ ตั้งธาตุ-ปลุกธาตุ

นะ คือธาตุนํ้าหล่อเลี้ยงร่างกายและดวงจิต เรียกว่า อาโปธาตุ  

โม คือธาตุดินได้แก่ของที่แข็ง มีหนัง มีเนื้อ มีกระดูก เรียกว่า ปฐวีธาตุ  

พุท คือธาตุไฟได้แก่ความอบอุ่นในร่างกาย เรียกว่า เตโชธาตุ  

ธา คือธาตุลม ลมหายใจเป็นต้น เรียกว่า วาโยธาตุ  

ยะ คืออากาศธาตุ

นะ คือธาตุนํ้า กําลัง = ๑๒  

โมคือธาตุดิน กำลัง =  ๒๑  

พุท คือธาตุไฟ กำลัง = ๖  

ธา คือธาตุลม กำลัง = ๗  

ยะ คืออากาศธาตุ กำลัง = ๑๐  

รวมทั้งหมด=๕๖ คือคุณของพระพุทธ

 

คุณพระพุทธ ๕๖ นี้ ถ้าแบ่งครึ่งออกจะเป็น= ๒๘ และ เอาอากาศธาตุ๑๐ บวกรวมเข้าไปจะเป็น=๓๘ คือคุณพระธรรม  คุณพระพุทธ ๕๖ นี้ ถ้าแบ่งออกเป็น ๔ ส่วนก็จะ = ๑๔ คือคุณพระสงฆ์

 

เมื่อเราจะประกอปพิธีกรรมใดๆก็ดี เช่นจะปลุกเสกนางกวัก กุมารทอง รักยมหนุมาน สิงห์ เสืออะไรก็ดีที่มีชีวิต

ต้องประจุหรือใส่ธาตุทั้ง4 ก่อน แล้วตามด้วย อาการ ๓๒ ที่ว่า อัตถิอิมัสมิง กาเย เกษา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ...ฯ    

วิธีตั้งธาตุ

การตั้งธาตุนั้นให้ตั้งแม่ธาตุใหญ่ก่อน คือ นะโมพุทธายะ

แล้วตามด้วยธาตุ4 คือ นะมะพะธะ

หนุนด้วยธาตุกรณีคือ จะภะกะสะก่อนที่จะตั้งธาตุให้ว่า

 

 คาถาชุมนุมธาตุ ดังนี้    

เอหิปะถะวีพรหมา

เอหิอาโปอินทรา

เอหิเตโชนารายะ

เอหิวาโยอิสสะราฯ

 

คาถาตั้งแม่ธาตุใหญ่ ว่าดังนี้    

นะอิเพชรคงอะระหังสุคะโตภะคะวา

โมติพุทธะสังอะระหังสุคะโตภะคะวา

พุทปิอิสะวาสุอะระหังสุคะโตภะคะวา

ธาโสมะอะอุอะระหังสุคะโตภะคะวา

ยะภะอุอะมะอะระหังสุคะโตภะคะวาฯ

 

นะมะพะะธะ ต้องมีธาตุพระพุทธเจ้า คือ ธาตุพระกะระณี ตั้งกํากับลงไปด้วย คือ จะภะกะสะเพื่อเป็นพี่เลี้ยงคุมธาตุลงไปอีกทีหนึ่ง    

วิธีตั้งธาตุ

พยายามจําให้ได้มีประโยชน์มากต่อผู้ที่เรียนคาถาอาคมว่าดังนี้

 

ตั้งอาโปธาตุ (ธาตุนํ้า) ว่า นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ  

ตั้งปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ว่า นะโมพุทธายะ มะพะธะนะ ภะกะสะจะ  

ตั้งเตโชธาตุ (ธาตุไฟ) ว่า นะโมพุทธายะ พะธะนะมะ กะสะจะภะ  

ตั้งวาโยธาตุ (ธาตุลม) ว่า นะโมพุทธายะ ธะนะมะพะสะจะภะกะ

 

วิธีหนุนธาตุ

นะ คือ แก้วมณีโชติ  มะ คือ แก้วไพทูรย์  อะ คือ แก้ววิเชียร  อุ คือ แก้วปัทมราช      

เมื่อตั้งอาโปธาตุ (ธาตุนํ้า) ให้เอาแก้วมณีโชติหนุน  

เมื่อตั้งปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ให้เอาแก้วไพทูรย์หนุน  

เมื่อตั้งเตโชธาตุ (ธาตุไฟ) ให้เอาแก้ววิเชียรหนุน  

เมื่อตั้งวาโยธาตุ (ธาตุลม) ให้เอาแก้วปัทมราชหนุน  

หลักของการใช้ธาตุมีดังนี้    

ธาตุนํ้า ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม  

ธาตุดิน ใช้ทางอิทธิปาฏิหารย์ คงกระพันชาตรี  

ธาตุไฟ ใช้ทางสะเดาะกุญแจขับไล่ผี  

ธาตุลม ใช้ทางสะกด กําบังตัว ล่องหน  

ทางเสน่ห์ เมตตามหานิยมใช้ธาตุนํ้า (อาโปธาตุ)

ภาวนาว่า      นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ

แล้วหนุนด้วยแก้วมณีโชติว่า นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ

 

ทางคงกระพันภาวนาปฐวีธาตุ(ธาตุดิน)

ภาวนาว่า  นะโมพุทธายะ มะพะธะนะ ภะกะสะจะ

หนุนด้วยแก้วไพทูรย์ว่าต่อ มะนะนะมะ มะอะอะมะ มะอุอุมะ

 

ทางเสดาะขับไล่ผีภาวนาเตโชธาตุ(ธาตุไฟ) ภาวนาว่า

นะโมพุทธายะ พะธะนะมะ กะสะจะภะ

หนุนด้วยแก้ววิเชียร ว่าต่อ อะนะนะอะ อะมะมะอะ อะอุอุอะ

 
  
ทางสะกด ล่องหน กําบังตัวภาวนา วาโยธาตุ(ธาตุลม)

ภาวนาว่านะโมพุทธายะ ธะนะมะพะ สะจะภะกะ

หนุนด้วยแก้วปัทมราชว่าต่อ อุนะนะอุ มะมะอุ อุอะอะอุ

การตั้งธาตุเป็นกิจที่ต้องทำ ควรฝึกฝนให้ชำนาญ กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ

แล้วกำหนดใจปลุกเสกตามสายวิชาที่ครูบาอาจารย์ประสิทธิมาตามแต่ถนัดครับ


ขอบคุณเครดิตจากเวป ของพี่อชิตะนะครับ http://fws.cc/sitwadchaina/index.php?topic=107.0

901
มหาอำนาจ คงกระพัน แคล้วคลาด  บารมี

หน้าเสือ หรือ เสือทั้งตัว ก็หัวใจเดียวกันอะครับ(ของวัดบางพระ) แล้วแต่พระอาจารย์จะแน้นหรือเพิ่มไปด้านไหนพิเศษ

ส่วนที่อื่นก็แล้วแต่ตามสูตรของแต่ละที่อะครับ ส่วนมากเสือ มหาอำนาจบารมี

902
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับพี่โต้ง  สุดยอด หลวงพี่ท่านเมตตามากครับ

903
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 15 มิ.ย.
« เมื่อ: 13 มิ.ย. 2553, 04:46:35 »
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ อยู่ในศิลในธรรม เจริญยิ่งๆขึ้นไป

904
ได้ของดีอีกแล้วนะครับพี่บอล ยินดีด้วยนะคร๊าบบ  :015:

905
งดงาม หลวงปู่เปิ่น งดงามมากครับ เสาร์ 5 เนื้อเงินด้วย
ทั้งเนื้อผง และเหรียญ ผ้ายันต์งดงามจริงๆ
แถมได้หลวงพ่อไร่ขิงด้านหลังมีแผ่นพระรักทอง อีก สุดยอด 
แผ่นพระรักนี้ ประสบการณ์เด่นทางด้านอยู่ปืนแคล้วคลาดครับ แม้แต่ทางความรักเมตตา(ชื่อก็บอกแผ่นรัก)ก็ไม่ธรรมดา ลอกออกจากองคค์หลวงพ่อ ปี 30 กว่าๆ ได้ หมดแล้วหมดเลย ไม่มีอีก

ยินดีด้วยนะคร๊าบบ ได้ของดีมาอีกแล้ว

906
ตอนนี้ผมเคารพพระเกจิอาจารย์ทุกรูปหละครับ ทั่วโลก ทั่วประเทศ ทุกยุค ทุกสมัย มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
รวมถึงพระอาจารย์วัดบางพระทุกรูป  :054:

ว่าแต่กระทู้ นี่เก่าเป็นชาติแล้ว จะขุดมาเพื่อ ?????? ~อะไรเหรอครับ

907


ได้ข่าวว่าทุกวันนี้ ไม่ต้องซื้อข้าวกิน มีสาว ๆ มาคอยส่งให้
ตกบ่ายมีขนมนมเนยบริการถึงที่ แน่นอนมาก เยี่ยมค่ะ  
:015:

~ พี่เอ็กซ์นี่    :034: ...หล่อ..ได้เลือก...อิอิ จริงจิ้งง   >^.^<
หล่อนะคะ พี่เอ็กซ์  เหอ ๆ    :073: :089: [/size][/b]  [/color]

โหเสน่ห์แรงขนาดนี้ ถ้ากินไม่หมดแบ่งพี่บ้างก็ได้น่ะครับ...เอ๊กส์

พี่เอ็กซ์ไม่ธรรมดาครับ แอบนัดสาวไปกินข้าวกัน 2 ต่อ 2 ไม่บอกน้องๆ 555+ เอ้แถวๆหน้าที่ทำงานของพี่ป่าวน้า :095:
แถมมีสาวซื้อขนมให้กินด้วย
เสน่ห์แรงเหลื่อหลาย ฮิ้วววววววววว

 37;  16;

908
คาถาอาคม / คาถาถอนคุณไสย์+++
« เมื่อ: 11 มิ.ย. 2553, 08:25:50 »
นะโม 3 จบ นึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง และ พระคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ทุกท่าน

สะมุหะเนยยะ สะมุหะคะติ สะมุหะคะโต สีมาคะตัง พัทธะเสมายัง

 สะมุหะนิตัพโพ เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมคลอน พุทถอน ธาเลื่อน ยะเลื่อนหลุดลอย


ตั้งจิตอธิฐานขอบมารมี แด่คุณพระศรีรัตนตรัย พระคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายที่เรานับถือ
โปรดเมตตา ล้าง ถอดถอน คุณไสย์มนต์ดำ คุณผีทั้งหลาย คุณคนทั้งหลาย คุณยาแฝด ฝังรูปฝังรอย ออกสิ้น ณะ บัดนนี้เถิด
สาธุสาธุ



909
กำ ขออภัยครับ ลืมว่าเคยเอามาลงแล้ว

งั้นเอาคาถานี้ไปและกัน

นะโม 3 จบ

โอมปู่เจ้าสมิงไพร กูจักใช้ให้พระนารายณ์ไปร้องเรียก กูจะใช้พระลำเจียกให้ไปหา กูจะใช้ปูนพลูให้ไปพามา
มึงรักกูเสมือนหนึ่งช้างรักงา มึงรักกูเสมือนหนึ่งปลารักน้ำ แม่มึงจะมาร้องไห้มาหากู โอมสิทธิคุณคะรุสะวาหะ

บทนี้เป็นเมตตามหาเสน่ห์เหมือนกัน

หรืออีกแบบ

พระคาถาปู่เจ้าสมิงไพร

--------------------------------------------------------------------------------

โอมแม่พระพายพระนารายณ์เป็นเจ้า ปู่เจ้าสมิงไพร เธอเสด็จมายื่นกำยานให้แก่กู เธอจึงให้กูเอาถ่านไฟเผาผี มาเขียนชื่อ(สตรีสาวน้อยอันพอใจชาย) พระพายโบกไป ร้องไห้โหยหา ปวดหัวมัวตา ผีห่าผีเหวผีตายเร็วผีตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ตัดในมิสำราญ ร้องไห้มาหากู โอมคุณปู่เจ้าสมิงไพรประสิทธิ์ไว้แก่กู สวาหะ

วิชานี้ห้ามผู้หญิงเรียน สำหรับผู้ชาย ให้ไปซื้อน้ำมันจันมา หากระบุเจาะจง ให้ใส่ชื่อแทนลงไปในวงเล็บ แล้วนำมาแต้มตามคิ้ว ผม พาเอาตัวไปให้เค้าเห็นหน้าให้ได้สัก3ครั้ง ในการเสกให้เสกช่วง 5ทุ่ม-ตี2 เสกไปอย่าหยุดจนกว่าจะครบเวลากำหนด และให้นึกหน้าและสิ่งที่ต้องการ หรือเหตุการณ์ที่ต้องการให้เกิดกำกับไปพร้อมกับท่องบ่นคาถานี้ วิชานี้อาจจะทำให้ผู้ใช้หน้าดำคล่ำลง เพราะด้วยแรงครูแรงอาถรรพณ์จะสิงตัว
บทที่2นี้
เครดิตเวป http://board.palungjit.com

910
ตั้งนะโม 3 จบ

อุ อะ มะ สังวัตติสงสาร เอหิใจพาน มามะมะแห่งกู มาเร็วแม่เอยมารัก มาประจำหลัก ทรามรักประจำโขลง

มาโรงแม่เวย นางทองอย่าเลือกนางเผือกประไพ มะอยู่มิได้ อะร้องไห้ อุตามกูมา โอมสะวาโหม ติดติด

911
ขอบคุณพี่บอล ที่นำมาให้ชมเป็นวิทยาทานครับ

หลวงพ่อพรหม มีพี่เจมส์อีกคนนึงที่เขาสายตรงเลย อิอิ


912
กราบมนัสการ หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม  ขอร่วมใว้อาลัยด้วยนะครับ  :054: :054: :054:

ขอแสดงความเสียใจแด่ศิษย์ทุกท่านด้วยนะครับ

ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ สำหรับแจ้งข่าว

914
งดงามมากครับพี่ ได้รับความเมตตามาเพียบเลย ยินดีด้วยนะครับ

สุดยอดดดดดดด  :015:

915
หัวข้อเสริม

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,5830.msg46128.html#msg46128

ขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สมาชิกใหม่อ่านใว้ด้วยนะครับ

916
งดงามมากครับ ขอบคุณลุงอเมซิ่งและพี่หอมเชียงมากครับ

สำหรับภาพสวยๆ และข้อมูลดีๆ

917
ขอบคุณพี่เจมส์มากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ

ขอให้หลวงปู่แย้ม ท่านหายอาพาธไวๆ นะครับ  สาธุ  :054:

กราบมนัสการพระพุทธรูป หลวงพ่อ พระสงฆ์ทุกๆรูปๆ และ สังขารหลวงปู่เจือด้วย   :054:

อนุโมธนาด้วยครับ

918
กำ  :075: อุส่าจะแบลคเมย์พีเอ็กซ์ โดนซะเองซะงั้น

ขอบคุณพี่นาวสำหรับภาพมากครับ เหอๆๆๆ

 05;  39;  11;  41;

919
ตะกรุดหลวงพี่ญา วิ่งรึปล่าวครับ หรืออยู่กับที่ครับ รบกวนผู้ที่เคยฝังบอกเล่าหน่อยครับ

ส่วนตัวที่ผมฟังมา วิ่งนะครับ และรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ด้วยบางทีก็ไปเจ็บจี๊ดที่แขนซ้ายทั้งที่ผมฝังแขนขวานะครับ  แต่ผมเรียกเองไม่ได้นะครับวิ่งเอง ไม่เหมือนกับเข็มครับ

อย่างมีพี่ท่านนึง(ไม่ขอเอ่ยนาม) เหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอุบัตติเหตุ ตะกรุดก็เตือน จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ครับ ทำให้แคล้วคลาดมาแล้วหลายครั้ง

จะฝังต้องดูโอกาศและเวลาด้วยนะครับ และความเหมาะสม  ขอให้ทุกท่านโชคดี
(ตอนนี้เข็มที่ฝังน่าจะหมดแล้วนะครับมีแต่ตะกรุด ลองเรียนกราบถามท่านดูเองละกัน)


920
ขออนุญาติ ขุดมาเพื่อให้เพื่อน สมาชิกใหม่ได้ทราบกัน

ขอบคุณครับ

921
เขี้ยวไดโนเสาร์ป่าวครับ  :075:
แล้วเขาใว้ใช้ด้านไหนอะ ครับ เหอๆๆ

922
กราบมนัสการหลวงปู่เปิ่น  ด้วยครับ  :054: 

ขอบคุณพี่นนสำหรับข่าวสารมากครับ

923
ตามพี่ๆข้างบนครับ
ฝังตะกรุดทองคำ สอบถามที่กุติหลวงพี่ญาเลยครับ  พุทธคุณครบทุกด้านครับ  

ค่าครูแล้วแต่ศรัทธาครับ ควรทำให้เหมาะสมเพราะทองคำแพงนะครับ อิอิ


924
ขอบคุณครับพี่ธรรมมะรักโข ที่นำมาให้ชมเป็นวิทยาทาน  :015:

925
เห็นด้วยกับพี่ๆข้างบนเลยครับ  จิตเวชดีที่สุด

เชื่ออย่างใช้ปัญญา ไม่งมงาย มีเหตุมีผลเป็นองค์ประกอบ ลองไปพบแพทก่อนดีกว่าครับ
ถ้าหายแล้วพาไปทำบุญ อยู่ในศิล ในธรรมช่วยได้ครับ
ก็ไม่ได้เถียงนะครับ ว่าของพวกนี้ไม่มี แต่ เวอร์ชั่นแบบเพื่อนคุณนี่มันก็เกินไปและครับ เหอๆๆ ล้น

ส่วนคนที่ไม่สบาย ไม่แปลกหลอกครับ
1อาจตกใจ
2.ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเดี่ยวร้อนเดี่ยวฝน ให้เพื่อนคนที่ไม่สบายไปหาหมอกินยาเดี่ยวก็หายครับ

แล้วสรุปถูกหวยปะ 60 ล้านหนะ ครับ อิอิ

ผมบันลุ

แล้วคุณบันลุอะไรเหรอครับ เหอๆ งง

926
ขอบคุณครับพี่โองการ ไปอยู่เชียงใหม่ทั้งที ได้ของดีมาอีกและครับ  :015:

927
พระสีสะแลงแงง คงแขวนคอไม่เหมาะมังครับ  :001:
เห็นด้วยว่าไม่เหมาะครับ พกดีกว่าครับ

ใช่ครับพี่ๆ พกในกระเป๋ากางเกงก็ได้ ถ้าเป็นผ้ายันต์สมัยก่อนเขาเอาใว้ผูกที่ต้นขาอะ อิอิ

928
แล้วจะบอกท่านอาจารย์อย่างไร  ที่จะให้ท่านเป่าให้   ไม่เคยครับ  ช่วยแนะนำหน่อย    ต้องบูชาพานเหมือนตอนสักหรือเปล่า     สุดท้ายและจะให้อาจารย์ท่านไหนเป่าดีที่สุด...

แล้วแต่ศรัทธาเลยครับ ให้หลวงลุงติ่ง หลวงลุงต้อย หลวงพี่ญา หลวงพี่แป้ว หลวงพ่อสำอางค์ก็ได้ ท่านเป่าให้ก็ได้

เข้าไปกราบท่าน หลวงพี่ๆ ครับ ช่วยกรุณาเมตตาเป่าให้ผมหน่อย ครับ เท่านั้นหละครับ อิอิ ไม่ต้องยกพานก็ได้ แต่ถ้าจะยกก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

ส่วยผมให้หลวงพี่ญาท่านเมตตาเป่าให้ครับ

ถ้าเราทำบูญบ่อยๆจะทำให้ของของเราแรงขึ้นไหมคับ
ขอบคุณคับ
25; 11;

แรงป่าวผมก็ไม่รู้นะ แต่ดีแน่นอน เวลาทำก็อุทิศให้ครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาท่านเยอะๆ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรด้วยนะ  ครูบาอาจารย์ท่านจะได้คุ้มครองเรา ไม่ใช่เราจะหวังผลอย่างเดียวควรตอบแทนท่านบ้าง ถือเป็นการกตัญญูเป็นสิ่งที่ดี ครับ
ท่านจะได้ช่วยเหลือเรา ..... การทำบุญเป็นสิ่งที่ดี อย่าทำและเดือดร้อนใครละกัน ครับ
ทำไม่ต้องมาก ทำทีละนิด ทำเลื่อยๆ ค่อยๆสะสมบุญไป

929
ยกให้ผมก็ได้นะครับ  :002: ล้อเล่น

จิตอย่าไปคิดไปปรุงแต่ง เราคิดแบบไหนก็ไปแบบนั้น  ให้คิดในทางที่ดีใว้ คิดดีๆ เดี๋ยวอะไรดีๆก็ตามมาเอง อย่าไปวิตกครับ
ของดี ก็ย่อมดี สิครับ อิอิ (อย่าไปคิดมาก คิดในทางที่ดีใว้)

เครื่องรางของขลัง ส่วนมากหลวงพ่อหรือพระอาจารย์ท่านเสกให้ใช้ได้ทุกคนแหละครับ อยู่ที่คนใช้มากกว่าว่าจะใช้ได้ใหม
เพราะคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน..บางคนแขวนพระผงรู้สึกเย็น แขวนพระโลหะ รู้สึกร้อนก็มี มันแล้วแต่คนนะครับ

ถ้าเอามาแขวนแล้วรู้สึกพิกลๆ ก็ถอดบูชาใส่พาน หรือวางใว้ที่หิ้งพระ หรือโต๊ะหมู่บูชาก็ได้ครับ  ไม่ต้องเอาไปให้คนอื่นหลอกครับ
บูชาแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ไม่ต้องแขวนก็ยังได้ นึกถึงหลวงปู่ และพระอาจารย์ใว้ ครับ สาธุ


930
ผ่าไฟแดงเสื่อม..............น๊ะจ๊ะ
ไม่เกี่ยวไรกับพิษงูเลย อยากรู้ลองดูก็ได้ มันเป็นเรื่องของคนสองคนหักห้ามใจใว้หน่อยก็ดี :095:


ส่วนผู้หญิงก็มีเป็นเรื่องปกติ มีแล้วก็ไม่เสื่อมหลอกครับ  เป็นเรื่องธรรมชาติของคนๆเดียว ซึ่งไม่ใช่ 2 คน อะ อิอิ
หากไม่เอามาป้ายตามตัวเล่น เหอๆๆ ... หรือจิตที่คิดลบหลู่ ก็เสื่อม

931
กราบมนัสการพระอาจารย์ และ หลวงพี่ทุกรูปเลยนะครับ  :054:

ขอบคุณสำหรับภาพถ่าย อนุโมธนาด้วย ครับ สาธุ

932
งดงามมากครับพี่บอล เอามาแหย่พีเอ็กซ์อีกละ อิอิ  :095:

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

933
2.การมีสติ-ใช้สมาธิ-ปล่อยวางคือทางออก

สมัยก่อน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง เป็นปัญหาของสังคม แต่สมัยนี้อาจบอกว่าโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ แต่โรคทางจิตใจ เช่น โรคจิตเภท โรคประสาท โรคซึมเศร้า กลับเป็นปัญหาของสังคมและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ น.พ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล แห่งกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัญหาของสังคมที่เปลี่ยนสภาวะเครียดเพิ่มมากขึ้น และพบว่าคนที่ฆ่าตัวตายมักเป็นวัยผู้ใหญ่หรือวัยกลางคน กลับกลายเป็นวัยรุ่น ซึ่งพบข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์

                กล่าวกันว่า ตั้งแต่เรียนก็หวังเพื่อให้ได้คะแนนสูงๆ มาทำงานพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้ตนเองได้รับการเลื่อนขั้นที่ดี หรือเกรดเอ.....

                มองถึงด้านการหล่อหลอมการเยียวยาจากครอบครัวก็มีน้อย เห็นจากครอบครัวสมัยนี้พ่อแม่แยกทางกัน หย่าร้างกัน ท่านทราบไหมว่า โรงเรียนอนุบาลในกรุงเทพมหานคร เด็กที่พ่อ-แม่ได้เลี้ยงดูจริงๆ จะมีสักกี่ราย... เติบโตก็พยายามที่จะให้อายุตนเองยืนยาวนาน สรรหาอาหารมารับประทานมีคุณค่าเพื่อบำรุงร่างกาย แต่อาหารทางใจส่วนมากแล้วจะขาดหรือมองข้ามเพราะเห็นว่าอาจไม่สำคัญ รอไปก่อน อายุมากกว่านี้แล้วค่อยคิดใหม่

                ในขณะที่ท่านทำงานก็มีความทุกข์กับงาน กลับบ้านก็ทุกข์กับสมาชิกในบ้าน ทุกข์กับการอยู่คนเดียว แต่ก็ทราบอีกไหมว่า ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยกาย จิต สังคม และจิตวิญญาณ หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วทำให้รู้สึกว่าขาด

                ข้อมูลจากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แนะนำว่า การหาทางออกโดยไม่ต้องลงทุน อันเพื่อตนเองให้มีความสุข งานที่กระทำราบรื่นไปได้ด้วยดี และคนรอบข้างมีความสุข คือ

                1. การใช้สมาธิ ลองคิดดูเมื่อรู้สึกเหนื่อยจากการทำงาน งานก็จะผิดพลาดเป็นประจำ คิดอะไร เขียนอะไร จำอะไรก็ไม่ดี จิตใจหวั่นไหว ใครมาพูดกระทบแสดงความไม่พอใจ กล่าวกันว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นต้องใช้ความอดทน การนั่งเฉยๆ แล้วเอาจิตมาผูกกับลมหายใจ เพียงแต่รับรู้ลมหายใจเข้าออก เข้าก็รู้ ออกก็รู้ ที่เป็นจริง ต่อเนื่อง ตามลมหายใจ ความคิดก็ค่อยๆ ไตร่ตรองแล้วก็หายใจเงียบๆ ประมาณ 5-10 นาที

                2. การสวดมนต์ กล่าวว่า จะทำให้จิตใจของเรายึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย เป็นการฝึกจิตให้สงบ และมีสมาธิ จากการวิจัยของ น.พ.อีริค แลนเดอร์ ซึ่งเป็นแพทย์ทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หากรู้จักปลีกเวลาสัก 1 ชั่วโมง หลายๆ ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อการสวดมนต์เชื่อว่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย และสุขภาพกายและสุขภาพจิตจะดี

                3. การอยู่กับปัจจุบัน คือการแผ่เมตตา ปรารถนาดีซึ่งมีอยู่จริงๆ ในจิตของเรา ทำให้น้อมจิตแผ่เมตตา แบ่งความสุขไปยังทุกคนในที่ทำงานทุกทิศทุกทาง โดยทำความรู้จักกับลมหายใจเข้าออกให้ชัดเจน ใครที่ทำให้เราทุกข์ใจ ร้อนใจ ขัดเคือง เราก็ให้อภัยเขา ไม่เอามาคิด ที่จะทำให้ใจของเราเป็นสุข ไม่มีเวรและเป็นภัยต่อกัน

                4. การมีสติ พุทธพจน์ที่ว่า ดูก่อนภิกษุ ตถาคต กล่าวว่าสติช่วยในกิจทั้งปวง และสติสามารถฝึกและควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นตัวยับยั้งไม่ให้จิตฟุ้งซ่าน การมีสติเป็นการพัฒนาฝีมือของเรามากขึ้น หากแม้จะไม่สงบก็ลดความฟุ้งซ่านได้ เช่น ขณะกำลังพิมพ์งาน ความวุ่นวายของคนรอบข้างจะเข้ามา แต่เราอยู่ด้วยใจที่จดจ่อจับกับลมหายแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

                5. การปล่อยวาง คือการไม่จมอยู่กับงานจนมั่นหมายเป็นบ้า ไม่หมกมุ่นอยู่กับอดีตที่ผ่านไป อนาคตที่ยังมาไม่ถึงและการสลัดตนให้พ้นจากความรู้สึก หรือภาพประทับใจเก่าๆ ที่มาเกาะกุมจิตใจโดยไม่รู้ตัว

                สิ่งที่แนะนำมาเบื้องต้นไม่ข้อใดข้อหนึ่ง สามารถกระทำเองได้โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินทอง จะมีประโยชน์ 2 ส่วน คือ ตัวเราเองมีความสุข ความสัมพันธ์กับเพื่อนรอบข้างก็ดี งานก็สำเร็จสัมฤทธิผล มีคุณค่าต่อสังคม เพราะว่ารู้จักนำธรรมะมาใช้กับงานอย่างถูกต้อง

ขอบคุณที่มา http://www.mongkoltemple.com/page02/articles012.html

934
การเจริญสมาธิแบบปล่อยวางและพิจารณาอารมณ์

กัมมัฏฐานมี ๔๐ วีธี ใครจะใช้วิธีไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงให้ถูกกับจริตของตนเป็นใช้ได้ หลวงปู่เทสก์บอกว่า การเจริญภาวนากัมมัฏฐานจะกำหนดพุทโธๆ ๆ หรือ อรหังๆ ๆ หรือ สัมมาอรหังๆ ๆ หรือ มรณังๆ ๆ หรือกายคตาสติก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่มีขีดขั้น ข้อสำคัญคือการเจริญนั้นๆ จิตจะรวมลงสู่จุดเดียวได้หรือไม่ ถ้ารวมลงได้ก็เรียกว่าสมถะด้วยกันทั้งนั้น
การปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิ จิตใจต้องมั่นคง อย่ามัวไหลไปตามกระแส ใครว่ามีอะไรดีที่ไหนก็ไปตามเขา พอเขาเปลี่ยนใจ เราก็เปลี่ยนใหม่อีก จิตใจโลเล จิตใจวุ่นเสียแล้วแต่ต้นอย่างนี้ จะหาความก้าวหน้าจากการเจริญสมาธิไม่ได้เลย หลวงปู่เทสก็บอกว่าหลักธรรมที่แท้มิได้เกิดจากความคิดที่ส่งออก แต่เกิดจากการคิดค้นตรงเข้ามาหาของจริงที่มีอยู่ในตัวนี้ เมื่อเราค้นเข้ามาหาของจริงในตัวนี้แล้วจิตก็เป็นสมาธิ (คือคิดค้นอยู่ในที่อันเดียว)ต่อนั้นไปทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในรัศมีของจิต ก็จะกลายเป็นอุบายให้เกิดเป็นธรรมไปทั้งหมด
อุบายในการเข้าถึงธรรมมีมิใช่น้อย ถ้ารู้จักฉุกคิดขณะที่พระกำลังแสดงพระธรรมเทศนาอยู่ ตัวพระเองอาจบรรลุถึงธรรมก็ได้ ถ้าส่งใจไปตามกระแสธรรมที่ตนแสดงจนเกิดสมาธิและปัญญา ขณะที่เรากำลังถูบ้านถูไปถูมา เราคิดถึงจิตของตนว่า ถ้าจิตของเรามีการขัดถูให้สะอาดอย่างบ้านเรือน จิตอาจปลอดจากกิเลส หรือขณะตัดผม จะเป็นช่างตัดผม หรือเอาผมไปให้ช่างตัด อาจจะอาศัยอาการอย่างนี้ เพื่อตัดกิเลสตัดทุกข์ได้
พุทธวจนะคำสอนของพระพุทธองค์มีมากถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ตามที่ท่านกำหนดไว้แต่ละหมวดแต่ละข้อ หรือแต่ละขันธ์ ล้วนแต่เป็นของดี ท่านโบราณาจารย์เคยปฏิบัติได้รับผลสำเร็จมาแล้วทั้งนั้น จึงได้รวมตั้งไว้เป็นปริยัติเพื่อเป็นบทศึกษาแก่อนุชนสืบมา

ธรรมเป็นของดีแล้ว แต่เราปฏิบัติดียังไม่พอที่จะเป็นรากฐานให้เกิดธรรมของดีได้ มรรค ๘ ผล ๔นิพพาน๑ เป็นของผู้ปฏิบัติที่มีสัมมาสมาธิเป็นรากฐาน อริยสัจธรรมทั้งสี่ คือ ทุกข์๑ สมุทัย๑ นิโรธ๑ มรรค๑ เป็นวิชาของสัมมาสมาธิอย่างถูกต้อง ทุกข์ ทั้งหลาย มีชาติทุกข์เป็นต้นมีอยู่ แต่ผู้ที่จะเข้าไปรู้แจ้งเห็นจริงในทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นไม่มี สมุทัย มีความทะยานอยากในความใคร่เป็นต้นมีอยู่ แต่ผู้ที่จะเห็นโทษในสมุทัยันั้นแล้วละเสียไม่มี นิโรธ คือความเข้าไปดับซึ่งราคะธรรมเป็นต้นมีอยู่ แต่ผู้จะเข้าไปดับไม่มี มรรค มีองค์ ๘ ประการ อันเป็นทางยังผู้ดำเนินตามแล้วให้พ้นทุกข์ได้มีอยู่ แต่ผู้จะดำเนินตามไม่มี ทางจึงเป็นทางว่างหาผู้สัญจรไม่มี ก็เพราะขาดสัมมาสมาธิอันเป็นรากฐานที่มั่นคง
สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือสมาธิที่เจริญตามแนวของฌาน ๔ อันได้แก่
ปฐมฌาน มีองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
ทุติยฌาน มีองค์ ๓ คือ ปีติ สุข เอกัคคตา
ตติยฌานมีองค์ ๒ คือ สุข เอกัคคตา
จตุตถฌานมีองค์ ๒ คือ อุเบกขา เอกัคคตา
เราเจริญสมาธิเพื่ออะไร?
ก็เพื่อให้เกิดปัญญา รู้เห็นสภาวะสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง เพื่อให้ชีวิตเป็นอิสระ เบาสบายมากขึ้น มีภาระที่ต้องแบกด้วยความยึดมั่นถือมั่นน้อยลงๆ จนหมดสิ้น เพราะฉะนั้น ควรกระทำด้วยความตั้งใจจริง เพื่อให้เกิดผลแท้จริง
วิธีการเจริญสมาธิภาวนาของหลวงปู่เทสก์ มี ๒ วิธีด้วยกันคือ วิธีปล่อยวางอารมณ์ กับวิธียกเอาอารมณ์ขึ้นมาพิจารณา ทั้งสองวิธีนั้นมีคำอธิบายว่า
๑) เราปล่อยวางอารมณ์ทั้งหมด ไม่ให้มีอะไรเหลืออยู่ที่ใจ พร้อมๆ กับอัดลมหายใจเข้าไปแล้วปล่อยวางลมหายใจออกมา แล้วตั้งสติกำหนดเอาผู้รู้ จะไปตั้งอยู่ตรงไหนแล้วแต่ความถนัดของตน แบบนี้ทำได้ง่ายสบายแต่ไม่มีหลักหนักแน่น ได้ชั่วขณะหนึ่งแล้วก็ส่งส่ายไปตามอารมณ์ที่ตนชอบเสีย

๒)ให้หยิบเอาอารมณ์อันใดก็ได้ ซึ่งมันเป็นอารมณ์ที่มันเคยทำความกระเทือนใจให้เราเกิดความสลดสังเวช จิตของเราเคยไปจดจ่ออยู่เฉพาะในเรื่องนั้นมาแล้ว เช่นเราเคยพิจารณาเห็นโทษทุกข์ในความเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย เป็นต้น เรายกเอาเรื่องนั้นขึ้นมาพิจารณาค้นคว้าทบทวนกลับไปกลับมา ไม่ให้จิตแลบออกไปจากเรื่องนั้น จนเข้าไปรู้เรื่องความเป็นอยู่เป็นมาและเป็นไปของเรื่องนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วจะเกิดมีอาการ ๓ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา ณ ที่นั้นอย่างแปลกประหลาด คือความชัดเจนแจ่มแจ้ง อันมิใช่เกิดแต่ความนึกคิดคาดคะเน และได้สดับศึกษามาจากคนอื่น แต่มันเป็นความรู้ที่จัดเจนอันประกอบด้วยปีติปราโมทย์ ที่เกิดเองเป็นเอง อันใครๆ จะแต่งเอาไม่ได้๑
มิฉะนั้น จิตก็จะหดตัวเข้าไปนิ่งสงบเฉยอยู่ โดยไม่คิดอะไร แม้แต่ความคิดที่คิดค้นอยู่นั้น ก็พักหมด๑
บางทีสงบนิ่งเข้าไปอยู่ในที่แห่งหนึ่งเฉพาะจิตอย่างเดียว บางที่ก็รู้อยู่เฉพาะตัว แต่ความรู้อันนั้น มิใช่รู้อย่างอย่างที่เราจะพูดกันถูก หรือบางที่ก็ไม่รู้ตัวเสียเลย คล้ายๆกับหลับที่เรียกว่าจิตเข้าภวังค์ อาการเหล่านั้นใครๆจะทำเอาไม่ได้ แต่เมื่อภาวนาถูกต้องดังแสดงมาแล้ว มันก็จะเกิดขึ้นมาเอง๑
อาการทั้งสามอย่างนี้มิใช่จะเกิดเหมือนกันหมดทุกๆคน และทุกๆอาการก็หาไม่ บางคนก็เป็นและครบ บางคนก็เป็นอย่างสองอย่าง เรื่องของการภาวนานี้พิสดารมากหากจะนำมาพรรณาไว้ ณ ที่นี้ จะเป็นหนังสือเล่มเขื่องเล่มหนึ่ง ที่แย้มให้เห็นเพียงเล็กน้อยนี้ก็เพื่อแนะให้ทราบว่าผู้ภาวนาเป็นแล้วจะเป็นไปอย่างนั้น
แบบที่ ๒ ที่ให้หยิบยกเอาความเกิด-แก่-เจ็บ-ตายขึ้นมาพิจารณานี้ เป็นการหัดสมถะและวิปัสสนาไปในตัว ถ้าผู้ที่มีนิสัยวาสนาแล้วเป็นไปได้รวดเร็ว ถ้านิสัยพอประมาณได้ปานกลาง บางทีก็จะหนักไปทางสมถะ จิตเข้าหาความสงบ มีอาการสองหย่างดังแสดงมาแล้ว ถึงอย่างไรการพิจารณาอย่างนี้ย่อมมีอานิสงส์มาก เพราะพิจารณาให้เห็นสภาวะเป็นจริง ถึงไม่ได้ปัญญาขั้นละเอียด แต่ก็ยังรู้เท่าเข้าใจตามความเป็นจริงแล้วค่อยๆ ถอนวางจากอุปทานลงได้โดยลำดับ

การยกเอาความเกิด-แก่-เจ็บ-ตายขึ้นมาพิจารณานี้ เป็นอุบายของการภาวนาโดยแท้ อย่าได้สงสัยว่าเราไม่ได้ภาวนา อุบายภาวนา คือการที่หยิบยกเอากัมมัฏฐานบทใดบทหนึ่งขึ้นมาพิจารณาเมื่อจิตแน่วแน่ลงสู่อารมณ์อันเดียวจนเข้าเป็นภวังค์ เรียกว่าจิตเข้าถึงภาวนาแล้ว ฉะนั้นการที่เรายกเอาความเกิด-แก่-เจ็บ-ตายขึ้นมาพิจารณาจิตของเราจะจดจ่ออยู่ในเรื่องนั้นอย่างเดียว เรียกว่าเรากำลังเจริญภาวนาอยู่แล้ว ขอให้ยินดีพอใจในจิตของตนที่เป็นอยู่นั้นเถิด จิตก็จะได้แน่วแน่และเกิดปีติปราโมทย์จนละเอียดลงไปโดยลำดับ ผู้ไม่เข้าใจภาวนามักจะสงสัยไปต่างๆนาๆ แล้วก็ปรุงแต่งไปว่า ภาวนาจะต้องเป็นอย่างนั้น เห็นอย่างนี้ แล้วจัดระดับชั้นภูมิของตนๆ ไว้ก่อนภาวนา เมื่อจิตไม่เป็นไปตามสังขาร ก็เลยฟุ้งซ่านเกิดความรำคาญ สังขารเป็นผู้ลวง จะไปแต่งภาวนาไม่ได้ โดยเฉพาะแล้วสังขารเป็นอุปสรรคแก่การภาวนาอย่างยิ่ง ฉะนั้น เมื่อยังละสังขารไม่ได้ตราบใดแล้ว ไม่มีหวังจะได้ประสบรสชาติของการภาวนาเลย ที่สุดการฟังเทศน์หรือยกอุบายใจขึ้นมาพิจารณาก็ไม่เป็นผล มีแต่ความลังเลใจ ธรรมทั้งหลาย ๘๔,๐๐๐พระธรรมขันธ์ก็จะไม่มีคุณค่าแก่เขา แม้เท่าที่เขาได้ส่ายตาไปมองดูรูปที่สวยๆ ขณะแวบเดียว ผู้ที่ท่านช่างคิดค้นหาข้อเท็จจริงทั้งหลาย ท่านไม่ใช้สัญญาออกหน้า แต่ท่านใช้เหตุผลและปรากฏการณ์เฉพาะเพาะหน้าเข้าค้นคว้าพิจารณา จึงได้ผลสมประสงค์ ธรรมหรือวิธีเจริญกัมมัฏฐานมิใช่ของมีโครงการอะไร ขอแต่ให้หยิบยกเอาเหตุผลหรือสิ่งปรากฏการณ์นั้นๆ มาพิจารณาให้เข้าถึงหลักของจริงก็เป็นอันใช้ได้ ที่มีพิธีรีตองและโครงการมากๆ นั้น ล้วนแล้วแต่ว่าตามความจริงจากท่านที่ท่านได้ทำสำเร็จมาแล้วทั้งนั้น
ฉะนั้น ยิ่งนานและมีผู้ค้นพบของจริงมากเข้าเท่าไร วิธีและโครงการหรือตำราก็ยิ่งมากขึ้น จนผู้ศึกษาภายหลังทำตามไม่ถูก ก็เลยชักให้สงสัย บางคนพาลหาว่าตำราไม่ได้เรื่องอย่างนี้ก็มี ถ้าหากทำตามดังแสดงมาแล้ว คือยกเอาของจริง เช่น เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ขึ้นมาพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริง จนเกิดเป็นภาวนาสมาธิขึ้นมาแล้ว โครงการหรือวิธีทั้งหลายแหล่จะมากสักเท่าไร ก็เป็นแต่เพียงกระจกเงาเท่านั้น หาใช่ตัวจริงไม่ ด้วยเหตุนี้สาวกของพระพุทธองค์จึงได้สำเร็จมรรคด้วยอุบายแปลกๆ ไม่เหมือนกัน

ขนาดแสงไฟในดวงเทียนจะมีธรรมอะไร ใครๆ เขาก็ใช้กันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ไม่เห็นจะวิเศษวิโสได้สำเร็จมรรคผลอะไร แต่ภิกษุณีชื่อ ปฏาจารา จุดเทียนบูชาในวิหาร แล้วเพ่งดูแสงเทียน ยึดเอาอาการแสงเทียนพลุ่งขึ้นด้วยกำลังแรงไฟ แล้วย่อยยับๆ ลงมาด้วยความอ่อนกำลังของมันเอง อยู่อย่างนั้นเป็นอารมณ์ น้อมเข้ามาเทียบกับอายุขัยและวัยในอัตภาพของตน จนเห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในสังขารทั้งหลาย ที่สุดจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์เพราะไฟนั้นนี้เป็นตัวอย่าง ท่านยกเอาแสงเทียนขึ้นมาพิจารณา เห็นเป็นของไม่เที่ยงตามลักษณะที่มันพลุ่งขึ้นแล้งย่อยยับหดตัวลงตามเป็นจริง แล้วหมดความลังเลสงสัยในธรรมทั้งปวง ธรรมอื่นๆ ไม่ต้องไปตามพิจารณา แต่มันมาปรากฏชัดในที่แห่งเดียวแล้ว
บัณฑิตสามเณรลูกศิษย์ของท่านพระสารีบุตร เห็นเขาไขน้ำให้มันไหลไปตามนา ท่านนำมาพิจารณาว่า น้ำเป็นของไม่มีจิตใจ แต่ก็ไหลไปตามนาได้ตามประสงค์ จิตของเราเมื่อทรมาณให้อยู่ในอำนาจก็จะทำได้ เห็นเขาถากไม้ดัดลูกศร เขาหลิ่วตาข้างเดียวดูที่คดที่ตรง ท่านก็นำมาพิจารณาว่า ผู้ฝึกจิตถ้าทำจิตให้มีอารมณ์หลายอย่าง ก็จะสงบไม่ได้และไม่เห็นสภาพของจิตตามเป็นจริง ถ้าทำจิตให้ดิ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้ว จิตก็มีกำลังเบ่งรัศมีแห่งความสว่างออกมาเต็มที่ มองสภาพของจิตตามเป็นจริงได้ ว่าอะไรเป็นจิต อะไรเป็นกิเลส อะไรเป็นของควรละ ผลที่สุดท่านก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์เพราะอุบายอันนั้น นี่แหละความละเอียดและเป็นธรรมมิใช่อยูที่อุบาย แต่อยูที่จิต อบรมถูกจนจิตเป็นภาวนาสัมมาสมาธิแล้ว อุบายทั้งหลายที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณานั้น ไม่ว่าหยาบและละเอียดก็จะได้ปัญญามีคุณค่าให้สำเร็จมรรคผลเป็นที่สุดเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นทุกๆ คนเมื่อเราหยิบยกเอาอุบายอันใดขึ้นมาพิจารณา เห็นชัดจนแจ่มแจ้งแล้ว แม้แต่ครั้งเดียวก็ตามขออย่าได้ทอดทิ้ง ให้นำเอาอุบายนั้นแหละมาพิจารณาอีก จิตจะเป็นอย่างที่เคยเป็นมาแล้วหรือไม่ก็ตาม ขอให้ทำเรื่อยไปจนชำนาญ
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การเจริญสมาธิควรกระทำจนเกิดความชำนิชำนาญ แคล่วคล่องว่องไว จะยกอุบายอะไรขึ้นมาพิจารณาก็ยกมาได้ทันที จะเข้าออกสมาธิก็ง่าย ทำให้สมาธิตั้งอยู่นานก็ได้ และเชี่ยวชาญในการกำหนดรู้อารมณ์ของสมาธิเป็นอย่างดี
( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

ศีลเป็นเบื้องต้นของสมาธิ
การรักษาศีลมิใช่เป็นของยากลำบากและเป็นการหนักอกหนักใจอะไร ทั้งไม่น่าเกลียดและขายขี้หน้าอีกด้วย เพราะการรักษาศีลก็คือการงดเว้นจากการทำชั่วนั่นเอง งดเว้นจากการทำชั่วมากเท่าไร ก็เรียกว่าได้รักษาศีลมากเทานั้น คนที่ไม่งดเว้นจากการทำชั่วนั้นเสียอีกเป็นผู้ที่น่าตำหนิและอับอายมาก ถึงคนอื่นเขาไม่ว่าอะไรตัวของเราเองก็ตำหนิและร้อนใจเราเองอยู่เสมอ เพราะเห็นความชั่วของตัวเองอยู่แล้ว
เช่นชาวประมงนั่นซิเขาลำบากสักหน่อย เมื่อไม่ทำก็ไม่มีอันจะกิน แต่ถึงขนาดนั้น หากเขาเห็นโทษของการไม่มีศีล เกิดศรัทธาเลื่อมใสในการรักษาศีลแล้ว เขาก็สามารถทำได้ เรื่องเช่นนี้เคยมีตัวอย่างมามากต่อมากแล้ว อาชีพของคนเกิดมาในโลกนี้ มิใช่ยมบาลจะจำกัดให้พวกประมงทำแต่บาปอย่างเดียว ยมบาลก็เป็นผู้ยุ่งเพราะสอบสวนพวกนี้อยู่แล้ว ขออย่างเดียวแต่ให้เห็นโทษของการไม่มีศีล แล้วงดเว้นจากโทษนั้นๆ ก็เป็นพระได้เท่านั้นแหละ การไม่ล่วงละเมิดศีลในข้อนั้นๆ เพราะไม่จำเป็น เช่นเรามีอันอยู่อันกินมีผู้เลี้ยงดูสุขสมบูรณ์ ไม่ต้องไปหาฆ่าสัตว์ลักทรัพย์เขามาเลี้ยงชีพ แต่เราไม่ตั้งเจตนางดเว้นศีลในข้อนั้นๆ ก็ไม่จัดว่ารักษาศีล เพราะศีลเกิดจากการงดเว้น ฉะนั้นผู้ที่ทำปานาติบาตมากอยู่แล้ว เมื่องดเว้นได้ มารักษาศีลจึงได้ชื่อว่า"รักษาศีลบนกองบาป"เป็นของมหัศจรรย์มาก ส่วนผู้ไม่ละเมิดศีลเพราะไม่จำเป็นดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ตั้งใจรักษาศีลเพราะความสุขเป็นสิ่งที่น่าเสียดายได้ชื่อว่า"เสวยสุขในกองคูถ" แต่ถ้าเขามีปัญญารู้ตัวว่าเขาได้รับความสุขเช่นนั้นเพราะกุศลหนหลังส่งผลให้และเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้บำเพ็ญความดี มีการรักษาศีลเป็นต้น แล้วตั้งใจงดเว้นจากบาปนั้นๆ ถึงแม้เขาไม่จำเป็นต้องระวังศีล เพราะเขาไม่มีโอกาสจะทำเช่นนั้นก็ตาม แต่เขามาภูมิใจ เพราะบุญของเขาอำนวยให้ แล้วตั้งใจงดเว้นให้บริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ได้ชื่อว่าเขา "สร้างบุญกุศลบนกองเงินกองทอง" เป็นของหาได้ยากแท้ ศีลเป็นของรักษาได้ง่าย ถ้าเป็นผู้เห็นโทษในการทำบาปจริงๆ และเมื่องดเว้นจากโทษ๕ โทษ๘ ประการดังพระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ ตัวของเขาก็เป็นพระขึ้นมาทันที ถึงมิใช่พระอริยเจ้าผู้ไกลจากกิเลสอย่างท่าน แต่ก็เป็นพระไกลจากกิเลส ๕ ข้อ ๘ ข้อ ก็ยังนับว่าดีเลิศอยู่แล้ว


ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=31116

935
สุดยอดเลยครับพี่เอ็กซ์ แหม่ฝากกันไปมา ฝากกันมา  ทำให้ได้ชมของดีๆเพียบเลย  :015:

สวยทุกองค์ ทุกรุ่นครับ


936
ยันต์นะ มี 108 ขึ้นอยู่กับรูปแบบและครูบาอาจารย์ จะผูกยันต์นั้นขึ้นมา ซึ่งแต่ละสำนักอาจไม่เหมือนกัน

โดยส่วนมาก จะเป็นอักขระขอม ตัวนะ แต่รูปแบบอาจแตกต่างกันออกไป แต่จริงๆ ก็คืออักขระตัว นะ นั้นแหละ
ส่วนจะเป็นนะอะไรนั้นก็แล้วแต่ รูปแบบของยันต์ ซึ่งครูบาอาจารย์ผูกขึ้นมา และมีความหมายต่างกันออกไปตามแต่ละสายวิชา

บางทียันต์ นะฉิมพลี  รูปแบบแต่ละสำนักไม่เหมือนกัน อยู่ที่การเสกด้วยแต่ละสำนักก็อาจจะเสกไม่เหมือนกัน แต่ก็ใช้ในทางเดียวกันพุทธคุณคล้ายๆกันประมาณนี้ครับ

แต่ถ้าจะเสกยากครับ ขึ้นอยู่ว่าได้เรียนมาถูกต้อง ถูกวิธี หรือป่าว เพราะการเสกไม่ใช่ง่ายๆ อาจจะเขียนง่ายๆแต่เสกยากก็มี อิอิ
หรือท่อง 3-4 คำ ใช้ได้และ แต่ควรมีครูบาอาจารย์แนะนำให้ถูกวิธีดีสุดครับ

937
ก็ดื่มนิดหน่อยให้เป็นธรรมเนียมแล้วกันครับ ละเว้นได้ หลีกได้ก็จะเป็นการดี

หากไม่สะดวกจริงๆจำเป็นต้องดื่ม ก็อย่าดื่มจนเมาไม่ได้สติ ซึ่งเมามากๆ

อาจจะนำพาให้ผิดศีลข้ออื่นๆเพื่มเติม แต่ที่แน่ๆเลย ทำให้เสียสุขภาพแน่นอน

ส่วนว่าของจะเสื่อมหรือไม่ ถ้ามีโอกาสไปวัดก็ให้ไปหาหลวงพี่ท่าน เป่าครอบให้ได้ครับ

และในชีวิตประจำวันก็ขยัน สร้างบุญกุศล ทำทาน แผ่เมตตา สวดมนต์ บ่อยๆ จะดีมากครับ   02;



ตามนั้นเลยครับ เห็นด้วยทุกประการ

938
การเดินจงกรม คือการเดินภาวนา เพื่อเป็นอุบายให้สงบใจ เดินกลับไปกลับมาพร้อมกับกำหนดคำบริกรรมภาวนาเหมือนวิธีการนั่งสมาธิ คำอธิษฐานก็ใช้แบบเดียวกัน เปลี่ยนแต่ตรงคำว่า “นั่งสมาธิภาวนา” เป็น “เดินจงกรมภาวนา” เวลาจะเดินจงกรม ให้กำหนดทิศทางที่จะเดิน แล้วไปยืนตรงต้นทาง ยกมือประนมขึ้นระหว่างคิ้วกล่าวคำอธิษฐาน ครั้นจบแล้ววางมือลง เอามือขวาทับมือซ้ายวางทาบไว้ใต้สะดือ ทอดตาลงเบื้องต่ำไม่แลซ้ายแลขวา ทำท่าสำรวมกาย ก้าวเดินขาขวาบริกรรมคำภาวนาว่า “พุท” ก้าวเดินขาซ้ายบริกรรมคำภาวนาว่า “โธ” บริกรรมภาวนา “พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ๓ หนแล้ว ให้กำหนดเอาคำบริกรรมภาวนาว่า “พุทโธ” แต่เพียงคำเดียว ครั้นพอถึงปลายทางที่เรากำหนดไว้แล้ว หมุนตัวกลับไปทางขวามือ เดินภาวนากลับไปกลับมา การกำหนดคำบริกรรมภาวนานั้น จะกำหนดอยู่ที่เท้าเวลาเดินก็ได้ หรือกำหนดไว้ในใจก็ได้ตามชอบ ไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับแต่ประการใด


ส่วนการกำหนดทิศทางเดินจงกรมนั้น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต องค์ท่านกล่าวไว้ว่า “ทางเดินจงกรมตามที่ท่านกำหนดรู้ไว้ และปฏิบัติตามเรื่อยมานั้นมีสามทิศด้วยกัน คือตรงไปตามแนวตะวันออก – ตะวันตกหนึ่ง ไปตามแนวทิศตะวันตกเฉียงใต้หนึ่ง และไปตามแนวตะวันออกเฉียงเหนือหนึ่ง การเดินจงกรมก็เดินไปตามแนวทั้งสามที่กำหนดไว้ในแนวใดแนวหนึ่ง

ความสั้นยาวของทางจงกรมแต่ละสายนั้น ท่านว่าตามแต่ควรสำหรับรายนั้นๆ ไม่ตายตัว กำหนดเอาเองได้ตามสมควร แต่อย่างสั้นท่านว่าไม่ควรให้สั้นกว่าสิบก้าว สำหรับเวลาอยู่ในที่จำเป็นหาทางเดินมิได้” “การเดินไม่พึงเดินไกวแขน ไม่พึงเดินเอามือขัดหลัง ไม่พึงเดินเอามือกอดอก ไม่พึงเดินมองโน้นมองนี้อันไม่เป็นท่าสำรวม”


การนั่งสมาธิภาวนา หรือการเดินจงกรมนั้น เราจะทำที่ไหนก็ได้ ที่วัด ที่บ้าน ในที่ทำงาน ในร้านอาหาร ในช๊อปปิ้งมอลล์ ทำการทำงานทุกสิ่งทุกอย่าง ทำภาวนาได้ทั้งนั้น มีสติระลึกขึ้นมาได้ก็กำหนด “พุทโธ” ทันทีเลยไม่ต้องรอให้เสียเวล่ำเวลา ก้าวขาขวา “พุท” ก้าวขาซ้าย “โธ” เรียกว่าภาวนาได้ทุกเมื่อไม่มีกาลเวลา จึงสมดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “อกาลิโก” ไม่มีกาล ไม่มีเวลา ไม่มีฤดู ทำได้เสมอ


ขอจบลงด้วยโอวาทธรรมของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร “เมื่อเหล่าท่านทั้งหลายได้พากันสดับตรับฟังแล้ว ในโอวาทศาสนีย์ธรรมะคำสั่งสอนนี้ ซึ่งแสดงโดยย่นย่อพอเป็นเครื่องปฏิบัติ ประดับสติปัญญาบารมีของท่านทั้งหลาย ให้พากันโยนิโสมนสิการ กำหนดจดจำ นำไปประพฤติปฏิบัติฝึกหัดตนของตน ให้เป็นไปในศีล เป็นไปในธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว แต่นี้ต่อไป พวกท่านทั้งหลายจะประสบแต่ความสุข ความเจริญงอกงาม ดังได้แสดงมา เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้”


ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jit-apinya&month=10-10-2009&group=5&gblog=2
หากเคยมีคนมาลงแล้วก็ขออภัยด้วยครับ

939
ธรรมะ / เกี่ยวกับการตามดูจิต ..
« เมื่อ: 27 พ.ค. 2553, 03:47:31 »


พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ถาม - ดูจิตอย่างไรจึงจะเป็นวิปัสสนาคะ

ถ้ามีสติจริงๆ นะ สมาธิจะเกิดอัตโนมัติได้ด้วย
เพราะเมื่อไรจิตเราฟุ้งซ่าน เรามีสติรู้ทันนะ
ความฟุ้งซ่านจะดับ จิตจะตั้งมั่นขึ้นมา ได้สมาธินะ
เพราะฉะนั้นดูจิต ดูจิต ไป ได้สมาธิ
ทีนี้บางทีครูบาอาจารย์บางท่านก็บอก เอ๊ย ดูจิตเป็นสมถะนะ
ถูกของท่านนะ ดูจิตเป็นสมถะ ถูกของท่าน
แต่ถ้าดูเป็น ก็เป็นวิปัสสนาได้
ดูกายก็เป็นสมถะได้นะ ไม่ใช่ดูกายเป็นวิปัสสนา
ถ้าดูกายแล้วเห็นแต่กายเนี่ย ไม่เห็นไตรลักษณ์แล้วนะ สมถะละ
ดูจิตนะ พอเห็นจิตเราฟุ้งซ่าน เรารู้ทันนะ
จิตมันก็สงบเข้ามา ตรงนี้เป็นสมถะ

เพราะฉะนั้นมันเป็นวิปัสสนา จะขึ้นวิปัสสนาด้วยการดูจิตทำยังไง
พูดมาแล้วนะเรื่องศีล ใช่ไหม
มีสติรู้จิตเนี่ยศีลเกิด มีสติรู้จิตสมาธิเกิด
มีสติรู้จิตแล้วทำยังไงปัญญาจะเกิด
การจะเกิดปัญญาได้เนี่ย เราต้องค่อยๆ ฝึกแยกธาตุ แยกขันธ์ไป
แยกสิ่งที่เรียกว่าตัวเราออกเป็นส่วนๆ
เพราะฉะนั้นพอเรารู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว
อย่างเราดูจิตดูใจ เราเห็นจิตมีความโกรธเกิดขึ้น
เราค่อยๆ ดูไป เราจะเห็นเลยความโกรธเป็นสิ่งหนึ่งนะ
จิตที่เป็นคนรู้ความโกรธเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เนี่ยเป็นการแยกขันธ์ออกไปนะ
ความสุขเกิดขึ้น เรารู้ทันนะ มีสติรู้ทันนะ จิตตั้งมั่นอยู่ จิตตั้งมั่น
แต่ถ้ามีสติรู้ทันแต่จิตไม่ตั้งมั่น มันจะไปเพ่ง
ถ้ามีสติรู้ทันนะ จิตตั้งมั่น เป็นแค่ผู้รู้ผู้ดูอยู่
จิตมีสัมมาสมาธิหนุนหลังอยู่ มันถึงจะเดินปัญญา
มันจะแยกธาตุแยกขันธ์ได้
ความสุขเกิดขึ้น จิตตั้งมั่นอยู่ สติรู้ความสุขที่เกิดขึ้น ในขณะที่จิตตั้งมั่นอยู่เนี่ย
มันจะเห็นทันทีว่าความสุขกับจิตเนี่ยเป็นคนละอันกัน
ความสุขกับจิตก็คนละอันกัน
ถ้าสติระลึกรู้ร่างกาย แล้วจิตตั้งมั่นอยู่นะ
มันจะเห็นว่าร่างกายก็อยู่ส่วนหนึ่ง จิตก็อยู่ส่วนหนึ่ง เป็นคนละอันกัน
เนี่ยมันจะค่อยๆ แยกนะ ร่างกายก็ส่วนหนึ่ง จิตก็ส่วนหนึ่ง
เวทนาคือความรู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ รู้สึกเฉยๆ ก็ส่วนหนึ่ง
จิตก็อยู่อีกส่วนหนึ่งนะ
กุศลอกุศลทั้งหลาย เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง
หรือสภาวะธรรมที่เป็นกลางๆ ทั้งหลาย
ความปรุงแต่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นมา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง
จิตที่เป็นคนรู้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง
มันจะแยกจิตออกจากสิ่งอื่นๆ แยกจิตออกจากกาย แยกจิตออกจากเวทนา
แยกจิตออกจากจิตสังขารที่เป็นกุศลอกุศล หรือเป็นกลางๆ
จิตจะแยกตัวออกมา

พอขันธ์มันแยกตัวออกไปแล้วเนี่ย สิ่งที่จะเห็นได้ชัดก็คือ
ขันธ์แต่ละขันธ์แต่ละกองที่แยกออกไปนั้น ไม่ใช่ตัวเรา
จะเห็นทันทีนะ ไม่ใช่ตัวเรา
อย่างพอเรามีสติขึ้นมา รู้ร่างกายอยู่ในขณะนั้นจิตตั้งมั่นอยู่
มันจะเห็นว่าจิตอยู่ส่วนหนึ่ง กายอยู่ส่วนหนึ่ง
ปัญญามันจะเกิด มันจะเห็นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวเรา
ถ้าสติระลึกรู้เวทนา เช่น ความสุขเกิดขึ้น จิตมันตั้งมั่นขึ้นมา
จิตตั้งมั่นขึ้นมา มันจะเห็นว่าเวทนาอยู่ส่วนหนึ่ง
จิตอยู่ส่วนหนึ่ง เวทนาไม่ใช่ตัวเรา
ถ้าโทสะเกิดขึ้นมา สติระลึกรู้โทสะที่เกิดขึ้น
จิตตั้งมั่นเป็นแค่ผู้รู้ผู้ดูอยู่ มันจะเห็นว่าโทสะอยู่ส่วนหนึ่ง
จิตอยู่อีกส่วนหนึ่ง โทสะไม่ใช่ตัวเรา
นี่มันจะเห็นลงไปเรื่อย แล้วเห็นว่าไม่มีเราในขันธ์ทั้งหลาย
เนี่ยคือการเจริญปัญญานะ






ถาม - หัดเจริญปัญญาอย่างไรจึงจะแยกขันธ์ได้ครับ

การหัดเจริญปัญญา ขั้นแรกก็แยกขันธ์ออกไปก่อน
อย่างโทสะกะจิตนี่คนละอันกัน
โทสะนี่เรียกว่าสังขารขันธ์ จิตเป็นวิญญาณขันธ์นะ
ร่างกายก็ส่วนหนึ่ง ร่างกายเป็นรูปขันธ์ จิตเป็นวิญญาณขันธ์
เวทนาก็เป็นอีกขันธ์หนึ่ง เรียกเวทนาขันธ์นะ จิตเป็นวิญญาณขันธ์
ถ้าแยกออกไปแล้วเนี่ย มันจะเริ่มเห็นความจริง
ว่าขันธ์แต่ละขันธ์ที่แยกออกไปแล้ว ไม่ใช่ตัวเราหรอก
พวกเราที่หัดภาวนากับหลวงพ่อนะ สังเกตไหมไม่นานก็แยกขันธ์ได้
ถ้าไม่มีการแยกขันธ์ อย่าพูดเรื่องเจริญปัญญา อย่าพูดเรื่องวิปัสสนา
วิปัสสนาคือการเห็นความเกิดดับ เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์นั้นเอง
ถ้าขันธ์ยังไม่แยกตัวออกไป ยังเป็นก้อนเดียวกันอยู่นะ
มันจะไม่เกิดวิปัสสนาตัวจริงหรอก

ทำไมต้องแยกออกไป
เพราะวิธีศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านเรียกว่าวิภัชวิธี
ว.แหวน สระอิ ภ.สำเภา ไม้หันอากาศ ช.ช้าง "วิภัช"
วิภัช แปลว่า แยก
แยกอะไร แยกสิ่งที่เรียกว่าตัวเราออกเป็นส่วนๆ
แยกออกได้ ๕ ส่วน ก็เรียกว่าขันธ์ ๕
บางทีแยกอีก อีกอะไร อีกแบบหนึ่ง แยกเป็น ๖ ส่วน เรียกอายตนะ ๖
ความจริงก็คือขันธ์ ๕ เหมือนกันแหละ แต่แยกไปอีกสไตล์หนึ่ง
หรือแยกอีกแง่มุมหนึ่ง อีกมิติหนึ่ง แยกเป็นธาตุ ธาตุ ๑๘ ธาตุ
ขันธ์ ธาตุ อายตนะ เนี่ยคือวิปัสสนาภูมินะ
คือสิ่งที่จะใช้เรียนทำวิปัสสนา
เพราะฉะนั้นบางคนเรียนเรื่องขันธ์ บางคนเรียนเรื่องธาตุ
บางคนเรียนเรื่องอายตนะ แต่ใจความก็อันเดียวกัน
คือการแยกสิ่งที่เรียกว่าตัวเราออกเป็นส่วนๆ
เพื่อจะได้เห็นว่าแต่ละส่วนนั้นก็ไม่ใช่ตัวเรา
สิ่งที่เรียกว่าตัวเรานั้นคือกายกับใจ คือขันธ์ ๕ ที่มารวมกัน
แล้วเราก็มีการเข้าไปหมายรู้ผิดๆ มีสัญญาเข้าไปหมายรู้ผิดๆ
เรียก "สัญญาวิปลาส" หมายรู้ผิดๆ ว่านี่คือก้อนนี่คือตัวเรา
วิธีที่จะทำลายความวิปลาสนี้คือหัดแยกขันธ์ไป
สติระลึกรู้กาย จิตตั้งมั่นขึ้นมาเป็นคนดู กายกับจิตก็แยกกัน
สติระลึกรู้เวทนา จิตตั้งมั่นเป็นคนดู เวทนากับจิตก็แยกกัน
สติระลึกรู้สังขาร จิตตั้งมั่น สังขารกับจิตก็แยกกัน คนละอันกัน
เนี่ยจะแยกอย่างนี้ พอมันแยกไปนานๆ แล้วแต่ละอันจะไม่ใช่เรา
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะ มีรถยนต์หนึ่งคัน
เราเห็นว่ารถยนต์นั้นมีจริงๆ รถยนต์มีจริงๆ
ถ้าเรียนแบบชาวพุทธนะ เราจะถอดรถยนต์ออกเป็นชิ้นๆ
นี่พวงมาลัยนะ นี่เกียร์ นี่เบรค นี่คันเร่ง นี่กันชน
นี่ตัวถัง นี่ช่วงล่าง นี่คลัชนะ นี่แยกๆ แยกๆ ไป
คลัชไม่ใช่รถยนต์ใช่ไหม ตัวถังไม่ใช่รถยนต์
เบาะไม่ใช่รถยนต์ โช้คไม่ใช่รถยนต์ กันชนไม่ใช่รถยนต์
วิทยุก็ไม่ใช่รถยนต์ เบาะก็ไม่ใช่รถยนต์นะ

เนี่ย พอแยกๆ แยกออก ไปนะ ก็จะพบว่ารถยนต์ไม่มีจริง
รถยนต์เป็นสิ่งซึ่งหลายอย่างๆ มาประกอบกันขึ้นมา
แล้วเราก็หมายเอาว่านี่คือรถยนต์
ตัวเราจริงๆ ก็ไม่มี มันคือขันธ์ที่มาประกอบกันขึ้นมา
คืออายตนะที่มาประกอบกันขึ้นมา คือธาตุที่ประกอบกันขึ้นมา
เรียนอันใดอันหนึ่งก็พอแล้ว ไม่ต้องเรียนหมดหรอก
เพราะฉะนั้นเรามาคอยดูไป ทำยังไงมันจะแยกออกไป
มันจะแยกออกไปได้ด้วยเครื่องมือสองอัน
อันหนึ่งฝึกมีสติขึ้นมา
อันหนึ่งฝึกให้มีสัมมาสมาธิ มีใจตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูขึ้นมา
การฝึกสติเนี่ยฝึกยังไง คอยหัดรู้สภาวะไปเรื่อย
ความโลภเกิดขึ้นรู้ทัน ความโกรธเกิดขึ้นรู้ทัน ความหลงเกิดขึ้นรู้ทัน
ความสุขความทุกข์เกิดขึ้นรู้ทัน ใจเฉยๆ ความเฉยๆ เกิดขึ้นก็รู้ทัน
ร่างกายหายใจออกก็รู้ ร่างกายหายใจเข้าก็รู้
ร่างกายยืน เดิน นั่ง นอน ก็รู้ นี่หัดรู้บ่อยๆ

หัดรู้บ่อยๆ นะ ต่อไปมันจะรู้โดยไม่ได้เจตนาจะรู้
นี้เรียกว่ามันมีสติขึ้นมา อย่างเราหัดรู้ความรู้สึกของตัวเองเรื่อยๆ นะ
คอยดูความรู้สึกตัวเองไปเรื่อย
เดี๋ยวโลภ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหลง เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์นะ
ต่อมาพอใครมาพูดขัดใจเรานิดเดียว ความโกรธเกิดนะ
สติจะเห็นเองเลยว่า โอ้ ใจนี้มันมีความโกรธผุดขึ้นมา
นี่วิธีฝึกให้มีสตินะ คือหัดรู้สภาวะไปเรื่อยๆ
ถ้าจิตมันจำสภาวะได้แม่นเมื่อไหร่ สติจะเกิดอัตโนมัติ
สติที่เกิดอัตโนมัติเป็นสติที่มีกำลังกล้า
สติที่ต้องจงใจให้เกิดนี่มีกำลังอ่อนนะ
เพราะฉะนั้นเราฝึกจนสติมันอัตโนมัติขึ้นมา
อีกอันหนึ่งเราเรียนเรื่องจิตสิกขา
บทเรียนเรื่องจิตสิกขาเรียนเพื่อให้จิตมีสัมมาสมาธิ จิตมีความตั้งมั่นนั่นเอง
ทีนี้เราชอบมั่ว บางทีได้ยินคำว่าจิตสิกขา คิดว่าเป็นเรื่องเข้าฌานอย่างเดียว
นั่งจะทำฌานอย่างเดียว วัตถุประสงค์ไม่ได้มุ่งทำฌาน
วัตถุประสงค์จริงๆ จะให้จิตเกิดสัมมาสมาธิ ตั้งมั่นขึ้นมา
ส่วนจะตั้งมั่นถึงระดับฌานหรือไม่
เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ แต่จิตต้องตั้งมั่น

ขอบคุณที่มาจากเวป http://www.dharmamag.com/ หากมีคนเคยนำมาลงแล้วก็ขออภัยดว้ยนะครับ

940
ขอบคุณครับ ความคิดเห็นของผม คาถาบทใดก็แล้วแต่ ถือเป็นคำภาวนาให้จิตสงบ เมื่อจิตถึงในระดับนึงคำภาวนาก็จะหายไปเอง
พระคาถาแต่ละบท ล้วนเป็นคำประพันชนิดหนึ่ง ที่ครูบาอาจารย์ท่านแต่งขึ้นมา ถูกปะหละครับ หรือมีมาแต่ก่อน ถูกที่แต่งขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
นะเมตตา ก็เพื่อให้คนที่ท่องมีจิตใจไปทางนั้น
เช่นอุทธังอัดโธ เมืออ่านแล้วท่องแล้ว อ่อ มหาอุดนี่เอง แต่จริงๆ ถ้าแปล ความหมายคนละเรื่องเลย
หรือแม้แต่บทอิติปิโส จริงๆเป็นสรรเสริญ แต่ทำไม พระเกจิอาจารย์ท่านใช้ ได้หลายแบบหละครับ ให้เป็นเมตตาก็ได้ แคล้วคลาดก็ได้
หลวงพ่อที่ผมถามเอง ท่านก็ใช้บทคาถากับกรรมฐานหรือสามธิในการเสกทั้งนั้น

อุดธังอัดโธ โธอุดทังอัด  แล้วจะเรียง สลับไปมา แค่เนี้ย วนไปมาๆ ก็เป็นหมาอุดได้และ เป็นอุบายเพื่อให้จิตสงบครับ แล้วแต่ระดับ เป็นปิติ  หรือเข้าปฐมญาณ หรือไปแต่ละระดับ
แต่ละบท ถ้าคุณมาถอดความหมายก็พระรัตนตรัยทั้งนั้น เป็นคำนสอนบ้าง
ดูอย่างคาถาไล่ผี ที่แปลมาให้เณรไปยืนหน้าประตู ก็ขลังและ


แต่คาถา ต้องใช้แรงครู  แรงครู คืออะไร อะไรคือแรงครู อิอิ บางบทเราใช้เองไม่ได้ต้องให้เจ้าของอนุญาติก่อน ต้องทำตามพิธีการถูกต้อง
ซึ่งบางบทจะมีเกี่ยวกับเทพด้วยนะครับ

เอาเป็นว่าคาถาแต่ละบทท่องไปเถอะครับ ท่องแล้วจิตใจสงบไม่สงสัยไม่แครงใจ ก็ขลังทั้งนั้นหละครับ

ส่วนการสวดมนต์ก็จะแยกครับ 1.เพื่อให้จิตไม่ฟุ้งซ่าน 2. ถ้าแปล เพื่อสรรเสริญ หรือ ก็จะเป็นคำสอน  หรือการขอบารมี หรืออัญเชิญ แล้วแต่ละบทไป หรือเป็นการแผ่ เมตตา

ขออภัยครับ กดแก้ไข ดันเป็นกดอ้างข้อความมาซะงั้น

941
ขอบคุณครับ ความคิดเห็นของผม คาถาบทใดก็แล้วแต่ ถือเป็นคำภาวนาให้จิตสงบ เมื่อจิตถึงในระดับนึงคำภาวนาก็จะหายไปเอง
พระคาถาแต่ละบท ล้วนเป็นคำประพันชนิดหนึ่ง ที่ครูบาอาจารย์ท่านแต่งขึ้นมา ถูกปะหละครับ หรือมีมาแต่ก่อน ถูกที่แต่งขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
นะเมตตา ก็เพื่อให้คนที่ท่องมีจิตใจไปทางนั้น
เช่นอุทธังอัดโธ เมืออ่านแล้วท่องแล้ว อ่อ มหาอุดนี่เอง แต่จริงๆ ถ้าแปล ความหมายคนละเรื่องเลย
หรือแม้แต่บทอิติปิโส จริงๆเป็นสรรเสริญ แต่ทำไม พระเกจิอาจารย์ท่านใช้ ได้หลายแบบหละครับ ให้เป็นเมตตาก็ได้ แคล้วคลาดก็ได้
หลวงพ่อที่ผมถามเอง ท่านก็ใช้บทคาถากับกรรมฐานหรือสามธิในการเสกทั้งนั้น

อุดธังอัดโธ โธอุดทังอัด  แล้วจะเรียง สลับไปมา แค่เนี้ย วนไปมาๆ ก็เป็นหมาอุดได้และ เป็นอุบายเพื่อให้จิตสงบครับ แล้วแต่ระดับ เป็นปิติ  หรือเข้าปฐมญาณ หรือไปแต่ละระดับ
แต่ละบท ถ้าคุณมาถอดความหมายก็พระรัตนตรัยทั้งนั้น เป็นคำนสอนบ้าง
ดูอย่างคาถาไล่ผี ที่แปลมาให้เณรไปยืนหน้าประตู ก็ขลังและ


แต่คาถา ต้องใช้แรงครู  แรงครู คืออะไร อะไรคือแรงครู อิอิ บางบทเราใช้เองไม่ได้ต้องให้เจ้าของอนุญาติก่อน ต้องทำตามพิธีการถูกต้อง
ซึ่งบางบทจะมีเกี่ยวกับเทพด้วยนะครับ

เอาเป็นว่าคาถาแต่ละบทท่องไปเถอะครับ ท่องแล้วจิตใจสงบไม่สงสัยไม่แครงใจ ก็ขลังทั้งนั้นหละครับ

942
ขอบคุณครับพี่บอล อลังการมากครับ สุยดอด .....

เพียบเลย อิอิ พี่ชายเราของดีเยอะจริงๆ  :015:

943
พระคาถา ใช้จิต สมาธิ และ ศิล ยึดถือและเข้าถึงพระรัตนตรัย ความเชื่อมั่นและศรัทธา
เมื่อจิตเราเป็นสมาธิไปทางไหนก็ไปทางนั้น แค่คาถา นะโมพุทธายะ บทเดียว สามารถใช้ได้หลายด้านเลยทีเดียวแล้วแต่จิตจะอธิฐานไป

คาถา แตกต่างหน่อย ตรงที่ใช้แรงครูประสิทธ์ประสาทวิชาให้เข้มขลัง   เช่นบทโองการต่างๆๆ หรือที่ขึ้นต้นด้วยโอม


รบกวนขอคำอธิบายเพิ่มเติมด้วยสิค่ะ คาถานะโมพุทธายะ บทเดียวหลายด้านนี้ใช้ยังไงบ้างค่ะ  :054:

เหอๆ ไม่ถามพีเอ็กซ์หละจ๊ะ ฮิ้ววว  :095:

บทนะโมพุทธายะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้า ทั้ง 5 พระองค์
ซึ่งสมัยก่อนพระอาจารย์ หรือ ครูบาอาจารย์ ท่านจะใช้บารมีพระพุทธเจ้า5พระองค์นี้ นำมาเรียบเรียงอันเชิญบารมีมา

เช่นนะเมตตา โมกรุณา พุทธะปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู  อ่านก็คงเข้าใจนะครับ ว่าไปในทางไหน  คือเมตตา

หรือ อุทธัง อัดโธ นะโมพุทธายะ ก็ไปในทางมหาอุต

หรือจะใช้จริงๆ ถ้าสมาธิและจิตคุณมีถึงนะ ก็นะโมพุทธายะ ขอตั้งจิตอธิฐานบารมีพระรัตนตรัย แล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า ทั้ง 5 พระองค์
มี
พระกกุสันธะ
พระโกนาคมน์
พระกัสสป
พระสมณโคดม
พระศรีอาริยเมตไตร
ทั้ง 5 พระองค์ลูกขออัญเชิญมา โปรดเมตตาลูกนี้ ...อะไรก็ว่าไป  แล้วแต่จะอธิฐาน ขึ้นอยู่กับจิตว่าจะได้ระดับไหนอย่างไร แค่ไหน ขึ้นอยู่กับบุญที่สะสมมา

944
พระคาถา ใช้จิต สมาธิ และ ศิล ยึดถือและเข้าถึงพระรัตนตรัย ความเชื่อมั่นและศรัทธา
เมื่อจิตเราเป็นสมาธิไปทางไหนก็ไปทางนั้น แค่คาถา นะโมพุทธายะ บทเดียว สามารถใช้ได้หลายด้านเลยทีเดียวแล้วแต่จิตจะอธิฐานไป

คาถา แตกต่างหน่อย ตรงที่ใช้แรงครูประสิทธ์ประสาทวิชาให้เข้มขลัง   เช่นบทโองการต่างๆๆ หรือที่ขึ้นต้นด้วยโอม

945
สวยทุกอย่างเลยครับพี่บอล :015:

อ้าวมาได้ไงครับพี่ที หายไปนานเลยนะ ไปไหนมาหว่า

สงสัยไปตามหาสาวใน คาราโอเกะมาอะเพื่อน  :095:

946
ยินดีด้วยนะครับ มาเป็นชุดเลย  :015:

947
ขอบคุณมากครับ สำหรับรูปภาพบายศรี
อนุโมธนาด้วย ครับ

948
ขอบคุณข้อมูลพี่ธรรมมะรักโขมากนะครับ สำหรับข้อมูลดีๆและรูปภาพ

หลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่มากครับ มนัสการหลวงพ่อด้วยครับ  :054:

949
ขอบคุณข้อมูลจากพี่โองการมากนะครับ
ที่วัดไร่ขิงมีงานหล่อพระพุทธรูปด้วย อิอิ
เย็นๆกะไปเวียนเทียน จะชวนต้นไปด้วยไม่รู้จะว่างป่าว อิอิ  05;

950
ขอบคุณครับพี่บอล...

สวยงามทุกอย่างเลย

พี่เอ็กซ์และพี่เอ็มคงจะชอบ

กำครับพี่ เรียกผมซะพี่เลย    เค้ายังเด็กอยู่นะตัวเอง อิอิ :095:

ไม่ได้เจอกันเลยครับ คิดถึง หากมีโอกาศคงได้เจอกันอีกนะครับ

951
อายุประมาณนี้ ขอแนะนำว่าทำช่วงเวลาทำตามวัยให้ถูกต้องและเหมาะสมดีกว่านะ
1.ตั้งใจเรียนหนังสือก่อน เพราะเป็นเรื่องอนาคตของเราอันนี้สำคัญกับตัวน้องมากๆ
2.ช่วยพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่นี่หละ  ความกตัญญูได้บุญมากนะ มันจะดีกับตัวน้องเอง


ส่วนเรื่องของอะไรของน้องเนี้ย เอาพอประมาณอย่าไปมากจนเกินไปแต่ถ้าชอบเรื่องพวกนี้และรู้อย่างถูกทาง ต้องข้อนี่เลย

3. รักษา ศิล 5 ข้อ ให้ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง หมั่นนั่งสมาธิอยู่เป็นนิจ ไปวัดทำบุญ อ่านหนังสือหรือไปฟังธรรมมะไม่ได้ขาด รับลองรุ่งมันจะไปตามเสตป พื้นฐานคุณแน่น ต่อไปก็ไปได้สวย หากพื้นฐานไม่มี ทำอะไรก็ไม่สำเร็จแถมจะไปแนวมั่วอีกตางหาก

จงมีสติและใช้ปัญญาศึกษาให้เข้าใจ เหมือนเรียนวิชาคณิต หากเราไม่รู้สูตร และสัญลักษณ์ อันไหนคูณหารหรือลบเราก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจและไม่สมารถหาผลรับได้ เวลาสอบก็ได้แต่มั่วไปจนผลสุดท้ายเราก็ทำข้อสอบไม่ได้

ทุกอย่างพื้นฐานต้องแน่น ทำอะไรข้ามขั้นมักไม่รุ่งหลอก
 


952
มนันการหลวงปู่อั๊บ ครับ  :054:

อยากมีพระเครื่องหลวงปู้ใว้บูชามั่งจัง ครับ

ขอบคุณพี่หอมเชียงมากครับ ที่นำมาให้ชม  :015:


953
สรุป  งงเวอร์ งงมาก งง และ งง กับคำถามและคำบอก  :010:

954
ขุนแผนพรายป่าวเอ่ย เหอๆๆๆ

ถ้าขุนแผนทั่วไป จะไปในด้าน เมตตา แคล้วคลาดนะครับ  

เหล็กไหล เป็นไงอะครับ ว่างๆ ถ่ายรูปมาให้ชมหน่อยได้ใหม อยากชม
รวมทั้งขุนแผนที่บอกด้วยนะครับ

ขอบคุณ

955
แต่ว่าการดูพระ ผมมีวิธีดูว่าขลังหรือไม่ขลังครับ

แต่ว่าถ้าวัดของแรงๆติดต่อกันผมจะเหนื่อยล้าจนเคยถึงขั้นหอบและตาแดงเลยครับ


ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าพระเครื่องเวลาวัดพลังเขาวัดกันแบบนี้ ..  :075:
ถ้าพระ ส่วนมากแบบ แขวนแล้ว จะเจอ แคล้วคลาด เมตตา คงกระพัน มหาอำนาจ อะไรประมาณนี้ แล้วแต่ตามจิตที่พระอาจารย์ท่านอธิฐานจิตใว้
หรือจะมีอาการขนลุกซู่ซ่าพอประมาณ ส่วนมากจะรู้สึกดี หรือมีความเชือมั่นขึ้น

ใช้แล้วตาแดงหอบ ผมก็งงเหมือนกันไม่เคยเจอ <<*--- บูชาแล้วทรมานแบบนี้ ไม่เคยเห็น ถ้าพรายก็ว่าไปอย่าง
แล้วอีกอย่างเวลาเขาจะชมบารมีพลังในพระที่พระอจารย์อธิฐานจิตใว้ จะใช้กรรมฐานนะครับ ไม่ใช่แบบนี้อะ

ส่วนของ นี่น้องหมายถึงอะไรอะครับ องค์เทพเหรอครับ
หรือหมายถึงวิชาทางไสย์เวท ฝังรูป ฝังลอย เล่นคุณไสย์ เล่นพราย เสกแตน แบบนี้ป่าว ประมาณแบบในหนังจอมขมังเวทป่าว

หรือบูชาเครื่องรางของขลัง วิธีการบูชา หรือป่าว ช่วยอธิบาย หน่อย งง มักๆ

956
ขอบคุณครับพี่บอล งดงามครับ นานๆจะเปิดกรุทีอลังการมาก  :015:

957
ของทุกอย่าง ล้วนมีคุณและโทษ การจะทำอะไรควรศึกษาให้ดีก่อนทุกอย่าง
อย่าสักแต่ว่าฟังมา ดูหนังมาและจินตนาการตาม  หรือตามๆเขามา เห็นว่าดีก็ว่าดี
ทางเลือกมีหลายสายหลายแขนงหลายวิชา  แต่ต้องอยู่ในของคำว่าสติ และความเป็นจริงเหตุผลน่าจะเป็นและเป็น ไม่ใช่ยึดติดกับจินตนาการเพ้อเจ้อล่องลอยหรือเขาว่ามา โดยที่เราไม่ศึกษามาให้ดีก่อน

การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ควรเรียนรู้อย่างถูกทางและถูกต้อง...หรือหากจะเป็นนักสะสมก็ควรศึกษาในสิ่งที่เราสะสมเช่นคนชอบสะสมพระก็ต้องดูพระเป็น..ไม่ใช่ว่าเห็นอะไรดีเขาเอามาให้บูชาว่าดี แต่ที่ไหนได้กลับโดนหลอกบูชาของเก๊มาอันนี้ก็โดนกันไปครับ
ของจริงไม่ต้องลอง แต่ใช้ได้จริงในสถาการณ์จริง ของจริงไม่ใช่ของเล่น..


ศึกษาก่อนสะสม ...ไม่ผิดทาง
ศึกษาให้รู้และเข้าใจถูกต้องตามหลัก อันนี้ก็ไม่หลงทางครับ

959
ขอบคุณครับพี่เอ็กซ์ งดงามจริงๆ สุดยอดครับ กับเนื้อเงินเลี่ยมเงิน  :015:

960
กราบขอบพระคุณท่าน ooo มากครับ สำหรับภาพบรรยากาศ  :054:
ไม่ได้ไปมาหลายปีและครับ ไปตอนนั้นยังบูรณะ ไม่เสร็จเลยครับ
งดงามมากครับ

961
เปิดตัวเลยดีก่ามะ จะขุนแผน หรือ ไพร่วัดก็เล่นๆ ไปเถอะครับ
เอาตามสะดวก   อย่าไปอินมากกับโลกไซเบอร์ ......

เดี๋ยวจบกระทู้นี้ก็ไปสมัคใหม่อีก เอาเป็นว่าเล่นสัก id ละกันเนอะเล่นตามสบายเลย
โกหกไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันแค่โลกไซเบอร์ 555+

962
สอบถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
การปิดทอง ต้องมีพิธีการใดๆไหมครับ
ทำการแปะได้เลยไหมครับ
ขอบคุณครับ

แปะได้เลยครับ  ทองอะครับ แต่ส่วนมากจะไม่อยู่อะสิครับ แปะแป๊ปๆเดี่ยวก็หาย

ส่วน คือผมคิดว่าน้ำมันจะช่วยลดการแตกของเนื้อไม้ได้ครับ คือกลัวเนื้อไม้จะแตกครับ
อันนี้ผมก็คิดเหมือนท่านอะครับ ใช้น้ำมันทาอยู่เหมือนกัน กลัวว่าเนื้อจะแตก แต่ดูๆ ก็ช่วยได้นิดหน่อยครับ

963
ขอบคุณพี่บางแก้วฟ้ามากครับ

ผมก็มีอยู่องค์สีเขียว แต่ไม่ทราบว่าของวัดไหนที่ไหน....อ๋ออ ขอบคุณข้อมูลมากครับ  :015:

964
อ้าวแล้วพี่ขุนแผนหายไปไหนหละครับ ให้ไปถ่ายรูปใหม่พร้อมกระดาษ แค่นี้เงียบไปเลย  :095:
ขนาดไม่ค่อยเล่น แต่ชำนาญมากเลยนะเนี่ย ทั้งโพสรูป กดขอบคุณ  อะไรหลายอย่าง เหมือนเล่นมานานแล้วอย่างนั้นหละ
อย่าลืม ถ้าเล่นเครื่องเดียวกัน สามารถตรวจ ip ได้นะจ๊ะ  :001:

ตะกรุดเยอะดีครับ สวยงาม ขอบคุณที่นำมาให้ชม

965
อยากรักษาก็เอาไปเลี่ยมสิครับ ง่ายๆ ได้ใจความ   :095:
น้ำมันจันทร์ผมทาปลัดขิกที่เป็นไม้ได้เลยหอมดี  เสือก็ทาได้ ใช้ได้สารพัดถ้าอยากจะใช้
น้ำมันจันทร์ ใช้ได้สารพัดครับ ดูเลือกยี่ห้อหน่อย มีหลายแบบหลายคุณภาพ  มีขายตามร้านเครื่องบวชพระหรือเครื่องสังฆทาน
แนะนำเลี่ยมดีกว่า +++


966
ขอบคุณครับ ที่นำมาให้ชม
ของผมก็เช่ามาจากวัดเหมือนกัน แจกไปบ้างแล้ว

ประสบการณ์พระของหลวงพ่อแพ มีครบทุกด้านเลย

967
ขอบคุณพี่บางแก้วฟ้า มากครับที่นำมาให้ชม หายากและนะครับแผ่นรักหลวงพ่อไร่ขิง

สุดยอดเลย ครับ  :015:

968
ยินดีด้วยนะครับ สวยงามมากครับ
โชคดีจริงๆเลยนะครับพี่ สุดยอด

969
ครับ ไว้วันหลังเนี่ยถ้าเจอตัวจริงๆเป็นๆ จะได้ทักทายได้ถูกนะครับ
แต่เอ........ คุณขุนแผนเคยบอกกับสมาชิกในเวปบอร์ดว่าไม่เคยสัก
ตัวเกลี้ยงๆชอบเล่นพระกับเครื่องรางอย่างเดียว
แล้วแทตทูที่อยู่ตรงอก ของคนในภาพนี่มันยังไงกันหว่าา
ผมละง๊งงงงง :005:




อุส่าไม่บอกใครนะเนี่ย ..  :001:


ผมเพ้นลายเฉยๆ ไม่ได้ัสัก


เจอก็ทักทายได้นะครับ  :002:

ขอรูปแบบถ่ายใหม่ ถือกระดาษ เขียน ขุนแผนได้ปะครับ เพื่อความชัว อ่าได้ยืนยันตัวตนกันไปเลย เจอที่ไหนได้ทักทายได้
กลัวเอารูปใครมาก็ไม่รู้หละครับ เผื่อทักคนผิด
แล้วเรียนปทุมวันรุ่นไหน คณะอะไรเหรอครับ  ผมก็พอมีเพื่อนอยู่ปทุมวันเหมือนกัน เผื่อจะรู้จักกัน

970
ขอบคุณลุง อเมซิ่งที่แจ้งข่าวการมรณะภาพของหลวงปู่ตี๋ครับ

เคยผ่านไปตลาดสามชุก เห็นป้ายอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้แวะเข้าวัดครับ

ขอกราบนมัสการหลวงปู่ตี๋ด้วยครับ ..  :054: :054: :054:

เอ คุณขุนแผนครับ
รู้สึกว่า ผมจะไปคลับคล้ายคลับคลา
เห็นภาพจากดิสเพลย์ผมเนี่ย
ไปเป็นดิสเพลย์ของใครก็ไม่รู้ ในเวปเพื่อนบ้านนะครับ
ถ้าจะก๊อปกันไปนี่ก็บอกกล่าวกันบ้างก็ดีนะครับ
ไม่ใช่เอาไปทื่อๆ คนอื่นไปเห็นเค้าจะสับสนว่าเป็นผมไปเล่นหรือเปล่า
อีกอย่างรูปนี้ ผมได้ถ่ายจากผลงานของท่านอาจารย์จักรพัน โปษยกฤษมา
ให้เครดิตกันบ้างนะครับ
สุดยอดมนุษย์ google เลย  :095: เอารูปเพื่อนก็อตผมไปวันหลังบอกกล่าวสักนิดนะครับ ท่านขุนแผน
แล้วสรุปนี้อายุเท่าไหร่อะครับได้เรียกถูก ทีแรก บอก22 ถามอีกทีไป 29
เดือนหน้าผมถามอีกที 35 โห อายุเลื่อนได้
วันนั้นบอกเรียนปทุมวัน ไปๆมา เป็นเสมียน  งง

971
เยอะครับ ไปเช้าๆเลยครับ...

...ถ้าได้ทำบุญถวายสังฆทานด้วยก็จะดีนะครับ... :002:
แล้วพี่เอ็กซ์ไม่ไปกับน้องเขาเหรอครับ แหม่ไปทำบุญด้วยกันเลย ทำกันเป็นคู่  :095:

 30;  37;

972
บทความ บทกวี / ตอบ: คมในฝัก
« เมื่อ: 18 พ.ค. 2553, 09:40:23 »
ขอบคุณพี่มากครับ สำหรับข้อคิดดีๆ

973
ขอบคุณพี่โองการ ที่นำมาให้ชมนะครับ งดงามมากครับ  :015:

974
แล้วส่วนมาก เวลา จะปล่อยให้เช่าบูชาต่อ.. จะไปปล่อยเช่าที่ไหนดีอ่าคะ่.. ในเน็ตหรอ???

แนะนำให้เก็บไว้ดีกว่าครับ อีกหน่อยหายากนะจะบอกให้
 
ถ้าจะปล่อยก็ปล่อยในเว็บซื้อขายพระเครื่องต่างๆ หรือไม่ก็ศูนย์รับเช่าพระเครื่องครับ  หรือปล่อยกับคนรู้จักก็ได้  :001: แต่ไม่แนะนำให้ปล่อยนะครับ

เอ่อขอโทษนะครับ พระไม่ใช่ผัก ไม่ใช่ปลานะครับ ถึงเรียกว่าไปปล่อย
ใช้ว่า ออก หรือ ให้เช่าบูชาต่อ ดีกว่าใหม ครับ ท่านขุนแผน

ถ้าจะปล่อยก็ปล่อยในเว็บซื้อขายพระเครื่องต่างๆ หรือไม่ก็ศูนย์รับเช่าพระเครื่องครับ  หรือปล่อยกับคนรู้จักก็ได้   แต่ไม่แนะนำให้ปล่อยนะครับ
(นี่ขนาดท่านขุนแผนไม่แนะนำนะนี่)
 :095:  :074:

ขุนแผนนี่ตัวจริงเลยครับ เรื่องปิ้งย่าง  :095: แซวๆกันเล่นนะครับ

975
ขอกราบมนัสการหลวงปู่ตี๋ด้วย ครับ
ร่วมใว้อาลัย และขอแสดงความเสียใจแก่ศิษยานุศิษย์ย์ด้วยครับ

ขอบคุณลุงอเมซิ่งมากครับ

 :054: :054: :054: :054:

976
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ยังไม่เคยพบหรือมีประสพการณ์เลย แต่ก็บูชาพระ และสวดมนต์บ้าง พาหุง ชินบัญชร ยอดพระกัณณ์ ประมาณว่าเมื่อก่อนทุกวันเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาเพราะ งานเดินทางขับรถตลอด กำลังนึกอยู่ว่าเราขาดหรือประมาทข้อใดแต่ยังไม่พบ แต่อยากมีประสพการณ์ และสำฤทษ์ผลกับสิ่งที่เราบูชาบ้างเหมือนกัน
ผิดถูกขออภัย ด้วยครับ
ลองทำบุญบ่อยๆดู ครับไม่ต้องมาก แต่เลื่อยๆ ทำแล้วให้สบายใจไม่เดือดร้อน
ทำแล้วหมั่นอุทิศ ให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่คุ้มครอง พระอาจารย์ ครูบาอาจารย์ สิ้งศักสิทธิ์ทั้งหลาย
ยึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สม่ำเสมอทั้งลมหายใจเข้าและออก
ทำบุญ-นั่งสมาธิ-ภาวนา(สวดมนต์) 3 สิ่งนี้ต้องทำให้เสมอ ไม่ใช่ภาวนาอย่างเดียว หรือทำบุญอย่างเดียว

หากไม่มีเวลาจริงๆ  ก็ไม่อยากครับ ผ่านวัดไหน ก็แวะไปทำบุญจบสตางตั้งจิตอธิฐานใส่ตู้ไปเพื่อเป็นค่าน้ำไฟ อะไรก็ว่าไป
ภาวนาก็ไม่ยากหากไม่มีเวลาจริง ให้ท่อง พุทธโธ ๆๆๆ แค่นี้ หรือพุทธังสะระณังคัจฉามิ ธัมมั้งสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ แถมกำหนดลมหายใจเข้าออกวันละ 3 นาที 5 นาที ก็ถือได้ทำสมาธิแล้วทั้งภาวนา+สมาธิไปด้วยพร้อมกัน
แล้วศรัทธาตั้งจิตเอา มีความเชื่อมั่น อยากให้ไปทางด้านไหน อันนี้ก็แล้วแต่บุญเก่า กรรมเก่าของท่านด้วยนะครับ หากให้ดีอย่างที่บอกสร้างบุญกับกรรมดีในชาตินี้ใว้เลื่อยๆ
ขอบคุณ ขอให้โชคดีครับ

977
ขอบคุณพี่บัฟมากครับ
มนัสการหลวงปู่อั๊บด้วยครับ

978
สุดยอดเลยครับ ประทับใจมาก ได้ใจจริงๆ

ผมรักนายหลวง รักประเทศชาติ


979
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ได้ของดีมา
หลวงพี่ญาท่านเมตตาเสมอ ครับ  :054:

980
ไม่เสื่อมหลอกครับ ผมกราบประจำเลย อิอิ

อ่อท่านขุนแผนเกี่ยวไรกับลอยสักขลังครับ งง 55555555++ ไหวป่าวครับเนี่ย (เป็นการแซวกันเล่น อิอิ 55)

982
ไม่ได้แขวะครับ  ผมหมายถึงรูปอะครับ จะทันหรือไม่อย่างไรอันนี้ผมไม่รู้ครับ ตอบความตามจริง เพราะผมก็ไม่ใช่เซียนพระซะด้วย
แต่ผมคิดว่ายังไง รูปท่านก็คือรูปท่าน หากศรัทธาจริงก็แขวนได้ ถึงอาจจะเป็นของสนามก็ตาม
และอย่างที่บอกครับ หากศิษย์ที่เป็นศิษย์พ่อแท้จริงเขาไม่ลงรูปอาจารย์ครับเพราะพ่อเที่ยงท่านก็ไม่ทำครับ อันนี้ก็ยอมรับ ครับ
แต่ผมเชื่อว่า ความศรัทธา ไม่ได้เกี่ยวกับจริงหรือเก๊ คนแขวนพระเก๊รอดตายเยอะเยอะ(อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
แต่ยังไงก็ขอบคุณข้อมูลมากครับ  ก็ต้องยอมรับในความรู้ของท่านอาจารย์ avatan  เหมือนกัน
ถ้าหากเข้าใจเจตนาผิดหรือผมไปล่วงเกินก็ขออภัยด้วยและกันครับ

983
ถูกต้องครับ วิชาสักยันต์ หลวงปู่เปิ่น ท่านสืบวิชามาจากหลวงปู่หิ่ม วัดบางพระ
ถึงหลวงปู่เปิ่น ท่านจะเป็นศิษหลวงพ่อแดง ก็ตาม ครับ
และเสือของวัดบางพระเรา เป็นแบบฉบับของวัดบางพระที่ไม่เหมือนใครครับ

ส่วนพระอาจารย์สมชายผมไม่ทราบหลอกครับ แต่รู้ว่าท่านไม่ได้สักเหมือนพระอาจารย์รูปอื่นของวัด
ค่าครู ที่วัดบางพระ 25 บาทเท่านั้น(เท่านั้น)  ค่าครูก็คือค่าครู ไม่ใช่ค่าอย่างอื่น ... เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์กำหนดมา
ไม่ใช่มาสักแบบเลือกลายแบบนี้  แล้วแต่ศรัทธาเลยนะครับ

984
ขอบคุณท่านกระแบนท้องน้ำมากครับ



985
ไปเอาคลิปของหลวงพี่น้ำฝนมา ระวังงานจะเข้านะครับ  :095:

 39;

986
ขอบคุณครับพี่ ที่นำมาให้ชม สวยและเข้มขลังมาก  :015:

987
ทำตามกฏกันหน่อยก็ดีนะครับ ไม่เกี่ยวกับมีส่วนได้หรือเสียหลอก 

988
ต้องลองไปถามคุณชลาพุชะ ดูนะครับ เขาเป็นศิษเอก ตรี โท   :095:
ช่วงนี้หายไปเลย  :004:

989
งง ???  
คนละสายมั้งครับ   แล้ว เกี่ยวอะไรกับพระมหาสมชายด้วย  :075:

990
เมตตาดีมากๆ  ครับ ไม่กลัวอดเลย อิอิ
แคล้วคลาดดีครับ  อันตรายมิสามารถทำอะไรเราได้  แต่ก็ต้องมีสติ และศรัทธา เสมอ

991
โค๊ตไม่เคยเห็น แต่รู้ว่าคาถาที่ลง กับอักขระไม่เหมือนกันเท่านั้น

992
อ.สมชาติ นาคจันทร์ (ปู่แทคเรวดี)
ไม่เคยได้ยินชื่อเลยครับ และก็ไม่แน่ใจ ว่าเรียนวิชามาจากวัดบางพระหรือป่าว

993
รูปปู่เที่ยงรูปนี้ยืนยันครับว่าเก๊ครับไม่ใช่ที่ปู่เที่ยงลงและทำไว้ครับภาพนี้ยืนยันร้อยเปอร์เซนต์ครับอย่าสับสนครับลายมือข้างหลังภาพไม่ใช่ลายมือปู่เที่ยงแน่นอน :109: :109:

รูปมันจะเก๊ได้ยังไงหละครับ รูปก็คือรูปหรือรูปนี้ไม่ใช่ปู่เที่ยง
 

994
ตะกรุดรุ่น 9พยัคฆ์ 2บารมี ไม่ใช่เหรอ... :062:

ผมก็ว่างั้นหละครับ รุ่น 9พยัคฆ์ 2 บารมี แน่นอน

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม สวยๆ งดงามทั้งนั้น
ชอบเหรียญหนุมานมากครับ ยังไม่มีสักเหรียญเลย

995
กราบขอบพระคุณท่าน joker  สำหรับรูปภาพถ่ายบรรยากาศ  :054:
น่าไปมากเลยครับ ยังไม่มีโอกาศได้ไปเลย

996
ตะปูตอกฝาโลง ผ้าห่อศพ  ไม้ผูกคอตาย อื่นๆ  จัดในประเภท  วัตถุอาถรรพ์ มีดีในตัวครับ ไม่จำเป็นว่าต้องมีวิญญาณเสมอไป

แต่ถ้าพรายจริงๆ คือพวกกระดูก ชิ้นส่วนศพ ผงกระดูก  อันนี้เป็นชิ้นส่วนครับพรายตรงๆ อันนี้ส่วนมากจะมีตัวตนครับถ้าเขายังไม่ไปเกิดนะครับ
ถ้าเป็นผงกระดูกเด็ก นิยมทำผงพรายกุมาร หรือ กุมารทอง

ถ้าสายดำ นิยมมาทำเสน่ห์ น้ำมันพราย พวกนี้อันตรายมีโทษมาก น่ากลัว ครับ เหอๆๆๆ เห็นผลชัดเจน


997
ปลัดไม้ผูกคอตาย จัดว่าแนวไหนดีครับพี่พี่

จัดว่าเป็นของดีครับ อิอิ   :002:

998
สักน้ำมันหรอครับ  มองไม่เห็นเลย... :002: :002: :002:

แซวกันได้ เขาอุตสาห์ลงให้ดู  ( ทางใน ) :007:

ติดตลกนะครับ เนี่ย แหม่เขาลงรูปไม่เป็นนี่เนอะครับ อิอิ

ขอโทษค่ะ ก็แค่แซวกันเล่นค่ะ จะได้มีรอยยิ้มไงค่ะ  :054:
ครับไม่เป็นไร ขำๆ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย อิอิ
อากาศร้อนๆ มีลอยยิ้มบ้างก็ดีครับ  :001:

999
สักน้ำมันหรอครับ  มองไม่เห็นเลย... :002: :002: :002:

แซวกันได้ เขาอุตสาห์ลงให้ดู  ( ทางใน ) :007:

ติดตลกนะครับ เนี่ย แหม่เขาลงรูปไม่เป็นนี่เนอะครับ อิอิ

หน้า: [1] 2 3 4 5 6