ตื่นนอนประมาณ ๐๔.๐๐ น.
เขียนบันทึกธรรมถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในหนึ่งวัน
บันทึกไว้เพื่อย้ำเตือนความจำและทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา
เพราะต่อไปในวันข้างหน้าสิ่งที่เราบันทึกไว้คือหลักฐานแห่งการเดินทางของชีวิต
ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมาว่าเราผ่านอะไรมาบ้างในแต่ละวัน
และเป็นการป้องกันโรคความจำเสื่อมได้ด้วย
เมื่อวันเวลาผ่านไป....
เรากลับมาเปิดอ่านดูจะได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงของชีวิต ของความคิด ของสถานที่
เพราะเรามีหลักฐานคือการที่ได้บันทึกไว้เป็นตัวอักษร
นี่คือที่มาของการบันทึกธรรมที่ได้กระทำมาตลอดเวลา
แห่งความเป็นพระในขณะครองเพศสมณะที่ผ่านมา.....
เขียนบันทึกธรรมประจำวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีเวลาที่จะเจริญภาวนาเพราะว่าเจ้าของบ้านเขายังไม่ตื่น
ยังไม่มีใครมาธุระหรือรบกวนเป็นเวลาส่วนตัวของเรา
เจริญภาวนาอยู่ในห้องพระเพลินไปจนเกือบจะ ๐๗.๓๐ น.
จึงได้ออกจากการภาวนา ออกมาทำภาระกิจส่วนตัว
ญาติโยมมาถวายน้ำปานะเป็นน้ำชาและกาแฟพร้อมทั้งขนม
หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยสนทนาธรรมกับญาติโยมที่มาเยี่ยม
มาขอคำปรึกษา คำแนะนำต่างๆ เพื่อจะนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
และเพื่อหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาของชีวิตที่กำลังประสพอยู่
จนได้เวลาฉันอาหารซึ่งมีญาติโยมนำมาถวายกันมากมายหลายท่าน
หลังจากนั้นก็ได้ออกไปเยี่ยมชมดูสถานที่ต่างๆของญาติโยม
เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงสถานที่ทำให้มีมูลค่าเพิ่ม
วิเคราะห์ให้เห็นถึงความเหมาะสมของแต่ละสถานที่ว่าควรจะทำอย่างไรกับมัน
ญาติโยมรับไปดูสถานที่ต่างๆประมาณ ๑๐ กว่าแห่ง
ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ น.จนถึงเวลา ๑๗.๔๕ น.
ทั้งในอำเภอเวียงสระและอำเภอพระแสงของจังหวัดสุราษฎร์
แวะพักทักทายเยี่ยมเยือนเพื่อสมัยฆราวาสที่เป็นนายกเทศมนตรีเขานิพันธ์
แวะไปนั่งฉันกาแฟที่ห้องนายกเทศบาลเวียงสระ
ถึงสนามบินสุราษฎร์เวลา ๑๘.๒๐ น.
เจอเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยมัธยมที่สนามบิน
เลยมีเพื่อนเดินทาง มีเพื่อนสนทนาระหว่างเดินทาง
ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีญาติโยมมารับต่อ
ไปแวะสนทนาธรรมและพูดคุยให้คำปรึกษาแก่ญาติโยม
จนเวลาประมาณ ๒๒.๓๐ น.จึงได้ไปที่พักที่เขตดอนเมือง
ถึงที่พักเวลาประมาณ ๒๓.๓๐ น.
เปิดคอมฯเข้าเน็ตเพื่อดูกระทู้ความเคลื่อนไหวภายในเวปวัดบางพระ
จนเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น.จึงได้เข้าจำวัตรพักผ่อน
ชีวิตผ่านไปอีกหนึ่งวัน....
นอนภาวนา อธิษฐานจิต บันทึกและลบสัญญา(ความจำที่ผ่านมา)
สิ่งไหนเหตุการณ์ใดมีสาระ มีประโยชน์เก็บไว้ในส่วนแห่งความจำของสมอง
สิ่งไหนสิ่งใดไร้สาระเป็นขยะทางความคิด อธิษฐานจิตลบข้อมูลความจำออกไปจากสมอง
เก็บไว้เพียงสิ่งที่ดีมีสาระเพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต
....การวิเคราะห์และให้คำปรึกษาแก่ญาติโยมนั้น....
เราต้องทำใจให้ว่าง วางใจให้เป็นกลาง มองทุกอย่างตามความเป็นจริง
ไม่มีใจไปร่วมในทุกข์ของเขาหรือไปยินดีในสุขเข้าข้างเขา
วิเคราะห์หาเหตุและผลที่มาของปัญหาให้เห็นที่มาและหาทางออกที่จะไป
โดยใช้หลักของอริยสัจ ๔ มาเป็นที่ตั้งในการวิเคราะห์ปัญหาและหาทางแก้ไข้
...ปัญหาคือทุกข์...คือ โจทย์ที่เราต้องวิเคราะห์
เราต้องวิเคราะห์เจาะลึกให้เห็นที่มาของปัญหา ว่ามันเป็นมาอย่างไร...คือสมุทัย...
จนเข้าใจและเห็นทางออกแนวทางการแก้ปัญหาที่สามารถจะทำได้ในขณะนั้น..คือนิโรธ
แนะนำวิธีการปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนเพื่อให้เขานำไปใช้ในการแก้ปัญหา...คือมรรค...
ทุกสิ่งทุกอย่างปรับเข้าหาหลักธรรม...คืออริยสัจ ๔
ให้เกิดความพอดีและความเหมาะสม...ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้...
ถ้าทุกฝ่ายยอมรับและไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ฝ่ายเดียวจนเกินไป
ยอมรับในความผิดพลาด ยอมลดละอัตตาลงมาเสียบ้าง
แล้วทุกอย่างก็จะแก้ไขได้และจะเดินไปได้ด้วยดี...
:054:ขอบคุณพระธรรมคำสอนขององค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
:059:ขอบคุณเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
:060:ขอบคุณความคิดและหลักธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๕.๔๓ น. ณ มุมหนึ่งของมหานครที่วุ่นวาย ณ จุดเล็กๆจุดหนึ่งของประเทศไทย