ผู้เขียน หัวข้อ: กวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...  (อ่าน 987 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
กวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...
« เมื่อ: 25 ก.ย. 2552, 09:56:41 »
ว่างเว้นจากการเขียนบทกวีมาหลายวันแล้ว
เนื่องจากมีภาระกิจให้ทำมากมาย ทั้งเรื่องภายในและภายนอก
วันนี้มีโอกาศได้พัก...เพราะว่าฝนตกลงมาตั้งแต่เช้าลงไปปฏืบัติโยธากรรมฐานภาคสนามกลางแจ้งไม่ได้
ฉันเช้าแล้วจึงมีเวลานั่งพักอยู่บนศาลาน้อย...นั่งมองท้องฟ้าผ่านช่องหน้าต่าง...วันนี้ฟ้าครึ้มฝนไม่เห็นแสงแดดเลย
อารมณ์ศิลปินก็บังเกิดขึ้น....นี่คือที่มาของกวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...เชิญชมและอ่านได้เลย....
             :059:ในยามฟ้าหม่น :059:
   เหม่อมองฟ้า  หน้าฝน  ให้หม่นหมอง
ไร้แดดส่อง       ลงมา     ฟ้าสลัว
มีม่านเมฆ       เต็มฟ้า     พาหมองมัว
ฟ้าสลัว          ซึมเซา     ให้เศร้าใจ
  ละอองฝน      ปลิวมา     ผ่านหน้าต่าง
มาต้องร่าง       ต้องกาย    ให้หวั่นไหว
หนาวสะท้าน     ทั่วกาย     ถึงภายใน
นั่งดูใจ             ดูจิต       พิจารณา
  ธรรมชาติ       มันเป็น     อยู่เช่นนี้
ไม่ควรที่          ยึดติด      และห่วงหา
ปล่อยให้ไป    ตามสายธาร  กาลเวลา
เกิดขึ้นมา      ตั้งอยู่         แล้วดับไป
   ใจไม่ชอบ   เพราะจิต     อนิฐา
เวทนา          ในจิต        นั้นหวั่นไหว
ให้เกิดความ    รักชอบ      และพอใจ
เมื่อไม่ได้       ดังคิด       จิตขุ่นมัว
  ทุกข์เกิดจาก  อามิส       ที่ติดอยู่
เพราะลืมดู      กายใจ      ให้ถ้วนทั่ว
ขาดสติ          ลืมตน       และลืมตัว
จิตขุ่นมัว        เสพทุกข์    ไม่สุขใจ
  เพราะเกิดจาก   กัมมะ     ปลิโพธิ
หวังประโยชน์     ในงาน     นั้นเป็นใหญ่
เพราะอยากให้  งานเสร็จ    โดยเร็วไว
เมื่อไม่ได้         ดั่งคิด       จิตกังวล
  เผลอสติ       เพียงนิด     จิตเศร้าหมอง
เมื่อไตร่ตรอง    จึงเห็น       เป็นเหตุผล
ปลิโพธิ          คือใจ         ที่กังวล
อยากหลุดพ้น ต้องปล่อยวาง โดยทางธรรม
  มองให้เห็น   ให้เป็น        พระไตรลักษณ์
ให้รู้จัก           หนทาง       ที่เลิศล้ำ
และเตือนจิต     เตือนใจ      ให้จดจำ
และจงนำ       มาคิด           พิจารณา
  มองให้เห็น   ว่าเป็น         สิ่งไม่เทียง
อย่าลำเอียง  เข้าข้าง         ด้วยตัณหา
มองให้เห็น    ความเป็น      อนิจจา
ให้รู้ว่า         มันเป็น         เช่นนั้นเอง
  เพราะกังวล    ใจตน       เลยเป็นทุกข์
ไร้ซึ่งสุข       เพราะกิเลส   มันข่มเหง
ถ้ายอมมัน     ตามมัน       นั้นน่าเกรง
เช่นนั้นเอง     ทุกขัง         ดั่งที่เป็น
  เพราะยึดถือ  ยึดมั่น        เลยหวั่นไหว
จึงขุ่นใจ        เศร้าใจ        อย่างที่เห็น
อยากให้มัน    เป็นไป        ใจอยากเป็น
จนลืมเห็น     ความเป็น       อนัตตา
    อนิจจัง       ทุกขัง        อนัตตา
หลักธัมมา      ควรคิด        และศึกษา
การเกิดขึ้น      ตั้งอยู่         และลับลา
เกิดปัญญา     เข้าใจ          พระไตรลักษณ์..
        .................................
 :059:แด่อารมณ์กวีในเช้าที่ฟ้าครึ้มฝน แด่ความกังวลปลิโพธิในจิต :059:
                 รู้เห็นและเข้าใจในกฏของธรรมชาติใจก็ไม่ทุกข์
                   ด้วยความปรารถดี... รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๕ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๕๖ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย
หมายเหตุ...ฝนหยุดตกแล้ว ลงไปทำงานภาคสนามได้แล้ว...


             

ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 ก.ย. 2552, 03:39:35 »
เพราะกังวล    ใจตน       เลยเป็นทุกข์
ไร้ซึ่งสุข       เพราะกิเลส   มันข่มเหง
ถ้ายอมมัน     ตามมัน       นั้นน่าเกรง
เช่นนั้นเอง     ทุกขัง         ดั่งที่เป็น
  เพราะยึดถือ  ยึดมั่น        เลยหวั่นไหว
จึงขุ่นใจ        เศร้าใจ        อย่างที่เห็น
อยากให้มัน    เป็นไป        ใจอยากเป็น
จนลืมเห็น     ความเป็น       อนัตตา



...กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสอนเรื่องการยึดติดในสิ่งต่างๆ

 และชี้ให้เห็นถึงการปล่อยวางครับ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ Lizm Club

  • “The one thing you cannot teach a person is COMMON SENSE.”
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 309
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: กวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 25 ก.ย. 2552, 04:31:54 »
ขอบคุณสำหรับบทกวีที่ได้นำมาให้อ่านกันยังทรงคุณค่าแล้วแฝงไปด้วยสัจธรรมของการมองเห็นธรรมะ การปล่อยวาง การไม่ยึดติดกับสิ่งที่มีอยู่.......

เหมือนเดิม...........ขอบคุณค่ะ :054: :054: :054:
"ก่อนทีท่านจะว่าผู้อื่น ลองหันมองดูตัวเองก่อนเถิดว่าตัวเองนั้นเป็นเช่นไร ถ้าเราไม่ได้ดีกว่าเขาก็อย่าว่าเขาเลย".......

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: กวีลำนำ...ในยามฟ้าหม่น...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 26 ก.ย. 2552, 12:07:37 »
มองให้เห็น    ความเป็น      อนิจจา
ให้รู้ว่า         มันเป็น         เช่นนั้นเอง

กราบพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณที่สั่งสอนครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา