"ธรรมะก็เรื่องเดียวกันอย่างนี้ จึงอุปมาให้ฟัง เพราะว่ามันไม่มีรูปแบบ
บอกไม่ได้ว่ามันเป็นรูปกลมหรือเหลี่ยม มันไม่รู้จัก นอกจากจะเปรียบเทียบอย่างนี้
ถ้าเข้าใจอันนี้ก็เข้าใจธรรมะ มันเป็นเสียอย่างนี้ อย่าเข้าใจว่าธรรมะมันอยู่ห่างเรา
มันอยู่กับเราก็เป็นเรื่องของเรานี่แหละลองดูซิ เดี๋ยวก็ดีใจ เดี๋ยวก็เสียใจ เดี๋ยวก็พอใจบ้าง
เดี๋ยวก็โกรธคนนั้น เดี๋ยวก็เกลียดคนนี้ ธรรมะทั้งนั้นแหละโยม"
ปรารภธรรม หลวงพ่อชา สุภัทโท(พระโพธิญาณเถร)
...............................................
...วิชาไม่หาย...
พระพุทธเจ้าคือธรรมะ ธรรมะก็คือพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้
ตรัสรู้นี่ท่านไม่เอาไปไหนหรอก ท่านก็ทิ้งไว้ในนี้แหละ
ถ้าพูดง่ายๆอย่างพวกครูเรานะ ครูในโรงเรียนไม่ได้เป็นครูมาแต่กำเนิดหรอก
มาเรียนวิชาครูถึงได้เป็นครูกัน ได้สอนในโรงเรียนได้เงินเดือนกับเขา
อยู่ไปนานๆก็เลยตายซะ ตายจากครูไปซะ ถ้าพูดอีกอย่างหนึ่งก็ว่า
ครูนั้นยังไม่ตาย คือคุณธรรมที่ทำครูให้เป็นครูนั้นยังอยู่
อย่างพระพุทธเจ้าของเราน่ะ สัจธรรมที่ทำให้คนๆนั้นเป็นพระพุทธเจ้านี่ยังอยู่ไม่หนีไปไหน....
...ช้าง วัว ควาย...
การฝึกจิตให้ดีย่อมสำเร็จประโยชน์ เราสังเกตุดูแต่สัตว์พาหนะ เช่น ช้าง วัว ควาย
ก่อนที่เราจะเอามาใช้งานต้องฝึกเสียก่อน เมื่อฝึกดีแล้วเราจึงได้อาศัยแรงงานมัน
ทำประโยชน์นานาประการ ท่านทั้งหลายก็ทราบแล้ว จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมมีคุณค่ามากมาย
กว่ากันหลายเท่า ดูแต่พระพุทธองค์และพระอริยสาวกได้เปลี่ยนภาวะจากปุถุชนมาเป็นพระอริยบุคคล
จนเป็นที่กราบไหว้ของคนทั่วไป และท่านได้ทำประโยชน์อย่างกว้างขวางเหลือประมาณที่เราๆจะกำหนด
เพราะพระพุทธองค์และสาวกได้ผ่านการฝึกจิตมาด้วยดีแล้วทั้งนั้น...
จิตที่เราฝึกดีแล้วย่อมเป็นประโยชน์แก่การประกอบอาชีพทุกอย่าง
ยังเป็นหนทางให้รู้จักทำงานด้วยความรอบคอบ ไม่เป็นผู้หุนหันพลันแล่น
ทำให้ตนเองมีเหตุผลและได้รับความสุขตามสมควรแก่ฐานะ....
...ต้นไม้กับกายเรา...
เหมือนกับต้นไม้ต้นหนึ่ง มันมีราก โคน ลำต้น ใบ
ใบทุกใบ กิ่งทุกกิ่งทั้งลำต้น อาศัยรากดูดกินอาหารส่งขึ้นไปหล่อเลี้ยง
ร่างกายของเรา ทั้งกายทั้งวาจานี้ หรืออายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
นี้เปรียบเหมือนกิ่ง ก้าน ลำต้น ใจเปรียบเป็นรากดูดอาหาร แล้วแบ่งขึ้นสู่ลำต้น
แบ่งไปหากิ่ง หาใบ ให้เป็นดอกเป็นผล...
......................................................................................
จากหนังสือ"เหมือนใจ คล้ายกับจิต"รวบรวมคำอุปมาของ หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร)
...
...ความคิดเห็นของผู้นำมาเผยแผ่...
"รู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม" สิ่งนั้นยังไม่เพียงพอ " ต้องอยู่ในธรรม รักษาธรรม มีธรรมเป็นเครื่องอยู"
เมื่อเรารักษาธรรม ธรรมนั้นจะรักษาเรา สรรพสิ่งรอบกายเรา ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมะ อยู่ที่เราจะคิดและพิจารณา
มองทุกอย่าง ปรับทุกอย่าง เข้าหาหลักธรรม มองให้เป็นธรรมะ แล้วจะเข้าถึง " ตถตา" ความเป็นเช่นนั้นเอง...
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๙.๒๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย