ผู้เขียน หัวข้อ: ยารักษาโรค สมุนไพรไทย แต่เดินทางมาไกล จากนอก...  (อ่าน 6480 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

porvfc

  • บุคคลทั่วไป



ต้นยาแปะตำปึง

               ต้นแปะตำปึงเดิมเป็นต้นยามาจากประเทศจีน  ลักษณะของใบยาจะหนานุ่มคล้ายกำมะหยี  รสชาติของใบยาคล้ายชมพู่ที่ยังไม่แก่ 

                  สรรพคุณ  ของใบยา ได้แก่ จะฟอกเลือด  ปรับระบบเลือดให้ดีขึ้น  น้ำเหลืองจะดีขึ้น  รักษาแผลภายใน - ภายนอก  ชะล้างสารพิษภายในร่ายกายออกทาง (อุจจาระ  ปัสสาวะ  และทางตา)  ทำให้กินข้าวใด้นอนหลับอาการปวดต่าง ๆ ก็จะหาย  ระบบหายใจจะดีขึ้นไม่เหนื่อยหอบ  ขับลมแน่นภายในช่องท้อง  โรคที่ใบยาแปะตำปึง  ได้รักษาหายมาแล้ว  ได้แก่โรคเบาหวาน  ความดันสูง-ต่ำ  โรคหืดหอบ-ภูมิแพ้  โรคมะเร็งทุกชนิด  ริดสีดวงทวารหนัก  งูสวัด โรคเก๊า  ขับนิ่ว  แผลสะเก็ดเงิน  แผดฝีหนองทั่วไป  โรคหัวใจ  โรคโลหิตจาง  เนื้องอกต่าง ๆ ในไต  ปวดเหงือก  ปวดฟันแผลอักเสบ  ปวดท้องประจำเดือน  คอเรสเตอรอล  ไขมันในเส้นเลือด  ไทรอยท์  ปวดเส้น  ปวดหลัง  โรคกระเพาะ ดวงตาที่เ็ป็นต้อ  ดวงตาอับเสบ  ขุ่นมัว  โรคผิวหนังทั่วไป  (สิว  ฝ้า  เป็นด่าง) <โรคเอดส์ถ้าทานใบยาก็จะมีผลให้สุขภาพดีขึ้น> 

                   วิธีการรับประทาน ใบสด  ควรรับประทานวันละ 1 ครั้ง  ประมาณ 2,3 หรือ 5 ใบ  เวลาที่ควรรับประทานใบยาที่ดีที่สุดคือ  ตี 5-7 โมงเช้า  เพราะลำไส้เริ่มทำงาน  ท้องยังว่างอยู่จะได้ผลเร็ว  ถ้าบางท่านที่ปวดเหงือก - ปวดฟัน ปากเป็นแผลลำคออักเสบ  ควรรับประทานใบยาในเวลากลางคืน (แปรงฟันให้เรียบร้อย)  ค่อยรับประทานใบยาเคี้ยวและอมทิ้งไว้สักระยะเวลาหนี่งแล้วค่อยกลืน  ผลที่จะได้ัรับคือ  ตื่นเช้าอาการปวดจะหายไป  จะขับถ่ายโล่งสบาย  จะมีขี้ตาออกมาเยอะหน่อย เพราะใบยาจะขับสารพิษออกทางตา  ถ้าใครปวดท้องและเป็นโรคกระเพาะให้รับประทานใบยาเดี่ยวนั้น  สักพักหนึ่งอาการปวดของโรคกระเพาะก็จะหายไป  ยังช่วยขับลมแก๊สที่แน่นในท้องออกด้วย  ยังสามารถนำใบยาแปะตำปึงใปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีก นอกเหนือจากรับประทานใบสดแล้ว ได้แก่

                 1.นำใบยามาทำเป็นอาหาร  เช่น แกงจืด (15-20 ใบต่อ 1 ท่าน)

                 2.นำมาพอกตาสำหรับคนที่ดวงตาเป็นต้อ  ดวงตาอักเสบ  ตามัว  นำใบยาประมาณ 7-8 ใบ  มาขยี้ หรือใช้ครกตำก็ได้ บีบน้ำยาใส่ที่ดวงตา  แบ่งใบยาเป็น 2 ส่วน พอกไว้  20-30  นาที  ค่อยล้างออก  ผลที่ได้รับคือ  ดวงตาจะสว่างขึ้น  แผลต่าง ๆ จะหายไป รวมทั้งต้อด้วย  ถ้าท่านใดเป็นมาก  ควรทำไว้สักระยะหนึ่ง

                  3. ท่านที่เป็นริดสีดวงทวารหนัก  ควรทานใบสด  และควรนำใบยามาขยี้หรือตำให้ได้พอเหมาะยัดใส่ทวารหนัก  จำทำให้แผลหายเร็ว  ติ่งที่โผล่ยุบเลือดที่ออกก็จะหยุด 



 การเก็บรักษาให้ได้นาน ถ้ามีใบยาที่แก่และเหลือง  นำมาล้างแล้วผึ่งให้แห้ง  นำมาปั่นหรือตำก็ได้  บีบน้ำยาใส่ถ้วย  นำไปนึ่งให้สุกปล่อยให้เย็นแล้วใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ใช้ได้นาน  ถ้าเป็นงูสวัด และแผลต่าง ๆ  ใช้น้ำยาทา  หรือนำใบยาสดมาตำพอกก็ได้  ตากแห้งทำใบชาได้

                   อาหารแสลงที่ควรระวัง  เช่น  เนื้อ  กุ้ง  ปลาหมึก  ปู  ปลาทู  ปลาร้า  หูฉลาม  กะปิ  ข้าวเหนียว  หน่อไม้  แตงกวา  หัวผักกาด  เผือก  สาเก  เครื่องดองของเมา  น้ำชา  กาแฟ  (ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงควรงด) <สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน>

                   วิธีการปลูก ต้นยาแปะตำปึงเมื่อปลูกได้ระยะหนึ่งประมาณปีกว่าต้นแม่ก็จะตาย  ควรหักปักชำใหม่  เมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีช่อดอกสีเหลืองไม่มีฝักและเมล็ด  ต้องปักชำเท่านั้น  ต้นยาชอบน้ำ  อากาศดี  ชอบแสงแดดพอสมควร  และดินร่วน  สิ่งที่ควรระวัง  คือ  เพี้ยแป้งชอบเกาะลำต้นและใบ  ถ้ามีเพี้ยแป้งก็จะมีมดแดง  จะทำให้ต้นยาเหียวแห้ง  และตาย  ต้องระวังสัตว์บางชนิดชอบกิน

                   หมายเหตุ ทุกท่านที่เจ็บป่วยเมื่อรับประทานใบยาแล้ว  ก็ควรไปพบแพทย์  และตรวจรักษาตามปกติ  และทานยาตามแพทย์สั่งส่วนใบยานั้นควรเป็นใบยาเสริมให้เจ็บป่วยหายเร็วขึ้นเท่านั้น  (ท่านที่มีต้นยาปลูก  และปลูกต้นยาพอรับประทานแล้วขอความกรุณาช่วยเหลือผู้อื่นด้วย  จะได้เป็นบุญกุศล  ที่ได้ช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์)           

         

            * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

                                พระคาถา (ป้องกันภัยโรค)

                          เข มับปัด โต   อุ ปะสัม ปะ  เก ปิเส คิ

 ตั้งนะโม 3 จบ   ภาวนาให้เจริญรุ่งเรือง  ปลอดภัยจากอุบัติภัยทุกอย่างในโลก



            ใน บรรดาพืชสมุนไพรมีทั้งของไทยและต่างประเทศ มีการใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของพืชแตกต่างกัน และมีคุณสมบัติมากน้อยแตกต่างกัน แต่ต้นยาที่ชื่อ “แปะตำปึง” จากประเทศจีน หรือบางท่านเรียกว่า     “จินฉี่เหมาเยี่ย” เข้ามาประเทศไทยพร้อมกับหญ้าปักกิ่ง หรือหญ้าเทวดา ไม่นานมานี้แต่แปะตำปึงหรือจินฉี่เหมาเยี่ย ถูกตั้งชื่อไทยว่า  “จักรนารายณ์” เป็นพืชพุ่มเตี้ย จัดอยู่ในตระกูล COMPOSITEA มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Gynura sarmentosa DC. มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชนิดใบนุ่มเหมือนกำมะหยี่ ใบเป็นสีเขียวอ่อนเส้นใบด้านบนลึกเช่นเดียวกับกลางใบ แต่ด้านหลังใบกลับนูนขึ้น กิ่งก้านเปราะหักง่าย ส่วนอีกชนิดหนึ่งใบมีลักษณะค่อนข้างแหลม สีเขียว ประโยชน์ใช้ใบรับประทานสด ซึ่งมีกลิ่นคล้ายผลชมพู่สาแหรกขณะผลอ่อน แต่มีรสเย็น การขยายพันธุ์ใช้กิ่งปักชำ อนึ่งบางท่านบอกว่าชนิดใบยาวเรียก “จินฉี่เหมาเยี่ย” แต่สรรพคุณเหมือนกัน
   

สมาชิกชมรมไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผลตลิ่งชันและเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่สถานีทดลองพืชสวนบางกอกน้อยของกรมวิชาการเกษตร บอกว่า "ใช้ใบสดของแปะตำปึง รับประทานสดวันละ 5-7 ใบ ประมาณ 7 วัน รับประทานง่าย ๆ ไม่มีรสฝาดหรือขมแต่อย่างใด หรือจะรับประทานเป็นของเคียงกับลาบ ส้มตำ แหนม หรือจะผสมไปในสลัดผักก็ได้ โรคที่พืชสมุนไพรชนิดนี้มีผู้รับรองว่ารักษาหายแล้ว ได้แก่ โรคเบาหวาน, ความดันสูง-ต่ำ, หืดหอบ, ภูมิแพ้, โรคมะเร็งทุกชนิด, ริดสีดวง-ทวารหนัก, งูสวัด, โรคเกาต์ และขับนิ่ว, แผลสะเก็ดเงิน, พุพองฝีหนองทั่วไป, โรคหัวใจ, โลหิตจาง, เนื้องอกต่าง ๆ
ในไต, ปวดเหงือกปวดฟัน, แผลอักเสบ, ปวดประจำเดือน, ไขมันในเส้นเลือด, ไทรอยด์, ปวดเส้นปวดหลัง, โรคกระเพาะอาหาร, ตาอักเสบ, ตาเป็นต้อ ขุ่นมัว ก็บอกแล้วไงว่าเป็นพืชสมุนไพรครอบจักรวาล"
   

สำหรับ โรคตา ต่าง ๆ ใช้แปะตำปึงโขลกแล้วนำมาพอกที่ตาประมาณ 20-30 นาที หรือโรคเกี่ยวกับผิวหนังเช่น งูสวัด, ผิวเป็นหนองอักเสบ พุพอง ใช้แปะตำปึง มาโขลกผสมกับน้ำตาลทรายแดง โดยอาศัยคุณสมบัติของน้ำตาลทรายแดง ช่วยในการจับแปะตำปึงไม่ให้หลุดร่วงง่ายเท่านั้นเอง
   
หลังจากที่ตัดกิ่งแปะตำปึง และเด็ดใบมารับประทานแล้ว จึงตัดกิ่งเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 10-15 ซม. มาปักชำนำไปไว้ในที่รำไร และหมั่นรดน้ำเสมอ ประมาณ 7-10 วัน ก็จะแตกรากเป็นต้นใหม่ แต่พันธุ์ไม้ชนิดนี้ไม่ชอบร่มมากนัก และอายุต้นจะนานเพียง 1 ปีเท่านั้น ปัจจุบันมีผู้นำมาเพาะชำขาย กระถางละ 20-25 บาท


 

**สิ่งที่ควรระวัง คือ เพี้ยแป้งชอบเกาะลำต้นและใบ ถ้ามีเพี้ยแป้งก็จะมีมดแดง จะทำให้ต้นยาเหี่ยวแห้ง และตาย ต้องระวังสัตว์บางชนิดชอบกิน                            
***หมายเหตุ***
 
หากใครเจ็บป่วยเมื่อรับประทานใบยาแล้ว ก็ควรไปพบแพทย์ และตรวจรักษาตามปกติ และทานยาตามแพทย์สั่ง...ส่วนใบยานั้นควรเป็นใบยาเสริมให้เจ็บป่วยหายเร็วขึ้น เท่านั้น

(ท่านที่มีต้นยาปลูก และปลูกต้นยาพอรับประทานแล้วขอความกรุณาช่วยเหลือผู้อื่นด้วย จะได้เป็นบุญกุศล ที่ได้ช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์)


**ข้อควรระวัง**
ผู้ที่กินใบแปะตำปิงระวังอาหารแสลง จำพวก เนื้อ กุ้ง ปลาหมึก ปู ปลาทู ปลาร้า หูฉลาม กะปิ ข้าวเหนียว หน่อไม้ แตงกวา หัวผักกาด เผือก สาเก เครื่องดองของเมา น้ำชา กาแฟ
ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรงควรงดด้วย <สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน> ***




ที่มาข้อมูล-เรื่อง และ ภาพ ชาลี
สถานที่ : สวนน้อยหน้าบ้าน (นนทบุรี)
ข้อมูลอ้างอิง : จากชมรมว่านยาสมุนไพรแปรรูป
อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดหนองคาย
โดย : อาจารย์สุขพัฒน์โชค มหิศนันท์


ออฟไลน์ schoolbus

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 153
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
 :017: :017: :017: ได้เกร็ดความรู้ดีมากๆเลยครับ ชอบๆ โอกาสหน้านำมาอีกนะครับ  :017: :017: :017:
อดีตรองประธานมูลนิธิปิยสีโล...ผู้ได้ฉายา สืบ ปืนแตก หรือ สืบ ปืนเสีย
พระครูพิทักษ์วีรธรรม (สืบ ปริมุตโต) เจ้าคณะตำบลท่าพระยา
พระอุปปัชฌาย์และเจ้าอาวาส วัดสิงห์ ต.บางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณปอร์ มากครับสำหรับสรรพคุณต่างๆของแปะตำปึง..

...ที่บ้านก็ปลูกไว้พอสมควรครับ พ่อกับแม่รับประทานเกือบทุกวัน... :002:

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ยาดีใกล้ตัวครับ  สมุนไพรไทย แน่นอนที่สุด . ผมชอบลิ้นกระบือ  :004: :004:

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
สมุนไพรมากมาย คุณปอร์เชียวชาญแน่เลยครับ เห็นลงสมุนไพรบ่อย ขอบคุณครับ ...  :016:

ออฟไลน์ SlanOon

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 112
  • ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไป ถ้ามันบินด้วยปีกของมันเอง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยอะไรกินยาสมุนไพรดีที่สุดครับคนสมัยก่อนก็กินแบบนี้
สมัยนี้กินยาเม็ดแบบแผนใหม่กินแล้วมันก็หายจากอาการเจ็บป่วยก้อจิงครับแต่มันจะมีสารพิษตกสะสมอยู่ในร่างกายเราครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พ.ย. 2552, 04:05:53 โดย YaHoo_aLoha »

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณครับ แปะตำปึง คุณยายผมรับประทานอยู่บ่อยครั้ง แก้เม็ดเลือดนี้ดีมากๆ ครับ.. :001: 

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ยาดีใกล้ตัวครับ  สมุนไพรไทย แน่นอนที่สุด . ผมชอบลิ้นกระบือ  :004: :004:


ชื่อสามัญ : ลิ้นกระบือ
แหล่งที่พบ : ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก
ลักษณะ : ออกดอกเป็นช่อ 5 - 10 ดอก กลีบน้ำตาลอมม่วงหรือน้ำตาลมี จุดเล็กสีม่วงกระจาย โคนสีขาว กลีบปากแผ่เป็นแผ่น สีม่วงหรือสีเขียวอมม่วง ดอกขนาด 2.5 - 3 ซม. มีกลิ่นหอม
ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม



ลิ้นกระบือ(กระบือเจ็ดตัว)
ชื่อวิทยาศาสตร์:Excoecaria cochinchinensis Lour.Var. viridis Merr. 
ชื่อวงศ์: EUPHORBIACEAE
ลักษณะวิสัย: ไม้พุ่ม

ลักษณะทั่วไป: ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้ำนม  ใบเป็นใบเดี่ยว  ออกดอกตรงข้ามหรือเรียงสลับโคนแหลม ขอบจักละเอียด  ด้านบนสีเขียวอมเทา  ด้านล่างสีแดงอมม่วง  ใบอ่อนผิวเป็นมัน 
ท้องใบเป็นสีเขียวอ่อน  จะเรียกว่า  ลิ้นกระบือขาว  ดอกสีเหลืออมเขียวขนาดเล็ก  ออกเป็นช่อสั้นตามซอกใบ
การกระจายพันธุ์:  อินโดจีน  ขึ้นได้ทั่วไป
ประโยชน์:  ใบสดเป็นสมุนไพร  ใช้ตำผสมเหล้าโรง  ดื่มขับน้ำคาวปลาหลังคลอด  และประจำเดือนมาไม่ปกติ  ใช้ทำดอกไม้ประดิษฐ์
**หมายเหตุ ไม่รู้จะช่วยท่านอชิได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ  07;


ที่มาข้อมูล-สวนพฤษาศาตร์
ต้นไม้ประจำตัวครู:  คุณครูรัตนา   วิทยดำรง
ตำแหน่ง:  ผู้ช่วยอาจารย์ฝ่ายวิชาการระดับมัธยมศึกษา

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
Thank you very much  swat@pvc  :054:
 
 

ออฟไลน์ nobeeta

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 310
    • ดูรายละเอียด
ต้นใบยานี้เคยปลูกไว้เหมือนกันได้ความรู้จากชาวบ้านแถวห้วยพลูบอกว่าเคี้ยวกินใบสดแก้ปวดเมื่อยร่างกายได้
บูรพาจารย์หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
พระอาจารย์ธนพงค์ สำนักสงฆ์หนองหวาย

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
มีคนไข้ที่เคยรู้จัก ชื่อป้าหลง เค้าเป็นมะเร็งเต้านม ให้ยาคีโม ร่วมกับการผ่าตัดและฉายแสงไปแล้ว ตอนแรกคุณป้าเเกผอมทานอารายไม่ได้เลย ผมก้อร่วง
พอได้ต้นแปะตำปึงมา แกก้อทานก่อนเจ็ดโมงเช้าวันละ 7 ใบ ทานพร้อมๆกับหนุมานผสานกาย ช่วยแก้ปวดเมื่อย จากที่ผมไม่มีเลย ตอนนี้ผมขึ้นเต็มหัวแล้ว แถมไม่หงอกทั้งหัวด้วยนะ
ของดีใกล้ตัว ถ้าใช้เป็น ก้อไม่ต้องไปหาหมอให้เสียเงินแพงแล้วล่ะค่ะ :050:

ออฟไลน์ PeAwPeed

  • I'm not MosT girls I'm Smile. I'm an angel in disguise. I'm angry. I'm a devil inside.
  • ผู้ดูแล
  • *****
  • กระทู้: 1574
  • เพศ: หญิง
  • Stay happy all...=^.*=
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณ คุณปอร์ ค่ะ  :054:
สำหรับความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย

ของดีใกล้ตัว ที่มีมาแต่โบราณ



What can I say it all started with a simple hello
Now look at us we’ve come a long way from just a simple