ผู้เขียน หัวข้อ: วุ่นวายแต่ไม่สับสน(นอกเคลื่อนไหวในสงบนิ่ง)  (อ่าน 1199 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
๒๗  มกราคม พ.ศ.๒๕๕
ตถตาอาศรม ริมแม่น้ำโขง
           รับฟังข่าวสารบ้านเมืองที่กำลังเป็นเป็น ทำให้ห่วงใยประเทศชาติและคนรุ่นต่อไป
ปัญหาสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางความคิด ที่แตกต่างกันของคนในสังคมที่สวนทางกัน
โดยมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยปี ๒๕๑๖และปี ๒๕๑๙
ซึ่งเป็นเรื่องของแนวความคิดเพียงอย่างเดียว ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือแอบแฝง
และลงท้ายด้วยการใช้ความรุนแรงใช้อาวุธเข้าตัดสิน ผู้คนล้มตายลงมากมาย ไร้ผู้รับผิดชอบ
          ไม่ขอกล่าวโทษใคร ขอให้เป็นเรื่องของเวรกรรม ทั้งผู้ที่กระทำและผู้ที่ได้ถูกกระทำ
มันเป้นเรื่องของกรรมรวมหมู่ ที่จะต้องรับรู้และชดใช่ร่วมกัน  เมื่อคิดได้อย่างนั้น มันก็สบายใจ
ไม่วุ่นวายเดือดร้อนไม่อาฆาตแค้นผู้ใด ได้แต่อุทิศบุญกุศลไปให้และขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
เพื่อให้เกิดความสันติสุขขึ้นในสังคม
          วันเวลาผ่านไป ทำให้เราเข้าใจสังคมมากขึ้น มีมุมมองและความคิดที่กว้างไกลขึ้น
รู้และเข้าใจในวิถีชีวิตและความคิดของแต่ละบุคคล  ที่ต้องดำเนินไปตามกระแสของสังคม
ตามกระแสของโลกธรรม วันและวัยทำให้เราเข้าใจอะไรๆมากขึ้น ทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าที่จะมาถึง จากการที่เราได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม
ตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากคนหยาบไม่มีศาสนา
จากคนบาปหยาบช้า กลายมาเป็นสาวกของพระศาสดา มาเป็นผู้ปฏิบัติธรรม
         บุญคุณของพระพุทธศาสนา คือคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ที่ช่วยดำรงค์
พระพุทธศาสนามาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เราได้รู้และเข้าใจ ได้อาศัยในร่มบารมีของพระพุทธศาสนานั้น
มันมากเกินจะบรรยายเป็นคำพูดและตัวอักษรได้ ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ กระแสธรรมนั้นสวนทางกัน
กับกระแสโลก "วุ่นวายแต่ไม่สับสน นอกเคลื่อนไหว ในสงบนิ่ง" คือความเป็นจริงของผู้ปฏิบัตธรรม
เมื่อเข้าใจธรรม ย่อมจะเข้าใจโลก และไม่ติดอยู่กับโลกธรรม...
                เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                        รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๒๗  มกราคม พ.ศ๒๕๕ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ Lizm Club

  • “The one thing you cannot teach a person is COMMON SENSE.”
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 309
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ......................ขอบคุณค่ะ :054: :054: :054:
"ก่อนทีท่านจะว่าผู้อื่น ลองหันมองดูตัวเองก่อนเถิดว่าตัวเองนั้นเป็นเช่นไร ถ้าเราไม่ได้ดีกว่าเขาก็อย่าว่าเขาเลย".......

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด
กระแสธรรมนั้นสวนทางกัน
กับกระแสโลก "วุ่นวายแต่ไม่สับสน นอกเคลื่อนไหว ในสงบนิ่ง" คือความเป็นจริงของผู้ปฏิบัตธรรม
เมื่อเข้าใจธรรม ย่อมจะเข้าใจโลก และไม่ติดอยู่กับโลกธรรม...


กราบนมัสการและกราบขอบพระคุณ...หลวงพี่...ครับ :054: