จากหนังสือ ?งานของแผ่นดิน?
ของนายประมวล รุจนเสรี อธิบดีกรมการปกครอง
พ.ศ. ๒๕๔๐ ? ๒๕๔๒
นอกจากประเทศไทย ได้มีปรากฏการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้นมากมาย ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนก่อนสภาพบ้านเมืองของเรายังมีพฤติการณ์ที่น่าปริวิตกอีกมาก เช่น
- บุตรหลาน ไม่มีความเคารพยำเกรงในบิดามารดาของตนเองของคู่ครอง ทอดทิ้งไม่ดูแลเลี้ยงพ่อแม่ ผู้ใหญ่
- ผู้ปกครองประเทศ ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม คนดีมีฝีมือไม่ได้รับการยกย่อง สนับสนุนให้ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ คนซื่อสัตย์ เฉลียวฉลาด เฉียบแหลม ไม่ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ทางบริหารทางตุลาการ แต่ตรงกันข้ามคนไร้ฝีมือได้รับการยกย่องให้มีหน้าที่การงานสูงใหญ่ กิจการบ้านเมืองเกิดความเสียหาย คนดีมีฝีมือพากันทอดธุระ ปล่อยให้ผู้ที่มีฝีมืออ่อนบริหารบ้านเมืองตามยถากรรม
- นักปกครองผู้โง่เขลา ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งคนไร้ศีลธรรมเข้ามาทำงานเกี่ยวกับคดี บุคคลนั้นก็จะรับสินบนจากคู่กรณีทั้ง ๒ ฝ่าย
- ตระกูลที่เคยมียศศักดิ์ หรือตระกูลผู้ดีจะตกต่ำ ผู้คนเลวๆ จะได้รับยกย่องเป็นใหญ่เป็นโต มีอำนาจวาสนาในแผ่นดิน
- ผู้หญิงจะประพฤติตัวเลวทราม สำส่อน กินเหล้าเมายา เที่ยวเตร่เอาแต่แต่งตัว ใครมีเงินทองของล่อใจ ก็ไปกับคนนั้น
- บ้านเมืองจะร่วงโรย ไม่มีความอุดมสมบูรณ์
- ผู้ปกครองบ้านเมืองจะไร้คุณธรรม มีแต่อคติในใจ ไม่ปฏิบัติราชการโดยชอบธรรม มุ่งกอบโกยแต่ผลประโยชน์ เห็นแก่เงินเป็นที่สุด มิได้มีน้ำใจเห็นแก่ทุกข์ยากของราษฎรทั้งจะหยาบช้า ทารุณ กดขี่ ขูดรีดเอาแต่ราษฎรทุกวิถีทาง
- ผู้ปกครองบ้านเมือง จะไม่อยู่ในธรรม ผู้คนพลเมืองทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ชาวไร่ ชาวนา แม้พระสงฆ์องค์เจ้า ก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เทวดาอารักษ์ทุกหมู่เหล่าพลอยไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อบ้านเมืองปราศจากผู้ตั้งอยู่ในธรรม ลมฟ้าอากาศ ก็เกิดวิปริตแปรปรวน เกิดพายุร้ายแรง ฝนไม่ตกทั่วทุกถิ่น แผ่นดินเดียวกัน บางถิ่นน้ำท่วม บางถิ่นแห้งแล้งบางถิ่นน้ำขาดแคลน
- พระศาสนาจะเสื่อมลง ภิกษุอลัชชีมีมาก อลัชชีเหล่านั้นแสดงธรรมเพราะหวังวัตถุปัจจัย ผู้คนก็เลื่อมใสฟังเทศน์เฉพาะแต่ชอบคำสำเนียงไพเราะ ถวายปัจจัยผู้เทศน์คราวละมากๆ พระภิกษุก็จะเทศน์เอาใจโยมเพื่อหวังปัจจัย
- คนดีตกต่ำ ไม่ได้รับการยกย่อง คนเลวได้เป็นใหญ่เป็นโต ได้รับการยอมรับนับถือ มีคนเอาอย่างการประพฤติปฏิบัติของคนเลว แม้แต่ในฝ่ายพระศาสนา พระสงฆ์ที่ประพฤติเลวทราม ทุศีลอลัชชี ก็ยังได้รับการยกย่อง
- สังคมเสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ ผู้คนเกิดตัณหาราคะจัด และประพฤติตนไปตามอำนาจกิเลส ผู้ชายตกอยู่ในอำนาจของภรรยาซึ่งเป็นสาวรุ่น
- สภาพการณ์ที่ยกมาแสดงไว้ ณ ที่นี้ เป็นสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยและสภาพการณ์เหล่านี้ มีปรากฏกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่๒๗ เอกนิบาตชาดก ขุทกนิกาย ชื่อ ?มหาสุบินชาดก? เล่าเรื่องความฝัน ๑๖ประการ ของพระเจ้าปเสนทิโกศล แห่งกรุงสาวัตถี ที่ทรงพระสุบินนิมิต ๑๖ เรื่องและพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ไว้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาในอนาคตกาลและเหตุการณ์นั้นๆ ก็ได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ในประเทศไทยที่เป็นเมืองพระพุทธศาสนาที่สมบูรณ์แห่งเดียวในโลก เพื่อท่านผู้อ่านจะได้นำพุทธพยากรณ์นี้มาพิจารณาไตร่ตรองถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย และหาทางแก้ไข พุทธพยากรณ์นี้เป็นคำกลอน ดังนี้
ปางองค์ชินวงศ์พระจอมไตร
อันอาศัยสาวัตถีบุรีสถาน
ภิกษุสงฆ์สองหมื่นเป็นบริวาร
พระสำราญอยู่ในเขตพระเชตุพน
กรุงกษัตริย์ปัตถเวนไปทูลถาม
ด้วยข้อความนิมิตคิดฉงน
อภิวาทเบื้องบาทพระยุคล
แล้วทูลถามแต่ต้นไปจนปลาย
สมเด็จพระชินสีห์โมลีโลก
จึงดับโศกกรุงกษัตริย์ให้เสื่อมหาย
แย้มพระโอษฐ์โชติช่วงวิเชียรพราย
สว่างฉายพระเขี้ยวแก้วแวววาว
สว่างวับจับพระคันธกุฎี
พระรัศมีช่วงเป็นเกลียวสีเขียวขาว
อีกนิลแนมแซมหงส์เป็นวงวาว
ทั้งแดงขาวเหลืองเบญจรงค์พราย
ข่มขี่รัศมีพระสุริยง
จากโอษฐ์องค์งามลออเป็นช่อฉาย
เผยพุทธบรรหารประทานทาย
อันตรายมิได้มีแก่บพิตร
จะได้แก่ศาสนาตถาคต
โดยกำหนดสองพันเศษสังเกตจิต
ราษฎรจะร้อนใจดังไฟพิษ
จะวิปริตทุกอย่างต่างต่างเป็น