"วิธีฝึกทิพยจักษุของฝรั่งและโยคีในอินเดีย"
โดย...หลวงวิจิตรวาทการ
วิธีที่ฝรั่งและโยคีในอินเดียใช้สำหรับทำให้เกิดทิพยจักษุ มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ในอดีต, อนาคต และปัจจุบัน มีอยู่ ๓ วิธี คือ
วิธีที่ ๑ โดยแตะต้องวัตถุอันใดอันหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล, สถานที่, หรือเหตุการณ์ที่ต้องการจะทราบนั้น
วิธีที่ ๒ โดยมองดูลูกแก้ว หรือถ้วยน้ำ
วิธีที่ ๓ โดยสะกดตัวเองให้หลับ อย่างวิธีเข้าฌานของเรา
วิธีที่ ๑ และวิธีที่ ๒ นั้น พอจะนำมาบรรยายไว้ในที่นี้ เพื่อเป็นเครื่องประกอบความดำริของผู้ที่ใฝ่ใจในวิชชานี้บ้าง แต่ส่วนวิธีที่ ๓ นั้น เป็นเรื่องสะกดดวงจิต ซึ่งอยู่นอกขอบเขตของหนังสือเล่มนี้
แต่วิธีที่ ๑ และ ๒ นั้น หาอันตรายมิได้ และแม้จะทำไม่สำเร็จ ก็เป็นประโยชน์ที่ยังเป็นเครื่องหัดความจำและมโนคติของเราให้ดีขึ้นอย่างหนึ่ง ทั้งปลูกสมาธิให้เกิดขึ้นได้อีกอย่างหนึ่ง
ความจำ มโนคติ และสมาธิ ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นประโยชน์แก่เราในกิจการทุกประเภท
ส่วนวิธีการนั้น เขาอธิบายไว้ดังต่อไปนี้
ขั้นแรกของวิธีที่ ๑ นั้น เขาให้ตั้งต้นที่ของง่าย ๆ ไปก่อน เช่น เอาจดหมายเก่า ที่มีคนเขียนถึงเราเป็นเวลานานมาแล้วมากำไว้ในมือ และพยายามนึกถึงคนที่เขียนนั้น ว่ามีลักษณะรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอเป็นประการใด พยายามทำเช่นนี้ จากคนที่เรารู้จักดีที่สุดก่อน จนถึงคนที่เรารู้จักน้อยที่สุด
ขั้นที่ ๒ เมื่อไปเที่ยวที่แห่งหนึ่งแห่งใด ต่างถิ่นต่างจังหวัด จงเก็บเอาก้อนดินก้อนหนึ่งมา ถือก้อนดินไว้ในมือ พยายามระลึกถึงที่นั้น จนเห็นภาพติดตาเราเกือบเป็นอุคคหนิมิต
ขั้นที่ ๓ เอาสิ่งของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งมาจากที่ที่เราไม่เคยเห็นเลย แต่เคยทราบเรื่องอยู่บ้าง เช่น เอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ที่มาจากประเทศอังกฤษ ที่เราไม่เคยเห็นเลย แต่ได้ทราบจากหนังสือบ้าง โดยมีใครเล่าให้ฟังบ้าง ว่าประเทศนั้นเป็นอย่างไร เอาผ้าเช็ดหน้านั้นมาถือไว้ แล้วพยายามเขียนภาพประเทศอังกฤษลงในหัวเรา และใช้มโนคติให้แลเห็นเสมือนหนึ่งตัวเราอยู่ในที่นั้น ๆ
ขั้นที่ ๔ เอาของซึ่งมาจากที่ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบเรื่องราวเลยมาถือไว้ และพยายามนึกเอาเองว่า ของเหล่านั้นมาจากที่แห่งไร
ขั้นที่ ๕ ถ้าสามารถจะทำได้ ลองเก็บเอาของที่คนใดคนหนึ่งซึ่งเราไม่รู้จักเลย เขาโยนทิ้ง เป็นต้นว่ากล่องบุหรี่ กลักไม้ขีดไฟ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เอามาถือไว้ แล้วพยายามนึกถึงคนเหล่านั้น ว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร มีอาชีพในทางไร เวลานี้กำลังทำอะไรอยู่ ฯลฯ
ตามวิธีที่อธิบายมาเป็นขั้น ๆ นี้ จะเห็นได้ว่า มโนคติเป็นเครื่องช่วยอย่างสำคัญ และกระแสที่ติดอยู่กับสิ่งของนั้น ๆ เป็นเครื่องทำให้มโนคติของเราใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที ถึงกับถูกต้องตามความจริงมากที่สุดในเมื่อฝึกหัดมาก ๆ เข้า ฝรั่งได้ใช้วิธีนี้ จับผู้ร้ายได้บางครั้ง ในกรณีที่เหลือวิสัยที่จะทราบตัวผู้ร้ายได้ แต่เผอิญผู้ร้ายทิ้งของบางอย่างไว้ในที่ที่กระทำผิด เอาของนั้นมาให้ผู้เชี่ยวชาญในวิชชานี้ลองทำ เมื่อผู้เชี่ยวชาญบอกตัวว่า คนไหนเป็นผู้ร้าย ตำรวจก็ลองเชิญตัวมาไต่ถาม และโดยอาศัยความฉลาดของผู้ที่ซักไซ้ไล่เลียง ในที่สุดจะทำให้ผู้ร้ายต้องรับสารภาพ หรือเป็นโอกาสให้ได้พิสูจน์ ที่กฎหมายต้องการขึ้นมาเอง
ที่มา
http://www.puansanid.com/forums/showthread.php?t=4451