กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 08 ธ.ค. 2552, 04:37:11

หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง...ในความเหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 08 ธ.ค. 2552, 04:37:11
ธุดงคสถานบ่อน้ำทิพย์เจริญธรรม ภูเก้ายอด เมืองสามหมอก
              31  กรกฎาคม  2545
       ทบทวนใคร่ครวญในสิ่งที่ผ่านมา ในการถ่ายทอดสื่อธรรมะแสดงธรรม ได้เห็นถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา
เพราะว่าเราเอาความรู้สึก ความปรารถนาของเรา ไปเป็นเจตนาตัวกำหนดในการกล่าวธรรม โดยจิตนั้นหวังผล
ให้ผู้ฟังรับรู้ในหลักธรรมแล้วนำไปปฏิบัติตาม พูดง่ายๆก็คือเอาตัณหาของเราไปยัดเยียดให้เขาปฏิบัติตามที่เรา
ปรารถนาจะให้เป็น คืออยากให้เขาได้ฟังได้รู้และได้เข้าใจ ได้นำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนากายและจิตของเขาให้ดีขึ้น
แต่เมื่อเขาไม่ฟัง หรือไม่ปฏิบัติตาม ทำให้ใจเราเกิดอกุศลจิตคือเกิดความเสียใจ น้อยใจ ไม่พอใจ ใจของเราจึงเป็นทุกข์
หรือเมื่อเขาเชื่อฟังนำไปปฏิบัติตามที่เรากล่่าวแล้วได้ผลดี มีความเจริญในธรรม เราก็หลงดีใจปลื้มใจ พอใจในสิ่งนั้น
เกิดมานะทิฐิ ภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง
     นั่นคือความผิดพลาดในการถ่ายทอดธรรมในการกล่าวธรรมที่ผ่านมา เพราะว่าใจเรานั้นไปหวังผลในการกล่าวธรรม
มิได้กล่าวธรรมเพื่อธรรม เรากล่าวธรรมเพื่อสนองตัณหาความอยากให้มี อยากให้เป็นของเรา ทำให้มันมีอารมณ์ร่วม
แต่ถ้าเรากล่าวธรรมตามธรรม เพื่อธรรม ตามหน้าที่และบทบาทที่ได้รับ คือการทำหน้าที่เป็นผู้กล่าวธรรม ถ่ายทอดธรรม
ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์แบบ โดยไม่หวังผลที่จะเป็นไปที่จะเกิดขึ้น ใจเราก็เป็นสุข ใจเราก็จะเกิดปิติ ปิติในธรรม
ที่ได้นำเสนอและการทำหน้าที่ของเราที่สมบูรณ์
    รูปแบบวิธีการทุกอย่างนั้นเหมือนเดิม เพียงแต่เราเปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนเจตนาเท่านั้น ผลที่เกิดขึ้นทางใจนั้น
แตกต่างกันมากมาย การกระทำที่มุ่งหวังผล ใจจะกังวลและวุ่นวาย แต่ถ้ากระทำไปโดยไม่หวังผลใจจะไม่กังวลไม่วุ่นวาย
ใจก็จะสบายเพราะได้ทำหน้าที่ของเรานั้นได้สมบูรณ์แล้ว.....
       ...
 :059:มองย้อนกลับไป...เพียงแต่เปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดวางจิตใหม่ สิ่งที่ได้รับนั้นแตกต่างกันมากมาย ทำให้เราได้รู้ว่า
ที่ผ่านมานั้นเราวางจิตไม่ถูกต้อง เรากล่าวธรรม แสดงธรรมโดยมีตัณหาเข้าไปเป็นตัวกำหนด คืออยากให้เป็นแบบนั้น
อยากจะให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น ไม่อยากจะให้เป็นอย่างนี้ ซึ่งความคิดอย่างนั้นมันคือ ตัวตัณหา ภวตัณหา
และวิภวตัณหา เมื่อมันมีตัณหาเข้ามามีส่วนร่วม มันจึงนำมาซึ่งความทุกข์ และเมื่อขจัดตัดตัณหาออกไปได้ใจเราก็เป็นสุข
เพียงแต่เปลี่ยนแปลงที่ใจ เปลี่ยนแปลงภายใน สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจนั้นแตกต่างกันมากมาย...
                 เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มวลมิตรทุกผู้คน
                                รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะไร้นาม
๘  ธันวาคม  ๒๕๕๒ เวลา ๐๔.๓๖ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...ในความเหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 08 ธ.ค. 2552, 08:45:11
เพียงแต่เปลี่ยนแปลงที่ใจ เปลี่ยนแปลงภายใน สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจนั้นแตกต่างกันมากมาย...
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณที่ให้แง่คิด สอนใจครับ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...ในความเหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 08 ธ.ค. 2552, 09:18:14
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

เป็นจริงดั่งที่กล่าว  การกล่าวธรรมโดยธรรม  หรือแสดงธรรมะเพราะเป็นธรรม มิใช่เพื่อสนองตัณหา  ได้ผลดีกับใจของเราเองแน่นอน

เหมือน เวลาเ้ช้าๆ มาทำงานเห็นพระบิณฑบาต พระท่านก็ออกโปรดฯ ตามหน้าที่ ตามกิจวัตร แต่ภาพที่เห็นทำให้เกิดศร้ทธา

เห็นความสงบ ความสมถะ ก็เกิดศรัทธา เหมือนได้รับการแสดงธรรมจากพระท่าน โดยไม่ทันรู้ตัว จริงๆ

กราบขอบพระคุณ พระอาจารย์สำหรับบทความที่มีคุณค่าอย่างมาก ครับ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...ในความเหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 08 ธ.ค. 2552, 01:56:43
กราบนมัสการขอบพระคุณที่เมตตาสอนครับ...

...การคาดหวังจากสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าสมหวังหรือผิดหวังก็เป้นกิเลสอย่างที่พระอาจารย์สอนจริงๆครับ...

...ทำเพราะเราต้องการทำ แค่นั้นก็คงจะเป็นสุขใจ...
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...ในความเหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 08 ธ.ค. 2552, 09:05:35
ใจคนเรายากเย็นเกินไป ไม่เห็นต้องทำให้ยากเลย ...  :095:

กิเลสตัณหาหนอ ที่ทำให้ทุกข์ อยากมีความสุข ต้องแปลงใจใหม่

ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสั่งสอนผ่านเว็บบอร์ดทุกวัน สาธุ ...  :054: