กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: ๛][รัตu:][๛ ที่ 06 ต.ค. 2552, 06:54:30
-
"การ ทำความดีมีการให้ทาน
รักษาศีลภาวนาเป็นต้น
กาารทำความชั่วมีกายทุจริต วจีทุจริตเป็นต้น
ครั้นเราทำความดี ความดีจะตามสนอง
ให้เรามีสุข มีสุคติเป็นที่ไป
ครั้นเราทำความชั่ว ความชั่วจะตามสนอง
ให้เรามีความทุกข์ มีทุคติเป็นที่ไป"
"พระเวสสันดรท่านให้ทาน
ท่านทำบุญท่านสร้างบารมี ท่านกันความชั่ว ความอิจฉาพยาบาท ท่านกันการประพฤติผิดศีล จึงชื่อว่า "กัน" เมื่อมีกันก็มีอานิสงส์
อานิสงส์ หมายถึง "ผล"
ผลก็เหมือนผลไม้ เมื่อลำต้นมันดี ผลก็มีเต็มที่ เช่น ผลเงาะ ผลทุเรียน เจ้าของสวนปลูกต้นเงาะ ต้นทุเรียนขึ้นมาแล้วในที่สุดก็ได้อานิสงส์คือ ผลเงาะ ผลทุเรียน"
(http://img21.imageshack.us/img21/231/06102009234.jpg)
-
http://www.buddhadasa.com/dhammasound7/duty.html
http://www.buddhadasa.com/dhammasound7/dhammaduty01.mp3
-
***************แด่น้อง ด้วยรัก
*****ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่**************http://board.palungjit.com
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
--------------------------------------------------------------------------------
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
ตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เป็นอกุศล เป็นส่วนแห่งอกุศล เป็นฝ่ายแห่งอกุศล ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจชั่วแล้ว จะทำก็ตามจะพูดก็ตาม ย่อมเป็นทุจริต เพราะทุจริตนั้นทุกข์ย่อมติดตามเขาไป ดุจล้อหมุนไปตามรอยเท้าโค ฉะนั้น
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุดสำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้วจะทำก็ตามจะพูดก็ตาม ย่อมเป็นสุจริต เพราะสุจริตนั้น สุขย่อมติดตามเขาไป ดุจเงาติดตามตัวไปฉะนั้น สัตว์โลกทั้งหลายย่อมถูกจิตนำไป ย่อมกระเสือกกระสนเพราะจิต สัตว์ทุกจำพวกย่อมเป็นไปตามอำนาจของจิต
ที่ตรัสว่าธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ เป็นต้นนั้น หมายถึงใหญ่กว่าเจตสิกธรรมที่ประกอบในจิต เพราะว่าเจตสิกทั้งหลายเมื่อเว้นจากจิตเสียแล้วย่อมไม่อาจเกิดขึ้นรับอารมณ์ได้ ส่วนจิตนั้นแม้จะเว้นจากเจตสิกบางดวงก็ยังเกิดขึ้นรับอารมณ์ได้ เพราะเหตุนั้นจิตจึงใหญ่กว่าเจตสิก ดังนี้
คำว่าจิตนี้มีชื่อ 10 ชื่อ
คือ จิต 1, มโน 1, มานัส 1, หทัย 1, ปัญฑร 1, มนายตนะ 1, มนินทรีย์ 1, วิญญาณ 1, วิญญาณขันธ์ 1, มโนวิญญาณธาตุ 1 ใน 10 ชื่อนั้น มีความหมายดังนี้คือ
1. ที่ชื่อว่า จิต เพราะเป็นธรรมชาติวิจิตร
2. ที่ชื่อว่า มโน เพราะกำหนดรู้อารมณ์
3. ที่ชื่อว่า มานัส ก็มีอรรถเหมือนกับมโนนั่นเอง
4. ที่ชื่อว่า หทัย เพราะอยู่ภายใน
5. ที่ชื่อว่า ปัณฑระ เพราะอรรถว่า บริสุทธิ์
คำนี้ตรัสหมายเอาภวังคจิต อนึ่งแม้กุศลจิตก็ตรัสว่า ปัณฑระเหมือนกัน
6. ที่ชื่อว่า มนายตนะ เพราะอรรถว่า เป็นบ่อเกิดเป็นที่ประชุมและเป็นเหตุ
7. ที่ชื่อว่า มนินทรีย์ เพราะอรรถว่า เป็นใหญ
8. ที่ชื่อว่า วิญญาณ เพราะอรรถว่ารู้แจ้งซึ่งอารมณ์
9. ที่ชื่อว่า วิญญาณขันธ์ เพราะวิญญาณนั้นเป็นส่วนหนึ่งแห่งขันธ์
10. ที่ชื่อว่า มโนวิญญาณธาตุ เพราะอรรถว่า เป็นสภาวะธรรม ไม่ใช่สัตว์ เป็นต้น
http://www.thaimisc.com/freewebboard...aew&topic=5577
__________________
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
-
ขอบพระคุณท่านรัตนะ ท่านjoker ท่านooo ครับ....
...สั้นๆ ได้ใจความ...
-
ขอบคุณท่านรัตนะ และท่าน ๐๐๐ ท่าน joker มากครับ สาธุ ... ธรรมะมีใจเป็นใหญ่ ... :054:
-
ถึงเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ 2 ใบ
เมื่ออ่านกระดาษแผ่นนั้นแล้ว ย่อมเปี่ยมล้นซึ่งคุณค่าที่ยากประมาณได้
ขอบคุณท่านรัตนะมากครับ สำหรับข้อคิดจากกระดาษ 2 แผ่นครับ.....สวัสดี :001: :001: :001:
-
เป็นเศษกระดาษที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณค่าจริงๆ......................ขอบคุณท่านผู้นำเสนอ............ :054: :054: :054:
-
ครั้นเราทำความดี ความดีจะตามสนอง
ครั้นเราทำความชั่ว ความชั่วจะตามสนอง
ผมกระทำกรรมดีเพื่อลดกรรมชั่วของตนเองครับ
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหักลบกรรมชั่วที่ตนเองเคยทำไปได้
:054:ขอบคุณท่านรัตนะ ท่านjoker ท่านooo
-
น่าเชื่อว่า
กระดาษใบเล็กๆ
จะมีแง่คิดคติขนาดนี้
.............