กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 12 มิ.ย. 2554, 07:16:00

หัวข้อ: ในอ้อมกอดของขุนเขา..ใต้ร่มเงามวลพฤกษา...บทที่ ๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 12 มิ.ย. 2554, 07:16:00
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อาทิตย์ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔
.....สิบกว่าวันที่ผ่านมานั้น เร่งสะสางงานที่ค้างคาอยู่ให้เสร็จตามกำหนด
เพราะต้องมีภาระกิจที่จะต้องเดินทางลงไปที่ภาคใต้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง
จึงต้องสะสางให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากให้ค้างคาไว้ให้ต้องคอยกังวลใจ
มงคลสูตรบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า..อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง..
การไม่ทำงานโดยไม่ปล่อยให้ค้างคา เป็นมงคลของชีวิต...เพราะจิตของเรานั้น
จะไม่ไปกังวลยึดติด เมื่อย้อนระลึกนึกคิดถึงสิ่งที่สร้างและที่ทำมา ซึ่งมันจะเป็น
ความภาคภูมิใจในความสำเร็จของสิ่งที่ได้กระทำมา ว่าเรานั้นได้ทำหน้าที่ของ
เรานั้นสมบูรณ์แล้ว เต็มที่แล้ว ในทางกลับกันถ้าเราได้ทำอะไรไว้และสิ่งที่ได้
กระทำนั้นมันยังไม่สำเร็จผล เมื่อระลึกนึกถึงสิ่งนั้น ความกังวลใจก็จะเกิดขึ้นในจิต
มันคล้ายกับมีความผิดความบกพร่องความเสียใจความน้อยใจในสิ่งที่เราทำไว้และ
ยังไม่สำเร็จผล มันจะเป็นความกังวลที่ตามหลอกหลอนจิตเราตลอดไป เพราะว่าสิ่ง
ที่ได้ทำไว้นั้นมันยังไม่จบสิ้น มันยังไม่ถึงความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าเราจะกระทำ
การสิ่งใด เราควรมีเป้าหมายและขอบเขตของสิ่งที่เรากระทำ ตั้งความหวังและความพอใจ
ว่ามันควรจะอยู่ในจุดไหน โดยเอาเหตุและปัจจัยที่เรานั้นมีอยู่มาเป็นตัวคิดและพิจารณา
ตามกำลังความรู้ความสามารถของตน มันจึงจะถึงผลของความสำเร็จ ซึ่งบางครั้งเรานั้น
อาจจะคิดดีจนเกินไป เกินเหตุและปัจจัยที่ตนมี จึงไม่สามารถที่จะทำตามความคิดนั้นได้
มันจึงได้เพียงแต่คิดและจินตนาการฝันไป ไม่สามารถที่จะนำมากระทำให้เป็นรูปธรรมได้
การคิดงานแต่ละครั้งนั้นให้คิดจากต้นทุนกำลังของเรามีอยู่มาเป็นสมมุติฐานในการคิดงาน
เพราะเมื่อเราคิดแล้ว เราสามารถที่จะนำความคิดนั้นมาทำให้เป็นรูปธรรมได้ทันที เพราะว่า
มีเหตุและปัจจัยอยู่พร้อมแล้ว...เมื่อฝันไว้แล้วก็จะไปถึงซึ่งความฝัน...
...ในอ้อมกอดของขุนเขา...ใต้ร่มเงามวลพฤกษา...บทที่ ๓...
...มีมากมาย  หลายหลาก  มากที่คิด
เกิดจากจิต    ภายใน       นั้นใฝ่หา
เพราะมีความ   เชื่อมั่น      และศรัทธา
จึงนำมา   ให้คิด    จิตผูกพันธ์
...คิดจากเหตุ   ปัจจัย   ที่มีอยู่
โดยให้รู้   และเห็น   ในปัญหา
ตามกำลัง   หน้าที่    และเวลา
ให้รู้ว่า   สิ่งควรคิด     กิจควรทำ
...คิดในสิ่ง  ที่เรา   นั้นทำได้
อย่าได้ไป  ฝันใฝ่    ให้เลิศล้ำ
เพราะคิดดี  เกินไป   อาจไม่ทำ
ไม่อาจนำ   ทำความคิด  ให้เป็นจริง
...เพราะว่าขาด  เหตุปัจจัย  มาประกอบ
จึงไม่ชอบ   ประกอบใน   สรรพสิ่ง
เพราะคิดดี   จนเกินไป    ในความจริง
ทำให้สิ่ง    ที่คิด   ผิดเวลา
...เมื่อคิดแล้ว   ต้องทำ   ตามความคิด
โดยพินิจ   เหตุผล   เข้าค้นหา
วิธีการ    ทำอย่างไร  จะได้มา
จงค้นหา  ถึงรูปแบบ   วิธีการ
...การทำงาน  ทุกอย่าง   ต้องวางแผน
มีแบบแปลน  กลืนกลม    ประสมสาน
เพื่อให้เกิด   ความสำเร็จ  ขึ้นในงาน
ต้องผ่านการ  วางแผน     อย่างแม่นยำ
...มีสติ  มองงาน    ให้รอบครอบ
และวางกรอบ  ติดตาม  อย่างสม่ำ
มีสติ  อยู่กับงาน    การกระทำ
คิดแล้วนำ  ทำให้เห็น  เป็นความจริง
...ไม่ต้องคิด  ให้ดี  ให้สวยหรู
ให้คิดอยู่    กับเหตุ  สรรพสิ่ง
คิดแล้วทำ   ทำให้เห็น  เป็นความจริง
อย่าคิดทิ้ง   แล้วไม่ทำ   จะช้ำใจ...
...ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมระไร้นาม-วจีพเนจร...
๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๗.๑๖ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี


 

หัวข้อ: ตอบ: ในอ้อมกอดของขุนเขา..ใต้ร่มเงามวลพฤกษา...บทที่ ๓
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 12 มิ.ย. 2554, 08:50:30
 
...มีมากมาย  หลายหลาก  มากที่คิด
เกิดจากจิต    ภายใน       นั้นใฝ่หา
เพราะมีความ   เชื่อมั่น      และศรัทธา
จึงนำมา   ให้คิด    จิตผูกพันธ์
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                             
กราบนมัสการ พระอาจารย์โด่ง มา ณ.ที่นี้ด้วยครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
 
กราบขอบพระคุณ สำหรับ บทความ บทกวี อันทรงคุณค่ายิ่งที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                                                                         
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :054: :054:
   
   
หัวข้อ: ตอบ: ในอ้อมกอดของขุนเขา..ใต้ร่มเงามวลพฤกษา...บทที่ ๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 12 มิ.ย. 2554, 08:10:24
อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง..การไม่ทำงานโดยไม่ปล่อยให้ค้างคา เป็นมงคลของชีวิต
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันครับ