กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 20 ก.ค. 2554, 04:51:11

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๙ กค.๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 20 ก.ค. 2554, 04:51:11
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พุธที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
         “ กายเบา จิตเบา ว่าง โปร่ง โล่ง เบา สบาย “ ครบ ๗ วันที่ได้ควบคุมอาหาร
งดเว้นซึ่งของคาวทั้งหลาย เหลือเพียงผลไม้ ผัก นมถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม
อาหารหนักในกระเพาะถูกขับออกหมดแล้ว ทำให้จับความรู้สึกของลมหายเข้าออก
ใจได้ง่าย เห็นชัดซึ่งอาการพองยุบของหน้าท้องในขณะที่หายใจเข้าออกได้ชัดเจน
ร่างกายรู้ได้ถึงอาการเบาสบาย เพราะร่างกายใช้พลังงานในการย่อยอาหารน้อย
ทำให้สมองไม่มึนงงจากอาการเมาอาหารในขณะที่ร่างกายกำลังย่อยสลายอาหาร
ในกระเพาะ ความแน่น ความอึดอัด ที่เกิดจากริโภคอาหารจึงหมดไป กายจึงโปร่ง
เบาสบาย กำหนดสติและสัมปชัญญะได้ง่ายกำหนดรู้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
             “ ทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย” ทำกิจวัตรออกรับบิณฑบาตรกวาดใบไม้ตามปกติ
เพียงแต่เลือกอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าต่อร่างกาย ไม่ได้บริโภคเพื่อสนองตอบ
ซึ่งตัณหาความอยาก จับความรู้สึกของตัณหาที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนในขณะเลือกอาหาร
ความชอบ ความเคยชินในการบริโภค อาหารหวานคาว ของที่เคยชอบ ของที่ถูกใจ
เมื่อเห็นแล้วเกิดความอยากขึ้นมา ทำให้ได้พิจารณาถึงเวทนาความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น
ได้อย่างชัดเจน “ การเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค “  ควบคุมตัณหาความอยากได้
โดยการมีสติระลึกรู้ เห็นคุณ เห็นโทษ เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ในการบริโภค
อาหารทั้งหลาย ไม่บริโภคไปเพื่อตอบสนองตัณหาความอยากของตนเอง แต่เพียงเพื่อ
ยังอัตภาพนี้ให้ดำรงอยู่ได้ เพราะบางครั้งอาหารที่เราบริโภคเข้าไปนั้น มันเกิดความ
ต้องการของร่างกาย เกินพลังงานที่ใช้ไปในวันๆหนึ่ง ทำให้เหลือพลังงานสะสมเป็น
ไขมันและก่อให้เกิดความกำหนัดเพราะพลังงานที่เหลือจากการใช้งานนั้นมากเกินไป
            การฝึกควบคุมอาหารจึงเป็นการฝึกปฏิบัติอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เรานั้น
ได้พิจารณาในฐานกายและฐานเวทนานั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น กายเบา จิตเบา ทำให้ความ
ว่าง ความโปร่ง เกิดขึ้นได้ง่าย สติกำหนดรู้ได้เร็วยิ่งขึ้น สัมปชัญญะมีความเต็มรอบขึ้น
จิตพิจารณาธรรมอยู่กับปัจจุบันธรรมมากขึ้น เจริญสติในสติปัฏฐาน ๔ คือ กาย เวทนา
จิต ธรรม ทำให้เห็นซึ่งการเกิดดับของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น จิตทรงไว้ในธรรม ทำให้ความหิว
ความกระหายทั้งหลายหมดสิ้นไป เพราะจิตนั้นเพลิดเพลินในสภาวธรรมที่กำลังทรงอยู่
เข้าสู่สภาวะของการรู้ การตื่นและความเบิกบาน ความอาจหาญและร่าเริ่งในธรรม...
                 .....ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต....
                .....รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร.....
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๕.๓๔ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๙ กค.๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 20 ก.ค. 2554, 04:54:13
ไฟฟ้าดับตั้งแต่ตอนเที่ยงคืนกว่าๆ เพราะว่ารถสิบล้อแหกโค้งพลิกคว่ำ
เกิดไฟลุกระเบิด ทำให้สายไฟฟ้าขาด ไฟฟ้ามาใช้ได้อีกครั้งตอนเย็น
ทำให้ไม่ได้เขียนงานตามเวลาปกติ อย่างที่เคยทำมา
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๙ กค.๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 20 ก.ค. 2554, 05:10:39
กายเบา....จิตเบา 17; 17;
                                               
ขอกราบนมัสการ พระอาจารย์ มา ณ. ที่นี้ด้วยครับ รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :033: :033:
 
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ ที่นำบทความ และ คำสอนมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                                 
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
 
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๙ กค.๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: shagath ที่ 20 ก.ค. 2554, 05:26:50
เข้ามาอ่านครั้งใหนหัวข้อใหนทำให้ใจสงบทุกครั้ง ขอกราบนมัสการ พระอาจารย์ มา ณ. ที่นี้ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ  ขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ ที่นำบทความคำสอนมาให้ได้อ่านครับ