กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 22 ส.ค. 2554, 04:39:30

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๑ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 22 ส.ค. 2554, 04:39:30
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๑ สค. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
จันทร์ที่  ๒๒  สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
        ดั่งที่เคยกล่าวใว้ใน “ บันทึกธรรมปี ๕๒ “ เรื่องการศึกษาและปฏิบัติธรรม
ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่มีผู้คนหันมาสนใจและเขียนหนังสือเกี่ยวกับธรรมะและการ
ประพฤติปฏิบัติธรรมออกมามากมายแพร่หลายกันนั้น มันก็มีทั้งผลดีและผลเสีย
ควบคู่กันไป ส่วนดีนั้นก็คือการชักนำให้มีผู้สนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมมากขึ้น
ส่วนเสียนั้นก็คือผู้เขียนบางท่านยังไม่เข้าถึงสภาวธรรมที่แท้จริง เป็นเพียงผู้วิจารน์ธรรม
คนที่เขาคิดว่าตัวเขาเป็นปราชญ์ เป็นผู้ฉลาดในทางโลก เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
เป็นครูบาอาจารย์ เป็นนักวิชาการทางโลก มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เป็นทีรู้จักของคนทั่วไป
เรียกว่ามีต้นทุนทางสังคมมาก่อนแล้ว เมื่อเข้าสู่ทางธรรมต้องถอดวางให้หมดเสียก่อน
เพราะส่วนใหญ่เมื่อมาศึกษาธรรมะแล้วก็เป็นได้เพียงนักวิจารน์ธรรม เพราะชื่อเสียง
และศักดิ์ศรี อัตตามันมาบังอยู่ จึงทำให้ไม่รู้สภาวะธรรมที่แท้จริง คนฉลาดกับคนมีปัญญานั้น
แตกต่างกัน ภาษาโลกและภาษาธรรมความหมายต่างกัน ความฉลาดและมีปัญญาทางโลกนั้น
วัดกันด้วยไอคิวสมอง แต่ความฉลาดและปัญญาทางธรรมนั้นรู้กันที่ใครมีสติและสัมปชัญญะ
มากกว่ากัน ปัญญาทางโลกนั้นรอบรู้ในเรื่องนอกกายและการจำได้หมายรู้ ส่วนปัญญาทางธรรม
คือรอบรู้ในกองสังขาร รู้กาย รู้จิต รู้ความคิด รู้การกระทำ มีองค์แห่งคุณธรรมหิริโอตัปปะ
ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปคุ้มครองอยู่ ความหมายของศัพท์ในภาษาโลกและภาษาธรรม
จึงแตกต่างกันโดยเนื้อหาแห่งความหมาย....
         ฉะนั้น เพียงแต่ศึกษาธรรมะในเชิงปริยัติ ก็อย่าคิดว่าเข้าใจหมดแล้ว รู้หมดแล้ว
เพราะการเข้าใจโดยการตีความ การวิภาค วิจารน์ธรรม โดยเอาอัตตาของตนเข้าไป
วิเคราะห์ธรรมนั้นยังไม่ถูกต้อง อย่าพยายามตีความขยายความเพื่อรองรับและเข้าข้าง
ความคิดของตนเอง การศึกษาและการปฏิบัติธรรมนั้น มีหลักที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้
ต้องทำตามหลักศึกษาตามหลัก ตามลำดับขั้นตอนไป ซึ่งธรรมะทั้งหลายทั้งปวงนั้น
จะไม่มีการขัดแย้งกัน แต่จะสงเคราะห์และอนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน เป็นเหตุและผลซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น เราต้องปรับความรู้ความเข้าใจของเราเข้าสู่หลักธรรม ไม่ใช่ตีความขยายความ
หลักธรรมให้มารองรับความคิดเห็นของเรา สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น สิ่งที่เข้าใจ ต้องเป็นไปตามหลักธรรม
ของพระพุทธเจ้า ไม่มีการขัดแย้งกัน สงเคราะห์กันได้กับธรรมทุกหมวดหมู่ สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น สิ่งที่เข้าใจ
นั้นจึงถูกต้องตามหลักธรรม....
          การศึกษาธรรมะและประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องมีวิจารนญาณ อย่าทันทีที่ได้ยินได้ฟังมา
อย่าได้ศรัทธาเพราะยึดติดในตัวบุคคล จงเอาเหตุและผลมาเป็นที่ตั้ง แห่งการคิดและพิจารณาธรรม
ว่าควรจะเชื่อหรือจะปฏิเสธ ในสิ่งที่ได้อ่าน ได้ยินหรือได้ฟังมา ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า “ ถ้าเชื่อในทันที
เรียกว่างมงาย ถ้าปฏิเสธทันที เรียกว่าเสียโอกาส ขาดประโยชน์ ควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบครอบ
และทดลองปฏิบัติ พิสูจน์ ฝึกฝนที่ใจตน ให้เกิดความกระจ่างชัดขึ้นด้วยใจตน ตามเหตุและผลแล้ว
จึงควรเชื่อหรือปฏิเสธในสิ่งที่ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟังมา อย่าให้ความศรัทธาในตัวบุคคล มาบดบังเหตุ
และผล สภาวธรรมที่แท้จริง ในสิ่งที่เป็นปัจจุบันธรรมทั้งหลาย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญามีดวงตาเห็นธรรม
เข้าถึงสภาวธรรมที่แท้จริงนั้นได้.....
  ....แด่ความเห็นในทางธรรมที่แตกต่างกัน...  
              เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                   รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๒  สิงหาคม  ๒๕๕๔ เวลา ๐๔.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๑ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 22 ส.ค. 2554, 05:25:21
ถ้าเชื่อในทันที เรียกว่างมงาย ถ้าปฏิเสธทันที เรียกว่าเสียโอกาสขาดประโยชน์
     
ควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบครอบและทดลองปฏิบัติ พิสูจน์  
                     
ฝึกฝนที่ใจตน ให้เกิดความกระจ่างชัดขึ้นด้วยใจตนตามเหตุและผล
                 
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
   
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                                                                         
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๑ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 22 ส.ค. 2554, 07:41:08
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ฯ  :054:

ผมเชื่อใน..กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 เลยทำให้ไม่ค่อยเชื่อในหลายๆเรื่องครับ
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๑ สค. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: boomee ที่ 22 ส.ค. 2554, 07:44:35
กราบนมัสการครับพระอาจารย์  :054: