กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 04 ก.ย. 2554, 07:30:47

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 04 ก.ย. 2554, 07:30:47
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อาทิตย์ที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
        " การมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม เรียกว่าทำความเพียร
ไม่จำเป็นว่าต้องนั่งสมาธิ เดินจงกรมจึงจะเรียกว่าทำความเพียร
ถ้าไม่มีสติรู้ตัว ฟุ้งซ่านไป คิดไปเรื่อย ก็ไม่เรียกว่าทำความเพียร
ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบทใดจะยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าเรามีสติรู้ตัวทั่วพร้อม
อยู่ในขณะนั้น จึงเรียกว่าเรากำลังปฏิบัติธรรมทำความเพียรอยู่ ".......
        " ให้มีสติอยู่กับ กาย เวทนา จิต ธรรม เอาจิตพิจารณาอยู่กับสิ่งทั้งสี่ื
ตลอดเวลา พิจารณาอย่างแยบคาย ทำอย่างนี้ให้เป็นนิสัย
 จนกลายเป็นความเคยชิน เอาธรรมเป็นผู้ตัดสินในทุกสิ่งอยู่เสมอๆแล้วใจจะสบาย "......
          " การปฏิบัติธรรมนั้น เมื่อพอจะเริ่มรู้และเข้าใจในธรรม
 ให้ระวังตัวมานะทิฏฐิเป็นอย่างมาก เพราะจะหลงไปคิดว่า
คนอื่นไม่ดีเท่าเรา ไม่เก่งเท่าเรา เราดีกว่าผู้อื่น เก่งกว่าผู้อื่น
จะทำให้ขาดความเคารพต่อครูบาอาจารย์ ลบหลู่ครูบาอาจารย์
และผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น แม้จะดูภายนอกอ่อนน้อมแต่จิตใจเย่อหยิ่ง
มันเป็นจิตวิปลาส สัญญาวิปลาส "........
       " เมื่อเราเพียรเพ่งดูจิต ดูความคิด ให้จิตอยู่กับตนเองตลอดเวลา
เราก็จะเข้าใจในสังขาร ร่างกายและจิตของเรา ".......
         " ความว่างทางจิตนั้น คือความว่างจากอารมณ์ยินดี ยินร้าย
แต่ไม่ว่างจากสติ  การฝึกให้ใจของเราอยู่กับเนื้อกับตัวนั้น
เราต้องหมั่นดูกายของเราให้เป็นนิสัย ให้เป็นความเคยชิน
 เรียกว่าการเอาจิตมาคุมกาย อยู่กับกาย ฝึกให้จิตเป็นสมาธิอยู่กับกาย
การฝึกกรรมฐานวิธีนี้ ทำให้เราสามารถที่จะหลบอารมณ์ความรู้สึก
ที่มากระทบทั้งหลายได้ โดยเอาสติและจิตมาอยู่ในกาย ย้ายอารมณ์
การดูร่างกายของตัวเราเองนั้น จะเป็นการเอาจิตไปฝอกกาย
หลับตาแล้วระลึกรูปร่างหน้าตาของตัวเราเอง จนรูปของตัวเรานั้น
เห็นเด่นชัดด้วยตาใน มองต่อไปแยกกายเนื้อออกไปจนเหลือเพียงโครงกระดูก
 เพ่งดูโครงกระดูกนั้นจนเห็นกระดูกนั้นขาวใสเป็นแก้ว พระกรรมฐานที่ปฏิบัติ
ในแนวนี้ทุกรูป เมื่อมรณะภาพไป ร่างกายทั้งหลายทุกส่วนนั้นจะกลายเป็นพระธาตุ
เพราะร่างกายนั้นถูกฝอกด้วยจิตที่มีพลังของสมาธิจนสะอาดบริสุทธิ์
จนกลายเป็นผลึกแก้วใส อย่างที่่เคยได้เห็นกันมา ว่ากระดูกและเถ้าถ่าน
ของครูบาอาจารย์พระอริยเจ้าทั้งหลายได้กลายเป็นพระธาตุ
แต่ก็มีกระดูกของพระอริยสงฆ์บางท่าน ที่กระดูกและเถ้าถ่าน
ไม่ได้กลายเป็นพระธาตุ เพราะท่านไม่ได้มาตามแนวของกายคตานุสติ
ท่านเพ่งดูที่ิจิตใช้จิตฝอกจิต จนถึงความวิมุติ หลุดพ้น กระดูกของท่าน
จึงไม่ได้เป็นพระธาตุ ฉะนั้นเราอย่ารีบด่วนสรุปว่าครูบาอาจารย์ที่กระดูก
ไม่ได้เป็นพระธาตุนั้น ว่าไม่ได้เป็นพระอริยสงฆ์ ซึ่งจะทำให้เป็นการจาบจ้วงหลบหลู่
พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นวิบากกรรมแก่ตนเอง การเป็นพระอริยะนั้น
ผู้ที่สามารถจะชี้ชัดได้นั้นมีเพียงพระพุทธเจ้าเพียงผู้เดียว ที่คำตรัสของท่านเป็นหนึ่งเสมอ
จึงขอฝากไว้ให้เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อจะได้ไม่สร้างกรรม
จาบจ้วงลบหลู่พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลายและเราต้องแยกกันให้ได้ระหว่าง
พระอภิญญากับพระอริยะ ซึ่งบางครั้งพระผู้มีอภิญญาก็ไม่ได้เป็นพระอริยะ
และบางครั้งพระอริยะก็ไม่มีอภิญญา  เพราะอภิญญานั้นมันเป็นเรื่องฤทธิ์
ส่วนความเป็นอริยะนั้นคือการหมดไปของกิเลสทั้งหลาย...
                    เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                          รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๔ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๗.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 04 ก.ย. 2554, 07:56:05
เมื่อเราเพียรเพ่งดูจิต ดูความคิด ให้จิตอยู่กับตนเองตลอดเวลา

เราก็จะเข้าใจในสังขาร ร่างกาย และ จิตของเรา

ความว่างทางจิตนั้น คือความว่างจากอารมณ์ยินดี ยินร้าย แต่ไม่ว่างจากสติ
         
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
   
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 04 ก.ย. 2554, 03:23:38
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ...
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ทรงกลด ที่ 05 ก.ย. 2554, 12:55:56
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ :054:

ชัดเจนครับ
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๓ กย. ๕๔ ...
เริ่มหัวข้อโดย: audytukzy5dragon ที่ 05 ก.ย. 2554, 05:21:50

 กราบ นมัสการพระอาจาร์ย มากๆครับ สำหรับบทความดีๆให้ แง่คิดที่มีประโยชน์มากๆครับ


 :054: