กระดานสนทนาวัดบางพระ

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลครับ สวยงามเข้มขลังคงเอกลักษณ์เช่นเดิม 

กลอนนี้ผมแต่งมาหลายเดือนแล้วไม่ได้โพสต์สักที
อาจจะไม่ไพเราะสัมผัสนอกสัมผัสในอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

อยากมีเสน่ห์คนชื่นชมนิยมนัก
ลงพระลักษณ์หน้าทองผุดผ่องใส
เจรจาค้าขายดีมีกำไร
สาริกาไงคนนิยมเชิญลงเลย
ถ้าแคล้วคลาดคงกระพันฟัน(ไม่เข้า)
จงเลือกเอามีหลากหลายมากมายเอ๋ย
เช่นมงกุฏพุทธองค์ยอดธงเอย
ใครเคยลงย่อมรู้ฤทธิ์ลองคิดดู

ไม่ใช่พระแก้วมรกตครับ
เป็นพระจักรพรรดิ์ ครับ
สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นของ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ
จัดสร้า้ง เพราะทั้งสร้างพระแจกฟรีอยู่เสมอครับ พระที่ท่านสร้างจะผสมผงจักรพรรดิ์ที่หลวงปู่ดู่วัดสะแกอธิฐานจิตไว้(ทุกรุ่นที่ท่านสร้าง)
และมีความพิเศษคือมีเกล็ดระยิบระยับที่เนื้อองค์พระ เรียกว่าธรรมธาตุ จะขึ้นมาหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้ครอบครอง
จุดประสงค์ของการสร้า้งพระเครื่องของท่านเพื่อใช้สำหรับทำกรรมฐาน เจริญรอยตามหลวงปู่ดู่ผู้เป็นอาจารย์ของท่าน
ส่วนใต้ฐานฝังลูกแก้วจักรพรรดิ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

ก็ไม่บรรยายอะไรมากนะครับ ชมกันเอาเองเลย 
































































































ผิดพลาดประการใดของอภัยด้วยครับ...

ผมสั่งจองเสื้อ ระบุไปว่ารับที่วัด
ปรากฏว่าเสื้อจัดส่งไปที่บ้านผม
ผมไม่ได้เข้าบ้านเลยมาวัดเลย อดใส่เสื้อตอนวันงานไหว้ครูเลย......

มีโอกาสเดินไปวัดปากน้ำอยู่บ่อยครั้งครับ เลยเก็บภาพความสวยงามภายในพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลมาฝากพี่น้องเว็บวัดบางพระครับ



ชั้นล่างสุดเป็นที่ประดิษฐานพระธรรมกายหยก ใต้ฐานบรรจุพระของขวัญรุ่น 7 และพระจตุรเถระ ครับ



ชั้นบนสุดครับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุครับ ส่วนชั้นอื่นยังไม่แล้วเสร็จครับ คาดการจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือนเมษายนครับ
ด้านบนเพดานวาดเป็นรูปพระพุทธเจ้า28พระองค์ และรูปเทพบุตร ประดับคริสตัสอย่างงดงามครับ



















ที่จริงเขาไม่อนุญาติให้ขึ้นไปถ่ายบนนั่งร้านนะครับ ผมขอเขาขึ้นไปถ่ายภาพ พี่เขาก็ใจดีเพราะวันนั้นช่างวาดภาพอยู่น้อยพี่เขาเลยอนุญาติ
เพราะขึ้นก็ไปเกะกะรบกวนการทำงานของพี่เขาครับ การวาดนั้นละเอียดมากครับภาพทุกภาพ
ที่วาดจะปิดด้วยทองคำเปลว100% ครับแม้แต่ต้นเสาก็ยังปิดด้วยทองคำเปลวครับ
ถ้าเสร็จสมบูรณ์คงพระมหาเจดีย์สวยงามมากแห่งหนึ่งเลยทีเดียวครับ  
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

ที่สุพรรณออกหลายวัดนะ ที่ผมจำได้คือวัดป่าเลไลยก์ และก็สรา้งหลายวัดอยู่ผมก็จำไม่ค่อยได้อ่ะครับแค่เห็นผ่านๆตาเฉยๆ

ลองไป Search ใน Google นะครับ มันมีหลายรูปทรงครับ

ถ้าดูจากภาพเป็นหมากทุยนะครับ ไม่ใช่ชานหมาก ชานหมากคือหมากที่พระเกจิอาจารย์ท่านเคี้ยวแล้วคายออกมา
พุทธคุณของหมากทุยจะเด่นในเรื่อง แคล้วคลาด คงกระพัน และยังป้องกันภูติผีปีศาจได้

ผมขอความเมตตาพระเกจิอาจารย์อยู่เสมอๆ คือให้ท่านทำตะกรุดให้ แต่เรื่องม้วนตะกรุดเองผมทำบ่อยๆเพราะหลวงพ่อบางรูปท่านก็ม้วนให้เลย
บางรูปท่านก็ไม่ม้วนให้ท่านบอกว่าไปม้วนเอาเอง การที่ท่านจารยันต์ท่านก็บริกรรมคาถาอยู่แล้วแผ่นทองเหลืองหรือวัสดุที่ท่านจารลงไปก็มีอานุภาพอยู่แล้ว การม้วนคือการประสิทธิหรือเสกกำกับอีกที่หนึ่ง ถ้าเราม้วนเองก็ได้คาถาม้วนตะกรุดก็มีอยู่ครับ
แต่ผมเป็นคนที่นิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือไม่เห็นท่านจารกับตาจะไม่เชื่อมือมันคันต้องแกะดู (น่าตีมือให้หงิก) ทำให้ต้องพิสูจน์ว่าจารไหม เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงครับไปบูชาตะกรุดจากวัด.........เขาลือกันหนาหูว่าไม่ได้จารผลปรากฏว่าไม่ได้จารจริงๆ ตะกรุดดอกไม้ทองผมก็เคยแกะดูปรากฏว่ามีจารครับ ไปเล่าให้ท่านฟังโดนดุเลยถ้าแกะแล้วก็หมดถ้ากันที่หลังอย่าแกะนะท่านบอก ส่วนมากตะกรุดที่ม้วนแล้วจากวัดห้ามแกะเด็ดขาดเสื่อมทันที แต่ปัจจุบันน้อยวัดที่หลวงพ่อท่านจะจารกับมือโดยส่วนมากจะให้โรงงานปั๊มเป็นแผ่น หรือไม่ก็ให้ลูกศิษย์จารแล้วปลุกเสกอีกทีหนึ่ง
เพราะใช้เวลานานมากในการทำตะกรุดหนึ่งดอก
เพราะต้องผ่านกระบวนการ 4 อย่าง
1. พินทุ คือ การจรดเหล็กจารที่แผ่นทอง เพื่อที่จะลงอักขระตัวใดตัว เช่นลงตัว นะ ก็ต้องว่าสูตร นะ กาโร โหติ
2. สัมผุส คือ การเขียนตัวอักขระให้ปรากฏชัดเจนด้วยตัว นะ ว่าสูตรต่อ จาก พินทุ นะกาโรโหติ นะสัมภะโว จงมาบังเกิดเป็นนะ
3. สัมผัส คือเมื่อพินทุและสัมผุสไปแล้วก็อ่านทบทวนง่าถูกต้องไหม เช่นเราลงตัวนะ แต่พลาดไปลงตัว มะเป็นต้ย
4. ปัจจัย คือผ่าน3กระบวนการแล้ว ก็มีการปลุกเสกกี่คาบแล้วแต่จะกำหนด จึงไ้ด้มาเป็นแผ่นยันต์หรือตะกรุดหนึ่งดอก
ดังนั่นในปัจจุบันการทำตะกรุดจารมือสดๆหาได้ยากมากเพราะเนื่องจากได้จำนวนน้อยและใช้เวลานานไม่พอกับความต้องการ..
ตะกรุดจารสดๆที่ผมมีส่วนหนึ่ง



ตะกรุดหลวงพ่อแม้น วัดหน้าตา่งนอก เมตตาจารให้แต่ไม่ได้ม้วนให้ครับ ม้วนเอง



ภายในตะกรุดมณีแดงหลวงพ่อจำลอง แกะแล้วเสื่อมครับผมถามท่านมาโดยดุอีกตามเคย



ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยครับ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระผมมีโอกาสเดินไปทำบุญที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
เลยเก็บภาพเล็กๆน้อยๆมากฝากพี่ๆน้องๆชาวเว็บวัดบางพระครับ



ปิดทองบูชาสักการะ  พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำ )





ขึ้นไปกราบสังขารหลวงพ่อท่านในหีบทอง









ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่ไปวัดในวันนั้น หลวงพ่อสมเด็จฯ (สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์) ท่านอยู่ที่วัดพอดีเลยมีโอกาสได้ไปกราบท่านท่านมีเมตตาสูงมากครับไม่ถือองค์เลยครับ ท่านเป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่
หลวงพ่อสมเด็จฯท่านเมตตามอบเหรียญรูปเหมือนท่านครับ ผมดีใจมากๆได้รับกับมือท่านเลยครับ







จากนั้นก็เดินไปแอบดูโรงงานทำวิชชาของวัดปากน้ำครับแต่ไม่ได้เข้าไปเพราะเป็นเขตหวงห้ามของที่วัดครับ
พอดีผมเดินผ่านไปมีคนที่อยู่ข้างในเปิดประตูออกมาเลยแอบเห็นว่าในโรงงานทำวิชชามีอะไรบ้าง เห็นเครื่องปั๊มพระของที่วัด
เครื่องผสมมวสสารให้เ้ป็นเนื้อเดียวกัน มีกล้วยน้ำว้าเป็นส่วนผสมด้วยครับเพราะผมเป็นแขวนอยู่ข้างในหลายเครือเลย
ส่วนในวิหารที่เดินวิชชาไม่เห็นครับ







พอดีที่วัดมีบวชพระครับผมเลยเข้่าร่วมอนุโมทนากับเขาด้วย



แมวเหมียวที่วัดอิอิ





ผิดพลาดประการขออภัยด้วยครับ 

ท่านพี่ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) สุดยอดจริงครับละเอียดจริงๆ 

ผมเดินทางจาก สุพรรณ ตี4 ถึงวัด8.00 น ครับ ผมศรัทธามาก

ไม่ทราบว่าเดินทางจากอำเภอไหนครับของสุพรรณครับ

ถูกต้องแล้วครับ  ท่าน SwEEtGarm เป็นเหรียญหล่อของหลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว และเป็นสายวิชาที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองสุพรรณ
นับเป็นเหรียญหล่อรูปเหมือนพระสงฆ์ที่สร้างครั้งแรกของ เืมืองสุพรรณ ครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ (ตาร้อนอีกแล้วเรา) 

ผมเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนะครับ
ที่ทำครับคือ หมากพลูบุหรี่ ดอกไม้ น้ำเปล่า
เป็นบางโอกาสที่จะถวายผลไม้ และขนมมงคล ส่วนน้ำเปล่าผมเปล่าทุกวัน
ส่วนการจุดธูปที่นิยมกันคือ 9 ดอก หรือ 5 ดอกแทนความหมายถึงครูบาอาจารย์
ในเรื่องการตั้งเศียรพ่อแก่นั้น นิยมกันอยู่ 3 ทิศ คือ เหนือ ตะวันออก และตะวันออเฉียงเหนือ
ไม่ควรหันหน้าหิ้งบูชาเข้าหาห้องน้ำหรือเตียงนอน ถ้าบูชาร่วมกับพระพุทธรูปควรให้ต่ำกว่า แต่ต้องสูงกว่านางกวัก หรือ กุมารทอง

ส่วนคาถาบูชานี้เป็นของที่วัดบางพระครับ
นะโม 3 จบ
ฤ ฤา ฦ ฦา นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะตะถาคะโต
สิทธิเตโชชะโยนิจจัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
(ส่วนตัวใช้บทนี้ครับ)

ส่วนบทอื่นๆก็มีมากมายหลายบท ลองไปถาม Google ดูนะครับ

ที่กุฏิใหญ่วัดบางพระ ก็มีเศียรพ่อแก่ให้บูชาตั้งแต่ เล็กจนไปถึงใหญ่แบบว่าครอบหัวได้อ่ะครับ
เริ่มต้น ประมาณ 300 กว่า 500 ไล่ตามขนาดนะครับ ถ้าไปบูชาที่วัดก็ให้ครูบาอาจารย์ท่านประสิทธิ์ประสาทอธิฐานจิตให้อีกครั้งก็ได้ครับ

ผิดพลาดประการใดของอภัยท่านผู้รู้ด้วยครับ  

สัทธา ทานัง อนุโมทามิ 

สายสิญจน์ที่ทำขึ้นในงานอวมงคล เช่นงานศพ แถวบ้านผมนะครับเวลามีญาติพี่น้องที่เสียชีวิตก็จะมีการทำน้ำมนต์ธรณีสารและมงคล
 เรียกง่ายๆว่าสายสิญจน์ เพื่อให้ญาติพี่น้องทุกคนได้สวมใส่ ใส่เพื่ออะไรผมก็ไม่ทราบไม่เคยถามครับ พอหลังจาก ประชุมเพลิงเสร็จแล้ว ก็จะนำสายสิญจน์นี้เอาไปลอยน้ำหรือบางบ้านก็ใส่ให้ครบ 7 วันก่อนครับแล้วก็เอาไปลอยน้ำเหมือนกัน
ส่วนสายสิญจน์ที่ทำขึ้นในพิธีมงคลต่างๆ เช่น ไหว้ครู พุทธาภิเษก ไม่เคยได้ยินนะครับว่าต้องใส่ได้แค่ 7 วันแล้วต้องนำไปลอยน้ำ...
ผิดพลาดประการขออภัยด้วยครับ.......

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

กราบหลวงปู่

ขอบคุณครับ ที่นำสิ่งที่เป็นมงคลมาแบ่งปันให้ชมครับ

พระเครื่องคือรูปที่สมมุติแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเสื่อมได้หรือ พระอริยะสงฆ์เสื่อมได้หรือ
ที่พระเสื่อมเพราะจิตของเราเสื่อมศรัทธาเสื่อมจากความดีต่างหากพระไม่มีเสื่อม ทองก็คือทองเพชรก็คือเพชรจะแปลเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ดังพุทธสุภาษิตที่พระพุทธตรัสว่า
มโน ปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโน เสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า
มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ
ดั่งกับหลวงของชายคนคนี้
มีชายคนบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อเดิมไปแต่ชายผู้นั้นคล้องพระหลวงพ่อแล้วเดินลอดราวผ้าถุง ก็รีบไปขอพระหลวงพ่อท่านใหม่บอกท่านว่าผมเดินราวผ้าพระเสื่อมแล้ว จะขอหลวงพ่อใหม่ครับ หลวงพ่อท่านตอบด้วยความเมตตา ว่าไม่เสื่อมหรอกก็เหมือนกับงูเห่ามันเลื้อยรอดราวผ้าเลื้อยผ่านของสกปรกของต่ำผ่านร่องอุจจาระปัสสาวะแล้วเลื้อยมันกัดแกเนี่ย แกตายไหม เขาก็ตอบว่าตายครับ ท่านบอกว่าพระของฉันก็เหมือนกันไม่มีเสื่อม ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ......
ผิดพลาดประการขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านครับ
 

สวยมากๆเลยครับ 

ขอบคุณครับ 

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม

ขอบคุณคับที่นำมาให้ชม

สอบถามเหรียญไหว้บรมครูสร้างปีไหนครับ ทันหลวงพ่อไหม





รบกวนด้วยนะครับ

 ถ้าท่านไหนสนใจ ก็ไปชมได้ที่วัดพระขาวนะครับ

มาดูวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมกันดีกว่าครับ


วัตถุมงคลยุคแรกๆ

เมื่อวันจันทร์ ที่24 มกราคม 2554 ผมมีโอกาสเดินไปอยุธยา
เลยแวะกราบหลวงปู่ทิม เลยเก็บภาพมาฝากพี่น้องเช่นเคยครับ 






ก่อนอื่น ต้องไปกราบหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปศักสิทธิ์คู่วัดพระขาวและเป็นชื่อที่มาของวัดครับ








ปิดทองหลวงพ่อขาว


ปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ทิม ที่เรือนไทยลายกำมะลอ


ลายกำมะลอ เป็นลายไทยชนิดหนึ่งที่หาชมได้ยากมากครับ


ไปกราบหลวงปู่ทิมพร้อมกันเลยครับ










หลวงปู่ทิมท่านยังอยู่กับพวกเราครับ และความเมตตาของท่านที่ไม่เคยจ่างหาย เทพเจ้าแห่งความเมตตาของลูกศิษย์ทุกคนครับ
 





ความสวยงามของมณฑปลายรดน้ำ


พระแม่นางกวัก พระแม่โพสพ


พระแม่กวนอิม


พญาเต่าเรือน บนบานเรื่องคดีความมีแต่ชนะ เพราะโบราณท่านถือเคล็ดที่ว่า เต่าเป็นสัตว์ที่เดินหน้าอย่างเดียวเดินถอยหลังไม่เป็น


พรุ่งนี้ค่อยมาต่อกันนะครับ มาดูวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมที่ทางวัดได้เก็บไว้ให้ชมครับ 

สวยครับ
ที่นำมาให้ชม

ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับ

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)วัดท่าซุง หลวงพ่อท่านเป็นผู้ที่เผยแพร่พระรูปพระโฉม
ของสมเด็จองค์ปฐม พระเครื่องของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ได้อธิฐานจิตเอาไว้นับเป็นพระเครื่องที่มีอานุภาพสูง
ท่านกล่าวเอาไว้ตอนที่ท่านยังดำรงสังขารอยู่ว่าเก็บไว้ให้ดีนะ ต่อไปราคาจะเท่ากับพระของสมเด็จโต
ท่านพูดอย่างนั่นจริง ที่วัดยังเสียงที่อัดไว้เลย....

สวยครับ
ขอบคุณที่นำมาให้ชม 

สวยครับ
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

สวยครับ
รู้สึกว่าเหรียญรุ่นนี้ที่วัดนก
น่าจะยังมีให้บูชา ยังไงก็โทรไปสอบถามก่อนล่ะกันครับ

ของดีทั้งนั้นเลยนะครับ
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ 

การฝันในพระพุทธศาสนาแบ่งเป็น 4 ประเภท
1.กรรมนิมิต ผลกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อนให้ผล คือกรรมที่เราทำทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่ว จะรวมอยู่ที่จิตของเรา เพราะว่าการกระทำมันออกมาจากที่ใจคิด (เจ้ากรรม) ส่วนนายเวรคือ เวรที่เป็นผลออกมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ในบางครั้งพอกรรมจะให้ผล ก็จะต้องออกมาจากดวงจิตให้รับรู้ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นบางครั้งบางขณะผลกรรมที่ทำนั้นก็แสดงออกมาให้เห็นทางความฝัน บางทีแสดงออกมาให้เห็นว่า เรากำลังจะได้รับผลกรรมอะไร ดีหรือร้าย

2.จิตนิวรณ์ จิตของเราพะวงหรือคำนึงถึงสิ่งใดหรือฝังจิตฝังใจกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากเกินไป อะไรที่ฝังใจเรามานาน ๆ เช่น เจ็บช้ำน้ำใจหรือฝังใจในความสุข เหล่านี้เป็นจิตที่เกิดขึ้นเองโดยอาศัยความฝังใจหรือมีความโลภ โกรธ หลง เป็นมูลเหตุ เช่น ชอบเลขก็ฝันเป็นตัวเลข พอหลับก็ฝันเลยฟุ้งซ่าน

3.เทพสังหรณ์ เทพเจ้า เทวาอารักษ์ ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรูกับเรามาดลจิตดลใจ หรือมาในขณะที่เราเคลิ้ม ๆ หรือเราเรียกว่า ?อุปจาระ? หรืออาจจะเป็นความปรารถนาดีของเทวดาทั้งหลายก็ได้ มาบอกเหตุมักจะเกิดขึ้นตอนใกล้ ๆ ฟ้าสาง ช่วงที่อาหารย่อยหมดแล้ว การฝังจิตฝังใจก็ไม่มีเป็นช่วงที่หลับแล้ว ครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็นช่วงเทวดาบอกเหตุถ้าเทพสังหรณ์จะการฝันตอนใกล้ฟ้าสาง

4.ธาตุกำเริบ คนที่กินอาหารมากผิดปกติ ผิดความต้องการของร่างกาย ผิดกาล ผิดเวลา หรือทานอาหารเปรี้ยวจัด รสจัด ร้อนจัด เย็นจัด กินน้อยไปหรือกินมากไป ร่างกายจึงเกิดปฏิกิริยา พอหลับก็เริ่มฝัน ( กินมาก ถ่ายมาก นอนมาก ฝันมาก)


ที่มา :คลังปัญญาไทย http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99

ยันต์ที่เป็นตารางนั้นเป็น
หัวใจพระสีวลี
นะชาลีติ
ชาลีตินะ
ลีตินะชา
ตินะชาลี

ด้านบนอ่านว่า
ภา มา นา อุ

ด้านล่างอ่านว่า
จะ พะ กะ สะ

ด้านขวาอ่านว่า
กะ สะ นะ ธุ

ด้านซ้ายอ่านว่า
กะ หา เน หา



ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยท่านผู้รู้ทุกๆท่านด้วยครับ

ชอบผ้ายันต์ผืนแรกมากเลยครับ

สวยงาม และเข้มขลังด้วยพุทธาคมหลวงพ่อเปิ่น

นำมาให้ชมอีกเช่นเคยครั้ง ขุนแผนรุ่นต่างๆที่สร้างโดยวัดแค
เป็นวัดที่ขุนแผนมาเรียนวิชากับ ขรัวตาคง








หลวงพ่อแสนสุขพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

พระกริ่งขุนแผน






เหตุที่เรียกว่าพระกริ่งขุนแผนเพราะมีพระขุนแผนอยู่ด้านหลังครับ




รอยพระพุทธบาทสี่รอย



ต้นมะขามที่เชื่อกันว่าเป็นต้นที่ขุนแผน ได้เสกใบมะขามเป็นต่อแตน และแต่ก่อนที่วัดมีรังต่อแตนเยอะมาก
แต่พอที่วัดสร้างพญาต่อยักษ์ ต่อแตนที่เคยมีอยู่ก็หายไปอยู่ที่อื่นเลยครับ

พระกริ่งขุนแผน
ปลุกเสกโดย พระคณาจารย์ชื่อดังหลายรูป มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานในพิธี
และพระคณาจารย์อีกหลายรูป มีหลวงปู่ทิมวัดพระขาวเป็นต้น ผมก็จำไม่ได้ แต่ที่จำได้วันนั้นฝนตกหนักมาก แต่รอบๆวัดฝนไม่ตก
พอสมเด็จพระพุฒาจารย์ ท่านมาถึงเข้าโบสถ์เสร็จฝนหนักมา หลวงปู่ทิมท่านมาก็เหมือนกันพอเข้าโบสถ์ฝนตกเป็นที่น่าอัศจรรย์
แก่ผู้ที่มาร่วมพิธีคราวนั้น
พระกริ่งขุนแผน ประวัติศาสตร์การสถาปนา พระกริ่งคู่แผ่นดินไทย เนื้อทองทิพย์ จำนวนสร้าง 2,999 องค์ วัดแค จ.สุพรรณบุรี
 สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระสังฆราชฯ ประธานจุดเทียนชัย อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ (โหรฟันธง) ประธานดำเนินการจัดสร้าง ถวายเป็นพุทธบูชา เทวบูชา ฐานก้นถ้วยประทับดวงตรา ราชาโชคทุกองค์ตอกโค๊ต "วัดแค"
องค์พระสวยงาม อนาคตไกล วัดเก่าแก่ ประจำ จ. สุพรรณบุรี

สวยมากๆครับ
ทำให้เราอยากมีบ้างจัง
+5555 เกิดกิเลส

สุพรรณบุรี
   เมืองยุทธถี
      วรรณคดีขึ้นชื่อ
             เลื่องลือพระเครื่อง
               รุ่งเรืองเกษตรกรรม
                     สูงล้ำประวัติศาสตร์
                           แหล่งปราญช์ศิลปิน
                                 ภาษาถิ่นชวนฟัง

ตัวมันเล็กไปครับ

ของหลวงพ่อเดิม ใช่รึเปล่าไม่รู้นะ ดูคล้ายๆ 
รอผู้รู้ดีกว่าครับ

พระพุทธรูปที่หลวงพ่อท่านสร้างไว้ครับ



หุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนท่านครับ



วัตถุมงคลที่วัดสร้างครับ

หลวงพ่อโหน่ง เกิดปีขาล ตรงกับวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๔๐๙ (บางแห่งว่า พ.ศ. ๒๔๐๘) ณ หมู่บ้านท้ายบ้าน
ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนฝั่งคลองสองพี่น้อง ฝั่งเดียวกับวัดสองพี่น้อง
เป็นบุตรคนที่สอง (บางแห่งว่า เป็นบุตรคนที่ ๔) ของนายโต นางจ้อย โตงาม อาชีพทำนา มีพี่น้องร่วมอุทร ๙ คน
อายุได้ ๒๔ ปี อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสองพี่น้อง โดยพระอธิการจันทร์ วัดทุ่งคอก เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการดิษฐ์ วัดทุ่งคอก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ กับพระอธิการสุด วัดท่าจัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌายะว่า อินฺทสุวณฺโณ
หลวงพ่อโหน่งศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อจันทร์ได้ ๒ พรรษา เดินทางมาศึกษาต่อวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อเนียม
วัดน้อย ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี จนกระทั่งมีความรู้แตกฉานเป็นที่ไว้วางใจแก่หลวงพ่อเนียมได้ เมื่อตอนหลวงพ่อปาน
วัดบางนมโค อยุธยามาเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อเนียมพูดกับหลวงพ่อปานว่า “เวลาข้าตายแล้ว เอ็งสงสัยอะไรก็ให้ไปถามโหน่งเขานะ
โหน่งเขาแทนข้าได้”
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานปรากฏว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ หลวงพ่อโหน่ง อายุ ๔๑ ปี จำพรรษาอยู่ ที่วัดสองพี่น้อง พระมงคลเทพมุนี
(หลวงพ่อสด) วัดปากนํ้า ได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้องและ พระสงฆ์ที่มีส่วนร่วมในการอุปสมบทในครั้งนั้นคือ หลวงพ่อโหน่ง
เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และต่อมาหลวงพ่อสดก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อโหน่งเช่นกัน นอกจากหลวงพ่อสดแล้ว ศิษย์ของท่านยังมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น) วัดโพธิ์ หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
เมื่อมาจำพรรษาที่วัดคลองมะดัน ท่านฉันอาหารเจ ก่อนออกบิณฑบาต นมัสการต้นโพธิ์ทุกเช้า เมื่อบิณฑบาตกลับมาใส่บาตรถวายสังฆทาน ท่านเอามารดามาอยู่ที่วัดด้วย ปรนนิบัติจนกระทั่งถึงแก่กรรม เคร่งครัดในการอบรมสั่งสอนพระเณรและลูกศิษย์วัด ไม่รับเงิน เจริญวิปัสสนากรรมในป่าช้าเป็นประจำ ถือสันโดษ ไม่สะสมทรัพย์สินมีค่าเลยแม้แต่น้อย สร้างสาธารณูปการสงฆ์เพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมาก
มีเรื่องเล่าว่า ใครนิมนต์ท่านไปไหนมาไหน ท่านต้องถามพระประจำตัวในกุฏิท่านก่อนเสมอ ถ้าพระท่านบอกไปได้ ท่านก็ไป
ถ้าพระท่านบอกไม่ให้ไป ท่านก็ไม่ไป
แม้กระทั่งการสร้างพระประธานองค์ย่อม ท่านก็ถามพระว่า สร้างได้ไหม พระบอกว่าสร้างได้ ท่านก็สร้างตามนั้น
แต่ท่านไม่ทราบว่าจะหาช่างปั้นช่างหล่อที่ไหน พระก็บอกให้เดินไปทางโน้นทางนี้ ท่านก็เดินตามนั้น พบช่างมาช่วยปั้น
และหล่อตามที่พระบอก (ปัจจุบันองค์พระนี้ยังอยู่สามารถไปกราบได้ที่วัดครับ)
เมื่อหล่อเสร็จช่างก็หายตัวไปเฉยๆ โดยไม่บอกกล่าว
ท่านก็ตกใจว่า อ้าว....เงินค่าจ้างยังไม่ได้จ่าย เป็นการเบียดเบียนเขา จึงเดินย้อนไปตามทางเดิมถึงจุดที่พบช่าง
ก็บอกลักษณะหน้าตาถามชาวบ้าน ชาวบ้านบอกไม่รู้จัก คงเป็นคนถิ่นอื่น เมื่อกลับกุฏิก็ถามพระว่า จะไปตามช่างได้ที่ไหน
พระบอกไม่ต้องไปตาม เพราะช่างคนนี้ไม่ธรรมดา เป็น ช่างเทวดา มาช่วย เมื่อหมดหน้าที่ท่านก็ไปตามเรื่องของท่าน
ไม่ต้องไปตามหรอก ถึงตามก็ไม่เจอ
หลวงพ่อโหน่ง เป็นศิษย์รุ่นพี่ของ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ร่วมอาจารย์เดียวกันคือ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย
ก่อนหลวงพ่อเนียมมรณภาพ ท่านได้สั่งเสียกับหลวงพ่อปานว่า ถ้าข้าตาย มีอะไรขัดข้องก็ให้ไปถาม หลวงพ่อโหน่ง นะ
เมื่อหลวงพ่อเนียมมรณภาพ แล้วราวหนึ่งปี หลวงพ่อปานก็ธุดงค์มาหาหลวงพ่อโหน่งที่วัดคลองมะดัน มาถึงวัดตอนบ่ายวันหนึ่ง
ท่านก็นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ คิดว่าหลวงพ่อโหน่งคงจำวัด
แต่หลวงพ่อโหน่งรู้ด้วยญาณของท่าน จึงเปิดหน้าต่างออกมา เห็นหลวงพ่อปานนั่งรออยู่ จึงว่า อ้อ มาถึงแล้วเรอะ
ฉันรออยู่แต่เช้าเชียว คืนนั้น หลวงพ่อปานต่อวิชากับหลวงพ่อโหน่งในโบสถ์ ทั้งหลวงพ่อโหน่งกับหลวงพ่อปานเข้าสมาบัติเต็มอัตรา
ไม่ถึงครึ่งคืนทุกอย่างก็จบสิ้นกระบวนความ
เมื่อตอนหลวงพ่อโหน่งมรณภาพ ปี 2477 หลวงพ่อปานไปสร้างวัดอยู่ลพบุรีทราบข่าว ได้สั่งกรรมการวัดคลองมะดันว่า
อย่าเพิ่งเผาศพหลวงพ่อโหน่ง ถ้าร่างไม่เน่า ให้รอท่านก่อน ปรากฏว่าร่างหลวงพ่อโหน่งไม่เน่า แต่กรรมการวัดก็รีบเผาเสีย
หลวงพ่อปานมาถึงก็เทศนากรรมการวัดเสียกัณฑ์ใหญ่ว่า พวกแกอยู่กับพระอรหันต์ทุกวี่วัน ช่างไม่รู้บ้างเลย
ท่านอธิษฐานทิ้งตัวไว้นะ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปานมรณภาพ เมื่อปี 2481 ท่านก็อธิษฐานทิ้งตัวไม่เน่าอีกเหมือนกัน
สรุปแล้ว ตั้งแต่พระอาจารย์ใหญ่คือ หลวงพ่อเนียม ลงมาจนถึง หลวงพ่อโหน่ง และ หลวงพ่อปาน เมื่อมรณภาพแล้ว
ร่างกายไม่เน่าทุกองค์ โดยไม่ต้องฉีดยาอย่างปัจจุบัน 
หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๕ ธ.ค. ๒๔๗๗ อายุ ๖๙ ปี พรรษา ๔๖
โดยท่านมรณภาพในปางไสยาสน์แบบอาจารย์ของท่านคือ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย
หลวงพ่อเริ่มสร้างวัตถุมงคลตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครนึกออก แต่มีพระดินเผาอยู่องค์หนึ่ง จารึกด้านหลังว่า พ.ศ. ๒๔๖๑
ก็น่าจะสันนิษฐานว่า พระที่ท่านสร้างนั้น คงจะเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๑ เป็นต้นไป เพราะไม่ปรากฏ พ.ศ. ที่เก่ากว่านั้นเลย
 ท่านทำมาเรื่อยจนถึง พ.ศ.2470 กว่า จึงยุติ พระที่ท่านสร้างขึ้นมีหลายสิบพิมพ์ เป็นพิมพ์ใหม่ที่ท่านและลูกศิษย์คิดค้นขึ้นเอง
ก็มี ที่ถอดพิมพ์จากพระเก่าก็มาก ท่านและประชาชนพิมพ์พระเสร็จเก็บไว้ในตุ่มน้ำ ในถัง ในปีบ ในลังไม้ เป็นระยะเวลา ๑๐ กว่าปี
คาดว่าเกินกว่า ๘๔,๐๐๐ องค์ พิมพ์อาจมากเป็นร้อยพิมพ์
บางตำราว่า เวลาพุทธาภิเษกของท่านแปลก คือทำพิธีตอนเผาไฟ ไม่ใช่เผาแล้วทำ พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงสมัยนั้นมาประกอบพิธีกันมากหลาย หลวงพ่อปานก็มาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกด้วย
แต่บางตำราก็ว่า การปลุกเสกพระของหลวงพ่อโหน่งนั้นท่านปลุกเสกเดี่ยวเพียงองค์เดียวเท่านั้น และท่านจะปลุกเสกตลอดไตรมาส
ในช่วงเข้าพรรษา พอออกพรรษาแล้วก็จะมีการฉลองสมโภชพระที่สร้างใหม่ โดยอาราธนาพระสงฆ์ ในวัดคลองมะดันมาสวดพระพุทธมนต์
ส่วนตัวท่านเป็นประธานพิธี พอเสร็จพิธีในการสวดพุทธมนต์แล้ว ท่านจะขึ้นธรรมาสน์เทศนาสั่งสอนผู้คนที่มารับแจกพระจากมือท่าน
ในการสร้างพระเครื่องบางครั้งถ้ามีฤกษ์ดิถีที่ดี ท่านก็จะนิมนต์พระอาจารย์แก่กล้าธรรมทั้งหลาย รวมทั้ง หลวงพ่อปาน มาร่วมปลุกเสกพระที่ท่านสร้างเป็นครั้งคราวด้วย
พระเครื่องของหลวงพ่อโหน่งมีพุทธคุณเด่นทางเมตตา มหานิยมมากและแคล้วคลาด จากอันตราย เป็นเลิศ จึงเป็นที่เสาะหาของบรรดานักสะสม เพื่อเอาไว้ใช้ติดตัวเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ มาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน นับว่าหลวงพ่อโหน่งเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษท่านหนึ่งของประเทศไทย

ขอขอบคุณ http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-hnong-hist.htm

ช่วงวันหยุดมีโอกาสไปไหว้พระที่วัดไผ่โรงวัว วัดหลวงพ่อขอม เลยเก็บภาพมาฝากอีกเช่นเคยครับ



คำปฏิญาณของหลวงพ่อขอม ที่ท่านได้กล่าวไว้ ๕ ข้อ คือ

๑. ชีวิตของเราที่เหลือ ขอช่วยพระพุทธองค์ไปจนตาย
๒.เมื่อมีชีวิตอยู่ ถ้าเรามีเงินส่วนตัวสัก ๑ บาท เราจะอายพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่ง 
๓.เราจะให้รูปพระองค์เกลื่อนไปในพื้นธรณี 
๔.โอ้...โลกนี้ไม่ใช่ของฉัน 
๕.เราต้องตาย ตายใต้ผ้าเหลืองของเรา









พระพุทธโคดมที่ท่านสร้าง





พระกะกุสันโธ





โบสถ์ร้อยยอดที่วัด






คลังวัตถุมงคลวัดครับ ต้องเรียกว่าคัลงเพราะมีมากจริงๆ



วัตถุมงคลที่ทันหลวงพ่อขอมท่านปลุกเสกหมดไปนานแล้ว แต่รุ่นที่สร้างหลังมานี้ก็ใช้ได้เหมือนกันเพราะ
นิมนต์หลวงพ่อเปิ่นมาปลุกเสก
ก็ได้ทั้งบารมีหลวงพ่อขอมและบารมีหลวงพ่อเปิ่นด้วย อย่างแน่นอน



โอกาสหน้าจะนำมาให้ชมอีกครับ 

สวยทั้งนั้นเลย 
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันให้ชมครับ

สวยครับทั้งคู่ครับ อันแรกเรียกรุ่นอะไรครับ สร้างปีไหน 

ต่อครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ 

มีต่อครับ

ก่อนบรรจุก็อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเวียนประทักษิณก่อนอัญเชิญขึ้นประจุ
มีเหตุอัศจรรย์มากครับ พออัญเชิญเวียนออกมาปรากฏว่าฝนตกลงมา นิดๆ แบบไม่เปียกพร่ำๆประมาณนี้
ทุกคนในงานแปลกใจกันมาก อาจเป็นเพราะพุทธานุภาพ หรือ เทววานุภาพ ก็ได้ครับ  แปลก จริงๆ



บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ





จุดพลุและประทีบถวายเป็นพุทธบูชา

ขอโทษทีครับ ชื่อกระทู้ตกไปครับ ต้องเป็น  ไหว้พระอยุธยา  ขออภัยด้วยครับ 

วัดเจดีย์แดงครับ ไปกราบหลวงพ่อจำลอง และพระประธานศักสิทธิ์



ไหว้พระที่วัดภูเขาทอง



ไปต่อที่วัดหน้าพระเมรุ พระพุทธนิมิต (เป็นวัดในเดียวในอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าเผา)





ต่อที่วัดมงคลบพิตร



วัดใหญ่ชัยมงคล







กรุวัดใหญ่ชัยมงคลที่หลวงพ่อจรัญลงไปดูจารึกคาถาพาหุงตามนิมิต

ขอบคุณครับ ที่นำมาให้ชม

สุดท้ายแล้วครับพี่น้อง
ที่จริงมีพระเครื่องมากกว่านี้นะครับผมถ่ายไม่ไหวจริงๆ  ท่านไหนสนใจก็ไปชมได้ที่วัดครับ


มาดูองค์ครูใหญ่ก็แล้วกันครับเมื่อกี้องค์ครูแต่องค์นี้ครูใหญ่ครับ ผมว่าใหญ่ที่สุดในโลกแล้วละมั้ง
เป็นเนื้อว่านผสมปูนครับ








โอกาสหน้าเดี๋ยวจะเก็บภาพมาฝากอีกครับ     

บล็อกพิมพ์พระของวัดป่าเลไลยก์











พระถ้ำเสือพิมพ์พระบูชา

พิพิธภัณฑ์พระขุนแผนที่วัดป่าเลไลยก์เป็นที่รวบรวมพระพิมพ์ขุนแผนเกือบทั่วประเทศมาไว้ที่วัดครับ
สามารถเข้าชมได้ทุกวันไม่เสียค่าใช่จ่ายครับ

ชมภาพกันได้เลยครับมีมากมาย



ประเดิมเลยครับ พระขุนแผนของหลวงพ่อเปิ่นก่อนเลย

วัดสุดท้ายครับ  วัดไผ่ล้อมกับองค์พระปฐมเจดีย์ครับ

หลวงพ่อพูล



สังขารหลวงพ่อพูลในวันนี้




ผมได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับหลวงพี่น้ำฝน ท่านบอกว่าท่านจะสร้าง
วิหารบูรพาจารย์เพื่อประดิษฐานสังขารหลวงพ่อพูล  ก็ขอเชิญร่วมทำบุญได้ที่วัดครับ

หลวงพ่อพูล



พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 3 ครับ




เสาร์-อาทิตย์นี้
ว่าจะไปไหว้พระที่อ่างทอง ยังไงเดี๋ยวจะเก็บภาพมาฝากครับ  

จากนั้นผมก็ไปวัดสิงห์มาด้วยครับ  ไปบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อสืบมา(ตะกรุดปืนเสียครับ)
ตอนผมไปหลวงพ่อท่านจำวัดอยู่เลยไม่ได้กราบท่าน

โพธิ์ปราชิกครับ



พระเจดีย์เก่าแก่



พระเจดีย์องค์นี้จะทำการบูรณะท่านสนใจร่วมทำบุญได้ที่วัดพร้อมรับวัตถุมงคลครับ

จากนั้นก็ไปกราบ หลวงปู่เจือที่วัดกลางบางแก้ว




ณ วันหลวงปู่ไม่ต้องเหนื่อยกับการสร้างเบี้ยแก้ กับการปลุกเษกอีกแล้ว

พอหมดบุญหลวงปู่ วัดก็ดูเงียบเหงามากครับ  ทราบมาว่าที่วัดได้สร้างยาวาสนาจินดามณี
โดยการนำหัวเชื้อของหลวงปู่มาผสมด้วย หาที่ท่านเสกไม่ทัน
รุ่นก็แทนกันได้ครับท่านไหนสนใจก็บูชาได้ที่วัดครับ

อนุโมทนา

ข้อห้าม

ข้อห้ามในการใช้ของของท่านอยู่ด้วยกันหลักๆ คือห้ามด่าพ่อล่อแม่ และห้ามผิดลูกผิดเมีย ดังนั้นถ้าใช้ควรจะเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎข้อห้ามที่ท่านได้สั่งมาด้วยครับ ถ้าเผลอด่าก็ให้ปลุกเสกใหม่เหมือนตอนเช้าในใบฝอยมีบอก และที่สำคัญท่านบอกว่าตะกรุดท่านคุ้มได้ทั้งตัว ยกเว้น บริเวณมือถึงข้อมือ และเท้าถึงข้อเท้า นอกนั่นคุ้มหมดครับ
ผมถามท่านว่าถ้าเผลอด่าเสื่อมไหม ท่านบอกว่า ของไม่เสื่อมหรอก แต่ของจะไม่คุ้มครอง ผมเลยถามอีกว่า รอดราวผ้า  ไม้ค้ำกล้วยไม้ค้ำต้นไม้ สะพานหัวเดี่ยว เสื่อมไหมท่านตอบว่าไม่เสื่อมหรอก กันได้ทุกอย่าง ผมเลยถามอีกว่ากันคุณไสย กันผีได้ไหม ท่านก็บอกว่าได้กัน ได้ทุกอย่างขอให้มั่นใจ

ในวันประกอบพิธีพุทธาภิเษก
ผมได้นำมาแผ่นตะกั่วไปให้ท่านจารให้ครับ ท่านก็เมตตาจารให้ครับ ม้วนให้เสร็จ ท่านบอกว่าเอา ใช้ได้




ยันต์ที่ใช้จารก็เป็นแบบนี้ เป็นยันต์เอกลักษณ์ท่าน ที่ท่านใช้ประจำครับ

มีต่อครับ

ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมกันครับ

สวยสุดยอด
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

ผมเดาเอานะ หน้าจะหมายถึง คุณพระรัตนตรัยสามประการ
 :027:มั้งครับ

คาถาคัดของ
ตัสสะตัสสา คัจฉะคัจฉา อามุมหิโอกาเสติฏฐาหิ
ว่าคาถาแล้วเอามือลูบหัวลงมาที่หลัง(ปู่ผมบอกมา)

องค์แรก ผมว่าขุนแผนนะ องค์กลาง ดูเหมือนนางพระพญาใช่เปล่าไม่รู้ครับ สุดท้ายก็พระลีลาครับ ใช่เปล่าไม่รู้ขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยครับ

เห็นอักขระไม่ค่อยชัดเลยครับ เลยไม่รู้เป็นยันต์อะไร
แต่ยังก็ของดีแน่นอนครับผม

สวัสดีครับ ผม กริช ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ แอดมาเลย Jakkrit_Ac@Hotmail.com ครับ

ทองก็เป็นทองวันยังค่ำนะครับ พี่น้อง

ผมว่าก็สักน้ำมันไปก่อนก็ได้ครับถ้าอยากสักจริง (ส่วนตัวผมชอบน้ำมันครับ)

ผมว่าน่าจะเรียกว่า บุญหล่นทับนะครับ สาธุ

1.ตอบ  ผมรู้จักวัดบางพระโดย ตอนนั้นผมบวชเป็นเณรที่วัดแห่งในจังสุพรรณบุรี มีพระที่วัดชวนผมมาสักยันต์ผมก็มา
ตามคำชักชวนนะครับ(ประเภทเชื่อคนง่าย)
2.รวมประมาณ 4 ครั้งครับ
3. ผมไม่ทันหลวงพ่อท่านหรอกครับ ตอนที่ท่านมรณภาพผมยังไม่รู้ตาสีตาสาเลยครับ
(ขออนุญาติเล่าความฝันนะครับ เมื่อ ปีที่แล้วครับ ผมฝันถึงหลวงพ่อด้วยครับ ผมไปวัดท่านท่านช่วยผมคุยหลายเรื่องมากๆครับสนุกมากครับหลวงพ่อท่านคุยสนุกมากครับในฝันนะครับ แต่ก่อนผมจะกลับจากวัด ผมพูดกับหลวงพ่อท่านว่าเดี๋ยวผมจะนำพระธาตุมาถวายหลวงพ่อนะครับ ท่านพูดว่า อืมเอามาเถิด แล้วผมก็ตื่น ก็ปีที่แล้วผมก็นำพระธาตุไปถวายหลวงพ่อเปิ่นที่วัดครับ แล้วนำไปถวายหลวงพ่อสำอางค์ครับ เป็นพระธาตุ พระสีวลีกับพระธาตุของพระองคุลีมาลครับ ก็ลองไปถามหลวงพ่อสำอางค์ว่าเคยมีคนนำพระธาตุไปถวายหรือเปล่าครับ ว่างๆเดี๋ยวผมจะถ่ายรูปพระธาตุที่ผมมีบูชามาให้ชมกันครับ )  ขออนุโมทนา  
4.มาครั้งแรกก็สักเลยครับ(น้ำมัน)เพราะมีคนชวนมา และถ้ามาวัดทุกครั้งครับ
5. ก็รู้จักที่วัดนั้นแหละครับเห็นที่กุฎิ หลวงพี่ญา
6. เว็บบอรด์ก็ดีอยู่แล้วครับ แต่ผมอยากให้มีห้องแชทเพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยนความรู้กันได้สดๆครับผม

ผมได้มีโอกาสเดินทางไปไหว้พระ มาครับที่จังหวัดสิงบุรีและอ่างทองเลยนำภาพมาให้ชมครับและร่วมอนุโมทนากับบุญครั้งนี้ด้วยครับ

จะไปให้ได้ครับ

ปัจจุบัน ไม่ทราบว่าจะมีเหลืออยู่รึเปล่าครับ อยากได้จัง

สวยครับสวย ขอบคุณที่นำมาให้ชม

สวยครับ สุดยอด

อิทธิ ฤทธิ(อ่านว่า อิด-ทิ ริด-ทิ )  พุทธะ นิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด"
ของหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ใช้ปลุกของได้ทุกอย่าง

ผมว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้น ขึ้นอยู่กับจิตมากว่าครับ
ว่าเรามีความหนักแน่นมั่นคงแค่ไหนครับ
บางคนเห็นคนอื่นขึ้นก็กลัวจะน้อยหน้า เลยต้องขึ้นกลับเขาบ้างครับ ก็มี
ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า ดังบ่ดี ดีบ่ดัง
ของดีเข้าไม่อวดกันหรอกครับ แบบประเภทพวกคมในฝัก

สวย สวยครับ

เดี๋ยวเรา ต้องไปบ้างแล้ว