แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - pevdlovewan4

หน้า: [1]
1
      :016:วัดสันปูเลยเป็นเมืองเก่าแก่ที่ชาวมอญได้มาอาศัยอยู่และเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนา พระเจ้าโป่มะยุง่วน ได้เป็นเจ้าเมืองปกครองเมืองเวียงแก้วที่นี้และมีอยู่มาวันหนึ่งพระมารดาของพระเจ้าโป่มะยุง่วนเกิดประชวรหนักเกิดอาการประหลาดที่ไม่สามารถจะหาสาเหตุได้พระเจ้าโป่มะยุง่วนจึงได้ให้เสนาทหารทั้งหลายออกไปตามหาหมอที่มีความสามารถเชี่ยวชาญทั้งยาสมุนไพรและเรื่องคุณไสย์ต่างๆให้มารักษาอาการประชวรของพระมารดาพระเจ้าโป่มะยุง่วนแต่สุดท้ายอาการของพระมารดาก็ไม่ดีขึ้นจึงได้สัจจะวาจากับพระรัตนะตรัยฟ้าดินได้โปรดจงเป็นพยานขอให้พระมารดาหายจากประชวรหนักนี้จะสร้างพระพุทธรูปใหญ่หนึ่งองค์พร้อมสร้างอารามถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆะบูชา น้อมเป็นบรรณาการถวาย จากนั้นฟ้ารับรู้ถึงสัจจะวาจาของพระเจ้าโป่มะยุง่วน และรู้ถึงการมีความกตัญญูกตเวทีของพระเจ้าโป่มะยุง่วนจึงมีสายฟ้าผ่าลงมาจังนั้นอีกไม่นานพระอาการของพระมารดาพระเจ้าโป่มะยุง่วนก็หายเป็นปกติพระเจ้าโป่มะยุง่วนจึงได้เสียสละทรัพย์สินของพระองค์ให้ทหาเสนาอามาตย์ให้ทรงสร้างพระอารามใหญ่ขึ้นแล้วปั้นพระพุทธรูปประธานในพระมหาวิหารแล้วใส่ชื่อว่าพระเจ้าตันใจ๋ (ทันใจ) นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาและพระอารามแห่งนี้เดิมแต่ก่อนนั้นมีชื่อว่า”วัดสะหลี๋เวียงแก้ว” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ระยะเวลาผ่านไปวัดสะหลี๋เวียงแก้วได้ร้างไปตามสมัยกาลและในปี พ.ศ. 2280 โดยมีท่านพระครูบาแก้ว รตนปัญโญ ได้มาบุกเบิกสร้างใหม่กับขุนสันปูเลยฤๅเดชได้ปรับปรุงซากเสนาสนะโบราณที่ยังเหลือค้างไว้คือพระพุทธรูปปูนปั้นและซากพระวิหารและต่อมา ณ.ที่บริเวณนี้เป็นที่มีต้นปูเลยเป็นจำนวนมากเวลามีคนเจ็บไข้ไม่สบายเป็นโรคต่างๆ บางคนก็เอาปูเลยมาต้มกินแล้วโรคต่างๆก็หายไปอย่างอัศจรรย์ ทางพ่อน้อยพ่อหนานพ่ออาจารย์ที่ได้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมก็ย่อมจะใช้ปูเลยแหกเช็ดถูบริเวณร่างกายที่เจ็บปวดแล้วอาการเจ็บปวดนั้นก็หายไปอย่างน่าเชื่อ และบริเวณที่ท่านพระครูบาแก้ว รตนปัญโญ ได้มาเริ่มฟื้นฟูวัดร้างนี้โดยบริเวณรอบๆ เป็นสันเป็นดอนมีแต่ต้นปู-เลยและได้ปรึกษากับท่านขุนสันปูเลยฤๅเดช เจ้าพระยาที่ปกครองในขณะนั้นว่าเราจะตั้งชื่ออารามนี้ว่าอย่างไร จึงตงลงกันว่าจะใส่ชื่อวัดนี้ใหม่ว่าวัดสันปูเลย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในเวลาต่อมา พระครูบาน้อย เขมปญฺโญ ได้มาทำการบูรณะและสร้างเสนาสนะขึ้นมาใหม่หลายอย่างที่เสื่อมโทรมไปตามกาลสมัยให้งดงามตามที่เป็นที่ประจักษ์กับสายตาศรัทธาสาธุชน ฯ ทั่วไป ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมทำบุญภายในวัดสันปูเลย (สะหลี๋เวียงแก้ว) :015:


2
             พระครูบาน้อย เขมปญฺโญ เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๒๓ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๓๑ ที่บ้านร้องอ้อ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของโยมพ่อวินัย ศรีศิริ โยมแม่ฤทธิ์ดาวัลย์ ตันนรา ในวัยเยาว์ท่านมีผิวพรรณผุดผ่องมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เรียนหนังสือเก่งมีผลการเรียนอยู่ในระดับดีเด่นและมีนิสัยสงบรักสันโดษไม่เบียดเบียนสัตว์และมักจะนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระพุทธรูป องค์ใหญ่ องค์เล็กอยู่เสมอจนเพื่อนท่านล้อท่านเล่นว่าเป็นตุ๊เจ้าบ้างก็มี ท่านชอบไปวัดฟังธรรมสมัยตอนที่ยังเป็นเด็กชอบไปวัดฟังธรรมกับคุณตาคุณยายที่วัดในพรรษาเมื่อท่านอายุได้ ๑๒ ปี เหตุดังนั้นจึงมีใจที่จะเข้ามาบรรพชาในพระพุทธศาสนาเพื่อตอบแทนยังคุณของโยมพ่อโยมแม่จึงได้เข้าบรรพชาบวชเป็นสามเณรในร่มกาสาวพัตร์ที่วัดร้องอ้อ โดยมีพระญาณสมโพธิ (พระเทพวรสิทธาจารย์) วัดพระบรมธาตุเจ้าดอยสุเทพ เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาพ่อหมอคำมูล เข็มขาว ได้นำครูบาเณรท่านไปฝากเนื้อฝากตัวกับได้ไปเรียนวิชาภาษาล้านนาและเรียนเทศน์ตลอดจนถึงสัพพะวิทยาคมทั้งหลายจากท่านพระครูอมรธรรมประยุต (ครูบาบุญจันทร์ ปุณฺจนฺโท) วัดแม่ริม และท่านศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มณี พยอมยงค์ ทำครูบาเณรท่านอ่านเขียนได้อย่างรวดเร็วด้วยบุญญาบารมีในตัวพระครูบาเมื่อท่านได้เรียนวิชาอาคมตลอดถึงวิชาทั้งหลายแล้วนั้นพระครูบาก็ได้ทำทั้งยันต์ตระกุดตลอดถึงวัตถุมงคลทั้งหลายให้ศรัทธาญาติโยมเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจและช่วยปัดเป่าทุกข์บำรุงสุขแก่ศาสนิกชนทั้งหลายที่เข้ามากราบนมัสการปรากฏว่าวัตถุมงคลของสามเณรน้อยทั้งเกิดประสบการณ์ต่าง ๆ ในความแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตาค้าขายร่ำรวยเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ศรัทธาที่มากราบไหว้ยิ่งเป็นอย่างยิ่งจึงมีศรัทธาญาติโยมทั้งในและนอกประเทศได้มากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย จึงได้นามตามที่ศรัทธาเรียกขากันในนามว่า “ครูบาน้อย” ตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร เมื่อท่านอายุได้ 17 ปีได้มีโอกาสไปกราบนมัสการครูบาวัดบ้านเด่น ครูบาวัดบ้านเด่นได้แนะนำชี้แนะหลายๆอย่างจึงเกิดความเลื่อมใสจึงได้ฝากเนื้อฝากตัวกับพระครูบาท่านเป็นลูกศิษย์เพื่อสืบสานตามรอยพระครูบาเจ้าศรีวิชัยครูบาเทือง นาถสีโล วัดเด่นสลีเมืองแกน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นครูบาอาจารย์ที่เคารพเป็นอย่างยิ่งจนมี ความเข้าใจถ่องแท้เมื่อศึกษาอยู่กับ พระครูบาเทือง นาถสีโล เป็นเวลาพอสมควรก็ได้นำสัพพะวิชาของครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ประสิทธิ์ประสาทให้มาใช้ช่วยเหลือผู้ที่มีความตกทุกข์ได้ยากให้เขาได้อยู่ดีมีสุขครูบาน้อยถือว่าท่านมี วิชาคาถาอาคมที่แก่กล้าไม่เป็นรองจนกระทั่งชื่อเสียงของท่าน ดังกระฉ่อนไปทั่วภาคเหนือ จึงมีศิษยานุศิษย์จากจังหวัดนครศรีธรรมราชมานิมนต์ ให้ท่านไปโปรดญาติโยมทางจังหวัดนครศรีธรรมราชและที่จังหวัดนครศรีธรรมราชนี่เอง ได้สร้างเกียรติคุณ ให้ท่านเป็นอย่างมากในการใช้สรรพวิชาทั่งหลายแก่บรรดาญาติโยมผู้ได้รับความทุกข์ร้อนหลายสิบรายจนชื่อเสียง กว้างไกล มีผู้ยกย่องขนานนามว่า ครูบาเณรน้อย วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและมีชื่อเสียงมากเช่น ตระกุดเอว ๑๐๘ ดาบ เป็นต้น โดยเฉพาะตะกรุดลูกปืน ยันต์มหาเมฆบังวัน มีผู้ประสบเหตุการณ์แล้วทะเลาะกัน ผู้เป็นพ่อบันดาลโทสะจึงเอามีดฟันตรงหลังลูกชายปรากฏว่าฟันถึง ๒ ที ไม่เข้าสืบไปสืบมาพบว่ามี ตระกุดเอว ๑๐๘ ศักดิ์สิทธิ์ของครูบาน้อยที่ท่านสร้างรุ่นแรกอยู่ มีชื่อเสียงทางด้านคงกระพันดังขจรไกลทั่วไป ต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ.พัทธสีมา วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีหลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระเทพวรสิทธาจารย์ (ธงชัย สุวณฺณสิริ ปธ.๗) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่ท่านได้ ้อุปสมบทแล้วท่านได้มุ่งเน้น ในการปฏิบัติธรรมเป็นหลักสำคัญแต่ญาติโยมผู้ที่ได้รับประสบการณ์ในวิชาคาถาอาคม ความแคล้วคลาด ปลอดภัยเมตตามหานิยมก็หลั่งไหล มาเป็นลูกศิษย์ไม่ขาดสาย จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ต่อมาท่านได้รับอาราธนาจากญาติโยมจากวัดสันปูเลย ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสันปูเลย จนถึงปัจจุบันนี้ในแต่ละวันจะมีเข้ามา กราบนมัสการไม่น้อยกว่า 10 คณะ ส่วนใหญ่พระครูบาน้อย จะอบรมสั่งสอนญาติโยมที่มากราบนมัสการตามพระธรรมคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตามชื่อเสียงในด้านเวทย์มนต์คาถา เครื่องรางของขลังในสมัยที่เป็นสามเณรยังลือเรื่องโดยเฉพาะการทายทัก บางครั้งหากญาติโยมมีความทุกข์ร้อนใจในเรื่องราวปัญหาต่าง ๆ พระครูบาน้อยท่านก็จะช่วยทำนายทายทักสงเคราะห์ เป็นการช่วยขจัดปัดเป่าแก้ไขให้ผ่อนคลายสบายใจจากหนักเป็นเบาลงซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักการเมือง คหบดี นักธุรกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนต่าง ๆ ทราบข่าวและเลื่อมใสศรัทธาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดสันปูเลย ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ผู้คนก็หลั่งไหลมาขอบูชาตะกรุดและสายสิญจน ์ของครูบาจำนวนมาก และมีญาติโยมท่านหนึ่ง ได้เล่าให้ฟังว่าท่านไปพบท่านครูบาน้อยในงานบุญ วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา ท่านกำลังแจกวัตถุมงคลพอดีโยมท่านอื่นได้มา โยมท่านนั้นก็อยากได้แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปก็นึกในใจอยากได้พอสักพักหนึ่งครูบาน้อยท่านก็เรียกโยมท่านนี้ซึ่งนั่งไกลพอสมควร เมื่อเรียกเข้าไปท่านก็มอบวัตถุมงคลให้โดยไม่ต้องขอหรือถามใด ๆ โยมท่านนี้เกิดเป็นปีติเป็นอันมาก ประสบการณ์ทางด้านโชคลาภ บางคนมาทำบุญขอให้ครูบาช่วยแผ่เมตตาจิตอธิษฐาน ขอให้กิจการรุ่งเรืองก้าวหน้า ปรากฏว่าทำมาค้าขายดีเศรษฐกิจรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ข่าวคราวแพร่หลายออกไป จึงมีผู้คนเข้ามากราบนมัสการตลอด

อ้างอิง...
th.wikipedia.org/wiki/ครูบาน้อย_เขมปัญโญ

หน้า: [1]