ผู้เขียน หัวข้อ: ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ ทำแท้งเป็นบาปร้ายแรง  (อ่าน 2660 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายธรรมะ

  • ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำอยู่ที่ทําตัว
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 615
  • เพศ: ชาย
  • เหนื่อย ได้แต่อย่า ท้อ
    • ดูรายละเอียด
ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ ทำแท้งเป็นบาปร้ายแรง


พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ขาดศีลธรรมต้นเหตุปัญหาทำแท้ง
20 พย. รายงานข่าวแจ้งว่า พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เปิดเผยถึงกรณีการทำแท้งกับสังคมไทยว่า เกิดจากการขาดศีลธรรมของคนในสังคม ความเสื่อมถอยทางการศึกษาไทยเนื่องจากหากได้รับการอบรมที่ดีปัญหาเหล่านี้คงจะไม่เกิดขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากวัตถุนิยม ทำให้คนที่ทำแท้งหรือคนที่รับทำแท้งขาดศีลธรรม ยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวเองหรือเพื่อเงิน
ทั้งนี้ ในทัศนะของพระพุทธศาสนาแล้วการทำแท้งไม่ว่าจะเป็นคนที่ไปทำหรือคนที่ทำ ให้ จะเป็นการฆ่าคนดีๆ เป็นการทำบาปอย่างร้ายแรง และถ้าพระรูปไหนมีส่วนรู้เห็นต้องออกจากการเป็นพระทุกๆกรณี และคนใดที่อยู่ในกระบวนการการทำแท้งจะเดือดร้อนทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า เพราะบาปจะติดตัวเราไป
อย่างไรก็ดี สุดท้ายอยากฝากถึงวัยรุ่นหรือคู่หนุ่มสาวทุกคน รวมถึงคนที่อยู่ในกระบวนการทำแท้ง ทุกๆครั้งที่ทำแท้งเหมือนเป็นการทำอาชญากรรม เป็นการทำผิดศีลธรรมและผิดกฏหมาย ทางที่ดีควรป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ในการร่วมสัมพันธ์ทุกครั้งต้องมีความรักและความรับผิดชอบต่อกันไม่ควรเอาเปรียบกัน หากขาดสิ่งเหล่านี้ปัญหาการทำแท้งก็จะไม่หมดไปจากสังคมไทย

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เว็บบอร์ดพลังจิตด้วยครับ
[shake]ศรัทธา ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ ศรัทธา เพื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีความ ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิด ปาฏิหาริย์[/shake]

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ธรรมะอินเทรนด์ โดย.. พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี)

วาเลนไทน์...ก้าวไปให้ถึงรักแท้ อย่าหยุดแค่เฉลิมฉลอง

“รักแท้ที่เป็นสากล คือ ความสามารถที่จะรักคนได้หมดทั้งโลก”
   
วันวาเลนไทน์...เป็นวันแห่งความรักที่มักมาพร้อมกับข่าวในทางเสียหายของวัยรุ่นไทยไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
   
- รักเขา ก็เลยต้องยอมตามที่เขาต้องการ (=รักต้องยอม)
   
- รักเขา ก็เลยต้องนอนกับเขาในวันวาเลนไทน์ (=วาเลนไทน์กลายเป็นวันเสียตัว)
   
- วาเลนไทน์ คือ วันสะสมแต้ม
   
- วาเลนไทน์ คือ วันที่หนุ่มสาวมีความสัมพันธ์ แต่ไม่ยอมผูกพัน (= one night stand)
   
นี่คือ ภาพรวมเชิงลบที่เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ ซึ่งได้ยินได้ฟังกันอยู่ทุกปี จนดูเหมือนจะกลายเป็นประเพณีไปเสียแล้วว่า ในวันดังกล่าวเรามักจะได้ยินแต่ข่าวในทางเสียหาย ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงนั้น วันวาเลนไทน์มีด้านที่ดีงามมากมาย เช่น เมื่อหนุ่มสาวรักกัน
       
- ก็ควรทะนุถนอมดูแลกันและกันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีด้วยกัน
       
- เป็นกำลังใจให้กันและกันเพื่อทุ่มเทศึกษาหาความรู้จนเป็นบัณฑิตด้วยกัน
       
- เป็นกัลยาณมิตรคอยชักชวนกันและกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เช่น ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข ไม่ขลุกคนพาล ไม่เกียจคร้านการศึกษา ไม่เสียเวลากับเรื่องเหลวไหล ไม่เข้าใกล้ยาเสพติด เป็นต้น
   
นอกจากนั้นแล้ว ก็ควร “รักอย่างมีสติ” กล่าวคือ “รักด้วยสมอง  ไม่ปล่อยให้รักขึ้นสมอง” จนหน้ามืด ตามัว ลืมเนื้อลืมตัว ลืมพ่อลืมแม่ ลืมความผิดถูกชั่วดี แต่ควรรักอย่างคนที่มีสติปัญญา ไม่ปล่อยให้ความรักพาให้เสียคน เสียการเรียน เสียการงาน  ทุกครั้งที่มีรัก ก็ควรรักอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการชักชวนกันพัฒนาตัวเองให้ดีงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป
   
ความรักอย่างสร้างสรรค์ หมายถึงการพัฒนาความรักให้สูงขึ้นไปกว่าความรักเชิงชู้สาวซึ่งวางรากฐานอยู่ บนสัญชาตญาณของการดำรงเผ่าพันธุ์และการเห็นแก่ตัว ไปสู่ความรักที่เหนือกว่าการรักตัวเองขึ้นไปอันได้แก่ความรักมนุษยชาติ รักสิ่งแวดล้อม รักแผ่นดินถิ่นเกิด รักสรรพชีพสรรพสัตว์  จนสามารถมองมนุษยชาติและสรรพสิ่งทั้งมวลในฐานะ “โลกทั้งผองพี่น้องกัน” ซึ่งหากมีทัศนคติเช่นนี้  ก็จะทำให้โลกนี้มีแต่สันติสุข เพราะมองไปทางไหนก็ไม่มีใครที่คู่ควรแก่ความโกรธ เกลียดชิงชัง หากมีแต่ญาติพี่น้องของตนทั้งหมดทั้งสิ้น ความรักที่ลอยพ้นอัตตาของตัวเองเช่นนี้แหละ คือ รักแท้ที่เป็นสากล ซึ่งมนุษย์ทุกคนควรพัฒนาตนไปให้ถึงโดยไม่ต้องรอวันวาเลนไทน์แต่อย่างใด

คติธรรมสำหรับคู่รัก
       
- จงรักด้วยสมอง แต่อย่ารักจนขึ้นสมอง
       
- ที่ใดมีรัก (อย่างขาดสติ)  ที่นั่นมีทุกข์
       
- ที่ใดมีรัก (อย่างมีสติ) ที่นั่นมีสุข
       
- ความรัก ควรถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน ไม่ใช่เป็นตัวทำลายอนาคต
       
- รักแท้ที่ยั่งยืน ควรวางรากฐานอยู่บนทฤษฎี ๔ ส. กล่าวคือ
     
๑. สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกัน (เชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งเดียวกัน)
       
๒. สมศีลา มีศีลเสมอกัน (ไม่นอกใจซึ่งกันและกัน)
       
๓. สมจาคา มีความเสียสละเสมอกัน (ลืมความเป็นเธอ ลืมความเป็นฉัน หลอมกันเป็นเรา)
     
๔. สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน (มีระดับสติปัญญาเสมอหรือใกล้เคียงกัน)
       
- อย่ารักจนหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นหัวกฎเกณฑ์ทางจริยธรรมของสังคม
       
- อย่ารักจนหน้ามืดตามัว กระทั่งมองไม่เห็นหัวของมารดรบิดาบังเกิดเกล้า
     
- ทุกครั้งที่มีความรัก ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ
       
- ที่ใดมีรัก ที่นั่น (อาจมีทุกข์) ที่ใดมีกิ๊ก ที่นั่นมีกรรม, ที่ใดมีชู้ ที่นั่นมีช้ำ
       
- ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า “ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์” เอาไว้เสมอ
       
- เลือกคนรักอย่ามองแค่หน้าตา แต่จงพิจารณาไปถึงนิสัย สติปัญญา และคุณธรรม
       
- ผู้ชายจงมองให้เห็นความเป็นแม่ที่มีอยู่ในผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจงมองให้เห็นความเป็นพ่อที่มีอยู่ในผู้ชาย
       
- ความรักไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อย่าอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความรักจนเสียผู้เสียคน
       
- จงเรียนรู้ที่จะพัฒนาความรักจากระดับสามัญไปสู่รักที่สร้างสรรค์เพื่อ เกื้อกูลโลก เพราะมนุษย์ทุกคนมีความสามารถที่จะรักได้มากกว่าการรักตัวเอง รักแท้ที่ควรสร้างสรรค์มี ๔ ระดับ คือ
       
๑. รักตัวกลัวตาย (รักพื้นฐานระดับสัญชาตญาณ)
       
๒. รักใคร่ปรารถนา (รักอิงกามารมณ์)
       
๓. รักเมตตาอารี (รักอิงสายเลือดและสายสัมพันธ์)
       
๔. รักมีแต่ให้ (รักที่ลอยพ้นอัตตา ต้องการพัฒนาทั้งโลกให้มีความสุข).

ว.วชิรเมธี
สถาบันวิมุตตยาลัย
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=671&contentID=121340
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ตะเพียน

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ ทำแท้งเป็นบาปร้า$
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 17 ก.พ. 2554, 10:29:38 »
ของท่าน ว.วชิรเมธี เหมือนกันครับ :097:

แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝน   
ต่อให้ฝนตกกระหน่ำทั้งคืน
ก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ
คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้
ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ทั้งคืนทั้งวัน
ก็ยังโง่เท่าเดิม


นัยอันล้ำลึกของคำว่า "ขอบคุณ"

ขอบคุณความไม่รู้   ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณความยากจน   ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณความล้มเหลว   ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณความผิดพลาด   ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณความริษยา   ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ์   ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณความไม่รู้   ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณความผิดหวัง   ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า   ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ

ขอบคุณมหกรรมคอรัปชั่น   ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณความป่วยไข้   ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณความทุกข์ที่   ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน

ขอบคุณความพลัดพราก   ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่น ถือมั่น
ขอบคุณเพลิงกิเลส   ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน
ขอบคุณความตาย   ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ
เจริญพร

ว วชิรเมธี
แต่ว่า ระหว่างแก้วหงาย กับ ฝนตกกระหน่ำอะไรสำคัญกว่ากันนะ :095:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ก.พ. 2554, 10:35:32 โดย ตะเพียน »