ผู้เขียน หัวข้อ: "บันทึกของนักโทษประหาร"  (อ่าน 49633 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
"บันทึกของนักโทษประหาร"
« เมื่อ: 08 พ.ค. 2554, 10:33:48 »
ขอบคุณที่มา http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1052
===========================
1/3

เรื่องสั้นสอนใจ ~ "บันทึกของนักโทษประหาร"

ผมคือนักโทษประหารคนหนึ่ง เช้าวันนี้ผมและเพื่อนนักโทษอีกคนจะถูกนำไปลานประหาร แล้ว ไม่ช้าห่ากระสุนก็จะจบชีวิตอันชั่วร้ายของผม แต่ก่อนผมและพรรคพวกอยู่ท่ามกลางตีรันฟันแทงหลายครั้ง ต่างคิดว่าไม่กลัวตาย ไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตมีค่าอะไร แต่ขณะนี้ความตายกำลังจะมาถึง กลับรู้สึกหวาดกลัวและรักชีวิตขึ้นมา ตอนนี้ถ้าสามารถให้ผมมีชีวิตยืดต่อไปอีกหน่อยแม้จะเพ ียงไม่กี่นาที จะให้แลกกับอะไรผมยอมทั้งนั้นก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมก๊วนคนหนึ่งได้ถูกจับ ทำให้โอกาสที่จะยืดชีวิตต่อไปสิ้นหวัง ตั้งแต่ถูกศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ทำให้ความหวังของผมทุกอย่างพังทลายหมด เสียงฝีเท้าของพญามัจจุราชคืบคลานใกล้เข้ามาทุกขณะ ทุกครั้งที่คิดถึงว่าจะถูกนำไปลานประหาร ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านทุกที ทุกคืนนอนไม่ค่อยหลับ เรื่องความหวังที่จะได้ยืดชีวิตต่อไปหรือได้รับอิสรภ าพ แม้จะรู้ว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะทุกอย่างสายไปแล้ว ผมสำนึกผิดและเสียใจกับเรื่องราวในอดีตทั้งหมด ถ้ารู้แต่แรกว่าจะลงเอยแบบนี้ผมคงไม่กล้าทำ

เมื่อไม่นานมานี้ ผมเริ่มเชื่อเรื่องผีสางเทวดามีจริง ตั้งแต่ผมถูกจับกุมอยูในเรือนจำ ได้อ่านหนังสือธรรมะไม่น้อยแต่ก่อนหนังสือเหล่านี้ผม ไม่เคยสนใจเลย ซ้ำยังหาว่าเป็นเรื่องงมงาย ไร้ สาระ ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ระหว่างที่ผมหลบหนีคดีแล้ วถูกวิญญาณพยาบาทตามรังควานจนถึงเดี่ยวนี้ก็ยังมีอยู ่เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีตามที่หนังสือธรรมะว่าไว้ไม่ม ีผิด ผมคิดว่า ถ้าผมเชื่อเรื่องราวในหนังสือธรรมะตั้งแต่แรก ความชั่วร้ายเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่ อยู่ในคุกผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ?ท่องเมืองนรก? ทำให้ผมรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวมาก ที่แท้คนเราตายแล้วไม่ใช่จบสิ้นทุกอย่างนักโทษประหารเช่นผมที่ได้สร้างบาปกรรมไว้มากมาย ในภายหน้าคงไม่อาจหนีพ้นการลงโทษจากนรก ไม่รู้ว่าจะได้พ้นทุกข์เมื่อไหร่ และเมื่อไหร่จึงจะได้มาเกิดเป็นคนอีก

เมื่อวานลูกเมียได้มาเยี่ยม เราต่างรู้ว่านี่เป็นการพบหน้าครั้งสุดท้าย ผมได้หลั่งน้ำตาแห่งความสำนึกผิด เวลา 15วินาทีของการเยี่ยม เราต่างนิ่งเงียบ ผมจะพูดอะไรได้ภรรยาอุ้มลูกน้อยไร้เดียงสา ผมจะทอดทิ้งพวกเขาลงคอได้อย่างไร แต่ผมจะทำอะไรได้ เวลา 15 นาทีผ่านไปเร็วมาก ผมบอกเมียว่าให้ถนอมสุขภาพ เพราะความประพฤติของผมที่ผ่านมาแท้ๆ จึงทำให้ลูกเมียต้องพลอยลำบาก ขอให้เธอให้อภัย และย้ำแล้วย้ำอีก ต่อไปเธอจงอบรมลูกให้ดีควรดูการทำชั่วของพ่อเป็นบทเร ียน อย่าได้เจริญรอยตาม ครั้นลูกเมียเดินจากไป ผมมองตามหลังจนลับสายตา ผมปวดร้าวในหัวใจ ร้องไห้จนสลบไปแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจลูกเมียเลย ภรรยาแต่งกับผมมาหลายปี ไม่รู้ว่าต้องทนกับการด่าว่าและเตะถีบจากผมเท่าไหร่ ผมไม่เคยทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีเลย ผมไม่สมควรเป็นคน ผมตำหนิตัวเอง ผมสำนึกผิดเมื่อใกล้จะถูกประหารน้ำมันตะเกียงกำลังจะ หมด ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว

ไม่นานมานี้ได้ความรู้จากหนังสือธรรมะ ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมกลัวตายที่สุด เพราะผมเชื่อแน่ว่าตายแล้วไม่สูญหมด แต่เป็นเพียงวิญญาณหลุดออกจากกายเนื้อเท่านั้น แล้วไปเริ่มต้นอีกมิติหนึ่ง โดยผมจะต้องไปรับโทษอีกตามที่หนังสือ ?ท่องเมืองนรก? บันทึกไว้ ซึ่งเป็นการลงโทษที่โหดร้ายทารุณยิ่งกว่ากฎหมายเมือง มนุษย์หลายร้อยหลายพันเท่า โอ... แล้วจะมีใครช่วยผมได้นี่ ! ขณะนี้ผมกำลังก้าวไปหาความตาย แม้ผมจะสำนึกผิดแล้ว แต่ในตัวผมเต็มไปด้วยบาปกรรม ตอนนี้ผมไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะกลับตัวใหม่ หรือไถ่บาปได้เลย ได้แต่ใช้เวลาและลมหายใจอันจำกัดเล่าบาปกรรมที่ทำมาท ั้งหมดอย่างหมดเปลือกหนึ่งนั้นเป็นการสารภาพบาปสองนั้นเพื่อเป็นบทเรียนอุทาหรณ์เตือนใจแก่ผู้หลงผิด ให้กลับตัวใหม่
ขอพระโพธิสัตว์โปรดเมตตา ลดโทษทัณฑ์ที่นรกให้บ้างเถิด
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 08 พ.ค. 2554, 10:35:09 »
ขอบคุณที่มา http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1052
===========================
2/3

ผมเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย ผมเป็นลูกเพียงคนเดียวของพ่อแม่ ดังนั้นตั้งแต่เด็กผมจึงได้รับการตามใจทุกอย่างผมอยา กได้อะไรก็จะได้เสมอ พ่อวุ่นอยู่กับธุรกิจทั้งวัน ส่วนแม่ก็เอาแต่เล่นไพ่นกกระจอก ผมนั้นพ่อแม่รู้แต่เอาใจน้อยนักที่จะอบรม เมื่อนานเข้าทำให้ผมติดนิสัยเที่ยวเตร่เสเพลวันๆ เอาแต่กินดื่มหาความสำราญู ไม่รู้จักความยากลำบากของชีวิต ตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมก็กลายเป็นแก๊งวัยรุ่นที่ เป็นขาประจำของโรงพักแล้ว ซึ่งทุกครั้งพ่อแม่ก็ไปประกันตัวผมออกมา อย่างมากก็แค่ว่าสั่งสอนผมไม่กี่คำ ไม่นานผมก็ประพฤติเหมือนเดิมอีก ตำรวจพอเห็นผมก็ส่ายหัวด้วยความ เอือมระอา

เมื่อผมเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว ไม่ได้ทำงานทำการอะไร ไปมั่วสุมเสพสารเสพติดกับพวกนักเลง รู้สึกสะใจเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น บางครั้งก็รวมกลุ่มกันไปก่อเรื่องวิวาท ถ้าใครมามองหน้าก็จะถูกผมจัดการทันที มีหลายครั้งที่เกิดการยกพวกตีกันโดยมีผมนำหน้า จนได้รับตำแหน่ง ?พี่ใหญ่? ตอนนั้นผมอายุราว 25 ในวงการนักเลงคนที่จะเป็นพี่ใหญ่ไมใช่เป็นได้ง่ายๆ นอกจากต้องใจเ้ยมแล้วยังต้องมีเงินเพื่อเลี้ยงลูกน้อง ดังนี้ผมจึงมักจะยื่นมือขอเงินกับพ่อแม่ ถ้าไม่ให้หรือชักช้า ผมก็จะด่าใหญ่อย่างไม่เกรงใจหรือข่มขู่ว่าเดี๋ยวน่าด ู มาถึงตอนนี้พ่อแม่เสียใจมากที่แต่ก่อนปล่อยปละละเลยไ ม่ได้อบรม ต่อมาผมได้เปิดบ่อนการพนันครั้งหนึ่งขณะที่ไปทวงหนี้การพนันแทนพรรคพวกได้ทำร้า ยร่างกายฝ่ายตรงข้ามจนบาดเจ็บสาหัส จึงต้องเผ่นหนีไปอยู่ที่อื่น ต่อมาถูกตำรวจจับตัวได้ที่ภาคเหนือ ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี พ่อแม่เสียใจมาก ได้แต่หวังว่าผมจะเข็ดหลาบหรือกลับตัวใหม่ คืนผมออกจากคุก มิเพียงไม่ได้กลับตัว แต่กลับร้ายยิ่งกว่าเก่า พ่อแม่จนปัญญาได้แต่บอกให้ผมแต่งงาน และตั้งใจจะมอบธุรกิจของท่านแก่ผม

โดยหวังว่าภาระหน้าที่ทางธุรกิจและครอบครัวจะทำให้ผม กลับตัวได้ ต่อมาผมได้แต่งงาน ภรรยาผมเป็นยอดหญิงที่ดีมาก ผมนั้นก่อนแต่งงานเที่ยวผู้หญิงจนเคยตัว จึงไม่เห็นเธออยู่ในสายตา โดยมักจะด่าว่าเธอเสมอ พอมีอะไรไม่สบอารมณ์ ก็มักจะลงมือลงเท้ากับเธอ ปกติเธอเป็นคนยอดกตัญญู ด้วยเกรงพ่อแมจะเสียใจ เธอจึงมักแอบร้องไห้อยู่คนเดียว ผมแต่งงานไมถึงปีก็ถูกตำรวจจับอีกในขณะไปเรียกเก็บค่ าคุ้มครองจากร้านค้า ครั้งนี้ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ติดคุกได้ไม่นาน ภรรยาให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ในวันที่ผมออกจากคุก พ่อแม่และภรรยาได้มารับ เย็นวันนั้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ภรรยาผมอุ้มลูกน้อยต่อหน้าพ่อแม่ผม เธอร้องไห้คุกเข่าตรงหน้าผม อ้อนวอนผมให้ตัดสินใจกลับตัวใหม่ ขอให้ผมนึกถึงบุญคุณของพ่อแม่และเห็นใจลูกเมียบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็ให้ทำตัวสมเป็นลูกผู้ชายบ้าง เพื่อให้พ่อแม่ ลูกเมียได้เงยหน้าอ้าปาก ผมมองดูลูกชายรู้สึกจะเป็น

เด็กฉลาดน่ารัก พลันเกิดความละอายใจและเสียใจระคนกัน ได้อยู่ในเส้นทางมืดมากว่า 10ปี ที่จริงก็เบื่อเหมือนกัน จึงรับปากว่าจะกลับตัวใหม่ ทำให้ใบหน้าภรรยาปรากฏรอยยิ้มทั้งน้ำตา พูดตามตรงผมไม่ได้เห็นภรรยายิ้มมานานแล้ว เพราะหลายปีมานี้ ผมไม่เคยมีสีหน้าที่ดีกับเธอ และไม่รู้ว่า ได้ด่าว่าและลงมือลงเท้ากับเธอกี่ครั้งแล้ว พอเห็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกว่าภรรยาเป็นหญิงที่สวยมาก ไฉนแต่ก่อนผมจึงไม่เห็น คงเป็นเพราะถูกบดบังด้วยความเศร้าหมองกระมังต่อมาคุณพ่อให้ไปทำงานที่โรงงานของท่าน คุณพ่อเห็นว่า ผมยังด้อยประสบการณ์จึงไม่กล้าให้ตำแหน่งหน้าที่ที่ส ูงนัก โดยให้ทำหน้าที่ระดับธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากผมเป็นลูกเถ้าแก่ ทุกคนจึงเกรงใจเป็นพิเศษ โบราณว่า ?แผ่นดินเปลี่ยนง่าย สันดานเปลี่ยนยาก? ผมอยู่ในวงการนักเลง เป็นผู้นำจนเคยตัว คิดดูตอนนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน มาบัดนี้ต้องถูกคนอื่นชี้นิ้วบงการ เป็นไปได้อย่างไร

ผมมักจะโต้เถียงกับผู้จัดการเสมอ โดยเฉพาะขู่ว่าจะให้คน ?จัดการ? เนื่องจากผมเป็นลูกเถ้าแก่ ผู้จัดการไม่อาจทำอะไรได้ เขาถูกกดดันหนักเข้าก็เลยลาออกจากงาน เป็นแบบเดียวกันนี้ติดต่อกันหลายคน ไม่นานผู้บริหารระดับสูงของโรงงานต่างพากันลาออกเกือ บหมด โรงงานอันใหญ่โตถูกผมป่วนจนแทบเป็นโรงงานร้าง เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อคิดมากจนล้มป่วย ส่วนผมโรงงานก็ไม่ไปทำแล้ว เมื่อไม่มีอะไรทำก็กลับไปเป็น ?พี่ใหญ่? ในวงการนักเลงเหมือนเดิม รอยยิ้มบนใบหน้าภรรยาเป็นอยู่ไม่ถึงสองเดือนก็กลับมา เศร้าสร้อยอีก คุณพ่อช่วยอยู่หลายเดือน ธุรกิจก็ห่างเหิน ไม่ค่อยได้ดูแลประกอบกับภาวะเศรฐกิจไม่ค่อยดี ธุรกิจทุกอย่างจึงเจ๊งหมดแหล่งเงินส่วนใหญ่ของผมจึงไ ม่มีอีก คุณพ่อถูกกดดันจากเหตุนี้ ทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูงจนเสียชีวิต คุณแม่ก็เครียดจากเหตุนี้จนล้มป่วยไปด้วย ส่วนผมก็หลงมัวเมาไม่กลับบ้าน ในใจคิดว่าพวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ส่วนภรรยาก็เอาลูกไปฝากแม่เขาเลี้ยง แล้วเช็ดน้ำตากลับมาทำหน้าที่ของลูกสะใภ้ คอยปรนนิบัติดูแลแม่ผม ทุกวันเธอจะตื่นแต่

เช้า ทำงานฝีมือจนดึกดื่น เพื่อหาเงินมารักษาแม่ผม คอยดูแลแม่ผมอย่างไม่มีที่ติคนบ้านใกล้เคียงประทับใจ มาก จึงมักจะให้สิ่งของสงเคราะห์ คนชั่วร้ายอกตัญญูไร้คุณธรรมอย่างผม ไม่รู้ว่าถูกคนแช่งชักหักกระดูกแค่ไหน เพื่อรักษาตำแหน่ง ?พี่ใหญ่? เอาไว้ ผมจงจำเป็นต้องตั้งบ่อนการพนัน และเรียกเก็บค่าคุ้มครองรายเดือนจากร้านค้าต่างๆ หากใครไม่รู้จักธรรมเนียมหรือทำอิดเอื้อน ผมก็จะให้ลูกน้อง ?สั่งสอน? ทำให้ร้านค้าต่างๆเกลียดผมเข้ากระดูกดำ ที่สุดทุกคนจึงลงรายชื่อเป็นหางว่าวร้องเรียนไปที่กร มตำรวจ หลังจากทางตำรวจสืบสวนแล้วว่าเป็นความจริง จึงออกหมายจับผมๆ จึงจำต้องหลบหนี

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 08 พ.ค. 2554, 10:43:12 »
ขอบคุณที่มา http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1052
===========================
3/3

อีกครั้ง ในระหว่างหลบหนีอยู่ ผมได้ข่าวว่าคุณแม่ถึงแก่กรรม ผมนี่นับว่าเป็นลูกอกตัญญูที่สุด ไม่รู้จักว่าความกตัญญูเป็นอย่างไร เพราะไม่มีน้ำใจกับคุณแม่และมีคดีติดตัว ฉะนั้นจึงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะไปเยี่ยมคุณแม่ คิดแล้วเป็นบาปนักหนา ช่วงเวลาที่หลบหนี เพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายจึงออกทำการชิงทรัพย์หลายค รั้ง ซึ่งก็ทำสำเร็จทุกครั้งเมื่อ 6 เดือนก่อน ผมกับเพื่อนได้แฝงตัวเข้าไปในบ้านคนรวยหลังหนึ่ง ถือโอกาสไม่มีใครอยู่บ้าน รื้อค้นได้ทรัพย์เป็นจำนวนหนึ่ง และยังเปิดไวน์มาดื่มอย่างสำราญใจ ในขณะที่กำลังจะออกจากบ้าน พอดีหญิงเจ้าของบ้านจูงเด็กสองคนเข้ามา พอเห็นเราทั้งสองเป็นคนแปลกหน้า และเห็นข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น ก็รู้ว่าโจรเข้าบ้าน จึงกรีดร้องด้วยความตกใจ แม้เราจะห้ามไม่ฟัง ผมเกิดบันดาลโทสะประกอบกับฤทธิ์สุรา จึงชักมีดแทงออกไป หญิงคนนั้นพอเห็นผมชักมีดก็ยิ่งตกใจร้องเสียงดังลั่น เมื่อถูกผมแทง แกกรีดร้อง ?ช่วยด้วย ช่วยด้วย? ผมแทงซ้ำไปอีกหลายที หญิงคนนั้นใบหน้าบิดเบี้ยวล้มลงสิ้นใจคากองเลือดหลังทำความผิดใหญ่หลวงแล้ว เราก็รีบหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ คดีฆ่าชิงทรัพย์รายนี้ เป็นข่าวครึกโครมอยู่พักหนึ่งพวกเรารู้ดีว่า หากถูกจับได้ต้องตายแน่นอน ดังนั้นเราจึงตกลงแยกย้ายกันหลบหนีช่วงนั้นผมได้แต่อ าศัยเหล้าดับความไม่สงบภายในจิตใจใบหน้าก่อนตายของหญ ิงคนนั้น ผมยังจำติดตาได้ดี

ต่อมาทุกคืนผมมักจะฝันเห็นผู้หญิงคนนั้น มีเลือดเต็มตัว หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วพูดว่า ?ไอ้ฆาตกร เอาชีวิตคืนมา? พลางก้าวเข้ามาหาผม ผมกลัวมาก ถอยหลังไปติดมุมห้อง หญิงคนนั้นปรี่เข้ามาบีบคอจนผมสะดุ้งตื่น พอตื่นขึ้นผมไม่กล้านอนหลับอีก เกือบทุกคืนหญิงคนนั้นมักมาปรากฏในฝันของผม หลอกหลอนจนผมขวัญหนีดีฝ่อ ต่อมายิ่งร้ายใหญ่โดยปรากฏร่างให้เห็นขณะยังตื่นอยู่ ไม่ว่าบนเตียงหรือในห้องน้ำ โดยเฉพาะปรากฏอยู่ในแก้วเหล้า ผมถูกหลอกหลอนจนร้องเสียงหลง เนื่องจากตอนนั้นผมอยู่ระหว่างหลบหนีคดี จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนที่อยู่บ่อย ๆ แต่วิญญาณหญิงคนนั้นก็ไม่ยอมเลิกราผมหนีไปอยู่ที่ไหน วิญญาณเขาก็ติดตามไปทีนั่น ทุกครั้งที่ผมเดินอยู่บนถนนจะรู้สึกเหมือนมีคนติดตาม อยู่ข้างหลังทั้ง ๆที่ไม่เห็นมีใคร แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้า ระยะหลัง

นอกจากได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว ยังได้ยินเสียงโซ่ตรวนกระทบกัน เสียงนั้นทำให้ผมหวนนึกถึงครั้งที่ผมติดคุกที่ขาถูกต ีตรวน หรือว่ายมบาลจะมาเอาตัวผมแล้ว ทำให้ผมหวาดกลัวมาก3 เดือนต่อมาผมเริ่มปรากฏอาการทางประสาทสะลึมสะลือทั้ง วัน ปากบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์เสื้อผ้าขาดวิ่น หน้าตามอมแมม สารรูปดูไม่ได้มีอยู่วันหนึ่งเงินในกระเป๋าผมหมด ด้วยความหิวโหยจนทนไม่ไหว จึงหยิบฉวยของกินที่เขาวางขายอยู่ริมถนนเจ้าของเหลือ บมาเห็นเข้าร้อง ?ขโมย ขโมย? ผมตกใจวิ่งหนีเข้าไปในตรอก ไม่รู้ว่าสาเหตุใด ผมเกิดหกล้มจึงถูกพลเมืองดีช่วยกันจับส่งโรงพัก เมื่อตรวจสอบประวัติทางตำรวจก็รู้ว่าผมเป็นใคร มีพลังบางอย่างกดดันบังคับให้ผมต้องสารภาพออกมาเอง ถึงการทำผิดกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้ง

คดีฆาตกรรมด้วย หลังจากเจ้าทุกข์ชี้ตัว ผมถูกตั้งข้อหาแล้วส่งเข้าเรือนจำ โดยห้ามติดต่อกับุคคลภายนอก ตำรวจออกตามล่าเพื่อนร่วมก๊วนที่กำลังหลบหนีคืนวันนั้นขณะที่ผมอยู่ในเรือนจำ หญิงคนนั้นก็มาปรากฏตัวให้ผมเห็นอีก ในสภาพหน้าตาเขียวคล้ำ ดวงตาเบิกกว้าง มีเลือดโทรมกาย คล้ายผีดิบ มือถือเหล็กแหลมพลางร้องว่า ?ไอ้ฆาตกร แกควรจะถึงวันนี้นานแล้ว คราวนี้ต่อให้มีปีกก็หนีไม่พ้น ฉันจะไปรอแกที่ลานประหาร? พลางทำท่าจะปรี่เข้ามาหา ทำให้ผมตกใจถอยหนีล้มลุกคลุกคลาน หญิงคนนั้นพูดอีกว่า ?ไอ้ชาติชั่ว ยมบาลรอแกมานานแล้ว อีกไม่ช้าแกจะได้รู้รสชาติของนรกบ้างละ? ผมคุกเข่าอ้อนวอนขอให้เขาอภัย หญิงคนนั้นร้องไห้อย่างโหยหวนแล้วหายวับไปกับตา ผมอกสั่นขวัญผวา ในใจคิดว่าที่วันนั้นผมหกล้มอย่างไร้สาเหตุจนถูกจับได้ คงเป็นการกระทำของหญิงคนนั้นอย่างแน่นอน

ที่จริงถ้าเพื่อนอีกคนยังไม่ถูกจับ ผมอาจมีชีวิตต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงเป็นคราวเคราะห์เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนเพื่อนคู่หูของผมถูกจับได้ เราทั้งสองถูกส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ครึกโครม ศาลได้ลัดคิวพิจารณาตัดสินลงโทษประหารชีวิต กำหนดวันเวลาประหารก็คือเช้าวันนี้

ที่กล่าวมาข้างต้น ผมสารภาพโดยไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อย เพื่อหวังว่าอาจทำให้จิตใจผมสงบลงบ้าง ช่วงที่อยู่ในเรือนจำผมได้อ่านหนังสือธรรมะไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่อง ?ท่องเมืองนรก? ผมอ่านแล้วเกิดความหวาดกลัวจนขนหัวลุกเป็นครั้งแรกใน ชีวิตที่ผมรู้สึกสำนึกผิด แม้จะเป็นสำนึกผิดที่เกิดจากใจจริง แต่ก็สายไปแล้ว ตามเนื้อเรื่องในหนังสือผมรู้ดีว่านอกจากผมจะทำผิดกฎ หมายบ้านเมืองแล้วยังทำผิดทางคุณธรรม และไม่เคยคิดจะกตัญูญูเลี้ยงดูพ่อแม่ หนำซ้ำยังใช้วาจาก้าวร้าวโต้เถียง ซึ่งผิดในข้ออกตัญญู เนรคุณใหญ่หลวง กับลูกเมียไม่เคยเหลียวแลหรือให้ค่าใช้จ่ายแม้แต่น้อย มีแต่ด่าว่าตบตี ซึ่งผิดในข้อไร้น้ำใจ และตัวเองก็ไม่เคยขยันอดทนในทางสัมมาอาชีวะ ซึ่งผิดในข้อเกียจคร้านเอาแต่กิน ดื่ม เที่ยว คนชั่วร้ายที่อกตัญญู ไม่ซื่อสัตย์ เอาแต่เที่ยวเตร่ทำความชั่วตามที่บันทึกใน ?ท่องเมืองนรก? ?ท่องอเวจี นอกจากนั้นจะต้องตกนรกกระทะทองแดงและนรกอื่นๆ แล้ว

ยังอาจต้องตกนรกขุมอเวจี ซึ่งไม่มีวันได้ผุดเกิดตลอดกาลหรือถ้ามีบุญสักนิดได้ เกิด ไม่รู้ว่าต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานถูกคนเขาแล่เนื้อ เฉือนหนังเจ็บปวดแสนสาหัสกี่ชาติ ถึงจะได้เกิดเป็นคนยากจนแขนขาพิการด้วยความเสียใจและ หวาดกลัวกรรมสนองในภายหน้าทำให้ผมคิดเพ้อฝันว่าจะได้ ยืดชีวิตออกไปอีกสักหน่อย เพื่อจะได้สร้างบุญกุศลไถ่บาป แต่ชีวิตผมกำลังจะสิ้นสุดในอีกไกี่นาทีข้างหน้านี้แล ้ว ไม่มีใรสามารถช่วยผมได้ ผมปวดร้าวและเสีใจ แต่จะมีประโยชน์อะไร ในขณะชีวิตกำลังจะสิ้นสุด จึงเพิ่งรู้สึกชีวิตมีค่ายิ่งนัก โอ...พ่อแม่ ลูกเมีย โลกอันสวยงาม ไหนผมจึงโง่เขลาเช่นนี้ เมื่อสิ้นกายสังขาร เมื่อไหร่จะมีอีก เขียนมาถึงแค่นี้ สมองผมมืดตื้อคิดอะไรไม่ออก เจ้าหน้าที่มาแล้ว เขากำลังจะนำผมไปที่

ลานประหาร ผมขอร้องพวกเขาให้เวลาผมอีก 5 นาที เพื่อให้ผมได้เขียนบันทึกจนเสร็จ ผมอายุแค่ 30 กว่าปี แต่ได้ทำความผิดไว้มากมาย ผมกำลังจะถูกกฎหมายบ้านเมืองลงโทษ แล้วขอฝากถึงผู้ที่ทำผิดกฎหมายทุกคน ขอให้ดูผมเป็นบทเรียน แล้วรีบกลับตัวโดยเร็วอย่างลังเล ชีวิตเป็นของมีค่ากาลเวลาไม่คอยใคร อย่าเป็นเหมือนผมที่คิดจะอยู่ต่อไปอีกสักหน่อยเพื่อไ ถ่บาปก็ยังทำไม่ได้เจ้าหน้าที่เร่งผมแล้ว แม้จะมีความในใจอีกมากที่คิดจะเขียนแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่หวังให้ทุกท่านจงเชื่อ กฎแห่งกรรมมีจริง และหวังว่าผู้ที่ไอ่านบันทึกนี้แล้ว ได้ใช้เป็นบทเรียนเตือนใจ อย่าได้เจริญรอยตาม หากใครอ่านแล้วสามารถกลับตัวใหม่เป็นคนดี ก็ถือเป็นกุศลอย่างหนึ่งหรือทางยมโลกอาจลดโทษให้ผมบ้าง ซึ่งเป็นความหวังอันเลือนลางของผม

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 04:03:34 »
ดังคำที่ว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา 01; 01;
                                                                                                 
ข้าพเจ้าคิดว่า บิดามารดา ท่านได้ไม่อบรมสั่งสอนบุตรให้เป็นคนดี ปล่อยปละละเลย ตามใจ สุดท้ายแล้ว
                 
จะเป็นดังคำที่ว่า พ่อแม่รังแกฉัน แต่ด้วยหน้าที่การงาน ที่ท่านเหล่านี้ต้องออกไปตากตำลำบาก
                     
เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ กับหน้าที่การงาน เพื่อจะได้มีเงิน มีทอง และ ฐานะที่มั่นคงในวันข้างหน้า
                         
ลูกเต้าจะได้อยู่อย่างสบาย แต่ลูกหลายคนกับไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดามารดาทำลงไปเพื่ออะไร
                             
กับไปเสพยาเสพติด และ เที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา เลือกเกิดไม่ได้ แต่ เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ครับผม
                   
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053:
   
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้ความรู้ดีมากๆครับผม :016: :053: :015: 
   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ) :054: :054:
   
 

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ โบตั๋นสีขาว

  • ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 146
  • เพศ: หญิง
  • จะสูงจะต่ำอยู่ที่เราทำตัวจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 08:46:56 »
ขอบคุณมากคะ สำหรับเรื่องราวดีๆ เลือกเกิดไม่ได้ แต่ เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ชอบมากคะ :090: :095: :090:
เคารพ กตัญญู บูชา หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ทั้งครอบครัวคะ

ออฟไลน์ arada

  • เรียนๆ รักๆ ปากกาถูกลัก ไม่พักเรียน
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1111
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - nuk_b@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 10:40:33 »
ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องราวอุทาหรณ์ดีๆมาแบ่งปัน
ธรณีนี่นี้             เป็นพยาน

เราก็ศิษย์มีอาจารย์    หนึ่งบ้าง

เราผิดท่านประหาร     เราชอบ

เรา บ่ ผิดท่านมล้าง    ดาบนั้นคืนสนอง

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 01:13:30 »
แถมอีกเรื่องหนึ่ง

1/3
ตาบัวหนังเหนียว

ต่อไปนี้ ข้าพเจ้าจะได้นำเรื่องราวของจอมโจรผู้มีนามกระเดื่องว่า ?ตาบัวหนังเหนียว? มาเล่าสู่ท่านฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจ และก็เพื่อเป็นการยืนยันหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่ได้ตรัสเอาไว้เมื่อก่อน ๒๕๐๐ ปีมาแล้วว่า ยาทิสัง วะปะเต พีชัง ตาทิสัง ละภะเต ผะลัง บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ปัจจุบันพุทธธรรมข้อนี้ ยังเป็นสัจธรรมความจริงเหมือนเดิมทุกประการ

ตาบัว เป็นชื่อของชาวบ้านเขาผาแดงเรียกกัน บ้านช่องห้องหอของแกอยู่ที่ไหนไม่มีใครทราบแน่ชัด บางคนก็บอกว่าอยู่ห้วยบง บางคนก็บอกว่าอยู่เขาเสมา แต่ที่รู้แน่ๆ แกเป็นโจรที่ค่อนข้างจะแปลกไปกว่าบรรดาโจรทั้งหลาย คือ แกชอบปล้นคนเดียว ไม่เคยคบหมู่ คบพวก ไม่ว่าจะทำการปล้นที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าคนจะมากจะน้อยก็ไม่เคยเกรง กลางวัน กลางคืน ไม่เคยหวั่น แกจะปล้นได้ตลอดเวลาไม่เลือก

แกสะดวกเมื่อไหร่ก็เอาเมื่อนั้น ใครจะซุ่มยิง ซุ่มแทง แกก็เฉย ไม่สนใจใครทั้งนั้น อยากได้ควายไปฆ่ากินสักตัว แกก็จะเข้าไปในคอก แล้วก็จูงควายออกไปอย่างหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนส่วนมากเห็นแล้วไม่มีใครกล้าต่อสู้กับแกหรอก อำนาจแกมากเหลือคณา หรือเพียงแค่เห็นรอยเท้า ผู้คนก็ขวัญหนีดีฝ่อแล้ว

ถ้าได้ยินเสียงว่า ?เสือบัวมาแล้ว ห้ามผู้ใดเอะอะหรือขัดขืน? ผู้คนจะเงียบกริบเหมือนกับถูกมนต์ขลัง และมันก็น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าแกจะปล้น จี้ ลักขโมยที่ไหนก็ตาม แกไม่เคยใช้อาวุธเลย และอาวุธประจำตัวก็ไม่มี อย่างดีก็มีดแหลมเล่มเดียว คือ ส่วนมากแกจะใช้อาวุธข้างๆ ตัว เสียส่วนมาก เช่น เอาไม้ทุบหัวบ้าง กดคอจมน้ำบ้าง เอาเชือกรัดคอบ้าง หรือไม่ก็เอาอาวุธของเจ้าของทรัพย์นั่นแหละ ฆ่าเจ้าของทรัพย์ซะเอง เสือบัวจะถืออยู่อย่างหนึ่ง คือ แกจะฆ่าเฉพาะผู้ที่ขัดขืนหรือต่อสู้เท่านั้น ถ้ายินยอมเสีย เสือบัวก็จะไม่ทำอะไร และแกก็ไม่จับไปเป็นตัวประกันด้วย มาลักวัวลักควายใครแล้ว แกจะเอาเชือกผูกแล้วจูง หรือขี่หลังออกไปเฉยๆ

มีเรื่องน่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ คอกวัว คอกควาย บ้านใครที่คิดว่าทำคอกอย่างแน่นหนา เวลากลางค่ำกลางคืน อย่างตีลิ่ม ลงไลย ใส่กุญแจอย่างดี เพื่อป้องกันการลักขโมย พอตื่นเช้ามา ปรากฎว่าประตูถูกเปิดออกเฉยเสียอย่างนั้น โดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้ตัว และไม่ได้ยินเสียงตีลิ่ม เปิดประตูคอกเลยด้วย นั่นแหละ คือ ผลงานของเสือบัวโดยไม่ต้องสงสัย ที่ทุกคนเชื่อเช่นนั้นก็เพราะว่าแกมี ?คาถาสะเดาะลิ่มหรือกุญแจประตูนั่นเอง?

บางครั้งออกปล้นเงินปล้นทอง แกจะบอกเจ้าทรัพย์ไปเอาออกมาให้ แล้วตัวแกก็จะนั่งดื่มน้ำรออย่างใจเย็น ทั้งนี้ เป็นเพราะความกลัวในกิตติศัพท์อันร้ายกาจของเสือบัวนั่นเอง เสือบัวสั่งอะไร อยากได้อะไร เจ้าทรัพย์ก็จะเอาออกมาให้จนหมด พอได้แล้วก็จะใช้ผ้าขาวม้าห่อเอา ถ้ามีควายด้วย แกจะขี่ควายไปด้วยทุกครั้ง

เสือบัวทำการปล้นอยู่อย่างนี้มาหลายปี ไม่มีใครฆ่าแกได้ และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าถึง เพราะสมัยนั้นยังเป็นป่าเขาอยู่มาก ยากที่จะติดตามเจอ จึงไม่มีใครจับเสือบัวได้สักคน ทั้งที่แกถูกยิงถูกฟันจนไม่มีเสื้อจะใส่แล้ว เพราะใส่เสื้อปล้นทีไร ถูกยิงถูกฟันจนเสื้อขาดหมดทุกที มาระยะหลังแกออกปล้น จะไม่มีเสื้อใส่เลย จะมีก็แค่ผ้าขาวม้าผืนเดียวคาดเอว ในที่สุดก็เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเสือบัว ไม่ว่าจะปล้นที่ไหน ถ้าคนที่ปล้นไม่ใส่เสื้อแล้ว ไม่มีใครหรอก นอกจากเสือบัวเท่านั้น แล้วก็ได้รับการขนานนามอีกว่า ?เสือบัวเทวดา? เพราะไม่มีใครฆ่าหรือจับแกได้นั่นเอง

ชาวบ้านเขตอำเภอด่านขุนทด อำเภอสีคิ้ว อำเภอชัยบาดาล อำเภอปากช่อง อำเภอมวกเหล็ก ต่างก็รู้จักชื่อแกดีทั้งนั้น โดยเฉพาะชาวบ้านแถบเขาผาแดง ปางโก บ้านฉาง เขาน้อย ต่างก็รู้จักหรือจำตัวแกได้เป็นอย่างดี เห็นเพียงด้านหลังก็จำหน้าได้ ว่างั้นเถอะ เสือบัวจะใช้เขาแถบนั้นเป็นที่ซ่อนตัว มีบางคนบอกว่าบ้านของแกอยู่ในหุบเขาเสมา ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆ มีลูกมีเมียด้วย ข้าพเจ้าเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันว่า รังนอนของเสือบัวคงจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านข้าพเจ้านักหรอก เพราะเห็นแกบ่อยเหลือเกิน แต่เดิมทีนั้นแกเป็นคนมาจากทางสุรินทร์ หรือเป็นคนเขมรนั่นเอง


ขอบคุณที่มา
http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1041
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พ.ค. 2554, 01:15:38 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 01:15:00 »
2/3

เสือบัวได้ทำอาชีพในการปล้นเขาเลี้ยงดูลูกเมีย มาประมาณ ๑๓-๑๔ ปี แกก็ถึงคราวอวสานของชีวิต ถึงวาระที่จะต้องชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้อย่างมาก ประพฤติชั่วเสียจนไม่รู้ว่าดีนั้นเป็นอย่างไร ทำบาปเสียจนไม่รู้ว่าบุญนั้นเป็นอย่างไร ทำนองที่ว่า กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครที่จะอยู่เหนือกฎข้อนี้ไปได้ เมื่อมีคนเก่งก็ต้องมีคนมาปราบจนได้ เรียกว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือสกุณายังมีนกอินทรี เสือบัวแกเข้าตำรานี้ แกจะเก่งอยู่คนเดียวไม่ได้ นี่เป็นหลักสัจธรรมที่ยืนยันได้ จึงเกิดมีอัศวินสองพี่น้องขี่ม้าขาวมาปราบแกจนได้

วันนั้น จำได้ว่ามันเป็นเดือน ๖ ข้างขึ้นด้วย เพราะมีพระจันทร์ขึ้นอยู่ครึ่งซีก กลางคืนก็มองเห็นป่าไม้ภูเขาขวางทะมึนอยู่รอบข้าง ลมที่เคยเงียบเหงาก็พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง คล้ายกับจะมีอาเพทอะไรเกิดขึ้นสักอย่าง ท้องฟ้าก็มืดมน เห็นหมู่เมฆลอยปกคลุมอยู่เหนือยอดเขา คล้ายกับจะมีฝนตกลงมา เพื่อชำระล้างเสนียดจัญไรอะไรสักอย่าง ที่รอโอกาสนี้มานานแล้ว ฉะนั้น

ตอนเช้า เสือบัวก็ออกตระเวณปล้นเป็นกิจวัตรของแกเช่นเดิม ขณะที่กำลังเดินครุ่นคิดอยู่ว่า จะไปลักวัวควายที่ไหนดี เหมือนกรรมบันดาล เพราะเสือบัวต้องไปเจอกับอัศวินสองพี่น้อง คือ ทิดหนอม กับ ทิดเนียม ซึ่งเป็นชาวบ้านปรางหูเสือ ได้นำเอาควายออกมาเลี้ยงที่ไร่ของตนตามปกติ หลังจากเอาควายไปล่ามกินหญ้าริมคลองลำพญากลางแล้ว ทั้งสองพี่น้องก็ช่วยกันถางป่าขุดตอไม้ คุยกันไปตามประสาน้องพี่ผู้รักกันในสายเลือด หาได้คิดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเอง

ขณะคุยกันอยู่เพลินๆ นั้น ก็มีอีกาตัวหนึ่งบินไปจับที่ต้นไม้ ซึ่งไม่ห่างจากที่ล่ามควาย และที่ต้นไม้นั้นก็เป็นที่ไว้ของห่อข้าวด้วย ทิดหนอมก็บอกน้องชายให้ไปดูห่อข้าวว่า ?เฮ้ย..... ไอ้เนียม ลองเดินไปดูห่อข้าวที เอ็งเอาไว้ที่ไหน เดี๋ยวอีกาจะคาบไปกินเสียเท่านั้นแหละ?

ทิดเนียมก็ชี้ไปที่ต้นตะคร้อที่อีกาจับอยู่พร้อมกับพูดว่า ?ก็ที่ต้นตะคร้อนั้นไงเล่า หรืออีกาจะเอาไปกินแล้วละมัง เดี๋ยวไปดูสักเดี๋ยวก่อน?

พอพูดจบก็เดินออกไปดู ก็เห็นห่อข้าวอยู่เป็นปกติดี จึงได้เดินออกไปดูควายเพื่อย้ายที่เข้าร่ม เพราะจวนจะเที่ยงแล้ว แต่มันช่างบังเอิญเหลือเกิน พอทิดเนียมเดินออกไปหน่อยเดียวเท่านั้น ก็เห็นชายคนหนึ่งไม่ใส่เสื้อ กำลังขี่ควายของตนออกไปอย่างหน้าตาเฉย

ทิดเนียมแกเห็นแวบเดียวก็จำได้อย่างแม่นยำเลยเชียวล่ะ ผู้ชายหุ่นอย่างนี้ ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเสือบัวเท่านั้น พอเห็นเช่นนั้น ทิดเนียมแกก็วิ่งหน้าตื่นมาบอกพี่ชาย ?พี่ทิด..... พี่ทิด..... เร็วๆ เข้า โน่น ไอ้เสือบัวมันขี่ควายเราไปแล้ว?

พูดจบแกก็วิ่งไปเอาปืนแก๊ปอาวุธคู่มือ ส่วนพี่ชายก็คว้ามีดที่กำลังถืออยู่ ก็ชวนกันวิ่งออกตามไป พอตามไปทัน สองพี่น้องก็ยังไม่จู่โจมโดยทันที พี่ชายบอกว่า..... ?ให้ตามไปเรื่อยๆ ก่อน ใจเย็นๆ อย่าวู่วาม เพราะเราต้องพึ่งตัวเองแล้ว จะไปขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้แล้ว ควายเราก็เหลือตัวเดียวเท่านั้น ถ้าหมดตัวนี้ก็หมดกันเท่านั้นแหละ ถึงอย่างไรเราก็ต้องพยายามเอาควายคืนให้ได้ เป็นไงเป็นกันล่ะ เราจะต้องแย่งชิงเอาคืนให้ได้?


ขอบคุณที่มา
http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1041

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 09 พ.ค. 2554, 01:18:40 »
3/3

เมื่อทั้งสองพี่น้อง ตามไปได้พักหนึ่ง ก็ไปถึงทางขึ้นเขา ซึ่งเป็นทางยุทธศาสตร์ของทหารช่างในสมัยนั้น ทางเส้นนี้ลาดชัน และมีหินสลับซับซ้อนวกวน มีหินก้อนใหญ่ๆ ขวาง ทางก็คดไปคดมา กว่าจะถึงยอดเขาก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่ทางเส้นนี้เกวียนพอจะขึ้นได้ เพราะชาวบ้านเขาจะใช้ทางเส้นนี้เป็นทางบรรทุกเอาพวกน้ำมันยางขี้ไต้ไปขายที่ ตลาดสีคิ้วเป็นประจำ

พอถึงทางขึ้นเขา เสือบัวก็ลงจากหลังควาย แล้วก็เดินจูงควายไปตามทางขึ้นเขา จูงไปเรื่อยๆ ทางด้านสองพี่น้อง คือ ทิดหนอม กับ ทิดเนียม ก็แอบตามไปห่างๆ เพียงรอจังหวะโอกาสเหมาะๆ และก็ตามไปจนถึงยอดเขา ซึ่งตรงนั้นเป็นลานหินบริเวณกว้าง และมีหญ้าขึ้นเป็นหย่อมๆ อีกด้าาน หนึ่งก็เป็นหน้าผาเหวลึกยาวตลอดแนวเขา

เสือบัวแกก็หยุดเอาควายผูกกินหญ้า แล้วตัวแกก็นั่งพักใต้ร่มไม้ พอดีสองพี่น้องตามมาทัน เห็นแล้ว ไม่ฟังเสียง ด้วยความโมโหจึงส่องปืนแก๊ปที่ติดตัวมายิงใส่ทันที ควายตื่น เชือกขาดวิ่งลงเขาไป แต่เสือบัวไม่เป็นไร กระโดดเข้าใส่สองพี่น้องทันที สองพี่น้องมีปืนและมีด เสือบัวมีแต่ไม้ แต่ทั้งยิงทั้งแทงก็หาได้ระคายผิวเสือบัวไม่ ขณะเดียวกัน เสือบัวก็ทำอะไรสองพี่น้องไม่ได้เช่นกัน ต่างคนต่างก็กอดปล้ำกัน มาตอนหลังไม่ได้อาวุธแล้ว ต่างคนใช้มือเปล่าเข้าใส่กัน

ปล้ำกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน โดยเฉพาะทิดหนอมกับทิดเนียมสองพี่น้อง ทำอย่างไรก็สู้เสือบัวไม่ได้ สองพี่น้องก็เหนื่อยถึงขนาดผลัดกันเข้าออก จนเสือบัวหมดแรง สองพี่น้องก็ช่วยกันจับมือ เอาเชือกควายที่ขาดติดอยู่กับต้นไม้มาผูกมือเสือบัวเอาไว้ แล้วน้องชายก็เอามีดไปตัดไม้รวกมาเสี้ยมให้แหลม จากนั้นก็ตอกเข้าไปในทวารของเสือบัว จนไม้รวกขนาดประมาณหนึ่งศอกจมมิด ทำเอาเสือบัวถึงกับร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ฟังดูเหมือนเสียงควายถูกตีหัวอย่างนั้น แล้วสองพี่น้องจึงช่วยกันจับเสือบัว ทิ้งลงเหวลึกตายอย่างน่าอนาถ

พอเสือบัวตายแล้ว ชาวบ้านต่างก็อนุโมทนา เพราะไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงอีกต่อไปแล้ว จะไปไหนมาไหนก็ไปได้อย่างสบาย ชาวบ้านก็อยู่อย่างเป็นสุข กรรมดี ถ้ากระทำก็ย่อมได้รับการสรรเสริญ ยกย่อง เชิดชูเกียรติ ทำนองเดียวกัน ถ้าใครทำแต่ความชั่วไว้ เขาย่อมได้รับแต่เสียงสาปแช่ง ก่นด่า อยู่เบื้องหลัง แม้จะละสังขารนี้ไปแล้วก็ตาม ดังเรื่องราวของเสือบัวผู้โด่งดังผู้นี้เป็นอาทิ และเพราะตลอดชาติที่ เขามาเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ประกอบแต่กรรมชั่วเป็นอาจิณ แม้เมื่อเขาตายไปแล้ว จึงยังต้องไปชดใช้กรรมอยู่อีกระยะหนึ่ง นั่นคือ ไม่มีกรรมดีพอที่จะส่งให้ไปผุดไปเกิดนั่นเอง จึงต้องเที่ยวเร่ร่อนขอส่วนบุญส่วนกุศล จนชาวบ้านต่างกลัวผีเสือบัวจนหัวหด ถึงกับต้องสร้างศาลเพียงตาให้เป็นที่สิงสถิตที่หน้าผา ตามความเชื่อมาตั้งแต่เดิมนั่นเอง ชาวบ้านจึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่า เขาเหวตาบัว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ เหวตาบัวอยู่ห่างจากถนนสายด่านขุนทด ลำนารายณ์ ประมาณ ๑ กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้อยู่ระหว่างเขตแดนติดต่อของ ๓ จังหวัด คือ นครราชสีมา ลพบุรี และสระบุรี


สุดท้ายโดนประหารจากศาลเตี้ย :092:

ขอบคุณที่มา
http://www.watpanonvivek.com/phpBB306/viewtopic.php?f=39&t=1041

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 10 พ.ค. 2554, 03:00:35 »
ตาบัวหนังเหนียว 13; 13;
                                                             
ข้าพเจ้า สงสัยว่าเป็นโจรผู้ร้าย ทำความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นๆ แต่ทำไมถึงคงกระพันหนังเหนียวได้ :075: :075:
                                                                                       
สักยันต์ที่ไหน หรือ แขวนห้อยวัตถุมงคลอะไรที่ไหน คงต้องรอให้ตาบัวมาตอบให้รู้ซะแล้วครับ :075: :075:
         
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ  :016: :053: :015:

ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้ความรู้ดีมากๆครับผม :053: :053:   
   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ) :054: :054:
   
   
 

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 10 พ.ค. 2554, 07:13:06 »
เรียนท่านsaken6009

ตาบัวคงมาตอบไม่ได้ ผมขออนุญาตเล่าเรื่องคนร้ายหนังเหนียว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เป็นกรณีเปรียบเทียบ

อ้างถึง
นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนที่ 9 ของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยวีรกรรมที่บิดาเคยเล่าให้ฟังว่า โจรหรือเสือร้ายในสมัยก่อนมีพฤติกรรมปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา เช่น ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ หรือ “เจ้าพ่อเขาบูโด” ทั้งกระสุนปืน คมหอก คมดาบ ที่ตำรวจระดมสาดเข้าใส่ร่างของมัน แต่ทำอะไรมันไม่ได้ พอ กระสุนหมดทั้งคู่ คุณพ่อก็วิ่งไล่จับขุนโจรชื่อก้องได้ด้วยมือเปล่า กระโจนเข้าไปชกต่อยพัลวัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จับเจ้าพ่อเขาบูโดใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกได้ และจากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ยิงใส่ตามลำตัวไม่ถูกมันเลย และที่ยิงบริเวณปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก มันคายหัวกระสุนทั้ง 9 เม็ดลงกลางโต๊ะสอบสวน !!?? นับเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนทุกวันนี้

ขอบคุณ
http://www.nongear.net/forum/index.php?topic=872.0

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 10 พ.ค. 2554, 07:41:20 »
เรื่องนี้แถมให้ท่านsaken6009
อ่านแล้วสนุกได้คติธรรม รวมทั้งประวัติของ...หลวงปู่เจี๊ยะ...พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง ๒๓
จาก หนังสือ ประวัติ พระครูสุทธิธรรมรังษี หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง
วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดประทุมธานี
อ้างถึง
วิชาหนังเหนียว

วันหนึ่งมีผู้หญิงวัยแก่คนหนึ่ง แกอยากอยู่ยงคงกะพัน อยากหนังเหนียว นิมนต์ให้หลวงปู่เป่าหัวให้สุดยอดไปเลย หลวงปู่ก็สอนว่าของพวกนี้ไม่จีรังยั่งยืนศักดิ์สิทธิ์วิเศษเท่ากับภาวนาพุทโธหรอก แกก็ไม่เอาพุทโธ อยากหนังเหนียวอยู่อย่างเดียว

ท่านรำคาญจึงเป่าหัวปู๊ดๆ ให้แกก็กลับไปด้วยความสบายใจที่ได้ถูกเป่าเสกกระหม่อมด้วยวิชาหนังเหนียว

หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณครึ่งเดือน เสียงรถพยาบาลวิ่งเข้ามาที่วัดป่าภูริทัตต ฯ อย่างรีบด่วน จอดที่หน้ากุฏิหลวงปู่ ผู้หญิงคนเดิมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แพทย์พยาบาลนำเธอเข้ามากราบเรียนท่านว่า

“หลวงปู่เจ้าคะช่วยเป่ากระหม่อมถอดถอนวิชาหนังเหนียวให้ด้วยเถอะ ตอนนี้จะตายอยู่แล้ว ปวดท้องเหลือเกินไส้ติ่งจะแตกอยู่แล้ว หมอพยายามผ่าตัด เข็มฉีดยาก็ไม่เข้า เชือดเท่าไหร่ เฉือนเท่าไหร่ก็ไม่เข้า มันเหนียวจริง ๆ หนังดิฉันนี่”

เธอพูดทั้ง ๆ ที่มือกุมท้องอย่างน่าเวทนาสงสาร

หลวงปู่จึงเป่าหัวให้ เธอก็กลับไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลโดยรีบด่วนได้อย่างปกติ

สรุปธรรมปฏิบัติสั้น ๆ

แม้ในขณะที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เมื่อมีคนมาถามเรื่องภาวนาท่านจะเมตตาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ให้พุทโธ เร็ว ๆ ๆ เหมือนรั้วบ้านเราถี่ ๆ อะไรล่ะจะเข้ามาได้”

แล้วท่านก็พูดเรื่อง กิเลส กรรม วิบาก ว่า พวกเราทุกคนอยู่กับร่างกายนี้มาหลายภพชาติแล้วแต่อวิชชามันปิดบังจึงจำไม่ได้ ให้พากันปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญานะ เพราะว่า ศีลเป็นเหตุ สมาธิเป็นผล สมาธิเป็นเหตุ ปัญญาเป็นผล ปัญญาเป็นเหตุ วิมุตติเป็นผล ฯ

นอกจากเรื่องที่เล่าแล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่เป็นปาฏิหาริย์แต่ท่านจะแสดงเฉพาะบุคคลเท่านั้น นั่นเป็นเครื่องส่องแสดงให้เห็นว่า ท่านรู้แต่ท่านไม่พูด พอเหตุการณ์และเวลาเหมาะสมท่านจึงจะพูดขึ้นมา บางทีทั้ง ๆ ที่ท่านรู้ก็ทำเหมือนไม่รู้ ท่านเฉย เพราะพูดไปคงไม่เกิดประโยชน์อะไร

หลวงตามหาบัวเยี่ยมหลวงปู่ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม

ขอบคุณที่มา และเรื่องทั้งหมดน่าสนใจมาก
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-jea/lp-jea-hist-01-23.htm

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 10 พ.ค. 2554, 09:15:45 »
เรียนท่านsaken6009

ตาบัวคงมาตอบไม่ได้ ผมขออนุญาตเล่าเรื่องคนร้ายหนังเหนียว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เป็นกรณีเปรียบเทียบ

อ้างถึง
นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนที่ 9 ของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยวีรกรรมที่บิดาเคยเล่าให้ฟังว่า โจรหรือเสือร้ายในสมัยก่อนมีพฤติกรรมปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา เช่น ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ หรือ “เจ้าพ่อเขาบูโด” ทั้งกระสุนปืน คมหอก คมดาบ ที่ตำรวจระดมสาดเข้าใส่ร่างของมัน แต่ทำอะไรมันไม่ได้ พอ กระสุนหมดทั้งคู่ คุณพ่อก็วิ่งไล่จับขุนโจรชื่อก้องได้ด้วยมือเปล่า กระโจนเข้าไปชกต่อยพัลวัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จับเจ้าพ่อเขาบูโดใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกได้ และจากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ยิงใส่ตามลำตัวไม่ถูกมันเลย และที่ยิงบริเวณปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก มันคายหัวกระสุนทั้ง 9 เม็ดลงกลางโต๊ะสอบสวน !!?? นับเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนทุกวันนี้

ขอบคุณ
http://www.nongear.net/forum/index.php?topic=872.0
ดีนะที่ท่านทรงกลด มาตอบ ดีกว่าตาบัวมาเอง 36; 36;                                                                                                                                                        
ข้าพเจ้าก็คิดว่า บุคคลสมัยก่อนนั้น คงกระพันหนังเหนียวจริงๆครับผม :016: :015:
                                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาตอบ ขอบคุณครับผม) :054: :054:

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 10 พ.ค. 2554, 12:01:47 »

ดีนะที่ท่านทรงกลด มาตอบ ดีกว่าตาบัวมาเอง 36; 36;                                                                                                                                                         
ข้าพเจ้าก็คิดว่า บุคคลสมัยก่อนนั้น คงกระพันหนังเหนียวจริงๆครับผม :016: :015:
                                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาตอบ ขอบคุณครับผม) :054: :054:
สังเกตุเช่นเดียวกันนะครับว่า คนสมัยก่อนหนังเหนียวกันเยอะ โดยเฉพาะพวกเสือ

ขออนุญาต นำแผนที่ เขาเหวตาบัวมาฝาก ท่านsaken6009 เผื่อจะเที่ยวแถบสีคิ้ว โคราช :048:
http://www.edtguide.com/to/BigDcpMap.php?id=KhaoHeoTaBua_70806&mbid=null&CTIDX=70806&for_extend=true&zlvl=12&cat_type=TVL

ออฟไลน์ kriengkri P.

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 451
  • เพศ: ชาย
  • ตัวกูผู้ไม่แพ้
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "บันทึกของนักโทษประหาร"
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 12 พ.ค. 2554, 11:44:10 »
คนที่ทำไม่ดีใช่ว่าสิ่งศักดิ์จะไม่คุ้มครอง ดูตัวอย่างจากโจรสมัยก่อนทำไมถึงหนังเหนียวก็เพราะว่าถือคำครูไม่ยอมผิดครู แต่ที่สุดแล้วก็ต้องมาตายเพราะกรรม อย่างเช่นตี๋ใหญ่