ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๔ สค. ๕๔  (อ่าน 1033 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๔ สค. ๕๔
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
           ช่วงนี้อากาศแปรปรวน เดี๋ยวก็ร้อนเดี๋ยวก็หนาว จึงต้องปรับสภาพร่างกายให้มีความพร้อม
ต่อสภาพความแปรปรวนของธรรมชาติ โดยใช้การทำงานเป็นการออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อ
และเป็นการฝึกจิตไปในตัว โดยการเจริญสติสัมปชัญญะในขณะร่างกายเคลื่อนไหวในการทำงาน
อากาศหนาวถ้าเราอยู่นอนมากมันจะปวดข้อปวดกระดูก จึงต้องพยายามที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย
ให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อปรับสภาพร่างกายให้มีภูมิต้านทานต่อสภาพอากาศ
ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงใช้การบริหารร่างกายโดยการเดินจงกรม เป็นการเจริญสติภาวนา
และบริหารร่างกายไปพร้อมกัน ซึ่งในการเดินจงกรมนั้น เราจะได้กำลังของสติและสัมปชัญญะ
ทั้งสองอย่างพร้อมกัน  และเมื่อจิตเริ่มเข้าสู่สมาธิอารมณ์กรรมฐาน วิตก-วิจารณ์ จะเกิดขึ้น
คือจิตจะยกหัวข้อธรรมขึ้นมาคิดและพิจารณาแยกแยะหัวข้อธรรมตีความหมายในหัวข้อธรรมนั้นๆ
จะเกิดสภาวะธรรมะลื่นใหล คือคิดอะไรจะเป็นธรรมะไปหมด เดินไปเทศน์ไป เทศน์ให้ตนเองฟัง
 ซึ่งอารมณ์ธรรมตัวนี้ถ้าเราตามไม่ทันก็จะเกิดการหลงในอารมณ์ได้ ทำให้คิดว่าตนเองนั้นบรรลุธรรม
และถ้าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ก็จะเกิดอาการฟุ้งซ่านในธรรม คืออยากจะออกไปเทศน์ไปบรรยาย
ให้ผู้อื่นได้รู้ในธรรมที่ตนเองรู้และเข้าใจ เพราะหลงคิดไปว่าตัวเองนั้นบรรลุธรรมแล้ว
 ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วนั้น เป็นเพียงอารมณ์เบื้องต้นแห่งองค์ฌาณ คืออารมณ์วิตกวิจารณ์
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายต้องพึงระวังไม่ให้หลงในอารมณ์นี้ ด้วยการมีสติและสัมปชัญญะ
 รู้ให้เท่าทันอารมณ์กรรมฐานที่เกิดขึ้น อันต้องมีพื้นฐานจากการฝึกสติและสัมปชัญญะที่ถูกต้องมาก่อน
ตามหลักของไตรสิกขา ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ดั่งพุทธพจน์ที่พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า..." ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิคือความสงบใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้น เป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ เหมือนเรือนที่มีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาป้องกัน
ลมแดดและฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อน ฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิดีก็ฉันนั้น
ย่อมสงบอยู่ได้ไม่กระวนกระวายเมื่อลมแดดและฝน กล่่าวคือโลกธรรมแผดเผา กระพือพัดซัดสาด
เข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิอย่างนี้ย่อมก่อให้เกิดปัญญา ในการฟาดฟันย่ำยีและเชือดเฉือนกิเลสอาสาวะต่างๆ
ให้เบาบางและหมดสิ้นไป เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจับศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานกัน "...
นั่นคืออานิสงส์แห่งการฝึกสติโดยการรักษาศีล มีศีลเป็นพื้นฐานในการเจริญจิตตภาวนา ตามหลักของ
พระพุทธศาสนาในไตรสิกขา สมาธิและปัญญานั้นย่อมจะเกิดขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติ ดั่งพุทธพจน์ที่พระองค์
ได้ทรงตรัสไว้ว่า...” ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้น ย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่
กำจัดความมืดให้ปลาสนาการ มีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละอองคือกิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึง
เป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ “...การปฏิบัตินั้นต้องดำเนินไปตามหลักของไตรสิกขา ๓ เพื่อเป็นบาท
ฐาน รองรับซึ่งกันและกัน ความเจริญในธรรมนั้นจึงจะเกิดขึ้นและถูกต้องไม่หลงทาง...
          จึงขอฝากไว้ให้เป็นข้อคิด สะกิดเตือนใจ แก่ผู้ใฝ่ในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ให้นำไปคิดพิจารณา
ศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรม จะได้ไม่ข้ามขั้นตอน โดยความใจร้อนหวังผลในการปฏิบัตินั้น
ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นการสร้างความกดดันให้ตนเองโดยที่ไม่รู้ตัว จนอาจก่อให้เกิดทิฏฐิมานะ
หลงตัวหลงตน หลงอารมณ์กัมมัฏฐานที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นความคิดมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดไปในทางธรรม
นำมาซึ่งสิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลายให้เกิดขึ้นในกายในจิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดเพราะเป็นการหลงทาง.....
                               เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                    รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๔ สค. ๕๔
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 25 ส.ค. 2554, 09:04:53 »
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ nuttawadee

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 55
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๔ สค. ๕๔
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 25 ส.ค. 2554, 11:31:01 »
กราบนมัสการหลวงพี่ค่ะ

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๔ สค. ๕๔
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 26 ส.ค. 2554, 08:03:36 »
กราบนมัสการพระอาจารย์ :054:
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด