ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๗ สค. ๕๔ ...  (อ่าน 803 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๗ สค. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อาทิตย์ที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔
           แต่ละวันที่ผ่านพ้นไป อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามเหตุและปัจจัยที่ปรุงแต่ง สลับสับเปลี่ยนกันไป
กุศลจิตบ้าง อกุศลจิตบ้าง ปะปนกันไปแล้วแต่เหตุและปัจจัยที่มากระทบ
ซึ่งส่วนใหญ่เราจะรู้เท่าทันเฉพาะอกุศลจิต เพราะเรากลัวโทษภัยของมัน
ส่วนที่เป็นกุศลจิตนั้นเราไม่ค่อยจะพิจารณาถึงคุณถึงโทษของมัน
เพราะจิตเรานั้นไปยินดีเพลิดเพลินหลงในอารมณ์แห่งกุศลจิต
ทำให้ลืมคิดและพิจารณา เกิดความประมาทขาดสติและสัมปชัญญะ
ไม่รู้เท่าทันปัจจุบันธรรม อยู่กับความคิด ความฝันและจินตนาการ
ของการสร้างบุญ สร้างบารมี เพลินในความคิดจิตปรุงแต่งในกุศล
แต่จิตไม่ได้พัฒนาคือเพียงแต่ได้คิดและสิ่งที่คิดนั้นไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้
เพราะว่าบางครั้งเหตุและปัจจัยยังไม่พร้อม เรายังไม่ได้สร้างเหตุและปัจจัยสำหรับสิ่งนั้นเลย
แต่เราไปนึกถึงผลของความสำเร็จและประโยชน์ที่จะได้รับในสิ่งที่เรากำลังปรุงแต่งจินตนาการ
มันเลยทำให้เราประมาทขาดสติและสัมปชัญญะ ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันธรรม ความเป็นจริงทั้งหลาย
          การปฏิบัติธรรมคือการทำหน้าที่ของเรานั้นโดยมีสติและสัมปชัญญะควบคุมอยู่.......
ก่อนที่จะทำหน้าที่นั้น เราต้องรู้จักหน้าที่และขอบเขตของหน้าที่ ลำดับชั้นของหน้าที่เสียก่อน
แล้วจึงลงมือกระทำไปตามหน้าที่ในขอบเขต ตามลำดับไป ควรรู้ว่าเราจะต้องทำอะไรในขณะนี้
 ตามหน้าที่ของเรา "รู้ตน รู้ตัว รู้ทั่ว รู้พร้อม" คือองค์ประกอบของความเจริญก้าวหน้า การพัฒนาของจิต
สติและสัมปชัญญะที่ได้รับการฝึกฝน ให้รู้เท่าทันปัจจุบันธรรมนั้น จะคอยควบคุมกาย ควบคุมจิต
ให้รู้จักคิด รู้จักการพิจารณา และรู้จักการละวางซึ่งสิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลาย ไม่เข้าไปยึดถือในสิ่งนั้น
และตามดู รู้ทันในสิ่งที่กำลังตั้งอยู่ในความเป็นกุศลทั้งหลาย โดยเหตุและผลของตัวมันเอง
ดำเนินชีวิตไปตามบทบาทและหน้าที่ ที่พึงกระทำ ตามเหตุและปัจจัยที่มีในขณะนั้น
จิตอยู่กับปัจจุบันธรรมคือสิ่งที่กำลังเป็นไปในขณะนั้น แต่ไม่เข้าไปยึดติดจนงมงาย
รู้และเข้าในในเหตุและผลของตัวมันเอง โดยการคิดและพิจารณาในอารมณ์ทั้งหลายนั้น
รู้ เห็น เข้าใจ สิ้นความสงสัย แล้วจิตจึงจะเข้าไปละวาง ไม่ยึดถือในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น
เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นแก่จิต ที่ได้ผ่านการฝึกคิดและพิจารณาจนมีความชำนาญแล้ว
ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนสร้างความเคยชินให้แก่จิตนั้น เป็นไปตามขั้นตอน
จากสิ่งที่ง่ายไปสู่สิ่งที่ยาก จากสิ่งที่หยาบไปสู่สิ่งที่ละเอียด จนสติและสัมปชัญญะนั้น
มีความรู้เท่าทันในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย และไม่เข้าไปยึดติดยึดถือ ปรุงแต่งในสิ่งนั้น
ให้อยู่ปัจจุบันธรรมเห็นการเกิดดับของสรรพสิ่งทั้งหลายโดยสภาวะแห่งธรรมที่แท้จริง....
       ขอบคุณความคิดและจิตวิญญาณในการพิจารณาธรรม 
                   เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                       รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๐.๕๓ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๗ สค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 28 ส.ค. 2554, 05:56:41 »
รู้ตน รู้ตัว รู้ทั่ว รู้พร้อม คือ องค์ประกอบของความเจริญก้าวหน้า
                       
ควบคุมกาย ควบคุมจิตให้รู้จักคิด รู้จักการพิจารณา และ รู้จักการละวาง
                 
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ  รักษาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ :054: :054:
   
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                             
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ