ผู้เขียน หัวข้อ: ...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๒๒...  (อ่าน 140 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เว็บมาสเตอร์...

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 571
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • www.bp.or.th


...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๒๒...

...การดำเนินชีวิตในสังคมมนุษย์
อันกว้างใหญ่นั้น ย่อมจะมีความ
สัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อกัน
เพราะมนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม
เกี่ยวเนื่องกันตามบทบาทและ
หน้าที่ของแต่ละคนแต่ละสังคม
มีความสัมพันธ์กันตามสายโลหิต
เครือญาติ หน้าที่การงาน การศึกษา
ภาษาและท้องถิ่นที่อาศัย ซึ่งทำให้
คนเราต้องรู้จัก ต้องพบปะกัน
มีความสัมพันธ์กันในแต่ละสถานะ
เป็นเครือญาติพี่น้องกัน หรือเป็น
ครูบาอาจารย์และศิษย์ เป็นเจ้านาย
กับลูกน้อง เป็นผู้ปกครองและ
ผู้อยู่ใต้อำนาจการปกครอง
เป็นพวกพ้องเป็นเพื่อน หรือเป็น
คนรู้จักกัน มีความสัมพันธ์กัน
ในสังคม สมาคม ชมรมต่างๆ
และคำๆหนึ่ง ซึ่งเรามักจะได้ยิน
อยู่เสมอก็คือคำว่า"เป็นเพื่อนกัน"
ซึ่งคำว่าเพื่อนนั้นมีความหมายที่
ยิ่งใหญ่ เพราะหมายถึงกัลยาณมิตร
คือผู้ที่คิดและหวังดีต่อเรา จึงเหมาะ
ที่จะเรียกว่าเป็นเพื่อน เพราะถ้ามิใช่
" กัลยาณมิตร " แล้ว คงเป็นได้เพียง
" คนรู้จักกัน " หรือ " คนคุ้นเคยกัน "
เป็นได้เพียงเท่านั้น
...เราคงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า
" มีอะไรให้ผมรับใช้ บอกได้เลย "
หรือ " มีปัญหาอะไรบอกผมได้ "
จากคนที่รู้จักกันอยู่เสมอ ซึ่งมักจะ
เป็นคำพูดในธรรมเนียมปฏิบัติตาม
มารยาทของคนที่พึ่งจะรู้จักกัน
แต่ในความเป็นจริงนั้น เมื่อในยาม
ที่มีปัญหาเกิดขึ้นมาจริงๆแล้ว
มีน้อยมากที่จะพึ่งพาอาศัยได้
ในยามที่เราล้มเหลว ผิดพลาด
หมดอำนาจวาสนาบารมี ไม่มีสมบัติ
ทรัพย์สินฐานะทางสังคมแล้ว
ไม่มีผลประโยชน์ต่อเขาแล้ว
คำพูดที่เขาได้เคยกล่าวไว้ก็
ลืมหายไป ดั่งคำโบราณที่กล่าว
ไว้ว่า....
"เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มุ่งหมายมอง
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
เมื่อมอดม้วย มิตรเมิน ไม่มองมา
แม้นมวลมิตร หมูหมา ไม่มามอง"
...แต่ในวิกฤตนั้นย่อมมีโอกาส ในยาม
ที่เรายากไร้หมดอำนาจวาสนาบารมี
มีความผิดพลาดและล้มเหลว เป็นช่วง
เวลาแห่งการพิสูจน์มิตรแท้ พิสูจน์
คำว่าเพื่อน ว่าจะมีใครบ้างที่ยังยืน
เคียงข้างไม่ทอดทิ้งเรา คอยช่วยเหลือ
และปลอบขวัญให้กำลังใจเรา จะมีใคร
สักกี่คนที่ยังเหลืออยู่และเหมาะสม
กับคำว่า " เพื่อน "...

...ทุกอย่างเริ่มต้นที่จิต....
...เรียงร้อย ถ้อยคำ นำกล่าว
เรื่องราว ชีวิต เขียนไว้
เหตุการณ์ ที่ได้ ผ่านไป
แก้ไข ให้ได้ ใจความ
... ใคร่ครวญ ทบทวน นึกคิด
ถูกผิด อย่าได้ มองข้าม
เฝ้าดู เฝ้ารู้ เฝ้าตาม
ทุกยาม สติ ต้องมี
... สติ ระลึก นึกรู้
ตามอยู่ กับกาย ใจนี้
สติ ที่ฝึก มาดี
บ่งชี้ ในสิ่ง ที่ทำ
... หิระ และโอต-ตัปปะ
ธรรมะ มีค่า เลิศล้ำ
เป็นสิ่ง ที่ควร กระทำ
ตอกย้ำ ถึงความ เป็นคน
... ยอมรับ ในสิ่ง พลาดผิด
ค้นคิด หาซึ่ง เหตุผล
อย่าคิด เข้าข้าง ฝ่ายตน
ฝึกค้น เป็นกลาง วางใจ
...วางใจ นั้นให้ เป็นกลาง
ทุกอย่าง นั้นควร คิดใหม่
ปรับเปลี่ยน ความคิด ภายใน
เปลี่ยนใจ มองโลก แง่ดี
...อย่าโทษ ผู้อื่น ว่าผิด
มองจิต มองกาย เรานี้
ยอมรับ ในสิ่ง ที่มี
ชั่วดี อยู่ที่ เราทำ
...ทุกอย่าง ล้วนเกิด จากจิต
อย่าให้ ความคิด ใฝ่ต่ำ
กิเลส ตัณหา ครอบงำ
จะนำ ไปสู่ อบาย...

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔...