ผู้เขียน หัวข้อ: ...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๒๘...  (อ่าน 167 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เว็บมาสเตอร์...

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 571
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • www.bp.or.th


...บันทึกเส้นทางบนสายธรรม บทที่ ๒๘...

...ชีวิตแต่ละวันที่ผ่านไปเหมือนไม่ได้
ปฏิบัติธรรม เพราะใช้ชีวิตและทำงาน
ตามปกติ ไม่ได้นั่งสมาธิหรือเดินจงกรม
จนมีพระและโยมมาถามว่า...
...ท่านเอาเวลาไหนไปปฏิบัติธรรม..?
ซึ่งได้ตอบเขาเหล่านั้นไปว่า "เอาเวลา
ที่มีสติไปปฏิบัติธรรม เมื่อเรามีสติ
และสัมปชัญญะอยู่กับกาย อยู่กับจิต
อยู่กับความคิด อยู่กับการกระทำ
นั้นแหละคือการปฏิบัติธรรม
...เหมือนดั่งคำของหลวงพ่อพุทธทาส
ที่ท่านกล่าวไว้ว่าการทำงานคือการ
ปฏิบัติธรรม เพราะว่าการมีสติและสัมปชัญญะ คุ้มครองกายและจิต
มีการระลึกรู้และรู้ตัวทั่วพร้อม
อยู่ตลอดเวลา มีความละอาย
และเกรงกลัวต่อบาปคอยควบคุม
ความคิดและการกระทำ รู้เท่าทัน
ในปัจจุบันธรรม...
๐ วันเวลา ผ่านไป ให้ครวญคิด
ความพลาดผิด ประมาท และพลาดพลั้ง
ขาดสติ ไม่สำรวม ไม่ระวัง
ไม่ยับยั้ง ชั่งใจ ในสิ่งควร
๐ คิดว่าเรื่อง เล็กน้อย จึงปล่อยทิ้ง
แท้ที่จริง สิ่งนั้น มันมีส่วน
เพราะขาดการ ไตร่ตรอง และใคร่ครวญ
ทุกสิ่งล้วน เป็นเหตุ และปัจจัย
๐ กิเลสนั้น มันเกิด ขึ้นที่จิต
จงพินิจ ตรวจดู แล้วแก้ไข
เพ่งให้รู้ ดูให้เห็น ความเป็นไป
ว่าสิ่งไหน เกิดก่อน ให้ถอนวาง
๐ เพราะหลักธรรม แท้จริง อยู่ที่จิต
ควรพินิจ ดูจิต อย่าทิ้งห่าง
ให้รู้จัก ตัวตน ให้ถูกทาง
แล้วละวาง อัตตา เข้าหาธรรม
๐ จงยินดี ในเพศ สมณะ
สภาวะ ของตน ทุกเช้าค่ำ
ก้าวเดินไป ในกรอบ ที่ชอบธรรม
กุศลนำ ทางสุข ให้ทุกคน
๐ ไม่กังวล ยึดถือ คือวิหาร
ธรรมประสาน นำมา ซึ่งเหตุผล
เพราะยึดถือ ยึดติด จิตกังวล
จึงสับสน วุ่นวาย ไม่ละวาง
๐ คิดเท่าไหร่ เท่าไหร่ ก็ไม่รู้
จึงต้องดู ความคิด ด้วยจิตว่าง
เมื่อหยุดคิด จึงจะรู้ สู่เส้นทาง
ก่อนละวาง ต้องรู้ ดูให้จริง
๐ คือหลักธรรม คำสอน แต่ก่อนเก่า
นำมาเล่า ขยาย เป็นหลายสิ่ง
เพื่อบอกเล่า เรื่องราว แห่งความจริง
สรรพสิ่ง คือธรรม ที่นำทาง...
..............................
...คติธรรมหลวงปู่ดุลย์ อตุโล...

" กิเลสทั้งหมดเกิดรวมที่จิต ให้เพ่งมอง
ดูที่จิต อันไหนเกิดก่อน ให้ละอันนั้นก่อน "

" หลักธรรมที่แท้จริงนั้นคือจิต ให้กำหนด
ดูจิต ให้เข้าใจจิตตนเองให้ลึกซึ้ง เมื่อเข้าใจ
จิตตนเองได้ลึกซึ้งแล้ว นั้นแหละได้แล้ว
ซึ่งหลักธรรม "

" การไม่กังวล การไม่ยึดติด นั่นแหละคือ
วิหารธรรมของนักปฏิบัติ "

" ภิกษุเรา ถ้าปลูกความยินดีในเพศภาวะ
ของตนได้แล้ว ก็จะมีแต่ความสุข เยือกเย็น
ถ้าตนอยู่ในเพศภิกษุ แต่กลับไปยินดีในเพศอื่น
ภาวะอื่น ความทุกข์ก็จะทับถมอยู่ร่ำไป
หยุดกระหาย หยุดแสวงหาได้ นั้นคือ
ภิกษุภาวะโดยแท้ ความเป็นพระนั้น
ยิ่งจน ยิ่งมีความสุข "

" คิดเท่าไหร่ๆก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิด
จึงรู้ แต่ต้องอาศัยคิด "

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม...
...๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔...