หมวด มิตรไมตรี > บทความ บทกวี

มุมมองในการสักยันต์ ที่ดีมีประโยชน์ โดย Gearmour

(1/12) > >>

โองการยันนะรังสี:
ผมอ่านบทความนี้ แล้วเห็นว่าน่าสนใจดีครับ ต้องขออนุญาต คุณ Gearmour นำมาเผยแพร่ นะครับ

ที่มาจาก http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=3650

ด้วยความเคารพครับ
มีหลายๆท่านที่สอบถามผมมาถึงเรื่องการสักยันต์
ทั้งๆที่ผมก็เรียกว่ารู้น้อย อาศัยประสบการณ์ที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังมาบ้าง
ซึ่งผมพยายามจะเลี่ยงๆที่จะตอบเนื่องจากไม่อยากตัดสินใจไปสักกัน
แต่หลังจากตรองดูผมอยากแบ่งปัน(ชอบจังคำนี้ผมได้มาจากเจ้าของเวปท่านหนึ่ง)
เรื่องนี้ออกมาสำหรับชุมชนคนรักมีดแห่งนี้
แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความเห็นของผม
ซึ่งผมนึกอะไรก็จะพยายามแบ่งปั่นนะครับ
ขออนุญาตเริ่มเลยนะครับ

สักทำไม สักเพื่ออะไร ??
เป็นคำถามที่คนส่วนมากมักจะถามคนที่สักกัน
ในตอนที่ผมยังเด็ก ผมเห็นคนของพ่อผม สักยันต์
หนุมาน ลิงลม ลิงแหวกฟองน้ำ สักอักขระไว้ตามแขน คอ
ผมถามด้วยความเป็นเด็กว่าสักไว้ทำไม
ส่วนมากจะตอบว่าสักไว้ป้องกันตัว และถามว่ารูปนี้(รูปยันต์)ทำอะไรได้บ้าง
ก็จะตอบอีกว่าไม่ทราบอาจารย์หรือพระสักให้มา
นัยว่าสมัยก่อนเลือกลายไม่ได้ แล้วแต่เค้าให้มา
เท่าที่สอบถามมาการสักในสมัยก่อนมันไม่ง่ายเหมือนสมัยนี้
ที่อยากสักวันไหนก็ไปตามตำหนักสัก แล้วเปลี่ยนพาน (ซื้อพานดอกไม้ธูปเทียน)
ใส่ค่ายกครู แล้วสักได้เลย
การที่จะไปสักต้องมีลูกศิษย์เก่าแนะนำพาไป หรือ ไปอยู่รับใช้
ครูบาอาจารย์ก่อน ผมได้คุยกับพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นครูสักสายครูหนู
ที่อยู่ทางราชบุรี ท่านว่าสมัยก่อนขนาดดอกไม้ธูปเทียน ตามต่างจังหวัด
หายาก ยกครูบางครั้งต้องเด็ดดอกไม้มากำเอง ตัดใบตองมาทำบายศรี
หรือขันห้าเอง ตามแต่ครูบาอาจารย์เรียก แต่เรื่องเงินทองนั้นน้อยมาก
ไม่เหมือนสมัยนี้ที่เป็นค่ากู ไม่ใช่ค่าครูไปหมด เรียกว่ากว่าจะได้นี้ยากเย็น
วันที่สักต้องเลือกวันแข็ง เช่นอังคาร พฤหัส เสาร์ หริอไม่ก็ถึงขนาดต้องดูฤกษ์
บางยันต์ต้องเลือกสถานที่ประกอบพิธีเช่นสักในป่าช้า สักในโบสถ์ และนิมนต์พระมาชยันโตด้วย

ฝากไว้ครับ เห็นว่าแปลกดีครับ เกี่ยวกับรอยสักครับ
http://picdb.thaimisc.com/kathaarkom/3125.jpg

ที่บอกว่าต้องเผา เพราะว่าความเชื่อนะครับ
ของแบบนี้ถ้าไม่เผาเจ้าของเค้าจะไม่ไปไหนนะครับ
ยังยึดติดอยู่
ถ้ามีญาติพี่น้อง ที่เผาแล้วไม่ไหม้ หรือไหม้ไม่หมด
ให้กลั้นใจเด็ดใบบอนแล้วปิดที่รอยสัก และเผาอีกครั้ง
หรือกลั้นในเด็ดยอดผักบุ้งเจ็ดยอดยอดเข้าไปในกองไฟ

กลับมาเรื่องสักเพื่ออะไร
ถ้าถามกันจริงๆ ส่วนมากมักจะ หวังในเรื่องของพุทธคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความอยู่ยงคงกระพัน
พูดถึงเรื่องคงกระพัน ต้องแยกจากชาตรี ตามที่ในตำราเค้าว่า
คงกระพันคือพันแทงไม่เข้า แต่กระดูกอาจจะหัก อาจจะช้ำในตาย
แต่ชาตรีแม้นเอาหินมาทุ่มใส่หัว ก็ไม่เป็นไรของที่มากระทบจะเบาไป หากแต่ถ้าโดนตีด้วยหมอนหรือไม้โสน
ก็อาจถึงตายได้ ที่มีชื่อคือวิชา 9 เฮ ของศาสนาอื่นเค้า
นอกจากคงกระพันชาตรีที่เค้านิยมแล้วสำหรับคนวัยแรง หรือคนสู้คน นั้น
ยังหวังผลทางเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด สามารถดลจิตดลใจ หรือบอกเหตุล่วงหน้าได้

เหนืออื่นในการสักยันต์สำหรับในความคิดของผมจะผิดถูกอย่างไรขอน้อมรับไว้
การสักจริงๆเป็นอุบายทำให้คนเป็นคนดี เป็นคนมีสัจจะ หากลึกๆไปอาจถึงขั้นมีสมาธิดี
โดยการนำเอาอักขระเลขยันต์ติดตัว ที่บอกว่าทำให้เป็นคนดี เนื่องจากสักไปแล้วหากจะให้ขลังให้อยู่
ต้องปฏิบัติตามข้อห้ามข้อกำหนดของครูบาอาจารย์ ซึ่งหลักๆไม่พ้นห้ามด่าพ่อล่อแม่ ห้ามผิดลูกผิดเมียเค้า
ในความจริงถ้าคนปฏิบัติแค่สองข้อนี้ก็ลดโอกาสในการมีเรื่องมีราวกันแล้ว (แต่ถ้าคนพาลคนจ้องมีเรื่องกัน
พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นประเด็นแล้ว) นอกจากนั้นยังต้องรักษาตัว
เช่นไม่เที่ยวซ่อง เห็นครูบาอาจารย์เค้าเรียกว่า “บ้านคนชั่ว” อันนี้เห็นว่าจริง นอกจากเรื่องโรคภัยแล้ว
จากประสบการณ์ที่เคยช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดหนึ่งริมชายแดนกรุงเทพ ตามสถานบริการส่วนมากเวลาที่
ไปตรวจจะพบว่า ตรงปากทางเข้าเหนือประตู ที่ต้องผ่านเข้ามามักมีวัตถุไม่รู้จักเรียกว่ามงคลหรือเปล่า?
พวกอิ้น เป๋อ ปลัด อยู่เหนือหัวเรา คิดดูว่าเวลาเราเดินเข้าไปต้องลอดอะไรบ้าง
มีเพื่อนหลายๆท่านในนี้ ถามว่าอยากสักหมึกควรจะไปสักที่ไหน
อย่างไรผมคงมิบังอาจแนะนำว่าควรจะไปสักที่ไหนอย่างไร

แต่อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า
ข้อหนึ่ง ตั้งใจอยากได้จริงหรือเปล่า? ทำไมถึงอยากได้รอยสักที่เป็นหมึก
เพราะว่ามันจะติดตัวเราไปจนตาย
ข้อสอง เตรียมคำตอบไว้สำหรับตอบบิดามารดา ในกรณีที่ยังหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้
ควรจะไปขออนุญาตจากท่านก่อน และเตรียมใจไว้สำหรับ ถ้าท่านเจอผู้หญิงหรือคนที่ถูกใจ
แต่รับไม่ได้กับรอยสักของท่านก็เป็นไปได้ พร้อมเตรียมคำตอบสำหรับลูกหลาน ถ้าถามว่าปู่ พ่อ
สักทำไม
ข้อสาม คิดถึงอนาคตและเตรียมรับสภาพในบ้างเรื่อง อย่างถ้าหวังจะเป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐ
อาจจะไม่สมหวังเพราะรอยสัก และหากมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้าเรามีรอยสัก
คนส่วนมากจะมองเราผิดเสมอ
ข้อสี่ รับได้กับข้อห้าม ข้อปฏิบัติ ของครูบาอาจารย์ได้หรือไม่ ต้องสอบถามให้แน่ใจก่อนว่าปฏิบัติได้
ซึ่งแต่ละครูบาอาจารย์ข้อห้ามจะไม่เหมือนกัน ถ้าทำไม่ได้ไม่ควรจะเอามาอย่างเด็ดขาด
ข้อที่ห้า หวังอะไรจากการสัก อันนี้อยากให้หาคำตอบเอง
เอาเป็นว่าเท่าที่นึกออกได้แค่นี้ครับ

เอาละครับ ถ้ารับได้แล้ว มาต่อกันที่สักที่ไหน

เป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัว ห้ามนำไปอ้างอิงที่ไหนนะครับ
มาต่อกันว่าสักที่ไหน
ผมๆไม่บังอาจจะชี้นำว่าสักที่ไหนดี แต่
อยากจะให้ ใช้ความคิดตรึกตรองดีๆ
เนื่องจากว่าถ้าเจ็บตัวแล้วขอให้เจ็บอย่างมีสาระอย่างมีหลัก
ขอให้ดูที่ชื่อเสียงของผู้สักหรือสำนักสัก ที่ใช้คำว่าขอให้ดู
คืออยากให้ไปสำรวจก่อนว่าที่คนมาขึ้นคนเข้าเข้าไปเพราะเป็นหน้าม้า
หรือเป็นคนที่ไปหาจริงๆ ให้ไปดูไปสังเกตุก่อน อย่าฟังด้วยหูอย่างเดียว
บางที่เค้ามีหน้าม้าคอยเป็นคนของขึ้น เป็นคนโดนลอง
ต้องหาข่าวหรือสืบจนแน่ใจว่าดีจริงๆ
ที่สำคัญขอให้ดูการปฏิบัติตนของครูสัก หรือผู้สักหากเป็นฆาราวาส
ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวผู้หญิงอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เป็นครูเค้าต้องรักษาตัว
หากเป็นพระ ต้องไม่หย่อนในพระธรรมวินัย
ประสบการณ์ความเชื่อที่ ก็สำคัญ ตัวอย่างเช่นถ้าพ่อ พี่น้อง เราสักมากับสำนักนี้
สายนี้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากให้ดูให้แน่ๆ อย่างเพื่อนคนรู้จักมีประสบการณ์มาจริงๆ
แล้วบอกต่อ
อีกอย่างค่าครู ไม่ใช่ค่ากู
ถ้าเรียกแพงเกินไป ก็พิจารณาเอาเองครับ
เป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัว ห้ามนำไปอ้างอิงที่ไหนนะครับ
มาต่อกันว่าสักที่ไหน ผมรู้น้อย
ผมๆไม่บังอาจจะชี้นำว่าสักที่ไหนดี แต่
อยากจะให้ ใช้ความคิดตรึกตรองดีๆ
เนื่องจากว่าถ้าเจ็บตัวแล้วขอให้เจ็บอย่างมีสาระอย่างมีหลัก
ขอให้ดูที่ชื่อเสียงของผู้สักหรือสำนักสัก ที่ใช้คำว่าขอให้ดู
คืออยากให้ไปสำรวจก่อนว่าที่คนมาขึ้นคนเข้าเข้าไปเพราะเป็นหน้าม้า
หรือเป็นคนที่ไปหาจริงๆ ให้ไปดูไปสังเกตุก่อน อย่าฟังด้วยหูอย่างเดียว
บางที่เค้ามีหน้าม้าคอยเป็นคนของขึ้น เป็นคนโดนลอง
ต้องหาข่าวหรือสืบจนแน่ใจว่าดีจริงๆ
ที่สำคัญขอให้ดูการปฏิบัติตนของครูสัก หรือผู้สักหากเป็นฆาราวาส
ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวผู้หญิงอย่างนี้ใช้ไม่ได้ เป็นครูเค้าต้องรักษาตัว
หากเป็นพระ ต้องไม่หย่อนในพระธรรมวินัย
ประสบการณ์ความเชื่อที่ ก็สำคัญ ตัวอย่างเช่นถ้าพ่อ พี่น้อง เราสักมากับสำนักนี้
สายนี้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากให้ดูให้แน่ๆ อย่างเพื่อนคนรู้จักมีประสบการณ์มาจริงๆ
แล้วบอกต่อ
และอีก การที่อ้างว่าเรียนมาจากสายนั้น สายนี้
ต้องมีที่มาที่ไป อย่างผมเคยไปถามพระเกจิ หรืออาจารย์ฆารวาสที่มีชื่อเสียง
ว่า อาจารย์คนนี้มาเรียนจริงหรือไม่
ท่านตอบว่า "เค้ามาหาฉันจริง มาหา มาถาม แต่เค้ามา ดอกไม้ธูปเทียนไม่มีมา"
แล้วเรียกว่ามาเรียนได้อย่างไร"

ไว้จะมาเพิ่มข้อมูลเรื่อยๆ ครับ

ขอแสดงความนับถือ

Gearmour

MR.saddd:
ขอบคุณครับ

 :016: :015:

อชิตะ:
พี่บัฟ เข้มอีกแล้ว   อ่านกี่ครั้งก็ชอบครับผม  เห็นภาพชัดเจนดี  มีความมั่นใจเยอะเลยครับ

หนึ่ง:
 :054:เป็นบทความที่ดีจังค่ะ :050:

<BoB'32>:
ดีมีประโยชน์ได้ความรู้  ขอบคุณครับ :053:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version