ข่าว มาเล่าให้ฟังกัน
เชื่อปาฏิหาริย์พระพุทธสิหิงค์(พิธีเดี่ยวกับองค์จตุคามรามเทพ) เมืองคอนหนุ่มกู้ภัยถูกยิงถล่มรถพรุนรอด
ปาฏิหาริย์!!!หนุ่มอาสาสมัครกู้ภัยเมืองคอน ถูกยิงถล่มด้วยปืนลูกซองรถพรุนทั้งคัน แต่เจ้าตัวรอดตายหวุดหวิด เผยหน้าอกแค่เป็นรอยจ้ำเลือด เชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธสิหิงค์รุ่นปี 30
เรื่องราวเหลือเชื่อหนุ่มกู้ภัยถูกคู่อริยิงถล่มด้วยอาวุธปืนลูกซองแต่กลับมีบาดแผลแค่รอยช้ำ รายนี้คือ นายศิริศักดิ์ พจนะโชติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในซอยศรีปราชญ์พัฒนา ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้นายศิริศักดิ์ เปิดเผยว่า มีอาชีพขับรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารสายหัวถนน-สนามกีฬา ซึ่งเป็นเส้นทางกลางเมือง ในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช และมีงานอดิเรกเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ๊งนครศรีธรรมราช หนึ่งในจำนวนหน่วยกู้ภัยของ จ.ชื่อปาฏิหาริย์พระพุทธสิหิงค์เมืองคอนหนุ่มกู้ภัยถูกยิงถล่มรถพรุนรอด
ปาฏิหาริย์!!!หนุ่มอาสาสมัครกู้ภัยเมืองคอน ถูกยิงถล่มด้วยปืนลูกซองรถพรุนทั้งคัน แต่เจ้าตัวรอดตายหวุดหวิด เผยหน้าอกแค่เป็นรอยจ้ำเลือด เชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธสิหิงค์รุ่นปี 30
เรื่องราวเหลือเชื่อหนุ่มกู้ภัยถูกคู่อริยิงถล่มด้วยอาวุธปืนลูกซองแต่กลับมีบาดแผลแค่รอยช้ำ รายนี้คือ นายศิริศักดิ์ พจนะโชติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในซอยศรีปราชญ์พัฒนา ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้นายศิริศักดิ์ เปิดเผยว่า มีอาชีพขับรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารสายหัวถนน-สนามกีฬา ซึ่งเป็นเส้นทางกลางเมือง ในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช และมีงานอดิเรกเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ๊งนครศรีธรรมราช หนึ่งในจำนวนหน่วยกู้ภัยของ จ.นครศรีธรรมราช
"ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ผมพร้อมกับเพื่อนอาสาสมัครได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ข้างปั้มน้ำมัน ปตท. ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง เพื่อเตรียมพร้อมในออกไปทำหน้าที่หน่วยกู้ภัยตามปกติ" นายศิริศักดิ์ กล่าวและว่า
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่ภายในรถได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คนและทราบชื่อเล่นเพียง 1 คนคือนายเอ็ม ซึ่งเป็นลูกข่ายมูลนิธิแห่งหนึ่งได้ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ โฟร์วิน สีบรอนซ์-ดำ จำหมายเลขป้ายทะเบียนไม่ได้ขับมาวนเวียนแล้วด่าทอ 2-3 ครั้ง และครั้งหลังสุดนายเอ็ม ซึ่งนั่งอยู่ท้ายกระบะรถยนต์คันดังกล่าวใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่รถสองแถวที่ตนนั่งอยู่ 1 นัด กระสุนทะลุกระจกหน้ารถแตกและหัวกระสุนพุ่งมาตามร่างกายทำให้รู้สึกจุกไปครู่ใหญ่
ส่วนกลุ่มนายเอ็มหลังก่อเหตุเสร็จก็ได้ขับรถหลบหนีไปทันที
นายศิริศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.อภิชาติ คชเวช สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตนได้ถูกเพื่อนอาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลนครินทร์ เพื่อรักษาบาดแผลแต่ปรากฏว่า ที่บริเวณหน้าอกนั้นถูกกระสุนถึง 7 จุดแต่ไม่ทะลุผ่านผิวหนัง ซึ่งแพทย์ได้เอกซเรย์อย่างละเอียดก็ไม่พบหัวกระสุนจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนสาเหตุนั้นคิดว่าเป็นเพราะความบาดหมางกันระหว่างอาสาสมัครที่มีเป็นจำนวนมากของมูลนิธิ 2 แห่งใน จ.นครศรีธรรมราช จนมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเสมอ
นายศิริศักดิ์ กล่าวอีกว่า คนร้ายที่ยิงมานั้นเชื่อว่าไม่ได้เจาะจงว่ากระสุนจะถูกใคร แต่ตั้งใจยิงสุ่มใส่รถที่ตนนั่งอยู่ อย่างไรก็ตามเรื่องคดีก็ว่าไปตามกระบวนการของกฏหมายซึ่งทางตำรวจได้สอบปากคำตนไว้แล้ว และก็ให้การไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
“ผมเชื่อว่าเหตุที่กระสุนไม่ระคายผิวของผมก็เพราะความปาฏิหาริย์ขององค์พระพุทธสิหิงค์ รุ่นปี 30 หลักเมืองนครศรีธรรมราช ที่ห้อยคอติดตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันผมสวมเสื้อยืดสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปีด้วย
จนหัวกระสุนปืนลูกซองซึ่งเป็นหัวตะกั่วแบนก็ไม่สามารถเจาะเข้าร่างกายได้ ผมเชื่อว่าทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ผมโชคดีที่ไม่ต้องสังเวยชีวิตไปกับเหตุการณ์ดังกล่าวและถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่สุดในชีวิตแล้ว”นายศิริศักดิ์ กล่าว พ.ต.ท.อภิชาติ เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไว้แล้วจำนวนมาก และพยานยืนยันว่าเห็นมือปืนชัดเจน ซึ่งขณะเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายนั้นอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา
มีความโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วระหว่างอาสาสมัครอารมย์ร้อนบางกลุ่มของมูลนิธิทั้ง 2 แห่งซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยด้วยกัน และกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้มักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นประจำ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างขอหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่า
จากการตรวจสอบข้อมูลนั้นพบว่านายเอ็มนั้นได้ถูกจำหน่ายชื่อออกจากรายชื่ออาสาสมัครไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมในทางเสื่อมเสีย แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในตัวเมืองแม้ว่าจะไม่ได้เป็นอาสาสมัครของมูลนิธิใดๆ แล้วก็ตาม
นครศรีธรรมราช
"ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ผมพร้อมกับเพื่อนอาสาสมัครได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ข้างปั้มน้ำมัน ปตท. ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง เพื่อเตรียมพร้อมในออกไปทำหน้าที่หน่วยกู้ภัยตามปกติ" นายศิริศักดิ์ กล่าวและว่า
ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่ภายในรถได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คนและทราบชื่อเล่นเพียง 1 คนคือนายเอ็ม ซึ่งเป็นลูกข่ายมูลนิธิแห่งหนึ่งได้ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ โฟร์วิน สีบรอนซ์-ดำ จำหมายเลขป้ายทะเบียนไม่ได้ขับมาวนเวียนแล้วด่าทอ 2-3 ครั้ง และครั้งหลังสุดนายเอ็ม ซึ่งนั่งอยู่ท้ายกระบะรถยนต์คันดังกล่าวใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่รถสองแถวที่ตนนั่งอยู่ 1 นัด กระสุนทะลุกระจกหน้ารถแตกและหัวกระสุนพุ่งมาตามร่างกายทำให้รู้สึกจุกไปครู่ใหญ่
ส่วนกลุ่มนายเอ็มหลังก่อเหตุเสร็จก็ได้ขับรถหลบหนีไปทันที
นายศิริศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.อภิชาติ คชเวช สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตนได้ถูกเพื่อนอาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลนครินทร์ เพื่อรักษาบาดแผลแต่ปรากฏว่า ที่บริเวณหน้าอกนั้นถูกกระสุนถึง 7 จุดแต่ไม่ทะลุผ่านผิวหนัง ซึ่งแพทย์ได้เอกซเรย์อย่างละเอียดก็ไม่พบหัวกระสุนจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนสาเหตุนั้นคิดว่าเป็นเพราะความบาดหมางกันระหว่างอาสาสมัครที่มีเป็นจำนวนมากของมูลนิธิ 2 แห่งใน จ.นครศรีธรรมราช จนมี
เรื่องกระทบกระทั่งกันเสมอ
นายศิริศักดิ์ กล่าวอีกว่า คนร้ายที่ยิงมานั้นเชื่อว่าไม่ได้เจาะจงว่ากระสุนจะถูกใคร แต่ตั้งใจยิงสุ่มใส่รถที่ตนนั่งอยู่ อย่างไรก็ตามเรื่องคดีก็ว่าไปตามกระบวนการของกฏหมายซึ่งทางตำรวจได้สอบปากคำตนไว้แล้ว และก็ให้การไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
“ผมเชื่อว่าเหตุที่กระสุนไม่ระคายผิวของผมก็เพราะความปาฏิหาริย์ขององค์พระพุทธสิหิงค์ รุ่นปี 30 หลักเมืองนครศรีธรรมราช ที่ห้อยคอติดตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันผมสวมเสื้อยืดสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปีด้วย
จนหัวกระสุนปืนลูกซองซึ่งเป็นหัวตะกั่วแบนก็ไม่สามารถเจาะเข้าร่างกายได้ ผมเชื่อว่าทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ผมโชคดีที่ไม่ต้องสังเวยชีวิตไปกับเหตุการณ์ดังกล่าวและถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่สุดในชีวิตแล้ว”นายศิริศักดิ์ กล่าว พ.ต.ท.อภิชาติ เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไว้แล้วจำนวนมาก และพยานยืนยันว่าเห็นมือปืนชัดเจน ซึ่งขณะเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายนั้นอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา
มีความโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วระหว่างอาสาสมัครอารมย์ร้อนบางกลุ่มของมูลนิธิทั้ง 2 แห่งซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยด้วยกัน และกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้มักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นประจำ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างขอหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่า
จากการตรวจสอบข้อมูลนั้นพบว่านายเอ็มนั้นได้ถูกจำหน่ายชื่อออกจากรายชื่ออาสาสมัครไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมในทางเสื่อมเสีย แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในตัวเมืองแม้ว่าจะไม่ได้เป็นอาสาสมัครของมูลนิธิใดๆ แล้วก็ตาม