ผู้เขียน หัวข้อ: สำนักวัดทุ่งม่านใต้  (อ่าน 8020 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tum23

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 21
  • เพศ: ชาย
  • ร้อยเครื่องรางหรือจะสู้หนึ่งคาถา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
สำนักวัดทุ่งม่านใต้
« เมื่อ: 07 ต.ค. 2553, 01:13:31 »
พระราหูกะลาตาเดียว 
คนในสมัยโบราณนับถือกะลาตาเดียวเป็นวัตถุที่มีอาถรรพ์ที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเอง
จึงนำกะลามะพร้าวที่มีตาเดียวมาแกะเจาะรู เพื่อติดตัวใช้สำหรับเดินทางเข้าหาอาหาร
ไว้สำหรับป้องกันภัยร้ายต่างๆที่จะมาถึงตัว ส่วนกะลาทั้งลูกชาวบ้านมักจะนำไว้บูชา
อธิษฐานขอสิ่งต่างๆให้กับครอบครัว ต่อมาเข้าในสมัยสุโขทัย ได้มีชาวบ้านนำกะลาตาเดียว
มาเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ สำหรับติดตัว เพราะถือกันว่า เป็นเครื่องรางของขลัง
สามารถป้องกันคุณไสย และภูติผีปีศาจได้ และยังทำให้ผู้ที่มีติดตัวไว้มีโชคมีลาภอีกด้วย
แต่ชาวบ้านบางคนมักนิยมนำไปให้อาจารย์ ที่มีวิชาแก่กล้า ลงคาถาอาคมต่างๆแล้วแต่ผู้ใช้จะชอบ

สมัยกรุงศรีอยุธยาก็เช่ากัน ยังมีชาวบ้านนำกะลาตาเดียวเป็นเครื่องรางของขลัง
และใช้ตักข้าวสาร เวลาหุงข้าว เชื่อกันว่าจะทำให้มีข้าวกินไม่มีอดอยากตลอดชีวิต
ส่วนข้าราชการที่ทำงานสมัยกรุงศรีอยุธยามักจะนำกะลาตาเดียวมาแขวนคอติดตัวไปทำงานด้วย
เพื่อความเจริญรุ่งเรืองทางยศฐาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นเจ้าขุนมูลนาย เป็นใหญ่เป็นโตกว่าคนอื่น
ส่วนทหารที่ออกศึกก็มักจะนำไปให้อาจารย์ที่มีวิชาลงคาถาอาคมกำกับ เพื่อให้ตนออกศึกและ
ชนะรอดกลับมาได้

ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีประวัติกะลาตาเดียวทั้งลูก ว่ากะลาตาเดียวทั้งลูก หรือมะพร้าวตาเดียว
เอาเนื้อมะพร้าวออกหมดแล้ว จะเหลือแต่กะลาทั้งลูก ที่ไม่มีรอยแตกร้าว จะเป็นที่นิยมของพวก
พ่อค้า-แม่ค้า ชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา และคู่บ่าวสาวที่แต่งงาน ตลอดจนพวกข้าราชการชั้น
เจ้าขุน เจ้าพระยา จะนิยมเก็บไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่ามีไว้ในบ้านแล้ว จะช่วยส่งเสริมบารมี
ให้มียศฐาบรรดาศักดิ์ สูงขึ้นเร็วกว่าคนอื่น และจะช่วยล้างอาถรรพ์ที่เป็นเสนียดจัญไรภายในบ้าน
ได้เป็นอย่างดี และทำให้มีกินมีใช้ มีเงินมีทองมากขึ้น ไม่รู้จักหมด ส่วนพ่อค้า แม่ค้า ชาวไร่ชาวสวน
ที่นำข้าวของไปขายในเมืองและต่างแดน ก็จะถือกะลาตาเดียวไปด้วย ซึ่งจะทำให้ขายดี
ให้กำไรอย่างงาม

ส่วนคู่บ่าวสาวที่แต่งงานกันในสมัยนั้น ก็มักจะนำกะลาตาเดียวทั้งลูกที่เป็นตัวผู้ ตัวเมียคู่กัน
เก็บไว้ในบ้านจะทำให้อยู่กันมีความสุข ไม่แยกจากกันชั่วนิรันดร จะทำให้ชีวิตครอบครัวอุดมสมบูรณ์
พูนสุขไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง ส่วนบางครอบครัวที่แต่งงานให้ลูกหลาน และอยากให้ลูกหลานตน
มีความสุขมากยิ่งขึ้น ไม่ให้แตกแยก เลิกร้างจากกัน ก็จะแกะชื่อ-สกุล ฝ่ายชายลงในแผ่นไม้รัก
แล้วใส่ในกะลาตัวเมีย ส่วนชื่อ-สกุล ฝ่ายหญิง ก็จะแกะลงในแผ่นไม้รักอีกแผ่น แล้วใส่ในกะลาตัวผู้
เก็บไว้คู่กันในบ้าน ก็จะรักกันชั่วนิรันดร

และยังมีประวัติที่เล่ากันเป็นทอดๆ สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย ที่รู้เรื่องกะลาตาเดียว เล่ากันว่า
ยังมีคู่บ่าวสาวที่แต่งงานกัน ไม่ให้สามีของตนนอกใจไปรักหญิงอื่น ก็จะแกะสลัก ชื่อ-สกุล ทั้งคู่
สามี-ภริยา ลงในแผ่นไม้รักแผ่นเดียวกัน แล้วใส่ลงในกะลาตาเดียว ก็จะทำให้สามีหลงรักตนคนเดียว
ไม่นอกใจไปรักหญิงอื่น ส่วนสามีก็เช่นกัน ถ้าต้องการให้ภริยาเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี ก็จะแกะสลัก
ชื่อ-สกุล สามี-ภริยา ลงในแผ่นไม้รักแผ่นเดียวกัน แล้วใส่ลงในกะลาตัวผู้ ก็จะทำให้ ภริยาไม่นอกใจ
ไปมีชู้ โดยเฉพาะพวกข้าราชการทหารที่ออกรบ หรือไปประจำการตามหัวเมืองต่างๆ กะทันหัน
ในช่วงเวลาที่แต่งงานกันใหม่ๆ แล้วจำเป็นต้องราชการแล้วนำภริยาไปด้วยไม่ได้

กะลาตาเดียว หรือ กะลามะพร้าวตาเดียว ถือกันว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์ ที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว
แม้ว่าไม่ต้องปลุกเสกก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ คนแต่ก่อนได้กล่าวกันว่า กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษหลายอย่าง

1. ใช้สำหรับตักข้าวสารใส่หม้อ เวลาหุงข้าวกิน หากว่านำติดตัวไปประกอบอาชีพ ธุรกิจ จะทำให้เกิด
ทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ หากเป็นชาวไร่ ชาวนา และพืชในไร่งอกงามดี หากเป็นข้าราชการก็จะเจริญทาง
ยศฐาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นหัวหน้า เป็นนายคน เป็นใหญ่เป็นโตเร็วกว่าคนอื่นๆ

2. ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง ติดประจำกายไว้กับตัว เพราะกะลาตาเดียวเป็นอาถรรพ์มีดีอยู่ในตัวแล้ว
หากว่ามีการนำไปปลุกเสกลงคาถาอาคมก็จะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น

3. ใช้สำหรับเป็นสิ่งป้องกันเสนียดจัญไรป้องกันคุณไสยและภูติผีปีศาจได้ ใช้แก้ผีเข้า ของมีคมเข้าตัว
ใช้ล้างอาถรรพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน เช่นปลูกบ้านทับของมีอาคมร้าย ซากศพ บ่อน้ำ บ้านตั้งอยู่กลางสามแพร่ง
และอื่นๆ ที่ส่งผลร้ายให้แก่ผู้อาศัย ให้กลับกลายเป็นดีได้

4. ใช้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้ เช่นทำให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุต่างๆที่จะมาถึงตัว

5. ใช้ทำเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ติดตัวเป็นประจำ จะทำให้สุขภาพแข็งแรงดี โรคภัยไข้เจ็บ จะไม่ค่อย
มาเบียดเบียน ที่เจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้สุขภาพดีขึ้น

6. นำบูชาอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดโชคลาภสม่ำเสมอ ทรัพย์สินเงินทองจะหลั่งไหลมาเทมาไม่ขาดสาย

7. นำพกพาไปค้าขายก็จะค้าขายดี นำติดตัวไปซื้อของก็จะได้ของมามาก ทั้งที่มีเงินนิดเดียว ถ้าขายของ
ก็จะได้เงินเข้ามามาก แต่ของที่ขายไปดูยังไม่ยุบไปเท่าไหร่

8. คนสมัยโบราณ ใช้นำเป็นเครื่องมือแพทย์โบราณใช้ในการตัดต้อที่ตาของคน ให้หายขาดได้

9. ใช้เป็นยารักษาโรคอัมพาต โดยนำทั้งลูกมาผ่า แบ่งเป็นสี่ส่วน ให้นำชิ้นหนึ่งไปทางทิศตะวันตก
อีกสามชิ้นส่วน มาต้มน้ำ มาต้มน้ำกินน้ำทุกวัน วันละ 3 มื้อ มื้อละ 1 แก้ว ถ้าหมดก็นำมาแบ่งเช่นเดิม
แล้วต้มกินอีก ไม่นานก็จะหายจากอัมพาต

10. เครื่องรางพระราหูแกะด้วยกะลาตาเดียว เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่มีพุทธคุณมาก เป็นมหาอุตม์คงกระพันชาตรี คุ้มครองป้องกันไฟไหม้ โจรผู้ร้าย กันฟ้าผ่า ภูตผีปีศาจ-มนต์ดำ คุณไสย ต่างๆ อีกทั้งยังเป็น โชคลาภในด้านเงินทอง เมตตามหานิยม สุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะช่วยเกื้อหนุน ค้ำคูนดวงชะตาราศีไม่ให้ตกต่ำ  กิจการงานเจริญก้าวหน้า  มีคนและเทวดาช่วยเหลือเกื้อกูน

ต่อมากะลาตาเดียว ก็มักจะถูกนำมาแกะเป็นรูปพระราหูไว้ติดสร้อยคอ เนื่องจากหายากขึ้นเรื่อยๆ
ดังจะเห็นได้ในบทประพันธ์เรื่อง " พระอภัยมณี " ของสุนทรภู่ ได้มีการแต่งกล่าวถึง
เครื่องรางรูปพระราหูเอาไว้เช่นกันว่า

นางระเวงมีเครื่องรางกะลาตาเดียว แกะเป็นรูปพระราหู แขวนติดประจำกายอยู่ และมีคืนหนึ่ง
นางระเวงได้นอนหลับมี "อ้ายย่องตอด" ผู้มีวิชาแก่กล้าทางไสยศาสตร์ ชองจับสัตว์ และคน
ดูดเลือดเป็นอาหาร ได้ลอบเข้าไปทำร้ายนางระเวง แต่พอเห็นกะลาตาเดียว ที่แกะเป็นรูปพระราหู
ที่แขวนเป็นประจำกายนางระเวง จึงไม่กล้าทำร้ายรีบหนีออกไป

อดีตสุดยอดปรมาจารย์ "ครูบาเจ้านันตา" วัดทุ่งม่านใต้ (บ้านบ่อหิน) ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งมรณภาพไปปี 2504 สิริอายุ 90 ปี เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาราหู วัวธนู โคสุภราช ให้ "หลวงพ่อน้อย เนาวรัตน์" วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม และครั้งเมื่อคราวที่ "ท่านครูบาศรีวิชัย" นักบุญแห่งล้านนา ต้องอธิกรณ์ "ท่านครูบานันตา" มอบราหูให้ครูบาศรีวิชัยติดตัวไป จนรอด พ้นมลทินทุกประการ
"ครูบาเลิศ" วัดทุ่งม่านใต้รูปปัจจุบัน ท่านสร้างวัตถุมงคลอันเข้มขลังแทนครูบาเจ้านันตาสืบต่อมา ขึ้นชื่อลือชาในภาคเหนือ และทั่วประเทศข้ามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน

ตำราพระราหูรู้กันอยู่แล้วว่าเมื่อมีเคราะห์ทุกข์ภัย ความตกต่ำย่ำแย่ ชีวิตพลิกผัน พระราหูจะกลืนกิน แก้ได้อาถรรพณ์หมด ใครนำพาพระราหูติดตัวเป็นเนืองนิตย์จะมีแต่สวัสดิโสพิณกว่าคนทั้งหลาย ทุกหนักเท่าหนักปานใดผ่านพ้นไปเร็วไว ไปถึงความสำเร็จสมหวังดังเป้าหมายทุกประการ อีกทั้งตำราว่ายันต์สุริยประภา และจันทรประภา ท่านว่าเป็นยันต์แห่งขุมทรัพย์ ดังตำราว่าไว้ 

"สิทธิการิยะ ยันต์นี้ประเสริฐกว่ายันต์อื่นใดในโลก ถ้าบุคคลใดปรารถนาสมบัติ แก้ว แหวน เงินทองทุกประการบูชาพระยันต์นี้ เถิด ตำนานกล่าวไว้ว่า มีพระฤๅษี 2 ตน สถิตอยู่ ณ เขายุคนธร ได้พิจารณาเล็งดูมนุษย์ทั้งหลายว่า ในกาลภายหน้าจักมีทุกข์ภัยเวทนา หาสมบัติมิได้ จึงใคร่จะช่วยทุกข์แห่งมนุษย์ทั้งหลาย ฤๅษีตนหนึ่งจึงสร้างยันต์ขึ้นยันต์หนึ่งชื่อ "สุริยประภา" อีกตนหนึ่งสร้างยันต์ "จันทรประภา" ขึ้น ลงในกะลาตาเดียว จะหาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก แม้ว่าสมบัติบรมจักรพรรดิ และสมบัติพระอินทร์ หรือดวงแก้วมณีโชติ ก็หาอาจเปรียบเทียบพระยันต์ทั้งสองนี้ได้ ผู้ที่หวังเจริญในลาภยศ และอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ก็ให้คิดสร้างขึ้นและนำไปบูชาเถิด โดยให้จุนเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอม แล้วเอาบูชาไว้

พระยันต์ทั้ง 2 นี้ผู้ใดนับถือบูชาไว้มิรู้อดอยากตกทุกข์ได้ยากเลย เมื่อจะใช้ยันต์สุริยประภานั้น ให้เอาคาถานี้นมัสการก่อน 7 หน "เอหิจักขุ นาฬิเกลา สุริยประภา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ ระตะนะ สัมปันโน มณีโชติระโส ยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหัง วันทามิ เมสะทาฯ" แล้วจึงว่าพระคาถากำกับพระยันต์ ดังนี้ กลางวัน "กุเสโต โตราโมมะมะรา รามะมะโมโตติกุเห"  (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ) กลางคืน "ยะถาตัง ตังยะมะมะตัง ตังมะมะตังตังเสกาเส" (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ) เป็นตำหรับสำนักวัดทุ่งม่านใต้ ถอดเคล็ดวิชาไว้ให้เกิดผลทางหนุนดวงชะตาและประสาทโภคทรัพย์ ช่วยกิจการงานเจริญก้าวหน้า เรียกว่ามนต์ราหูกาบเดือนกาบตะวัน เอาไว้สำหรับใช้ติดตัวโดยเฉพาะ จะต่างจากที่มีตำราเผยแพร่ คือ กลางวัน "กุเสโต โตราโมมะมะ โตราโม คุยหะโม มะมะ คุยหะโม คุตติโม มะมะ คุตติโม" (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ) กลางคืน "ยะถาตัง มะมะ ตังถายะ ตังวะตัง มะมะ ตังวะตัง ตังเสกา มะมะ กาเสตัง" (ว่ากำกับ 3 จบ 7 จบ) แบบนี้ใช้ปลุกเสกกะลาราหู ไว้บูชาในบ้านเรือนในตลับทอง ตลับเงิน และขอพรเมื่อคราวตกต่ำหรือต้องการสมปรารถนา โดยเอาแช่น้ำมันแล้วจึงนำมาใช้ แต่เมื่อเอามาพกติดตัว จะส่งผลทางมหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรีเป็นหลัก เพราะจะใช้ติดตัวต่อเมื่อ มีเรื่องเกี่ยวกับในราชการสงครามในสมัยโบราณเท่านั้น
พุทธังรัตนัตยังนมัสสิตวาสิรสาชานุยุคเล

ออฟไลน์ viriya

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 175
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สำนักวัดทุ่งม่านใต้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07 ต.ค. 2553, 02:12:01 »
ตอนแรกคิดว่าแกะเป็นพระราหูป้องกันคุณไสยเสนียดจัญไรภูติผีปีศาจ  แคล้วคลาดโชคลาภ เมตตา  คงกระพันชาตรีเท่านั้น  พออ่านกระทู้นี้ถึงรู้ว่ามีคุณมากกว่าที่คิดมาก  ขอบคุณสำหรับความรู้นี้ครับ

ออฟไลน์ vithya

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 195
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: สำนักวัดทุ่งม่านใต้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07 ต.ค. 2553, 06:11:41 »
กะลาตาเดียวนี่พุทธคุณหลายอย่างมากเลยนะครับสุดยอด 25; 30; 21;ก็เพิ่งรู้นี่ละครับ เมื่อก่อนก็รู้ไม่กี่อย่าง ไม่เข้ามาศึกษานี่ไม่รู้เลย ขอบคุณครับ :033: :054:

ออฟไลน์ rapeet3

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 23
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สำนักวัดทุ่งม่านใต้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07 ต.ค. 2553, 11:19:24 »
 :025: ครอบจักรวาลดีจังครับ     อยากได้.....

ออฟไลน์ va-whan

  • แมงป่อง...ผยองเดช
  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 15
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สำนักวัดทุ่งม่านใต้
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 08 ต.ค. 2553, 10:28:22 »
วัดทุ่งม่านใต้ อยู่ที่ไหนค่ะ วันหน้าจะได้ไปนำมาบุ๙าติดตัวไว้บ้าง