รู้จักวัดบางพระครั้งแรกเพราะพี่ที่ทำงานเค้าพาไป และผมอยากจะสักมาตั้งแต่เด็ก พอไปเจอพี่ที่ทำงานเค้าไปงานไหว้ครู กลับมาเลยถามแล้วอยากไปมากจนมีโอกาสเค้าถึงพาไป
ไปครั้งแรกเมื่อ 16 มิ.ย. 50 ตอนนั้นไปสักน้ำมันได้ พุฒซ้อน หลวงพี่ญา บัวเงิน-บัวทอง หลวงพี่ต้อย บัวแก้ว หลวงพี่ติ่ง
แล้วหลังจากนั้นเกือบปีก็ตัดสินใจสักหมึกกับหลวงพี่ญา หลวงพี่ต้อย เดินทางไปคนเดียวส่วนใหญ่ ไปเช้าๆวันธรรมดานี่แหล่ะครับ ขี่มอไซค์ไปตอนตี 4-ตี5 ถึงวัดก็เกือบ 6 โมงเช้า นั่งรออยู่หน้ากุฏิหลวงพี่ต้อยจนเค้าเปิดก็ไปรบกวนหลวงพี่ต้อยเป็นคนแรกประจำ ไปเดือนละครั้ง ครั้งละ 2-3 ยันต์ แล้วถึงกลับบ้าน ตั้งใจแต่แรกแล้วว่าให้เต็มหลังแล้วจะพอ แต่มีเหตุทำให้ต้องหยุดการสักไปเกือบ 3 ปีเพราะประพฤติผิดข้อห้าม เลยหยุดไว้ก่อน แต่ไปไหว้ครูทุกปี บางปีไหว้ครูเสร็จต้องรีบควบมอเตอร์ไซค์กลับมาทำธุระต่ออีก จนตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่เราสามารถประพฤติปฏิบัติตามข้อห้าม คำสั่งสอนของครูบาอาจารย์แล้วเลยเริ่มกลับไปสักอีกครั้งครับ
ล่าสุดไปมาเมื่อเช้าวันศุกร์ เดินทางไปตอนตี 5 ถึงเกือบ 6 โมงเช้าเหมือนเคย แต่ไม่ได้มานานก็มึนๆนิดหน่อย รู้ข่าวมาแต่แรกว่าหลวงพี่ต้อยได้พักการสักเนื่องด้วยท่านต้องพักฟื้นจากอาการอาพาธ แต่ก็อยากให้หลวงพี่ต้อยท่านเป่ากระหม่อมปลุกเสกให้ รอจน 7 โมงเลยไปกุฏิหลวงพี่ญาให้ท่านเมตตาให้ ได้อักขระมาก่อน แล้วจึงไปกุฏิหลวงพี่ต้อยให้ท่านเจิมให้ แล้วเวียนไปหากุฏิหลวงพี่ญาอีกรอบ รอบนี้ได้ยันต์องค์พระมาอีกยันต์ ใจจริงอยากจะสักอีกสักยันต์ก่อนกลับบ้าน แต่เกรงใจหลวงพี่ญา เลยเอาแค่ 2 รอบแล้วเดินทางกลับ
ในรูปคือ 2 ยันต์ล่าสุดที่ได้รับความเมตตาจากหลวงพี่ญาครับ ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตาเก็บให้เต็มหลัง ตั้งใจจะไปเดือนละครั้ง แต่คงเก็บครั้งละ 3 ยันต์เหมือนเดิมไม่ได้ เพราะหลวงพี่ต้อยยังไม่หายดีจากอาการอาพาธก็คงต้องไปรบกวนหลวงพี่ญา ไปหลายรอบก็เกรงใจท่านครับ