ตำนานเล่าขานเจ้าพ่อบ่อเหล็กน้ำพี้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีนายพรานล่าสัตว์คนหนึ่ง ชื่อนายพรานแสง อาศัยอยู่ในป่า(บริเวณใกล้ ๆ กับบ่อเหล็กน้ำพี้) อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีพระราชามีพระราชวังอยู่ที่ทุ่งกะโล่(เขตอำเภอเมืองจังหวดอุตรดิตถ์ เนื่องจากมีชาวบ้านขุดค้นพบโบราณวัตถุได้หลายชิ้น) ได้เสด็จประพาสป่า เกิดพลัดหลงกับพวกเสนาอำมาตย์อยู่หลายวัน ได้มาพบกระท่อมหลังหนึ่งซึ่งเป็นของนายพรานแสง จึงได้ขอพักอาศัยค้างคืน นายพรานแสงได้ต้อนรับเป็นอย่างดี ตามอัธยาศัยของคนชนบท ทำให้พระราชาพอพระทัยและคุยถูกคอเป็นยิ่งนัก โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นพระราชา ส่วนพระราชาก็ได้รับนายพรานแสงไว้ในฐานะเป็นพระสหาย
ครั้นพอรุ่งเช้า เหล่าเสนาอำมาตย์ได้ตามหาพระราชาจนพบ ก่อนที่พระราชาจะกลับได้รับสั่งกับนายพรานแสงว่า ถ้ามีโอกาสให้ไปเยี่ยมเยือนบ้าง
ต่อมา นายพรานแสงได้ออกไปล่าสัตว์ บริเวณใกล้ ๆ กับบ่อเหล็กน้ำพี้ แต่พอเดินมาได้ไม่นานนัก นายพรานแสงเกิดปวดท้องขึ้นมา ได้มีวัวป่าตัวหนึ่งเดินผ่านมาใกล้ ๆ กับบริเวณท่านายพรานแสงนั่งอุจจาระอยู่ ครั้นจะลุกขึ้นไปหยิบปืนก็ไม่ทันกลัววัวป่าจะตกใจหนีไปก่อน จึงหยิบก้อนหินขว้างใส่วัวป่า ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 2 วาเศษ ๆ ถูกที่สีข้างของวัวตัวนั้น ทะลุ ทำให้วัวตัวนั้นล้มลงขาดใจในที่สุด นายพรานแสงประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ที่วัวป่าล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตาจึงนำก้อนแร่นั้นใส่ถุงย่ามกลับบ้านไปด้วย
อยู่ต่อมา เพื่อนเก่าที่สนิท ชื่อว่านายขัน และนายสุข นายแสงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองฟัง ทั้งสองเห็นเป็นอัศจรรย์ จึงคิดว่าหินก้อนนี้ไม่ใช่หินธรรมดาแน่แท้ มีแร่เหล็กผสมอยู่ จึงปรึกษากันแล้วหลอมให้เป็นมีด ทั้งสามจึงได้ช่วยกันตีเหล็กจนเป็นมีดโต้
หลายปีผ่านไป นายพรานแสงเกิดนึกถึงสหายของตนที่เป็นพระมหากษัตริย์จึงไปเยี่ยมเยือน ได้นำมีดโต้ซึ่งตีจากเหล็กน้ำพี้ไปฝาก เมื่อเข้าเฝ้าแล้ก็ได้สนทนาปราศรัยพอสมควร นายพรานแสงได้เอ่ยขึ้นว่า การมาเยี่ยมเยือนในครั้งนี้ไม่มีอะไรมาฝากมีแต่เพียงมีดโต้เล่มเดียว ฝ่ายพระราชาจึงได้ตรัสว่า เอามาทำไม มีดในวังในคลังหลวงมีเยอะแยะมากมาย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มีด ให้นำกลับไปใช้ที่บ้าน จึงไม่รับไว้ นายพรานแสงได้ยิน จึงเกิดความโกรธพระราชาผู้เป็นสหายอย่างมาก ด้วยความเสียใจจึงทูลลากลับแล้วถือมีดโต้นั้นลากออกไปตามท้องพระโรง ด้วยอานุภาพแห่งเหล็กน้ำพี้จึงทำให้ท้องพระโรงแยกออกเป็นสองส่วนตามรอยมีดนั้น
ครั้นพระราชาทรงเห็นพื้นท้องพระโรงแยกเป็นสองส่วน จึงทรงรับสั่งให้อำมาตย์ไปตามนายทั้งสามกลับมาเข้าเฝ้าและให้นำมีดโต้นั้นมาด้วยแต่ทว่าช้าไปเสียแล้วเพราะนายพรานแสงได้โยนมีดโต้นั้นทิ้งลงในบ่อน้ำ ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจพระราชา พระราชาจึงสั่งให้ทหารและมหาดเล็กลงไปงมหา ด้วยความคมของมีดและเนื่องจากด้ามมีดปักลงไปกลางน้ำทำให้ด้านสันคมตั้งขึ้น จึงไม่มีทหารคนใดรอดชีวิตขึ้นมาเลย
พระราชาจึงรับสั่งให้ไปตานายพรานแสง กลับมาอามีดโต้นั้นขึ้นจากน้ำ เนื่องจากมีทหารที่ตายด้วยคมมีดไป 3,000 คนจึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า วังสามพัน เมื่อพระราชาได้มีดมาแล้วก็ทรงพอพระทัยเป็นยิ่งนักและได้นำมีดโต้นั้นไปให้ช่างตีทำเป็นพระแสงประจำกาย และก็ทรงชักชวนให้นายพรานทั้งสามอยู่รับราชการด้วยกัน แต่ทั้งสามคนปฏิเสธเพราะเห็นตนเป็นคนไม่มีความรู้อะไร จึงขอกลับมาใช้ชีวิตตามอัตภาพจนสิ้นชีวิต วิญญาณอันศักดิ์สิทธ์ของท่านมาสถิตย์อยู่ในบริเวณบ่อเหล็กน้ำพี้แห่งนี้ ชาวบ้านจึงให้ความเคารพนับถือ เรียกขนานนามว่า เจ้าพ่อบ่อเหล็กน้ำพี้ หรือ เจ้าพ่อบ่อพระแสง
สรรพคุณของเหล็กน้ำพี้ครับ
เหล็กน้ำพี้มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ จังหวัดอุตรดิษฐ์ เป็นของกายสิทธิ์จัดอยู่ประเภทตระกูล
เหล็กไหลชนิดหนึ่ง มีอาถรรพ์ที่ลี้ลับ มีคุณสมบัติที่เหนียวแน่นเมื่อตีเป็นดาบจะมีความแข็งแกร่ง
คมมากขนาดฟันหัวตะปูขาดได้อย่างสบายๆ ปัจจุบันนิยมนำมาสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆ
อานุภาพของเหล็กน้ำพี้ เป็นกายสิทธิ์ที่มีรัศมีร้อนแรง จึงเป็นที่ยำเกรงต่อเหล่าบรรดาภูตผี
ปีศาจ ล้างอาถรรพ์ คุณไสย อาคม มนต์ดำ ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อตีเป็นดาบใช้ต่อสู้กับผู้ที่มีอาคม
อยู่ยงคงกระพันซึ่งจะไม่สามารถต้านทานคมของเหล็กน้ำพี้ได้เลย จึงทำให้ปรากฏเกียรติคุณ
สร้างความครั่นคร้ามยำเกรงต่อข้าศึกศัตรูมาแต่โบราณกาล สร้างชื่อให้กับขุนศึกนักรบกล้าของไทย
เราจวบจนถึงปัจจุบันนี้แล..
จิตวิญญาณที่ครอบครองรักษาเหล็กน้ำพี้จะเป็นพวกอสูร ยักษ์ฝ่ายสัมมาทิฐิที่มีจิตใจฝักใฝ่
ในพระพุทธศาสนา ฉะนั้นการทำพิธีบวงสรวงขอเหล็กน้ำพี้ จึงต้องมีวัตถุประสงค์ไปในทางเพื่อคุณ
ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง จึงจะสัมฤทธิ์ผลตามเจตนารมณ์
ปัจจุบันเหล็กน้ำพี้นอกจากนำมาตีเป็นของมีคมเหมือนอย่างโบราณแล้ว ยังนำมาทำเป็นสร้อยประคำ
หรือผสมลงในมวลสารต่างๆทำเป็นพระเครือ่ง หรือวัตถุมงคลต่างๆเพื่อส่งเสริมให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้พกพาด้วยครับ
ก้อนเหล็กน้ำพี้ครับ
ใบดาบที่ตีจากเหล็กน้ำพี้ครับ สังเกตุดูว่าจะมีสีเลื่อมๆออกเขียวๆ
ประคำแร่เหล็กน้ำพี้ครับ ว่ากันว่าพิสูจน์ได้โดยการใช้แม่เหล็กดูดติดได้