ผู้เขียน หัวข้อ: ต้านสมภารคนนอก - พระวัดโสธร 300 รูปฮือบุกแบ็งค์ ระงับการเบิกเงินวัด!!!  (อ่าน 1321 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ suwatchai

  • การนิ่งเงียบต่อคนโง่คนสามหาว เป็นทางยาวสู่เกียรติที่ใฝ่ฝัน ทั้งรักษาในศักดิ์ศรีเป็นเกราะกัน ไม่หุนหันฉันท์หมาวัดที่จัญไร เราจงดูราชสีห์น่าเกรงขาม ทุกผู้นามเกรงกลัวได้ไฉน ไม่เคยเห่าเคยหอนไล่ผู้ใด แล้วไซร้ใยมีเกียรติเป็นราชันต์...
  • สมาชิกที่ถูกแบน
  • **
  • กระทู้: 241
  • เพศ: ชาย
  • Death Is Beautiful & Sweet ....
    • MSN Messenger - suwatchai.com@windowslive.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ม็อบพระ - พระเณรวัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 300 รูป ชุมนุมประท้วงเจ้าคณะจังหวัด ไม่แต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ซึ่งว่างมา 5 ปี แล้วเคลื่อนไปธ.กสิกรไทยให้ระงับการเงินของวัดทั้งหมด

ม็อบพระ-เณร วัดหลวงพ่อ โสธร กว่า 300 รูป บุกแบงก์ยื่นหนังสือให้ระงับเบิกจ่ายเงินของวัดหลังรักษาการแทนเจ้าอาวาสทำหน้าที่ครบ 5 ปี แต่เจ้าคณะจังหวัดไม่สามารถตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นมาปกครองได้ ย้ำไม่ยอมรับสมภารคนนอกที่จะเสนอแต่งตั้ง เพราะพระลูกหม้อในวัดมีความรู้ความสามารถมากกว่า ด้าน "พระพรหมสุธี"เจ้าคณะภาค 12 เชื่อปัญหาไม่บานปลาย เพราะได้พูดคุยกับพระ-เณรภายในวัดจนเป็นที่เข้าใจแล้ว

เวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 350 รูป ออกมารวมตัวกันบริเวณวัด พร้อมกับป้ายต่อต้านเจ้าคณะปกครอง เรื่องแต่งตั้งเจ้าอาวาสที่ไม่โปร่งใส และต้องการปกป้องผลประโยชน์ของวัด จากนั้นเคลื่อนขบวนเดินเท้าจากวัดมาชุมนุมกันบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา ฝั่งตรงข้ามสภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา เรื่องขอให้ระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของวัดโสธรฯ

หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร มีผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2547 ซึ่งตามกฎมหาเถรสมาคม ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสมีระยะเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น บัดนี้ครบกำหนดแล้ว แต่เจ้าคณะปกครองยังมิได้แต่งตั้งเจ้าอาวาสเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ผู้มีอำนาจกระทำการแทนวัดหมดหน้าที่ลง จึงไม่มีผู้ใดปฏิบัติหน้าที่แทนวัดในนามนิติบุคคล ทั้งนี้ ทางคณะสงฆ์วัดโสธรวราราม จึงขอให้ทางธนาคารระงับการเบิกจ่ายหรือการทำธุรกรรมทางการเงินจากบัญชีของวัดทุกบัญชี มิเช่นนั้นจะถือว่าทำผิดกฎหมาย จนกว่าจะแต่งตั้งผู้มีอำนาจกระทำการแทนวัดได้

จากนั้น นายไพศาล ปัญญาลิขิต ผจก.ธนา คาร ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง และกล่าวยืนยันว่าระหว่างนี้ทางธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมทางการเงินจากบัญชีของวัดโสธรวรารามทุกบัญชี จนกว่าจะแต่งตั้งเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการ สร้างความพอใจให้คณะพระภิกษุสามเณรที่มาร่วมชุมนุมกันในครั้งนี้ จากนั้นทั้งหมดเดินทางกลับวัดอย่างสงบ

พระครูโสภณสรกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามเปิดเผยว่า เนื่องจากวัดโสธรวรารามได้ว่างตำแหน่งเจ้าอาวาสมานาน มหาเถรสมาคมจึงมีคำสั่งผ่านพระพรหมสุธี เจ้าคณะภาค 12 และเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่งตั้งพระพรหมสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เจ้าคณะภาค 12 และกรรมการมหาเถรสมาคม รักษาการแทนเจ้าอาวาสตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2547 บัดนี้ได้ครบกำหนดเวลา 5 ปีแล้ว ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 19 (พ.ศ.2536) ข้อ 4 ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ต้องดำเนินการเสนอให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาส กรณีพระอารามหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดมิให้เกิน 5 ปี แต่ปรากฏว่า พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา มิได้ดำเนินการเสนอเจ้าอาวาสรูปใหม่ เพื่อให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการแต่งตั้งเจ้าอาวาสตามกฎดังกล่าว ทำให้ที่ผ่านมาการปกครองวัดโสธรวรารามเกิดความเสียหายและเกิดผลเสียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพระอารามหลวง มีองค์หลวงพ่อพระพุทธโสธรเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิก ชนทั่วประเทศ มีพระภิกษุและสามเณรอยู่จำพรรษาเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สอบถามจากประชาชนทั่วไปว่าเหตุใดจึงไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสให้เรียบร้อย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามเปิดเผยอีกว่า ดังนั้น ทางคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามจึงประชุมปรึกษาหารือร่วมกัน และเสียงส่วนใหญ่เห็นควรให้พระปริยัติกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และผู้ช่วยเจ้าอาวาส อาวุโส อายุ 53 ปี พรรษา 32 วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.ธ.4 เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ช่วยส่งเสริมให้การศึกษาของวัดจนขึ้นสู่อันดับหนึ่งของประเทศ และยังจบการศึกษาถึงระดับปริญญาโท สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสและได้รับการสนับสนุนจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส จำนวน 7 รูป และพระภิกษุสามเณร จำนวน 348 รูป จึงได้ทำเรื่องเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เจ้าคณะจังหวัดยังคงเพิกเฉย ทางคณะพระภิกษุสามเณรวัดโสธรวรารามจึงทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยเจ้าคณะจังหวัด อ้างแต่รอพระผู้ใหญ่สั่งการ จนกระทั่งถึงวันที่ 31 ต.ค.แล้ว ก็ยังไม่แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามอย่างเป็นทางการ

พระครูโสภณสรกิจ กล่าวต่อว่า คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระภิกษุ สามเณร จึงประชุมปรึกษาหารือกันในวัด และมีมติเห็นควรให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสร่วมกันเป็นคณะกรรมการบริหารวัด เพื่อแก้ไขสถานการณ์ไปพลางก่อนจนกว่าคณะปกครองจะดำเนินการให้เรียบร้อย และหากมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่มาจากพระนอกวัด เชื่อว่าคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ภายในวัดโสธรวรารามจะไม่ยอมรับ เพราะทราบมาว่า มีความพยายามของพระผู้ใหญ่บางรูปที่จะนำเอาพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน และเจ้าคณะอำเภอบางปะกง ซึ่งมีอายุมากถึง 84 ปี มาเป็นเจ้าอาวาส ทั้งที่วัดโสธรวรารามมีพระที่มีความรู้ความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เหตุใดคณะผู้ปกครอง จึงต้องแต่งตั้งพระนอกวัดที่มีความรู้ความสามารถน้อยกว่ามาเป็นเจ้าอาวาส ทำให้พระสงฆ์ภายในวัดเกิดความคลางแคลงใจ ทั้งนี้ เชื่อว่าวัดโสธรวรารามเป็นวัดที่มีรายได้มาก การแต่งตั้งเจ้าอาวาสของเจ้าคณะผู้ปกครองบางรูป จึงอาจเกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของตนเองก็เป็นได้

ด้านพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่าการกระทำของพระสงฆ์วัดโสธรวรารามครั้งนี้ แม้จะไม่ผิดระเบียบของสงฆ์ แต่เป็นเรื่องไม่สมควร อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้ดำเนินการไปตามระเบียบของมหาเถรสมาคม เพราะเสนอรายชื่อผู้ที่สมควรเป็นเจ้าอาวาสไปยังเจ้าคณะภาค 12 แล้ว และจะส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาต่อไป เชื่อว่าน่าจะแต่งตั้งเจ้าอาวาสแล้วเสร็จภายในไม่เกินกลางเดือนนี้

นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงปัญหากรณีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามในขณะนี้ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม เป็นเรื่องระบบการปกครองของคณะสงฆ์ที่มีพระผู้ใหญ่ดูแล ตามขั้นตอนของการแต่งตั้ง ตนเป็นเพียงฆราวาส ซึ่งเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค และมหาเถรสมาคม จะเป็นผู้พิจารณาเสนอ โดยเฉพาะวัดโสธรวราราม เป็นพระอารามหลวง ต้องเสนอผ่านทางมหาเถรสมาคม ส่วนการดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้ในวัดโสธรฯ นั้น ตนมาไม่ทัน

ด้านพระพรหมสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เปิดเผยถึงกรณีคณะสงฆ์-สามเณร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จำนวนกว่า 300 รูป ได้เดินทางไปที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา ฝั่งตรงข้าม สภ. เมืองเชิงเทรา เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้จัดการธนาคาร ขอคัดค้านการเบิกจ่ายเงินของวัดเนื่องจาก วัดไม่มีผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงิน ด้วยผู้รักษาการวัด ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระ 5 ปี ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไร เป็นความเข้าใจผิด ขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราได้ดำเนินการชี้แจงกับคณะสงฆ์วัดโสธรวรารามแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็เข้าใจและยอมยุติการชุมนุมไปแล้ว ส่วนปัญหาในเรื่องการเบิกจ่ายเงินในช่วงที่อาตมาเข้าไปดูแลรักษาการวัดก็ไม่เคยมีปัญหา ด้วยทำตามขั้นตอนและระเบียบทุกประการ สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ วัดโสธรวรารามมีปัจจัยจากการทำบุญเข้าวัดเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้การเบิกจ่ายเงินต้องใช้อย่างระมัดระวัง ตรงนี้ คงทำให้พระลูกวัดเกรงว่าถ้าอาตมาหมดวาระรักษาการลงและไม่มีใครเข้ามาดูแลทันที อาจมีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างการเบิกจ่ายเงินอย่างไม่เหมาะสมก็ได้

"สำหรับเรื่องที่อาตมาดำรงตำแหน่งจะครบวาระ 5 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ อาตมาขอยืนยันว่าจะไม่มีการต่ออายุรักษาการเจ้าอาวาสอีก สำหรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ เป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัดฉะ เชิงเทรา จะเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสม เสนอไปยังเจ้าคณะภาค ก่อนเสนอตามลำดับไปที่เจ้าคณะหนใหญ่ ก่อนนำเสนอที่ประชุมมหาเถร ฯ พิจารณาแต่งตั้งต่อไป" พระพรหมสุธีระบุ

ด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานมาถึงตน ทราบว่า พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าไปชี้แจงให้พระภิกษุ-สามเณรที่มาชุมนุมเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องการเบิกจ่ายเงินของวัด ส่วนการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ แทนพระพรหมสุธีในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส ที่จะดำรงตำแหน่งครบ 5 ปี ว่าเป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการส่งรายชื่อมายังสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมแต่อย่างใด สำหรับขั้นตอนของการเบิกจ่ายเงินของวัด เจ้าอาวาสจะเป็นผู้มีอำนาจเต็มแต่งตั้งไวยาวัจกรเป็นผู้แทนดำเนินการเบิกจ่ายเงินของวัด โดยมีคณะกรรมการวัดเป็นผู้ลงมติ ส่วนรักษา การเจ้าอาวาส ก็สามารถมีอำนาจเบิกจ่ายเงินของวัดได้เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส แต่โดยธรรมเนียมมารยาทแล้ว ผู้รักษาการแทนจะไม่ตั้งเบิกจ่ายเงินของวัดโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะไม่ทำรายงานเสนอให้ที่ประชุมมหาเถรฯ ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในของวัดเท่านั้น และดำเนินการแก้ปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว