ผู้เขียน หัวข้อ: บทความดี ๆ  (อ่าน 1816 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อ้อ

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 250
  • ศิษย์หลวงพ่อ
    • ดูรายละเอียด
บทความดี ๆ
« เมื่อ: 24 ต.ค. 2550, 05:29:26 »
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5947402/Y5947402.html



.........................อยากให้อ่านกันค่ะ โดยเฉพาะลูกผู้หญิง................(ขอนอกประเด็นซักวัน)
ตั้งไว้ในเฉลิมไทย  แล้วมันก็กำลังจะตกแล้วค่ะ   เลยเอามาตั้งไว้ห้องนี้บ้างเพราะอยากให้อ่านกันค่ะ  โดยเฉพาะผู้หญิง


นี่เป็นจดหมายจากปู่และย่าของเราที่เขียนให้เมื่อตอนวันเกิด   ท่านอยากให้เอามาเผยแผ่  จะได้ระวังตนกันไว้



อย่าลบกระทู้หนูน้าค้า  >.<

.................................................................

ถึง........หลานรัก



     ปู่กับย่าเป็นคนโชคดีที่มีลูกทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนและหน้าที่การงาน  เพราะเมื่อ 40 ปีที่แล้วมา ขณะที่ลูกๆอยู่ในช่วงวัยรุ่นนั้นสุงคมไม่วิปริตอย่างทุกวันนี้  แต่ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากอันเนื่องจากคนในสังคมติดวัตถุนิยมอย่างยิ่ง  ปู่-ย่าจึงเป็นห่วงหลานอย่างที่สุด ด้วยกลัวว่าหลานจะไหลไปตามกระแสสังคมปัจจุบันด้วยขาดสติสัมปชัญญะ จึงเมื่อปู่ได้อ่านหนังสือ "ปัญญารัตนะ" ของ วสิน อินทสระ  จึงเก็บใจความจากหนังสือมาแนะนำหลานเพื่อป้องกันมิให้หลานตกไปสู่ทางอันไม่พึงประสงค์



     ปู่-ย่ามีเรื่องที่จะเตือนสติหลานมากเรื่อง เช่น เกี่ยวกับการเรียน ขอให้หลานตั้งใจเรียนอย่างดีทุกวิชา แต่ละวิชามีประโยชน์ทั้งนั้น เราเสียเงินไปแล้วขอให้เอาวิชาแลกคืนมาให้ได้  เงินนั้นไม่เสียไปกับซื้อวิชาก็ต้องเสียไปทางอื่น เช่น เสื้อผ้า อาหาร อันเป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืนอะไร แต่วิชาความรู้เป็นสิ่งยั่งยืนติดตัวไปจนตาย ใช้เท่าไหร่ไม่หมด ยิ่งขุดยิ่งพบ  การใช้เงินแลกวิชาความรู้บัณฑิตจึงสรรเสริญ  ขอให้ระลึกเสมอว่าเงินแต่ละบาทนั้นเป็ฯหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อแม่  พยามเอาชนะตนเองอย่าฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย  เมื่อมีเวลาต้องหาปัญญาใส่สมอง  ปัญญาใส่สมองนั้นไม่มีโทษ  ส่วนอาหารใส่ท้องนั้นใส่พอประมาณ



      หลานอาจเคยได้ยินเพื่อนเปรียบเทียบตอนกับคนอื่นว่าของใช้ของคนนั้นดีกว่า  คนนั้นคนนี้มีของใช้ราคาแพงๆแต่ของเราราคาไม่ถึงครึ่งของเขา เพื่อนที่พูดอย่างนี้ถ้าพ่อแม่เขารู้ พ่อเขาอาจถอนใจใหญ่ เอามือก่ายหน้าผากปวดร้าวอยู่ลึกๆ  แม่เขาอาจกรีดน้ำตาก็ได้  หลานต้องรู้จักประมาณตัวรู้จักฐานะแห่งครอบครัวตน อย่าเอาอย่างเพื่อนประเภทนี้



      หลานอันเป็นที่รักของย่า-ปู่ ถ้าหลานสังเกตคงเห็นแล้วว่าเพื่อนบางคนวางท่าเฉิดฉาย แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณราคาสูงแต่ไม่สนใจว่างตัวให้น่ารัก น่าชื่นชม เพื่อนเช่นนั้นย่อมสู้เพื่อนที่แต่งกายเรียบร้อย สุภาพ แต่เป็นผู้ที่มากไปด้วยเมตตา กรุณา มีแววตาส่อความปราณีไม่ได้  แววตาที่อ่อนโยน  กิรินา ที่สุภาพ ว่าจาที่อ่อนหว่า และใจที่เปี่ยมด้วยพรหมวิหารนั้นเป็นเสน่ห์ดึงดูดคนทั้งหลายให้รักใคร่เคารพ ยำเกรงไม่จืดจาง  เป็นเสมือนที่ราบลุ่มและร่องลึกเป็นที่ไหลมาแห่งน้ำ



       เราอาจมีทรัพย์ค่อนข้างน้อย  แต่ขอให้ไม่น้อยใจในความดี ไม่จนในความดี เราอาจจะไม่มีเกียรติในหมู่เพื่อนในสังคม  แต่ขอให้หลานอยู่ในท่ามกลางแสงสว่างอันเรื่องรองแห่งสติปัญญาและภูมิธรรม

       ในการเรียน การวางตัว หรือการใดๆก็ตามอย่าประมาท  การวางตัวต่อเพื่อนฝูงอย่าให้สูงเกินไปจะเป็นที่หมั่นไส้ และถ้าวางตัวต่ำเกินไปเขาจะดูหมิ่น  ขอให้พอดีๆ กับครูบาอาจารย์นั้นขอให้อ่อนน้อม เพราะท่านว่า

                      "  เอาชนะผู้สูงศักดิ์ด้วยการอ่อนน้อม

             เอาชนะผู้ที่ต้ำต้อยด้วยการสงเคราะห์เอื้อเฟื้อ

       เอาชนะผู้ที่เสมอด้วยกันด้วยความเพียรพยายาม

    เอาชนะผู้ที่แกล้วกล้าในสงครามด้วยการยุให้แตก  "



          สำหรับการวางตัวในเพศตรงข้าม ผู้ชายเกรงผู้หญิงที่วางตัวดี  ไม่จองหองจนเกินไป  ไม่ปล่อยตัวเกินไป  กิริยาพาทีเป็นผู้ดี  สุภาพเรียบร้อย  ไม่พูดเล่นเกินวิสัยหญิง เมื่อเป็นเช่นว่านี้ ผู้ชายย่อมเกรงใจและนิยมยกย่อง  เกี่ยวกับเพศตรงข้ามต้องเชื่อตามโบราณอย่างเคร่งครัดคือ

"อย่าชิงสุกก่อนห่าม" หรือสุนทรภู่กล่าวไว้ในสุภาษิตสอนหญิงว่า "เมื่อสุกงอมหอมหวานจึงควรหล่น" ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายนั้น  ผู้ชายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหาย แม่-พ่อ-ปู่-ย่า หวั่นใจในลูกผู้หญิงว่าจะไปเสียทีเขา  ราคีนั้นจะติดตัวไปจนตลอดชีวิต  ถึงแม้จะมีครอบครัวในภายหน้านั้นราคีก็หาลบไปไม่  ขอให้หลานกลัวในเรื่องนี้ด้วย



         ย่า-ปู่ มีความตั้งใจว่า จะให้หลานทุกคนเรียนจนถึงที่สุดเท่าที่หลานอยากจะเรียน  เพราะการเรียนเป็รเครื่องเชิดชูเกียรติ  ทำคนต่ำต้อยให้เป็นคนสูง  การนำเอาความรู้ที่เรียนไปใช้ให้เป็นประโยชน์นับเป็นอาภรณ์อันล้ำค่า



         นอกจากเรียนหนังสือเรียนในหลักสูตรแล้ว หลานต้อง ขยันอ่านหนังสือที่ดีทั่วไปด้วย  หมั่นบันทึกจดจำ  อ่านมากทำให้กว้างขวาง  การเรียนทำให้แม่นยำ  หมั่นตรึกตรองขบคิดทำให้ลึกซึ้ง



          วิชาแต่ละวิชามีคุณอยู่แล้วในตัว  ถ้ารอบรู้หลายวิชาก็เป็นการเก็บเอาคุณนั้นๆมารวมไว้ในตัวเรา  ประวัติศาสตร์ทำให้รอบรู้เพิ่มพูนไหวพริบ  วรรณกรรมทำให้หลักแหลมและรื่นรมณ์ คณิตศาสตร์ฝึกคนให้ละเอียดถี่ถ้วน  จริยธรรมหรือศีลธรรมทำให้คนรักสงบ



           คนเราจะดีได้ นอกจากต้องมีการศึกษาแล้ว ต้องมีการอบรมที่ดีด้วย ดูเหมือนประการหลังจะมีความสำคัญกว่า



           การอบรมที่สำคัญคือบ้านหรือครอบครัว  หลานถึงพร้อมในข้อนี้แต่ที่สำคัญอย่ายิ่งคือการคบเพื่อน  เรื่องนี้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "คบคนเช่นใดมักเป็นคนเช่นนั้น (ยัง เว เสวติ ตาทิโส)" หลานต้องพยายามคบหาสมาคมกับคนดีเพื่อจะได้ถ่ายทอดลักษณะที่ดีของเขา ซึ่งจะเป็นคุณประโยชน์กับเราไปตลอดชีวิต  คนดีเมื่อเราเข้าใกล้ ทำให้เราอยากเป็นคนดี คนสงบ



          นอกจากอาศัยคนอื่นในการึกอบรมแล้ว  การฝึกฝนตนเองจัเป็นการสำคัญอย่างยิ่งยวด  คืดฝึกฝนตนเองให้เอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำ  ไม่ยอมทำในสิ่งที่ฝืนมโนธรรมของตน  คนที่ชนะตนเองได้เป็นคนประเสริฐอย่างแท้จริง



          หลานต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนขยันหมั่นเพียร โดยถือหลักของพระพุทธเจ้าที่ว่า "ขยันมีชีวิตอยู่ปีเดียว ประเสริฐกว่าคนเกียจคร้านมีชีวิตอยู่ถึงร้อยปี" จงใช้เวลาให้เป็ฯประโยชน์  คนขยันเมื่อมีชีวิตล่วงไปก็นำประโยชน์นั้นติดไปด้วย  คนทำงานมาอาจไม่ได้เป็นคนสำคัญทุกคน  แต่คนสำคัญทุกคนต้องทำงานมากและขยันเสมอ



         ความจริง ความสำคัญของชีวิตเพื่อความถูกต้องยังมีอีกมาก แต่เอาเท่านี้ก่อน  ถ้าหลานอบรมตนให้เป็นไปตามอย่างที่ว่านี้  ประโยชน์ต่างๆไม่ตกอยู่เพียงกับหลานเท่านั้น  แต่ตกถึงคนรอบข้างอันมี แม่-พ่อ ปู่-ย่า พี่และน้องอีกด้วย  ขอให้หลานจงสำเร็จประโยชน์ที่ถูกต้องโดยธรรมทุกเมื่อ

                                 ด้วยความรักและห่วงใย

                                             ปู่-ย่า
.....................................................................