กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: nok2009 ที่ 24 มิ.ย. 2552, 07:31:36
-
การอโหสิกรรม ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การยกโทษ หรือ ไม่เอาโทษนั่นเอง
เราไม่รู้ว่าเราได้เคยทำอะไรไว้ ให้ผู้อื่นเขาได้รับความทุกข์กาย ทุกข์ใจ หรือทุกข์ใดๆก็ตาม เมื่อชาติปางก่อนหรือชาตินี้ก็ตาม
ถ้าเราคิดง่ายๆว่า เมื่อมีคนมาทำร้ายเรา เราย่อมแค้นใจ หวังจะแก้แค้นเขาคืน
เมื่อเป็นแบบนี้โดยปกติ คนอื่น สัตว์อื่นก็คิดแบบนี้เหมือนกัน หากเขาถูกทำร้าย เขาย่อมแค้นใจหวังว่า และรอจะแก้แค้นเราเหมือนกัน
ผู้ที่เราทำให้เขาเจ็บและเขายังคงพยาบาท แค้นใจ รอเวลาที่เหมาะสมที่จะ ทำร้าย หรือ แก้แค้นเรา เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร
การขออโหสิกรรม คือ การขอโทษต่อเจ้ากรรมนายเวร ขอให้เจ้ากรรมนายเวรยกโทษ เว้นโทษ ละโทษให้ ซึ่งเขาจะยกให้หรือ ไม่ยกก็สุดแท้แต่เขา ว่าแค้นเรามากหรือ น้อยเพียงใด
เราเจ็บป่วย ปวดหัว ปวดท้อง ไม่สบายตัว โดยไม่มีสาเหตุ โดยไม่รู้ตัว หรือ เป็นแล้วรักษาไม่หาย หากแต่ว่า ถึงเวลาหนึ่งมันก็หายไปเองดื้อๆ อาจารย์บางท่านสอนว่า นี้เป็นผลกรรมเก่าที่เราได้ทำไว้ เจ้ากรรมนายเวรเขามาเอาคืน บางคนร้ายแรงมากถึงขั้น เลือดตกยางออก หรือไม่ก็เสียชีวิตก็มี ซึ่งในชีวิตประจำวันเราจะได้ยินบ่อยๆ
ผมมีตัวอย่างของน้องสาวเอง ซึ่งมีอาการปวดท้องขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุต้องทนเจ็บอยู่ยะระหนึ่ง น้องเล่าว่า เมื่อปวดมากจึงคิดถึงเจ้ากรรมนายเวรว่าคงเคยทำอะไรใครไว้ และที่คุณครูเคยสอนว่า ให้ขออโหสิกรรม น้องผมจึงขออโหสิกรรม แล้วปรากฏว่า อาการปวดท้องที่เป็นอยู่หายไปอย่างรวดเร็ว น้องผมเลยอุทานว่า "ยาทิพย์จริงๆ" ในใจเราก็คิดว่าอาจบังเอิญก็ได้ แต่พอเกิดหลายๆครั้ง หลายอาการ น้องผมก็บอกว่า การขออโหสิกรรมเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก ไม่ต้องใช้ยาหมอรักษา การขออโหสิกรรม เป็นเหมือนยาทิพย์จริงๆ
จึงแนะนำว่า ให้ขออโหสิกรรมทุกวันหลังสวดมนต์ก่อนนอน และถ้าเป็นไปได้ก็ตอนตื่นขึ้นมาเช้าด้วย
อภัยทาน ถ้าพูดง่ายๆก็คือการยกโทษให้ผู้อื่นนั้นเองครับ แต่ว่าการยกโทษแบบอภัยทานนี้ เป็นการยกโทษให้แบบเป็นรูปแบบที่จะก่อให้เกิดบุญ ที่เราจะจำได้ ถ้าแปลตามตัว คือ การให้อภัยเป็นทานนั่นเองครับ
การให้อภัยทาน คือ เมื่อเราให้แล้ว ทุกอย่างที่เราโกรธ แค้นเคือง พยาบาทอยู่ ต้องไม่มีอีก ใจเราต้องมีเมตตากรุณา อยากให้ผู้อื่น สัตว์อื่น มีความสุขและพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราเองก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน หรือ หากความแค้น พยาบาทในใจยังมีอยู่ แต่ขอให้การกระทำของเราจบลงสิ้นสุดลงก็ใช้ได้แล้ว (วิปัสนาว่า ใจจะแค้นก็ช่างเรื่องของใจ แต่เราไม่แค้น)
การอภัยทาน เป็นเหมือนการหยุดเวรหยุดกรรมของตัวเราเอง เพราะยังหากมีการล้างแค้นกันอยู่ กรรมเวร ก็ไม่หมดสักที เราก็เกิดซ้ำๆ เพื่อชดใช้กรรมที่ได้ก่อขึ้นเพียงเพื่อความสะใจที่ได้ล้างแค้น ถ้าเราล้างใจตัวเองให้อภัยผู้อื่นสัตว์อื่น แม้ว่าเราจะก่ออันตรายร้ายแรงให้กับเรา ให้ถือซะว่าเป็นกรรมของเราเอง อภัยให้เขา แค่นี้ภพชาติที่ต้องเกิดก็น้อยลง
ที่มา : ธรรมะดอทคอม
-
คำขออโหสิกรรมและอภัยทานง่ายๆ สำหรับผู้ที่อาจยังไม่รู้จักหรือยังไม่เคยนะครับ
ข้าพเจ้า...........(ชื่อ นามสกุลเรา) กราบขออโหสิกรรม
กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยได้กระทำให้ท่านทั้งหลายมีความทุกข์ทางกาย
กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยได้กระทำให้ท่านทั้งหลายมีความทุกข์ทางใจ
กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายมาแล้ว ด้วยกายก็ดี
ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี เจตนาก็ดี ไม่ได้เจตนาก็ดี
กรรมทั้งหมดทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้กระทำแก่ท่านทั้งหลายแล้วในอดีตชาติ ทุกๆภพทุกๆชาติก็ดี ชาตินี้ก็ดี
ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ขออย่าได้จองเวรจองกรรมกับข้าพเจ้าอีกต่อไปเลย
แม้แต่กรรมใดที่ท่านทั้งหลายเคยได้กระทำแก่ข้าพเจ้าแล้วในทุกๆภพทุกชาติ ข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมให้แก่ท่านทั้งหลายด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้าของยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรต่อกันไป
จากนั้นก็อุทิศส่วนกุศลจากการอภัยทาน ผลกุศลจากผลบุญอื่นให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยเพื่อเข้าจะได้มีสุขขึ้นๆไปครับ
-
การอภัยทาน เป็นเหมือนการหยุดเวรหยุดกรรมของตัวเราเอง เพราะยังหากมีการล้างแค้นกันอยู่ กรรมเวร ก็ไม่หมดสักที เราก็เกิดซ้ำๆ เพื่อชดใช้กรรมที่ได้ก่อขึ้นเพียงเพื่อความสะใจที่ได้ล้างแค้น ถ้าเราล้างใจตัวเองให้อภัยผู้อื่นสัตว์อื่น แม้ว่าเราจะก่ออันตรายร้ายแรงให้กับเรา ให้ถือซะว่าเป็นกรรมของเราเอง อภัยให้เขา แค่นี้ภพชาติที่ต้องเกิดก็น้อยลง
...อนุโมทนากับท่านnok2009ด้วยครับ กับบทความดีๆแบบนี้....
...สาธุ...
-
ขออนุโมทนาด้วยครับ
-
ขอบคุณครับ จะขอนำไปบอกต่อกับเพื่อนๆผมครับ :054:
-
การให้อภัย คือสิ่งที่ดีเสมอ และคำว่าขอโทษ แค่คำเดียวก็หยุดสงครามได้ ... :089:
-
ให้อภัย พูดง่าย ทำยาก แต่ถ้าทำได้ใจจะเป็นสุขครับ
-
สาธุ อนุโมทนากับบทความดีๆ ครับผม
วิเคราะห์ในแนวเด็กพระจอม ...
อภัย น่าจะตรงกับกับ โกรธ พยาบาท ริษยา
การให้อภัย มีหลายปัจจัย ความเป็นผู้ฝึกตนมาดี มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง ก็สามารถยับยั้งช่างใจได้
คนที่ลุอำนาจความโกรธ มักจะเป็นผู้มีอำนาจ หรือ ความสามารถเหนือผู้อื่น ใครทำให้ขุ่นข้อง หมองใจ ใส่ทันที ไม่มียั้ง
วิธีเช็คการให้อภัยแบบง่ายๆ และใกล้ตัว
ยุงตัวกระจิ๊ดริ๊ด มดต้วน้อย ตัวนิด ขอเลือดเราไม่ถึงหยุด เราเคยให้อภัยเขาหรือเปล่า ??
อย่าเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญ ถ้าสิ่งเล็กน้อยยังมองข้าม เท่ากับเพาะ ความโกรธ พยาบาทไว้ในใจ
ต่อไปถ้ามีอำนาจยิ่งใหญ่ ใครเลยจะรู้ว่าเราจะไม่ ทำลายล้าง คนที่ด้อยกว่า
ต้องฝึกสติ มีเมตตา ให้อภัยเพราะกลัวเวรภัย หาใช่ให้อภัยเพราะกลัวตัวเองเดือนร้อนหรือเป็นทุกข์
-
เป็นบทความที่ดีมากครับท่าน................. :002:
-
อภัยทาน = การให้ทานด้วยการให้อภัย... เพื่อหยุดเวร หยุดกรรมของตัวเราเอง! เพราะเราไม่ทราบว่าชาติก่อนเราได้ไปทำเวรทำกรรมกับใคร...
ชาตินี้เขาเหล่านั้นจึงมาเอาคืน....
การเกิดก็คือการใช้กรรม...จากชาติที่แล้ว....
แล้วคนที่ทำงานอยู่โรงฆ่าสัตว์ หมู วัว ควาย... เขาจะทำอย่างไร?... ท่านนก ช่วยอธิบายให้พี่โชวทีค่ะ :100:
พี่โชวเคยไปศึกษาการทำงานที่โรงฆ่าไก่แถบสมุทรปราการค่ะ.. เป็นการทำงานทุกขบวนการตั้งแต่ขั้นตอนการนำสัตว์มาจากฟาร์มเลย การฆ่า ชำแหละ แยกชิ้น จนกระทั่งแปรรูปใส่แพคขายค่ะ
พอชมทุกอย่างเสร็จ.. กลับมาซักซ้อมความเข้าใจก่อนจบขบวนการศึกษางาน... เขามีของว่างคือ ไก่ทอดแปรรูปรสชาติต่างๆ หลายคนก็ไม่อยากรับประทานเลยทีเดียว
ขั้นตอนการฆ่าไก่นุ่มนวลมาก: เขาจะเคลื่อนย้ายไก่ไปด้วยความสงบ ทั้งอุณหภูมิ อากาศ แสงสว่าง ว่าง่ายๆ ทำให้ไก่สงบที่สุด
แล้วก็ค่อยๆ อุ้มเขาด้วยความนุ่มนวล กล่าวคือไม่ให้ตกใจ ร้องดิ้นๆ สบัดปีก.. ถ้าเขายังตกใจก็ต้องผ่านไปจับตัวที่สงบที่สุดค่ะ
จากนั้นก็ผ่านกระแสไฟ (จำมิลลิแอมป์ไม่ได้) เพื่อให้เขาสลบก่อน (เป็นการเตรียมตัวตาย)
จากนั้นก็เริ่มใช้มีดปลายแหลมปาดคอหอยให้ตาย... ชำแหละ ฯลฯ.. :070:
อย่างนี้นี่เองเขาจึงมีศัพท์แสงให้พูดกันว่า เชือดนิ่มๆ .. เหตุผลการฆ่าไก่วิธีนี้เป็นกฏหมายบังคับค่ะ กล่าวคือ จะต้องให้เขาไปด้วยความสงบ สบายที่สุด... โดยไม่ทรมานค่ะ
ดูจบขั้นตอนก็แหยงๆ ไปพักใหญ่... แต่นี่ยังดีแค่สัตว์ปีก.. เคยเห็นเขาล้มวัว ล้มควาย น้ำตาไหลพรากๆ โดยไม่ต้องสั่งเลย.... เฮ้อ... เศร้าแท้..
-
อภัยทาน = การให้ทานด้วยการให้อภัย... เพื่อหยุดเวร หยุดกรรมของตัวเราเอง! เพราะเราไม่ทราบว่าชาติก่อนเราได้ไปทำเวรทำกรรมกับใคร...
ชาตินี้เขาเหล่านั้นจึงมาเอาคืน....
การเกิดก็คือการใช้กรรม...จากชาติที่แล้ว....
แล้วคนที่ทำงานอยู่โรงฆ่าสัตว์ หมู วัว ควาย... เขาจะทำอย่างไร?... ท่านนก ช่วยอธิบายให้พี่โชวทีค่ะ :100:
พี่โชวเคยไปศึกษาการทำงานที่โรงฆ่าไก่แถบสมุทรปราการค่ะ.. เป็นการทำงานทุกขบวนการตั้งแต่ขั้นตอนการนำสัตว์มาจากฟาร์มเลย การฆ่า ชำแหละ แยกชิ้น จนกระทั่งแปรรูปใส่แพคขายค่ะ
พอชมทุกอย่างเสร็จ.. กลับมาซักซ้อมความเข้าใจก่อนจบขบวนการศึกษางาน... เขามีของว่างคือ ไก่ทอดแปรรูปรสชาติต่างๆ หลายคนก็ไม่อยากรับประทานเลยทีเดียว
ขั้นตอนการฆ่าไก่นุ่มนวลมาก: เขาจะเคลื่อนย้ายไก่ไปด้วยความสงบ ทั้งอุณหภูมิ อากาศ แสงสว่าง ว่าง่ายๆ ทำให้ไก่สงบที่สุด
แล้วก็ค่อยๆ อุ้มเขาด้วยความนุ่มนวล กล่าวคือไม่ให้ตกใจ ร้องดิ้นๆ สบัดปีก.. ถ้าเขายังตกใจก็ต้องผ่านไปจับตัวที่สงบที่สุดค่ะ
จากนั้นก็ผ่านกระแสไฟ (จำมิลลิแอมป์ไม่ได้) เพื่อให้เขาสลบก่อน (เป็นการเตรียมตัวตาย)
จากนั้นก็เริ่มใช้มีดปลายแหลมปาดคอหอยให้ตาย... ชำแหละ ฯลฯ.. :070:
อย่างนี้นี่เองเขาจึงมีศัพท์แสงให้พูดกันว่า เชือดนิ่มๆ .. เหตุผลการฆ่าไก่วิธีนี้เป็นกฏหมายบังคับค่ะ กล่าวคือ จะต้องให้เขาไปด้วยความสงบ สบายที่สุด... โดยไม่ทรมานค่ะ
ดูจบขั้นตอนก็แหยงๆ ไปพักใหญ่... แต่นี่ยังดีแค่สัตว์ปีก.. เคยเห็นเขาล้มวัว ล้มควาย น้ำตาไหลพรากๆ โดยไม่ต้องสั่งเลย.... เฮ้อ... เศร้าแท้..
ว่ากันว่า ใครก็ตามที่เวลามีคนมาชวนทำบุญหรือความดี
พูดปรามาสประมาณว่า "เบื่อจริง ไอ่พวกคำก็บุญ สองคำก็บุญ ชาติหน้าขออย่าได้เจอเลย ตั้งจิตแบบนั้น ได้เกิดมาทำบาปเต็มสูบ"
แต่ถ้าวิเคราห์แบบเด็กพระจอม คิดว่า
บาปย่อมดึงดูดคนที่มีอุปนิสัยในทางนั้นไป เวลาคนเราทำบุญแล้วอธิษฐานมักมองข้าม การตั้งจิตให้เกิดกี่ภพกี่ชาติ
"ขอให้้ข้าพเจ้าเป็นคนรักความดี ทำความดีได้ง่าย เท่าที่ทำได้ ขอให้ข้าพเจ้า ทำชั่วไม่ขึ้น เกลียดกลัวความชั่วไปทุกภพทุกชาติ"
ส่วนมากจะปล่อยใจลอยๆ ขอ เอารวย เอาหล่อ อย่างเดียว แต่เลวยันใส้ ก็ไม่ไหวนะนั้น
ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอธิษฐานใหม่ครับ
-
การให้อภัย คือสิ่งที่ดีเสมอ และคำว่าขอโทษ แค่คำเดียวก็หยุดสงครามได้ ... :089:
Only the dead have seen the end of war
"มีแต่คนตายเท่านั้นที่เห็นจุดจบของสงคราม". เพลโต.
[size=13ptเขามีของว่างคือ ไก่ทอดแปรรูปรสชาติต่างๆ หลายคนก็ไม่อยากรับประทานเลยทีเดียว
ขั้นตอนการฆ่าไก่นุ่มนวลมาก: เขาจะเคลื่อนย้ายไก่ไปด้วยความสงบ ทั้งอุณหภูมิ อากาศ แสงสว่าง ว่าง่ายๆ ทำให้ไก่สงบที่สุด
แล้วก็ค่อยๆ อุ้มเขาด้วยความนุ่มนวล กล่าวคือไม่ให้ตกใจ ร้องดิ้นๆ สบัดปีก.. ถ้าเขายังตกใจก็ต้องผ่านไปจับตัวที่สงบที่สุดค่ะ
จากนั้นก็ผ่านกระแสไฟ (จำมิลลิแอมป์ไม่ได้) เพื่อให้เขาสลบก่อน (เป็นการเตรียมตัวตาย)
จากนั้นก็เริ่มใช้มีดปลายแหลมปาดคอหอยให้ตาย... ชำแหละ ฯลฯ.. :070:
อย่างนี้นี่เองเขาจึงมีศัพท์แสงให้พูดกันว่า เชือดนิ่มๆ .. เหตุผลการฆ่าไก่วิธีนี้เป็นกฏหมายบังคับค่ะ กล่าวคือ จะต้องให้เขาไปด้วยความสงบ สบายที่สุด... โดยไม่ทรมานค่ะ
ดูจบขั้นตอนก็แหยงๆ ไปพักใหญ่... แต่นี่ยังดีแค่สัตว์ปีก.. เคยเห็นเขาล้มวัว ล้มควาย น้ำตาไหลพรากๆ โดยไม่ต้องสั่งเลย.... เฮ้อ... เศร้าแท้..[/size]
นอกจากกฏหมายของฝรั่ง
แล้วเป็นเรื่องทางการค้า
การที่สัตว์มีความเครียดความหวาดกลัว
ก่อนตายจะทำให้เนื้อไม่อร่อย
เน่าเสียง่าย
-
สาธุ...............อโหสิกรรม อภัยทาน เป็นบุญสูงสุดครับ ................สวัสดี :114: :114: :114:
-
อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับ 36;
-
ไอ้กรรมตัวหนักๆ ขออโหสิกรรม มักขอไม่ได้ผล ต้องปฎิบัติกรรมฐาน แล้วตั้งจิต
อุทิศส่วนกุศล ให้บ่อยๆ ทำไปเลื่อยๆ แล้วอาจจะดีขึ้น
ชาติไหนไม่รู้ คุณไปทำร้าย ไปฆ่าเขา อย่างโหดเหี้ย(ม) แล้วเขาจะ
ยกโทษ ให้ง่ายๆ หรือ?