กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 30 ม.ค. 2553, 08:06:59
-
๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕
ตถตาอาศรม ริมฝั่งน้ำโขง
"อยู่คนเดียวระวังจิต อยู่กับมิตรระวังวาจา"เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ที่กล่าวสืบต่อกันมา
และเป็นคำสอนที่ไม่เคยตกยุค ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ขอให้เราเพียงคิดพิจารณาและนำมาปรับใช้
เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้น ต้องพบปะและสนทนากับผู้คนมากมาย หลากหลายเรื่องราว
และคำพูดของเรานั้นอาจจะเป็นคุณและเป็นโทษได้ จึงจำเป็นที่จะต้องคิดก่อนที่จะกล่าววาจาออกมา
เพื่อให้ถูกกาละเทศะ ให้เหมาะสมกับจังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่และบุคคล เพราะถ้าเราไม่สำรวม
วาจา ไม่รู้กาละเทศะ คำพูดของเรานั้นอาจจะนำมาซึ่งความขัดแย้งและปัญหา
การที่เราจะคิดพิจารณาก่อนที่จะกล่าววาจาได้นั้น มันต้องผ่านการฝึกสติมาก่อน ให้สติมีกำลัง
พอที่จะยับยั้งความเคยชินที่เคยกระทำมา ดั่งคำโบราณที่กล่าวเป็นคำกลอนสอนสืบต่อกันมาว่า
"อันอ้อยตาล หวานลิ้น ยังสิ้นซาก...แต่ลมปาก หวานหู ไม่รู้หาย" การกล่าวปิยะวาจาจึงเป็นสิ่งที่
สมควรกระทำให้สม่ำเสมอ เมื่อเราอยู่กับผู้คนในสังคมที่หลากหลาย
แต่เมื่อเราอยู่คนเดียว ไม่มีผู้คนรอบข้าง สิ่งที่เราต้องพึงระวังก็คือ"จิตและความคิดของเรา"
ที่มันปรุงแต่งไปสารพัดสารพัน สร้างจินตนาการ จนกลายเป็นอุปทานเข้าไปยึดถือในความคิดนั้น
เราต้องรู้จักที่จะควบคุมความคิดของเรา โดยการฝึกให้มีสติและสัมปชัญญะ เพื่อควบคุมจิตของเรา
สติและสัมปชัญญะจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการควบคุม กาย วาจา ใจ ของเรา ทุกอย่างจึงรวมลงที่สติ
และสตินั้นต้องเป็นสัมมาสติ มีองค์แห่งคุณธรรมคือความละอายและเกรงกลัวต่อบาปควบคุมอยู่
เพื่อที่จะไห้คิดดี พูดดีและทำดี"บทสรุปมิได้อยู่ที่ความคิดหรือคำพูด แต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ"
เพราะเพียงแต่คิดและพูดนั้น มันยังไม่เห็นผลที่เป็นรูปธรรม เราจึงต้องนำความคิดคำพูดนั้นมาปฏิบัติ
คำสอนในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ จึงจะเห็นผลเพราะมันเป็น"ปัตจัตตัง"
และก่อนที่เราจะหวังในคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่นั้น จงถามตัวท่านเองเสียก่อนว่า"สติสัมปชัญะของเรานั้น
มีกำลังเพียงพอแล้วหรือยัง"มีสติเต็มรอบแล้วหรือยัง"ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าหนึ่งจิต ขอเพียงเราคิดและพิจารณา"
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๒๐.๐๘ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
-
ขอบคุณครับสำหรับคำสอนดีๆ ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยนะครับ :054:
-
อ่านแล้ว ได้คำสอนดีๆเยอะเลย
ต้องหมั่นควบคุม วาจาอีกเยอะเลย
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
:054:
-
คำสอนในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ จึงจะเห็นผลเพราะมันเป็น"ปัตจัตตัง"
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณที่เมตตาสั่งสอนครับ
-
"บทสรุปมิได้อยู่ที่ความคิดหรือคำพูด แต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ"
....กราบนมัสการขอบพระคุณพระเมตตาชี้แนะครับ...
-
ขอบคุณครับผมสำหรับข้อคิดดีๆ
-
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ด้วยนะคะ :054:
ขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอนดีๆ คะ
อ่านแล้วจะนำไปปฏิบัติ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไปคะ
-
สาธุ สาธุ สาธุ ภันเต
นมสฺเต อาจาริเย
-
กราบนมัสการพระอาจารย์ขอบพระคุณที่สั่งสอนศิษย์ทั้งหลาย............. :054: :054: :054:
-
กราบนมัสการและขอบพระคุณ ครับ
-
กราบนมัสการครับกับบทความดีๆครับ :054: :054: :054:
-
นมัสการขอบคุณพระอาจารย์ครับ...
-
กราบนมัสการครับ............... :090: :090: :114: :090:..............
-
execution excellence... บทพิสูจน์แห่งความสำเร็จ คือผลสัมฤทธิ์จากกการปฏิบัติไปตามแผนที่วางไว้!
ผู้คนมักพูดได้แต่ปฏิบัติไม่ได้.. เพราะไม่เห็นคุณค่าคำพูดจากความคิดของตน...
บางคนลั่นวาจาว่าจะไม่นั่นไม่นี่.. สุดท้ายตัวเองเป็นเองทุกอย่างตามที่ได้ลั่นวาจา หรือปรามาสไป..เสมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า..สุดท้ายรดหน้าตัวเอง!
สร้างคุณค่าให้ตัวเอง เพียงทำตามที่พูดให้ได้...พูดจริง ทำจริง...เจ็บจริง จี้ดจริง..:009:
นมัสการหลวงพ่อค่า!
-
เหมาะกับสถาณะการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้จริงๆ ที่มีแต่คนขาดสติ
สาธุ
-
ปัจจัตตัง
คำแปล2
ว. เฉพาะตน, (ศน.) พระธรรมคุณบทหนึ่งว่าปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า พระธรรมอันผู้บรรลุจะพึงรู้เฉพาะตัว, คำว่า ปัจจัตตัง ใน ที่นี้หมายถึงว่า ความสุขที่เกิดจากการบรรลุธรรม นั้น เป็นความสุขที่ผู้บรรลุจะรู้กับใจของตัวเอง ต้องปฏิบัติจึงจะรู้ไม่เป็นสิ่งที่จะรู้ได้ด้วยการฟังคนอื่นเล่าหรือให้คนอื่นปฏิบัติแทนตน.