กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: cho presley ที่ 07 ก.พ. 2553, 07:57:28

หัวข้อ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 07 ก.พ. 2553, 07:57:28
Cho...say hi...

ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยข่าวฮ็อต กระแสฮิต ของเหล่าผู้นิยมสะสมพระเครื่อง เครื่องราง จับตากระแสความนิยมเครื่องรางที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจของคนไทย..นานาทัศนะของเหล่าเซียนพระชื่อดัง ตบเท้าวิเคราะห์เจาะลึกเครื่องรางคู่คนไทยเสมอไม่เปลี่ยนแปลง..ยาวหน่อย แต่อ่านเพลินดีฮ่ะ.. :090:..

เซียนพระชี้วิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้คนเริ่มหันหาที่พึ่งทางใจ ทั้งประเภท "มีแล้วรวย มีแล้วแคล้วคลาด" ส่วนเครื่องรางของขลังยอดฮิตปี 2553  มีทั้ง "ชูชกนางกวัก-เศรษฐีทั้ง 9 ในตำนาน" กำลังมาแรง เผยทุกวัดเริ่มโหมทำการตลาดทั้งโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์ เคเบิลท้องถิ่นแบบไม่มีใครยอมใคร  ขณะที่ นักการเมืองไม่น้อยหน้าส่ง "นายหน้า" ตะลุยแหล่งเช่า "สมเด็จจิตรลดา" ส่งผลให้ราคาพุ่งปรี๊ด 2-5 ล้านบาท

ความเชื่อในเรื่องราวของอิทธิปาฏิหาริย์ของคนไทยนับวันจะมีเพิ่มมากขึ้นทำให้วงการการสร้าง "เครื่องรางของขลัง" คึกคักตามไปด้วย ยิ่งกระแสในช่วงต้นๆปีที่หมอดูที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของประชาชนออกมา "ชี้นำ"ด้วยการเดินสายออกรายการโทรทัศน์ แนะนำให้หาเช่าเครื่องรางของขลังต่างๆ เพื่อแก้เคล็ด เสริมดวงด้วยแล้วยิ่งทำให้เครื่องรางของขลังกลายเป็นที่สนใจของคนไทยที่ยามนี้กระแสการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ผันผวนยิ่งต้องการหาที่พึ่งทางใจมากขึ้น

      "ชูชก"  เครื่องรางเสริมความร่ำรวย
          จะว่าไปแล้วการบูชาชูชกนั้นมีมานานนับสิบปีแล้วแต่ไม่ได้โด่งดังเป็นที่ต้องการของประชาชนเหมือนเช่นทุกวันนี้เพราะการบูชาชูชกนั้นจะจำกัดอยู่ในวงแคบๆของลูกศิษย์ลูกหาเกจิอาจารย์บางรูปเท่านั้น โดยการบูชาชูชกนั้นเกิดจากความเชื่อที่ว่าหากใครได้ชูชกมาบูชาแล้วจะทำให้ทำมาหากิน ค้าขายรุ่งเรืองจนถึงขั้นสร้างความร่ำรวยให้กับผู้บูชาซึ่งในเรื่องนี้ พฤฒิพันธ์ วนเกียรติ หรือที่รู้จักกันในนาม "หมูมรดกไทย" เซียนพระชื่อดัง บอกกับ "ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์" ว่า การกำเนิดเครื่องรางชูชกนั้นเกิดจากบันทึก"ทศชาติ"ในมหาเวสสันดรชาดก ซึ่งชูชกเกิดในวรรณะ

          พราหมณ์ มีอาชีพเป็นขอทาน แม้จะเป็นผู้เฒ่าที่อัปลักษณ์ในรูปสังขาร แต่กลับมีเสน่ห์เมตตามหานิยม รู้จักเจรจาได้ไพเราะอ่อนหวาน ไปเอ่ยปากขอทานที่ไหนก็ไม่มีใครรังเกียจ มีแต่เมตตารักใคร่ ให้ทานตามที่เอ่ยปากขอ www.khalong.com มหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม

          นอกจากนี้ยังมีนิสัยที่ประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักใช้รู้จักเก็บเงินที่ขอมาได้จึงมีมากถึงขั้นเป็นเศรษฐี มีเมียก็เป็นสาวดรุณีแรกรุ่น สวยงามทั้งรูปร่างหน้าตา พร้อมกิริยาวาจา แถมซื่อสัตย์คอยปรนนิบัติพัดวี ไม่รังเกียจชูชกผัวแก่ คุณสมบัติที่ดีของชูชกเหล่านี้ ทำให้พระเกจิอาจารย์ในอดีต นำไปสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง และกลายเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้

          สำหรับเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกเครื่องรางชูชกในยุคแรกๆและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันคือชูชกของหลวงปู่รอด วัดวังน้ำวนจังหวัดสมุทรสาคร  โดยหลวงปู่รอดได้ปลุกเสกชูชก 2 แบบคือแบบแรกแกะจากงาช้าง มีการจัดสร้างแค่หลักร้อย ทำให้ราคาการเช่าขณะนี้อยู่ไม่ต่ำกว่าหลักล้าน แบบที่สองแกะจากไม้ขนุนซึ่งเป็นไม้มงคลจัดสร้างหลักพัน ราคาขณะนี้อยู่ที่หลักแสนต้นๆ
          
   หมู อธิบายต่อไปว่า นอกเหนือจากชูชกของหลวงปู่รอดแล้วทุกวันนี้มีเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศหันมาปลุกเสกชูชกเช่นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐมหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง, หลวงพ่อแลวัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม   หลวงพ่อไสว วัดปรีดารามจ.นครปฐม หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับจ.ระยอง หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรีหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยาหลวงพ่อคีย์ วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์ www.khalong.com

          "นี่ถือเป็นสุดยอดเกจิอาจารย์ที่คนทั่วไปให้ความศรัทธาว่ามีวิชาอาคมปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้เป็นที่น่าเลื่อมใสและมีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชูชกของพระเกจิเหล่านี้มีสนนราคาไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ส่วนคนทั่วไปที่มีความเชื่อและศรัทธาชูชกก็สามารถหาเช่าได้ทั่วๆไปเพราะตอนนี้มีหลายๆ วัดปลุกเสกชูชกให้เช่ามากมาย โดยสนนราคามีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน"

          ขณะที่ นัฐพงษ์ ชวาลรัตนกุล หรือต้นท่าพระจันทร์ เซียนพระชื่อดังอีกรายหนึ่ง บอกว่า กระแสการเช่าเครื่องรางของขลังของคนไทยตอนนี้จะเป็น "ความนิยม" ที่เกิดขึ้นจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยจะมุ่งเน้นหาเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม ซึ่งช่วงนี้กระแสชูชกนับว่ามาแรงไล่ๆกับพระพิฆเนศซึ่งกระแสจะอ่อนลงเล็กน้อย เมืองเสน่ห์กาหลง

          สำหรับชูชกนั้นมีการจัดสร้างมานานหลายสิบปีแล้วแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเพราะจะมีเกจิอาจารย์เพียงไม่กี่รูปที่จัดสร้างโดยนำความจากมหาเวสสันดรชาดกมาเทียบเคียงแล้วสร้าง เพราะในชาดกนี้ชูชกเป็นชายชรามีอาชีพขอทาน แต่เมื่อออกไปขอทานนั้นจะได้รับความเมตตาจากคนทั่วไป ไม่ว่าจะขอเมียก็จะได้เมียสวย ไปขอหลานกษัตริย์มาเป็นคนรับใช้ก็ยังได้ ซึ่งจากเหตุนี้ทำให้ผู้มีวิชาอาคมเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวแทนของเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมอีกอย่างหนึ่ง

          "น่าสังเกตว่าในช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจของโลกตกต่ำ คนทำมาหากิน คนค้าขายหรือทำธุรกิจที่เขามีความเชื่อในเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์ต่างก็ต้องหันมาพึ่งเครื่องรางของขลังที่เขาเชื่อว่าจะช่วยเขาได้ในยามนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหันไปพึ่งชูชก""สื่อ" ตัวช่วยปลุกกระแส

          อย่างไรก็ตาม ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ การปลุกเสกเครื่องรางของขลังจึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยการโฆษณาประชาสัมพันธ์เข้าช่วย ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์วิทยุ โทรทัศน์โดยเฉพาะเคเบิลทีวีที่มีมากมายถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยโหมกระแสการเช่าบูชาเครื่องรางของขลังให้ติดลมบนได้อย่างง่ายดาย
          
   ต้น อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า ความจริงเรื่องการอาศัยการโฆษณาก็มีมานานแต่ที่ใช้แล้วแรงและได้ผลจนกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปคือกระแสจตุคามรามเทพ ทำให้คนทั้งประเภทเข้าข่ายหลุดไปในกระแสมาแล้ว การใช้สื่อแขนงต่างๆ มาช่วยโหมกระแสชูชกจึงถือเป็นเรื่องปรกติ อย่าลืมว่าเครื่องรางของขลังนั้นไม่มีใครจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ มีแต่คนที่ใช้เท่านั้นที่จะรู้ว่าสิ่งที่ตนเองบูชานั้นให้ผลจริงหรือไม่อย่างไร ฉะนั้นการพิสูจน์ด้วยตัวเองโดยใช้กระแสเข้ามาช่วยในการตัดสินใจจึงถือเป็นทางเลือกที่คนในสังคมไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน

          สำหรับการโฆษณาของวัดที่ปลุกเสกชูชกหรือเครื่องรางอื่นตามสื่อต่างๆ ในปัจจุบันมีให้เห็นอยู่มากมาย เช่นเครื่องรางของขลัง ชูชกของ ครูบาเจ้าบุญเลิศ ปิยวัณโณ วัดศิวิลัยบรรพต (เข้าปกล้น) จ.ลพบุรี ชูชกของหลวงพ่อเอิบ ฐิตธัมโม วัดหนองหม้อแกง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เครื่องรางชูชก หลวงปู่พัน จังหวัดนครสวรรค์ ชูชกสมปรารถนา ของ หลวงปู่แดงดวงเศรษฐี วัดห้วยฉลอง จ.อุตรดิตถ์ พ่อปู่ชูชกบันดาลทรัพย์ ของ หลวงพ่อสุนทร ฐานวโรวัดสุทธาวาส

          "นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของเกจิอาจารย์ที่มีนับร้อยๆ รูปที่หันมาปลุกเสกชูชก ใครที่สนใจและที่บ้านติดเคเบิลทีวีจะเห็นช่องที่มีการเปิดให้เช่าบูชาเครื่องรางของขลังมากมายหลายอย่างโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าอะไรก็ตามที่เราทำแล้วสบายใจ และไม่ทำตัวให้ผิดศีล 5 บูชาอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น"

"สมเด็จจิตรลดา"ที่หมายตานักการเมือง
          ใช่ว่าแต่คนในสังคมทั่วไปเท่านั้น นักการเมืองไทยก็ถือเป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อในเรื่องราวของเครื่องรางของขลัง ซึ่งนักการเมืองที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาบนและสภาล่างนั้นล้วนแล้วแต่มีเครื่องรางป้องกันตัวเองแทบทั้งสิ้น

          ต้น ท่าพระจันทร์ บอกว่า นักการเมืองไทยร้อยทั้งร้อยจะมีพระเครื่องห้อยคออยู่แทบทุกคน ซึ่งเท่าที่คลุกคลีในวงการนี้มานานทำให้ทราบว่า นักการเมืองส่วนใหญ่จะยึดถือพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดของตนเองมากเพราะนั่นเท่ากับทำให้เขาสามารถเข้าไปเป็นศิษย์ที่ได้รับการยอมรับและได้คะแนนเสียงมาพร้อมๆ กัน

          อย่างไรก็ตาม หากจะเจาะลึกลงไปให้รู้ซึ้งถึงความเลื่อมใสศรัทธาของนักการเมืองแล้วจะพบว่าร้อยทั้งร้อยจะใช้พระพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด แต่จะเน้นการบูชาพระเครื่องมากกว่าเครื่องรางของขลังอื่นๆ เพราะพระเครื่องนั้นถือเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า และยังไม่เป็นที่จับตามองของคนอื่น แต่นักการเมืองนั้นจะเน้นพระที่ราคาแพง ซึ่งจะหายาก เช่นพระสมเด็จ พระในชุดเบญจภาคี ส่วนเหรียญนั้นจะเช่าเหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม จังหวัดสมุทรสงครามเหรียญหลวงปู่เอี่ยววัดหนัง หรือเหรียญของพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป แต่ราคาเหรียญเหล่านี้จะไม่ต่ำกว่าล้านบาท

          ต้น บอกอีกว่า ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้นมีบรรดาเซียนพระทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากต่างออกควานหาและต้องการที่จะครอบครอง เพราะพระสมเด็จจิตรลดาซึ่งเป็นพระเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองเพื่อพระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือน ในช่วงระหว่าง พ.ศ.2508-2513 มีทั้งสิ้นประมาณ 2,500 องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานด้วยพระหัตถ์พระองค์เอง มีเอกสารส่วนพระองค์ (ใบกำกับพระ) ซึ่งแสดงชื่อ นามสกุล วันที่รับ

          พระราชทาน หมายเลขกำกับทุกองค์  โดยนักการเมืองส่วนใหญ่ต้องการที่จะเช่าหามาเป็นของตัวเองมากพอๆ กับสมเด็จวัดระฆังเพราะมวลสารของสมเด็จจิตรลดานั้นเป็นของหายากเพราะได้นำเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศมาผสมรวมกันและทุกคนเชื่อว่ามีพระพุทธคุณที่ศักดิ์สิทธิ์มาก

          "ตอนนี้สมเด็จจิตรลดาถือเป็นพระเครื่องที่คนมีเงิน นักธุรกิจ นักการเมืองต้องการมากที่สุดแต่ก็เป็นพระเครื่องที่หายากมากแถมราคาก็สูงมาก คนทั่วๆไปเราๆท่านๆ รับรองหมดสิทธิ์เพราะราคาตอนนี้อยู่ที่องค์ละ 2-5 ล้านบาท"

จับตาเครื่องรางของเศรษฐีทั้ง 9
          ไม่ใช่มีแต่กระแสของชูชกเท่านั้นที่กำลังมาแรง ปัจจุบันเครื่องรางของขลังที่คนทั่วๆไปเชื่อว่าสามารถบันดาลโชคลาภ ความร่ำรวยให้กับผู้เช่าบูชาจะมีอีกหลายอย่างทั้งพระพิฆเนศกุมารทอง นกคุ้ม มารุมเรียกทรัพย์ และที่น่าจับตามองและคาดว่าจะได้รับความนิยมไม่แพ้ชูชกคือเศรษฐีทั้ง 9 ในพุทธทำนาย ซึ่งปัจจุบันนี้มีพระเกจิอาจารย์จากหลายๆวัดเริ่มที่จะปลุกเสกกันแล้ว

          สำหรับเศรษฐีทั้ง 9 นั้นเกิดจากความเชื่อที่ว่าในสมัยพุทธกาลมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน  ได้เป็นพุทธอุปัฏฐากของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและยั งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศในการทำบุญและเป็นยอดแห่งมหาเศรษฐีทั้งปวง ซึ่งเศรษฐีทั้ง 9 ประกอบด้วย ธนัญชัยมหาเศรษฐี ยัสสะมหาเศรษฐี สุมนะมหาเศรษฐี ชฏิสัสสะมหาเศรษฐีอนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี เมณฑกะมหาเศรษฐีโชติกะมหาเศรษฐี สุมังคละมหาเศรษฐี มหาอุบาสิกาวิสาขา (พระนางวิสาขา) ตอนนี้มีคนเชื่อว่าหากใครบูชาเศรษฐีทั้ง 9 นั้น ซึ่งจะเป็นคนเดียวหรือหลายๆคนหรือบูชาทั้ง 9 คนแล้วจะมีความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย เงิน ทอง โภคสมบัติ มีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสายจับตาหนุมาน-เบี้ยแก้มีดหมอ จะมาแรง
        
   นอกเหนือจากบูชาเครื่องรางของขลังเพื่อความร่ำรวยแล้ว คนส่วนหนึ่งยังให้ความสนใจหาเช่าเครื่องรางป้องกันที่เชื่อว่าสามารถช่วยแก้  "อวิชชา" มาไว้ป้องกันตัวด้วย เพราะในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมามีคนจำนวนมากเชื่อว่ามีคนเล่นไสยศาสตร์ที่เป็นอวิชชาเกิดขึ้นมากมาย
          
   หมู ยอมรับว่ากระแสดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆและสิ่งที่คนในวงการต้องการนอกเหนือจากการบูชาเครื่องรางที่เชื่อว่าสร้างความร่ำรวยแล้วยังหาเช่าเครื่องรางที่ป้องกันอวิชชาต่างๆ ไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่มองไม่เห็น ซึ่งเรื่องนี้คนโบราณเขามีความเชื่ออย่างมาก

          สำหรับเครื่องรางที่คนกำลังนิยมและหาเช่าบูชาเพราะเชื่อว่าสามารถแก้คุณไสยและป้องกันอันตรายได้ ประกอบไปด้วยเบี้ยแก้ หนุมานพญานาค เป็นต้น กล่าวสำหรับเบี้ยแก้นั้นทำมาจากเบี้ยพลู และเบี้ยจั่น สร้างโดยพระเกจิอาจารย์ซึ่งนำปรอทที่ถือกันว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์มาบรรจุไว้ในตัวหอยเบี้ย แล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดิน แล้วพระเกจิจะลงอักขระเลขยันต์ จากนั้นก็นำมาปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง ใช้เป็นเครื่องรางของขลังพุทธคุณเบี้ยแก้ ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันไข้ป่า เขี้ยวงาทุกอย่าง ป้องกันคุณไสยป้องกันยาพิษ ยาสั่ง รวมถึงอวิชชาอาถรรพ์อื่นๆ

          "เบี้ยแก้ที่เป็นต้นตำรับและเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปคือเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ปัจจุบันมีราคาหลักล้าน ส่วนรองลงมาจะเป็นเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ  และเบี้ยแก้หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่เป็นต้น"
          
   นอกเหนือจากเบี้ยแก้แล้วหนุมานก็กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะมีความเชื่อว่าหนุมานมีพุทธคุณป้องกันสิ่งชั่วร้าย ขับไล่เสนียดจัญไร และเรื่องการงานถือว่าดี เจริญก้าวหน้า จะเป็นที่โปรดปรานของเจ้านาย

          สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่สร้างเครื่องรางรูปหนุมานหรือลิงได้เข้มขลังมีหลายท่านด้วยกันเช่น หลวงพ่อดิ่ง คงคสุวัณโณ วัดอสุภาราม(บางวัว) ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุนอำเภอปากเกร็ด นนทบุรี หลวงปู่หนู ฉินนะกาโม วัดทุ่งแหลม อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี หลวงพ่อแล ทิตตัพโพ วัดพระทรง เพชรบุรี หลวงปู่สี วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา สายวิชาวัดประดู่โรงธรรม หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตารามอำเภอสรรค์บุรี ชัยนาท หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา

          เครื่องรางของขลังที่น่าจับตามองว่าจะได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งคือมีดหมอ เพราะมีดหมอนั้นมีพุทธคุณป้องกันภูตผีปีศาจ ขับไล่
วิญญาณ ป้องกันเขี้ยวงา ป้องกันคุณไสยการกระทำย่ำยีจากอวิชชา โดยมีดหมอที่ได้รับความนิยมแต่หายากมากและมีราคาหลักล้านคือมีดหมอของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

         "กระแสการบูชาของคนไทยเดี๋ยวนี้จะเน้นบูชาเครื่องรางของขลังกันมากกว่าพระบูชาต่างๆสาเหตุเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว คนส่วนใหญ่ขาดที่พึ่งจึงต้องหันไปพึ่งพา "สิ่งศักดิ์สิทธ์"เพื่อใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่สำคัญคนที่สร้างเครื่องรางของขลังเขาก็ดูกระแสความนิยมของคนในสังคมด้วยว่าเป็นไปในทิศทางไหนเขาก็จะเริ่มจัดสร้าง ซึ่งกระแสพระพิฆเนศ ชูชกและเศรษฐีทั้ง 9 หนุมาน เบี้ยแก้และมีดหมอ จะเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปี 2553 แน่นอน" ส่วนเรายังเหมือนเดิม ไม่สนกระแส อย่าได้แคร์ ยังไม่สั่นคลอนเรื่องชี้นำ บะบาย..cho.www.khalong.com มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
(http://img268.imageshack.us/img268/275/img6571rrrr.jpg)
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: umpawan ที่ 07 ก.พ. 2553, 08:04:28
ขอบคุณครับ  กระแสก็คือกระแส

พอเงียบก็เหมือนองค์พ่อจตุคามครับ  คนไทยนี่จริงๆเลย  :058:
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: aehjomthong ที่ 07 ก.พ. 2553, 10:06:06
คนที่กระพือข่าวที่เห็นในทีวีก็คือ หมอดูลักษณ์
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 07 ก.พ. 2553, 10:56:36
 :059:เชื่อเมื่อคิด   พินิจ          และศึกษา
          มั่นคงมา    เมื่อเห็น      เป็นเหตุผล
          ศรัทธามี  อย่าเพียงเห็น เป็นของตน
         บุญกุศล    ส่งให้          ได้สิ่งดี....
               ..........................
อย่าได้เป็นพวกมงคลตื่นข่าว จะกลายเป็นแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ
เมื่อเวลาผ่านไป แล้วจะเสียใจในภายหลัง จงมั่นคงในบุญกุศลศีลทาน
และมั่นคงศรัทธาในครูบาอาจารย์ แล้วท่านก็จะเจริญรุ่งเรือง....
       
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: ag ที่ 07 ก.พ. 2553, 04:52:58
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: นันท์นภัส ที่ 08 ก.พ. 2553, 12:48:51
วันนี้เพิ่งเช่าชูชกหลวงปู่รอด และหลวงปู่คีย์มาค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: A_hatyai ที่ 08 ก.พ. 2553, 08:14:40
ระวังจะเหมือนกับจตุคามนะครับ....ทุนหายกำไรหดกันไปตามๆกันทั้งคนสร้าง , คนเช่า
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: kaineverdie ที่ 08 ก.พ. 2553, 03:44:51
ตามเจ๊มา  CHO
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 08 ก.พ. 2553, 06:15:58
ตามเจ๊มา  CHO

อะนะ..
หัวข้อ: ตอบ: จับตากระแสความนิยมเครื่อรางเมตตา มหานิยม ชูชก-เศรษฐีนวโกฎิฮิต!
เริ่มหัวข้อโดย: ชินฺนปญฺชร ที่ 09 ก.พ. 2553, 07:27:02
แหม รูปประกอบ สวย จริงๆ