ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่รอด ศิษย์หลวงพ่อเดิม ที่ดำรงค์ขันธ์อยู่เวลานี้  (อ่าน 15981 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
หลวงปู่รอด วัดสันติกาวาส ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่
หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักท่าน ผมเลยเอาลิงค์ ที่เกี่ยวของมาให้ชมกัน

http://www.uamulet.com/articleAmuletBoardDetail.asp?qid=1122
อิติ สุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ  ฐิตคุโณ อาจาริโย จะมหาเถโร
มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
หลวงพ่อเดิม เรียกท่านว่า ไอ้เสือ เลยอ่ะ อิอิ

 หลวงปู่รอด ฐิตฺวิริโย(พระครูสถิตวีรธรรม)

ผู้สืบทอดพุทธาคม จากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

ในบรรดาพระเกจิอาจารย์ผู้เป็นศิษย์สืบสายพุทธาคมจาก ?หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ?ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น?เทพเจ้าแห่งปากน้ำโพ? ที่ยังดำรงชีพอยู่และมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วนั่นก็คือ ?พระครูสถิตวีรธรรม? หรือ ?หลวงปู่รอำด? และที่เรียกขานกันด้วยความเคารพว่า ?หลวงพ่อเสือ?
ปัจจุบันอายุ 83 ปี พรรษา 63 ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม และเจ้าอาวาสวัดสันติกาวาส ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ?หลวงปู่รอด? ชื่อเดิมว่า?บุญรอด แจ่มจุ้ย? เป็นบุตรของ นาย เพชร และ นางบุญมา นามสกุล ?แจ่มจุ้ย? ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม พงศ. 2464 ณ. บ้านโคน ต.พญาปั่นแดน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

หลวงปู่รอดได้ใช้ชีวิตเติบโตและร่ำเรียนวิชาความรู้ที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ครั้นอายุได้ 14 ปี ได้ย้ายบ้านปอยู่ที่ บ้านป่ามะม่วง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย รวม ระยะเวลา 3 ปี จากนั้นจึงย้อนกลับไปอยู่ที่บ้านโคนซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดกระทั่งอายุ 21 ปี จึงได้หันเหชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยการอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2485 ที่วัดเชิงหวาย ต.ตลุกเทียม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยมี พระครูญาณปรีชา วัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิกาหาด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ เจ้าอธิการพวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้ฉายาว่า ?ฐิตฺวิริโย? พักจำพรรษาอยู่ที่วัดเชิงหวายเป็นเวลา 2 พรรษา จำนั้นจึงย้ายมาอยู่ที่วัดสันติกาวาส ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ความรู้ทางธรรม ปี พงศ. 2489 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมโท สำนักวัดสันติกาวาส ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณูโลก ซึ่งท่านมีความชำนาญทางด้านเทศนาธรรม การบรรยายธรรม การปาฐกถาธรรม วิปัสสากรรมฐาน และ การก่อสร้าง(นวกรรม) มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการเขียนและอ่านอักขระขอม

หน้าที่การงานที่ได้รับ

*พ.ศ. 2489 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวันสันติกาวาส
*พ.ศ. 2491 เป็นพระกรรรมวาจาจารย์
*พ.ศ. 2493 เป็นเจ้าคณะตำบลวงฆ้อง
*พ.ศ. 2494 เป็นกรรมการสงฆ์ฝ่ายสาธารณูปาการ อำเภอพรหมพิราม
*พ.ศ. 2489-2499 เป็ฯผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม
*พ.ศ. 2509 เป็นพระอุปัชฌาย์
*พ.ศ. 2510 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม
*พ.ศ. 2520 เป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม
*พ.ศ. 2544 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอต่อไปอีก 3 ปี

เรื่องราวชีวิต?พระดีศรีพรหมพิราม? พระครูสถิตวีรธรรม หรือหลวงปู่รอด ฐิตฺวิริโย เจ้าอาวาสวัดสันติกาวาส ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ท่านมีชีวิตที่น่าศึกษามิใช่น้อย เมื่อครั้งยังเป็นฆราวาสท่านได้ชื่อว่าเป็น ?ลูกผู้ชายตัวจริง? คนหนึ่งทีเดียว ท่านไม่ใช่นักเลง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ แต่ก็อยู่ท่ามกลางหมู่นักเลงหลายก๊กหลายเหล่า เลยทำให้ชีวิตกล้าแกร่ง ค่อนข้างใจร้อน ใครพูดแสลงหูก็มีอารมณ์เหมือนกัน ถึงขนาดเคยมีเรื่องฟันแทงเกือบติดคุกทีเดียว แม้กระทั่งตอนจะบวชก็ยังมีมารมาผจญแต่ด้วยจิตใจที่หนักแน่น และไม่ยอมใครถ้าหากไม่มีเหตุผล ท่านจึงผ่านพ้นวิกฤติชีวิตที่น่าหวาดเสียวมาได้เสมออำเภอพรหมพิรามสมัยก่อน เป็นศูนย์รวมของบรรดาโจรผู้ร้าย มีทั้งเสือที่เป็นสัตว์และไอ้เสือที่เป็นคนเยอะแยะไปหมด ?เสือหลวย? เป็นเสือที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด นอกจากนี้ก็มี เสือเสงี่ยม,เสือดำ,เสือม้วน ซึ่งส่วนใหญ๋จะเป็น?เสือต่างถิ่น? เสียมากกว่า

หลงปู่รอดเล่าให้ฟังว่า มีเสืออยู่คนหนึ่งเมื่อมันชอบลูกสาวบ้านใด มันก็จะถือเหล้าขวดเดียวเข้าไปสู่ขอเอาดื้อ ๆ เวลาขึ้นบ้านไหนมันก็จะพูดว่า ?พ่อแม่มารับไหว้เดี๋ยวนี้ กินเหล้าแล้วผมขอลูกสาวไปเลยนะ?โยมพ่อของหลวงปู่รอดเป็นคนที่มีวิชา แต่ท่านไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร จนกระทั่งบวช เมื่อได้พบเจอเหตุการณ์ไอ้เสือปล้นต่าง ๆ ก็เลนขอรับการถ่ายทอดวิชาจากโยมพ่อเพื่อไว้ป้องกันตัว และช่วยเหลือคนอื่นลูกสาวชาวบ้านที่ถูกฉุดไป หลวงปู่รอดได้เมตตาตามไปช่วยกลับคืนมาได้เกือบหมด โดยไม่กลัวพวกเสือแต่อย่างใด เพราะสมัยนั้นพวกเสือต่าง ๆ ต้องมาพึ่งบารมีพ่อ ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณประจำตำบล ตกคืนนั้นพวกเสือมันมาตามคืน ท่านกำลังท่องหนังสืออยู่ได้ยินเสียงลั่นไกปืน 2-3 ครั้ง พอรู้ว่าถูกลอบยิงก็รีบวิ่งเข้ากุฏิไปคว้าขวานออกมา พร้อมตะโกนท้าพวกมันให้ออกมาฟันกันซึ่ง ๆ หน้า แต่มันก็ไม่กล้าและล่าถอยไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ท่านยังมานั่งคิดว่า เป็นเรื่องแปลกดีที่ยิงไม่ออก
ช่วงหนึ่งหลวงปู่รอดเคยคิดจะย้ายไปจำพรรษาที่อื่น เพราะพวกนักเลงเยอะ มีทั้งลักขโมย ปล้นสะดม และฆ่ากัน พระหลายรูปทนไม่ได้ต้องสึกออกไปเพราะความกลัว ตัวท่านเองตั้งใจจะเข้าไปเรียนบาลีที่กรุงเทพ ฯ แต่ญาติโยมไม่ยอมให้ไป ถึงขนาดนิมนต์เจ้าคณะตำบลละเจ้าคณะอำเภอมาช่วยอ้อนวอนไว้ จึงตัดสินใจอยู่ต่อมาจนถึงทุกวันนี้

เดิมทีหลวงปู่รอดท่านตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่ด้วยจิตยึดมั่นในทางธรรมก็ล่วงเลยไปถึงพรรษาที่ 9 และคิดจะลาสิขา แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะจิตใจอุทิศให้พระศาสนา อย่างเต็มเปี่ยม จนปัจจุบันย่างข้า 63 พรรษาแล้ว ตลอด 62 พรรษาที่ผ่านมา แทบจะกล่าวได้ว่าท่านไม่เคยหยุดนิ่ง เริ่มการสร้างวัดสันติกาวาสจากสภาพวัดร้างให้พลิกฟื้นคืนความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการเรียกความศรัทธาชาวบ้านอย่างสูง แต่ด้วยความเป็นคนจริงบวกกับการประพฤติปฏิบัติตนที่ทำให้ผู้คนเกิดความเคารพเลื่อมใส เพียงไม่นานก็ทำให้วัดสันติกาวาสมัความสมบูรณ์ทั้งด้านเสนาสนะ และศาสนวัตถุต่าง ๆ  นอกจากนี้ หลวงปู่รอดยังได้ใช้วิชาความรู้มาช่วยสงเคราะห์ผู้ที่ประสบทุกข์ร้อนทั้งร่างกาย และ จิตใจ อาทิ การเป่าหัว-เสกยารักษาโรค การดูดวง ซึ่งวิชาเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วท่านจะเรียนรู้ด้วยตนเองจากตำรับตำราเก่า ๆ ในช่วงที่ท่านได้อยู่รับใช้หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพนั้น ก็ได้รัยการถ่ายทอด ?คาถารอบโลก? ซึ่งเป็นคาถาที่หลวงพ่อเดิมท่านใช้ประจำตัว ไม่ว่าจะการพรมน้ำมนต์ หรือการปลุกเสกวัตถุมงคล โดยหลวงปู่รอดได้นำมาใช้เป็นคาถาประจำตัวเช่นกัน ซึ่งพระคาถานี้มีด้วยกัน 7 บท อาทิ คาถาหายตัว,คาถามหานิยม,คาถาคงกระพันชาตรี ฯลฯ
ทุกวันนี้หลวงปู่รอดได้เป็นที่พึ่งของชาวพรหมพิรามและใกล้เคียง มาให้เจิมรถบ้าง พรมน้ำมนต์ดูดวงต่อชะตาราศีบ้าง นอกจากเป็นเพราะท่านมีวิชาอาคมขลังแล้ว ยังมาจากชื่ออันเป็นมงคลนามว่า ?รอด? ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้รอดพ้นจากเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ จากร้ายกลายเป็นดี
แต่ท่านก็มักเตือนสติลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอว่า ใครที่มีวัตถุมงคลของท่านแล้วจะให้รอดเหมือนชื่อนั้นจะให้รอดทุกคนเป็นไปไม่ได้ เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งคู่กับมนุษย์ทุกคนไม่มีทางหนีความตายไปได้ จะตายช้าตายเร็ว ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่างรวมกันมาในโอกาสนี้ หลวงปู่รอด ท่านเมตตาจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น ?ไตรมาศ 47? เพื่อมอบให้ศิษยานุศิษย์ ที่รอคอยกันมานานได้ร่วมสร้างสาธารณกุศลภายในวัดที่ชำรุดทรุดโทรม พร้อมทั้งโรงครัวและร่วม ฉลองอายุครบ 83 ปี 63 พรรษา จึงขอเชิญศิษยานุศิษย์ทั้งหลายร่วมสร้างบุญกุศลในครั้งนี้ด้วย

ออฟไลน์ Arow

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 3
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อยากไปกราบท่านมากๆเลย
วัตถุมงคลของท่าน ที่วัดมีให้บูชาหรือไม่ครับ

ออฟไลน์ faro

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 3
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
มีให้เลือกมากมายเลยครับอีกทั้งหลวงปู่ยังได้เมตตาประพรมน้ำมนต์และเป่าคาถากำกับให้อีกครับ...ของดีไม่ต้องโฆษณาไม่ใช่ของศูนย์ออกจากวัดแท้และแน่นอน....มีอะไรสอบถามผมก็ได้นะครับผมคนพื้นที่ครับ administrats@hotmail.com.......อย่านะพุทธธัง-อย่านะธัมมัง-อย่านะสังฆัง-อิติอะระหัง-โจรัง-จังงัง-ภะคะวา.........สาธุ  :-*

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ตอนผมกลับบ้านที่ พิษณุโลก ผมก็ได้แวะไปหาท่านครับ อยู่ไม่ไกลจากพรหมพิราม แวะไปของที่เปิดให้บูชา

เหลือไม่มากครับ เหรียญ หลวงปู่รอด ขี่ไก่ ประสบการณ์ดีครับ ราคาไม่แพง น่าเกบครับ  ;D