เรื่องของวิปัสสนาญาณ
-การขึ้นต้นของการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าเอากันเต็มแบบจริง ๆ ท่านให้ใช้วิปัสสนาญาณก่อน คือว่าใช้อารมณ์วิปัสสนาญาณอย่างอ่อน ให้คิดถึงไตรลักษณญาณ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อันดับแรก ท่านให้คิดถึงความเป็นจริงของไตรลักษณญาณ
1. ทุกขัง การเกิดมาในโลก การมีชีวิตของคนและสัตว์มันเต็มไปด้วยความทุกข์ ที่มันทุกข์ก็เพราะอาการต่าง ๆ มันไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง มันไม่มีการทรงตัว ความทุกข์มันมีมาตั้งแต่เด็ก ความหิวก็เป็นทุกข์ ความป่วยไข้ไม่สบายก็เป็นทุกข์ การประกอบกิจการทุกอย่างเหน็ดเหนื่อยก็เป็นทุกข์ การพลัดพรากจากของรักของชอบใจก็เป็นทุกข์ และในที่สุดความตายเข้ามาถึงก็เป็นทุกข์ มีความทุกข์ตั้งแต่เด็ก ต่อมาเป็นผู้ใหญ่และก็แก่ตายในที่สุด มีความทุกข์ อนิจจัง ทุกขัง ต่อไปก็อนัตตาตามลำดับ
2. อนัตตา คิดตามความเป็นจริงว่าคนหรือสัตว์ก็ดีที่เกิดมาในโลกนี้ ในที่สุดก็ต้องตายเหมือนกันหมดทั้งโลก เราก็ตายเหมือนกัน
-เรื่องของวิปัสสนาญาณนั้น ส่วนสำคัญถ้าจะกล่าวให้ละเอียดก็คือ ตอนต้นที่จะเริ่มทำสมาธิ ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคนใช้กำลังปัญญาก่อน ปัญญานี่เป็นส่วนหนึ่งของวิปัสสนาญาณ อันดับแรกใช้ปัญญาของสมาธิ โดยการใช้อารมณ์เมตตาจิต เมตตาความรัก กรุณา ความสงสาร แผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง คือทั้งโลก ให้มีความรู้สึกว่าเราจะเป็นมิตรที่ดีของคนและสัตว์ทั้งหมด
กรุณาความสงสาร ถ้าคนหรือสัตว์ก็ตามเขามีความทุกข์ ถ้าไม่เกินวิสัยที่เราจะพึงช่วยได้ เราจะช่วยให้เขามีความสุข ตั้งใจตามนี้ไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
-เมื่อจิตมีอารมณ์โปร่ง มีความสุขดีแล้ว ต่อไปให้นึกถึงด้านวิปัสสนาญาณขั้นอ่อน มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า โลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ทุกอย่างไม่เที่ยงไม่มีการทรงตัว เราเองเกิดจากท้องมารดาใหม่ ๆ เป็นเด็กเล็ก ต่อมาก็เปลี่ยนแปลง กลายเป็นเด็กใหญ่ เป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นวัยกลางคน จนมาเป็นคนแก่ เป็นเพราะมันไม่เที่ยง ขณะที่ทรงร่างกายอยู่มันก็ไม่เที่ยง มีการป่วยไข้ไม่สบายเป็นปกติ ที่อาการไม่เที่ยงทำให้เราเป็นทุกข์ ในที่สุดพึงเข้าใจว่าในที่สุดเราก็ต้องตาย ก่อนตายเราก็เลือกทางไปว่าเราจะไปทางไหน ถ้าเราไปสวรรค์ เพียงแค่ให้ทานก็ได้ รักษาศีลก็ได้ ถ้าจะไปพรหมโลก ก็ต้องเจริญสมาธิจิตให้ได้ญาณสมาบัติ แต่ถ้าต้องการนิพพาน ก็ต้องให้เข้าใจตามความเป็นจริงด้วยปัญญา มีความเข้าใจว่าโลกนี้เป็นทุกข์ หาความสุขไม่ได้ ร่างกายมีความเกิดขึ้นและมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ถ้าเรายังมีร่างกายแบบนี้ เราก็มีแต่ความทุกข์ไม่สิ้นสุด ฉะนั้น ขึ้นชื่อว่าการเกิดมีร่างกายแบบนี้จะมีกับเราชาตินี้ชาติเดียวเป็นชาติสุดท้าย เราไม่ต้องการเกิดแบบนี้อีก เราต้องการนิพพาน
ขอขอบคุณที่มาจากเวป(และอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่)
http://kaskaew.com/index.asp?contentID=10000004&title=%E0%C3%D7%E8%CD%A7%A2%CD%A7%C7%D4%BB%D1%CA%CA%B9%D2%AD%D2%B3&getarticle=138&keyword=&catid=23
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก google.com