ชาติภพของคนเรานั้นเกิดได้ง่ายมาก
ผมจะขอนำเอาประสบการณ์เรื่องนึงที่พระอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ผมฟัง เป็นคติเกี่ยวกับการพิจารณารู้เท่าทันกิเลสและจิตของตัวเอง สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจที่จะตัดภพตัดชาติของตัวเองให้ลดน้อยลง
พระอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับโยมผู้หญิงคนนึงซึ่งปฏิบัติธรรมมานานและมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมดี อยู่มาวันหนึ่งถึงคราวเจ้ากรรมนายเวรเก่าตามมาทวงคืน โยมคนนี้เขาถูกคนสนิทคนหนึ่งหลอกโดยให้เซ็นเอกสารบางอย่าง ทำให้ถูกโกงเงินไปเกือบหมดตัวจนแทบจะกลายเป็นคนล้มละลายเลยทีเดียว ด้วยความโกรธและความผิดหวังจากการถูกหักหลังโดยคนสนิท ผนวกกับการรู้ไม่เท่าทันโทสะที่เกิด โยมคนนี้ได้ผูกอาฆาตพยาบาทคนที่มาหลอกให้เซ็นเอกสารนั้น พระอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่โยมเกิดพยาบาทจิตนั้นเอง
ชาติภพใหม่ของโยมคนนั้นได้เกิดขึ้นมาอีกไม่ต่ำกว่า 10 ชาติ คิดแล้วก็น่าเสียดายที่โยมอุตส่าห์ปฏิบัติธรรมมานานหลายปี
ข้อคิดจากเรื่องที่ได้ฟังมานี้ก็คือ ชาติภพของคนนั้นเกิดขึ้นง่ายและเร็วมาก เพียงแค่เผลอสติรู้ไม่เท่าทันกิเลสแค่นิดเดียว ก็ทำให้ต้องเสียเวลาเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏเพิ่มขึ้นอีกนานแสนนานหลายภพชาติ ครูอาจารย์หลายท่านจึงได้เปรียบการปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นว่าเหมือนกับการพายเรือทวนกระแสน้ำ การประมาทเพียงนิดเดียวโดยปล่อยให้จิตไหลไปตามวารีกิเลสที่ถาโถมนั้น ทำให้ต้องเสียเวลาอย่างมากในการที่จะต้องพายเรือกลับมายังจุดที่เคยอยู่เดิม เพราะฉะนั้น การมีสติและรู้เท่าทันกิเลสที่เข้ามากระทบจิตนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักปฏิบัติทั้งหลายที่ต้องการหลุดพ้นจากภพชาติที่ร้อยรัดสัตว์โลกมาเป็นเวลานานแสนนาน
หวังว่าเรื่องราวนี้จะพอเป็นแง่คิดแด่ทุกท่านไม่มากก็น้อย
นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เว็บบอร์ดพลังจิตด้วยครับ