๑. จงพอใจในทุกย่างก้าว
ถ้าลองนึกถึงตอนเราเด็ก ๆ นั่งรถไปไหนกับคุณพ่อคุณแม่ถ้านั่งรถไปแค่รังสิตอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้านั่งไปเชียงใหม่นี่ซิ จะเฝ้าสะกิดถามอยู่นั่นแลว่า "ถึงยาง... ถึงยาง..." แม้แม่จะตอบว่า "ยังลูก" กี่ครั้ง เราก็ยังเพียรถามอยู่นั่น "ถึงรึยัง.. แม่.. ถึงรึยัง..."
นั่นก็เพราะมิได้มีจิตใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบันการปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน จิตใจจะไปคาดคั้นรีบเร่งย่อมไม่ได้มันเป็นหนทางยาวไกล ที่เราต้องอาศัยความอดทนและความเพียรที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอกันไป
ฉะนั้น จงค่อยเป็นค่อยไป ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับใครบางคน เห็นคนอื่นนั่งสมาธิไม่นาน แล้วบอกว่าเห็นโน่นเห็นนี่ แต่เรากลับไม่เห็นอะไรบ้าง ก็คิดว่าเราไม่ก้าวหน้า น้อยใจว่าวาสนาบารมีไม่ถึง
ขอให้เรามีสติจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน เพียรตั้งใจทำในส่วนของเราให้ดีบางทีการที่เรานั่งสมาธิไม่เห็นอะไรเลยน่าจะดีกว่าเสียอีกเพราะยิ่งถ้าเราไปเห็นโน่นเห็นนี่ ก็จะยิ่งพาลทำให้รู้สึกไปว่าเราเหนือกว่าคนอื่น เราวิเศษกว่าคนอื่น ก็รังจะเพิ่มอัตตาให้กับตัวเอง
ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าทางนี้ "ใช่" แล้ว ทางนี้ถูกต้องแล้ว ทางนี้ควรแล้วก็จงพอใจในทุกย่างก้าวมีสติทำทุกย่างก้าวให้ดี
จงพอใจเมื่อปฏิบัติแล้วเห็นว่าทุกข์นั้นน้อยลง จงพอใจเมื่อปฏิบัติแล้วจิตใจนั้นเบาสบายขึ้น
๒. กำจัดความรู้สึกผิดส่วนตน และมลทินในจิตใจ
หลายคน ปฏิบัติสมาธิหรือภาวนาไม่ได้ เพราะจิตใจมีความรู้สึก "ยึด" กับความผิดพลาดในอดีตอาจจะเพราะอดีตเคยทำไม่ดีต่อคนอื่น หรือรู้สึกตนเป็นคนไม่ดีด้วยเหตุผลต่าง ๆทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองมีมลทิน เป็นผู้ไม่สะอาดกระทั่งไม่เหมาะกับสิ่งดี ๆ คือ ธรรม
อาตมาอยากแนะนำให้ลองใช้พิธีกรรมเป็นเครื่องมือคนสมัยนี้อาจมองพิธีกรรมเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะไม่เห็นเป็นไปตามตรรกะแต่เราจะว่ากันแต่ตรรกะสำหรับทุกคน ทุกกรณีไปก็คงไม่ได้เพราะคนเรามีทั้งสมอง และหัวใจ บางอย่างไม่มีเหตุผล แต่ทำแล้วก็กลับมีผลให้เราสบายใจขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อพิธีกรรมนี้ก็อย่างเช่น ไปถวายสังฆทาน ทำบุญเลี้ยงพระ ฯลฯแล้วก็ปล่อยความรู้สึกผิดของตัวเราไปด้วยกันนั้นเลย แล้วเริ่มต้นกันใหม่บางคนถึงกับเปลี่ยนชื่อ แล้วก็มีผลดีขึ้นทางจิตใจอย่างไม่น่าเชื่อก็มี
อีกอย่างหนึ่งก็คือ เราต้องรู้จักให้อภัยตนเองบางคนให้อภัยคนอื่นทำได้ แต่กับตัวเองกลับไม่ให้อภัยวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ การแผ่เมตตาให้กับตัวเราเองแผ่เมตตาให้กับตัวเราเมื่อห้าปีก่อน สิบปีก่อน ที่เคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้ให้อภัยตัวเราเมื่อครั้งยังมีสติเท่านั้น ยังมีปัญญาเท่านั้น ยังมี
ความเข้าใจเท่านั้นตอนนี้เราเติบโตขึ้นแล้ว มีความเข้าใจที่ถูกที่ควรขึ้นแล้วก็จงให้อภัยและแผ่เมตตาให้กับตัวเองในอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยทิฏฐิที่ถูกที่ควร แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/chayasaro/cs-11.htm