กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 19 ก.ย. 2553, 07:23:56

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 19 ก.ย. 2553, 07:23:56
(http://img835.imageshack.us/img835/2876/img0025xi.jpg)

ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๑๙ กันยายน ๒๕๕๓
.....รอยทาง.....
                      ช่วงนี้อากาศแปรปรวน ฝนตกเกือบทุกวัน ลมหนาวเริ่มจะมา
กลางวันลมพัดแรง กลางคืนอากาศหนาว ทำให้ต้องปรับสภาพร่างกายให้รับได้
กับสภาพอากาศที่แปรปรวน ก็คือการหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
การออกกำลังกายของพระก็คือการทำงาน กวาดวิหารลานวัด เคลื่อนไหวร่างกาย
ให้เหงื่อมันได้ระบายออกมา หลังจากทำกิจวัตรของสงฆ์ในช่วงเช้าแล้ว ลงไปดูงาน
ก่อสร้างและสั่งงานให้พระช่วยกันทำามความถนัดของแ่ละท่าน เช่นตัดหญ้าในสวนป่า
ปลูกต้นไม้ประดับรอบอุโบสถและลานธรรม ต่อรถเข็น ตอนบ่ายมีญาิติโยมเอาเสื้อมา
ถวายเพื่อไว้แจกฝีพายชุดผู้หญิง จึงลงไปคุมเด็กๆสกรีนส์เสื้อทีม เด็กๆที่สอนไว้เริ่ม
ที่จะทำกันเป็นแล้ว เพียงแ่ต่ต้องคอยแนะนำเทคนิคอีกเล็กน้อยเวลามีปัญหาและการ
ลงน้ำหนักเวลาปาดสกรีนส์ ซึ่งเด็กๆเริ่มเข้าใจและทำกันได้ ตอนเย็นลงไปดูฝีพายซ้อม
เพราะว่าเพิ่มทีมฝีพายผู้หญิงมาอีกสองชุด จึงต้องลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่มาใหม่
ได้เวลาทำวัตรสวดมนต์เย็นจึงกลับขึ้นมาทำกิจของสงฆ์ เสร็จแล้วกลับที่พักปฏิธรรมต่อ
ตามปกติที่ทำมา สมควรแก่เวลาจึงได้จำวัตรพักผ่อน
.....รอยธรรม.....
                    ทบทวนสภาวะธรรมต่างๆที่เคยผ่านมา โดยการน้อมจิตพิจารณาธรรม
ในกรรมฐานแต่ละกอง ลำดับสภาวะธรรมต่างๆที่เกิดขึ้น ว่าเป็นอย่างไร อะไรเกิดขึ้นบ้าง
อะไรเกิดขึ้นก่อน อะไรเกิดขึ้นที่หลัง เพื่อป้องกันไม่ให้สับสน เป็นการเจริญวิมังสาใคร่ครวญ
พิจารณาในธรรมทั้งหลายตามหลักของอิทธิบาท ๔  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติธรรม
ที่จะทำให้รู้และเข้าใจจดจำได้ ถึงที่มาและที่ไป เหตุปัจจัยที่ทำให้สภาวะธรรมต่างๆนั้นเกิดขึ้น
เพราะเมื่อรู้และเข้าใจ จำทางเดินของจิตได้นั้น มันจะทำให้เข้าอารมณ์สมาธิได้ง่าย และเร็วขึ้น
เป็นการฝึกจิตให้เป็นวสี คือมีความชำนาญในการเข้าออกอารมณ์ จึงจำเป็นที่้ต้องกระทำในทุกครั้ง
หลังจากการเจริญสติภาวนา ต้องมาทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ทำไมมันจึงเกิด เกิดขึ้นได้
อย่างไร อะไรเป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้มันเกิด นักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่จะขาดในสิ่งนี้ คือการทบทวน
เพราะเมื่อเลิกปฏิบัิติแล้ว ก็เลิกแล้วเลิกเลยลืมการทบทวนพิจารณา ทำให้จำไม่ได้ว่าจิตนั้นเดินมาอย่างไร
พอกลับมาปฏิบัิิติใหม่ ก็ต้องมาเริ่มคลำทางใหม่ ไม่ได้ต่ออารมณ์จากที่เคยปฏิบัติมา ทำให้ความเจริญก้าว
หน้าในการปฏิบัิตินั้นช้าลง
 :059: พุทธสุภาษิต  :059:
  " ผู้ใดทุศีล มีจิตไม่มั่งคง แม้มีอายุอยู่ร้อยปี ก็สู้คนมีศีล แม้มีชีวิตอยู่วันเดียวยังดีเสียกว่า "
     " โย จ วสฺสสตํ ชีเว ทุสฺสีโล อสมาหิโต   เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย สีลวนฺตสฺส ฌายิโน "
.....รอยกวี....
                ในอ้อมกอดของขุนเขา
                ใ้ต้ร่มเงาหมู่มวลพฤกษา
                ท่ามกลางสายลมที่พัดโชยมา
                บนจุดหนึ่งของกาลเวลา
                จงถามตัวเองอยู่เสมอว่า...
                แสวงหาให้ได้มาซึ่งสิ่งใด
                ทบทวนในสิ่งที่ได้ผ่านไป
                ว่าความมุ่งหวังที่ตั้งใจไว้
                นั้นก้าวไกลถึงไหนแล้ว....
                             ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น
                              มันอยู่ที่ทุกคนจะคิดและทำหรือไม่
                              อย่าได้น้อยใจและโทษวาสนาบารมี
                              ต่อว่าัตัวเรานั้นไม่ดีไม่มีอำนาจวาสนา
                              เพราะว่าการทำอย่างนั้นเท่ากับการแช่งตัวเอง
                              ขาดความศรัทธาเชื่อมั่นในการกระทำของตนเอง
                              ซึ่งมันจะทำให้มีแ่ต่ความเสื่อมถอยไม่มีความเจริญ
                                               จงมีความศรัทธาเชื่อมั่นในตนเอง
                                               ศรัทธาและเชื่อมั่นในความดีที่ได้กระทำมา
                                               ทบทวนมองหาความดีที่เราได้เคยกระทำ
                                               น้อมนำมาคิดและพิจารณาเพื่อให้ศรัทธานั้นเกิด
                                               เพราะว่าชีวิตของแต่ละคนที่ผ่านมาย่อมมีคุณค่า
                                               คุณค่าของชีวิตคือจิตที่ใฝ่หาซึ่งความดีของชีวิต
                                               จงคิดใคร่ครวญทบทวนว่า...เรามีคุณค่าของชีวิตแล้วหรือยัง....
                                                               .........................................
                                                                ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                                                     รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๙ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๒๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                         


                   
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 19 ก.ย. 2553, 08:34:45
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน     :054:

น้อมนำมาคิดและพิจารณาเพื่อให้ศรัทธานั้นเกิด
เพราะว่าชีวิตของแต่ละคนที่ผ่านมาย่อมมีคุณค่า
คุณค่าของชีวิตคือจิตที่ใฝ่หาซึ่งความดีของชีวิต
จงคิดใคร่ครวญทบทวนว่า...เรามีคุณค่าของชีวิตแล้วหรือยัง....

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: nsp8428 ที่ 19 ก.ย. 2553, 10:29:00
กราบนมัสการพระอาจารย์และกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รันตี ที่ 19 ก.ย. 2553, 12:42:36
สาธุ กราบนมัสการครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 19 ก.ย. 2553, 01:11:18
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณมากครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: pepsi ที่ 19 ก.ย. 2553, 02:36:16
กราบนมัสการครับ
และเข้ามาอ่านบทความดีๆที่นําเสนอแบ่งปันครับผม.
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๘ ก.ย.๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 19 ก.ย. 2553, 10:35:54
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยน่ะครับ