กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:06:07

หัวข้อ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:06:07
"อย่าได้สร้างความกดดันให้กับตัวเองในขณะปฏิบัติ" การตั้งใจมากจนเกินไปในการปฏิบัติเป็นการสร้างความกดดันให้กับตัวเอง โดยที่เราไม่รู้ตัว มันจะทำให้เกิดความเครียด ความกังวล เพราะเราไปหวังผลที่จะเกิดขึ้นมากเกินไป เมื่อไม่ได้ดั่งที่หวังมันจะทำให้เกิดความกังวล ความสับสนวุ่นวายฟุ้งซ่านจะเกิดขึ้นในใจให้เราทำใจให้สบายๆทำได้เท่าที่จะทำ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำเหมือนกับเรากำลังฝึกซ้อม เพื่อเพิ่มกำลังของเรา ให้เรามีความพร้อมที่จะลงแข่งขัน (คือการปฏิบัติอย่างจริงจัง) ร่างกายและจิตใจของเรานั้นมันต้องมีกำลัง(พละ)ซึ่งจะเกิดมีขึ้นได้ด้วยการฝึกซ้อมอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยการปฏิบัติตามหลักธรรมไตรสิกขา3คือ ทาน ศีล ภาวนา และพัฒนาเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา  การที่ให้เราเริ่มจากทานนั้นก็เพราะว่า การให้ทานทำให้จิตใจเราอ่อนโยน มีเมตตา โอบอ้อมอารี ความเห็นแก่ตัว(อัตตา)จะลดน้อยลง การให้ทานนั้นทำให้ใจของเราไม่แข็งกระด้าง ใจของเราเดินเข้าสู่กระแสแห่ง พรหมวิหาร4 คือมี เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เมื่อเราให้ทานบ่อยๆใจของเราก็จะสบายและมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทำเรียกว่ามีกำลังบุญส่วนการรักษาศีลนั้น เราอย่าไปยึดติดกับถ้อยคำและตัวอักษรให้มากเกินไป มันอยู่ที่ใจของเรา เพราะว่าการรักษาศีลนั้น คือการมีสติและสัมปชัญญะอยู่กับกายและใจของเรา(ภาษาชาวบ้านเรียกว่าใจอยู่กับกับเนื้อกับตัว)รู้ว่าเรากำลังทำอะไรและสิ่งที่เราทำนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าเป็นอกุศลก็ไม่ควรกระทำ ควรงดเว้นการที่เราหักห้ามใจในอกุศลได้นั้น ทำให้เกิดคุณธรรม คือหิริและโอตัปปะ (ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป)ศีลจะสมบูรณ์ได้นั้น ต้องประกอบด้วยคุณธรรม คือมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป มีสติและสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ ฉะนั้น การรักษาศีลจึงเป็นการฝึกสติไปในตัว และศีลนั้นจะสมบูรณ์ด้วยการมีสติและเมื่อเรามีกำลังของสติที่สมบูรณ์แล้วการภาวนาก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะสติที่มีกำลังนั้นสามารถที่จะเข้าไปจับองค์ภาวนา(คำบริกรรมหรือนิมิตร)ได้อย่างมั่นคง ฉะนั้นในการปฏิบัติธรรมนั้นเราต้องทำตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้คือทำตามไตรสิกขา ทั้งของฆราวาสหรือของบรรพชิต แล้วแต่สถานะของเรา อย่าได้ลัดขั้นตอน(อย่าไปเก่งกว่าพระพุทธเจ้า) เพียงแต่เราอย่าไปติดยึดในรูปแบบของตัวอักษรจนมากเกินไปเพราะถ้าเราไปยึดติดในสิ่งนั้นแล้ว มันจะดูว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และทำได้ยาก เกินกำลังของตัวเรา เราจึงไม่พร้อมที่จะปฏิบัติ "ธรรมะเริ่มจากใจ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน" จึงขอให้เราท่านทั้งหลายมาทำความรู้ความเข้าใจเพื่อที่จะได้นำไปสู่การปฏิบัติ พัฒนาทางจิต เพื่อชีวิตที่ดีงามในโอกาศต่อไป
      ขอฝากไว้เป็นข้อคิดด้วยมิตรไมตรี อย่าเชื่อทันที โปรดนำไปคิดและพิจารนา
                      เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                  รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
                             วจีพเนจร-คนรอนแรม-คนไร้ราก
              3 เมษายน 2552 เวลา 10.09น. ณ.ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:53:56
มีกี่ภาคครับ......เหมือนหนังบ้านผีปอบเลยครับ...อิอิอิ...(แซวเล่นๆนะครับ)
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 03 เม.ย. 2552, 11:00:28
ขอบคุณมากครับ บทความของคุณช่วยแนะนำแนวทาง ความคิดที่ดีต่อการฝึกนั่งสมาธิของผมมากๆครับ เพราะก่อนที่จะอ่านบทความของคุณ ผมศึกษาการนั่งสมาธิและเป็นกังวลหลายอย่าง แต่บทความของคุณทำให้การนั่งสมาธิเป็นเรื่องใกล้ตัว ง่ายต่อการปฎิบัติครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 03 เม.ย. 2552, 12:06:43
มีกี่ภาคครับ......เหมือนหนังบ้านผีปอบเลยครับ...อิอิอิ...(แซวเล่นๆนะครับ)
เรื่องนี้ไม่มีภาคจบครับ...ตราบใดยังไม่เข้าถึงนิพพาน...ครับ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 03 เม.ย. 2552, 12:15:08
ขอบคุณมากครับ บทความของคุณช่วยแนะนำแนวทาง ความคิดที่ดีต่อการฝึกนั่งสมาธิของผมมากๆครับ เพราะก่อนที่จะอ่านบทความของคุณ ผมศึกษาการนั่งสมาธิและเป็นกังวลหลายอย่าง แต่บทความของคุณทำให้การนั่งสมาธิเป็นเรื่องใกล้ตัว ง่ายต่อการปฎิบัติครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
เพราะเราไปคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก มีขั้นตอนมากมาย เราไปสร้างภาพอลังการณ์เกินไป เราไม่มีวาสนาบารมี
มันเลยทำให้เรากังวลครับ บารมีนั้นมาจาก การฝึกฝนจนมีกำลังคือพละ จากกำลังที่เป็นพละสั่งสมเป็นอินทรีย์ คือ
บารมีที่ติดตามตัวเรามา  ฉะนั้นบารีเราสร้างได้แต่ต้องใช้กาลเวลาและความสม่ำเสมอในการประพฤติ ปฏิบัติครับ
ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดมีแก่ท่านยิ่งๆขึ้นไปนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 01:10:25
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคัรบ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) ที่ 03 เม.ย. 2552, 07:00:51
ขอบคุณครับผม อนุโมทนาด้วยนะครับ  :002:
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 03 เม.ย. 2552, 08:16:12
บทความนี้อ่านแล้วดีจังเลยครับ  นึกถึงตนเองในอดีตเลย  ตอนที่ยังปฏิบัติธรรม แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจสภาวะธรรมซะเท่าไหร่

ผมเจอคำว่า ต้องปฏิบัติธรรมอย่าลดละ   พอได้ยินอย่างนั้น ช่วงแรกๆ ผมจับสติอยู่ตลอด  เอาจนเครียดไปเลยครับ   จนพอมันรู้ว่าตัว จิตมันบอกกับเราว่า ตึงไปแล้วหนอ  ตึงไปแล้วหนอ  ตึงไปแล้วหนอ  จิตมันสอนตนเองได้ในขณะจิตนั้นเลย   ผมจึงจำคำหลวงพ่อท่านหนึ่งได้เลยว่า  "สติกับสบาย" ต้องเป็นของคู่กัน  ถ้าหากมีสติแต่เครียด มันเป็นการเดินทางผิดครับ

การปฏิบัติธรรมมันก็ขึ้นอยู่กับอินทรีย์ของเราด้วยครับ  อินทรีย์อ่อนก็ช้าหน่อย  อินทรย์แก่ก็เร็วหน่อยครับ  คนอินทรีย์อ่อนอย่าน้อยใจไปเลย ให้คิดว่าคนที่อินทรีย์แก่  เมื่อก่อนเขาก็อินทรีย์อ่อนเหมือนเรานี่แหละ   ชาตินี้เราได้โอกาสแล้ว เราต้องปฏิบัติอย่าลดละ 

การปฏิบัติธรรมพระตถาคตเจ้าตรัสไว้ว่า ต้องเจริญพละธรรม 5 ประการ เพื่อการพ้นทุกข์คือ
1.ศรัทธา  คือต้องศรัทธาในการพ้นทุกข์เสียก่อน  ต้องมีสัมมาทิฏฐิที่ถูกต้องในการปฏิบัติธรรม 
2.วิริยา  คือต้องมีความเพียร ในการปฏิบัติ   ถ้าปฏิบัติเดี๋ยวทำ เดี๋ยวหยุด  ตอนที่หยุดทำ จิตมันจะถอย  ทำบ่อยๆมันจะเบื่อ และก็เลิกไปเลยครับ
3.สติ   คือทุกอารมณ์ต้องมีสติ  แรกๆก็ทำเท่าที่เราระลึกรู้ได้ก็พอครับ  พอรู้ก็ดึงอารมณ์กลับมา  แต่อย่าไปโทษตัวเองนะครับ ว่าทำไมรู้ช้า 
4.สมาธิ คือ การมีสติในแต่ละวันแล้ว  เราต้องเจริญสมาธิด้วย  สมาธิเป็นฐาน  เป็นบาทแห่งการเจริญวิปัสสนาครับ
5.ปัญญา คือ  ปัญญา นี่คือผลของการปฏิบัติธรรม  จิตที่เกิด- ดับ เกิด- ดับ  ตลอดเวลา  มันจะสอนตัวเราเองได้  ทุกอารมณ์ที่มีสติครับ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 07 เม.ย. 2552, 10:09:47
 :016:สิ่งที่นำเสนอมานี้ ส่วนใหญ่เขียนมาจากสภาวะธรรม คืออารมณ์ ความรู้สึกที่ได้พบได้รู้ จากการปฏิบัติ
ซึ่งมันมิได้กล่าวไว้ในตำรา และผู้เขียนก็ไม่อยากเขียนเป็นภาษาวิชาการให้มากไป (ถ้าท่านอยากรู้ให้ไปหาอ่านได้ เพราะมีคนเขียนมากมายแล้ว)จะนำเสนอในเนื้อหาของ สภาวะธรรม ที่เกิดขึ้นจริงจากการปฏิบัติ :015:
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 06 ส.ค. 2552, 11:59:13
 :059:ตราบใดที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะสงสาร...การเดินทางของชีวิตก็ยังไม่สิ้นสุด
เพราะเรายังไม่หลุดพ้นจาก กิเลส อัตตา ตัณหา และอุปาทาน...
มรรคผลนิพพานคือการสิ้นสุดของการเดินทาง...
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: นอมอท้อผิด ที่ 06 ส.ค. 2552, 12:29:16
จะหมั่นปฏิบัติ ธรรม

และอยู่ในศีลธรรม ครับ

อิอิ

^^

:114: :114: :114:
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: รุท หมัดหนักครับ ที่ 06 ส.ค. 2552, 08:38:44
วันนี้เป็นวัดพระครับผมจะสวดมนต์ไหว้หลวงปู่ก่อนและนั่งสมาธิทำจิตใจให้บริสุทธิ
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: artcokes ที่ 02 มี.ค. 2555, 08:39:25
ขอบคุณครับเดียวจะเอาไปฝึกสมาธิครับพี่พี่จากที่่พี่พี่บอกมาง่ายขึ้นเยอะเลย
หัวข้อ: ตอบ: การฝึกสมาธิอย่างเรียบง่ายสบายๆภาค8
เริ่มหัวข้อโดย: Machine.49 ที่ 03 มี.ค. 2555, 12:13:38
ขอบคุณครับ ขอกุศลจงบังเกิดแก่ท่านทั้งหลาย สาธุ  :054: