ผู้เขียน หัวข้อ: คนฝืนดวง...?  (อ่าน 9707 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
คนฝืนดวง...?
« เมื่อ: 19 มิ.ย. 2554, 10:25:53 »
คนฝืนดวง...?

มีเศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกชายสองคน วันหนึ่งได้เชิญหมอดูชื่อดังมาดูดวงให้ลูกชายทั้งสอง หมอดูทำนายว่าลูกชายคนโตจะต้องลำบาก ทำแต่งานหนักตลอดชีวิต ส่วนลูกชายคนเล็กจะสุขสบายไม่ต้องทำอะไรเลย และสุดท้ายจะได้จบชีวิตลงใต้ร่มเศวตฉัตร..

เมื่อเศรษฐีได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกรักลูกชายคนเล็กขึ้นเป็นทวีคูณ ด้วยว่าลูกคนนี้ย่อมจักกลายเป็นราชาผู้ครองเมืองเป็นแน่แท้ เลยประคบประหงมลูกชายคนเล็กเป็นอย่างดี ไม่ให้หยิบจับงานหนักแต่อย่างใด เมื่อตอนถึงวัยศึกษาเล่าเรียน ลูกชายคนเล็กก็ขอผู้เป็นพ่อว่าจะไม่ขอเรียนวิชาใด เนื่องจากถึงอย่างไรตนเองสักวันก็ย่อมได้เป็นราชาอยู่แล้ว..

ส่วนลูกชายคนโต ภายหลังจากที่ได้ยินคำทำนายจากโหรชื่อดัง ลูกชายคนโตก็เร่งขยันหมั่นเพียรร่ำเรียนวิชา เนื่องด้วยว่ากลัวว่าภายหน้าตนจะลำบาก ทำงานสารพัดหนักเอาเบาสู้ ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากแต่อย่างใด

ต่อมาไม่นาน ลูกชายทั้งสองเติบใหญ่เป็นหนุ่มแน่น เศรษฐีได้สิ้นใจลง ก่อนนั้นได้แบ่งสมบัติให้ลูกชายทั้งสองได้ดูแลสมบัติของตน..

ลูกชายคนเล็กเมื่อได้สมบัติแล้ว ได้นำสมบัติที่บิดาให้ไปใช้จ่าย ซื้อความสุขของตนอย่างสุรุ่ยสุร่าย ผิดกับผู้เป็นพี่ชายที่นอกจากจะเก็บรักษาสมบัติที่ผู้เป็นพ่อให้มาเป็นอย่างดี แถมยังทำให้ทรัพย์สินงอกเงยออกมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าลูกชายคนโตตอนนี้จะกลายเป็นเศรษฐีแล้ว เขาก็ยังไม่ย่อท้อ เขายังคงที่จะทำงานสู้เก็บเงินไปเรื่อยๆ เพราะเกรงว่าสักวันชีวิตเขาอาจจะยากลำบากตามคำที่โหรชื่อดังเคยกล่าวไว้..

ลูกชายคนเล็กเมื่อใช้จ่ายทรัพย์ที่บิดาให้มาจนหมดลง ไม่เหลือแม้แต่ทรัพย์ที่เพียงพอที่จะประทังชีวิตประจำวัน เนื่องจากเขาไม่เคยร่ำเรียนวิชาความรู้อะไรเลย อีกทั้งงานหนักไม่เคยเอางานเบาไม่เคยสู้ เขาไปรับจ้างทำงานที่ไหนก็ไม่สามารถทำได้นาน สุดท้ายเขาก็ไม่เหลืออะไรเลย มีหนทางเดียวที่จะทำได้คือนั่งๆนอนๆขอทานจากความเมตตาของคนที่เดินผ่านข้างถนนเป็นประจำ..

วันหนึ่ง ราชาได้เสด็จผ่านมาที่ถนนสายนั้น ได้เห็นขอทานผู้หนึ่งกำลังจะตายด้วยความหิว นอนผอมโซตากแดดแรงหมดสติอยู่ข้างถนน ด้วยความสงสาร ราชาจึงสั่งให้มหาดเล็กนำเศวตฉัตรของตน ไปกำบังให้ขอทานผู้นั้น..

ขอทานนั้น ได้สติขึ้นมาลืมตาเห็นร่มเศรตฉัตรกั้นกำบังแดดตน น้ำตาได้หลั่งไหลไม่ขาดสาย เข้าใจถึงคำทำนายของโหรอย่างถ่องแท้..
และสิ้นใจในกาลต่อมา........

ที่มา
http://www.aromdee.net/view/view_board.php?id=7306&tb=board
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19 มิ.ย. 2554, 10:40:01 »
เล่าปี่ ( ลูกผู้ชาย จะเป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้ ถ้าไม่เป็นคนฝืนดวง )

  ทำไมถึง เกริ่นไว้แบบนี้ มาดูลักษณะ ของความเป็นผู้นำของเล่าปี่ ตามการบรรยาย ใน สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) กันดูก่อน นะคะ
ณ เมืองตุ้นกวน มีชายคนหนึ่ง ชื่อเล่าปี่ เมื่อน้อยชื่อ เหี้ยนเต็ก ไม่สู้รักเรียนหนังสือ ( ชอบทางบู้มากกว่าบุ๋น ) แต่มีปัญญา น้ำใจนั้นดี ( ฉลาดและมีคุณธรรม ) ความโกรธและความยินดีมิได้ปรากฏออกมาภายนอก ( เป็นคนสุขุม รู้จักควบคุมอารมณ์ ) ใจนั้นอารีนัก มีเพื่อนฝูงมาก ใจกว้างขวาง ( เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หรือที่เรียกว่า human relation skills สูง ) หมายจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง ( มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง )
ลักษณะรูปร่างสมบูรณ์ สูงประมาณ 5 ศอกเศษ หูยานถึงบ่า ( ชอบรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น แต่ไม่หูเบา ) มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังหยก ฝีปากแดงดังชาดแต้ม (แสดงถึงสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์ อย่าไปคิดถึงลิงนะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ) จักษุยาวรีชำเลืองไปเห็นถึงใบหู (อันนี้ ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวนะคะ เค้าหมายถึงว่า เป็นคนมีสายตายาวไกลหรือมี วิสัยทัศน์ (vision) ในการบริหาร )
เห็นแซ่ ก็รู้ว่า เป็นพวก เชื้อสายราชวงศ์ฮั่น มีศักดิ์เป็นพระเจ้าอา ของพระเจ้า เฮี้ยนเต้ แต่ ตกอับยากจน เพราะ พ่อซึ่งเป็นถึง บันฑิตชั้นแนวหน้า มาเสียชีวิตลงก่อนเวลาอันควร เลยต้องมานั่ง ทอเสื่อขาย เลี้ยงแม่ไป
ตอนเล่าปี่ ยังเป็นเด็ก เวลาเล่น ชอบเล่นเป็นตัวนาย หรือ เป็นหัวหน้าเด็กคนอื่นๆ บางทีก็เล่นเป็น พระเจ้าแผ่นดิน ใครๆเห็น ก็ชื่นชอบ เพราะเป็นคนมีลักษณะดี ให้เงินกินขนมอยู่เรื่อยเลยค่ะ

พอโตขึ้น อายุประมาณ 28 ตรงกับตอนที่ สิบขันทีกำลังแผลงฤทธิ์ แล้วมีกบฎ มีโจรโพกผ้าเหลือง ทางเมืองตุ้นกวน ก็ประกาศรับสมัครคน ไปปราบโจร เล่าปี่ก็สนใจมาก แต่ว่า... เค้าไม่อยากไปเป็นทหารธรรมดาค่ะเค้าอยากเป็นหัวหน้า ก็ยืนซึมอยู่ วันนี้แหละค่ะ ที่ไปเจอเอา เตียวหุยกับ กวนอูเข้า ได้พูดคุยกันก็ ถูกคอ เตียวหุยนี่เป็นคนมีฐานะ นะคะก็ออกปากยกทรัพย์สินให้เป็นทุนจัดตั้งกองกำลังอิสระ แล้ว สาบานเป็นพี่น้องกัน เล่าปี่เป็นพี่ใหญ่ กวนอูเป็นพี่รอง และ น้องเล็กเตียวหุย รวบรวมคนได้ ประมาณ 500 คน

ในที่สุด เล่าปี่ ก็ได้เป็นหัวหน้าคนสมใจแล้วค่ะ งานนี้ แล้วไปอาสาปราบพวกโจรผ้าเหลือง ที่มีกำลังพลประมาณ 50,000 คน และชนะกลับมา ก็รู้ๆอยู่ ฝีมือ กวนอูกับเตียวหุยน่ะค่ะ เลยได้ คนเพิ่มมาอีก 500 เป็นพันคน ออกตระเวณปราบพวกโจรที่เหลืออยู่ เคยช่วยตั๋งโต๊ะไว้ด้วยนะคะ ตอนนั้นกำลังหนีพวกโจรอยู่ ช่วยเสร็จ แทนที่จะได้ความชอบ กลับโดนดูถูกซะอีก ไปเมืองหลวงหาครูที่เป็นแม่ทัพอยู่ คุณครูก็โดนพวกขันทีแกล้ง จับขังลืมซะอีก ( ครูคนนี้ เคยสอนเพลงกระบี่ให้เล่าปี่ค่ะ ชื่อ โลติด พวกสิบขันที มารีดไถ ไม่มีให้เลยโดนปลด จับไปขัง แล้วให้ ตั๋งโต๊ะ ขึ้นมาเป็นแทนค่ะ )

เจอเข้าแบบนี้ เล่าปี่ฮึดขึ้นมาเลยค่ะ หนอยๆๆๆ ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ ไหงคนดูถูกจัง ก็พยายามหาทาง ไปหาคนรู้จักคนนึง ออกปราบพวกโจรอีกไม่น้อยกว่า 30 ครั้ง จนแทบไม่เหลือพวกโจรมาก่อกวนชาวบ้านอีกเลย แต่.... ค่ะ ใช่ ไม่ได้รับความชอบอยู่ดี เคว้งคว้างอยู่ในเมืองหลวงเป็นเดือนๆ จนมีผู้ใหญ่ที่ดีคนนึง สงสาร ช่วยร้องเรียนให้ ก็เลยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองเล็กๆเมืองนึง ( ก็ได้แค่นี้แหล่ะค่ะ no name ) แต่ ก็ยังถือว่า ได้ก้าวขึ้นมาอีกขั้นนึงแล้วนะคะ และในอีกหลายๆปีต่อมา เราก็รู้ๆกันอยู่ คนนี้ ได้เป็นถึง พระเจ้ายวนเต้ปี่ ครอบครองแผ่นดิน หนึ่งในสามของจีน จนได้
ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะความคิดเดียวค่ะ คือ หมายจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง{{{{{{{ THINK BIG, YOU WILL BE BIG }}}}}}

มาดูคติบริหาร ของตอนนี้กันนะคะ

1. THINK BIG, YOU WILL BE BIG. IF YOU THINK SO YOU BE COME.
      คิดจะเป็นใหญ่      คุณก็จะได้เป็นใหญ
      ถ้าคุณคิดเช่นไร      คุณก็จะได้เป็นอย่างนั้น
2. ลูกคนจนข้นแค้นแสนจริต      อาจแผลงฤทธิ์กลายเพศเป็นเศรษฐี
     ลูกคนโง่อาจโผล่เป็นเมธี      เหตุดังนี้ ไม่ควรหลู่ดูแคลนกัน
3. เพราะแสวงหา ไม่ใช่เพราะรอคอย
     เพราะเชี่ยวชาญ ไม่ใช่เพราะโอกาส
     เพราะสามารถ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย
     ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน >>>>>

ทีมา
http://www.reocities.com/song25031975/trickmanage8.html

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 19 มิ.ย. 2554, 10:46:20 »
หมอดูทายว่าดวงไม่ดี...แต่มีวิธีฝืนดวง
--------------------------------------------------------------------------------

ถาม : เมื่อคราวที่แล้วกระผมได้กราบนมัสการถามเกี่ยวกับเรื่องของหมอดูว่า คนที่เป็นหมอดูๆ ดวงให้บุคคลต่างๆ ตามหลักวิชาการนั้นไม่มีโทษ มีคำกล่าวของพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งหลายล้วนมีใจเป็นประธาน คำตรัสของพระพุทธเจ้าเป็นเช่นนี้แล้ว เมื่อคนที่ไปดูดวงได้รับฟังคำทำนายทายทักของหมอดูว่า จะต้องเกิดอาเพทเหตุร้ายหรือเหตุการณ์ต่างๆ อย่างนี้แล้ว ผู้ฟังคล้อยตามทำให้เกิดเหตุนั้นได้หรือไม่?

ตอบ : ถ้าหากว่าเชื่อแล้วไปมุ่งมั่นอยู่ในลักษณะที่ว่าเราต้องแย่แน่ๆ เลย หมอดูเขาบอกว่าไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ เหตุที่ไม่ดีจะเกิดกับเราลักษณะ นี้มันเหมือนกับแช่งตัวเอง ไอ้ที่แช่งตัวเองนี่กำลังใจเข้มแข็งก็แย่เหมือนกัน เพราะว่าท่านบอกแล้ว มโนเสฏฐา มโนมยา-สูงสุดที่ใจ สำเร็จที่ใจ เราไปคิดว่ามันไม่ดีมันก็เลยพลอยไม่ดีไปจริงๆ เท่ากับเปิดโอกาสให้สิ่งไม่ดีมันเข้ามา

ถาม : และในเช่นเดียวกันถ้ามีบุคคลไปฟังคำทำนายหมอดู แต่ไม่ยอมรับคำทำนายนั้น ผลสะท้อนจะกลับไปยังหมอดูด้วยหรือไม่

ตอบ : ไม่กลับ แต่ว่า ถ้าหากว่ากำลังใจเข้มแข็งจริงๆ เป็นผู้มั่นคงใน ทาน ศีล ภาวนา จริงๆ สิ่งที่ไม่ดีนั้นสามารถผ่านพ้นไปได้ อย่างเก่งก็เกิดขึ้นเพียง เล็กน้อยไม่หนักมากอย่างที่เขาบอก

ถาม : เมื่อบุคคลใดเชื่อฟังคำทำนายของหมอดูในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก ไม่ได้คิดถึงการทำคุณงามความดี แต่คิดในเรื่องลาภ ยศ เงินทอง เพศ และคู่ครอง อย่างนี้การดูหมอจะเป็นการโต้แย้งในเรื่องของกฎของพระพุทธเจ้าหรือไม่?

ตอบ : จะเรียกว่าโต้แย้งก็ใช่ แต่อย่าลืมว่าเขาเก็บสถิติกันมา แล้วสิ่งต่างๆ ที่เป็นความดีความชั่วอะไรนั้น คนที่ทำมาใกล้เคียงกันมันก็จะเกิดในวาระ ที่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถที่จะยำใหญ่รวมขึ้นมาเป็นหลักสูตรของหมอดูเขาได้

ดังนั้น ถ้าหากว่าเขาชี้แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆ แล้ว เราพยายามทำปัจจุบันนี้ให้ดี มันก็สามารถที่จะผ่านพ้นสิ่งที่ไม่ดี นั้นไปได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่ากำลังใจจะเข้มแข็งพอไหมเท่านั้นเอง

ถาม : หลวงพ่อได้กล่าวในคำสอนว่า ผู้ที่ฝึกทิพจักขุญาณได้แล้ว ท่านว่าอย่าเป็นหมอดูอย่างนี้คนนี้...

ตอบ : คือว่าท่านบอกว่าให้เป็นหมอดู ไม่ใช่อย่าเป็น

ถาม : ให้เป็นหรือครับ?

ตอบ : เออ! ท่านบอกว่า ถ้าได้ทิพจักขุญาณแล้ว อย่างน้อยต้องเป็น หมอดูให้ได้ถึงจะนับได้ว่าใช้ได้

ถาม : วันนั้นไปฟังเทป ท่านบอกว่าอย่าๆ เป็นหมอดู

ตอบ : คำว่าอย่าเป็นหมอดูของคุณๆ ใช้ผิด หลวงพ่อท่านบอกว่าอย่าไปเป็นขี้ข้าใคร


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ (ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
http://niceoppai.47.forumer.com/viewtopic.php?f=2&t=18372

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20 มิ.ย. 2554, 11:01:27 »
ขอบคุณครับ................................ :090: :090: :114: :090: :090:................

ออฟไลน์ PeAwPeed

  • I'm not MosT girls I'm Smile. I'm an angel in disguise. I'm angry. I'm a devil inside.
  • ผู้ดูแล
  • *****
  • กระทู้: 1574
  • เพศ: หญิง
  • Stay happy all...=^.*=
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 20 มิ.ย. 2554, 11:58:44 »
Life is what you make it
Something in our life is too late for tomorrow...=^.*=


ขอบคุณสำหรับบทความที่นำมาแบ่งปันคะ ^^
:054:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิ.ย. 2554, 12:01:41 โดย PeAwPeed »
What can I say it all started with a simple hello
Now look at us we’ve come a long way from just a simple

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 20 มิ.ย. 2554, 08:34:17 »
เรื่อง ฝืนดวง (ตอนที่ ๒)
โดย ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล

ฉมในนรกนึกถึงคำพูดของลุงในอดีต

“ดวงเอ็งทำร้านเหล้าจะไปได้ดี แต่จะได้บาปมหาศาลชดใช้ไม่หมดในชาติเดียวมาเป็นของแถม
ไม่คุ้มกับความรวยที่จะได้รับหรอก คนเราจะกินอะไรมากมาย จะรวยไปทำไมมากมาย
ลุงขอแนะนำให้ฝืนดวง ด้วยการไม่ทำกิจการร้านเหล้าหันไปทำอย่างอื่นแทน
แม้ตามดวงอาจจะไม่รวยเท่าทำร้านเหล้า แต่ก็ได้บาปสะสมน้อยลง น้อยกว่าไปทำร้านเหล้าปั่น
สะสมเงินสะสมบาป ทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็ใช้กันไม่หมด ผูกเวรกรรมร้ายกับคนจำนวนมาก”

น้ำตาไหลรินรดดินแดนนรก จิตวิญญาณบันทึกความจำได้เหลือเชื่อ คำพูดของลุงในอดีต
กลับมาดังในสมองเหมือนได้ฟังสดๆ อีกครั้ง

“ถ้าดวงส่งให้เจริญในทางชั่วก็อย่าไปเอา เปลี่ยนดวงซะ ลุงเองก็เปลี่ยนดวง ลุงอาจต้องไปเป็นโจร
เป็นพ่อค้าขายอาวุธตามดวงที่ดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวแห่งสงครามเด่นมาก ต้องเอาดีทางโจร
ทางนักเลง จัดหาความตายให้คนหมู่มาก ดวงลุงนั้นเป็นดวงมหาโจร ในเวลาหลายสิบปี
หมู่ดาวร้ายจึงจะมาบรรจบกันแบบนั้นครั้งหนึ่ง
กรรมเก่าส่งให้มีความสามารถในการเอาดีด้านการเป็นใหญ่ในหมู่โจรทุกอย่าง แต่ลุงก็หักเหชีวิต
ไม่ได้ใช้ความสามารถ และโอกาสที่ดวงเอื้ออำนวยหนุนส่ง แต่ก็ไม่บาป เพราะคิดว่า
รวยกันแค่ชาติเดียว ใช้กรรมเลวไม่รู้กี่ชาติจึงจะหมด ยากเหมือนกันที่ต้องฝืนตัวเอง
แต่พอเริ่มศึกษาธรรมะ มุมมองในโลกนี้ก็เปลี่ยนไปแบบไม่เคยเป็น”

“คิดให้ดีๆ ” คำพูดสุดท้ายของลุงไข่ก้องในหัว

ฉมนึกค้านในเย็นวันนั้น หากฉมเชื่อ เขาอาจจะไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ สำนึกได้ก็สายเสียแล้ว

บัญชีเล่มไม่ใหญ่นัก แต่มีข้อมูลมหาศาลอยู่ในนั้น ถูกเปิดออก นายนิรยบาลบอกว่า
ฉมตายโหงยังไม่ถึงที่ตาย แต่ร่างกายแตกดับไปแล้ว ต้องถูกจองจำวิญญาณจนกว่าจะถึงวันตายจริง
อีกหลายสิบปี นายนิรยบาลบอกลุงไข่ว่า
นรกแน่นมากในช่วงนี้และไม่มีที่จองจำวิญญาณเหลือพอให้ฉมอยู่
จึงต้องโยนฉมลงไปในเหวนรกอันลึกสุดประมาณเพื่อรอเวลา ฉมถูกเหวี่ยงลงไปในเหวนั้น
นายนิรยบาลบอกว่า เอาไปรวมๆ กันหาไม่ยากหรอก การค้นหาที่นี่ ใช้แรงดึงดูดของกรรมค้นหา
แม่นยำยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่มีพลาด แล้ววิญญาณบาปของฉมก็ถูกโยนลงไปจองจำ ณ เหวนรกแห่งนั้น

ฉมตกใจสุดขีดอีกครั้ง ร่างลอยละลิ่วลง รู้สึกว่าแรงกว่าตกตึก รอเวลาที่ร่างตกกระแทกก้นเหว


ที่มา
http://dungtrin.com/mag/?59.fiction

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 20 มิ.ย. 2554, 08:37:27 »
เรื่อง ฝืนดวง (ตอนที่ ๒) 2/3

ฉมตกใจตื่นขึ้นมาเป็นเวลาตีสามเศษ เขาฝันไปนั่นเอง เขายังไม่ได้เปิดร้านเหล้าปั่น
เขายังอยู่ในบ้านลุงไข่ เขาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำด้วยความเพลีย เขาไม่ได้นอนเต็มอิ่มมาหลายคืน
มัวแต่ใช้เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับเหล้าปั่น โอกาสของความร่ำรวย แต่ดันมาพบฝันร้ายยืดยาว
น่าสะพรึงกลัว จนนอนหลับไม่ลง ฉมได้ยินเสียงลุงไข่เดินอยู่ที่ชานบ้าน จึงกระชับเสื้อแจ๊คเก็ต
เดินออกไปคุยกับลุงไข่ คืนวันพระแรม ๑๕ ค่ำกลางหมู่บ้านชายป่าแบบนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท
เห็นดาวพร่างพราวบนท้องฟ้า สวยงาม

”อากาศเย็นสบายดีนะครับลุง ดาวก็สวยมากเลยครับ จักรวาลกว้างใหญ่สวยงามจริงๆ ” ฉมเอ่ยขึ้น

“จักรวาลกว้างใหญ่ผ่านเวลามายาวนาน แต่จะเชื่อไหมว่า
การเวียนว่ายตายเกิดของคนเราแต่ละคนยาวนานกว่าจักรวาลนี้มากมายนัก”
ลุงตอบพลางเอามีดเหลาด้ามจอบใต้แสงตะเกียงถ่านแก๊ส
ที่มีน้ำหยดลงแคลเซี่ยมคาร์ไบน์ให้ก๊าซติดไฟ

“ลุงคิดว่ามันนานแค่ไหนครับ จักรวาลและการเวียนว่ายตายเกิดของคนเรา”
ฉมถามพลางมองดูลุงที่ไม่ใส่เสื้อ และดูไม่มีอาการหนาว เหมือนลุงต้องการอวดแผ่นอก แผ่นหลัง
และต้นแขน ที่เต็มไปด้วยอักขระเลขยันต์ ดังขุนโจรเก่า

“ส่วนตัวลุงเชื่อว่ามันคงยาวนาน จนเคยมีโลกอื่นๆ ที่เป็นอย่างโลกมนุษย์เรานี้เกิดขึ้นมา
เจริญขึ้นจนมีมนุษย์ และเสื่อมสลายไปแล้ว มากมายนับไม่ถ้วน”

“ลุงเคยอ่านหนังสืออนาคตวงศ์ กล่าวถึงพระพุทธเจ้าที่จักบังเกิดมีในอนาคต
เขาเล่นนับเวลากันเป็นอสงไขย หรือ ๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐ ปี กล่าวถึงอีกเล่มคือมุนีนาถทีปนี
กล่าวถึงพระพุทธเจ้าที่มีมากมายมาแล้วในอดีต ลุงเชื่อว่ามันมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง
ดังนั้นลุงเลยเชื่อว่ามีโลกต่างๆ มากมายและดับสูญไปแล้ว” ลุงไข่ตอบ

“เหมือนนิทานหลอกเด็กมากกว่านะครับ ผมอ่านๆ เจอบ้างก็คิดว่าคนแต่งๆ เอาสนุก ขนาดไดโนเสาร์
ยังแค่ ๑๐๐ ล้านกว่าปี หรือแค่ ๑๐ ยกกำลัง ๘ เท่านั้น” ฉมเสนอความคิด

“ลุงอ่านหนังสือมากมายจังนะครับ ผมเห็นตั้งแต่สมัยลุงเป็นนายท่าปล่อยรถเมล์แล้ว
เวลารถเมล์ไม่เข้าท่า ลุงก็จะมีหนังสืออ่านไปเรื่อยๆ ลุงเป็นแบบอย่างให้ผมรักการอ่านครับ
ตอนนั้นผมคงเรียนสักมอต้นครับ”  ฉมเล่าความหลัง

“ลุงคิดว่ายานอวกาศก็ดี สเต็มเซลล์ก็ดี หรือกระทั่งพันธุวิศวกรรม
การเปลี่ยนธาตุด้วยความรู้ทางอะตอม คงมีมนุษย์โลกอื่นที่สูญสลายไปค้นพบมาแล้ว
เพราะมันเป็นความจริงในธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว มนุษย์ช่างค้นคว้าหาความเจริญมาปรนเปรอกิเลส
ลุงเคยคิดเล่นๆ ว่าศรของพระรามในศึกชิงนางเรื่องรามเกียรติ์ อาจเป็นขีปนาวุธที่ใช้รบกัน
คนที่มีความสามารถทางจิตอาจใช้ฤทธิ์ไปดูแล้วเล่าให้คนอื่นฟัง แต่คนที่ฟังแล้วเล่ากันต่อๆมา
คงจินตนาการไม่ถึง เลยคิดว่าเป็นลูกศร เล่าไปเล่ามาเลยเพี้ยนไปเรื่อยๆ
ลุงเคยอ่านสงครามเมืองทรอย เรื่องก็ยกทัพข้ามทะเลแย่งผู้หญิงกัน
ลุงคิดว่าอาจเป็นเรื่องเดียวกันก็ได้ เล่าไปเรื่อยๆ เป็นพันปีเลยกลายเป็นคนละเรื่อง”

“ผมกับลุงอาจเคยเกิดเป็นตัวละครสักตัวในสมัยนั้นก็ได้นะครับ” ฉมกล่าวติดตลก

“ก็อาจเป็นได้ ในทางศาสนากล่าวว่าไม่มีใครสักคนในโลกนี้ ที่ไม่เคยเกิดเป็นญาติกัน
การเวียนว่ายตายเกิดทำกรรมทั้งดีทั้งเลว คงยาวนานมาก พอโลกหนึ่งสลาย ก็อาจมีอีกโลก ณ
อีกจักรวาลเกิด เราคงไปเกิดกันอีกที่นั่น
ลุงอ่านหนังสือพบว่าในจักรวาลมีกาแล็กซีแบบเราอยู่มากมาย
อาจมีโลกอื่นที่กำลังเจริญก้าวหน้าแบบเรานี้อยู่อีกหลายแห่ง”

“ลุงรู้อะไรเยอะจังนะครับ”

“เราโชคดีนะ จักรวาลในยุคของเรานี้มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น
มาเปิดเผยความเป็นจริงของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทางศาสนาเรียกว่า ช่วงนี้เป็น "ภัทรกัป"
เป็นกัปที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นถึง ๕ พระองค์ เป็นกัปที่ประเสริฐที่สุด” ลุงพูด

“อ๋อ ผมเคยได้ยินบทสวดพระเจ้าห้าพระองค์ ที่มีพระนามของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
รู้มาว่าสวดแล้วจะร่ำรวย” ฉมพูดขึ้น


ที่มา
http://dungtrin.com/mag/?59.fiction

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 20 มิ.ย. 2554, 08:39:32 »
เรื่อง ฝืนดวง (ตอนที่ ๒) 3/3

“ใช่แล้ว พระกกุธสันโท พระโกนาคมโน พระกัสสปะ พระโคตมะ และพระศรีอาริย์
ตอนนี้พระพุทธเจ้าองค์ที่เรากราบไหว้อยู่ คือพระโคตมะพระพุทธเจ้า” ลุงตอบแล้วเล่าต่อไปว่า

“ตอนลุงติดคุก ลุงโชคดีไปเจอพัศดีที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำความจริงที่เปลี่ยนแปลงทางเดินในชีวิตลุงอย่างสิ้นเชิง จากความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม
ลุงเลยศึกษากฎแห่งกรรม เอาไปโยงกับโหราศาสตร์ เลยพบว่าคนเราฝืนดวงได้ ลุงเลยกลับตัว
ลุงอาจเป็นเจ้าหนี้กรรมใครต่อใครมาหลายคนในการเกิดตายเวียนว่ายอันยาวนาน
ลุงอาจได้เป็นใหญ่ในหมู่โจร ถ้าไม่กลับตัวเสียก่อน หลังจากพ้นโทษการติดคุกออกมา”

“ลุงติดคุกเพราะอะไรเหรอครับ” ฉมถาม

“ปล้นทรัพย์ ทำร้ายเจ้าทรัพย์ ลุงจัดการกับเจ้าหนี้หน้าเลือดขี้โกง
กรรมคงดลให้ลุงต้องไปเป็นลูกหนี้เขา รับความทุกข์ จนเกิดโทสะไปปล้นเขา
ลุงคิดว่าลุงทำถูกในตอนนั้น” ลุงตอบแล้วกล่าวต่อไปว่า

“ใจที่ไม่ฝึกของคนเรามันใฝ่ต่ำ ไหลไปตามกิเลสบัญชา ชาตินี้ทำดี ชาติหน้ามีความสุขสบายดีแล้ว
ก็มีโลภะ โมหะ ทำความชั่ว ชาตินี้ทำเลว ชาติหน้ารับผลเลว ก็โกรธแค้นเป็นโทสะ ชั่วอีก
ทำชั่วทำง่าย ลุงในตอนหนุ่มก็ลำบาก จนโกรธแค้น ทำชั่ว ปล้นเสียเลย ดีนะที่ไม่ฆ่าเจ้าทรัพย์”

ผิวหนังเหี่ยวย่นของแผ่นหลังของลุง ใต้แสงตะเกียงถ่านแก๊ส เห็นยันต์อักขระ
ถูกสักไว้เต็มแผ่นหลัง หน้าอก ต้นแขน แกคงเป็นนักเลงที่น่ากลัวเลยทีเดียวในอดีต
ลุงเล่าต่อไปว่า

“ไม่ว่ากี่อาจารย์ต่อกี่อาจารย์  หมอดูต่อกี่หมอดู
ดูดวงลุงแล้วต่างก็บอกว่าดวงลุงเอาดีทางโจรนั้นดีที่สุด แต่ลุงว่าไม่เอาดีกว่า
เลยล้างมือในเวลาที่ยังไม่สาย โอกาสที่ลุงจะเอาคืนได้ ลุงขอสละสิทธิ์ ถ้าเอาชั่วทางนั้นต่อ
ชาติหน้าก็ต้องไปถูกเอาคืนอีกไม่จบสิ้น แค่เราฝืนการกระทำ อนาคตเราก็เปลี่ยน กวาดถนน ล้างจาน
ปล่อยรถเมล์ แม้จะลำบากสักหน่อย แต่ดีกว่าเป็นโจร”

“ลุงฝืนดวงตัวเองเหรอครับ”

“ถ้าเราทำตามความถนัด ทำตามใจ เราก็อาจต้องเดินไปตามทางที่กรรมกำหนดส่งเสริม พลาดท่าเสียที
ทำกรรมต่อกันเป็นลูกโซ่ไม่รู้จบ ชาตินี้ตาเรา ชาติหน้าตาเขา ถ้าเราฝืนเสีย
ทำตามที่พระพุทธองค์แนะนำ อาจปิดทางอบายที่จะนำเราไปสู่ความทุกข์ได้”

“ฉมเองก็เถอะ ชาตินี้อาจเป็นโอกาสในการเอาคืน บรรดาคนที่มีกรรมผูกพันต้องมาเป็นลูกค้า
แต่อย่าไปขายมันเลยเหล้าน่ะ ลุงอยากเตือนเอ็งอีกสักครั้ง”

ไก่เริ่มขัน ขอบฟ้าเริ่มเปิดเห็นแสงเงินแสงทองแรกของวัน ฉมทบทวนดวงตัวเอง แล้วเกิดความกลัว
ดวงของเขานั้น จะต้องรุ่งทางเปิดร้านเหล้า ไม่ว่าจะดูดวงด้วยตนเอง หรือลุงไข่ดู
ตามดวงกรรมผูกพัน เขาต้องทำงานเกี่ยวกับเหล้า แม้ว่าส่วนตัวจะไม่กินเหล้า
แต่ก็กลัวเพราะมีเกณฑ์ตายร้าย ตายโหง ผิดธรรมชาติ จึงดั้นด้นมาหาฤกษ์ที่ดีกับลุงไข่
หวังจะให้รวยด้วยเหล้าอย่างราบรื่น

พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ความสดใสของแสงแดดสาดส่องฟ้างามอีกครั้ง

“ลุงไข่ครับ ผมจะไม่ทำร้านเหล้าแล้วครับ คิดดูแล้วได้ไม่คุ้มเสียเลย ผมจะเปิดร้านขายนมสดแทน”

ฉมตอบไปพลันนึกถึงภาพประทับใจในอดีต ที่ลุงไข่ควักสตางค์ที่แกไม่ค่อยจะมีนัก
ซื้อนมถุงแจกเด็กๆ ที่กำลังเตะฟุตบอล

“งานที่เหมาะกับตัวผม ทำแล้วรวยแต่ได้บาปผมขอไม่ทำ ผมยอมเลือกงานรองๆ ที่ทำแล้วไม่รวย
แต่ได้สะสมบุญดีกว่า ผมเปลี่ยนความคิดแล้วครับลุง ผมจะรวยความดีแทน”

“คิดได้ ก็ดีแล้วฉมเอ๊ย” ลุงไข่ยิ้มตอบใจดี

”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””


ที่มา
http://dungtrin.com/mag/?59.fiction

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 22 มิ.ย. 2554, 08:41:35 »
ลองอ่านทัศนะของท่านอื่นกันครับ :027:

คนเรา สามารถ ฝืนดวงชะตาได้มั้ยคะ

การพยากรณ์คือเครื่องมือสำหรับคาดการณ์แนวโน้มของวิถีชีวิตที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งการพยากรณ์ไม่ใช่เป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตให้เป็นไปตามนั้น

ถ้าคุณอยากทราบน้ำหนักว่าหนักเท่าไร ก็ขึ้นไปยืนที่เครื่องชั่ง มันจะบอกคุณ
เมื่อคุณทราบน้ำหนักแล้ว ถ้าอ้วนไปก็หันมาควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย
ถ้าผอมไปก็หันมาบำรุงอาหารที่มีประโยชน์

ถ้าคุณอยากทราบวิถีชีวิต ความเป็นไปในภายภาคหน้า ก็ใช้ศาสตร์แห่งการพยากรณ์
เมื่อทราบความเป็นไปแห่งวิถีชีวิตแล้ว ถ้าจุดที่ดีก็ควรทำให้เกิดการส่งเสริมให้ดียิ่งๆขึ้น
ถ้าจุดที่ร้ายต้องหาทางหลีกเลี่ยง ป้องกันแก้ไข หรือบรรเทาเบาบางลงให้ได้

"ดวงดาวไม่อาจกำหนดชะตาชีวิตคนได้ แต่เราสามารถตรวจสอบชะตาชีวิตคนได้จากดวงดาว การแก้ดวงชะตาต้องแก้ที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง"


“คนเราเลือกเกิดไม่ได้” บางคนใช้ประโยคนี้เพื่อให้กำลังใจตนเอง หรือปลอบใจผู้อื่น
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ท้อแท้สิ้นหวัง คนเราเกิดมานั้นได้ถูกกรรม กำหนดมาแล้ว
โดยมีดวงดาวต่างๆ เป็นตัวถ่ายทอดว่าคนที่เกิดในช่วงเวลาต่างๆ จะมีนิสัยเป็นอย่างไร
ดวงดาวจึงเป็นตัวอ่านรหัสของกรรม แต่อายุขัยคนไม่เท่ากัน
ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ต่างกันไป ไม่ใช่อำนาจดวงดาวหรือจักรราศีใดๆ ยกตัวอย่าง เช่่น
ช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์คนไทยมักจะฉลองจนเมา ทำให้ขาดสติ
เกิดอุบัิติเหตุได้ง่าย บางคนก็อัมพาต บางคนก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ซึ่งไม่ได้เป็นผลจากอิทธิพลของดวงดาว ตามการพยากรณ์ของหมดดูแต่อย่างใด ดังนั้น
ดวงชะตาของเรา เราจึงเป็นผู้ลิขิตด้วยการกระทำของเราเอง

ในที่นี้แบ่งกลุ่มคนออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. พวกที่ปล่อยชีิวิตให้เป็นไปตามดวงชะตา ประเภทนี้หมอดูชอบมาก เพราะทายทีไรถูกทุกที เรียกว่า นำชีวิตด้วยอารมณ์ ตัดสินใจด้วยความอยาก หรือความต้องการเป็นหลัก ดวงชะตาก็จะดีบ้างไม่ดีบ้าง


2. พวกที่ำทำดวงชะตาให้ดี นั่นคือ ทำแต่กรรมดี ทำแล้วเกิดประโยชน์แต่ตนเองและผู้่อื่น เช่น กุศลกรรมบถ 10 ได้แก่
- กายกรรม 3 1. ไม่ฆ่าสัตว์
2. ไม่ลักขโมย ไม่ถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้อนุญาติ
3. ไม่ประพฤติผิดลูกเมียคนอื่น
- วจีกรรม 4 1. ไม่พูดนอกเหนือความเป็นจริง
2. ไม่พูดหยาบ
3. ไม่พูดส่อเสียด
4. ไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ

ถามใจท่านว่า สามารถละเ้ว้นคำพูด 4 ข้อนี้ได้ไหมในชีวิตประจำวัน
เพราะพูดแล้วฟังสนุก ชีวิตมีรสชาติ แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตงอกงาม กลับทำให้ตกต่ำ
หากท่านไม่แก้ไข สิ่งไม่ดีที่ท่านพูดไว้ จะวกกลับมาหาตัวท่านเอง

- มโนกรรม 3 1. ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น
2. ไม่พยาบาทคิดร้าย
3. ไม่เห็นผิดจากครรลอง คลองธรรม

หากท่านอยากทำดวงชะตาให้ดี ขอให้มีสัมมาทิฐิ(ความคิดเห็นที่ถูกต้อง)
ทำแต่กุศลกรรม เช่น สวดมนต์ หรือประพฤติปฏิบัิิติตามกุศลกรรมบถ 10
ดังที่กล่างข้างต้น ดวงชะตาจะดีขึ้นแน่นอน

3. พวกฝืนดวง พวกนี้ต้องสั่งสมบารมี และทำจิตภาวนา คือพัฒนาจิตให้สงบเป็นสมาธิ
เกิดปัญญาเห็นแจ้งนำทางชีวิต

วิธีการฝืนดวงชะตา

1. สร้างบุญกุศล

2. ทำจิตภาวนา

3. ใช้ปัญญา(ในทางธรรม) นำทางให้ชีิวิต
คนดวงดีไม่ใช่ว่าสิ่งร้ายๆ ไม่เกิดขึ้น เพียงแต่เรามีสติปัญญาให้เห็นจัดแจ้ง แล้วยอมรับความจริง การสวดมนต์ทุกวันแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อยๆ สิ่งเลวร้าย ที่จะมาทวงคืนกับชีวิตเราก็ค่อยๆ หมดไป

เราควรใช้เวลาที่เหลืออยู่สำรวจพฤติกรรมของตนเองทางกาย วาจา ใจ
ปรับปรุงแก้ใขสิ่งที่ผิดพลาด คิด พูด ทำ แต่เรื่องที่ดีงาม ที่สุดแล้วชะตาชีิวิตจะดีขึ้น กลายเป็นคนที่อยู่เหนือดวงได้



ที่มา
http://www.payakorn.com/webboard_ans.php?q_id=34368
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มิ.ย. 2554, 08:42:27 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ สาม เสมา

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 35
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 22 มิ.ย. 2554, 09:31:34 »
หมอดูกับโหร..ต่างกันอย่างไร
หลายๆคนเข้าใจว่าโหรหรือหมอดูเป็นคำที่ใช้เรียกชื่อ "ผู้ที่ทำหน้าที่พยากรณ์" ไม่ว่าจะอดีดหรืออนาคตให้กับเรา
แต่ว่า.."ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น"

การพยากรณ์นั้นมีมากมายหลายวิธี ถ้าในวิธีการทางพระพุทธศาสนา ผู้ที่สำเร็จอภิญญา มีหูทิพย์ มีตาทิตย์ ก็สามารถบอกอนาคตได้
อย่างถูกต้องแม่นยำ แต่ทว่า..กว่าที่คนเราจะฝึกฝนจนถึงขั้นนั้น บางคนต่อให้ฝึกไปทั้งชีวิต ก็ยังไม่สามารถทำได้เลย

ดังนั้นบุราณาจารย์ท่านจึงคิดคนวิธีที่จะล่วงรู้อนาคตได้ "ซึ่งโหราศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในหลายๆวิธีนั้น"

โหรา..แปลว่า วันและคืน กล่าวคือจะใช้ดวงดาว อาทิตย์ จันทร์และดาวอื่นๆในจักราศีมาทำนาย
ดังนั้น "ผู้ที่เป็นโหรหรือผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์นั้น จะต้องศึกษาการโคจรของดาวในจักรวาลแล้วนำมาทำนาย"
พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ "ท่านจะนำตำแหน่งดาวในวัน เวลา และสถานที่เกิด (เรียกว่าดวงเดิม) มาสัมพันธ์กับตำแหน่งดาว
ณ เวลาที่จะทาย (เรียกว่าดาวจร หรือดวงจร) มาทำนาย"

ส่วนศาสตร์การทำนายอื่นๆ เช่นการดูโหวงเฮ้ง ฮวงจุ้ย ดูเลข ๗ ตัว การจับยาม ฯลฯ "จะไม่ใช้ดาวในจักรวาลมาทำนาย"
ดังนั้น จำพวกหลังจะ "ไม่ใช่โหร" ส่วนจะเรียกว่าอย่างไรนั้น ก็สุดแล้วแต่ จะเรียกว่า หมอดู ซินแส หรออะไรก็ได้

ดังนั้น "โหรกับหมอดู จึงเป็นคนละคนกัน"

ส่วนที่ว่าจะฝืนดวงได้หรือไม่นั้นคงตอบไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม "กรรม ไม่มีผู้ใดฝืนได้"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 มิ.ย. 2554, 09:32:52 โดย สาม เสมา »
ลูกศิษย์ ลูกสัก ลูกสัตว์ ๓ ลูกนี้มีความหมาย

ออฟไลน์ sper16

  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คนฝืนดวง...?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 02 ธ.ค. 2554, 01:21:15 »
ดวงชะตาคนเรานี่....